ตอนนี้รู้ผลแล้ว อยากถามว่าเราสามารถใช้ชีวิตต่อไปตามปกติ โดยไม่ให้ใครรู้ได้ไหม ตอนนี้อยู่กับแม่ 2 คน แม่เป็นโรคหัวใจ พ่อเสียเมื่อปีที่แล้ว บอกตามตรงไม่อยากให้แม่รู้ครับ ยังไม่พร้อมเสียใครไปอีก แล้วค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ทั้งรพ รัฐ และเอกชน ผมเห็นหลายคนที่มีเชื้อก็ดูปกติไม่มีอาการอะไร ผมต้องดูแลตัวเองยังไงครับ ให้อยู่แบบนั้นได้ ขอบคุณครับ

แนะนำว่าให้ไปคลินิกนิรนาม รับยา แล้วปรึกษาคุณหมอเอาดีกว่านะคะ ถ้าถามในนี้จะโดนด่าส่งเปล่าๆ

โรงพยาบาลต้นสังกัด สปสชของหล่อนอยู่ไหน ก็ไปรับยาที่นั่นได้ฟรีคะ ถ้าสะดวกจะไปใกล้ๆ

ส่วนยาได้มาแล้วหล่อนก็แอ๊บเอาไปใส่ในขวดวิตามินได้ เผื่อแม่หล่อนเข้ามาในห้อง
แล้วเจอยาต้านเอดส์จะเรื่องแดงเอา

รับยาตามสิทธิ์ประกันสังคม หรือบัตรทองค่ะ
กินยาสม่ำเสมอ ดูแลตัวเองดีๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ

ตามที่รีบนบอก ถามนิดนึง อยากรู้ทำไมถึงไม่ใส่ถุงอ่ะ

ไปตอบกระทู้นี้ด้วยค่ะ

https://www.palm-plaza.com/CCforum/DCForumID3/276980.html?19

https://www.palm-plaza.com/CCforum/DCForumID3/277012.html?10

รับยาฟรีตาม รพ ของรัฐ
ยิ่งได้รับยาต้านเร็ว ยิ่งดี
เอกชน ราคาขึ้นกับ รพ นั้นๆ
ปรึกษาหมอที่คลินิกนิรนาม ตามรีบนๆบอก
สามารถใช้ชีวิตได้ยาวนานเหมือนคนปกติ
safe sex

เราคงแนะนำเราคงแนะนำอะไรให้ไม่ได้
แต่เราเข้ามาให้กำลังใจนะ สู้ๆ
เรียนรู้และเข้าใจกับสิ่งที่เกิด
ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้นะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ จขกท.ไม่โดดเดี่ยวหรอกคะ ประเทศไทยมีคนติด hiv 1% หมายความว่ารอบๆตัวพวกเราใน 100 คนต้องมีหนึ่งคนที่เป็น กะเทยในห้องเคป๊อป 100 รี ก็ต้องมีรีนึงที่เป็น แต่ติดมาแล้วก็ช่วยๆกันป้องกันไม่เอาไปแพร่เชื้อต่อก็พอแล้วคะ

รีบๆไปรับยาค่ะ สปสช ประกันสังคม ยาฟรี
ไม่อยากบอกใครก็ไม่จำเป็นต้องบอกค่ะ

เอาใหญ่เลยนะเรา

ป่วยก็กินยาค่ะ อย่างน้อยก็ดีกว่าเป็นมะเร็ง
hiv เป็นแล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆรักตัวเองให้มาก
เรื่องบอกแม่นั้นไม่ต้องบอกหรอกค่ะ ถึงรู้ไปก็หนักใจเปล่า
สำคัญคือตัวเราต้องยอมรับความเป็นจริงแล้วเดินหน้าต่อ
ยังใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปค่ะไม่ได้น่ารังเกลียดอะไร ส่วนเรื่องค่ายาก็ไม่ได้แพงมากหรอกค่ะ
รับฟรีก็มี ช่วงแรกอาจมีอาการแพ้ยาบ้างเมื่อปรับตัวหรือยาแล้วก็ปกติค่ะ
ต้องกินยาตลอดห้ามลืมนะคะ ส่วนเซ็กก็ป้องกันด้วยใส่ถุงจะช่วยป้องกันเราและคู่นอนค่ะ
อย่างไรก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะคะ คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้

เข้ามาฟังครับ เป็นผู้ติดเชื้อเหมือนกัน

มีเพื่อนๆ เข้ามาให้ คำแนะนำ ดีๆ เยอะเลยนะครับ

สำหรับผม คิดว่า เป็นกระทู้ที่ดีและอบอุ่น มีความเป็นห่วง แด่ กันและกัน

ผมมาเสริม ข้อแนะนำทางด้านสุขภาพจิต จากเพื่อนๆ ข้างบน นะครับ
หลังจากรู้ว่า มีเชื้อ HIV แล้ว ส่วนใหญ่จะ มี ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะ ซึมเศร้า มีปัญหาการปรับตัว ความรู้สึกไม่มีคุณค่า การทำร้ายตัวเองและผู้อื่น ฯลฯ นะครับ

1. การรับรู้และยอมรับโรค (Acceptance & Adjustment) อยากให้คุณ จขกท เข้าใจว่า HIV ไม่ใช่จุดจบของชีวิต – ปัจจุบันมียารักษาที่สามารถควบคุมเชื้อได้จนตรวจไม่พบ (undetectable) และใช้ชีวิตได้ตามปกติ

2. อยากให้กำลังใจ จขกท ด้วยนะครับ ขอให้ จขกท ไม่ตัดสิน ตัวเองนะครับ ว่าเป็นคนไม่ดี – อยากให้ จขกท มีความเข้าใจ ยอมรับ ในสิ่งที่เกิดขึ้นนะครับ

3. คุณ จขกท อาจมีความรู้สึกผิดหรือกลัวการถูกตีตรา ผมอยากจะบอกว่า คุณ จขกท ยังมีคุณค่าเหมือนเดิม ยังทำงานได้ตามปกติ ยังเป็นลูกที่ดี ของคุณแม่ เสมอ

4. สุขภาพจิตและความเป็นอยู่โดยรวม ผมแนะนำให้พบ “นักจิตวิทยา” หรือ “จิตแพทย์” โดยเฉพาะถ้ามีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หรือรู้สึกไร้ค่า นะครับ
มีงานวิจัย จำนวนมาก ที่พูดถึง HIV มีความสัมพันธ์กับอาการของภาวะซึมเศร้าได้สูงมาก เนื่องจากความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือกลัวอนาคต
ผม แนะนำ ให้คุณ จขกท ทำอะไรทำ หรือทำกิจกรรมลดเครียด เช่น ทำสมาธิ วาดรูป ฟังเพลง หรือออกกำลังกายแบบไม่หักโหม อย่าปล่อยให้ ตัวเอง อยู่นิ่งๆ นั่งซึมๆ นะครับ เพราะ ความคิดทางลบ จะ ดึงให้คุณ รู้สึก ไม่มีคุณค่า อยากทำร้ายตัวเอง อยาก ฆตต.

5. อยากให้คุณ จขกท รู้ว่า คุณ ไม่ได้อยู่คนเดียวตัวคนเดียว นะครับ – “เรายังอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ต้องกลัว” ถ้ามีอะไร อยากพูด หรือ อยากระบาย อยากต้องการความรู้ที่จะดูแลตัวเอง ก็ post ข้อความเข้ามาถามได้นะครับ
เพื่อน ใน เว็บ palm อาจจะดู แรง ๆ พูดแรงๆ แต่ ในความหมายจริงๆ ก็เป็นห่วง และหวังดี นะครับ

จริงๆ มีกลุ่มที่สนับสนุนให้ความรู้ทางวิชาการ หลายช่องทางนะครับ มีกลุ่มให้กำลังใจ สำหรับ พูดคุยปัญหา HIV เช่น กลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV ที่รวมตัวกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ หรือ กลุ่มของมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ หรือกลุ่มบน Facebook/Line คุณ จขกท ลองหาข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมนะครับ น่าจะช่วยคุณ จขกท ดูแลตัวเองให้มีสุขภาพจิตที่ดี และมีชีวิตที่ดำเนินต่อไป แบบ ยอมรับและปรับตัวกับชีวิตในรูปแบบใหม่ นะครับ

เอาใจช่วย คุณ จขกท นะครับ

กอดๆ นะครับ

ให้กำลังใจนะคะ อยากให้คิดว่าสมัยนี้การติด HIV ไม่ซีเรียสเหมือนก่อนแล้ว
รู้เร็วกินยาเร็วจะช่วยกดไวรัสไม่ให้แบ่งตัวจนทำลายภูมิคุ้มกันได้
คนที่ไม่กินยาต้านภูมิคุ้มกันจะลดลงเรื่อยๆจนสุดท้ายจะป่วยด้วยโรค aids เพราะโดนเชื้อโรคจากภายนอกโจมตี
เพราะฉะนั้นรีบปรึกษาหมอตามสิทธิ์ที่เธอมี รับยาต้านมากินให้เร็วที่สุด แค่นี้เธอก็จะอยู่ได้ไปจนแก่
ทำใจยอมรับมันให้ได้ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมัน กินยาให้ตรงเวลา เคร่งครัดกับข้อห้ามต่างๆ
ไม่เห็นด้วยที่จะบอกแม่ เพราะจะทำให้แม่กังวลใจเปล่าๆ
สู้ๆนะคะ

วิธีการปฏิบัติตัว รีข้างบน ๆ ตอบไปแล้ว ทำตามได้เลยครับ รับรองสามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนคนทั่ว ๆ ไป

ไม่จำเป็นต้องบอกใครครับ ดูแลตัวเองให้ดี ดูดี ก็ดูไม่ออกครับ รับรองครับดูไม่ออกแน่นอน

hiv มันเข้าไปฝังกับ dna ของ cell ในร่างกายแล้ว cell นั้นดันมีอายุยืนซะด้วย ยาที่ใช้ในปัจจุบันมันจะไปทำให้ hiv แสดงตัวออกมาไม่ได้ ก็หลับอยู่ใน cell แบบนั้นไป ที่บอกแบบนี้ก็คือถ้ามันอยู่นิ่ง ๆ จากการกินยาแบบนั้นมันก็ทำอะไรเราไม่ได้เลย ไม่มี ไม่แสดงอาการใด ๆ ทั้งนั้น สบาย ๆ ไปปรึกษาหมอ รับยา กินยาสม่ำเสมอ

เป็นกำลังใจให้ ก้าวเดินต่อไป เพื่อแม่ เพื่อตัวเอง

แฟนเก่า และเพื่อน
เป็นมา 20ปีแล้ว แข็งแรงกว่ากูอีก
ยาสมั้ยยนี้ดี ไม่ค่อยมีเอฟเฟค
ถ้ากินยาสม่ำเมอ ออกกำลัง
มีเซ็ก มีแฟนชีวิตปรกติได้ แต่ต้องป้องกันและต้องเป็นคนที่รับได้จริงๆ

ขอบคุณทุกคนนะครับ เข้ามาอ่านแต่ไม่รู้ตอบอะไร ยังงงๆ กับชีวิตอยู่ ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งครับ

>ขอบคุณทุกคนนะครับ เข้ามาอ่านแต่ไม่รู้ตอบอะไร ยังงงๆ
>กับชีวิตอยู่ ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งครับ
หน่วยงานย่อยแต่สังกัดหน่วยงานใหญ่ทืเดียวกัน
หน่วยงานย่อยที่อยู่ใกล้ที่ทำงานดิฉันมีคนติดโรคนี้แหละ
วันดีคืนดีมีการสาวไส้กันคะ เนื่องจากอีติดนี่กวนตีนคนอื่นสารพัด
คนเราอะเนอะ มีเหรอจะยอมกัน พวกที่โดนอีที่ติดด่า ก็ไปเม้าลับหลัง
เพราะฉะนั้น ดิฉันคิดว่าเมื่อถึงเวลาควรบอกแม่
ส่วนอีพวกศัตรุไม่ก็เพื่อนที่คิดว่าสนิด
หร่อนก็อย่าให้รู้นะ