#0, ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by สาวสันกำแพง on 07-Jun-25 at 08:29 AM
?
#1, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by สาวสันกำแพง on 07-Jun-25 at 08:34 AM
In response to message #0
ชมคลิปต้นเรื่องhttps://www.facebook.com/reel/24314706918121379
#2, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by อากาศร้อน คนก็คลั่ง on 07-Jun-25 at 08:50 AM
In response to message #1
เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ควรติดเป็นขบวนแอร์ให้หมดได้แล้ว
#9, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ขายขำ on 07-Jun-25 at 01:44 PM
In response to message #2
>เมืองไทยเป็นเมืองร้อน >ควรติดเป็นขบวนแอร์ให้หมดได้แล้ว ใช่หรอคะ? กะเทยเหนือนางนั้นบอกว่า ภาคเหนือเมืองหนาว อากาศหนาวทั้งปีนิคะ
#11, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by FYI on 07-Jun-25 at 02:02 PM
In response to message #9
รู้หรือไม่? รถไฟมาเลเซียทุกชั้นเป็นรถแอร์ 100% ไร้รถร้อนมาเกือบ 20 ปี แอร์ไม่ใช่ Option ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่เป็นความสบายขั้นพื้นฐานของขนส่งมวลชนที่ทุกคนเข้าถึง
. ขบวนรถไฟ KTM ย่อมาจาก Keretapi Tanah Melayu Berhad หรือ การรถไฟมาลายา ประเทศมาเลเซียที่จัดขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ ซึ่งเป็นขบวนรถนำเที่ยววิ่งตรงจากสถานีรถไฟ KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มายังปลายทางที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนรถที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เหมือนขบวนรถไฟปกติที่วิ่งแค่สถานีปาดังเบซาร์ . แน่นอนว่าขบวนรถไฟสายดังกล่าวไม่ใช่ระบบรถไฟฟ้า เพราะไม่สามารถวิ่งเข้ามาถึงประเทศไทยได้เพราะไทยไม่มีระบบรถไฟทางไกลที่ติดตั้งระบบไฟฟ้า แต่ก็เป็นรถที่วิ่งมาบนเส้นทางเดียวกับรถไฟ KTM Electric Train Service (ETS) ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าระหว่างเมือง ที่เดินทางมาถึงชายแดนประเทศไทย ณ สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ ด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถ้าใครเคยเห็นภาพที่มีการนำหัวรถจักรของไทยหน้าตาโทรมๆ มาเทียบกับหัวรถจักร KTM ETS ที่หน้าแหลมจมูกเหลือง ก็คือรุ่นนั้นนั่นเอง . แต่สำหรับขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษที่เดินทางมาหาดใหญ่ ก็เป็นรถไฟดีเซลทั่วไป แต่ด้วยการเป็นรถดีเซลทั่วไปนี่แหละที่กลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงกัน เพราะว่าขบวนรถไฟมาเลเซียเป็นแบบปรับอากาศ รวมทั้งนักการเมืองจากฝั่งประเทศไทยก็ได้ทำคลิปเปรียบเทียบการนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ไปมาเลเซีย ซึ่งชาวโซเชียลก็มีการออกมาบอกว่า จะเทียบกันได้อย่างไรเอารถไฟร้อนที่ไม่มีแอร์ เทียบกับบรถไฟมาเลเซียที่มีแอร์ ทำไมไม่เทียบรถร้อนด้วยกัน . ในฐานะที่ผมเดินทางไปมาเลเซียบ่อยทั้งทางรถ รถไฟ และเครื่องบิน รวมทั้งมีเพื่อนเป็นชาวมาเลเซียที่มีความรู้ ข้อมูลที่ผมได้รับมาคือ ประเทศมาเลเซียที่อยู่ภายใต้การดูแล บริหารงานของ KTM ไม่มีรถไฟร้อนมาตั้งแต่ปี 2007 ทุกขบวน ทุกชั้น ทุกคลาสถูกเปลี่ยนเป็นขบวนรถปรับอากาศทั้งหมด แม้ในคลาสที่ล่างที่สุด ซึ่งเทียบกับรถไฟธรรมดาหวานเย็นชั้น 3 ของไทย ก็ยังเป็นรถปรับอากาศ . ซึ่ง KTM มีโครงข่ายเส้นทางครอบคลุมทั้งประเทศที่ 98% ของเส้นทางรถไฟทั้งหมดในประเทศมาเลเซีย . ส่วนเส้นทางรถไฟรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวระยะทางเพียง 134 กิโลเมตร ซึ่งบริหารโดย Sabah State Railway เป็นเส้นทางรถไฟที่ทางรัฐซาบาห์สร้างและบริหารเอง ไม่เกี่ยวข้องกับ KTM และยังมีตู้โดยสารร้อนอยู่ แต่ก็เริ่มมีการเปลี่ยนบางตู้เป็นรถปรับอากาศแล้วโดยได้รับความช่วยเหลือจากทาง KTM . แม้กระทั่งระบบรถไฟชานเมืองหรือ Komuter ที่วิ่งออกจากเมืองสำคัญของรัฐต่างๆ ในมาเลเซียที่ไม่ใช่เพียงแค่เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็เป็นระบบปรับอากาศทั้งหมด ที่ใกล้กับไทยที่สุดคือสาย KTM บัตเตอร์เวิร์ธ ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อเข้าสู่เกาะปีนังทั้งทางท่าเรือ และรถบัส ก็เป็นระบบปรับอากาศที่มีทั้งระบบไฟฟ้าและดีเซลราง และยังเป็นขบวนรถปรับอากาศทั้งหมด . หากเป็น KTM Platinum ซึ่งเป็นระบบรถด่วนจากปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมืองสุไหงปัตตานี รัฐเคดะห์ ระยะทาง 150 กิโลเมตร ค่าตั๋วอยู่ที่ประมาณ 30 ริงกิต หรือ 245 บาท ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง . แต่ถ้าเป็นรถไฟชานเมือง Komuter จะมีค่าโดยสารประมาณ 8 ริงกิต หรือ 65 บาท ซึ่งจอดทุกสถานี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็ยังเป็นระบบปรับอากาศทุกตู้เช่นกัน . ส่วนรถไฟจากปาดังเบซา บัตเตอร์เวอร์ธ ราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 11.6 ริงกิต หรือ 94 บาท กับระยะทาง 170 กิโลเมตร . ฉะนั้นรถไฟมาเลเซียที่เป็นรถท้องถิ่นซึ่งเป็นคลาสต่ำที่สุดเทียบได้กับรถไฟชั้น 3 ของประเทศไทย ก็ยังเป็นรถแอร์ทั้งหมดแล้ว อีกทั้งค่าโดยสารถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับรายได้ของคนมาเลเซียที่ราวๆ เกือบ 30,000 บาทต่อเดือน . ความน่าแปลกใจก็คือ ประเทศไทยยังคงแบ่งคลาสของรถไฟ หรือรถเมล์โดยสาร โดยใช้คำว่า รถปรับอากาศ มาแบ่งแยกราคา ทั้งๆ ที่แอร์ไม่ใช่ของใหม่สำหรับประเทศไทย เพราะรถยนต์ หรือบ้านเรือนที่ทุกวันนี้ คนในชุมชนแออัดบ้านยังติดแอร์กันได้แล้ว คนไทยรู้จักแอร์มานานมากกว่า 30 ปี และแอร์ก็เข้าไปอยู่ในบ้านเรือน อาคารต่างๆ แบบที่คนทั่วไปเข้าถึงมานานกว่า 20 ปี . แต่แปลกที่ว่าระบบขนสงมวลชนของไทยยังคงใช้การติดตั้งระบบปรับอากาศทำความเย็นมาเป็นตัวแบ่งการบริการ ซึ่งในประเทศที่เรามองเขาเป็นคู่แข่งนั้น แอร์เย็นๆ ฉ่ำๆ ในรถสาธารณะเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกคนต้องเข้าถึงได้ และเป็นความสะดวกสบายที่เบสิคที่สุดที่จะให้บริการกับประชาชน มันไม่ควร หรือไม่ใช่ Option พิเศษที่ต้องจ่ายแพงกว่าเพื่อที่จะได้นั่งสบายๆ ไม่ต้องทนร้อน ทนดมฝุ่นควันระหว่างทาง ท่ามกลางอุณหภูมิประเทศเมืองร้อนที่เราต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน . อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช้ความต้องการเปลี่ยนตู้ฌดโสารทุกตู้ให้เป็นปรับอากาศทั้งหมด เพราะหลายคนก็อยากจะเสพบรรยากาศการนั่งรถร้อน แต่ทุกๆ คลาสที่นั่งในทุกขบวนที่ให้บริการก็ต้องมีตู้โดยสารทั้งสองแบบเพื่อให้ผู้โดยสารได้เลือก แต่ในความจริงแล้วตู้โดยสารปรับอากาศมีสัดส่วนที่น้อยมากเกินไป และการจะจ่ายเพื่อนั่งรถแอร์นั้นต้องจ่ายแพงกว่าเป็นหลายเท่า อีกทั้งยังไม่ครอบคลุมทุกเส้นทาง โดยเฉพาะกับรถไฟท้องถิ่น รถไฟชานเมือง ซึ่งเป็นเพียงรถร้อนชั้น 3 เท่านั้น ไม่มีรถปรับอากาศให้ได้เลือกนั่นในเส้นทางหรือขบวนเดียวกัน เหมือนเป็นการบังคับกลายๆ ว่าถ้าคุณจะเดินทางโดยรถขบวนนี้ ก็มีแต่รถร้อนเท่านั้น ทั้งๆ ที่เชื่อว่าหลายคนก็อยากนั่งรถแอร์ แต่มันไม่มีให้บริการ . นี่แค่เรื่องของรถไฟติดแอร์ไม่ติดแอร์นะ ยังไม่ได้พูดถึงในมิติอื่นๆ ทั้งเรื่องการออกแบบสถานี ความสะอาด การอำนวยความสะดวกในการจองตั๋ว หรือเรื่องอื่นๆ ของบริการรถไฟไทยที่มีให้พูดให้เปรียบเทียบได้อีกเพียบ เพราะหลายอย่างยังต้องปรับปรุงอีกมาก ซึ่งจริงๆ มันควรจะทำได้ดีกว่านี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาทำทีละนิดทีละหน่อย . ยังไม่ได้พูดถึงระบบรถเมล์มาเลเซียอย่าง rapidKL ที่ก็ไม่มีรถร้อนให้บริการมา 20 ปีแล้ว ซึ่งราคารถเมล์ใน KL เริ่มต้นที่ 1 ริงกิต หรือ 8 บาท และเป็นขนส่งมวลชนพื้นฐานที่สะดวกสบาย . ระบบตั๋วร่วมแบบบัตร Touch N' Go ที่บัตรเดียวใช้จ่ายได้ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟ ทางด่วน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีมาเป็น 20 ปีแล้วเช่นกัน แต่บัตรเดียวใช้ได้ทุกระบบนั้นในกรุงเทพก็พูดกันมาเป็น 10 ปียังไม่สามารถทำได้จริง จนตอนนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนไปไกลแล้วก็ยังไม่สามารถทำสิ่งพื้นฐานนี้ได้เลย . การเปรียบเทียบสิ่งที่ดีกว่าของประเทศอื่นๆ ให้เห็นไม่ใช้การเหยียบย่ำประเทศตัวเอง แต่เป็นการทำให้เราตระหนักว่าเราเองก็ต้องพัฒนาให้ทันให้ดีเท่าเขา ไม่ใช่เพื่อหน้าตาประเทศ แต่มันคือคุณภาพชีวิตโดยรวมของพลเมืองที่จะได้รับบริการที่ดีและสะดวกสบาย อันมาจากเงินภาษีของเรานั่นเอง
#12, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ว๊ายยยยยย on 07-Jun-25 at 02:06 PM
In response to message #11
รถไฟไทย vs รถไฟมาเล

#13, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ถวิ่นถวิ่นถเว on 07-Jun-25 at 02:10 PM
In response to message #12
>รถไฟไทย vs รถไฟมาเล > > > > ของมาเลเซีย ดูต่ำตมจัง เหม็นกลิ่นแขกแหวะ แค่คิดก็จะอ้วก
#14, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ค่ะ on 07-Jun-25 at 06:47 PM
In response to message #13
อิจฉาจัง ทำไมบ้านเราไม่มีรถไฟแบบนั้นบ้าง
#15, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by แช่เยี่ยว on 08-Jun-25 at 05:30 AM
In response to message #14
>อิจฉาจัง ทำไมบ้านเราไม่มีรถไฟแบบนั้นบ้าง นั่นสิ
#3, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by . on 07-Jun-25 at 10:00 AM
In response to message #0
รากหญ้ายากจนสถุนคือต้นตอความชิบหายปัญหาสังคมทุกวันนี้ค่ะ ชั้นต่ำมากไม่นั่งเครื่องบิน หรือ รถไฟชั้นเฟิร์สคลาสที่แพงที่สุด ตีกันเรื่องโง่ๆ อีรากหญ้าพวกนี้ควรเก็บเข้ากรงเข้าคอกให้หมด
#4, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ให้ข้อมูล on 07-Jun-25 at 10:05 AM
In response to message #3
ป้าเสื้อม่วง ที่ถีบเขา คนเหนือค่ะ คนลำปาง ส่วนป้าเสื้อเขียว อ้วนๆ นั้น คนใต้ นั่งจากใต้มาทำบุญที่เชียงใหม่ ใดๆ ก็คือ เป็นขบวนรถไฟขึ้นเหนือ กลับบ้านช่วงวันหยุด
#5, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by โซลูชั่นเกิร์ล on 07-Jun-25 at 10:06 AM
In response to message #4
ถ้าติดเป็นคนแอร์ให้หมด ปัญหานี้จะไม่เกิดแน่นอน ช่วงนี้อากาศร้อน คนก็ใจร้อน
#6, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by นวลละออ on 07-Jun-25 at 10:07 AM
In response to message #5
คนอีสานอธิบายทีค่ะ ลาวมาก
#7, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by 74 on 07-Jun-25 at 01:09 PM
In response to message #6
มึงเคยขึ้นรถไฟชั้น 3 ไปใต้ไหมคะ อิดอกกกกกกกกกกกกกกสะพรึงมาก ทั้งกลิ่นตัวทั้งคนน่ากลัวมาก
#8, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ขี้ข้า on 07-Jun-25 at 01:14 PM
In response to message #0
เสื้อแดงถีบเสื้อแดง ก็ถูกต้องแล้วนี่คะ
#10, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by ถวิ่นถวิ่นถเว on 07-Jun-25 at 01:48 PM
In response to message #8
พวกชั้นต่ำสามกีบ ขยะสังคมแบบนี้ ต้องกำจัดให้หมดค่ะเอาอีแก่ที่ถีบคนอื่นโยนลงข้างทางไปเลยค่ะ
#16, RE: ข่าวที่ป้าคนเชียงใหม่ กระโดดถีบยอดอกเพื่อนร่วมขบวนบนรถไฟขั้น3 เพราะยืนบังลม สะท้อนอะไรในสังคมไทย?
Posted by แขก คำผกา on 08-Jun-25 at 12:29 PM
In response to message #10
นิสัยคนเหนือ ที่แท้จริงเป็นแบบนี้ค่ะ
|