ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษเป็นครั้งแรกในรอบสามปีด้วยการแขวนค โดยเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีฉายาว่า “Twitter Killer”

ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2560 ทาคาฮิโระ ชิราอิชิ สังหารเหยื่อไป 9 รายในเมืองซามะ

เหยื่อของชิราอิชิเป็นผู้หญิง 8 คนและผู้ชาย 1 คน อายุระหว่าง 15 ถึง 26 ปี โดยเป็นกลุ่มเปราะบาง ที่มีปัญหาโรคซึมเศร้า ชิราอิชิติดต่อพวกเขาทางทวิตเตอร์

โดยเสนอความช่วยเหลือในการฆ่าตัวตาย โดยให้มาพบเขาที่อพาร์ตเมนต์ และสัญญาว่าจะฆ่าตัวตายพร้อมกัน แต่เมื่อพวกเขามาถึงอพาร์ตเมนต์ของเขา ชิราอิชิก็รัดคอ ข่มขืน และชำแหละศพของเหยื่อเป็นชิ้น ๆ

คดีนี้ถูกเปิดโปงเมื่อพี่ชายของหญิงสาววัย 23 ปีที่หายตัวไปเข้าถึงบัญชี Twitter ของเธอ และพบข้อความ DM ที่แลกเปลี่ยนกับชิราอิชิ ทำให้ตำรวจไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา และพบ "บ้านแห่งความสยองขวัญ" ที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกชำแหละ รวมทั้งศีรษะและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายของเหยื่อ ซึ่งบรรจุไว้ในกระติกน้ำแข็งกลบด้วยทรายแมวเพื่อดับกลิ่น

ชิราอิชิสารภาพว่าเป็นคนฆ่าเหยื่อ โดยระบุว่าแรงจูงใจของเขาคือ การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากจุดอ่อนของเหยื่อ ระหว่างการกำหนดโทษ ทนายของชิราอิชิเสนอต่อศาลว่า ไม่ควรสั่งประหารชีวิตเขา อ้างว่าเพราะเหยื่อเหล่านี้ “ยินยอม” “consent” ที่จะตายอยู่แล้ว

แต่ชิราอิชิเองโต้แย้งคำกล่าวอ้างของทนายความของตัวเอง และยอมรับว่าเขาฆ่าเหยื่อเหล่านี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเหยื่อ ศาลกรุงโตเกียวตัดสินประหารชีวิต เขายอมรับคำตัดสินและตัดสินใจไม่อุทธรณ์คำสั่ง

คดีนี้สร้างความตกตะลึงให้กับญี่ปุ่น และทำให้คนตระหนักรู้มากขึ้นถึงอันตรายของการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากบุคคลที่เปราะบาง