Mahidol Channel มหิดล แชนแนล
ผู้ติดตาม 1.5 ล้าน คน

เป็นช่องมหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่คนติดตามเยอะมาก เยอะพอๆ กับ YouTuber รายได้น่าจะเยอะเลยเนอะ

ว่าแต่ประเด็น talk วันนี้น่าสนใจมากคือ

“มหาวิทยาลัยกำลังจะตาย” “มหาวิทยาลัยยังจำเป็นอยู่ไหม? ในโลกยุคนี้”

TUxMU Battle

https://www.youtube.com/watch?v=QY_71CuwYFk

หลักสูตรมหาวิทยาลัยไทยส่วนใหญ่มุ่งเน้นการสร้าง 'คนทำงาน' ที่มีคุณภาพป้อนสู่ตลาดแรงงาน มากกว่าการบ่มเพาะ 'ผู้ประกอบการ' หรือ 'นวัตกร' ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ในขณะที่สังคมกลับวัดคุณค่าความสำเร็จจากสิ่งที่จับต้องได้ในเชิงธุรกิจ นี่จึงเป็นภาพสะท้อนว่าหลักสูตรการศึกษาของเรายังคงล้าสมัย ขาดความหลากหลาย และจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
มหาลัยที่อาจารย์ไม่ปรับตัว สอนแต่บรรยายความรู้ ไม่จำเป็นแล้วครับ เด็กยุคใหม่ถาม chatgpt รู้หมด แต่มหาลัยที่อาจารย์ปรับตัว เปลี่ยนจากผู้สอนมาเป็นโค๊ช ดูแลเด็กใกล้ชิด ใส่ใจ เก็บข้อมูลพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก (ทำได้ สมัยนี้นักศึกษาน้อย อาจารย์เยอะ) ยังจำเป็นอยู่ เพราะอาจารย์แนวนี้จะสอนวิธีคิดให้เด็ก มากกว่าให้ท่องจำความรู้
อาจารย์เก่งๆไม่มี มีแต่แห่ตามก้นตามตำราฝรั่ง งานวิจัยสร้างความรู้ใหม่ก็โคตรหน่อมแน้มแค่ทำเอาคุณวุฒิ ไม่เคยดู"ตลาดบัณฑิต"ว่าผู้ประกอบการเขาต้องการเด็กจบใหม่แบบไหน ยุบทิ้งก็ดีหรอก แหล่งศึกษาทางออนไลน์บางประเทศยังมาตรฐานสูงกว่ามหาลัยบ้านเรา และที่สำคัญ"การศึกษาไทยคือความสูญเปล่าทางเศรษฐกิจที่มากที่สุด ตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา"ใครจะเถียง คนบ้านนอกทำนาทำไร่ขายไร่ขายนาส่งลูกเรียนปริญญาหมดค่อนล้านต่อคน สุดท้ายตกงานมานอนขายของออนไลน์อยู่บ้านมีกลื่อนประเทศ
ยังจำเป็น เป็นหมอ เป็นวิศวะ เป็นทันตแพทย์ เป็นเภสัช เป็นครู ต้องมีใบประกอบอาชีพ ถ้าไม่มีมหาวิทยาลัย แล้วจะผลิต นศ ไปสอบเอาใบประกอบอาชีพได้อย่างไร? เรียนเองแล้วไปสอบ? แล้วการฝึกผ่าตัดละ ทำอย่างไร? ถ้ามหาวิทยาลัยไม่จำเป็นก็ได้ แต่ต้องตั้งสถาบันจำเพาะเพื่อสอน นศ เหล่านี้เพื่อสอบเอาใบประกอบอาชีพเหล่านี้
นัยยะนี้มันหมายถึง เปิดกันเกร่อด้วย บางสกิลก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบอุดมศึกษา และบางสาขาไม่ต้องใช้วิธีคุมอย่างพวกวิชาชีพเหล่านั้นรึเปล่า
ซึ่งทำให้ใกล้เคียงกับการยุบ ม. ไปเลย เหลือแต่สถาบันจำเพาะแบบที่คุณบอก
มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นกับสาขาวิชาชีพที่เป็นลักษณะอาชีพเฉพาะซึ่งมีสภาวิชาชีพรับรองโดยเฉพาะ บางสาขาผลิตออกมาล้นเกินความจำเป็นอย่างเช่นสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ โดยเหตุไม่มีการสอบถามนายจ้างว่าต้องการใช้ บัณฑิตที่จบสาขาวิชาใด บางสาขาเป็นสาขาด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์วิศวกรรมประยุกต์เช่นวิศวกรรมนาโนเทคโนโลยีแต่ผลิตออกมาไม่มีงานทำ
ถึงเวลาแล้วที่มหาวิทยาลัยต้องคุยกับสภานายจ้างว่าต้องการบัณฑิตสาขาใดไม่ต้องการบัณฑิตสาขาใด บางสาขาเช่น สาขาคณิตศาสตร์ควรให้เปิดหลักสูตรปริญญาตรีคู่ควบกับศึกษาศาสตร์ นักศึกษาจบมาจะได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาคณิตศาสตร์ และศึกษาศาสตรบัณฑิตสาขาการสอนคณิตศาสตร์
ในยุคที่ AI ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายๆ ด้าน คำถามว่า "เรายังจำเป็นต้องเรียนในระดับมหาวิทยาลัยหรือไม่" เป็นคำถามที่ท้าทายและควรพิจารณาจากหลายมุมมอง ดังนี้:
### 1. *AI เปลี่ยนโฉมการศึกษาและการทำงาน แต่ไม่แทนที่มนุษย์ทั้งหมด*
- *AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ* แต่ไม่สามารถแทนที่ทักษะหลายอย่างของมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์เชิงลึก การเข้าใจอารมณ์มนุษย์ และการตัดสินใจบนฐานคุณค่า
- *มหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่การให้ความรู้* แต่ยังเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะชีวิต การทำงานร่วมกัน การคิดเชิงระบบ และการสร้างเครือข่ายทางสังคม
### 2. *มหาวิทยาลัยอาจปรับบทบาท จาก "ผู้ให้ความรู้" สู่ "ผู้พัฒนาทักษะที่ AI ทำไม่ได้"*
- *ความรู้เชิงลึก (Deep Knowledge) AI สามารถสรุปข้อมูลได้เร็ว แต่การเข้าใจถึงหลักการและที่มาที่ไปอย่างลึกซึ้งยังจำเป็นต่อการพัฒนานวัตกรรม
- *ทักษะ跨领域 (Interdisciplinary Skills) การผสมผสานความรู้หลายสาขา (เช่น AI + สังคมศาสตร์, AI + ศิลปะ) เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยเหมาะที่สุดในการสอน
- *จริยธรรมและการคิดวิเคราะห์ การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบต้องอาศัยการฝึกคิดเชิงจริยธรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยเป็นแหล่งบ่มเพาะที่ดี

### 3. *บางอาชีพยังต้องการปริญญา แต่บางอาชีพอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป*
- *สาขาที่ต้องการการรับรอง (เช่น แพทย์ กฎหมาย วิศวกรรม) ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ
- *สาขาที่เน้นทักษะเฉพาะ (เช่น โปรแกรมเมอร์ นักออกแบบ) อาจเรียนรู้ผ่านการฝึกงานหรือคอร์สสั้นๆ ได้มากขึ้น
- *ผู้ที่ต้องการทำงานวิจัยหรือพัฒนานวัตกรรม ยังต้องอาศัยระบบการศึกษาระดับสูง
### 4. *ทางเลือกใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้น แต่มหาวิทยาลัยยังมีค่า*
- *Alternative Education (เช่น Bootcamp, Online Courses) เหมาะสำหรับผู้ต้องการเรียนรู้เฉพาะทางเร็วๆ
- *แต่มหาวิทยาลัยยังให้สิ่งที่คอร์สออนไลน์ให้ยาก เช่น*
- การมีอาจารย์ที่ปรึกษา (Mentorship)
- โอกาสทำวิจัยเชิงลึก
- การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการคิดและสร้างแรงบันดาลใจ
### 5. *สรุป: มหาวิทยาลัยจะไม่หายไป แต่ต้องปรับตัว*
- *จำเป็นสำหรับบางคน* โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทำงานในสาขาที่ต้องการความเชี่ยวชาญเชิงทฤษฎีหรือการรับรอง
- *อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน* หากสามารถพัฒนาทักษะผ่านช่องทางอื่นและมี Portfolio ที่แข็งแรง
- *ในอนาคต มหาวิทยาลัยอาจเน้นการเป็น "Hub" ของการสร้างนวัตกรรมและเครือข่ายมากกว่าแค่สอนความรู้*
### *คำแนะนำสำหรับผู้ตัดสินใจ*
- ถ้าคุณสนใจสาขาที่ต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ (เช่น แพทย์ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน) มหาวิทยาลัยยังจำเป็น
- ถ้าคุณต้องการเป็นผู้ประกอบการหรือทำงานในสาขาที่ทักษะสำคัญกว่าใบปริญญา อาจลองเส้นทางอื่นก่อน
- ไม่ว่าเลือกทางไหน การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการปรับตัวร่วมกับ AI คือสิ่งสำคัญที่สุด
ในยุค AI การศึกษาระดับสูงอาจไม่ใช่ "ทางเดียว" แต่ยังคงเป็น "หนึ่งในทางเลือกที่ดี" สำหรับหลายคน หากมหาวิทยาลัยรู้จักปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลง
โลกหมุน เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกวัน ตั้งแต่อดีตและไม่มีวันสิ้นสุด ยุคนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็ว มันคือยุคจรวดที่เร็วกว่าเสียงอย่างแท้จริง การเปลี่ยนแปลงจึงรวดเร็วอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน มหาลัยก็คงต้องเปลี่ยนเช่นกัน ในเมื่อวิถีชีวิตคนเปลี่ยน มหาลัยไม่คิดจะเปลี่ยนหรือ ? เพราะมหาลัยควรเป็นผู้ชี้นำ ไม่ใช่ผู้ตาม อยากเป็นผู้นำหรือผู้ตามละ

พวกเรียนโง่ ขี้เกียจ เข้า ม
รัฐ ชั้นนำไม่ได้ เชียร์ให้มหาลัยปิดตัวกันใหญ่ คริคริ เรียนราดพัดสิพวกเท้อออ