เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง

เรื่องนี้ เกิดขึ้นตอนผมได้มีโอกาศสอบติดมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมอายุ 19 แก่กว่าเกณ
เพราะหลังจากที่จบ มัทยมหก ครั้งแรกแต่ผมสอบไม่ติด เลยต้องไปว่างเรียนอยู่ปีนึง
แล้วก็ต้องติวอ่านหนังสือ สุดท้ายก็ได้เข้าเรียนที่ ม แห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุง และมีหอในให้สมัครเข้าพักได้ 1 ปี ผมก็สมัครเข้าไปและไม่มีโอกาศได้เลือกรูมเมท เพราะตามระบบแล้ว มหาวิทยาลัยจะเลือกให้ ซึ่งเพื่อนๆผมก็ขึ้นปีสองกันหมดแล้ว ก็ไม่มีเพื่อนอยู่ในหอเดียวกันเลย

หอในของ ม จะจับคู่ นศ ให้แบบสุ่ม ซึ่งผมได้เพื่อนรูมเมทเป็น นศ.คณะสายแพทย์ เป็นหนุ่มตี๋แว่น หน้าขืดๆ แต่หน้าขาว ใสจั๊ว ไม่มีสิวฝ้าเลย ขอสมมุติชื่อว่า พี่ตี๋นะครับ เพราะว่า แกเป็น นศ.ซิ่วปี 3 กลับมาสอบเข้าได้คณะสายแพทย์ แต่ต้องมาเป็นปี 1 ที่นี่ ตอนที่ผมย้ายของเข้าไปก็ไม่ได้เรียกแกว่าพี่ แต่มารู้ตอนหลังว่า แกอายุ 21 แล้ว แกเป็นคนขยันอ่านหนังสือมากๆ ขนาดไม่ยอมไปเข้าห้องน้ำแม้ปวดฉี่ เวลาแกอ่านหนังสือหรือทำการบ้านอยู่แล้วอยากฉี่ แกจะควักจู๋แกมาฉี่ใส่ขวดน้ำแบบไม่ละสายตาจากหนังสือหรือ laptop เลย ซึ่งบางครั้ง ผมเหลือบไปเห็นจู่ขาวๆของตี๋ ทำให้หลายๆทีผมก็เกิดอารณณ์อยากลองชิมของแกดู แต่ก็ไม่กล้า เพราะเราอยู่ห้องเดียวกันก็จริงแต่ก็คุยกันไม่มาก

จนกระทั่งหลังสอบไฟนอลเทอมแรกผ่านไป แล้วปิดเทอม ผมก็กลับไปอยู่ที่บ้านใน กทม แต่ด้วยความที่จ่ายค่าหอไปแล้ว อยู่บ้านได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ ก็กลับไปอยู่หอก่อนเปิดเทอม แต่พอเข้าหอไป ก็เจอตึ๋กลับมาอยู่ห้องก่อนแล้ว ผมเลยชวนตี๋ออกไปกินเบียร์

ซึ่งตอนแรกตี๋บอกไม่กิน แต่ถ้าซื้อมากินห้องก็จะกินด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ครั้งแรกเริ่มจากกินเบียร์ในห้อง แล้วเราก็เร่ิมคุยกันมากขึ้น แล้วก็ทำให้สนิทกันมากขึ้น หลังจากเปิดเทอม เราก็ดื่มเบียร์ในห้องอยู่หลายครั้ง ทำให้สุดท้ายสนิกมันมากๆในระดับหนึ่ง

จนกระทั่งเสร็จสอบมิดเทอม ตี๋บอกกับผมว่า เขามีปัญหาเรื่องการเงิน คือเขาไปติดเงินโต๊ะบอลอยู่หกหลัก แล้วเขาก็กำลังใช้หนี้อยู่ อยากให้ผมช่วยหน่อย เขาขอกว่า ไปนั่งดื่มเป็นเด็กเอ็นใช้หนี้มาได้สักพักแล้ว เพื่อชดเชยหนี้ แต่ตอนนี้โต๊ะบอลเร่งรัด บอกว่าถ้าพาเพื่อนไปด้วย จะได้เงินสองเท่า
ผมก็ถามว่า ต้องทำยังไงบ้างแล้วได้เท่าไหร่ เขาบอกว่าไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนพี่ๆเขา มีผู้หญิง ผู้ขาย และก็บอกยอดตัวเงินมาผมก็เฉยๆ เพราะมันไม่ได้มากอะไร
ผมไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเงิน แต่ตี๋บอกเพิ่มเติมว่า ถ้าคุยกันแล้ว พี่ๆเขาถูกใจ มันมีอะไรๆต่อนะ ตังก็ได้เพิ่ม เรื่องตังผมเฉยๆ แต่ได้ยินส่วนท้าย เลยแต่อยากลองประสบการณ์ใหม่ๆดู เลยบอกว่าผมไปด้วยก็ได้

ที่งานเอน
ผมสองคน เรียกแท็กซี่เข้ามาจากชานเมืองไปบ้านเดี่ยวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว 71 ช่วงเลียบด่วน พอเข้าถึงในบ้านแล้ว พบว่าเป็นงานปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำหลังบ้าน มีคนอยู่สิบกว่าคน มีทั้งผู้ชายผู้หญิง ตี๋พาผมไปแแนะนำตัวกับ เฮียวิทย์ ดูแล้วแกน่าจะอายุ สี่สิบกว่าๆ แต่หน้าตาและหุ่นยังดีอยู่ แต่ในปาร์ตี้ก็มีคนที่แก่กว่าแกอยู่อย่างน้อยสี่ห้าคน แล้วก็มีสาวๆอายุยี่สิบกว่าๆ สามคน นั่งดื่มด้วย เฮียวิทย์ทักทายตี๋แล้วก็หันมาดูหน้าผมแล้วกลับไปบอกตี๋ว่า
”ตรงปกดี มานั่งกับเฮียทั้งคู่นะ”
“ตี๋นั่งขวา ส่วนน้องหนึ่งนั่งทางซ้าย”
ผมกับตี๋ก็ลงไปนั่งโซฟาริมสระน้ำตามที่เฮียแกบอก

ข้างซ้ายขวาเราก็เป็นโซฟา อีกข้างละชุด หันหน้าเขาสระน้ำเหมิอนกัน
อ้อ ด้วยความที่เป็นคนรู่จักแบรนด์ โซฟาริมสระบ้านนี้ ใช้ยี่ห้อดีด้อนทั้งหมดเลย
สามชุดนี้ คือราคาประมาณล้าน
แต่ละชุดก็มีคนนั่ง ข้างซ้ายเป็น คนมีอายุ 2-3 คน นั่งกับ ชายหนุ่ม 1 คน สาว สองคน
ข้างขวาก็เป็น ผู้ชายวัยเดียวกับเฮียวิทย์ นั่งอยู่ 2คน กับผู้หญิง 1 ผู้ชาย 1
แต่ละโต๊ะมีเหล้า และเครื่องดื่มตั้งเต็ม ถึงน้ำแข็งใบใหญ่ตั้งเยิ้องไป
(แต่ว่าเหล้าที่อยู่บนโต็ะ ไร้รสนิยมไปหน่อย ควรจะเป็น Single Malt แทรกบ้าง แต่มีแค่ ดำ แดง สวิง)
มีเดเจหนุ่มน้อยเอวบางร่างเล็กเปิดเพลงตื้ดๆ แบบเสียงไม่ดัง กับควบคุมไฟอึกด้านหนึ่งของสระ
(ผมมาสนิทกับพี่ดีเจคนนี้ทีหลังจากงานนั้น)