#145, RE: แค้นวิปริต จิตสั่งกาม:กระทู้ที่ 3
Posted by โทรจิตคุง on 05-Nov-11 at 10:21 PM
In response to message #144
ตอนที่ 31 . . งานศพเจ๊นนท์จับขึ้นอย่างเรียบง่าย ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่คือเพื่อนเกย์และกะเทยส่งเสียงจอแจ ธนิกรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่ก็พยายามเก็บความรู้สึกไว้ด้วยเห็นแก่คนตาย สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดจริง ๆ คือณัฐที่ร้องไห้เป็นเผาเต่าโดยโทษตัวเองว่าเพราะช่วงนี้มัวแต่ซ้อมบอลจึงไม่ได้เพ่งนิมิตคอยตรวจความเป็นไปของคนในครอบครัว . . “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกณัฐ ไม่ใช่เลย. . .” มีนปลอบให้ณัฐหยุดร้อง ขณะเดียวกันเต๋อก็มาถึงพอดี . . “ขอโทษนะครับมาช้าไปนิด ให้ช่วยรับแขกไหมครับ” . . “เธอยังมีหน้าโผล่มาอีกเหรอ” มีนหันหลังพูดเสียงเรียบ . . “หมายความว่ายังไงครับ” เต๋อเดาได้ว่ามีนคิดอะไรอยู่ เพียงแต่เขาต้องการให้มีนเข้าประเด็นตรง ๆ . . “ทวดต้องตายเพราะเธอ! เพราะอีการล้างแค้นบ้าบอคอแตกของเธอ! นี่ยังไม่นับเรื่องอ้นอีก!” ในที่สุดเธอก็เสียงแข็งระเบิดความในใจ . . “ผมเสียใจครับ. . .แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว จึงได้พยายามแสดงความรับผิดชอบโดยมาช่วยงาน ส่วนเรื่องคุณอ้น. . . ผมเตือนแล้ว. . .เขาแส่หาเรื่องเอง” เต๋อตอบพร้อมรินน้ำอัดลมใส่แก้วเตรียมยกเสิร์ฟแขกเหรื่อในงาน . . “ดูทำหน้าเข้าสิ ไม่เคยสลดอะไรสักอย่างเลยนะ! หน้าด้าน! ไม่มียางอาย!” . . “แล้วจะให้ทำหน้ายังไงล่ะครับ ฟูมฟายน้ำหูน้ำมูกไหล ชกกำแพงโครม ๆ เหรอครับพี่มีนถึงพอใจ” เต๋ออ่านสถานการณ์ออกและคิดว่าไม่ควรสนทนากับมีนในเวลานี้ เขายกถาดเครื่องดื่มเดินออกไป แต่แล้วมีนก็ลุกพรวดเข้ามาคว้าแก้วใบหนึ่งสาดน้ำใส่หน้า . . ทว่า มวลน้ำทั้งหมดถูกตรึงอยู่กลางอากาศ พลันร่วงเทลงมาลงพื้นแทนที่จะสาดใส่เป้าหมาย ธนิกนั่นเองที่เข้ามาขวางไว้ . . “ถ้าพี่มีนอยากก่อความไม่สงบ แค่นี้มันน้อยไปครับ ผมจะจัดให้เอง ให้โลงกับพวงหรีดบินว่อนดีไหม” ธนิกประชด นาทีนี้เขาเข้าข้างเต๋อมากกว่าด้วยเห็นว่ามีความสำคัญต่อแผนการฟื้นฟูตระกูลมากกว่าความตายของอดีตผู้มีพลังพิเศษอย่างเจ๊นนท์ มีนเห็นท่าทีดังนั้นจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก . . “ใช่สิ พวกเธอสองคนเข้าขากันได้แล้วนิ ถึงได้ไม่เห็นหัวกันแล้ว” มีนกัดฟันกรอด . . “ปีกกล้าขาแข้งแล้วก็ดี. . . . ไม่ต้องมายุ่งกับพี่อีก. . .ตายก็ไม่ต้องเผาผีกัน. . .” . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . คืนนั้น ธนิกและเต๋อขับรถพูดคุยกันเกี่ยวกับแผนการฟื้นฟูตระกูลที่ธนิกคิดไว้ เต๋อแสร้งคล้อยตามเพื่อให้อีกฝ่ายพูดคุยด้วยง่ายขึ้น พร้อมกันนี้เต๋อยังจุดประเด็นว่า น้ำหวานลูกหนี้รายสำคัญอยู่เบื้องหลังการดักยิง เธอมีอิทธิพลมืดหนุนหลังเนื่องจากเป็นลูกสาวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มือปืนนั่นคงเป็นคนของเธอ เมื่อธนิกได้ยินเรื่องทั้งหมดก็เห็นพ้องตาม เขากำลังจะจัดการนายตำรวจคนนี้อยู่พอดี เนื่องจากสืบได้ว่าพ่อของน้ำหวานอยู่เบื้องหลังขบวนการระดมทุนเข้ากระเป๋าด้วยวิธีสกปรก . . ยังไม่ทันขาดคำ เมื่อผ่านถนนสายหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีคน นายตำรวจสายตรวจสองคนเรียกให้หยุดรถ ธนิกยอมหยุดแต่โดยดี ไม่ใช่เพราะเชื่อฟังแต่อยาก “ลองของ” ทำนองว่าผีมีจริงหรือไม่ . . นายตำรวจขอค้นรถพอเป็นพิธี จากนั้นจึงอ้างว่าพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถ เต๋อและธนิกมองหน้าสบตากัน ทั้งสองพยายามกลั้นหัวเราะไว้ พลางกระเซ้าเหย้าแหย่กันอยู่สองคน ไม่เห็นนายตำรวจทั้งสองในสายตา . . “อยากดัดคนเป็นบอนไซเล่นว่ะ” ธนิกพูด . . “ไม่เอาน่า สะอิดสะเอียนออก ให้ผมจัดการก็พอแล้ว” เต๋อส่ายหน้าเบา ๆ พลางยิ้ม ทั้งสองจึงตกลงเป่ายิ้งฉุบกัน . . “อ้าว นี่อะไรครับ. . .คุณจะว่าไง” นายตำรวจโชว์ห่อยาบ้ายี่สิบเม็ดพร้อมเรียกเสียงแข็งเมื่อเห็นเต๋อกับธนิกไม่ยี่หระ . . “ฉุบ!” เต๋อตัดสินใจออกกระดาษชนะธนิกซึ่งออกค้อน อันที่จริงเขาพอจะเดาได้ว่าธนิกน่าจะเลือกค้อนอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการทำลายล้างตามอุปนิสัยเจ้าตัว ธนิกเดินหงุดหงิดหลบไปอีกทาง . . “จะไปไหน!” นายตำรวจอีกคนคำราม ทว่าธนิกกลับจ้องคืนด้วยแววตาท้าทาย . . “เย็นไว้ก่อนธนิก ผมคุยเอง” เต๋อทักปรามไว้ . . “ปล่อยผมไปน่าจะดีกับพวกคุณมากกว่านะครับ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังไม่สาย” เต๋อหลับตาถอนหายใจ ดูเหมือนเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมเสียกว่าจำนนต่อชะตากรรม . . “จะพูดตรง ๆ นะ. . .มึงจะเอายี่สิบเม็ดหรือจะเอาร้อยเม็ด” นายตำรวจตบข้างกระเป๋าให้เห็นปืนพก . . “ผมต้องถามมากกว่า คุณอยากรุกหรืออยากรับ” เต๋อครองสติของนายตำรวจทั้งสอง แล้วสั่งให้เดินทางไปถึงสี่แยกใหญ่แห่งหนึ่ง . . เขาสั่งให้ทั้งสองแก้ผ้านัวเนียอยู่กลางสี่แยกนั้นคาเครื่องแบบ รถบีบแตรไล่ประสานเสียงก้อง . . “เยี๊ยก!!! ก๊าก ๆ ๆ ๆ พ่อมึงตายเหรอบีบแตรทำไมวะ!!!” นายตำรวจกลอกตากลิ้งไปมาเหมือนคนทรงเจ้า หยิบปืนออกมายิงลั่นขึ้นฟ้าและเย็ดกับเพื่อนตำรวจอีกคนในท่าหมากลางสี่แยกแห่งนั้น เมื่อถึงช่วงไฟเขียว รถบางคันทนไม่ไหวจึงพยายามขับเดินหน้ายังฝั่งตรงข้ามโดยเลี่ยงพื้นที่กลางซึ่งมีคนประกอบกามกิจอยู่ แต่ก็หวิดถูกยิง บางคันเสียหลักพุ่งเข้าชนกับรถคันอื่นอย่างอลหม่าน ไม่มีใครกล้าเข้าไปขัดขวางเพราะมีปืนในมือ กระทั่งเสร็จกิจทั้งสองจนนอนแผ่หราอ้าซ่ากลางสี่แยกนั้นด้วยความเหนื่อยล้า ประชาชนจึงช่วยกันจับตัวไว้ได้ . . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . ไม่กี่วันถัดมา เต๋อวางแผนร่วมมือกับธนิกเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของทั้งสอง โดยเต๋อและธนิกจะร่วมกันจัดการกับน้ำหวานในงานกีฬามหาวิทยาลัยซึ่งเธอได้รับเกียรติเป็นพิธีกรในช่วงพิธีเปิด ต่อจากนั้นจะบุกเข้าบ้านเพื่อจัดการกับพ่อของน้ำหวานและสมุนในคราวเดียว เนื่องจากเป็นวันเกิดของพ่อน้ำหวานจึงมีบรรดาคนสนิทเข้ามาร่วมอวยพรด้วย ธนิกจึงขอถือโอกาสกวาดให้เรียบ . . ในวันนั้น น้ำหวานได้สั่งให้บอดี้การ์ดนำสุนัขคุ้มกันสองตัวเฝ้าหน้าห้องแต่งตัวของเธอภายในสนามกีฬา แต่นั่นเป็นแผนที่มีช่องโหว่ซึ่งเธอไม่ทันคิด แม้ตัวสุนัขอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของเต๋อแต่มันก็ถูกบอดี้การ์ดซึ่งเป็นมนุษย์ควบคุมอีกต่อหนึ่ง ดังนั้นเพียงเต๋อสั่งให้บอดี้การ์ดนำสุนัขไปเดินเล่นไกล ๆ ก็เป็นอันเรียบร้อย เต๋อบุกเข้าห้องแต่งตัวพร้อมเกริกและก้องที่ถูกสะกดจิตเพื่อรอวันนี้ . . “มึงเข้ามาได้ยังไง!” น้ำหวานร้องลั่น “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” . . “ผมไม่มีความเมตตาแม้เศษเสี้ยวจะมอบให้คนอย่างคุณหรอกนะ” เต๋อสะกดจิตให้เธอตกอยู่ในห้วงภวังค์ . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . เต๋อนึกถึงข้อมูลสำรองที่เจ๊นนท์สั่งเสียไว้ บัดนี้มันอยู่ในมือเขาแล้ว เจ๊นนท์คงไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายตามมาภายหลังจึงมอบข้อมูลลับให้เฉพาะส่วนของผู้ใช้โทรจิต เกินครึ่งเป็นข้อมูลที่เขารู้มาก่อนหน้านี้จากปากธนิก กระนั้นก็มีข้อมูลที่เขาไม่เคยรู้เช่นกัน เช่น กระแสโทรจิตจะแผ่อำนาจได้กว้างหากผู้มีอำนาจอยู่ในที่สูง ครั้งนี้เต๋อจึงยืนอยู่ชั้นบนสุดของสนามกีฬาพร้อมกับธนิก . . เมื่อได้ฤกษ์ น้ำหวานกล่าวเปิดงานท่ามกลางขบวนทัพนักกีฬา สื่อมวลชน และนักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไปที่นั่งชมเนืองแน่นอัฒจันทร์ เกริกและก้องถูกส่งตัวไปให้เริ่มตามแผน . . “และในโอกาสนี้. . .ดิฉันจะแสดงความร่านกะหรี่หีปลิ้นให้พวกมึงได้ชมกันนะคะอีสันขวาน” น้ำหวานกล่าวออกไมค์ ที่จริงควรจะเรียกว่ากล่าวออกอากาศ เกิดเสียงฮือฮาเซ็งแซ่เกี่ยวกับคำพูดเมื่อครู่ เต๋อจัดการเปิดงานโดยส่งเกริกก้องให้บุกเข้าไปกลางแท่นปรัมพิธี ทั้งสองถอดเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและน้ำหวาน เข้ากอดจูบดูดไซร้แบบทรีซั่มกันพัลวัน . . “เฮ้ย! หยุดทำอะไรกันน่ะ!” ผู้ใหญ่ในงานคนหนึ่งที่ตั้งสติได้วิ่งหน้าตั้งเข้าไปห้ามปรามเหมือนทุกทีที่เคยเกิดขึ้น เต๋อจึงตั้งใจแผ่กระแสจิตควบคุมคนทั้งสนามไม่ให้เคลื่อนไหวได้ แต่คราวนี้ธนิกยกมือขวางไว้ . . “ไม่ต้องเปลืองพลังหรอก วิธีของฉันสิสนุกกว่า” ธนิกยักคิ้ว ฉับพลันร่างเปลือยของชายสองหญิงหนึ่งก็ลอยขึ้นกลางอากาศ ธนิกส่งให้ทั้งสามลอยเหนือพื้นสิบเมตร ทำให้ไม่มีใครเอื้อมถึงได้ ทั้งสามตีกรอบล้อมวงกันเลียหีดูดควยกันเป็นวงล้อหมุนติ้วกลางอากาศ ผู้ชมกรี๊ดกร๊าดเมื่อกล้องซูมไปเห็นภาพการร่วมรักที่ทั้งอุจาดและมหัศจรรย์เหนือจินตนาการ ต่อมาเต๋อจัดให้ทั้งสามสอดใส่กันแบบแซนวิชไบเซ็กช่วล น้ำหวานถูกก้องสอดควยเย็ดหีขณะที่เกริกประกบหลังล่อรูดากอีกต่อหนึ่ง . . “โอว ๆ !จ้องฉันเยอะ ๆ ดูฉันเยอะ ๆ!” น้ำหวานพร่ำร้องพลางแหกขาเป็นองศากว้าง พยายามให้ผู้คนชมหีของเธอได้ถนัดตา ธนิกใช้พลังควบคุมร่างทั้งสามลอยดิ่งไปยังอัฒจันทร์ผู้ชมระยะประชิดให้เห็นทุกซอกอณูเต็มสองตา ก้องหลับตาพริ้มอย่างสุขสมเมื่อได้รับความสุขสองด้านทั้งจากหีสาวที่ตอดควยตุบ ๆ ๆ และความสุขจากควยพี่ชายที่กระหน่ำรูดากเขาอยู่ข้างหลัง ร่างของทั้งสามลอยตามเข็มนาฬิกาเคลื่อนที่เป็นวงกลมไปรอบ ๆ วงแหวนอัฒจันทร์เพื่อแจกจ่ายความหฤหรรษ์ให้ประชาชนถ้วนหน้า มองดูคล้ายกลุ่มก้อนวิญญาณที่ไม่ได้ผุดเกิดล่องลอยหลอกหลอนผู้คน . . “ว้าย! อะไรเนี่ย!” “หลับตาไว้ลูก อย่าไปดู!!” “เฮ้ยเชี่ยไรเนี๊ยะ!!?” . . ผู้คนรอบอัฒจันทร์บ้างก็ถอยกรูด บ้างก็กรีดร้องตกใจ บ้างก็ขว้างปาสิ่งของใส่ไล่ให้ลอยไปเย็ดกันที่อื่น บ้างก็หยิบกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพกามกิจสุดพิสดารพันลึก บรรยากาศในงานเริ่มอยู่ได้ความไม่สงบ จนฝ่ายผู้ดูแลต้องประกาศออกไมค์ให้ประชาชนอย่าแตกตื่น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังหาทางจัดการและสั่งยุติการแพร่ภาพออกอากาศทันที . . ธนิกยืนจิบเบียร์กระป๋องพลางสนุกกับการควบคุมวัตถุให้ลอยไปมาสร้างความปั่นป่วน ส่วนเต๋อยังคงยืนนิ่งใช้สมาธิควบคุมคนทั้งสามให้โลดแล่นตามบทที่เขาได้วางเอาไว้ นอกจากนี้ยังสั่งให้สื่อมวลชนถ่ายทำต่อไป สั่งให้แผนกแสงเสียงฉายสปอตไลท์ไล่ตามกลุ่มร่างลอยล่อง น้ำหวานหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยแรงกระแทกที่ส่งต่อกันจากชายสองคน ก้องไม่อาจแบกรับความซาบซ่านจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้อีก เขากำลังจะเห็นสวรรค์รำไรไม่ช้านี้ . . พิธีเปิดกำลังจะลุล่วงแล้ว ธนิกยกร่างทั้งสามให้อยู่ลอยกึ่งกลางสนาม ส่วนเต๋อสั่งให้สื่อมวลชนเข้าไปแหงนกล้องบันทึกภาพจากเบื้องล่าง ประกาศการค้นพบวิธีเย็ดกันรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนให้ผู้ชมทั้งประเทศรับรู้ พร้อมสั่งให้จุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองเปิดงานอย่างเป็นทางการ . . “. . .โอ๊ย อู๊ว อว๊าวววว!” ทั้งสามเสร็จไล่ ๆ ติดกันพร้อมดอกไม้ไฟที่ระเบิดลูกแรก น้ำหวานระเบิดน้ำหีจุดสุดยอดพุ่งกระฉูดพร้อมทั้งน้ำกามของเกริกและก้องที่ชักออกมาหลั่งภายนอก ทุกหยาดหลดพุ่งดิ่งกระจายดุจสายฝนโปรย บางส่วนกระเด็นแหมะใส่หน้าสื่อมวลชนและผู้คนที่ถูกลูกหลง บางส่วนกระเด็นเลอะจอกล้องถ่ายทำ . . ดอกไม้ไฟแสงสีสวยงามนับไม่ถ้วนวาดสีสันกลางอากาศแทนเสียงปรบมือการแสดงเย็ดเหนือฟ้า ธนิกบังคับให้ร่างของทั้งสามลอยแยกกันเอาของลับประทับจอกล้องถ่ายทำออกอากาศ ดังนั้นผู้ชมการถ่ายทอดสดบางช่องจะได้เห็นหีเปียก ๆ แฉะ ๆ นาบเต็มหน้าจอ บางช่องจะได้เห็นควยเลอะน้ำว่าวข้นหนืดของเกริก บางช่องจะได้เห็นรูตูดแดงแจ๋กลวงโบ๋ของก้องกำลังขมิบเต้นตุบ ๆ จากนั้นร่างของทั้งสามจึงร่วงหล่นสู่พื้น เต๋อกำลังจะลบความทรงจำตามธรรมเนียม แต่ธนิกห้ามไว้ เขาบอกว่าปล่อยให้มีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดอย่างนั้นดีกว่า ไม่จำเป็นต้องกลัวการล้างแค้นคืน ในเมื่อ “เรา” คือพระเจ้า คือเทวดา คือชนชั้นผู้ปกครองมนุษย์ บอดี้การ์ดส่วนตัวของน้ำหวานรีบเข้าไปถอดเสื้อสูทคลุมร่างเธอไว้ก่อนจะกันตัวหลบจากผู้คนด้วยเกรงสื่อมวลชนและการประชาทัณฑ์ . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . ต่อมาไม่กี่ชั่วโมง ธนิกและเต๋อบุกเข้าไปยังบ้านน้ำหวานตามข้อมูลที่ธนิกสืบได้เอง ทั้งสองจัดการกับระบบความปลอดภัยทุกอย่าง สวมหน้ากากและถุงมือ พ่อของน้ำหวานกำลังเจรจาเรื่องสินบนกับบรรดาลูกน้องใต้บังคับบัญชา เต๋อควบคุมให้ทุกคนในบ้านขยับไม่ได้ และขอแรงให้ธนิกช่วยเขาโดยบุกขึ้นห้องน้ำหวาน ใช้พลังจิตของธนิกพังประตูห้องเข้าไปและทำลายกลอนกุญแจตามลิ้นชักต่าง ๆ เมื่อเรียบร้อยแล้วธนิกจึงขอตัวลงไปจัดการเหยื่อ . . ส่วนเต๋อค้นห้องต่อจนกระทั่งค้นพบฟิล์มแบล็กเมล์ต้นฉบับ ระหว่างนั้นมีเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดทรมานดังจากชั้นล่าง แต่เต๋อก็ไม่ทันสังเกตเนื่องจากมัวแต่ตะลึงกับคอลเลคชั่นส่วนตัวที่น้ำหวานซุกซ่อนในลิ้นชัก มีภาพการทรมานสัตว์ด้วยวิธีต่าง ๆ ใช้เชือกรัดคอแมว หักปีกนก ดึงขาแมงมุมยักษ์ทิ้งแล้วปล่อยให้มดรุมกิน เอาหนูแฮมสเตอร์เป็น ๆ โยนให้ปิรันย่ารุมทึ้ง นำเต่าย่างไฟทั้งเป็น รวมถึงภาพถ่ายตอนที่โยนลูกหมาของเต๋อลงน้ำ . . “หึ. . .ใครกันแน่ที่เป็นสัตว์นรก ยัยโรคจิต” เต๋อกวาดเอารูปเหยื่อทั้งหมดไปพร้อมโน๊ตบุ้คส่วนตัวของน้ำหวานซึ่งมั่นใจว่าข้างในคงมีรูปคลิปซาดิสต์เช่นเดียวกัน เขาไม่ทราบรหัสก็จริงและไม่สนใจจะเจาะข้อมูล สิ่งที่เขาต้องการคือขจัดแกลลอรี่อำมหิตให้สิ้นซาก . . เมื่อเต๋อลงมาด้านล่างจึงพบว่า ทุกคนในบ้านตายเกลี้ยงหมดแล้ว พ่อของน้ำหวานถูกพลังจิตอัดกระแทกท้องจนไส้ทะลัก ถูกกระชากขากรรไกรขาดและควักลูกตาทิ้ง แม่ของเธอกระชากศีรษะขาดจากร่าง สมุนน้อยใหญ่บ้างก็ถูกบิดร่างกายหักงอสยดสยอง บ้างก็นอนสมองไหลเครื่องในแตกระเบิด แขนขาฉีกแยกเป็นชิ้น ๆ เต๋อจ้องดวงตาธนิก ในนั้นมีแต่ความเกลียดชังและวิถีแห่งการทำลายล้าง เต๋อไม่เคยเห็นศพจากฝีมือธนิกซึ่งหน้าขนาดนี้มาก่อน มันทั้งโหดร้าย สยดสยอง และน่าขยะแขยง เต๋อรู้สึกว่าของที่ทานเข้าไปกำลังตีขย้อนออกทางปาก แต่ก็พยายามกลืนมันลงไป ธนิกทราบดีว่าเต๋อรู้สึกอย่างไรจากสีหน้า . . “เข้าใจหรือยังทำไมแกถึงควรร่วมมือกับฉัน. . .เพราะฉันทำได้แค่นี้ ฉันเปลี่ยนสันดานพวกมันไม่ได้” ธนิกเอ่ยขึ้นเองราวกับเป็นฝ่ายอ่านใจเต๋อเสียเอง . . “ลูกหนี้แกเหลือกี่คนก็รีบสะสางซะ ให้ช่วยอะไรก็บอก จะได้จบ ๆ แล้วมาเริ่มงานกับฉันซะที” เขากล่าวปิดภารกิจ เขาพาเต๋อไปยังหลังบ้านเพื่อหลบหนีด้วยวิธีของเขา ธนิกกางผืนพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ออก และเข้าไปยืนในนั้น ใช้พลังไซโคไคเนซิสให้ผืนพลาสติกห่อครอบไว้เป็นลูกกลมเหมือนบอลลูน แล้วลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามราตรี เมื่ออยู่ในระดับที่สูงมากก็ไม่มีใครสังเกตเห็นได้แล้ว ด้านล่างผืนผ้ามีช่องที่เจาะไว้สำหรับมองทัศนียภาพโลกเบื้องล่าง การถูกขังในที่มืดอาจทำให้อึดอัดสักนิดแต่ธนิกรับรองว่าแผนนี้เสี่ยงน้อยกว่าให้เต๋อเที่ยวไล่ลบความทรงจำจากคนที่อาจพบเข้าขณะหลบหนี กระทั่งบอลลูนพลาสติกสีดำลอยไกลถึงจุดรกร้างลับตาผู้คน ธนิกจึงผ่อนกำลังลงให้ตกสู่พื้น ก่อนจะเปลี่ยนชุดและตามกลับไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ . . น้ำหวานหนีมาได้ด้วยความเป็นมืออาชีพของบอดี้การ์ดซึ่งกีดกันผู้คนที่กรูเข้ามาหมายกักตัวเธอไว้และพร้อมยิงคำถามใส่ แต่เธอไม่พร้อมพบปะใครทั้งนั้นจนกว่าจะได้ปรึกษาพ่อและทนาย แต่ความหวังเพียงริบหรี่กลับดับสูญซ้ำยังเลวร้ายทวีคูณ เมื่อถึงบ้านเธอไม่อาจรับสภาพชิ้นเนื้อไม่เต็มคนที่อยู่ตรงหน้าได้ . . “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!! พ่อจ๋า!! แม่จ๋า!!” เธอร้องไห้คร่ำครวญได้เพียงอึดใจเดียวก็เป็นลมล้มพับไป . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . คืนนั้นเต๋อนำฟิล์มแบล็คเมล์ โน้ตบุ้ค และรูปภาพสะสมของน้ำหวานเผาทิ้งทั้งหมด เขาคิดว่าการกระทำย่ำยีต่อชีวิตอื่นเป็นเหมือนของเล่นสนุกนั้นช่างต่ำช้าสิ้นดี แต่เพียงฉุกขึ้นได้ก็ห้ามใจตนไม่ให้คิดต่อ เพราะสำเหนียกได้ว่าตนเองก็กำลังทำอยู่เช่นกัน สำหรับผู้ใช้โทรจิตการมีความคิดย้อนแย้งในตัวเองอาจก่อเกิดภาวะเทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ซึ่งเขารู้ซึ้งดีว่าทั้งทรมานและอันตรายแค่ไหน ช่วงเวลาที่ไม่รู้สึกตัวนั้นเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายเป็นแรมเดือน . . สักพักเอฟจึงโทรมาชวนคุยหัวข้อสัพเพเหระ เอฟสังเกตได้ว่าน้ำเสียงของเต๋อแผ่วกว่าทุกครั้งจึงถามขึ้น . . “วันนี้พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เสียงดูแปลก ๆ” . . “ไม่มีอะไรหรอกครับ มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยครับ” . . “เรื่องอะไรครับเล่าให้ฟังได้รึเปล่า” . . “ขอเก็บไว้เป็นความลับนะครับ” เต๋อตัดบทและแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน เอฟจึงเข้าใจไปตามนั้นและคิดว่าเจ้าตัวคงไม่เครียดมาก จึงตอบกลับไป . . “ผมก็มีความลับเหมือนกันครับ แต่คิดว่าจะบอกกับพี่เร็ว ๆ นี้ล่ะ” . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . วันต่อมาธนิกนัดคุยกับเต๋อนอกบ้านโดยพาไปร้านกาแฟโบราณละแวกตลาด เขายัดเยียดแผนการฟื้นฟูตระกูลเพ้อเจ้อใส่หัวเต๋อจนแทบกระอัก เขาเกือบสำลักชานมขึ้นจมูกเมื่อธนิกเอ่ยว่าต้องช่วยกันระดมเชื้ออสุจิจากทั้งเขา เต๋อ และณัฐ แล้วหาผู้หญิงที่ยินดีรับจ้างอุ้มบุญเพื่อเพิ่มจำนวนผู้มีพลังพิเศษ เด็กที่คลอดมาเป็นผู้มีพลังพิเศษจะถูกเลี้ยงดูในคฤหาสน์ ส่วนคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ปกติจะคอยอุปภัมภ์ห่าง ๆ จนเติบใหญ่และให้ใช้ชีวิตตามทางตนเอง เมื่ออดทนฟังไปสักพักธนิกจึงพักช่วงให้เต๋อหายใจหายคอและขอตัวเข้าห้องน้ำในร้าน . . เต๋อลุกขึ้นยืดเส้นสายพร้อมถือวิสาสะจ่ายค่ากาแฟ เถ้าแก่ปรี่มาเก็บโต๊ะ เต๋อจงใจทำเพื่อให้ธนิกออกจากห้องน้ำแล้วรู้สึกกดดันว่าเขาขี้เกียจนั่งฟังนานกว่านี้ . . สุภาพสตรีผมบลอนด์สวมแว่นกันแดดนางนึงเดินเข้ามาในร้านในจังหวะที่ไม่ค่อยมีคน เถ้าแก่เก็บแก้วไปกองหลังร้าน เธอย่องเข้าทางด้านหลังเต๋อซึ่งกำลังยืนชมภาพถ่ายประดับร้านข้างฝาผนังฆ่าเวลาขณะรอธนิก . . สุภาพสตรีปริศนานั้นคือน้ำหวานที่อำพรางกายแล้วใช้อำนาจที่พอมีเหลืออยู่แกะรอยเพื่อให้เข้าถึงตัวเต๋อ เธอซ่อนมีดคอมแบทไว้ด้านหลัง หมายแทงตัดขั้วหัวใจกับมือให้สาสมกับที่เต๋อได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอ แม้กระทั่งความตายของคนในครอบครัวเธอก็คิดว่าเป็นฝีมือของเต๋อโดยหารู้ไม่ว่าเต๋อไม่เคยทำใครถึงแก่ชีวิต ขอให้เธอได้ฆ่ามันผู้นี้ ณ ตอนนี้ นาทีนี้เป็นพอ ส่วนเรื่องอื่นขอไปตายเอาดาบหน้า แม้สิ้นบารมีของพ่อไปแล้วก็ตามที . . “มึงตายยยยย!!!!” น้ำหวานกล่าวอาฆาตด้วยน้ำตาแห่งความคับแค้นพร้อมหันคมมีดพุ่งเข้าใส่ไม่ให้ตั้งตัว . . “!!!?” เต๋อชะงักไปชั่วขณะ . . มีดคอมแบทลอยคว้างกลางอากาศราวกับถูกกาลเวลาแช่แข็งไว้ . . “อ้อ ยัยดารานี่เอง. . .” ธนิกใช้พลังจิตกระชากแว่นกันแดดและวิกผมของน้ำหวานออก เธอทั้งตกใจและประหวั่นเมื่อเห็นอาวุธซึ่งน่าจะอยู่ในมือเธอหันปลายคมวาวลอยคืบคลานหาเธอช้า ๆ . . ธนิกเลื่อนกรอบแว่นให้กระชับหน้า ซึ่งเต๋อจำที่มีนพูดได้ว่าเป็นสัญญาณก่อนกิโยตินจะหล่นสู่คอนักโทษ “เดี๋ยวจะให้ดูหนังโฮมเมดเลียนแบบ. . .แต่เทคนิคระดับฮอลลีวู้ด ทายซิว่าเรื่องอะไร. . .” เขาหันไปถามหยอกเต๋อ ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบแต่เพื่ออวดศักดา . . “ไฟนอลเดสติเนชั่นไงละ” . . “ธนิก! อย่า!!?” เต๋อร้อง แต่สายไปแล้ว มีดคอมแบทกวาดฉวัดเฉวียนกลางอากาศราวปิรันย่ากระหายเลือด น้ำหวานกรีดร้องหันหลังหนีทันที โดยมีมีดที่ถูกธนิกควบคุมลอยตามติด ๆ . . “กรี๊ด! ช่วยด้วย!” ร้านกาแฟแห่งนี้ทำเลติดถนน น้ำหวานจึงวิ่งข้ามไปอีกฟากอย่างไม่คิดชีวิต ธนิกใช้พลังจิตผลักให้เธอเสียหลักกลางถนน . . “ตูมมมมม!!” รถเก๋งที่แล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนจนร่างของเธอกระเด็นเกือบยี่สิบเมตร น้ำหวานหล่นโครมลงหน้าแผงกล้วยแขกข้างทาง . . “ว๊าย ๆ ๆ ๆ กรี๊ด ๆ ๆ ๆ !!!” แม่ค้ากล้วยแขกตกใจสิ้นสติเมื่อมีร่างคนถูกรถชนกระเด็นมากองตรงหน้า ทั้งเต๋อและคนสัญจรรีบวิ่งไปดูผู้บาดเจ็บ ส่วนธนิกล้วงกระเป๋าเดินรั้งท้ายอย่างใจเย็น . . “หนูไอช่า!! หนูไอช่าโดนรถชน!!” แม่ค้ากล้วยทอดจำได้จากโฆษณาและผลงานละคร เธอร้องป้องประกาศเพิ่มความสนใจไทยมุง . . “อูย. . .โอย. .” น้ำหวานคายเลือดที่กระจุกในลำคอด้วยความช้ำระบม เธอรู้สึกได้ว่ากระดูกหลายท่อนแตกหักอยู่ข้างในแม้ไม่ได้สำรวจตัวเองก็ตาม เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น จึงได้เห็นว่าศีรษะนั้นอยู่ใกล้กะทะทอดกล้วยขนาดใหญ่พอดี . . “ลาก่อน. . .นังแพศยา” ธนิกโบกมือเบา ๆ จากระยะไกล ฉับพลันภาชนะก็โอนเอนเทน้ำมันเดือดจัดราดทั่วใบหน้าและร่างท่อนบน . . “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!” น้ำหวานร้องเสียงหลงประสานพร้อมไทยมุงจนแยกไม่ออก ธนิกไม่ทิ้งช่วง เขาใช้พลังจิตถล่มเพิงร้านกล้วยแขกจนคนหนีกันจ้าละหวั่น หลังคาสังกะสีถูกฉีกเป็นชิ้นพุ่งเข้าปักแทงทั่วร่างกายเหมือนปาไพ่สังหารคมกริบ “อ๊อก! อ๊อก! อ๊อก!!” เธอเกร็งร่างชักกระตุกด่าวดิ้น . . ท่ามกลางผู้คนที่ตื่นกลัว เต๋อหันไปตะโกนใส่ธนิกให้หยุดได้แล้ว พลันใช้โทรจิตให้คนเกะกะขวางทางหลบไปเพื่อเข้าถึงตัวน้ำหวานที่นอนหายใจรวยริน เขาย่อตัวช้อนร่างเธอประคองไว้ . . “อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้. . . หายใจเข้าไว้. . .คุณต้องรอดและมีชีวิตต่อ เหมือนกับผมที่เคยผ่านมาแล้ว” เต๋อมองเห็นภาพในอดีตเมื่อครั้นตนกระโดดตึกลงมาและรอดอย่างปาฏิหารย์ อย่างไรก็ตามสภาพบาดแผลน้ำหวานนั้นสาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่านัก ทั้งกระดูกหักอวัยวะภายในกระเทือน แผลร้อนพุพอง และเศษสังกะสีเชือดเฉือนเหวอะหวะ ใบหน้าเธอถูกลวกจนเสียโฉม กระนั้นก็ยังพอลืมตามองเห็นโลก . . . “. . . .สมน้ำหน้าอยู่. . .สินะ. . .” น้ำหวานพยายามเอื้อมมือคว้าคอเสื้อเต๋อไว้อย่างทุลักทุเล . . “ไม่เลย. . .อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้. . .ห่วงชีวิตคุณก่อน” เต๋อตอบกลับ . . . “หึ หึ . . .อ๊อก!” เธอกระอักเลือด . . “กู. . .ขอสาปแช่ง. . .แฮ่ก แฮ่ก. . .” ลมหายใจเธอแผ่วลงทุกที “ขอให้มึง. . .ไม่. . .ไม่ตายดี. . .แฮ่ก. . .ขอจองเวรไป. . .ทุกภพ. . .ทุกชาติ. . .แฮ่ก. . .แฮ่ก. . .” . . เต๋อเงียบกริบ เขาไม่มีอะไรจะโต้ตอบหรือแสดงปฏิกิริยาใด ๆ ในหัวมีแต่ความว่างเปล่า . . . ม่านตาน้ำหวานพร่ามัวทุกที เธอรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างเลียแก้ม . . ลูกหมาที่เต๋อเคยเลี้ยงไว้นั่นเอง. . . ลูกแมวสามตัววิ่งเล่นวนเวียนอยู่ข้างตัวเธอ รอบข้างเป็นบรรดาสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่เคยเป็นเครื่องสังเวยสนองรสนิยมส่วนตัว . . “หึ. . .หึ. . .พวกแก. . .มา. . .สมน้ำหน้า. . .ด้วย. . .ใช่ . . . ไหม. . .แฮ่ก” น้ำหวานหอบหายใจระรัว เธอกวาดตามองรอบตัว เพ้อแต่สิ่งที่เต๋อไม่เข้าใจว่าต้องการสื่อสารกับอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตามเวลาของเธอมาถึงแล้ว เธอรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายส่งมือโชกเลือดไปจับแก้มเต๋อไว้ . . “กู. .จะรอมึง. . .อยู่ใน. . . . .” . . “. . .นรก” น้ำหวานสิ้นใจลงพร้อมคำผูกพยาบาท เธอเปิดตาจ้องหน้าเต๋อค้างไว้แม้หมดลมหายใจแล้ว ราวกับเป็นอารมณ์สุดท้ายที่ต้องการให้เต๋อรับรู้ เขาปิดเปลือกตาน้ำหวานลง . . ไม่มีใครตีความออกว่าประโยคปริศนาที่น้ำหวานพูดก่อนตายหมายถึงใครกันแน่ อำนาจโทรจิตไม่อาจรับรู้ได้ มันเกินขอบเขตความสามารถของเขา หรืออาจเกินขอบเขตที่จะหยั่งรู้สิ่งอื่นนอกเหนือจากโลกที่ใช้ชีวิตอยู่นี้ก็ไม่อาจทราบได้ . . เต๋อเพียงรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงลูกหมาที่คุ้นเคยแว่วอยู่ไกล ๆ . . จบตอนที่ 31
|