Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 225
Message ID: 77
#77, RE: แค้นวิปริต จิตสั่งกาม:กระทู้ที่ 3
Posted by โทรจิตคุง on 14-Oct-11 at 10:06 PM
In response to message #76
ตอนที่ 24
.
.
.
หลังจากเกิดเหตุโกลาหลเนื่องจากเต๋อควบคุมสติและอำนาจโทรจิตไม่ได้ ผลกระทบที่ตามมาร้ายแรงกว่าที่เขาคิดไว้ พฤติกรรมผู้คนออกมาทำอุจาดเยี่ยงเดรัจฉานกลายเป็นประเด็นข่าวดังไปทั่วโลก สร้างความอัปยศอดสูแก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งผู้นำทางจิตวิญญาณ นักพฤติกรรมศาสตร์ และนักวิชาการต่างแสดงความเห็นและตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ บ้างว่าเป็นอุปทานหมู่ที่เกิดจากความเครียดและความกดดัน บางว่าเป็นปรากฏการณ์ประเภท “องค์ลงทรงเจ้า” อย่างไรก็ตามไม่มีใครนึกถึงความเป็นไปได้ในการ “ครอบงำจิต” โดยมีผู้บงการเบื้องหลังเลย
.
.
เมื่อเต๋อกลับถึงบ้าน เขาพบว่าช่วงระหว่างที่เขาไม่ได้สตินั้นช่างดูเหมือนผ่านไปยาวนาน เพื่อนบ้านจอมอันธพาลย้ายบ้านหนีความอับอายออกไปดั่งปรารถนา แต่กระนั้นเขากลับรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไปบางอย่าง ยิ่งเขาตามไล่ล่าแก้แค้น กลับยิ่งรู้สึกเหนื่อย ยิ่งมีอำนาจทำลายชีวิตผู้คน ตนเองกลับยิ่งโดดเดี่ยว
.
.
แต่อย่างไรก็ตามเป็นเพียงอารมณ์ที่แว่บเข้ามาเหมือนผีพุ่งไต้ เขาครุ่นคิดจนตกตะกอน และคิดว่าถ้ายิ่งเหนื่อยก็ควรรีบล้างแค้นทุกชีวิตให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จะได้หลุดพ้นจากความรู้สึกอันหนักอึ้งนี้ เมื่อเต๋อเปิดเฟสบุ้คเพื่อเช็คความเป็นไปของลูกหนี้รายที่เหลือ ก็พบว่าไม่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ. . . หรือไม่สิ ทุกคนพูดกันน้อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น มันดูผิดธรรมชาติ
.
.
.
คนที่จะให้คำตอบเขาได้คือณัฐนั่นเอง รวมถึงธนิกซึ่งบัดนี้ก็เริ่มจะญาติดีกันบ้าง เต๋อเดินทางไปยังบ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นคฤหาสน์ของผู้มีพลังพิเศษ เมื่อเข้ามาถึง ธนิกก็ออกมาต้อนรับพร้อมมีน มีนขอโทษเต๋อทันทีเมื่อพบหน้าเนื่องจากคิดว่าตนมีส่วนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นด้วยการปล่อยให้อาการ “ป่วย” ของเต๋อรุนแรงจนกลายเป็นลูกระเบิด นอกจากนี้เธอยังเปิดเผยข้อมูลพลังส่วนตัวคือ จิตสัมผัส หรือ Psychometry ให้กับเต๋อและสัญญาว่าจะอ่านอดีตจากสิ่งมีชีวิต วัตถุ หรือสถานที่ให้เต๋อตามคำขอได้ 3 ครั้งเพื่อเป็นการไถ่โทษ
.
.
ขณะเดียวกัน ชายหล่อเข้มบึกบึนกล้ามแกร่งวัยประมาณ 40 ได้เปิดเผยตัวออกมา คนในบ้านเรียกเขาว่า “ทวดนนท์” แม้จะเรียกว่าทวดแต่อายุยังหนุ่มเกินกว่าคำเรียกเช่นนั้น เพียงทวดนนท์เห็นหน้าเต๋อก็พอจะเดาได้ว่าเป็นลูกชายของทิพย์ ทวดนนท์ไม่มีทีท่าเป็นมิตรพอ ๆ กับไม่แสดงว่าเป็นศัตรู อย่างไรก็ตามเต๋อไม่มีเวลาใส่ใจกับทวดหน้าอ่อนคนนี้มากนัก เขาขอพบณัฐและตอบรับการความช่วยเหลือจากมีนที่ว่าจะใช้พลังอ่านอดีตเพื่อสืบสวนข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการล้างแค้นให้ 3 ครั้ง
.
.
แต่ธนิกค้าน เขาถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาขวางข้อตกลงระหว่างทั้งสาม ด้วยเหตุผลว่าทั้งมีนและณัฐเคยตบตาเขาว่าไม่มีการติดต่อกับเต๋อ ธนิกยื่นเงื่อนไขเอาแต่ใจว่าหากต้องการให้มีนและณัฐช่วยงาน เต๋อจะต้อง “แสดง” อะไรบางอย่างให้เขาดูก่อน
.
.
ธนิกขับรถพาเต๋อตระเวนราตรีกลางถนนสายหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าอันตราย ผ่านไปได้ไม่นานก็พบพวกแก๊งค์เด็กแว๊นซ์ขี่จักรยานยนต์ส่งเสียงดังอาละวาดและขับฉวัดเฉวียนไปมา ธนิกบอกว่าอยากเห็นขั้นตอนการจัดการกับมนุษย์ที่ไม่พึงปรารถนาในแบบของเต๋อสด ๆ ซึ่งคิดว่าคงสนุกต่างจากแบบของเขา คราแรกเต๋อปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่สามารถใช้พลังโทรจิตควบคุมสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสภาพเคลื่อนไหวด้วยความเร็วขนาดนี้ได้ และสอง เด็กพวกนี้ไม่มีความแค้นอะไรกับเต๋อและไม่มีพิษภัยมากไปกว่าโชว์พราวด์แบบเด็ก ๆ
.
.
ธนิกชี้ให้เห็นมอเตอร์ไซค์คันหลังสุดซึ่งคนขี่และคนซ้อนชายประกบตัวเด็กสาวที่นั่งอยู่กึ่งกลาง เด็กสาวดีดดิ้นตะโกนด่าทอ พร้อมกันนั้นคันอื่น ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะ เป็นไปได้ว่าเด็กหญิงคนนี้กำลังจะถูกพาไปรุมโทรม ธนิกจึงอ้างว่าไม่ใช่แค่ปัญหาเล็ก ๆ อย่างที่เต๋อเข้าใจ เขาเริ่มเกมทันทีโดยจอดรถและใช้พลังจิตผลักเต๋อลงจากรถ แล้วให้หาทางหยุดนักเลงเหล่านี้เองภายในเวลา 20 นาที หากทำไม่ได้เด็กพวกนั้นจะถูกธนิกหักคอทิ้งทุกคน
.
.
เริ่มแรกเต๋อโบกมือขอความช่วยเหลือจากมอเตอร์ไซค์ฮายาบุสะที่ผ่านมาพอดี จากนั้นใช้พลังจิตไล่คนขับออกไปและควบรถไล่ตามไปเอง จนถึงบ้านร้างที่พวกแว๊นซ์กำลังจะพาเด็กสาวไปลงแขก เต๋อจัดการควบคุมทุกคนได้ทัน ก่อนธนิกจะตามมาพอดี ชัยชนะเป็นของเต๋อ และบทลงโทษที่เต๋อเลือกสรรเองนั้นคือการให้เด็กแว๊นซ์เหล่านั้นประจานความเหี้ยของตนให้ชาวบ้านดู เต๋อใช้พลังจิตขอรถกระบะมาจากบ้านละแวกนั้น ให้คนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถ อีก 4 คนที่เหลือ เย็ดกันท้ายกระบะแล้วขับไปตามท้องถนน โดยมีธนิกขับรถตามพร้อมเต๋อนั่งเบาะข้าง รถฝ่ายเด็กว๊นซ์ไม่สามารถสั่งให้ขับเร็วมากได้ เพราะไม่งั้นการเชื่อมต่อควบคุมจะหลุดจากกัน
.
.
รถกระบะโชว์เย็ดโลดแล่นกลางเช้ามืด ท่ามกลางสายตาชาวบ้านร้านตลาดที่ตื่นขึ้นมาร่วมเป็นสักขีพยานแต่เช้า ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ ผู้รอตักบาตร พระสงฆ์ คนออกกำลังกาย พวกมันเย็ดตูดดูดควยกันอย่างอล่างฉ่าง แล้วยังมีหน้าแวะจอดรถขวางขบวนเณร-พระสงฆ์ที่เดินบิณฑบาตเพื่อให้หยุดดูพวกมันเย็ดกัน สร้างความแตกตื่นโกลาหลทั่วบริเวณ แม่ค้าขว้างปาสิ่งของใส่คนที่บังอาจเย็ดกันต่อหน้าสมณเพศที่เคารพด้วยความโกรธแค้น แต่รถก็บึ่งตัวหนีออกไปได้ และพวกมันก็ยังเสียวกันอยู่ท้ายรถอย่างนั้นต่อไปไม่แคร์โลก แม้ว่าจะมีรถคันอื่น ๆ ตกใจจนขับชนกันหรือขับตกข้างทางก็ตาม เมื่อรถกระบะติดไฟแดง เต๋อสั่งให้พวกมันเย็ดต่อตูดกันเป็นขบวนรถไฟโชว์รถที่ติดกลางสี่แยก ตำรวจผ่านมาพบและจะเข้ามายับยั้ง ซึ่งเต๋อคิดว่าจะหยุดบทลงโทษไว้เพียงแค่นี้
.
.
แต่ดูเหมือนธนิกจะเริ่มสะใจไปกับ “วิถีของเต๋อ” อันเป็นความตื่นตาตื่นใจที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต อะดรีนาลีนหลั่งทั่วร่าง เขาสั่งให้เต๋อสั่งให้เหยื่อขับรถประจานต่อไป เขาจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง คำว่า “รับผิดชอบ” ของธนิกคือการใช้พลังจิตผลักให้มอเตอร์ไซค์สายตรวจล้มคว่ำกลางถนน โชคร้ายมีรถขับตามมาทีหลังขับทับขาอีก เต๋อชักเห็นว่าเลยเถิดและพยายามแย่งพวงมาลัยจากธนิก
.
.
“อย่ายุ่งกับเหยื่อของผม!” เต๋ออ้างเช่นนั้น แต่ธนิกกลับตอบรับด้วยเสียงหัวเราะลั่น เปล่าประโยชน์ที่เต๋อชิงพวงมาลัยจากมือไปได้ เพราะธนิกใช้พลังจิตควบคุมพวงมาลัยได้อยู่ดี เขาเพิ่งค้นพบว่าความสามารถของเต๋อมอบความบันเทิงให้แก่เขาได้อย่างเหนือจินตนาการ รถกระบะคันข้างหน้าที่บรรทุกผู้ชายเย็ดกัน 4 คน ยังคงเดินหน้าท้าความเสียวต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีใครทราบว่า รถเก๋งคันขับตามหลังมานั้นเป็นเสมือนเสาวิทยุบังคับ ความบ้าคลั่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ รถกระบะอุบาทว์ล่อทั้งฝ่าไฟแดง ชนแผงลอยข้างทางระเนระนาด แล่นเข้าไปดริฟท์ล้อโชว์เย็ดกันในเขตพุทธาวาส มีทางเดียวที่จะหยุดได้คือต้องขับเข้าไปให้ใกล้กว่านี้และใช้โทรจิตสั่งให้หยุด
.
.
แต่ธนิกขัดขวางไม่ให้เต๋อหยุดรถกระบะ เขาพอใจที่จะเฝ้าดูความบังเทิงชั้นต่ำนี้ต่อไปจนกว่ามเหตุการณ์จะคลี่คลายได้ด้วยตัวมันเอง เต๋อโกรธมากที่ถูกแย่งเหยื่อไปแบบหน้าด้าน ๆ ความสามารถของเขามีไว้บงการคนอื่น ไม่ใช่ให้มีใครคอยบงการอีกต่อหนึ่ง เมื่อ Ego ถูกลูบคมเช่นนี้ใครจะทนไหว เต๋อกระชากแว่นธนิกออกและปาทิ้งออกนอกรถ
.
.
“ผมยอมตายยังดีกว่าให้นายมากดขี่ตามอำเภอใจ ผมเคยเสียศักดิ์ศรีจมดินมาแล้วครั้งหนึ่ง และจะไม่ยอมให้ใครทำกับตัวเองแบบนั้นอีก” เต๋อพูด ขณะที่ธนิกมองเห็นทัศนียภาพเบื้องหน้าขมุกขมัว ธนิกตัดสินใจเบรครถ ส่วนรถกระบะเจ้ากรรมขับต่อไปได้ไม่ไกลก็ชนท้ายรถเก็บขยะ พวกเปลือยที่เย็ดกัน 4 คน กระเด็นพุ่งเข้าไปในถังเก็บขยะด้านหลัง และยังเย็ดกันต่อในสภาพโสโครกเหม็นเน่าอย่างนั้น ส่วนคนขับกระบะสลบคาถุงลมนิรภัย แตรรถถูกกดทับส่งเสียงดังค้างยาวชวนปวดหัว จนชาวบ้านใกล้เคียงตื่นมาดู เป็นอันปิดฉากการลงทัณฑ์เด็กแว๊นซ์นักล่าพรหมจรรย์
.
.
.
อย่างไรก็ตาม เต๋อชนะเกมที่ธนิกกำหนดเงื่อนไข ธนิกอนุญาตให้มีนและณัฐช่วยเหลือเต๋อด้านข้อมูลข่าวสารได้ตามแต่ที่ละคนรับปากกันไว้
.
.
อันดับแรกมีนเป็นฝ่ายขอเลือกวัตถุที่จะใช้พลังจิตสัมผัสเองกับเรื่องที่เต๋อควรจะรู้ พูดอีกอย่างก็คือ “เลือกให้” มันคือโต๊ะไม้สักหรูอายุเก่าแก่กลางเรือนแห่งนี้ มีนรื้อค้นภาพที่ตกค้างอยู่ซึ่งเธอและทุกคนในบ้านต่างเคยดูมาแล้วทั้งนั้นยกเว้นเต๋อ ไม่ว่าเวลาจะผ่านเท่าใด ภาพนี้ยังคงคมชัดเพราะมีความรู้สึกของคนในอดีตยังตกค้างฝังหยั่งรากแน่น
.
.
.
ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ณ คฤหาสน์แห่งนี้ ทิพย์แม่ของเต๋ออยู่ในพิธีแต่งงาน กำลังจะถูกคลุมถุงชนกับลูกพี่ลูกน้องชายผู้มีพลังพิเศษด้วยเหตุผลทางชีวภาพ ผู้ใหญ่ในตระกูลต้องการสร้างผู้มีพลังพิเศษยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับธนิกที่เกิดขึ้นมาแล้ว ใบหน้าทวดนนท์ในตอนนั้นเหมือนกับเด็กหนุ่มอายุเกือบ ๆ ยี่สิบเอง ทว่ากลับเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในงาน คอยรับไหว้จากแขกเหรื่อที่แก่กว่า มีบางคนแก่จนฟันร่วงแล้วยังต้องยกมือไหว้ทวดนนท์ด้วยซ้ำ มีคนอยู่ในงานราวสิบกว่าคนเท่านั้น เป็นการจัดงานภายในเฉพาะคนในตระกูล
.
.
ทิพย์วิงวอนขอให้ผู้ใหญ่ในงานปล่อยเธอเป็นอิสระ เธอไม่เคยรักผู้ชายคนที่จัดหามาให้ เธอมีคนรักอยู่แล้วและเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ผู้ใหญ่ในงานกลับใช้ทั้งการโน้มน้าว และเหตุผลเชิงบังคับขอให้เธอเสียสละเพื่อตระกูล ด้วยเห็นแก่ว่าจำนวนผู้มีพลังพิเศษเริ่มน้อยลงทุกที ๆ และอาจสูญพันธุ์ได้หากไม่มีใครยอมรักษาความบริสุทธิ์ระหว่างสายเลือดด้วยกันไว้ ทิพย์หลั่งน้ำตาทุกครั้งที่น้ำสังข์ไหลผ่านเรียวมือ
.
.
จู่ ๆ มีเด็กหญิงตัวน้อยในงานผู้มี “โทรจิตควบคุมสัตว์” โวยวายใส่นกที่บินขี้รดหัว มันไม่ได้ขี้แล้วผ่านไปฟรี ๆ แน่นอน เพราะเด็กน้อยควบคุมมันให้บินตามคำสั่งเข้ามาในบ้าน และสั่งให้มันบินพุ่งไปในพัดลม นกเคราะห์ร้ายถูกคมใบพัดปั่นร่างสะบั้น ทั้งขนและเลือดกระจุย แต่แม่ของเด็กก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าดุว่าอย่าซน
.
.
ภาพดังกล่าวปลดชนวนความอดทนของทิพย์ เธอคิดว่าผู้คนในตระกูลนี้นับวันยิ่งวิปริตจิตโหดเหี้ยม ทิพย์ลุกขึ้นแฉญาติพี่น้อง เธอรู้ว่ามีคนที่มี Thoughtography ฉายภาพที่คิดขึ้นเองในหัวอัดลงฟิล์มหรือรูปถ่ายสร้างหลักฐานเท็จให้ร้ายคนบริสุทธิ์ที่ตนไม่ชอบหน้า เธอรู้ว่ามีคนฉายภาพหลอนประสาทเข้าหัวคู่แข่งทางธุรกิจจนเสียสติครอบครัวล่มสลาย และยังอีกมากมายที่ทำให้เธอเข้าใจว่าคนในตระกูลนี้เริ่มห่างไกลจากความเป็นคนเข้าไปทุกที
.
.
“ถูกต้องน้องทิพย์ พวกเราไม่ใช่คน พวกเราคือเทวดา” ใครคนหนึ่งยิงมุกชวนฮาครืนกลางวง
.
.
ทิพย์ยืนเงียบแทนคำตอบรับและขอตัวลุกไปห้องน้ำ ระหว่างนั้นใครบางคนเริ่มรู้สึกผิดปกติที่ตนเองใช้พลังไม่ได้ และเริ่มคุยกันถึงเรื่องนี้ ความสงสัยพุ่งเป้าไปที่ทิพย์ ซึ่งกำลังเดินไปหาธนิกในวัยห้าขวบที่นั่งเล่นอยู่อีกห้องหนึ่ง เด็กน้อยสั่งให้เครื่องบินพลาสติกบินวนรอบตัวตามความสามารถพ่วงด้วยความไร้เดียงสา
.
.
“น้าไม่อยากเห็นเธอโตมาเป็นแบบผู้ใหญ่พวกนั้น” ทิพย์ลูบหัวธนิกซึ่งไม่รู้เรื่อง ยังไม่ทันใดแม่ของธนิกก็บุกเข้ามาในห้องพร้อมมีดพร้อมสีหน้ากินเลือดกินหน้า เธอกวัดแกว่งไปมาเพื่อข่มขู่
.
.
“ออกห่างน้องนิกเดี๋ยวนี้ ทุกคนรู้นะว่าหล่อนคิดจะทำอะไร!!” แม่ของธนิกโกรธหน้าแดงก่ำราวกับกำลังจะถูกแย่งชิงสมบัติล้ำค่า เธอแทบสิ้นสติ ใช้มีดวาดมั่วกลางอากาศ เฉียดแขนทิพย์จนชุดเจ้าสาวมีรอยเลือดแดงเด่นตัดกับชุดขาว ทิพย์วิ่งออกจากห้องและหนีออกทางประตูด้านหลังขณะที่ทุกคนพยายามไล่จับตัว ตราบที่ทิพย์ “ไม่อนุญาต” พวกเขาก็จะเป็น “คนธรรมดา” เช่นนี้ตลอดไป
.
.
พ่อของเต๋อติดเครื่องมอเตอร์ไซค์รออยู่แล้ว ทิพย์ถลกกระโปรงชุดเจ้าสาวขึ้นซ้อนท้าย และขอลาจากวิมานสวรรค์พร้อมทั้งกระชากปีกเทวดาทิ้งหลายคู่ทิ้งรอยแค้นไว้ให้ดูต่างหน้า
.
.
เป็นภาพสุดท้ายที่ทุกคนในตระกูลรับรู้เกี่ยวกับทิพย์ ไม่มีใครล่วงรู้ว่าทิพย์อยู่ที่ไหน จนกระทั่งมีการจับผิดผู้ใช้โทรจิตได้และแอบสืบต่อไปจึงทราบว่าทิพย์เสียชีวิตไปแล้ว พลังของทิพย์คือ Neutralizer Mind ซึ่งมีผลเฉพาะผู้มีพลังพิเศษด้วยกันเท่านั้น กระแสจิตของเธอสามารถแทรกแซงเข้าไปหรี่พลังจิตเหนือมนุษย์ของคนอื่น ๆ ให้ลดลงมาอยู่ในระดับเท่ามนุษย์ปกติ และจะกลับเป็นเหมือนเดิมได้ต่อเมื่อเธอปรับระดับคืนให้เท่านั้น หลักการคล้ายปุ่มหมุนปรับลำโพงเครื่องเสียงนั่นเอง ธนิกรอดมาได้อย่างหวุดหวิด วันนั้นมีนป่วยนอนซมจึงมาร่วมงานไม่ได้ ส่วนณัฐไล่ตามลำดับเวลาแล้วถือว่าเกิดหลังเต๋อ ณัฐเป็นลูกของผู้มีพลังพิเศษที่หนีไปอยู่กินกับมนุษย์ปกติก่อนหน้าแม่เต๋อและมีลูกช้ากว่า ซึ่งภายหลังสิ้นเนื้อประดาตัวและป่วยหนักรู้ว่าจะมีชีวิตอีกไม่นานจึงซมซานกลับมากราบเท้าทวดนนท์ขอให้เมตตาอุปการะณัฐไว้ก่อนสิ้นใจ
.
.
นอกจากนี้ เต๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ของเขาถึงเป็นผู้มีพลังพิเศษที่แร้นแค้น เพราะความสามารถนี้หากไม่ใช้เพื่อข่มผู้มีพลังพิเศษด้วยกันก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ในทางโลกย์เลย ทิพย์เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งเมื่ออยู่ในสังคมมนุษย์ ส่วนผู้มีพลังพิเศษคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายไปตามทางของตน หลายคนรับไม่ได้ที่ต้องสูญเสียพลังอันเปี่ยมอภิสิทธิ์จนกลายเป็นบ้า ฆ่าตัวตาย หรือตรอมใจจนมีผลต่อสุขภาพ เช่นเดียวกับพ่อแม่ของธนิกซึ่งรับไม่ได้ที่ต้องเสียพลังอันเป็นขุมเงินขุมทอง ทั้งคู่ทะเลาะกันทุกวัน พ่อของเขาหนีไปกับภรรยาน้อยและทอดทิ้งตระกูลรวมถึงลูกในไส้ ส่วนแม่ของธนิกติดสุราเพราะเครียดจัด ดื่มหนัก ข้าวปลาไม่กิน จนเกิดโรคแทรกซ้อนและตายก่อนวัยอันควร ด้วยเหตุนี้ธนิกจึงเคยกล่าวโทษว่า “เต๋อต้องชดใช้ความผิดที่แม่ของเขาเป็นคนก่อความวิบัติต่อตระกูล”
.
.
สิ่งต่อไปที่เต๋อต้องการให้มีนอ่านอดีตให้คือบ้านเช่าที่เต๋อเคยอยู่ มีภาพเหตุการณ์สำคัญหลัก ๆ อยู่สองช่วง เหตุการณ์แรกคือทิพย์กลับมากอดเต๋อในวัยทารกแล้วร้องไห้เมื่อเธอทราบว่าสามีของเธอประสบอุบัติเหตุทางถนนเสียชีวิต ส่วนอีกเหตุการณ์คือก่อนที่ทิพย์จะสิ้นใจด้วยพิษมะเร็งเมื่อเต๋อจบ ม. 3 เธอเรียกลูกชายเข้าไปใกล้และจับมือแน่น เธอเล่านิทานปริศนาเปรียบเปรยให้เต๋อฟัง ว่าเธอเคยเห็นเทวดาเกเรรังแกมนุษย์จนเธอยอมไม่ได้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิด แต่มาวันนี้ มนุษย์กลับรังแกเทวดาอย่างโหดร้ายไม่ต่างกัน นิทานเรื่องนี้ไม่มีคำตอบว่าใครผิดถูก แต่เธอรู้สึกเสียใจที่เจ้ากี้เข้าการไปยุ่งระหว่างเรื่องของคนกับเทวดา เที่ยวเด็ดปีกเทวดาตนแล้วตนเล่าให้ลดฐานะลงมาอยู่ร่วมกับคนได้อย่างสงบสุข ทั้งที่ไม่ว่าจะคนหรือเทวดาต่างก็มีโอกาสเป็นคนเลวได้พอ ๆ กัน และเธอควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกฎธรรมชาติ จนกลายเป็นว่าคนที่เธอรักที่สุดต้องประสบชะตากรรมอันน่าสมเพชเวทนา
และบัดนี้ถึงเวลาที่เธอจะติดปีกคืนให้เทวดาโบยบินอีกครั้ง
.
.
“คนจนอย่างแม่ไม่มีมรดกที่ไหนจะให้ นอกจากสมบัติที่ริบจากลูกมาตั้งแต่เล็ก. . .”
.
.
“แม่ขอโทษ. . .แม่จะคืนให้ทั้งหมด. . .”
.
.
“ต่อไปนี้จะไม่มีใครรังแกลูกได้อีก. . .” เธอผ่อนลมหายใจลงและหลับอย่างสงบเมื่อสิ้นคำสั่งเสีย
.
.
และครั้งสุดท้ายที่มีนจะใช้พลังให้ตามคำขอ เต๋อขอให้ช่วยอ่านอดีตบริเวณที่เขาเคยกระโดดตึกลงมา จึงเห็นภาพในอดีตที่แม่ของเต๋อร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด และกล่าวสาปแช่งเพื่อนร่วมห้องเรียน นั่นยิ่งทำให้เต๋อแค้นหนักเข้าไปอีก ยัง. . .ยังไม่พอ ณัฐมองเห็นภาพอนาคตอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะมีงานเลี้ยงรุ่นที่นี่ซึ่งเป็นการจัดฉากเพื่อลวงให้อดีตเพื่อนร่วมชั้นทุกคนมาฟังวีและพรรคพวกแฉเต๋อ มิน่าจึงไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค. . . ได้ยินเท่านั้น เต๋อก็คิดว่ามนุษย์นั้นช่างไม่เจียมตนเสียบ้างเลย ถึงเหิมเกริมรวมหัวกันท้าทายอำนาจเทวดา
.
.
“ตอนนี้ปีกตรงหลังผมคงเปลี่ยนจากขนนกเป็นพังพืดค้างคาวไปแล้วล่ะครับแม่”
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
สามวันต่อมา ในงานเลี้ยงรุ่นหลอก ๆ ของห้อง 3/3 มีคนมาเกินครึ่งไม่เท่าไหร่ ประมาณยี่สิบคน วีเดาได้ว่าน่าจะเป็นเพราะหลายชีวิตอยู่ในสภาพอับอายไม่กล้าสู้หน้าผู้คน ครูวิไลได้รับเชิญมาด้วย ลูกศิษย์ลูกหาต่างเข้ามากราบตักไหว้ด้วยพวงมาลัย งานนี้มีจตุรเทพคนเดียวที่ปรากฏกาย นั่นคือจตุรเทพหญิง “น้ำหวาน” หรือชื่อในวงการบันเทิง “ไอช่า” เป็นตัวตั้งตัวตี เธอออกค่าใช้จ่ายในงานเลี้ยงรุ่นให้ทั้งหมด และเสนอให้ขอเช่าพื้นที่ในโรงเรียนเพื่อจัดเลี้ยงเนื่องจากศิษย์เก่าทุกคนต่างรู้ตำแหน่ง ซึ่งสะดวกกว่าไปจัดตามรีสอร์ทหรือโรงแรมที่บางคนอาจเดินทางลำบาก อย่างไรก็ตามน้ำหวานขอให้ผู้ร่วมงานทุกคนร่วมกันฉีดน้ำหอมที่เธอจัดเตรียมให้โดยอ้างว่าเพื่อร่วสริมสร้างบรรยากาศอันหนึ่งอันเดียวกัน
.
.
เวลาผ่านไปพอสมควร ครูวิไลขอตัวกลับก่อนเนื่องจากดึกแล้ว และขอปล่อยให้เป็นเวทีสังสรรค์ตามประสาเพื่อนฝูง พวกผู้ชายเฮดีใจกันได้ประเดี๋ยวก็คอตก เนื่องจากน้ำหวานยืนกรานว่าคืนนี้จะไม่มีการเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้มีสติพร้อมที่จะฟังเรื่องใหญ่ที่จำเป็นต้องเรียกทุกคนมา
.
.
มีบางคนขอตัวกลับก่อน แต่บอดี้การ์ดส่วนตัวของน้ำหวานก็ยืนขวางประตูไว้ น้ำหวานมีทั้งเงินและอำนาจ พ่อเธอเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ส่วนแม่เธอเป็นเศรษฐีพันล้าน แค่มีบอดี้การ์ดขนาบข้างไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินกว่าเหตุถ้าเธอร้องขอพ่อ นอกจากนี้ยังขอเชิญผู้ไม่เกี่ยวข้องเช่น แฟนเพื่อน ญาติพี่น้องออกไปรอข้างนอกก่อนด้วย เรื่องนี้สงวนเฉพาะคนในเท่านั้น อย่างไรก็ตามเริ่มมีคนไม่พอใจที่น้ำหวานกักขังไม่ให้ใครออกไปจนกว่าจะได้ฟังเรื่องที่วีและเกรซกำลังจะพูด
.
.
.
จอขนาดใหญ่ติดผนังฉายภาพกระดาษข่าวตัดแปะถึงเหตุการณ์ที่มีผู้คนออกมาทำเรื่องสัปดี้สัปดนกลางที่สาธารณะหรือมีพฤติกรรมโรคจิตแนวอื่น ๆ วีชี้ให้เห็นทีละข่าว โดยจุดสังเกตคือผู้ต้องหาในข่าวล้วนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่มักจะไม่อยู่ในที่นี้ คงหลบหลี้หนี้หน้าไม่กล้าเข้าสังคม
.
.
เกรซเป็นผู้เฉลยปิดท้ายว่า “เต๋อ” เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์บงการจิตผู้คนได้และกำลังไล่ล่าเพื่อนทุกคนแถมยังลบความทรงจำกลบเกลื่อนได้ด้วย ซ้ำยกข่าวแม่ของเธอหนุนเป็นอุทาหรณ์ เกิดเสียงฮือฮาลั่นห้อง แม้ไม่อยากเชื่อแต่ก็หลักฐานก็มีน้ำหนักทีเดียว หลายคนเริ่มได้ความทรงจำกลับมาบ้างแล้วเมื่อได้คำสำคัญคือ “เต๋อ” และ “โทรจิต” วีแบ่งเหยื่อออกเป็นสองประเภท หนึ่งคือพวกที่ถูกประจานในที่สาธารณะ พวกนี้ส่วนมากจะไม่กล้ามาเหยียบในงานนี้ เช่น กันย์ ปรียา ดารินทร์ และสองคือพวกที่ถูกทรมานในที่ลับเช่นเดียวกับวี และคงมีอีกมากที่ยังไม่แสดงตน พวกนี้หากถูกลบความทรงจำไปก็แทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรในชีวิตจริงเท่าไหร่นัก นับว่าโชคดีกว่ากลุ่มแรกเป็นบุญโข
.
.
.
.
ภูมิแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ แต่อีกใจหนึ่ง คนที่กระชากเขาลอยฟ้านั่นมันก็เป็นปรากฏการณ์เหนือมนุษย์ซึ่งเขาก็มีประสบการณ์ตรงเช่นกัน ส่วนพลอยเอะใจที่เต๋ออาจเป็นตัวการทำให้กันย์บ้าคลั่งกลางมหาลัยก็เป็นไปได้
.
.
แจ็คเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาเคยถูกบังคับให้มีอะไรกับผู้ชายหลังจากคิดแบล็คเมลเต๋อ ซึ่งวีรอจังหวะนี้มานานแล้วและร่อนหนังสือโป๊เกย์ที่เขาซื้อจากตลาดใต้ดินไปยังโต๊ะแจ็ค แจ็คอับอายเมื่อมีคนรุมแย่งหนังสือไปเปิดดูเพื่อดูว่าใช่เขาจริงหรือไม่ ไม่มีใครกล้าล้อเลียนแจ็ค เพราะยิ่งรู้ว่าเป็นความจริง ทุกคนก็ยิ่งกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีไม่งามขึ้นกับตนเช่นนั้น “ผีล่องหน” ตนนั้นคือเต๋อ ไม่ว่าพลังโทรจิตจะมีอยู่จริงหรือไม่ไม่สำคัญ ในเมื่อเขาทำให้ชีวิตหลายคนพังทลายได้จริง
.
.
วีเฉลยให้แจ็คทราบว่าคืนนั้นเขาใช้มือถืออัดวิดีโอช่วงที่เต๋อควบคุมคนให้เล่นงานแจ็ค พร้อมทั้งกดบันทึกเสียงพูดบอกกับตัวเองว่าเต๋อทำอะไรกับเขาและใครไว้บ้าง หากในอนาคตตนถูกลบความทรงจำแล้วได้ยินเทปนี้อีกจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้จากไหน เขาพยายามทำใจให้ว่างขณะนั่งรถไปกับเต๋อเพื่อไม่ให้อ่านใจออก และหลังจากถูกลบความทรงจำไม่นานเขาก็ได้กดโทรศัพท์เล่น จึงได้พบวิดีโอและคลิปเสียงเตือนความจำเข้าโดยบังเอิญ ยิ่งต่อมาได้เห็นข่าวของกันย์และน้าดารินทร์ยิ่งมั่นใจว่าตนหาได้คิดเพ้อเจ้อไปเองคนเดียว
.
.
วีหยิบหมวกของแจ็คที่ใช้อำพรางตัวตอนแบล็คเมลขึ้นมา เขาแอบลักมันมาหลังจากแจ็คโดนแก้ผ้าเพื่อรอวันนี้
.
.
“หมวกนี้. . . ของนายใช่ไหมแจ็ค ถ้าใช่ แสดงว่าคืนนั้นเราอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ฝัน” วีมีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่พูดเพราะต้องการให้อีกฝ่ายยอมรับโดยดี
.
.
อีกมุมหนึ่ง แจ็คนึกขึ้นได้ว่าเขารอดจากการทวงหนี้พนันได้เพราะเต๋อให้เงินไว้. . . เขาเริ่มสับสนว่าจะเอายังไงดี เกรซประกาศถามออกไมค์ “มีใครเคยเจอไอ้เต๋อไหม” ภูมิเกือบจะเผลอหลุดปากไปแต่ถูกพลอยเหยียบเท้าไว้และส่งซิกทางสายตา ระหว่างที่หลาย ๆ คนกำลังหาร้อยแปดเหตุผลให้คำตอบตัวเอง วีก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ
.
.
ขณะที่วียืนฉี่อยู่ เด็กหนุ่มหล่อเนื้อแน่นตันก็เข้ามาประกบโถข้าง ๆ วีถึงกับสะดุ้ง เมื่อเห็นว่าเป็นวิทย์ น้องชายแท้ ๆ ของตัวเอง เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
.
.
เต๋อโผล่เข้ามาในห้องน้ำพร้อม รปภ. โรงเรียนสองคนช่วยกันปิดตายห้องน้ำไม่ให้ใครออกไปได้ นอกจากนี้ “วิว” น้องสาวของวีก็เดินเข้ามาด้วย
.
.
“ผมเคยขู่ว่าจะสั่งให้พี่น้องนายมีอะไรกันเอง นั่นแค่ขู่ให้รู้จักกลัว. . . แต่คราวนี้ไม่เหมือนกันแน่นอน”
.
.
))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
วีกลัวจนเยี่ยวเลอะขา เขาบอกว่าไม่รู้เรื่อง น้ำหวานต่างหากที่คอยรวบรวมคน แต่เต๋ออ่านใจได้และรู้ว่าโกหก โทษของวีแต่เดิมจัดว่าสถานเบา แต่เมื่ออุตส่าห์รอดไปแล้วเจ้าตัวยังดันแกว่งเท้าหาเสี้ยน คิดจะสุมหัวกันดัดหลัง “เทวดา” เช่นเขา โทษทัณฑ์ที่จะได้รับจึงหนักมากพอที่จะทำให้จำไปจนกว่าจะตาย
.
.
เต๋อสั่งให้ รปภ สองคน จับวีมัดมือและจัดการทรมานโดยการบังคับให้ดูดควย และเอากางเกงในเหม็น ๆ โปะหน้า หากวีไม่ยอมจะถูกตีด้วยกระบอง ส่วนพี่น้องอีกสองคนนั้นเต๋อสั่งให้ดูดควยเลียหีกันต่อหน้าวีเพื่อทรมานจิตใจ พี่น้องทั้งสองมีเค้าหน้าคล้ายกันมากไม่นึกเลยว่าจะได้ผลัดกันอมเงี่ยงบาน ๆ และชิมติ่งแตด วิทย์บีบนมและดูดสองเต้าของวิวอย่างกระหาย ส่วนวิวก็ร่านไม่แพ้กัน ดูดหัวนมกล้ามแกร่งของวิทย์ซึ่งเป็นนักรักบี้ประจำโรงเรียนดังจ๊วบ ๆ วิทย์ไม่อาจรอได้อีกต่อไป เขาเอาควยที่แข็งเต็มที่สอดเงี่ยงเข้ารูหีวิวน้องสาวแล้วเย็ดกระโปกตีพั่บ ๆ ๆ ๆ ต่อหน้าวีซึ่งบัดนี้ถูกบังคับให้ถอดกางเกงออก รปภทั้งสองใช้เจลที่เต๋อจัดหาให้เคลือบกระบองและยัดเข้าไปในรูตูดวี วีทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ขอความเมตตา แต่สายเกินไปแล้ว เต๋อในตอนนี้มอบให้ได้แค่รอยยิ้มแสยะเป็นกำลังใจให้ลูกหนี้ผ่านพ้นชะตากรรมไปได้ด้วยตัวเอง เมื่อรูตูดของวีถูกระบองยามถ่างจนโบ๋แล้ว เต๋อสั่งให้รปภ ล็อคแขนขาไว้และจับยกตูดขึ้น เต๋อบงการให้วิทย์หนุ่มม.ปลายนักรักบี้ เปลี่ยนเป้าหมายมาล่อตูดพี่ชายคนโตแทน
.
.
“อย่า! วิทย์! ฮือ ไอ้เต๋อ พอแล้ว!!!” เต๋อไม่ฟังคำขอร้องโอกาสซึ่งเขาคิดว่าเคยให้ไปแล้วแต่ไอ้บ้านี่ไม่รู้จักเห็นคุณค่า วิทย์สอดควยอุ่น ๆ ตัน ๆ เข้ารูขี้ของพี่ชายแท้ ๆ เขาดูดนมบริการพี่ชายพร้อมกับซอยบั้นเด้าไปด้วย พร้อมกันนี้ยังจับพี่ชายจูบปากแลกลิ้น วีพยายามเบือนหน้าหลบหนี เขาไม่กล้ากัดลิ้นน้องเพราะรู้ว่าถูกเต๋อบงการจนครองสติไม่ได้ วีถูกจับนอนบนอ่างล่างหน้าแล้วจับกระแทกหน้ากระจก ส่วน รปภ ทั้งสองเต๋อให้ค่าเหนื่อยโดยการเย็ดทั้งตูดทั้งหีวิวผู้เป็นน้องสาว ไม่นานนักพายุแห่งความคลั่งแค้นก็สงบ วิทย์เอ่ยปากว่า “ผมรักพี่วีครับ” พร้อมกับฉีดน้ำว่าวเข้าในตัวพี่ชายและกอดด้วยความรัก ส่วนรปภทั้งสองก็แตกในคาหีคาตูดฝั่งน้องสาวจึงคราบคาวขาวไหลย้อยลงหว่างขาเหนอะหนะ
.
.
.
นรกยังไม่จบ เต๋อสั่งให้รปภ. จับวีซึ่งอยู่ในสภาพบอบช้ำแต่งตัวเป็นผู้ใหญ่โดยใช้เสื้อผ้าของวิว สวมวิกและแต่งหน้าด้วยอุปกรณ์ที่เต๋อเตรียมไว้ให้
.
)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))
.
.
ตัดมาที่งานเลี้ยงรุ่น จู่ ๆ ภูมิก็ยกมือขอแสดงความเห็นโดยที่พลอยได้แต่นั่งฟัง ในเวลานี้เต็มไปด้วยความสับสน บางคนกลัวเรื่องที่ยังไม่เกิดกับตัวเอง บางคนกลัวเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดไปแล้ว ภูมิขอหยั่งเสียงเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มที่หนึ่งคือ คนที่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเต๋อ หรือต้องการใช้วิธีหลบหนี หรือคิดว่าจะไม่แก้แค้นคืน นี่ไม่ใช่การตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งแต่เป็นการขอให้แสดงตนเพื่อให้เห็นภาพรวม
.
.
แจ็คยกมืออย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งพูดให้คนที่ถูกแก้แค้นไปแล้วฉุกคิดได้ว่า เปล่าประโยชน์ที่จะเอาคืนเต๋อซึ่งมีอำนาจขนาดนั้น อีกทั้งคนที่ได้รับการสะสางหนี้แค้นไปแล้วก็เท่ากับไม่มีสิ่งใดติดค้างกับเต๋อ ถ้าอยู่เฉย ๆ ย่อมปลอดภัย และไม่น่าสอดมือเข้าไปข้องเกี่ยวอีก คำพูดของแจ็คเรียกความสนใจได้มากทีเดียว มีคนยกมือสนับสนุนมากมาย
.
.
ส่วนอีกกลุ่มภูมิซึ่งภูมิขอให้ยกมือคือ คนที่ยังไม่ถูกแก้แค้นแต่คิดจะจัดการเต๋อเป็นการป้องกัน รวมถึงคนที่ถูกแก้แค้นไปแล้วและคิดจะเอาคืน ได้แก่ “น้ำหวาน” จตุรเทพโพแดง “เกริก” กับ “ก้อง” พี่น้องแฝดนรกอดีตซี้ของจตุรเทพดอกจิก “ดรีม” เพื่อนหญิงซึ่งเคยลักของเพื่อนแอบใส่กระเป๋าเต๋อเพื่อใส่ร้าย “โอ๊ต” เพื่อนชายที่เคยขังเต๋อในห้องน้ำแล้วราดน้ำใส่จนเปียก ทุกคนต้องการเป็นฝ่ายรุกเพราะตระหนักว่าตนเองยังไม่เคยถูกทำอะไรเลยและวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือกำจัดตัวอันตราย อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดาย จตุรเทพโพดำ ข้าวหลามตัด และดอกจิกไม่มาร่วมงานและขาดโอกาสที่จะแสดงความเห็นใด ๆ
.
.
ส่วนลูกหนี้ที่ถูกลงทัณฑ์ไปแล้วมีเพียงเกรซเท่านั้นที่เลือกยกมือ เธอหันรีหันขวางมองหาวีซึ่งน่าจะช่วยพูดให้ผู้คนลุกฮือได้มากกว่านี้ เกรซต้องการให้ทุกคนผนึกกำลังกันเพื่อล้างแค้น
.
.
จู่ ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ทุกคนที่ยกมือกลุ่มหลังเอามือลงไม่ได้
.
.
“ดีแล้วล่ะครับ ยกค้างไว้อย่างนั้น จะได้รู้ว่าใครอยากจะอยู่ ใครอยากจะตาย”
.
.
เต๋อปรากฏตัวมาจากมุมหนึ่ง ไม่มีใครขยับตัวได้เลย แท้ที่จริงภูมิถูกเต๋อควบคุมให้ออกกลอุบายลองใจเพื่อนร่วมชั้น และเมื่อหมดหน้าที่ภูมิก็ล้มฟุบลงทันที “วันนี้นายพูดจาน่าฟังมากแจ็ค และยินดีด้วยกับหลาย ๆ คนด้วยครับที่ไม่เลือกประตูตายให้ตัวเอง”
.
.
รปภ. ลากวีซึ่งแต่งชุดเป็นผู้หญิง สวมวิกถูก ๆ แต่งหน้าทาปากเป็นตัวตลกผสมกะหรี่ วีถูกบังคับให้เดินทั้งที่มีเลือดและอุจจาระไหลจากกระโปรงหลังจากที่ถูกน้องชายแท้ ๆ ทะลวงจนตูดฉีก บัดนี้คนที่สุขุมและดูเหมือนเป็นมันสมองให้กับกลุ่มล้างแค้นกลับอยู่ในสภาพน่าสังเวช เต๋อต้องการประจานเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูข่มขวัญ วีร้องไห้กรีดเสียงหวีดแหลมเหมือนคนบ้า เขารับไม่ได้จากเหตุการณ์ที่ถูกบังคับให้ดูพี่น้องร่วมสายเลือดมีอะไรกันเอง รวมถึงมีประสบการณ์โดยตรงที่จะจำไปจนตาย
.
.
.
“ดูสภาพเมสซิอาห์ที่เป็นเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ของพวกคุณสิ ฮะ ๆ ๆ แบบนี้คงโปรดสัตว์ไม่ไหวละมั้ง หาทางเอาตัวรอดกันเองนะครับท่านที่ยกมือทีหลัง”
.
.
.
น้ำหวานซึ่งถูกควบคุมให้ขยับไม่ได้สำรวจตนเองและรู้ว่ามีเพียงปากเท่านั้นที่เต๋ออนุญาต เธอไม่รอช้า รีบใช้มันให้เป็นประโยชน์ทันที เธออ้างว่าอยากให้เต๋อฟังเหตุผลของเธอก่อน แต่เต๋อปฏิเสธ ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือไปกว่าการทดสอบลองใจเมื่อครู่ และถือว่าเธอสอบตก ส่วนเกรซกลัวเต๋อจนเยี่ยวราด เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะซ้อนแผนล่อให้พรั่งพรูข้อมูลจนหนำใจแล้วค่อยเผยตัว และทุกอย่างที่เธอทำเมื่อครู่คงไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ที่ฟังขึ้น
.
.
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเต๋อ เธอเปลี่ยนไปเยอะทีเดียว” น้ำหวานพูดถ่วงเวลา เมื่อสบโอกาสจึงผิวปากยาว
.
.
“ฉันเคยคิดเล่น ๆ น่ะ ว่าพลังของเธอน่าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง นี่คือหนึ่งในคำถามที่ฉันสงสัย ช่วยตอบทีนะ” สุนัขรอตไวเลอร์ตัวเขื่องคู่หนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในห้อง มันเดินอาด ๆ ไล่ดมกลิ่นคนไปทั่ว สุนัขคู่นี้ได้รับการฝึกให้แบ่งแยก “แขก” ของผู้เป็นนายด้วยกลิ่นน้ำหอมสูตรเฉพาะ เพื่อจะคัดเอาแกะดำออกมาลากสังหาร ลมหายใจพ่นแรงและน้ำลายที่หยดลงพื้นบ่งบอกว่าพร้อมขย้ำคอแขกไม่ได้รับเชิญทันทีหากพบตัว เต๋อสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คิดไม่ถึงว่าจะมีคนช่างสงสัยขอบเขตพลังของเขา ซึ่งถูกต้อง กระแสโทรจิตของเต๋อใช้กับมนุษย์ได้เท่านั้น เต๋อเห็นท่าไม่ดี เดินจ้ำอ้าวออกจากห้องก่อนที่สุนัขทั้งสองจะมาถึงตัว แต่ท่าทีดังกล่าวยิ่งทำให้สุนัขทั้งคู่จับพิรุธได้
.
.
.
“เล่นมันเลย เขี้ยวดาบ! เขี้ยวเงิน! อย่าให้หนีไปได้!” สมาธิเต๋อไม่มั่นคงพอ ทุกคนจึงหลุดจากโทรจิตและขยับตัวได้อีกครั้ง น้ำหวานสั่งให้สุนัขของเธอออกล่าเหยื่อทันที เต๋อโกยสุดฝีเท้าอย่างหัวซุกหัวซุนหนีไปเรื่อย ๆ เขาวิ่งขึ้นบันไดพร้อมกับผลักของให้ตกลงมากีดขวางช่วยรั้งฝีเท้าผู้ล่า
.
.
ขณะเดียวกัน ณ ชั้นดาดฟ้าโรงเรียน มีแขกไม่ได้รับเชิญอีกคนกำลังร่ำสุราย้อมใจ นั่นคือ “เอฟ” เขาปีนรั้วโรงเรียนเก่าแอบเอาเหล้าขึ้นมากินบนดาดฟ้านึกถึงอดีตรักในวัยเรียน “ต๊ะ” แฟนเก่าซึ่งตั้งแต่เลือกเรียนต่อสายช่างกลอาชีวะก็ขอบอกเลิกเอฟเพื่อที่จะกลับตัวเป็นผู้ชายธรรมดา
.
.
อนึ่ง ลางสังหรณ์เกี่ยวกับสถานที่ทำให้เอฟรู้สึกเหมือนมีเรื่องให้เคยจดจำ ณ ดาดฟ้าแห่งนี้มาก่อน คำพูดบางอย่างลอยแว่วผ่านไป
“พี่จะกลับมาที่โรงเรียนนี้อีกไหม?
พี่ต้องกลับมานะ”

.
.
จังหวะเดียวกันเต๋อผลักประตูดาดฟ้าโผล่พรวดเข้ามา ยังไม่ทันใดก็ใช้โทรจิตควบคุมให้มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเข้ามาช่วยออกแรงคานประตูไว้เนื่องจากสลักลงกลอนประตูชำรุด และหมานักล่ากำลังจะบุกเข้ามาแล้ว
.
.
“เด็กคนนี้อีกแล้ว!?” เต๋อสบถเมื่อเห็นหน้าชัด ๆ แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่เวลาจะมานั่งซักไซร้ไล่เรียง เต๋อสั่งให้เอฟนำโต๊ะเหล็กเก่า ๆ และของที่มีน้ำหนักเท่าที่จะเข็นได้มาตั้งขวางทัดทานแรงจากอีกฝั่งหนึ่งของประตู ในที่สุดก็ดูเหมือนจะสงบลงได้
.
.
เต๋อปล่อยให้เอฟหลุดจากการควบคุมและกล่าวขอบคุณจากใจจริง ถ้าไม่มีใครสักคนที่สั่งให้ความร่วมมือได้ล่ะก็ บ้างทีตอนนี้เจ้าตัวอาจมีสภาพเป็นเนื้อบด ทั้งสองคุยกันพอเป็นพิธี เต๋อเล่าให้ฟังว่ามีคนปล่อยหมาดุออกมาทำร้ายคน และไม่รู้ว่าจะหาทางลงไปได้ยังไง
.
.
ทันใดนั้น ณ มุมหนึ่งของดาดฟ้า ชายในชุดดำคลุมโม่งได้ปรากฏตัวไม่ให้ซุ่มเสียง เต๋อตกใจและจะใช้โทรจิตควบคุม แต่อีกฝ่ายชูสองมือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและการันตีความปลอดภัย เมื่อเขาถอดโม่งออก เต๋อจึงเห็นว่าเป็น “ทวดนนท์” ผู้ใหญ่แห่งตระกูลผู้มีพลังพิเศษนั่นเอง
.
.
ทวดนนท์ใช้วิธีปีนขึ้นมาจากชั้นล่างโดยอุปกรณ์พิเศษราวกับหน่วยคอมมานโด เขาแสดงตนกับเต๋อและอาสาหาทางหนีให้ เขาติดอุปกรณ์ให้เด็กหนุ่มทั้งสอง โดยกอดเต๋อไว้ข้างตัวและให้เอฟขี่หลังทวดนนท์ ร่างกายเขาแข็งแกร่งกำยำพอที่จะแบกเด็กชายวัยกำลังโตสองคนได้สบาย ๆ ตอนแรกเอฟไม่ยินยอมเนื่องจากคิดว่าทั้ง “โอเวอร์” และ “บ้าบอ” แต่เต๋อก็ควบคุมให้เขายอมว่าง่ายแต่โดยดี ทวดนนท์พาทั้งสองโรยตัวลงจากตึกอย่างเงียบเชียบและระวังระไว
.
.
เมื่อถึงด้านล่าง เขากรุยทางให้ทั้งสองขึ้นรถตู้ที่เตรียมไวทันทีแล้วบึ่งรถออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้ น้ำหวานได้ยินเสียงรถจึงวิ่งจากตึกออกมาดู จึงทราบว่าเต๋อคงจะหนีพ้นไปแล้ว
.
.
“ถ้ามาช้ากว่านี้นิดเดียว เพื่อนเอ็งจะช่วยกันพังประตูเข้ามา หมาแม่งจะล่อทั้งเอ็งทั้งไอ้หนุ่มนี่ ไม่ได้คิดเองนะ ไอ้ณัฐมันเตือนมา” ทวดนนท์เอ่ยขณะขับรถไปด้วย เต๋อกล่าวขอบคุณอย่างหาที่สุดมิได้
.
.
“ถามจริงเถอะครับ คุณมีศักดิ์เป็นทวดจริงหรือ พวกธนิกอำผมหรือยังไง เขาบอกว่าในโลกมีผู้มีพลังพิเศษแค่ 4 คน หรือว่า 4 คนนั่นหมายถึงคุณแล้วลืมนับผม” เต๋อถามอย่างใคร่รู้ ชายผู้ช่วยชีวิต แม้อายุน่าจะราว ๆ 40 แต่ยังหล่อเหลากำยำ เขาจึงกระดากปากทุกครั้งที่เรียก “ทวด” ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
.
.
ทวดนนท์หาที่ปลอดภัยและสงบเพื่อหาที่คุย ส่วนเอฟนั้นเมาจนหลับคารถไปแล้ว ทวดนนท์พาเต๋อไปยังที่ลับตาคนเป็นการส่วนตัว เขาสูดลมหายใจยาวลึก ก่อนจะเปล่งเสียงปลดปล่อยความกลัดกลั้นออกมา
.
.
“อร๊ายยยยยยส์!! อีดอก! ภารกิจสำเร็จงดงาม เจ๊ไม่ได้ทำมานานแล้ว ยังเป๊ะอยู่ เริ่ดจริงอะไรจริง สิบ สิบ สิบ!” ทวดนนท์บิดตัวสาวสะพรั่งไม่ต่างจากเกย์กล้ามปูทั่วไปตามฟิตเนส สะดีดสะดิ้งจนเต๋อต้องทบทวนว่าเขาเผลอใช้โทรจิตทำอะไรกับชายคนนี้หรือเปล่า
.
.
“เรียกเจ๊นนท์ก็ได้นะคะลูก อยู่ในบ้านเจ๊ต้องคีพลุคนิดนึง เดี๋ยวอีนิกอีหลานนรกมันจะแหกเอา” เต๋อยิ่งงงเข้าไปทุกที ดูเหมือนทวดนนท์หรือ เจ๊นนท์ก็เข้าใจดีว่าเต๋อคงกระหายคำอธิบายมาก ทั้งสองจึงจับเข่าคุยกัน
.
.
เจ๊นนท์เล่าประวัติตัวเองว่าเป็นผู้มีพลังพิเศษยุคแรก ๆ เห็นแบบนี้เธอมีอายุกว่า 700 ปี แล้ว เธอเกิดมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย เห็นความเปลี่ยนแปลงบนโลกมานักต่อนัก พลังจิตของเธอคือ “ย้ายจิตยึดครองร่างกายมนุษย์อื่น” เธอเปลี่ยนทั้งชื่อทั้งร่างมานับไม่ถ้วน เคยเป็นตั้งแต่ขุนศึก ปุโรหิต นางกำนัลในวัง พ่อค้าแม่ขาย ชาวไร่ นักเลงคุมซ่อง นักบินกัปตัน ช่างประปา ดอกเตอร์นักวิชาการ วิศวกรหนุ่ม คนขับสิบล้อ แม่ครัว ศัลยแพทย์ นักดนตรี จับกัง หน่วยซีล ดารานักแสดง นักกีฬาทีมชาติ นางโชว์ ตำรวจหญิง กะหรี่สนามหลวง ฯลฯ นอกจากนี้เธอยังเมาธ์กระจายเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ รวมถึงส่วนที่ขาดหายไปหรือบอกไม่หมดในหน้าประวัติศาสตร์สมัยต่าง ๆ ที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสเข้าถึง เจ๊นนท์เล่าสำนวนถึงพริกถึงขิงเพราะเห็นมากับตา ข้อมูลหลายอย่างฟังแล้วน่ากลัวว่าหัวจะหลุดจากบ่าเอาได้
.
.
“หนุ่มพม่าแซ่บนะคะขอบอก สมัยเจ๊เป็นพลธนูรูปหล่อเคยถูกจับเป็นเชลยแล้วโดนทหารลงแขกในคุก ฟ้าเหลืองจนทนไม่ไหวเลยย้ายร่างหนีไปเป็นชะนีนางสนมของฝั่งเค้าน่ะค่ะ คราวนี้ดีหน่อยไม่ค่อยมีใครมาวุ่นวาย แหม ๆ ตุ๊ดเกย์เนี่ยมันมีมาตั้งกะโบราณแล้วล่ะค่ะลูกแต่เค้าไม่พูดกัน แล้วผู้ชายสมัยก่อนกล้ามเนี่ยเป๊ะ ๆ แบบไม่ประดิษฐ์เลยค่ะ คิดดูนะคะในโลกนี้จะมีอีกไหมคะคนที่เปลี่ยนจู๋เปลี่ยนจิ๋มไป ๆ มา ๆ ได้อย่างเจ๊ ติดเอดส์ทีก็ย้ายร่างหนีค่ะดอกทองลำยองเรียกแม่ เอาเป็นว่าสารพัดรูปแบบคนเอากันเท่าที่หนูคิดออก ชายหญิง หญิงชาย หญิงหญิง ชายชาย แบบเดี่ยว แบบหมู่ คน สัตว์ สิ่งของ เจ๊เคยผ่านมาหมดแหละอย่าให้แซ่ด แต่ตอนนี้ปลดระวางแล้วค่ะ ”

เจ๊นนท์เล่าอย่างออกรสชาติ เธอค่อนข้างเปิดเผยกับเต๋อเนื่องจากสะใจลึก ๆ ทุกครั้งเมื่อเมื่อธนิกเอาข่าวที่เต๋อจัดการกับคนที่เคยรังแกในวัยเด็กได้เผ็ดร้อนถูกจริตตุ๊ดอย่างเธอ จะบอกว่าเธอเป็นแฟนคลับของเต๋อก็ไม่ผิดนัก แต่เรื่องหนึ่งที่เธอขออุบไว้เป็นปริศนาก็คือร่างแรกที่เธอถือกำเนิดมาเป็นชายหรือหญิงกันแน่ ประเด็นนี้เธอขอไม่กล่าวถึง เธอบอกแค่ว่า ชาติไหนเธอพอใจจะเป็นอะไรเธอก็เป็น ไม่มีขอบเขต และไม่จำกัดรูปแบบ เธอผ่านชีวิตคู่มานักต่อนัก และความอมตะทำให้เข้าใจว่าไม่มีสิ่งใดยั่งยืน จนเธอมองคนที่เข้ามาในชีวิตเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ซึ่งวันหนึ่งก็ต้องจากเธอไปก่อนเสมอ
.
.
“แต่ร่างนี้ เป็นร่างสุดท้ายแล้วล่ะ เจ๊จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้คุ้ม” รอยยิ้มของเจ๊นนท์เผยให้เห็นทั้งความเข้าใจโลกและเหนื่อยหน่ายต่อโลก เธอสารภาพว่าทุกครั้งที่เธอย้ายจิตครองร่างอื่น นั่นหมายความว่าต้องพรากชีวิตเจ้าของร่างนั้น ส่วนร่างที่ถอดทิ้งก็จะกลายเป็นเพียงศพรอวันเน่าเปื่อย นอกจากนี้ยังได้ทักษะส่วนตัวของเจ้าของร่างและความทรงจำติดเก็บสะสมในจิตนับไม่ถ้วน นั่นคือสาเหตุที่เธอโผล่ไปช่วยเต๋อด้วยวิธีนั้น เธอเปี่ยมด้วยภูมิปัญญา ประสบการณ์ และความชำนาญการครอบจักรวาลเป็นรองเพียงโดราเอมอนเท่านั้น ร่างที่เห็นอยู่นี้เป็นร่างของเด็กหนุ่มที่เธอเคยเลี้ยงดูฟูมฟักใน “ชาติ” ที่เธอเลือกเป็นสาวนักเปียโนเรียบหรู เด็กหนุ่มนั้นเหมือนงูเห่า แรก ๆ เหมือนจะดี แต่พอเวลาผ่านไปลายก็ออก เขานอกใจเธอและยังดื่มเหล้าจัด เมาแล้วทุบตี กระทั่งบีบคอเธอหมายมั่นให้ตาย เจ๊นนท์บอกว่าบางทีก็คิดว่าเดินทางมานานจนเหนื่อยมากแล้ว ได้พักผ่อนก็ดีเหมือนกัน แต่เธอยังใจไม่แข็งพอที่จะยอมทรมานแบบคนตายโหง สุดท้ายเธอพ่ายให้กับความกลัวตาย หนีไปอยู่ในตัวคนที่คิดจะฆ่าเธอซะเอง เธอยังรักเด็กคนนี้และสาบานจะใช้ร่างกายของเขาอย่างคุ้มค่าแทนคำขออโหสิกรรม จะไม่เปลี่ยนเป็นว่าเล่นเหมือนที่ผ่านมา ปณิธานเกิดเป็นจริงตามคำสาบาน ในวันที่ทิพย์หมดความอดทน เธอผนึกจิตผู้มีพลังพิเศษล้างบางทั้งตระกูลรวมถึงเจ๊นนท์ก็โดนไปด้วย และบัดนี้ทิพย์ก็เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งหมายความว่าร่างชายอดีตรักนี้ถูกกำหนดเป็นฉากสุดท้ายก่อนที่ละครเรื่องยาวของเธอจะปิดม่านลง
.
.
.
สุดท้ายก่อนที่การสนทนาจะปิดฉากลง เจ๊นนท์บอกว่าแผนการฟื้นฟูตระกูลนั้นเป็นสิ่งที่ธนิกคิดไปเองคนเดียว เจ๊นนท์ปลงได้หลายเรื่องและขอแก่ตายโดยสงบ ปรารถนาให้หลาน ๆ ที่เหลือใช้ชีวิตกันตามอัตตภาพ หากสายเลือดจะเลือนหายไปก็ปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ ส่วนธนิกนั้นดูเหมือนจะมีปมฝังใจที่ถูกผู้ใหญ่กรอกหูตั้งแต่เด็ก จนจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในฝันอุดมคติ คิดเพ้อเจ้อไปเอง ทั้งที่ไม่มีใครอยากจะเดินรอยตาม สิ่งที่น่ากลัวคือ เขาไม่จำเป็นต้องฟังเสียงค้านจากใคร อีกทั้งยังบังคับขู่เข็ญได้เพราะถืออำนาจเหนือทุกคนไม่เว้นแม้แต่เจ๊นนท์
.
.
.
“เอ้า เก็บไว้ใช้นะคะลูก เมื่อก่อนเจ๊คิดจะลองมีเซ็กส์แบบซาดิสต์เถื่อน ๆ หื่น ๆ แต่เกรงใจร่างผู้ชายคนสุดท้ายของเจ๊คนนี้ เจ๊ทำไม่ลงจริง ๆ ถ้าหนูเก็บไว้แล้วจะเป็นประโยชน์กับการล้างแค้นก็เอาเลยค่ะลูก อย่าให้พวกมันหยามเราได้” เจ๊นนท์ส่งมอบมรดกให้เต๋อ เป็นชุดหนัง โซ่ แส้ กุญแจมือ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือกุญแจเซฟเฮ้าส์ส่วนตัวของเจ๊นนท์ ซึ่งเจ๊บอกว่าในนั้นมีทั้งอุปกรณ์สตูดิโอสำหรับถ่ายหนัง อุปกรณ์ทรมาน ขึงพืด บีบรัดต่าง ๆ มากมายเกินกว่าจะสาธยายให้เห็นภาพได้และต้องไปดูเองเท่านั้น
.
.
เต๋อไม่รู้จะเอายังไงกับเอฟซึ่งเมาหลับไปแล้ว จึงขอให้เจ๊นนท์ขับรถไปส่งที่บ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เต๋อให้ที่พักพิงกับบุคคลนอก ด้วยเพราะไม่รู้จะไปส่งเด็กคนนี้ที่ไหน และถ้าจะทิ้งตามยถากรรมก็คงดูใจจืดไปหน่อยเพราะเขารอดมาได้เพราะเจอกับเอฟพอดี เต๋อให้เอฟนอนบนเตียงและตนเองปูฝูกนอนข้างล่าง
.
.
แต่เด็กหนุ่มก็เมาจนนอนกลิ้งลงมาข้างล่าง “ฮือ. . . ทิ้งกูทำไม”
เอฟกอดเต๋อต่างหมอนข้างนอนร้องไห้ บัดนี้เต๋อรู้สึกว่า หัวใจเต้นถี่กว่าคลื่นกระแสจิตเสียอีก
.
.
.
จบตอนที่ 24