Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 273
Message ID: 148
#148, RE: แค้นวิปริต จิตสั่งกาม:กระทู้ที่ 2
Posted by โทรจิตคุง on 23-May-11 at 06:44 AM
In response to message #147
สองวันให้หลัง
.
ในห้องนั่งเล่น ณัฐกำลังใช้หลับตาเพ่งนิมิตจนคิ้วแทบชนกัน ไม่ใช่ว่าเห็นภาพเหตุการณ์ไม่ชัด แต่เพราะมันชัดเกินไปนี่เอง ณัฐจึงต้องแสร้งทำเป็นว่ากำลังยังใช้พลังอยู่ ความคิดภายในใจหลังจากที่ได้เห็นภาพเต๋อแขนขาหักเนื่องด้วยมีปากเสียงปะทะกับธนิกอีกครั้ง ทำให้เขากำลังคิดอยู่ว่า “ควร” จะพูดสิ่งใดออกไปจึงจะเป็นผลดีที่สุด ขณะที่มีนนั่งประสานมือราวกับภาวนาอะไรสักอย่างต่อพระผู้เป็นเจ้า ส่วนธนิกกระวนกระวายเดินวนรอบห้องเหมือนรอฟังผลผ่าตัดญาติก็ไม่ปาน ทั้งสองวานให้ณัฐอ่านเหตุการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางไปเอาของคืนถึงหมู่บ้านเต๋อนั้น เจ้าบ้านจะไม่ซ่อนลูกเล่นไว้ซุ่มโจมตี คงมีแต่ทางนี้เท่านั้นเพราะโทรไปก็ไม่มีคนรับสาย


“นานไปแล้วนะเฮ้ย เห็นอะไรบ้างฮึ” ธนิกสะกิดให้ณัฐออกจากนิมิต ซึ่งณัฐเองก็รู้ดีว่าวิธีนี้ถ่วงเวลาได้ไม่นานเท่าไหร่หากมีธนิกรออยู่ เขาไม่ชอบรอและใจร้อนเป็นที่หนึ่ง
.
.

เด็กหนุ่มแกล้งลืมตาตื่นช้า ๆ


“ไหนเธอช่วยตอบที ถ้าพี่กับพี่นิกไปถามหามือถือจะมีเกิดอะไรขึ้นบ้าง. . .” มีนถาม


ในสภาพกดดันเช่นนี้ ณัฐรู้สึกน้ำท่วมปาก ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเต๋อ แต่มันคือความสับสน คำพูดที่ออกจากปากเขาต่อหน้าบุคคลผู้เกี่ยวข้องย่อมมีส่งผลกระทบต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้คือจะเกิดการทะเลาะลงไม้ลงมือกันอีกครั้งและคราวนี้เต๋อจะบาดเจ็บสาหัส จะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ณัฐหาไม่ปราถนาดีหรือฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นพิเศษ เขาเองก็มีสิ่งที่ซ่อนเร้นภายในใจ


เมื่อเห็นธนิกหงุดหงิดจนน้ำในตู้ปลากระเพื่อมไปมา เขาจึงเอ่ยปากขึ้นในที่สุด


“ไม่มีอะไรร้ายแรงครับ. . .แต่ถ้าพวกพี่ไปกันเอง อืม. . .ขากลับรถจะยางแตกครับ เอ่อ. . .ไปเหยียบอะไรเข้าก็ไม่รู้” แน่นอนว่าเป็นอุบายที่กุขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ


ธนิกทำหน้าไม่สบอารมณ์และถามต่อ “ถนนสายไหนล่ะ จะได้เลี่ยง”


“ผมไม่ทราบครับ มองไม่ออกเลย”
.
.
“เวรกรรม. . . ทั้งเบอร์ติดต่อ ทั้งข้อมูลที่อยู่ในมือถือพี่มีแต่เรื่องสำคัญทั้งนั้นเลยนะ” มีนก่ายหน้าผากเมื่อเข้าใจว่าความยุ่งยากจะเกิดขึ้นซ้ำซ้อน
.
.
ณัฐสบตาพี่ ๆ เพื่อหยั่งเชิง เมื่อเห็นว่าทั้งสองปักใจเชื่อแล้ว จึงค่อย ๆ รวบรวมความกล้าออกอุบายต่อไป


“เอ่อ. . .ให้ผมไปเอง .ดีไหมครับ”
.
.
“พูดเป็นเล่น” ธนิกรู้สึกเหมือนณัฐเป็นวัวที่อยากเข้าไปเดินเล่นในโรงฆ่าสัตว์
.
.
“เอ่อ. . .ผมมั่นใจว่า. . .ทุกอย่างต้องเรียบร้อยครับ. . .คือว่า. . .ผมก็อ่านเหตุการณ์ล่วงหน้าเช็คความปลอดภัยให้ตัวเองได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว” เด็กหนุ่มเสนอตัวอย่างระมัดระวัง ไม่ให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้ว่ากำลังตั้งใจเปลี่ยนอนาคตที่แท้จริงเพื่อหวังผลบางอย่าง หากทำได้แนบเนียนละก็จะไม่มีใครจับผิดได้เลย เพราะคนที่เห็นภาพนิมิตได้มีเพียงเขาเท่านั้น
.
.
“เราตัวคนเดียวจะไหวเหรอ จำได้รึเปล่าว่าเขาคุมคนได้ทีละเป็นสิบ ๆ” มีนเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ช่วยเธอได้ แต่ก็เป็นห่วงน้องอยู่เช่นกัน
.
.
“เรื่องนั้น. . .ผมทราบครับ. . .อืม แต่คิดว่าอย่างน้อย. . .พี่เขาคงไม่คิดจะทำร้ายคนที่เคยอ่านอนาคตเพื่อช่วยชีวิตเขาหรอกครับ”


ได้ยินดังนั้นมีนจึงนึกได้ว่าเต๋อก็เคยพูดทำนองว่าจะสะกดจิตคนตอบแทนณัฐเพราะไม่อยากติดค้างบุญคุณ จึงเป็นไปได้ว่าหากณัฐเป็นคนกลางล่ะก็ ภารกิจนี้อาจลุล่วงง่ายกว่าที่คิด


“จริงสินะ เธอพูดถูก เต๋อก็คิดแบบนั้นอยู่แล้ว”


“พี่มีนพูดอะไรน่ะครับ” ธนิกหันขวับ ดูเหมือนมีนจะลืมไปว่าเธอควรปกปิดเรื่องที่ไปพบเต๋อเป็นการส่วนตัว


“อ๋อ. . . พี่หมายถึงที่ณัฐพูดมาก็ฟังขึ้นน่ะ ยังไงก็ต้องเกรงใจกันบ้างแหละ” เธอรีบตัดบทและสรุปจบโดยไว
.
.
“งานนี้คงไม่ต้องรบกวนเธอแล้วละนิก พี่ว่าณัฐคนเดียวก็เอาอยู่”
.
.
“เอางั้นเรอะ. . .” ธนิกมองณัฐเกาหัวยิ้มหน้าเจื่อน ท่าทางไม่เชื่อมือเท่าไหร่นัก กระนั้นก็อาจจะดีที่น้องชายได้เรียนรู้วิธีพบปะเจรจากับผู้อื่นเสียบ้าง โดยเฉพาะกับคนอันตรายอย่างเต๋อ หากทำสำเร็จก็นับว่าณัฐได้เรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่ไปอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
.
.
“งั้นก็ได้ แล้วอย่าเปลี่ยนใจทีหลังละครับ ผมไปก่อนล่ะ” เขากระดิกนิ้วเรียกกุญแจรถบนโต๊ะลอยกลับสู่ฝ่ามือแล้วเดินออกจากห้องไป
.
.
.
.
เมื่อธนิกพ้นจากวงสนทนา ณัฐคลายอาการเกร็งลง รู้สึกโล่งใจที่ทุกอย่างเข้าที่ทางตามที่ตนคิดไว้


“ฝากด้วยนะณัฐ อย่าลืมล่ะว่า ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล โทรหาพี่นิกทันทีรู้มั้ย” มีนกำชับ


“ครับ” ณัฐรับคำ และต่อมาก็เหมือนจะนึกสิ่งที่ใคร่ถามขึ้นมาได้


“เอ่อ. . .พี่มีนครับ . . . ระหว่างพี่นิกกับพี่เต๋อ พี่ว่าใครน่ากลัวกว่ากันครับ”
.
.
เป็นคำถามที่มีนเองก็ไม่เคยเอะใจมาก่อนเช่นกัน กระนั้นก็แสดงความเห็นกลับไป
.
.
“ถ้าถามว่าใครน่ากลัวกว่ากัน. . . พี่ตอบไม่ได้หรอก ถ้าสมมติเธอทำให้นิกโกรธ เขาจะเป็นศัตรูของเธอคนเดียวและจะเล่นงานเธอจนถึงที่สุด ไม่หัวร้างข้างแตกก็พิกลพิการ หรือไม่ก็อาจถึงตาย. . . ถ้าเป็นเต๋อ. . . เธอจะยังมีชีวิตและอวัยวะอยู่ครบ. . .แต่. . .
.
.
.
. . .คนทั้งโลกจะเป็นศัตรูกับเธอ”
.
.
.

เด็กหนุ่มพยักหน้า ความเห็นจากมีนช่วยชี้คำตอบที่เหมาะสมกับตัวเขาที่สุด บัดนี้ณัฐตัดสินใจได้แล้วว่าจะต้องเดินหน้าต่อไปทางไหน
.
.
.
แสงแดดยามบ่ายทอประกายสว่างจ้า ณัฐนั่งสงบใจอยู่ในห้องตามลำพัง ตาจ้องไปที่โทรศัพท์อย่างครุ่นพินิจหลังจากมีนเล่าความลับที่ให้ฟะงด้วยความไว้ใจ ว่าเธอไปพบกับเต๋อมาก่อนหน้านี้ ไม่ได้ไปแอบสอดแนมตามที่บอกกับธนิก จะว่าไปก็น่าตลกที่ธนิกนั้นน่ากลัวจนคนรอบข้างต้องโกหกเอาตัวรอดกันไปหมด อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าน่าจะลองต่อสายอีกสักครั้งก่อน การเข้าไปหาเต๋อถึงที่แบบขาดพิธีรีตองควรจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะเต๋อท่าทางจะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิต


ณัฐสูดลมหายใจลึก
.
.
“เอาวะ. . .” ในที่สุดก็กดต่อสายไปจนได้
.
.
เสียงรอสายกับเสียงใจเต้นสั่นแทบจะเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ณัฐรู้สึกตื่นเต้นจนปวดฉี่ขึ้นมาทันใด
.
.
“สวัสดีครับ” ปลายสายรับในที่สุด
.
.
“หวัดดีครับ. . .พี่. . .เต๋อรึเปล่าครับ. . . เอ่อ. . .ผมณัฐนะครับ จำได้ไหม”
.
.
“ก็เกือบจะจำไม่ได้หรอกครับถ้าไม่โชว์ชื่อคนโทรเข้ามา แต่ช่างมันเถอะครับ. . .ณัฐน้องธนิกใช่ไหม ที่เจอกันวันที่พี่นอนแอ้งแม่งริมสระ” แม้แต่เต๋อยิงมุกจิกกัด แต่ณัฐก็ยังโล่งอกที่ยอมคุยด้วย
.
.
“เอ่อ. . .โทรศัพท์นั่น. . .อยู่กับพี่สินะครับ”
.
.
“ครับ. . . พี่เขาทำตกไว้แถวหน้าบ้านพี่ ขอโทษที่ไม่ได้รับสายเพราะพี่ไม่ค่อยอยู่บ้าน วุ่นทั้งงานราษฎร์งานหลวง เงินก็ต้องหา ลูกหนี้ก็ต้องตามล่า ฮะ ๆ” เต๋อพูดอย่างหน้าตาย ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้วคงไม่ต้องทำไขสือทำเป็นว่าอีกฝ่ายไร้เดียงสา ให้มันรู้กันไปเลยว่าไผเป็นไผ ณัฐแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย
.
.
“ฝากขอโทษพี่มีนด้วยนะที่พี่เคยเสียมารยาทกับเธอ อีกเดี๋ยวพี่จะออกไปทำธุระข้างนอก กว่าจะกลับคงค่ำเลยล่ะ ถ้ายังไงพี่ขอส่งคืนวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ”
.
.
“ได้ครับ. . .แล้วแต่พี่สะดวกเลยครับ”
.
.
“จริงสินะ เราเคยช่วยพี่ให้พ้นจากอุบัติเหตุนี่นา ขอบคุณมากครับ” เต๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่ากลั่นจากใจจริงหรือมีสิ่งใดแอบแฝง และแม้ณัฐอยากจะบอกว่าไปขอบคุณธนิกเถอะแต่ก็พูดไม่ได้ ก็คนที่ช่วยชีวิตเต๋อกับเกือบเอาชีวิตไปเป็นคนคนเดียวกัน
.
.
“แหะ ๆ ก็ว่าไปตามที่เห็นครับ. . . อืม. . .พี่มีนจำเป็นต้องใช้มือถือด่วนน่ะครับ. . .เอ่อ. . .ถ้าเป็นพรุ่งนี้ก็โอเคครับ”


“ครับ ไม่มีปัญหา จริงสิ. . .เดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำธุระแล้วครับ ไว้คุยนัดวันเวลากันทีหลังได้ไหมครับ” เต๋อกล่าว
.
.
“ครับ” ณัฐรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ยังไม่สามารถเข้าเรื่องอยากพูดที่แท้จริงได้ แต่กระนั้นก็อยากจะทิ้งท้ายอะไรบางอย่างให้อีกฝ่ายได้นึกถึงความสามารถของเขา
.
.
“เอ่อ. . .พี่ครับ. . .พก. . .ร่มไปด้วยนะครับ วันนี้พี่ต้องใช้”
.

เต๋อกระแอมหัวเราะ “ตอนนี้ไม่ใช่หน้าฝนสักหน่อย หรือว่าพกร่มหมายถึงอย่างอื่นกันนะ. . .” เมื่อเห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดีคุยง่ายกว่าที่คิด ณัฐจึงเล่นบ้าง
.
.
“นั่นสินะ. . .ร่มแบบไหนกัน. . .อืม. . . พี่ลองเล่นเกมกับผมหน่อยไหมครับ”


“น่าสนใจ ว่ามาสิครับ” เต๋อรับคำท้า


“ผมให้เลือกได้อย่างเดียว ห้ามโกงนะครับ เลือกร่มที่พี่คิดว่าตรงกับคำบอกใบ้ของผมไปได้อย่างเดียว แต่ถ้าเลือกผิด พี่จะลำบากนะครับ”
.
.
“ได้เลยครับ พี่สัญญา” เขาตอบรับสั้น ๆ
.
.
“เอ่อ. . . อีกอย่างหนึ่งครับ. . . ขอเบอร์ติดต่อของพี่ได้ไหมครับ. . .ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ”
.

นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจ เต๋อนึกเสียดายเหมือนกันที่อ่านใจเด็กคนนี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนกันแน่ เขาเป็นคนขี้ระแวงโดยสัญชาตญาณ แต่อย่างไรก็ตามในความไม่ชอบมาพากลนี้ เขากลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างน่าลุ้นหาคำตอบ และหากอีกทางเกิดสับปลับขึ้นมาก็มั่นใจว่าจะไหวตัวทัน
.
.
.
“เอาสิครับ พี่ให้ณัฐรู้คนเดียวนะ สัญญาก่อน”


“ครับ สัญญา ๆ” ณัฐเริ่มมีความหวังเขยิบขึ้นอีกนิดเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีเปิดรับมากขึ้นไปอีก


และหลังจากคุยกันเรียบร้อยแล้ว เต๋อก็ขอตัววางสายไป
.
.
เขายืนลูบคางอย่างพิจารณา นี่ไม่ใช่ช่วงหน้าฝนหรือมีมรสุมเข้า ณัฐอาจจะไม่ได้หมายถึงร่มกันฝน แต่ร่มในคำใบ้อาจหมายถึงถุงยาง ซึ่งน่าจะเป็นไปได้มากกว่าเพราะเขาคลุกคลีอยู่กับการล้างแค้นคนด้วยการให้แสดงออกทางกามารมณ์อย่างอุกอาจมานักต่อนัก
.
.
.
จะอย่างไรก็ตาม แม้เป็นเกมที่น่าสนใจแต่เขาก็ไม่มีเวลาวิเคราะห์ให้มากความนัก เต๋อตัดสินใจเลือก “ร่ม” ที่คิดว่า “ใช่” เพียงหนึ่งชิ้นตามคำสัญญา เขาขยับไทค์ให้เข้าปกคอชุดสูท แล้วเสร็จจึงบึ่งรถบีเอ็มสีดำทมิฬคู่ใจ
.
.
.
.
มุ่งสู่งานสมรสของเพื่อนบ้านไร้การอบรม ซึ่งเขาคิดว่าอยู่ร่วมโลกด้วยกันไม่ได้อีกต่อไป
.
.
.
จบตอนที่ 17 เกมของณัฐ