Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 287
Message ID: 8
#8, RE: เก็บหัวใจใส่กุญแจ
Posted by โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ on 10-Jul-11 at 09:52 PM
In response to message #7
Action 8 : Ashita eno tobira (ประตูสู่วันพรุ่งนี้)

“เจ๊ แหกๆ โก๋เป็นไงบ้าง” ผมทักเจ๊ที่กำลังชะโงกหน้าออกมาจากประตูห้อง เพราะได้ยินเสียงผมวิ่งหกล้ม

“แหกอะไร ยังไม่แหก ยังซิงอยู่ย่ะ ว่าแต่แกจะกลับมาทำไมเนี่ย วิ่งหกล้มอีก วู้ น้องชั้น”

“เสียงหอบเฟ้ย ไม่ใช่อะไรแหก มุขหนอมุข สรรหามาเล่นได้เรื่อยๆ”

“มิค งั้นแกดูแลมันต่อก่อนละกัน ข้าวน่ะเจ๊ซื้อมาให้แล้ววางอยู่ที่ชั้น เจ๊มีงานค้างอยู่ ขอกลับไปต่อก่อนนะ”

เจ๊โบว์เดินไปที่ลิฟต์ โบกมือบ๊ายบาย พร้อมส่งจูบ ผมเอาข้าวเอาน้ำ ยกไปให้ไอ้โก๋กิน

“มึงจะกลับมาทำไม ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย เดี๋ยวเย็นๆก็หายแล้ว น่าจะรู้ดีนี่”

“ก็เป็นห่วงอะ กูเป็นคนทำให้มึงเป็นแบบนี้กูก็ต้องรับผิดชอบสิ”

พอมันทานข้าวเสร็จผมก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำเช็ดตัวให้ เอามือทาบหน้าผากก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ แล้วไอ้โก๋ก็รีบไล่ผมให้กลับไปที่โรงพยาบาลได้แล้ว
เพราะอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควรเดี๋ยวผมกลับไม่ทัน ก่อนผมไปผมก็จัดยาให้มันทานวางไว้ที่โต๊ะคอมข้างเตียง

6โมงกว่าแล้ว วันนี้คนไข้ช่วงบ่ายเยอะมาก ผมจึงตรวจจนเลยเวลา ผมเดินไปที่นู่นที่นี่ทักทายทุกคนก่อนกลับ
พอผมกำลังจะเดินก้าวออกจากประตูตึกโรงพยาบาลก็มีคนมาคว้ามือผมเอาไว้

“เฮ่ย จะมาทำไมเนี่ย ทำไมไม่นอนอยู่ห้อง”

“ก็กลัวแกจะเดินทางกลับลำบาก มอไซค์ก็ไม่ได้เอามา พี่ไม่เป็นไรแล้วหละ ดีขึ้นเยอะแล้ว”

“ครับๆขอบคุณ งั้นเอากุญแจรถมา เดี๋ยวขับเอง”

ผมขับรถออกจากโรงพยาบาล ระหว่างทางก็โทรหาเจ๊โบว์ชวนไปทานข้าวเย็นด้วยกัน เจ๊โบว์ตกลง ผมจึงขับไปรับเจ๊โบว์
แล้วผมก็สังเกตเห็นว่าทำไมน้ำมันมันถึงลดไปเยอะผิดปกติ เพราะเมื่อเช้ามันยังเกือบเต็มถังอยู่เลย ผมถามไอ้โก๋ว่าขับรถไปไหนมารึเปล่า มันก็บอกว่าเปล่า
แล้วเราสามคนไปนั่งทานซิสเล่อร์ด้วยกันที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต

ทานข้าวเสร็จแล้ว ผมก็ขับรถไปส่งเจ๊โบว์ที่ทำงานเพราะเจ๊แกทิ้งมอไซค์เอาไว้ ไอ้โก๋อาการดีขึ้นจนดูเหมือนปกติแล้ว ผมก็ค่อยรู้สึกโล่งใจ
เราสองคนกลับมาที่ห้อง เจอไอ้กอล์ฟกำลังไขประตูเข้าห้องอยู่พอดี

“อ้าว ไปไหนมาทำไมเพิ่งกลับมาล่ะ กลับมาช้านะเนี่ย” ผมทักกอล์ฟ

“อ๋อ ออกไปทานข้าวกับไอ้ฟงมา แต่มันไปไหนต่อไม่รู้ กูเลยกลับมาก่อน ว่าแต่พี่โก๋เป็นไรอะ ทำไมดูหน้าซีดๆ”

“ก็เมื่อคืนนอนกันดึก พี่เค้าเลยไม่ค่อยสบาย แถมดันทุรังขับรถไปรับกูอีก”

“เออๆ กูเข้าห้องก่อนนะ จะรีบอ่านหนังสือต่อ พี่โก๋ก็พักผ่อนเยอะๆล่ะ”

ผมโล่งอกที่มันไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ยินเสียงผมมีอะไรกับไอ้โก๋เมื่อคืน ผมเข้าห้องแล้วก็อาบน้ำด้วยกันกับไอ้โก๋ เราสองคนไม่อายกันอีกแล้ว
อาบเสร็จก็มานั่งดูทีวีที่ฟูก ผมนอนหนุนตักไอ้โก๋ดูทีวี ไอ้โก๋ก็ดูทีวีไปลูบหัวผมไป ผมหลับคาตักไอ้โก๋ แต่ไอ้โก๋ก็ปลุกให้ขึ้นไปนอนบนเตียง
มันก็ปิดไฟนอนกอดผม โดยที่เราไม่ได้มีอะไรกัน

ผ่านไปอีก 5 วัน ผมกับไอ้โก๋ไม่ได้มีอะไรกันอีก นอกจากอาบน้ำด้วยกัน หอมแก้มกัน และนอนกอดกันเฉยๆ
เย็นวันที่ 7 ที่ไอ้โก๋มาอยู่ที่นี่ มันก็ไปรับผมกลับจากโรงพยาบาลมาส่งที่หน้าหอ แล้วมันก็ขอตัวลากลับเลยเพราะเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ายัดใส่รถไว้แล้ว
ผมไขประตูเข้าห้องด้วยความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ผมเข้าห้องน้ำล้างมือล้างเท้าอย่างเชื่องช้าเหมือนไร้แรงขับเคลื่อนร่างกาย

ผมเดินก้มหน้าออกจากห้องน้ำ เช็ดเท้าที่พรม แล้วเงยหน้ามองไปด้านหน้าก็เห็นแก้วน้ำลายหมีพูห์ที่ผมทิ้งไปแล้ว วางอยู่บนชั้นวางของหน้าห้องน้ำ
ซึ่งผมไม่เห็นตอนเดินเข้ามาเพราะมีกล่องพัสดุวางบังไว้อยู่ แต่แก้วน้ำใบนั้นไม่ได้เป็นแก้วน้ำเปล่าๆอีกแล้ว มันมีจานรองลายหมีพูห์เพิ่มเข้ามาด้วย
มีดินใส่อยู่ในแก้ว มีก้อนกรวดสีขาวขนาดเล็กๆโรยหน้าดินเอาไว้ เหนือหน้าดินขึ้นมามีดอกไม้สีม่วงอมน้ำเงินบานอยู่ 3 ดอก ผมยกแก้วขึ้นมาดู
ที่ก้นแก้วถูกเจาะรูเอาไว้ตรงกลางเป็นรูเล็กๆ 1 รู และมีกระดาษแผ่นเล็กๆถูกจานรองทับเอาไว้อยู่ ผมรีบเปิดอ่าน ในกระดาษมีลายมือของไอ้โก๋เขียนไว้ว่า

“พี่ขอโทษที่ทำให้แกโกรธเรื่องแก้วน้ำ พี่เสียดายเลยเก็บเอาไปให้เพื่อนพี่ทำเป็นกระถางต้นไม้ เรื่องระหว่างเราสองคนก็อย่าคิดมาก พี่รักแก พี่ถึงยอมเจ็บตัว
ตลอด 1 สัปดาห์ที่พี่อยู่กับแก พี่มีความสุขมาก แกเป็นน้องที่พี่รักที่สุด ถ้าเหงาก็โทรมา มีปัญหาอะไรก็โทรมา พี่จะมาหาแกทันที รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วจะแวะมาหาบ่อยๆ

รักและคิดถึงมิค น้องชายผู้น่ารักของพี่เสมอ

กระรอกป่วย”

เมื่อผมอ่านข้อความนี่แล้วผมรู้สึกดีขึ้นมาทันที ผมรักโก๋ในฐานะพี่ ผมสัญญาว่าจะไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นอีกเป็นอันขาด
เรื่องที่ผมสงสัยตอนที่มันมาอยู่ ผมก็มารู้ทีหลังว่ามันทำอะไรลับหลังผมบ้าง

ที่ไอ้โก๋รีบขับรถกลับหอวันนั้น มันรีบกลับไปเก็บแก้วน้ำ เพราะเดี๋ยวใครจะเก็บไปซะก่อน ป้าที่ดูแลหอผมเค้าเล่าให้ผมฟังว่าเห็นมันคุ้ยขยะอยู่
แล้วมันเอาแก้วน้ำไปวานให้นักการที่คณะที่รู้จักกันเจาะรูตรงก้นแก้วให้ อันนี้พี่นักการมาเล่าให้ผมฟังว่า
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วโก๋มันเพี้ยนๆเอาแก้วดีๆมาให้เค้าเจาะทำไมก็ไม่รู้ สรุปว่าที่มันนอนซมตอนกลางวันเพราะมันไม่ยอมพักผ่อน
ผมว่าแล้วว่ามันไม่น่าจะเป็นอะไรหนักขนาดนั้น ที่น้ำมันมันลดลงไปเยอะตอนไปรับผม ผมคิดว่ามันคงวนหาซื้อจานรองแก้วลายหมีพูห์ก่อนมารอผมที่โรงพยาบาล
แก้วและจานรองคงซ่อนไว้หลังรถ เรื่องต้นไม้คงจัดการก่อนไปรับผมที่โรงพยาบาลวันสุดท้าย และไม่ยอมขึ้นห้องให้ผมมาหอมก่อนกลับ
ในที่สุดปริศนาทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว 555

ผมหยิบเอากระถางต้นไม้ไปวางไว้ข้างประตูระเบียงห้องด้านนอก มารู้ว่ามันคือดอกแพนซี่หรือดอกหน้าแมวจากเจ๊โบว์ตอนที่เจ๊แกมานั่งเล่นที่ห้องหลังจากที่ไอ้โก๋กลับไปได้ 2 วัน
ผมโทรหาไอ้โก๋ตอน 3 ทุ่มเพราะมันคงขับรถกลับถึงเชียงรายแล้ว หลังจากวันนั้นโก๋ไม่มีเวลามาหาผมเลย ได้แต่คุยกันทางโทรศัพท์ ทางเอ็ม และคอมเม้นต์ตอบกันในไฮ 5
ผมไม่รู้สึกอะไรกับโก๋ที่จะนอกเหนือจากความเป็นพี่น้องกันเหมือนที่ผ่านๆมา แต่โก๋ก็ยังบอกรักและคิดถึงผมอยู่ทุกครั้งเมื่อเราได้คุยกันทางโทรศัพท์และทางเอ็ม

เสียงริงโทน Ashita eno tobira ของ I WiSH ที่ไอ้โก๋ชอบดังขึ้นมาเมื่อใด เป็นสัญญาณว่าไอ้โก๋โทรมา ผมก็จะรีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันที
ส่วนใหญ่มันจะโทรมาหลัง 4 ทุ่มเพราะมันกลัวผมยุ่งอยู่ เราก็คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย ก่อนวางหูไอ้โก๋ก็พูดว่า

“กูคิดถึงมึงหวะมิค”

“กูก็คิดถึงมึงไอ้กระรอกน้อย”

“อยากกอด อยากหอมแก้มน้องชายอะ”

“ก็มาหาดิ”

“ก็อยู่หน้าห้องมึงเนี่ย เปิดให้หน่อยดิ”

Tony Tony Chopper