Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 375
Message ID: 86
#86, RE: ร.ด.หฤโหด ไตรภาค
Posted by หนุ่ม น.ศ. on 19-Jul-12 at 10:09 AM
In response to message #0
ตอนที่ 6

หน้าห้องน้ำของกองพัน 51
" มึงมีอะไรกับกู "
ผมถามไอ้ยุทธด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ไอ้ยุทธแกล้งหัวเราะเบาๆ
" หึ หึ มึงจะพูดดีๆ กับกูซักครั้งไม่ได้รึไงวะ เราเป็นเพื่อนกันนะ "
" กูไม่ใช่เพื่อนมึง ! ตอนกูเรียนกับมึง มึงแกล้งกูแรงๆ สารพัดเลย คนเป็นเพื่อนกันเค้าทำแบบนี้กันเหรอวะ "
ผมพูดเสียงเข้ม
" กูก็แค่หยอกมึงเล่นๆ เอง ตอนนั้นกูทำตามไปประสาเด็ก แต่ตอนนี้เราโตๆ กันแล้ว มึงไม่เห็นจะต้องมาผูกใจเจ็บกูเลย กูไม่แกล้งมึงแล้ว แกล้งตุ๊ดมันไม่สนุกหรอกว่ะ "
ผมกัดฟันกรอดแล้วเตรียมจะเดินหนี ไอ้ยุทธรีบพูดต่อ
" กูถามอีกคำเดียว มึงจะยังเป็นเพื่อนกับกูอีกมั๊ย "
" ทำไมกูต้องเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึงด้วย "
ผมพูดโกรธๆ ไอ้ยุทธจ้องหน้าผม แววตาของมันดูเหยียดๆ ผมยังไงชอบกล
" มึงรู้ตัวรึเปล่าว่าตอนนี้มึงเหลือตัวคนเดียวแล้วนะ เพื่อนมึงไม่เหลือแล้ว "
" เพื่อนในหมู่กูก็มี กูจะเหลือตัวคนเดียวได้ไง "
ไอ้ยุทธหัวเราะ ท่าทางของมันกวนประสาทผมมากจนอยากจะเอาตีนยันมันซักที
" มึงคิดเหรอว่าเพื่อนในหมู่มึงจะยังอยากคบกับมึงอยู่ แม่งรู้กันหมดแล้วว่ามึงเป็นอะไร "
" พูดอะไรของมึงเนี่ย "
ผมถามมันด้วยความสงสัยแต่ไอ้ยุทธไม่ตอบ มันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมรีบเดินตามมันไปทันที
" เฮ้ย ! ยุทธ พูดกันให้รู้เรื่องก่อน ที่มึงพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง "
ไอ้ยุทธยิ้มน้อยๆ
" เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละว่ากูหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้กูขอเยี่ยวก่อน นั่น ห้องน้ำห้องสุดท้ายว่างพอดี มึงจะเยี่ยวก่อนมั๊ย กูเสียสละให้มึงก่อน "
ผมส่ายหน้า
" กูเยี่ยวเสร็จแล้ว "
ไอ้ยุทธขมวดคิ้ว
" เยี่ยวตอนไหนวะ เมื่อกี้กูก็เข้ามารอบนึงแล้ว เต็มทุกห้องเลย แล้วกูก็ไม่เห็นมึงออกจากห้องด้วย แสดงว่ามึงยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยวในห้อง "
" ก็แล้วทำไมกูต้องเข้าไปเยี่ยวในห้องด้วยล่ะ กูก็ยืนเยี่ยวที่ช่องเยี่ยวสิวะ "
ไอ้ยุทธแกล้งทำตาโต แล้วตะโกนลั่น
" อะไรวะ มึงเป็นตุ๊ด แต่เสือกยืนเยี่ยว ตุ๊ดเค้าต้องนั่งเยี่ยวในห้องนะเว้ย ! มึงเป็นตุ๊ดภาษาอะไรวะ "
เสียงของไอ้ยุทธไม่ใช่เบา ทำให้นศท. หลายคนที่อยู่ในห้องน้ำหันมามองไอ้ยุทธเป็นตาเดียว ไอ้ยุทธจ้องหน้าผมราวกับจะให้คนอื่นเข้าใจว่าตุ๊ดที่มันพูดถึง หมายถึงผม ! นศท. เหล่านั้นจึงมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ผมทั้งโกรธ ทั้งอายคนอื่น รีบเดินหนีออกมานอกห้องน้ำทันที ผมเดินไปพลางกัดฟันไปพลางด้วยความแค้นปนอาย จนมาถึงบริเวณที่หมู่ของผมนั่งพักอยู่ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์
ไอ้ยุทธ มึงจะทำให้กูอับอายคนอื่นไปถึงไหน ทำไมมึงชอบบอกคนอื่นว่ากูเป็นตุ๊ดนัก เที่ยวป่าวประกาศให้คนอื่นเข้าใจกูผิดๆ มึงทำแบบนี้ทำไม ไอ้เลวเอ๊ย ! กูไม่มีวันให้อภัยมึงแน่ !
..................

พอหมดเวลาพัก ก็ได้เวลาเรียนวิชาแรก นั่นคือ วิชาการติดต่อสื่อสารและการข่าวเบื้องต้น มีครูฝึกมาบรรยาย ผมและเพื่อนๆ ก็นั่งฟังเพลินๆ พอครูฝึกบรรยายจบก็ต่อด้วยวิชาที่ 2 การใช้ปืนพก 11 มม. ครูฝึกอธิบายลักษณะของปืน วิธีการใช้งาน รวมทั้งท่ายิงแบบต่างๆ เช่นยืนยิง นอนยิง แล้วแบ่งกลุ่มฝึกท่ายิงดังกล่าว ผมเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนที่ผมเล็งไว้ 3 คนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ค่อยอยากจะฝึกร่วมกับผม โดยเฉพาะไอ้ช่วงกับไอ้เทอดพงษ์ มันทำท่าเหมือนรังเกียจผมยังไงไม่รู้ ตอนที่ไอ้เทอดพงษ์ลองหัดทำท่านอนยิง ผมซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับมัน อยากจะช่วยจัดท่านอนยิงของเพื่อนให้ดูดีเพราะเห็นว่าไอ้เทอดพงษ์นอนเบี้ยว ไปหน่อย ก็เลยเอามือบีบหัวไหล่มันเบาๆ หวังจะให้มันขยับตัวนอนให้ตรงๆ แต่ไอ้เทอดพงษ์กลับวางปืนลงกับพื้นแล้วปัดมือผมออกอย่างเร็ว
" เฮ้ย ! จับไหล่กูทำไมวะ "
ผมทำหน้างง
" อะไร กูจะช่วยจัดท่านอนยิงให้มึงไง ก็มึงนอนยิงไม่ตรงนี่หว่า "
ไอ้เทอดพงษ์แสดงสีหน้าไม่พอใจพลางขยับตัวให้ตรงก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาถือใหม่ แล้วพูดห้วนๆ
" กูจัดเองได้ มึงไม่ต้องยุ่ง "
ผมมองหน้าไอ้เทอดพงษ์
" มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย ทำเหมือนรังเกียจกูเลย "
ไอ้เทอดพงษ์ไม่ตอบ ทำให้ผมสงสัยมากขึ้นว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ตอนแรกยังคุยกันอยู่ดีๆ อยู่เลย แต่ไหงตอนนี้มันทำท่ารังเกียจผมซะงั้น
ฝึกไปซักพักก็ถึงเวลาพัก ไอ้เทอดพงษ์รีบเดินไปรวมกลุ่มกับไอ้ช่วงและไอ้ปราการ ผมก็เดินตามมันไปด้วย ไอ้ช่วงกับไอ้ปราการมีท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เรา 3 คนนั่งเงียบๆ อยู่นาน อากาศตอนนี้ร้อนมากๆ เหงื่อของเราทั้ง 3 แตกเต็มแผ่นหลังไปหมด ไอ้เทอดพงษ์ก็เหงื่อแตกเหมือนกัน ผมเกิดอยากได้กลิ่นเหงื่อของหนุ่มหล่อคนนี้ขึ้นมาเลยเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ มันมากขึ้น ไอ้เทอดพงษ์รีบขยับหนีทันทีแล้วด่าผม
" เฮ้ย ! ไปห่างๆ กูหน่อย ร้อนเว้ย ! เขยิบเข้ามาทำไมวะ "
น้ำ เสียงของมันแสดงออกถึงอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ ผมรู้สึกเสียหน้าที่มันทำท่าทางรังเกียจผมต่อหน้าเพื่อนอีก 2 คน ไอ้ช่วงกับไอ้ปราการจ้องตาผมเขม็ง ผมพูดเบาๆ ด้วยความน้อยใจ
" ไรว้า แค่นี้ก็ต้องด่ากันด้วย โกรธอะไรกูเหรอวะ "
มือของผมวางแหมะลงไปที่ต้นแขนล่ำๆ ของไอ้เทอดพงษ์แล้วลูบขึ้นลง ก็แค่ลูบเล่นๆ เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินอะไรมันเลย แต่ไอ้เทอดพงษ์ไม่เล่นด้วย มันผลุดลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดัง
" กูขอตัวก่อนนะ "
แล้วไอ้เทอดพงษ์ก็เดินหนีไป ผมรีบลุกขึ้นเดินตามมันไปทันที ปากก็ตะโกนไล่หลังมันไปด้วย
" เดี๋ยว ไอ้เทอด จะไปไหนวะ "
ไอ้ช่วงมองผมที่กำลังเดินตามไอ้เทอดพงษ์ไป แล้วถอนใจยาว พูดกับไอ้ปราการ
" ตามติดแจเลย ไม่รอดแน่ๆ เพื่อนกู "
...................

" ตามกูมาทำไมวะ !!! "
ไอ้เทอดพงษ์หันมาตวาดผม ผมหยุดเดิน จ้องหน้าไอ้เทอดพงษ์อย่างไม่เข้าใจ
" เทอด มึงเป็นอะไรวะ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว มึงโกรธกูตลอดเวลา กูไปทำอะไรให้มึงไม่พอใจเหรอ "
" กูไม่ได้โกรธมึง "
ไอ้เทอดพงษ์ตอบสั้นๆ ตอนนี้มันหยุดเดินแล้วเช่นกันและหันหลังกลับมายืนประจัญหน้ากับผม
" แล้วมึงเป็นอะไรของมึง "
ไอ้เทอดพงษ์ไม่ยอมตอบ ผมจึงพูดต่อ
" รังเกียจกูเหรอ "
" แน่ะ ! มึงก็รู้ตัวนี่ว่าคนอื่นเค้าก็รังเกียจมึงทั้งนั้น มึงก็น่าจะรู้ดีว่าทำไมกูถึงไม่อยากยุ่งกับมึง "
ไอ้เทอดพงษ์พูดเสียงดัง คำพูดของมันทำให้ผมสงสัยเต็มทน เกิดอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย
" มึงพูดอะไร กูไม่เห็นเข้าใจ "
ไอ้เทอดพงษ์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
" เฮ้อ ! มึงอยากให้กูบอกมึงตรงๆ เหรอ กูไม่อยากทำให้มึงเสียใจนะเว้ย "
" บอกมาเหอะ กูรับได้ "
ผมเร่งเร้าให้ไอ้เทอดพงษ์บอกผม ไอ้เทอดพงษ์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดประโยคที่ผมคาดไม่ถึงออกมา
" กูไม่ชอบตุ๊ดว่ะ "
ผมตะลึงงัน นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของไอ้เทอดพงษ์
" อะ..อะไรนะ.. "
" มึงได้ยินแล้ว กูขอโทษที่พูดตรงๆ ก็มึงเป็นคนอยากได้ยินเองนี่ "
ผมพยายามควบคุมอารมณ์โกรธเต็มที่แล้วถามมัน
" ใครบอกมึงว่ากูเป็นตุ๊ด "
ไอ้เทอดพงษ์ยักไหล่ทีนึงก่อนจะตอบ
" ไอ้ยุทธบอก แม่งบอกว่ามึงเป็นตุ๊ด แต่กูคิดว่ามึงเกย์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นตุ๊ดหรือเกย์กูก็ไม่ชอบทั้งนั้น "
" มึงจะบ้ารึไง ไปเชื่อคำพูดของไอ้เหี้ยนั่น มันก็พูดไปเรื่อยแหละ กูเป็นตุ๊ดที่ไหนกันเล่า "
ไอ้เทอดพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
" ถ้ามึงไม่ได้เป็น มึงร้อนตัวทำไม มึงถามหาคนที่บอกความลับของมึงให้กูฟังทำไมวะ หนุ่ม "
" กูไม่ได้ร้อนตัว กูแค่อยากรู้ว่าใครมันเป็นคนเอาเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้มาบอกมึง ก็เท่านั้นเอง "
" พอเหอะมึง แก้ตัวไปก็เท่านั้น ถึงไม่มีใครบอกกู กูก็ดูมึงออก มึงทำตาหวานใส่กูหลายครั้งแล้ว นึกว่ากูไม่เห็นรึไง ไอ้เกย์ "
ผมอึ้งอย่างคาดไม่ถึงว่าไอ้เทอดพงษ์จะพูดตรงขนาดนี้ รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน
" ตาหวานอะไรอีกล่ะ กูไม่ได้ทำนะ มึงเข้าใจผิดนะเทอด "
ไอ้เทอดพงษ์มองผมด้วยสายตาแปลกๆ
" กูเข้าใจถูกแล้ว มึงไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้วว่ะ คนอย่างมึงน่ะ ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเป็นเกย์ กูรู้ตัวว่ากูหล่อ มึงคงอยากแดกกูมากล่ะสิ แต่อย่าหวังว่าจะได้แดกกูเลยนะ ไอ้ตี๋ "
ไอ้เทอดพงษ์พูดจบก็หันหลังเตรียมตัวจะเดินกลับ ผมรีบบอกมันทันที
" กูคิดกับมึงแค่เพื่อนนะ กูไม่ได้เป็นเกย์ด้วย มึงต้องเชื่อกูนะ เทอด "
ไอ้เทอดพงษ์นิ่งไปซักพัก ก่อนจะพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเย็นชา
" ขอโทษนะ กูไม่คบเกย์ ! "
แล้วไอ้เทอดพงษ์ก็เดินจากไป ทิ้งผมให้ยืนเคว้งอยู่คนเดียวด้วยจิตใจที่ปวดร้าวสุดจะบรรยาย
ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้เนี่ย ไอ้เทอดเข้าใจผมผิดไปคนนึงแล้ว
เพราะไอ้ยุทธคนเดียว ไอ้ยุทธ มึงทำแบบนี้กับกูทำไม...มึงบอกเพื่อนกูว่ากูเป็นตุ๊ดทำไม...
.................

5 โมงครึ่ง
ปรี๊ดดดดดด....
" ทั้งหมด รวม !! "
หัวหน้าชุดฝึกเป่านกหวีดเรียกรวมพล นศท. ทุกคนต่างรีบวิ่งมาเข้าแถวยังลานรวมพล จากนั้นก็ไปรับข้าวเย็น กับข้าวคือผัดผักและแกงเผ็ด รับข้าวเสร็จก็มานั่งล้อมวงกินกันเงียบๆ กินเสร็จก็ล้างหม้อ แล้วแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว
ตอนหัวค่ำ หัวหน้าชุดฝึกเป่านกหวีดเรียกรวมพลอีกครั้งเพื่อตรวจความเรียบร้อยและอบรม เรื่องระเบียบวินัยจนถึง 3 ทุ่ม ก็ปล่อยพวกเราให้ไปนอน
ผมได้คู่นอน เต็นท์คือไอ้เทอดพงษ์ ตอนแรกผมดีใจที่จะได้นอนเต็นท์เดียวกับคนหล่อๆ เผื่อจะมีโอกาสเล่นอะไรสนุกๆ กับมัน แต่พอเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันเมื่อตอนบ่าย ทำให้ผมคิดว่าไอ้เทอดพงษ์คงไม่อยากนอนเต็นท์เดียวกับผมแล้วแน่ๆ แล้วก็จริงตามคาด เพราะไอ้เทอดพงษ์มุดเข้าไปลากเป้สนามที่เอาวางไว้ในเต็นท์ตั้งแต่ตอนบ่าย ออกมานอกเต็นท์ แล้วเอาเป้สนามสะพายหลังต่อหน้าผมซึ่งยืนมองอยู่หน้าเต็นท์
" มึงจะไปไหน "
ไอ้เทอดพงษ์ตอบโดยไม่มองหน้าผม
" กูก็จะไปนอนกับเพื่อนกูน่ะสิ "
ผมหน้าเสีย อะไรกัน นี่ผมต้องนอนคนเดียวอีกปีแล้วเหรอเนี่ย
" ทำไมมึงไม่นอนกับกูวะ "
" นอนคนเดียวไม่เป็นรึไงมึง "
ไอ้เทอดพงษ์พูดห้วนๆ แล้วเดินแบกเป้จากไป ผมมองตามหลังมันอย่างงงๆ
ผมต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว !
ผมมุดเข้าไปในเต็นท์ด้วยจิตใจที่สุดแสนจะห่อเหี่ยว เอาเป้สนามวางไว้ด้านซ้ายมือ หยิบผ้าปูรองนอนปูลงบนพื้นหญ้า วางผ้าเช็ดตัวไว้บนหัวนอนต่างหมอน แล้วจึงถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว ถอดรองเท้าถุงเท้าโยนไว้ตรงปลายตีน สุดท้ายผมก็ถอดแว่นวางไว้ข้างๆ ผ้าเช็ดตัวที่เอามาทำเป็นหมอนหนุนกบาล พลางถอนหายใจยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อย
นอนคนเดียวเหงาจัง ความรู้สึกเหมือนตอนเข้าค่ายปี 3 เลย แต่ปี 5 นี้คงไม่มีคนมามุดเต็นท์แน่นอน ทั้งกองพันมีแต่ผู้ชายแท้ๆ ทั้งนั้น ป่านนี้คงนอนกันหมดแล้ว
วันแรกนี้ยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ วันต่อๆ ไปคงเหนื่อยกว่านี้แน่ ไม่รู้จะต้องฝึกอะไรบ้าง แต่ผมก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ผมจะต้องผ่านความยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้ ผมคิดพลางดึงชายเสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวออกมานอกกางเกง คลายหัวเข็มขัดออกเล็กน้อยเพื่อให้นอนสบายขึ้น แล้วล้มตัวลงนอนพร้อมกับหลับตา ไม่ช้าผมก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย