Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 377
Message ID: 29
#29, RE: รักลึกลึก ไม่กล้าทึกทัก
Posted by คนอยากลึกลับ on 11-Feb-12 at 07:35 PM
In response to message #27
ตอนที่ 9

ช่วงนี้เข้าสู่ปลายเทอมแรกแล้ว ใกล้สอบกันเต็มที ไวๆจริงๆนะเวลา ผมเจอกับตั้นและเจ๋งบ้างเป็นระยะๆ โทรคุยกันตามสมควร พวกน้องๆก็โทรถามเรื่องด้านภาษาบ้าง ส่วนผมถามพวกเขาในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเด็กวิศวะจะมีทักษะสูงทางด้านนี้อยู่แล้ว

ผมแทบไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยนอกจาก เรียน เรียน เรียนๆๆๆ (หนักมากกก) กับ (วิธีหา)เงิน เงิน เงิน ๆๆๆ ช่วงกลางๆเดือนกันยายน ตั้นกับเจ๋งก็สอบกันเสร็จแล้ว ผมสงสัยว่า ทำไมสอบกันเร็วจัง น้องๆบอกว่าแล้วแต่คณะและชั้นปี อย่างพวกเขา อาจารย์เร่งสอบก่อน เพราะต้องการให้นิสิตได้มีเวลาทำโปรเจกท์ที่เหลือและบางสาขาก็ต้องฝึกงาน ซึ่งก็แล้วแต่จะตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เจ๋งบอกว่า ปิดเทอมนี้ต้องไปทำทัวร์กับป๊าและม้า เป็นทัวร์ในประเทศ ทัวร์ต่างประเทศก็มีเหมือนกันแต่เป็นโปรแกรมหน้า รวยเหลือเกินพ่อคุณ

ตั้นบอกจะกลับไปบ้านสัก 4 - 5 วัน เพราะที่บ้านน้ำท่วม ช่วงที่ฝนตกหนักในกรุงเทพฯช่วงก่อนและน้ำหนุนจากทางเหนือ

“อย่างนี้เขาเรียกว่า หัวบันไดบ้านไม่แห้ง” เจ๋งแซว

“หัวกระไดบ้านพี่ก็ไม่แห้ง ใครผ่านไปมาก็บ้วนน้ำลายเข้าใส่ ขากตุ๊ย ขากตุ๊ย” ผมร่วมแจม

“พอกันเลยทั้งคู่ เข้าขากันดีนักนะ” ตั้นเบรก

“แล้วปิดเทอมกลับบ้านมั้ยพี่ปั่น”เจ๋งถามผม
“ของพี่ปิดเทอมก็เหมือนไม่ปิด ยังไม่ได้สอบเล้ย ถ้าสอบเสร็จก็ต้องลุยวิจัยต่อ และมันก็เป็นช่วงโอกาสทองด้วยที่จะเมกมันนี่ ถ้ากลับบ้าน เฉพาะค่ารถไปกลับก็ปาเข้าเกือบพันบาทแล้ว ไหนจะค่าอื่นๆอีก พี่วางแผนกลับตอนสิ้นปีเอา” ผมร่ายยาว

“สรุปว่า ม่ายกลับ” เจ้าตั้นสรุปความให้ และเสนอต่อ

“งั้นไปเที่ยวบ้านผมมั้ย น่าอยู่น้า”

“คิดดูก่อนได้ป่ะ” ผมยังลังเลหลายๆเรื่อง

“ไปนะพี่ ไปช่วยผมขนของหนีน้ำไง ไม่มีใครช่วยขน สงสารผมเถอะ”ตั้นโอดครวญทำตาปริบๆ

“เออ จริงพี่ปั่น ช่วยไอ้ตั้นมันขนข้าวขนของหน่อย แถมประหยัดค่ากับข้าวอีกหลายวันเชียวนะ” เจ๋งสนับสนุนใหญ่

“ใช่สิ พี่จะประหยัดอีกเยอะเลย........... อ๊ะ....ก็ได้” ผมรับคำอย่างว่าง่าย

“ไม่ค่อยเท่าไรเลยพี่เรา แต่ไงก็รับปากแล้วนะ ห้ามเบี้ยวละกัน งั้นพรุ่งนี้กิ๊กเผลอแล้วเจอกัน”
....................................................

ตั้นเล่าให้ฟังขณะนั่งรถเมล์ไปด้วยกันตอนเย็นๆว่า บ้านอยู่แถบชานเมืองติดกับนนทบุรีโน่น บ้านจึงทำสวนเหมือนคนในพื้นที่ทั่วไป

พอถึง........ บ้านก็น่าอยู่จริงๆแฮะ และก็ไม่ใช่ชาวสวนธรรมดาซะด้วยแต่เป็นระดับเศรษฐีของแถวๆนั้นเลยแหละ(สังเกตจากสภาพโดยรวมหลายปัจจัย) พระเจ้าช่วย คนรอบข้างผมทำไมมีแต่รวยๆกันนะ เจอแม่กับพี่ชายและน้องสาวตั้น แต่ไม่เห็นคุณพ่อ อาจไปทำสวนยังไม่กลับก็ได้

หลังจากที่ไต่ถามกันตามสมควรแล้ว แม่ให้ตั้นพาผมไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อน ใกล้ค่ำค่อยมารับประทานอาหารกัน ครอบครัวนี้รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันดี แต่ก็ยังไม่เห็นคุณพ่อ พี่ชายของตั้นก็แต่งงานเรียบร้อยแล้วลูกสาวอายุ 2 ขวบกำลังน่ารักน่าชัง บรรยากาศจึงครึกครื้นดีเมื่อมีเด็ก เหมือนกับว่าไม่ใช่บรรยากาศของชาวกรุงยังไงยังงั้น

เมื่อทานข้าวเสร็จก็เปลี่ยนมุมมาที่ระเบียงรับลมเย็นๆ ผมคุยต่อพอหอมปากหอมคอ จึงขอตัวออกมาก่อนเพราะครอบครัวไม่ได้เจอตั้นนานอาจจะต้องการคุยอะไรกันเป็นส่วนตัวหน่อยก็ได้

ผมแปรงฟันเสร็จก็ลงเอนกายนอนโซฟาทรงโบราณที่ดูคลาสสิกมาก(ถือคติ กินแล้วนอนพักผ่อนกายา กินแล้วนั่งเมื่อยหลังตาย......) เพื่อดูโทรทัศน์ที่ในห้องนอนซะหน่อย ซักครึ่งชั่วโมงได้มั้ง เสียงประตูเปิดเข้ามา ผมรีบลุกขึ้น....ก็......เดี๋ยวเสียภาพพจน์(ที่แทบไม่เหลืออะไรให้เสีย)

“ทำไม ไม่สนุกหรือพี่ เห็นขึ้นมาก่อน ” ตั้นถาม

“ไม่ใช่ยังงั้นซักหน่อย ที่ไม่อยู่ด้วยเนี่ย เผื่อตั้นมีอะไรที่เป็นส่วนตัวที่อยากคุยกับแม่บ้างก็เท่านั้นเอง”

“แหม มีสมบัติผู้ดีจริงๆน้า”

“ไม่ได้หรอก พี่มีเชื้อเจ้าอยู่”

“เจ้ามือหวย” ตั้นรีบพูด
“คนทรงเจ้าต่างหาก”

“เซ็งเป็ด เซ็งไก่จัง” ตั้นบ่น

“อ้าว นอนต่อซีพี่ปั่น นอนหนุนตักผมก่อนก็ได้”ว่าพลางก็ตบที่ขาของตน

“ตั้น จะทำอะไรพี่น่ะ พี่กลัวแล้ว อย่า อย่า ทำพี่เลย พี่ยังไม่เคยต้องมือใครมาก่อน นอกจากทีน ช่วยด้วย ช่วยด้วย ” ผมร้องเล่นๆ เบาๆ ทำหน้าทำตา เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกเหี่ยวๆไว้ ซึ่งผมก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างนี้

“เฮ้อพี่ตู จะตลกไปถึงหนาย” ตั้นส่ายหัวอย่างเพลียหัวใจ

“อ่ะ มาดิ มานอนเถอะ เราจะได้มีเรื่องเปิดอกคุยกัน ผมยังไม่รู้เรื่องราวของพี่ปั่นแบบเจาะลึกเลย” ตั้นมีสีหน้าจริงจัง

“อืม”ผมขรึมบ้างแต่ไม่วาย
“ให้พี่นอนหนุนตัก แต่ระวังกางเกงตั้นเปื้อนผงนะ เพราะหัวพี่มีแต่ขี้เลื่อย”

“พี่ปั่นนนนน.........”ตั้นคราง

“ก็ด้ายคร้าบ....” เฮ้อ.....จะเอาอารายกับพี่เนี่ยเจ้าตั้น

ผมค่อยๆนอนหงายลงเอาหัวนอนหนุนตักตั้นอย่างเบาที่สุด ก็คนเค้าไม่เคยนี่นา

“ขอจับผมได้ป่าว” ปากถามแต่มือจับไปแล้ว

“อืมม” ผมตอบ ไม่เป็นภาษา รู้สึกแปลกๆจัง อบอุ่นยังไงไม่รู้ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับผมมาก่อน

........เฮ้ย! เฮ้ย! คิดอะไรวะเรา...................... หยุดคิดไปได้เลยนะไอ้ปั่นนนนน..

“ไม่นึกว่าผมจะนุ่มขนาดนี้” ลูบเส้นผมอย่างเบามือ

“นี้แหละเจ้าปั่นผมหอม คู่แข่งเจ้าจันทร์ผมหอมเขาล่ะ” ผมจวนเจียนจะจนมุมไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาแก้เขินให้ตัวเอง

นี่ๆๆๆๆ ไอ้ปั่นเอ๊ยยยย..... แกเขินอะไรวะ.....แกเขินอะไร.......อยากจะบ้าตาย....หนอตู

“พี่ปั่นนี่ก็.... มัน.....น่า........นัก......ฮืมมมมม.....” เสียงตั้นตลกๆ ปนๆกับ เสียงครางในลำคอ