>ผมได้แอบติดตาม
>ผลงานของคุณมาตลอดที่อ่านๆดูมีหลายเรื่องสนุกมาก
>แต่อยากจะแชร์ ไอเดียนิดนึงครับ
>ผมอยากให้นักเขียนทุกก่อนจะโพสเรื่องราวต่างๆ
>จากประสบการณ์จริง หรือเรื่องเขียน เรื่องเล่าอะไรก็แล้วแต่
>ให้ทุกท่านทำให้เสร็จและจบเป็นเรื่องๆก่อน
>แล้วค่อยทะยอยมาลงทีละกี่ตอนก็แล้วแต่คุณจะกรุณา
>ไม่ใช่มาแต่งและค่อยๆเขียนไป
>บางครั้งเรื่องสนุกมากๆๆๆๆๆถึงมากที่สุด
>คนอ่านอินไปกับเรื่องจู่คนแต่งหายไปเลย
>มันทำให้เรารู้สีกเบื่อๆมากเลย แล้วอย่างเว้นช่วงนานมาก
>นานจนลืมไปว่า อันนี้เรื่องอะไร นัดเขียน บางคนขี้นอยด์
>เจอแฟนคลับเมนต์นิดเมนต์หน่อย โมโห
>ผมอยากให้คุณแก้กันตรงจุดนี้กันซะ
ที่จริงแล้ว นักเขียนหลายๆคนอยากเขียนเรื่องให้จบก่อน แล้วเอามาลงเหมือนกัน ตัวเองก็เคยเขียนจบจบแล้วเอามาลง แต่บางครั้ง การเขียนจบ มันใช้เวลานานมาก บางคนใช้เวลาไม่กี่อาทิตย์เขียนจบ บางคนใช้เวลาเป็นเดือน บางคนใช้เวลาเป็นปี เพราะความคิดของนักเขียน มันลื่นไหล ไม่เหมือนกันค่ะ บางครั้งนักเขียนก็เลยใช้วิธีกระตุ้นตัวเอง ด้วยการเขียนไป แต่งไป อย่างน้อย ด้วยคอมเมนต์จากผู้อ่าน หรือการมีคนมารออ่าน ก็ช่วยกระตุ้นให้เกิดความขยัน ความรับผิดชอบต่อคนอ่าน ในการที่จะเขียนงานออกมา และหากไม่มีการกระตุ้น รอจนกว่าจะเขียนจบ บางทีนักเขียนก็จะเขียนกันไปเรื่อยเปื่อย เพราะคิดว่าไม่มีคนรอ อีกทั้งเมื่อเขียนจบแล้ว บางคน ก็เริ่มจะขี้เกียจแปะล่ะ เพราะอาจจะหลายๆหน้า บางคนเขียนเสร็จ ก็อยากจะพิมพ์เลย ก็ไม่อยากลง อะไรแบบนี้ค่ะ เหตุผลแตกต่างกันไปตามแต่ละคน ดังนั้น วิธีที่นักเขียนเลือกใช้ ก็จะเป็นเขียนไป แปะไป เพราะมันได้ทราบฟีดแบ็คจากคนอ่านด้วย ว่าแนวเรื่องแบบนี้คนสนใจไหม หากไม่มีคนอ่าน บางคนก็เลือกที่จะยุติ ไม่เขียนต่อ
สำหรับบางคนที่เขียนไปแล้ว และหยุด ไม่ลงต่อ ก็เป็นหลายเหตุผลค่ะ คือ เขียนไปแล้ว ไม่มีฟีดแบ็คจากคนอ่าน ก็เลยท้อ หยุดเขียนไปดื้อๆ อันนี้นักเขียนใหม่ๆ เป็นกันเยอะค่ะ เขาไม่รู้ว่างานเขียนของเขาเป็นอย่างไร ถูกใจคนไหม พอไม่มีฟิีดแบ็คส์ เขาก็ท้อ เลิกเขียนไป ทั้งที่งานเขียนนั้น อาจจะเป็นงานเขียนที่ดีก็ได้
อีกพวกคือ เกิดภาวะ สมองตันค่ะ คือแบบคิดไม่ออก ไปต่อไม่ได้ ต่อให้มีพล็อตแล้ว ก็ไม่รู้จะต่ออย่างไร บางทีสมองตันเป็นปีๆไปเลยค่ะ จะมาต่ออีกที บางคนก็ลืมไปแล้ว
นักเขียนบางคน ก็เขียนไปด้วย ทำงานประจำไปด้วย บางทีด้วยงานการที่รุมเร้า หรืออะไรหลายๆอย่าง ก็อาจจะทำให้ไม่ว่างที่จะมาเขียนค่ะ
ทั้งนี้ ทั้งนั้น ปัญหาของนักเขียนแต่ละคนจะไม่เหมือนกันค่ะ
ส่วนที่บอกว่า นักเขียนบางคน โดนตำหนิหน่อย ก็รับไม่ได้ อันนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า นักเขียนบางคน ค่อนข้างมีอารมณ์ติสท์ค่ะ คือ ตามบางคนอาจจะเขียนให้อ่านฟรีๆ สนุกๆ ไม่ได้หวังขาย แล้วพอมาโดนตำหนิ ก็เลยอาจจะรับไม่ได้ อาจจะคิดว่า ทำไมต้องมาโดนด่า เลิกเขียน เลิกลง อะไรแบบนี้ค่ะ แต่ไม่ใช่ว่านักเขียนจะเป็นแบบนี้กันทุกๆคน หลายๆคนมีความตั้งอกตั้งใจมากในการเขียนงานค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำดีๆ อย่างนี้ จะพยายามปรับปรุง มาต่อให้บ่อยๆนะคะ เท่าที่จะสามารถทำได้ หากมีข้อแนะนำอะไร ก็แนะนำมาได้อีกนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ .....