Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 416
Message ID: 12
#12, RE: Reasoning (เหตุผลหรือความรัก)
Posted by ไอ้ต้า on 22-Apr-12 at 08:08 AM
In response to message #11
ระหว่างที่ผมกับซันจูบปาก (แต่ไม่ได้ดูดดื่มนะครับ) โทรศัพท์ของซันก็ดังขึ้น แน่นอนครับ แฟนของเขานั่นแหละครับ คงได้เวลาที่เขาต้องคุยกันแล้ว เราผละตัวออกจากกันครับ ซันรับโทรศัพท์พร้อมทำท่า จุ๊ ๆ เป็นสัญญาณบอกว่า ตัวสำรองต้องอยู่ในที่เงียบ ๆ แล้วล่ะครับ
“ฮัลโหล พอดีผมยังเก็บร้านไม่เสร็จเลย” ซันรีบตอบ
“ผมไม่ลืมหรอก ยังไงก็ต้องคุยกับคุณอยู่แล้ว....ผมก็รักคุณเหมือนกัน” ซันพูด
ผมได้แต่ยืนนิ่งเงียบ แม้แต่ขยับยังไม่ขยับเลย สักพักซันก็วางสาย แล้วพูดกับผมว่า
“เห็นไหม ว่าแฟนเขาจะโทรมาคอยเช็คอยู่เรื่อย”
“แล้วซันไม่อึดอัดเหรอครับ ผมจะไม่ทำแบบนี้หรอกนะ” ผมพูด
“ไม่อึดอัดหรอก ก็ผมรักเขานี่นา” ซันตอบผมมาแบบนี้
ผมอึ้ง “จุกอก” หายใจไม่ค่อยถนัด “เหรอครับ อืม ก็ดีนะ แต่ถึงซันจะมีใครแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะเลิกตื้อนะ”
“ผมว่า สุดท้ายมันจะไม่ดีกับเราทั้งหมดนะครับ” ซันให้เหตุผล
“ผมไม่อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอีกแล้ว ตั้งแต่ผมเจอคุณ ชีวิตเดิม ๆ ผมก็มีความสุขขึ้นมาก คุณเติมเต็มมันได้คนเดียว เพราะผมเองก็ไม่เคยเห็นใครในสายตาแบบนี้มาก่อนเลย” ผมพูดพร้อมเดินเข้าไปพยายามที่จะจูบซันอีก แต่ซันดันไว้ ผมแข็งขืน เพราะตอนนี้ผมรักซันมาก ผมต้องการที่จะได้ซันมาเป็นคนรัก โดยที่ผมไม่สนใจว่าซันจะมีใครแล้วรึเปล่า
“ผมต้องกลับบ้านแล้ว” ซันบอก
“ซันไปส่งผมหน่อยได้ไหม นะครับ ผมขอล่ะ”
“ได้ เดี๋ยวผมไปส่ง” ซันยอม

ระหว่างขับรถไปที่หอผม ซันไม่พูดอะไรซักคำเลย เช่นเดียวกับผม ผมว่าสถานการณ์ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วเครียดมากมายเลยครับ พอรถจอดผมก็ยังไม่ยอมลง
“ถึงแล้วต้า ฝันดีครับ” ซันเอ่ยปาก (ก็ไล่ให้ลงนั่นแหละ)
“ซัน ไปห้องผมนะ ได้โปรด”
“ไม่อ่ะครับ ผมต้องรีบไปแล้ว ต้า อย่าดื้อนะครับ”
ผมยื่นหน้าไป คราวนี้ซันไม่ได้แข็งขืน เราจูบกันสักพัก ซันบอกผมว่า
“โอเคนะครับ ไว้เราค่อยเจอกันแล้วกันนะครับ”
“ก็ได้ครับ ผมคิดถึงซันนะครับ” ผมบอกแล้วก็ลงจากรถ ซันก็ขับรถออกไปเลย
ถึงกระนั้นผมกลับมาที่ห้อง อาบน้ำ แล้วออกมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปือย เกี่ยวกับระหว่างผมกับซัน ผมเองก็ตั้งใจแล้วว่า ผมก็คงเต็มที่ จะเดินหน้าเต็มที่ อย่างน้อยผมก็ได้ทำอะไรเพื่อเขา โดยที่ผมไม่สนหรอก ว่าเขาจะทำอะไรเพื่อผมรึเปล่า....

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมลุกขึ้นงัวเงีย แล้วก็เตรียมตัวไปเรียน เผลอแปปเดียวผมก็กำลังจะจบปีสองแล้ว เวลาที่ผมทุ่มเทที่มหาลัยและที่ร้านของซัน นานขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย แต่เราก็ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมกับซันก็ได้อย่างมาแค่จูบ กับกอด ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น เพราะซันเองปิดกั้นตัวเองตลอด ซันไม่เคยเปิดโอกาสใด ๆ ในระหว่างที่ผมกำลังรักซันมาก ซันก็มักจะมีข้ออ้างทำให้ความรักผมสลายไปทุกที T T

วันนี้เป็นอีกวันที่ผมตั้งใจไปซื้อช็อกโกแลตเย็นที่ร้านของซัน เมื่อผมไปถึง ผมกลับไม่เจอซัน ทั้ง ๆ ที่วันนี้ซันควรจะอยู่ร้าน แต่กลับเป็นพี่แก้ว กับผู้ชายอีกคน ผมก็สงสัย เข้าไปทักพี่แก้วเหมือนเช่นเคย
“ไงพี่ วันนี้ผมขอเหมือนเดิมครับ”
“ได้ ๆ รอแป๊ปนึงนะ” แล้วพี่แก้วก็เดินไปบอกผู้ชายคนนั้น แล้วก็สอนว่าทำอย่างไร
ผมคิดในใจ ซันรับพนักงานเพิ่มเหรอ ไม่เห็นบอกผมเลย ทำไมไม่ให้ผมมาทำนะ
“ได้แล้วครับ” ผู้ชายคนนั้นยื่นให้ ผมจ่ายตังค์ไป
“พนักงานใหม่เหรอครับ” ผมถามไป
ผู้ชายคนนั้นยิ้มมุมปาก “อ่อ ครับ” แต่พี่แก้วก็บอกผมว่า “เค้าน่ะ คือหุ้นส่วนของร้าน เพื่อนของซันเขา”
ผู้ชายคนนั้นยิ้มเล็ก ๆ ในขณะที่ผมหน้าเจื่อน
“ขอโทษด้วยครับ ผมกินมาตั้งนานไม่เคยเจอเลย” ผมแก้ตัว
“ไม่เป็นไรครับ จริง ๆ ร้านนี้เราทำด้วยกันตั้งนานแล้ว แต่ผมเพิ่งเรียนจบกลับมา ก็เลยมาช่วยซันเขา”
“อ่อ...” ผมทำเป็นพยักหน้า หลาย ๆ ๆ ครั้ง
ผมพลางคิดในใจ เขานั่นเองเหรอ ที่ซันต้องคอยคุยด้วยสม่ำเสมอ ต้องคอยคุยผ่านกล้อง ที่แท้แล้วเขาอยู่ต่างประเทศนี่เอง ทำไมซันถึงดูห่าง ๆ กับเขา ไม่เคยเห็นซันไปเที่ยวกับเขาเลย เขานี่เอง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ในหัวผมก้องแต่เรื่องเหล่านี้ คิดแล้วคิดอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และแล้วผมก็ถามออกไปว่า “ซันไม่มาเหรอพี่แก้ว”
“ซันเขาไปธุระกะที่บ้านน่ะครับ ผมก็เลยมาช่วยซันเขา” มันตอบแทน
แสดงว่าที่บ้านเขาก็คงรู้จักหมอนี่ดี เครียดว่ะ ออกไปจากตรงนี้ก่อนดีกว่า
“ผมไปแล้วนะพี่แก้ว” พูดเสร็จผมก็พยักหน้าให้หมอนั่นอีกหนึ่งที เป็นการลา
ผมออกจากร้าน งงไปหมด “เค้าดูเหมาะสมกันดีนะ” ในใจผมคิด ผมตบหัวตัวเองหนึ่งที จะบ้าป่ะวะ เหมาะสมห่าอะไร ไม่เห็นจะเหมาะสมซักนิดเลย

วันนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลยครับ ทั้ง ๆ ที่มันใกล้จะสอบแล้วด้วย แต่ผมแคร์ที่ไหนล่ะ ผมไม่สนใจเรียนเท่าไหร่อยู่แล้ว คิดแต่เรื่องของซันกับหมอนั่นอยู่นั่นแหละ แต่หมอนั่นทั้งขาว ทั้งหน้าตาดี ก็คงฐานะเท่าเทียมกัน แถมยังมาก่อนผมตั้งนานอีก T T ผมควรจะทำไงดีนะ ไอ้ที่ว่าสู้ พอเจอตัวเขา กลับเริ่มกลัวแพ้ซะงั้น ผมควรทำยังไงดีนะ คิดไม่ออกแฮะ แล้วตอนนี้เขากลับมาทวงของเขาคืนแล้ว ผมจะมีเวลาได้เจอซันบ้างไหมนะ หลังจากเลิกเรียน ผมก็โทรหาซันเลย
“ซันอยู่ไหนครับเนี่ย ผมคิดถึงนะ”
“อ่อ ผมยังไม่เสร็จธุระเลย”
“อยากชวนนายกินข้าว เอาวันเสาร์นี้ได้ไหม อยากกินข้าวกับนาย” ผมชวน
“เอิ่ม คงไม่สะดวกล่ะ วันหยุดนี้มีนัดแล้ว”
นั่นแหละ ผมก็พอจะรู้สาเหตุ “วันนี้ผมไปร้านมาแล้วนะ เจอเขาด้วย” ผมบอก
“อ่อ เจอเขาแล้วเหรอ อืม ๆ ผมต้องทำธุระน่ะ ไม่สะดวกคุยนะ ต้า แค่นี้นะ” วางสายไปดื้อ ๆ
“เอ่อ....” ไม่ทันได้ตอบตามเคย สุดสัปดาห์นี้คงเบื่อ ๆ เหมือนเคย

ประมาณสองสัปดาห์แล้วที่ผมไม่ได้เจอซันเลย แล้วก็ไม่มีข้อความ ไม่โทรมา ผมก็พอจะเข้าใจ เขาคงมีความสุขกะแฟนของเขานี่เน๊อะ แล้วผมล่ะ มันยุติธรรมกับผมแล้วเหรอ ผมควรจะเลิกลาแค่นี้เหรอ พอคิดยังไม่ทันจะเสร็จ ผมก็รีบเดินออกจากห้อง ตั้งใจจะไปที่ร้านซัน พอไปถึงร้าน ก็แน่นอน อยู่กันสองคน ซันกับหมอนั่น ช่วยกันทำ น่ารักเชียว (แหวะ)
“หวัดดีซัน ไม่ได้คุยกันหลายวันเลย ไม่ได้กินช็อกโกแลตฝีมือซันเลย ขอแก้วนึง”
“อ่อ แป๊ปนึงนะ พี่เซนต์ ชงให้ผมหน่อยดิ” ซันหันไปบอกหมอนั่น
ขนาดชื่อมึงยังดูดีกว่ากูเลย สาดดเอ้ย ไม่เคยอิจฉาผู้ชายด้วยกันมาก่อนนนนเล้ยยยย
“ได้เลย เด๋วพี่ทำให้ เขาเคยมาแล้ว พี่เคยชงให้ก่อนหน้าที่ครั้งนึง” พี่เซนต์ตอบ
“แต่ผมว่านะ ไม่มันค่อยหวานน่ะ ผมชอบที่ซันชงให้ผมมากกว่า” ตอบแบบยิ้ม ๆ ใส่พี่เขา
“เหรอครับ แต่ผมว่ามันเป็นรสชาดที่เหมาะแล้วนะครับ” พี่เซนต์หันมาตอบ
“แสดงว่าพี่ชอบกินอะไรที่ไม่หวานเหรอครับ ชีวิตขาดรสชาดนะครับเนี่ย” ผมก็ยังโต้กลับ
“งั้นเดี๋ยวพี่จะชงให้หวานเป็นพิเศษเลยแล้วกันครับ” พี่เซนต์จัดหนักทั้งนมทั้งนำ้ตาล ดูแล้วคงหวานเจี๊ยบจนกินไม่ได้แน่
ผมก็มอง แล้วกูจะกินได้ไหมเนี่ย มันแกล้งกันชัด ๆ
ซันเองมองไปก็บอกว่า “พี่เซนต์ พี่คงเหนื่อย เดี๋ยวซันชงเองดีกว่าครับ”
“ไม่เป็นไรซัน ก็เขาอยากกินหวานหน่อย พี่ก็อยากให้ลูกค้าประทับใจ” แล้วมองซันด้วยสายตาที่หวานกว่าน้ำตาลที่ใส่ให้ผมซะอีก แล้วก็มองมาที่ผมด้วยสายตาเยาะเย้ย
ไอ้นี่ร้ายไม่เบา มันรู้ว่าตอนนี้มันเป็นเจ้าของซันอยู่ มันก็ถือไพ่เหนือกว่านะสิ
“ไม่เป็นไรหรอกซัน หวาน ๆ แบบนั้นแหละผมชอบ” ผมพูดออกไป
ผมก็มองหน้าไป พี่เซนต์ก็มองหน้าผม ส่วนซันน่ะเหรอ ก็หันมองไปมองมาทั้งสองคนตรงเคาเตอร์นั่นแหละ