หลังจากก้มๆเงยๆดำนาอยู่ตลอดเช้า ทิดต้อมก็รู้สึกเหมือนจะไม่ไหว อาการปวดหลังและสะพานคอจากเมื่อวานเริ่มจะกำเริบขึ้นมาอีกตอนสมัยครองผ้าเหลืองพอหน้านาก็เคยมาดำนา ไถหว่านช่วยพ่อบ้างแต่ก็ไม่เคยต้องกรำงานหนักขนาดนี้ เพราะที่บ้านรู้ดีว่าชายหนุ่มเป็นเพศบรรพชิตจึงไม่ค่อยจะสมควรที่จะต้องมายุ่งงานของฆราวาสแล้วพระต้อมยังมีอีกภาระหนึ่งที่ต้องทำ คือไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยสงฆ์ในตัวจังหวัดทางบ้านจึงไหว้วานให้มาช่วยงานนาเฉพาะตอนที่คนขาดแคลนและเร่งรีบเท่านั้นแม้อาจจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อยที่มีพระใส่ผ้าเหลืองมาช่วยฆราวาสทำนาแต่บ้านไหนๆที่ยากจน และจำเป็นต้องส่งลูกชายไปบวชเรียนในแถบถิ่นนี้ ใครๆก็ทำกันจนเป็นเรื่องปกติดูเหมือนท่านพระครูจะเข้าใจปัญหานี้ของชาวบ้านดี จึงไม่ได้ห้ามปรามอะไร
ชายหนุ่มลุกลี้ลุกลนบิดเอวสะบัดคออยู่หลายรอบ จนเป็นที่สังเกตของเหล่าน้าๆ พี่สาว และแม่ น้าชายซึ่งลอบสังเกตอาการอยู่นานจึงทักขึ้น
“ไหวไหมล่ะหม่อม?”(คนอีสานเรียกคนที่เคยบวชเรียนแล้วว่า หม่อม เหมือนคำว่า ทิด ในภาคกลางและคำว่าหนาน ในภาคเหนือ ) ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆ ไม่ว่าตอบยังไงแต่บรรดาญาติพี่น้องก็ดูออกว่าเขาคงจะไม่ไหวจริงๆทั้งๆที่ชายหนุ่มไม่เคยทำงานหนักขนาดนี้ แต่ตั้งแต่สึกมา ก็ไม่เคยมีวันไหนที่เขาพักกินแรงญาติพี่น้องคนอื่นของตนเองเลยที่นา 25 ไร่ที่มีอยู่ ถึงแม้จะแม่ใหญ่จะแบ่งให้ลูกๆทุกคนหมดแล้ว แต่พอถึงหน้านาทุกบ้านก็ต้องมารวมกันทำนา เพื่อให้ได้ผลผลิตเยอะที่สุด แปลงข้าวเหนียว ปลูกน้อยเก็บใส่ยุ้งไว้กินเอง แปลงข้าวจ้าว ปลูกเยอะ เพื่อนำไปขายส่วนแม่ของเด็กแอมที่ไปทำงานที่ กรุงเทพฯ แม้ไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำนา แต่ก็ต้องมีส่วนร่วมในการส่งเงินค่าปุ๋ยและเงินค่าเก็บเกี่ยวทุกปีเช่นกัน
เมื่อทุกคนเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของไอ้ทิดสึกใหม่ดังนั้นจึงออกปากไล่ให้กลับไปพักที่บ้านเสีย ฝนก็ตกปรอยๆตลอดทั้งวันเดี๋ยวจะพาลไม่สบายหนักเข้าไปใหญ่ ชายหนุ่มเลยบอกความประสงค์ไปว่าพอขึ้นบ้านแล้วคงจะหาอะไรกินสักหน่อย ผลัดเสื้อผ้า แล้วจะเลยไปบ้านตาทองหมอจับเส้นประจำหมู่บ้าน เพื่อให้จับเส้นทุเลาอาการปวดหลังให้ ทิดต้อมเร่งทำเวลาเพราะกลัวว่าระหว่างเดินทาง ฝนจะเทลงมาหนักว่าเดิม ตอนนี้แค่ปรอยๆ แต่ดูอาการแล้วบ่ายๆน่าจะเทลงมาอย่างหนัก
หลังจากล้างตัวผลัดเสื้อผ้าเสร็จ ชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าเร่งไปยังบ้านพ่อใหญ่ทอง ในมือมีเพียงเศษกระดาษลังเก่าๆไว้บังคุ้มฝนแล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ทีเดียวว่าถึงแม้จะเร่งฝีเท้าเท่าไหร่ก็ไม่อาจคาดเดาฝนฟ้าได้เพราะเมื่อเดินยังไม่ถึงครึ่งทางดี ฝนที่ตกเพียงปรอยๆเมื่อครู่ ก็เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตากว่าจะถึงบ้านพ่อใหญ่ทอง ซึ่งปลูกอยู่เนินที่ดอนกลางทุ่งนา50ไร่ของแกทิดต้อมก็เปียกแทบหมดทั้งตัว ท่อนบนนี่เรียกว่าเปียกซกจริงๆดีแต่ท่อนล่างที่แค่พอชื้นๆที่เปียกจริงๆคือขากางเกงสแลคตัวเก่าของพ่อที่ทิดต้อมนุ่งมา
“ ใหญ่ทอง!.....ใหญ่ทอง!.....อยู่บ่?”ทิดต้อมตะโกนเรียนเจ้าบ้านแข่งกับเสียงฝนที่ตกไม่ลืมหูลืมตาแล้วตอนนี้ คำว่า “ใหญ่”เป็นคำเรียกอย่างย่อๆของคนอีสานที่ใช้เรียกผู้สูงอายุ ทั้งนี้เรียกนำหน้าผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณบ้าน เคยเห็นไกลๆจากถนน เวลาเดินบิณฑบาตไม่คิดว่าเนินที่ดอนกลางนาที่พ่อใหญ่ทองใช้ปลูกบ้านจะร่มรื่นน่าอยู่ขนาดนี้ เห็นแค่เป็นเนินเขียวๆจากไกลๆพอได้เข้ามาถึงรู้ว่า บ้านใต้ถุนสูงของเฒ่าทอง สร้างจากไม้พยุงอย่างดีปลูกอยู่ท่ามกลางดงต้นหมากสูงเสียดยอดนับสิบๆต้น แซมด้วยต้นมะพร้าวกับต้นยางนาตามพื้นดินมีปลูกต้นเฟิร์นแซมใบเตยและไม้ดอกอื่นๆ มีกล้วยไม้ตามคาคบไม้ประดับประดาดูพิถีพิถัน สุนทรีย์กว่าบ้านชาวบ้านคนอื่นๆในสมัยนั้น
“ ใหญ่ทอง!.....ใหญ่ทอง!....” ชายหนุ่มตะโกนดังขึ้นพร้อมกับตักน้ำจากบ่อปูนเชิงบันใดบ้านมาล้างเท้า ซึ่งตอนนี้เลอะโคลนจนถึงตาตุ่ม
“เอ้วว...แม่นไผล่ะนั่น?” (เออ..นั่นใครล่ะนั่น) เสียงแหบห้าวปนแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ของพ่อใหญ่ทองดังมาจากบนตัวเรือน พร้อมกับหน้าเหี่ยวๆที่เยี่ยมลงมามองหาคนที่เรียกตัวเองตาเฒ่าทอง กำลังแทะเม็ดมะม่วงสุกอย่างเอร็ดอร่อยแกเสือกเม็ดมะม่วงตามยาวเข้าในปากไปกว่าครึ่ง ก่อนจะใช้เหงือกดูดดังจั๊บๆแล้วขย้อนคายออกมา ปากย่นยู่บู้บี้จนหน้าพับไปครึ่งเหมือนนักแสดงตลกชื่อดัง สังข์ทองสีใส ทิดต้อมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
“พ่อใหญ่กินมะม่วงทำไมไม่ใส่ฟันปลอม?” ชายหนุ่มถามเกือบหลุดขำ
“โอ้ยย ใส่แข่วปลอมกะดูดเม็ดมันไม่ได้สิ...ว่ายังไงล่ะหม่อม ขึ้นมาๆๆ..ทำไมถึงได้ตากฝนมาถึงนี่เปียกหมดแล้วนั่น ” ตาเฒ่าทองพูดพลางกุลีกุจอ เปิดประตูไม้ระแนงหน้าบันใดให้ทิดต้อมทิดต้อมก้าวขึ้นบันใดอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ปวดเอ็นคอไปถึงหลังเหลือเกินแล้วพ่อใหญ่กลางคืนนอนก็ไม่อยากจะหลับ มันร้าวลงไปถึงบั้นเอว” บอกเล่าอาการตนเองเสร็จชายหนุ่มก็พาตัวเองขึ้นถึงตัวชานเรือนพอดีเขาเชื้อเชิญตัวเองนั่งลงตรงพักชานของบ้านอย่างไม่ต้องให้เจ้าบ้านบอกพื้นกระดาษไม้แดงมันปราบเสียจนทิดต้อมรู้สึกเกรงใจไม่กล้าลุกล้ำเข้าไปข้างใน ได้แต่นั่งหมิ่นๆอยู่ขอบชานบ้าน
ตาเฒ่าทองทิ้งเม็ดมะม่วงเกลี้ยงๆนั้นไปหลังจากดูดดื่มความหอมหวานจนหมดแล้ว แกตักน้ำจากตุ่มที่ชานบ้านล้างมือลวกๆแล้วเช็ดกับกางเกงที่ใส่อยู่พอหมาด สายตามองชายหนุ่มผู้เป็นอาคันตุกะในวันเงียบเหงาคราวฝนตกอย่างพินิจพิเคราะห์โอ้ว..พอมีผมกับคิ้วแล้วหล่อไม่หยอกเลยทีเดียวดั้งจมูกก็คมสันผิดกับชาวบ้านทั่วๆไปแถวนี้ ไรหนวดเขียวครึ้มนั่นตอนเป็นพระไม่เคยเห็นมาก่อน นี่ดูจะคล้ำขึ้นซินะ ..โถ คงต้องตากตรำทำนา แต่ล่ำสันขึ้นเยอะตรงไหนสมควรโป่งก็โป่ง ตรงไหนควรแน่นก็นูนเด่นเหมือนอย่างแผงหน้าอกภายใต้เสื้อเชิ้ตเก่าๆเปียกน้ำบางแทบขาดตัวนั้นไง ยอดนมกลมนูนคล้ำตั้งชูชั้นต้านเสื้อเปียกออกมาเด่นเชียว
“อ้าวทำไมไปนั่งซะไกลขนาดนั้นล่ะ เข้ามาๆ เข้านั่งข้างในเสื่อนี่ พ่อใหญ่จะดูให้โอ้ว สงสัยจะก้มดำนาเยอะเกินไป คนไม่เคยทำก็อย่างงี้แหละ”เฒ่าทองตบพื้นกระดานข้างตัวเรียกชายหนุ่ม ทิดต้อมเก้ๆกังๆก่อนจะบ่นอุบว่าเสื้อผ้าเปียก กลัวเปื้อนพื้นกระดานบ้าน เฒ่าทองจึงร้องบอกไม่ต้องเกรงใจพลางเข้าไปหาหยิบผ้าขาวม้าผืนใหม่มาให้ชายหนุ่มได้ผัดเพราะยังไงตอนจับเส้นก็ต้องถอดเสื้อผ้าอยู่แล้ว แกว่างั้น ทิดต้อมนึกเอะใจนิดหน่อยตอนแกไปนวดให้ท่านพระครูที่วัด ก็ไม่เห็นท่านต้องถอดอะไรสักชิ้นเฒ่าทองยัดผ้าขาวม้าใส่มือให้ชายหนุ่มผลัด บอกว่าต้องถอดเสื้อจะได้จับเส้นได้ถนัดไม่ทันได้ว่ายังไง แกก็หันไปปูผ้าผ่อน จัดขันดอกไม้บูชาครูก่อนนวดแล้วชายหนุ่มเลี่ยงไม่ได้ จึงค่อยๆผลัดผ้าออกตามความต้องการของหมอนวดเฒ่า
บัดนี้ร่างกำยำของทิดสึกใหม่ มีเพียงผ้าขาวม้าผืนจิ๋วห่อหุ่มท่อนล่างเดชะบุญที่กางเกงลิงไม่เปียก จึงไม่รู้สึกโล่งมากนัก ตอนนุ่งจีวร มันโล่งกว่านี้เพราะไม่ได้ใส่กางเกงในด้วยข้อบังคับของศาสนา ตอนอยู่กับบ้านเค้าก็ไม่ค่อยใส่กางเกงในเพราะเคยชินกับตอนครองเพศบรรพชิต แต่ไม่มีครั้งใหนที่รู้สึกหวาดระแวงเท่ากับตอนนี้
เฒ่าทองจัดแจงให้ชายหนุ่มนอนคว่ำหน้าลงบนผ้านวมที่ปูอยู่บนกระดานเรือนได้กลิ่นน้ำมันรากไม้ผสมว่านตำรับอีสานโบราณหอมเย็นๆลอยมาปะทะจมูกผสมกลิ่นฝนจากภายนอก ทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายจนแทบตาจะปิด แม้จะเป็นตอนกลางวันแต่แสงในวันฝนตกแบบนี้ ก็ทำให้ทั้งเรือนเกือบจะมืดไปหมดยิ่งตาเฒ่าทองเอาบังตาไม้ไผ่มากั้นปิดพื้นที่นอกชานบ้านไว้ด้วยก็ยิ่งทำให้มันมิดชิดราวกับเป็นที่นอนชั้นดี ฝนตก ฟ้าร้องครืนๆผสมกับมือหยาบร้อนผะผ่าวไปด้วยน้ำมันรากไม้ ทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ทิดต้อมปล่อยให้เฒ่าทองนวดเฟ้นทั่วแผ่นหลังด้วยความเพลิดเพลิน
“โห้...หลังตึงคักหม่อม...ตรงไหนก็ตึงแข็งไปหมด..นี่ๆ ตรงเส้นนี้แหละที่เป็นปัญหา” เสียงแหบพร่าของเฒ่าทอง บรรยายถึงการทำงานของตัวอย่างชวนเชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญพักหนึ่งนิ้วหยาบๆร้อนๆก็ไล่ดึงเส้นจากสีข้างลำตัวของชายหนุ่มลงต่ำถึงแถวบั้นเอง
“นี่ไงเห็นไหมตรงนี้ มันดันเป็นก้อนขึ้นมา” เฒ่าทองเจ้าเล่ห์ สอดนิ้วมือไล้มาตรงเส้นวีไลน์ ด้านหน้าต้องแบนราบของชายหนุ่ม ทิดต้อมสะดุ้งโหยงตกใจเพราะนอกจากเด็กแอมที่ล้วงล้ำจับท่อนเอ็นของเขาเมื่อเช้า ก็มีเฒ่าทองอีกคนนี่แหละที่ถึงเนื้อถึงตัวเขามากขนาดนี้
“ทีนี้นอนหงาย หงายขึ้นมาหม่อมพ่อใหญ่จะไล่เส้นตรงนี้ต่อ ไม่งั้นยังไงก็ไม่หาย”
ทิดต้อมชั่งใจแต่ก็ยอมนอนหงายโดยดีเพราะกลัวไม่หายปวดหลัง ว่าแต่ ตูปวดหลัง มันเกี่ยวอะไรกับข้อพับขาฟะ..ชายหนุ่มคิดในใจ
กิ่นสาปหนุ่มจากเรือนร่างกำยำทำเอาเฒ่าทองราคะกระเจิง จิ้งจอกเฒ่าลูบไล้นวดเฟ้นแถววีไลน์ของชายหนุ่มอย่างยหยั่งเชิงเมื่อเห็นทิดต้อมไม่ขัดขืน จึงค่อยๆรุกล้ำเลื้อยมือซุกซนต่อเข้าไปใต้ปมผ้าขาวม้าชายหนุ่มรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี แต่ก็ เออ อาจจะเป็นอย่างเฒ่าทองว่าเพราะเส้นตรงข้อพับมันก็ตึงจริงๆ
“หม่อมพ่อใหญ่จะขอปลดผ้าขาวมาออกนะ มันเกะกะ จับเส้นไม่ถนัด” เสียงแหบพร่าถามเบาๆ แต่ไม่รอคำอนุญาตเฒ่าทองถือวิสาสะปลดปมผ้าข้าวมาออกจากเอวทิดทอง ชายหนุ่มที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับน้ำมือนวดอันเชี่ยวชาญได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไม่เท่าทันเหลี่ยมของจิ้งจอกเฒ่า
ทันทีที่เปลื้องผ้าขาวม้าออก เฒ่าทองก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ กลิ่นสาปหนุ่มอ่อนๆผสมกลิ่นสบู่โชยกรุ่นขึ้นมาประทะจมูก กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นขอบยางกางเกงใน บวกกลิ่นคาวของซอกเร้นจากร่างกายหนุ่มฉกรรจ์ปลุกเร้าความเป็นปีศาจร้ายของตาเฒ่าขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกส่วนลึก ใจเฒ่าๆที่เหมือนจะเต้นอย่างอ่อนระโหยมาช้านานบัดนี้กลับเต้นเป็นจังหวะเพลงสาวจันทร์กั้งโกบ เพิ่มความกระชุ่มกระชวยต่ออายุให้จิ้งจอกเฒ่าอย่างกับได้น้ำทิพย์มาชะโลม
ร่างกำยำเกือบเปลือยเปล่าของทิดต้อมที่นอนหงายแผ่หลาอยู่ตรงหน้านั้น ช่างเป็นตัวกระตุ้นแรงราคะที่เคยสงบไปนานของเฒ่าทองให้มีชีวิตขี้นอีกครั้งมือหยาบชุ่มน้ำมันรากไม้นวดเฟ้นไปทั่วความแกร่งแน่นของชายวัยหนุ่มฉกรรณ์อย่างย่ามใจหลายครั้งหลายหนที่เฒ่าทองใช้ควมเจนวิชานวด จงใจเฟ้นมือเพื่อกระตุ้นความกำหนัดของทิดต้อมซึ่งมันก็ได้ผล ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงในสีดำซีดๆตัวจิ๋ว ดูเหมือนจะค่อยๆตื่นขึ้นทีละน้อยๆในขณะที่ชายหุ่มหลับตาปี๋ หายใจฟืดฟาด ใบหน้าเริ่มแดงกล่ำ เพราะรู้ตัวว่าชักจะควบคุมเจ้าน้องชายของตนเองไม่ได้แม้ว่าสภาพสารร่างของเฒ่าทองไม่ต่างจากซากศพเดินดินนัก แต่ฝีมือการนวดคลึงของแกกลับกระตุ้นราคะของทิดต้อมอย่างไม่น่าเชื่อ เฒ่าทองไล่น้ำหนักมือต่ำลง..ต่ำลงในที่สุดก็ใจกล้าพอที่จะเหน็บนิ้วมือเข้าไปใต้ขอบขากางเกงใน จนเข้าไปชอนไชในพงขนยุ่งๆตรงโคนของน้องชายของชายหนุ่ม...ทิดต้อมหลับตาปี๋ละอายใจเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมาดูปฎิกิริยาของเจ้าท่อนลำไม่รักดีของตัวเอง ที่ในที่สุดตอนนี้ก็ผงาดง้ำเด่ขึงเครียดจนแทบระเบิด
แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็ผวาเฮื้อก ทะลึ่งลุกนั่งพร้อมเอามือกุมของสงวนตนไว้อย่างละอายใจ
“พอก่อนพ่อใหญ่!..พอก่อนๆ!” ชายหนุ่มละล้ำละลักบอกเสียงหลง
“หึ๋ยย..มันไม่เป็นไรหรอกน่าจะหวงทำไม นี่พ่อใหญ่กำลังจะช่วยให้หม่อมหายปวดหลัง ไม่ทำแบบนี้ก็ไม่หายนะ!” เฒ่าทองแหว๋ขึ้นมาบ้าง ทิดทองชะงัก “อย่าไปให้คนไม่รู้วิชานวดนะคนไม่รู้นวดเสียเส้นเสียเอ็นเป็นง่อยไปหลายคนแล้ว” เสียงของแม่ใหญ่ลอยมาเข้าหัวทิดต้อมอีกครั้งยอมก็ยอมวะ อายคนแก่ ดีกว่าเป็นง่อย และแล้วชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างว่าง่ายเขารู้สึกว่าอายจนใบหูร้อนหน้าแดงก่ำ นอนตัวเกร็งทื่อ เบือนหน้าหนีเฒ่าทองในขณะที่ท่อนลำแข็งโด่ตุงขอบกางเกงใน
เฒ่าทองสังเกตเห็นน้ำเหนียวๆที่ซึมผ่านผ้ายืดตรงหัวทู่ๆของท่อนลำทิดต้อมก็รับรู้ว่าแผนการของตนสำเร็จไปมากว่าครึ่งแล้ว ได้แต่หักห้ามใจให้ไม่ผลีผลามเดี๋ยวไก่ตื่นหมด หมูในอวยจะเชือดเมื่อไหร่ก็ได้..
“โอ้...หม่อมเอ้ยยยทำไมมันตึงมันเครียดขนาดนี้..ดูสิ แข็งเกร็งไปหมดตัวเลยพาลจะเป็นตะคริวได้ง่ายๆเด้อ ...อย่าว่าพ่อใหญ่เด้อ...ขอถามสักคำ....ตั้งแต่สึกออกมา..หม่อมเคยชักว่าวซักทีไหม?”ในที่สุดก็เข้าแผน เฒ่าทองยิ้มมุมปากในขณะที่กดนิ้วนวดทั่วดงขนใต้ขอบกางเกงใน ทิดต้อมงงเต็ก!..ชักว่าว!!...มันคืออันหยังหว่าแล้วถ้าไปชักว่าว มันจะทำให้หายปวดหลังได้ไงวะ
“ฝนตกออกขนาดนี้ไม่ใช่หน้าหนาวซักหน่อย จะไปแล่นว่าวได้ยังไงพ่อใหญ่ ใครเค้าพากันแล่นว่าวหน้านี้?”ด้วยความอ่อนต่อทางโลก ทิดสึกใหม่ได้ปล่อยไก่ตัวโตเข้าให้แล้ว เฒ่าทองระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างพอใจทำเอาชายหนุ่มงงเป็นไก่ตาแตก
“เขาบ่ได้ชักกันแบบนั้นเขาชักกันแบบนี้ ..นี่ อยู่เฉยๆนะ” เฒ่าทองกำชับ ไวเท่าคำพูดมือสากๆเหี่ยวๆงั้ดท่อนลำชองชายหนุ่มออกมาทางขอบขากางเกงใน แล้วมันก็ดีดผึงเหยียดยาวออกมาส่ายโงนเงนอยู่ภายนอก เส้นเอ็ดขอดแน่น ปูดโปนพันทั่วทั้งลำแกร่งส่วนหัวนั้นบานทะร่าแดงก่ำ อย่างที่เรียกกันว่า “หัวแมว”หนังหุ้มยังคงเปิดได้ครึ่งเดียว ส่วนปลายมีน้ำใสเหนียวเยิ้มซึมออกมาบ่งบอกถึงความเต็มกลั้นของอารมณ์วัยหนุ่มที่พร้อมประทุได้ทุกเมื่อ
ทิดต้อมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกยังไม่ทันได้ห้ามปราม จิ้งจอกเฒ่าก็ระรัวเพลงมืออย่างเร่าร้อน มือลื่นๆฉาบไปด้วยน้ำมันรากไม้อุ่นๆเฟ้นนวดตรงจุดกระสันเปลือยหนังที่ด้านหัวท่อนเอ็นมือสากอุ่นคล่องแคล้วนั้นสร้างความวาบหวามซ่านเสียวไปทั่วหัวหน่าวและท้องน้อยทิดต้อมเสียวท่อนลำจนร้อนถึงฝ่าเท้า กัดฟันกรอด เข่าอ่อนไร้เรี่ยวแรงพอจะผงกตัวขึ้นขัดขืน ก็โดนเฒ่าทองใช้มืออีกข้างกดหน้าอกลงให้นอนราบกับพื้นส่วนมืออีกข้างก็สาวท่อนลำอย่างเร่าร้อน
“โอ้ยยย..อูยยพ่อใหญ่ อันนี้..เค้าเรียกว่า เสียกโ_ยมันไม่ใช่ชักว่าว.ว..” ทิดต้อมชี้แจงเสียงกระเส่า ตัวบิดเกร็งด้วยความสยิวไปทั้งร่างขับให้กล้ามเนื้อหนั่นแน่นของวัยหนุ่มเขม็งชัด ยิ่งกระตุ้นเร้าราคะของจิ้งจอกเฒ่ามากขั้นเฒ่าทองหัวเราะพอใจ โอ้ยย. โตเป็นหนุ่มขนาดนี้ไม่รู้จักการชักว่าวสมกับที่ไปบวชเรียนตั้งแต่เล็ก ไร้เดียงสาเสียจริง ( ปล. คำว่าชักว่าวเป็นคำค่อนข้างใหม่สำหรับชาวอีสาน ยิ่งอีสานแถบชนบทตอนปี พ.ศ.2528 แล้วด้วยแทบจะไม่เคยได้ยินคำนี้ ชักว่าหมายถึงการเล่นว่าวจริงๆ ส่วนการช่วยตัวเองส่วนใหญ่จะใช้คำว่า “เสียกโ­­_ย” ซึ่งปัจจุบันไม่พูดคำนี้กันแล้ว)
“โอ้ย ยย ย อูยย..พ่อใหญ่...พอเถอะ...เยี่ยวจะแตก” ทิดต้อมโอดคราญแต่เฒ่าทองไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมือแต่อย่างใดกลับงัดกลเม็ดเด็ดพรายออกมาเพื่อเด็ดหัวขั้วชายหนุ่มให้กระสันอยากกว่าเดิมกะเทยเฒ่าค่อยๆร่นหนังหุ้มปลายของท่อนเอ็นชายหนุ่มลง ในที่สุด ดอกเห็ดหัวแดงก่ำก็บานทะโร่ชูชั้น อยู่ต่อหน้า กลิ่นเค้มอ่อนปนควาหนุ่ม โชยชัดเข้าจูก ทำเอาตาเฒ่าน้ำลายสอตาลุกวาวอย่างสมใจ มือหนึ่งรั้งหนังไว้สุดโคนส่วนอีกมือหนึ่งที่เยิ้มไปด้วยน้ำมันอุ่น ระรัวเฟ้นหัวบานเปลือยหนังอย่างหนักหน่วงรุนแรงแต่เนิบนาบ จนบางจังหวะส่วนเนื้อหัวเปลือยทะลักล้นออกมาตามซอกนิ้วของชายแก่มันช่างสร้างความหฤหรรซ่านเสียวให้กับทิดต้อมอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มหอบหายใจกระเส่าตัวโยนราวกับจับไข้แขนขาอ่อนแรงยวบยาบ แต่กระตุกตัวโดยอัตโนมัติตามจังหวะมือสากร้อนที่เฟ้นนวดหัวดอกเห็ดทิดต้อมไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืนอีกต่อไป ได้แต่ปล่อยให้ตาเฒ่าปรนเปรอความเสียวให้ด้วยมืออย่างตามแต่ใจตาเฒ่าจะกำหนดอารมณ์อารมณ์ของทิดสึกใหม่อ่อนต่อโลก มีอันเตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหน
“ พ่อใหญ่..ญ ญ พ่อ..ใหญ่ญ ญ .. ผม ..ผม.”ชายหนุ่มครวญกระเส่า ทั้งความรู้สึกผิดศีลธรรมไม่ถูกต้อง และความรู้สึกดีซ่านเสียว วาบหวาม ตีกันมั่วไปหมด แบบนี้มันอะไรกัน ทำไมมันเสียวเหมือนจะขาดใจตาย..หรือนี่พ่อใหญ่ทองกำลังจะฆ่าเค้าให้ตายงั้นหรือหรือมันคืออะไร ทำไม มันช่างวาบหวามแบบนี้.. ชายหนุ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ จนปล่อยให้เลยตามเลยเป็นไงเป็นกัน จะตายก็ช่างมัน แค่อยากรู้ว่าตรงสุดปลายทางขอการกระทำนี้มันจะเป็นยังไงราวกับตกกระไดแล้วต้องพลอยโจน ทิดต้อมไม่อยากจะขัดขืนจิ้งจอกเฒ่าอีกต่อไป
จู่ๆเฒ่าทองก็หยุดการกระทำของตัวเองลงดื้อๆ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ หอบแฮ่กๆ นอนแผ่หราสิ้นเรี่ยวแรง ...จบแล้วเหรอ..ชักว่าวมันเป็นแบบนี้เหรอ..โอ้วว..ทิดต้อมครุ่นคิดในใจแต่ยังไม่ทันได้สงสัยมากไปกว่านั้น ความเสียวซ่านครั้งใหม่กับจู่โจมเข้าหาชายหนุ่มอย่างไม่ทันตั้งตัวความเสียววูบวาบระรัวที่ช่างอ่อนโยนแต่รุนแรงนี้มันคืออะไรกันทำมันช่างสร้างความหฤหรรษ์ได้มากกว่าการชักว่าวที่ตาเฒ่าทองกระทำกับเขาก่อหน้านี้ทิดต้อมรู้สึกว่าท่อนลำแข็งเครียดของ เขากำลังทลวงลึกเข้าสู่บางสิ่ง บางสิ่งที่อุ่นจัดกระชับแน่นราวสุญญากาศ แล้วไอ้แผ่นสากหนาหยุนๆที่ปาดไปมาอยู่ตรงคอดอกเห็ดตอนนี้มันช่างสร้างความรู้สึกเสียววาบหวามได้มากกว่ามือสากๆของตาเฒ่าเป็นไหนๆตาเฒ่าทำอะไร ทำไมถึงเก่งกาจขนาดนี้ ชายหนุ่มยันข้อศอกชะโงกตัวขึ้นดู ก็ต้องตกใจจนตัวแข็งเมื่อพบว่าเฒ่าทองได้เก็บกลืนท่อนเอ็นหัวบานของตนไว้ในปากไปจนหมดทั้งลำแล้วท่อนลำของทิดต้อมไม่ใช่ย่อมๆ แต่ตาเฒ่าทองเขมือบกินเข้าไปจนมิดหาย จมูกมู่ทู่ของแกซุกชิดอยู่ในดงขนรอบหัวหน่าวของชายหนุ่มในขณะที่หัวบานของเขาก็แทรกเสือกหายเข้าไปในปากตาเฒ่าทองถึงไหนต่อไหนเฒ่าทองออกแรงสาวปากดูดขึ้นลงดัง จ๊วบบบ จ๊าบบบ..แล้วเม้มรูดปากแน่นขึ้นตามแนวตั้งของท่อนเอ็นก่อนจะขะยักเม้มส่วนดอกเห็ดไว้ให้บานเต็มโพร่งปาก ส่วนลิ้นสากก็ระรานไปทั่วหัวเห็นอย่างคล่องแคล้วแกใช้ปากดูดเฟ้นส่วนหัวบานเปลือยราวกับเป็นไอติมรสอร่อยทิดต้อมตกใจกับภาพตรงหน้าแทบบ้า ถึงแม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตนโดนกระทำอยู่นี้มันไม่ถูก ไม่ควรแต่ความเสียวซ่านก็พาอารมณ์ของชายหนุ่มเตลิดไปไหนต่อไหนเกิดมาเค้าก็เพิ่งเคยโดนกระทำแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตภาพที่ตาเฒ่าทองดูดกินท่อนเอ็นแข็งปูดโปนของเขา มันกลับเร้าอารมณ์อย่างบอกไม่ถูกต้องทุ่มเทดูดดุนของสกปรกขนาดนี้เชียวเหรอ ชายหนุ่มรู้สึกถึงพลังแห่งความหลงใหลจากเฒ่าทองมันทำให้ทิดต้อมรู้สึกย่ามใจ เป็นต่อและมีอำนาจเหนือกะเทยเฒ่าที่กำลังค้อมหัวลงต่ำราวทำความเคารพเค้าอยู่ ตุ๊ดเฒ่าไม่ยอมเสียเวลาทองไปแม้แต่วินาทีเดียวสูบกลืนความหนุ่มของทิดต้อมอย่างตะกละตะกราม ท่อนลำหัวบานนั้นทะลวงเข้าปากเหี่ยวๆของเฒ่าทองอย่างสะดวกโยธินครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเพราะภายในนั้นไม่มีฟันเลยแม่แต่ซี่เดียว เหงือกลื่นๆที่ขบเม้มคอหยักไว้ทำงานสอดรับกันกับลิ้นสากๆแสนซุกซนของตาแก่ทองอย่างเข้าขา ทิดต้อมหารู้ไม่ว่า นี่คือสุดยอดของการทำรักด้วยปากแล้วจะมีชายสักกี่คน ที่โดนดูดลำโดยไม่โดยฟันมาทำร้ายให้เสียอารมณ์
“ พ่อใหญ่...พะพ่อ.. โอยยย..ผมเสียววว โอยย..ใจจะขาดแล้ววว....” ชายหนุ่มแอ่นเอวเสือกลำเข้าสู้ปากของตาเฒ่าอย่างลืมตัวบัดนี้ความเสียวซ่านที่โจมตีท่อนเอ็นของเขา กำลังจะถึงปลายทางของมันแล้วชายหนุ่มไม่รู้ว่า ปลายทางมันคืออะไร รู้แต่ว่าจะหยุดกลางคันตอนนี้ไม่ได้
“พ่อใหญ่..ผมไม่ไหวแล้ว..ผม..ผมเยี่ยวจะแตกแล้วว.ว..”ทิดต้อมระล่ำระลัก ตัวเกร็งกระตุก เฒ่าทองตั้งหน้าตาดูดกลืนความหนุ่มอย่างไม่ปราณีปราศัยอีกต่อไป
จ๊วบๆๆๆๆๆ จ๊วบบบบ จ๊วบๆๆๆๆๆ จ๊วบบบบ จ๊วบๆๆๆๆๆจ๊วบบบบ จ๊วบๆๆๆๆๆ จ๊วบบบ...
เสียงดูดของตาเฒ่า ดังแข่งกันกับเสียงฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักทิดต้อมหน้าแหงนหลับตาปี๋ แอ่นตัวให้ตาเฒ่าทองดูดดื่มท่อนลำอย่างไร้ทางสู้ความเสียวซ่านรุนแรงจู่โจมเข้าสู่ร่างกายไปทุกอณู จนในที่สุดก็เกินที่จะต้านทานไหวและแล้วชายหนุ่มก็ต้องพ่ายแพ้ให้แกจิ้งจอกเฒ่าจอมหื่น เขาตัวเกร็งแน่น เสือกท่อนอัดปากชายแก่จนมิดจมหานท่อนลำที่เสือกกระทุ้งในปากชายแก่นั้น กระตุกเป็นจังหวะหงึกๆอยู่หลายที กระฉูดพลังความหนุ่มแน่นเป็นครั้งแรกทะลักทลายเข้าสู่ปากเฒ่าทองที่เฝ้าดูดกลืนเอาหยาดหยดระรอกแล้วระรอกเล่าตาเฒ่ารูดปากขึ้นจนเกือบสุดลำเอ็น ใช้มือรูดหนังหุ้มลงชิดโคนท่อนลำเพื่อให้ดอกเห็ดไร้สิ่งปกปิดความอ่อนไหวและเบ่งบานที่สุดภายในโพรงปากของตน แกใช้เหงือกเปลือยๆล็อคที่คอหยักของดอกเห็ดแล้วเน้นดูดกินน้ำที่พุ่งจากรูตรงหัวบานอย่างหนักหน่วง ลิ้นก็ตวัดรัวใส่หัวบานอย่างได้ใจเฒ่าทองดูดเอาๆอย่างคนกระหายน้ำมาเป็นแรมปี
“อุ๊ยยย โอ้ยยย.. โอ้ยยยยยย..” ชายหนุ่มกระตุกไปทั้งตัวอย่างความคุมไม่ราวกับคนเป็นสันณิบาตรครางโหยหวนเหมือนคนใจจะขาด ฝ่าเท้าเหยียดเกร็ง จนน่องแทบเป็นตะคริว เฒ่าทองดูดดื่มน้ำรักขงชายหนุ่มจนหยาดหยดสุดท้าย ส่วนทิดต้อมเมื่อถูกดูดพลังไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ก็เหมือนหมดแรงข้าวต้มอย่างกระทันหันก้นที่แอ่นขึ้นสู้ปากตาเฒ่าทองทิ้งตัวลงผ้านวมเหมือนลูกไม้หลุดจากต้น นอบแผ่หราหอบตัวโยนอย่างสิ้นท่าโดยมีเฒ่าทองกะเทยแก่ตามดูดซับเศษซากความหนุ่มอย่างไม่ลดละ
ด้วยความที่เป็นน้ำแรกแห่งชีวิตที่โดนรีดด้วยปากแบบที่ไม่ต้องฝันเปียกเองหยาดหยดความหนุ่มจึงทั้งเข้มข้น และมากมายเป็นพิเศษ เฒ่าทองถึงแม้จะเอกอุด้านโอษฐ์กามและมีความหิวกระหายเพียงใด ก็ยังไม่อาจเก็บกลืนได้ทั้งหมดหยาดน้ำรักบางส่วนจึงเยิ้มย้อยออกมาอย่างเสียเปล่า มันไหลเยิ้มแทรกตามพงขนตรงโคนท่อนลำเลอะไปหมดทิดต้อมเพิ่งสังเกตดูน้ำพลังหนุ่มของตัวเอง จึงรู้ชัดแล้วว่า มันไม่ใช่น้ำเยี่ยวอย่างที่ตนเข้าใจเมื่อความใคร่โดนบำบัดไปแล้ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและความละอายจึงเข้ามาแทนที่ชายหนุ่มแทบไม่กล้าสู้หน้าตาเฒ่าทองที่บัดนี้ยังคงเพลิดเพลินกับการดูดดื่มความเป็นชายของเขาที่ยังคงชูชั้นอยู่อย่างอาลัยอาวรณ์ทิดต้อมโดนดูดไม่หยุดจนรู้สึกหวิวๆหัวใจจะวาย ถดก้นถอยหนีปากลูกสูบนรกของเฒ่าทองอย่างเอาเป็นเอาตายอีเฒ่าก็ไม่ยอมหยุด จนชายหนุ่มต้องใช้มืองัดหัวตาเฒ่าออกจากแก่นกายของตนนั่นแหละเฒ่าทองจึงยอมคายท่อนลำออกมา
“อูยยยพ่อใหญ่ พอแล้ว ซี๊ดดดดด ใจจะขาดแล้ววว” เฒ่าทองคายหัวเห็ดออกจากปากอ้อยอิ่งอย่างเสียไม่ได้แม้กระนั้น ท่อนลำของทิดต้อมก็ไม่ได้อ่อนลงแต่อย่างใดอาจจะเป็นเพราะพลังหนุ่มที่เหลือเฟือนั้นเอง
เมื่อกึ่งกลางลำตัวเป็นอิสระจากเฒ่าทองชายหนุ่มก็หอบตัวโยนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเคลิ้มหลับไปทั้งร่างเกือบเปลื่อยอย่างอ่อนแรง.....