Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 540
Message ID: 281
#281, RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง
Posted by someone on 10-May-13 at 11:12 AM
In response to message #280
ตอนเที่ยงวันศุกร์ ไอ้นัยโทรหาผมตามปรกติ…..คือ……ที่ต้องบอกว่าปรกติ เพราะมันจะโทรหาผมทุกวันเวลาประมาณนี้ มันกลายเป็นกิจวัตรของผมและของมันไปซะแล้ว

“ไอ้ตาลมันบอกกูว่า มันจะกลับไปนอนอพาร์ทเมนท์มันพรุ่งนี้แล้วว่ะ เพราะรอยช้ำที่หน้าหายแระ” ไอ้นัยพูดกรอกมาตามสาย “อิอิ สวรรค์เป็นของเราแล้ว”

“เรอะ กูก็ว่าจะไปนอนบ้านลุงซักอาทิตย์” ผมแกล้งหยอกมันเล่นครับ ไอ้นี่มันเซ็กส์ขึ้นสมองแล้วมั้ง

“โด่…..ไรวะ” ไอ้นัยบ่นอุบ “จะได้นอนกอดตัวเองทั้งทีก็จะไปนอนที่อื่นอีก”

เชี่ย…..กูขนลุกซู่แล้วมึง มึงเรียกกูว่า “ตัวเอง”เนี่ยนะ……มึงคิดก่อนพูดรึว่าพูดแบบไม่คิดวะ…...ครั้งก่อนๆที่แทนตัวเองว่า “เค้า” กูก็ยังไม่ชินเลย

“เออๆ กูพูดเล่นน่ะ” ผมขี้เกียจง้อมันทีหลัง เลยบอกไปว่าพูดเล่น

“วันนี้จะไปซ้อมเต้นที่ชมรมการแสดงใช่ป่ะ เค้าอาจช้าไปหน่อยนะเพราะต้องทำงานกลุ่ม” ไอ้นัยบอกก่อนจะวางสาย

ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับที่มันใช้สรรพนามแทนตัวมันกับผม ว่า “เค้า” และ “ตัวเอง”……..เฮ้อ…..ไอ้นัยนะไอ้นัย

เย็นนั้นไอ้โป้งกับไอ้เก็ตเพื่อนสนิทในห้องผมก็ขอตามไปดูด้วย เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ผมต้องซ้อมท่าเต้นอย่างจริงจังซะที

“พี่ตาลไม่มาเหรอคะพี่เอก” น้องแองจี้ถามผมทันทีที่ผมมาถึงห้องซ้อม น้องๆคนอื่นก็ถามกันระงม

“คับ มันไปหาแฟนมัน” ผมตอบไปตามจริงทำเอาสาวไม่แท้ทั้งหลายพากันทำหน้าหมดหวัง……ไอ้ห่าตาล มึงไปทำอะไรไว้วะ ถึงสาวๆแถวนี้ถึงได้ติดใจ

“คราวหน้าพี่เอกต้องชวนพี่ตาลมาด้วยนะคะ น้องๆจะได้มีกำลังใจเต้น” น้องแองจี้บอกผม…….เฮ้ย! นี่ไอ้ตาลมันเป็นขวัญใจกะเทยไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะเนี่ย

ผมให้น้องแองจี้ทำท่าทางให้ผมดูก่อนหนึ่งรอบ…….โห……..ท่าเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ผมกุมขมับตัวเอง………กูจะไหวเหรอวะ ฮือๆๆ

ผมลองทำท่าโดยร้องเพลงแบบไม่มีดนตรี น้องๆแดนเซอร์จำท่ากันได้เกือบหมดแล้วครับ ก็พยายามช่วยผมกันอย่างเต็มที่ ท่าทางที่เก้ๆ กังๆ ของผมทำเอาไอ้โป้งกับไอ้เก็ต หัวเราะกันใหญ่

“เชี่ย มึงอย่าหัวเราะดิวะ กูเกร็งนะโว้ย” ผมตะโกนด่ามันไป แต่กลายเป็นว่ามันยิ่งหัวเราะมากกว่าเก่า……ไอ้พวกเพื่อนเลว ฮึ!!

วันนั้น อ.สุชาติ ไม่ได้มาดูการซ้อมครับ อ้อ…..พี่กรก็ไม่มาครับ เพราะผมบอกแกเมื่อวานเย็นว่าวันนี้จะซ้อมท่าเต้นอย่างเดียว แกเลยนัดผมซ้อมวันจันทร์ที่บ้านแก

ไอ้นัยมาถึงตอนนั้นพอดีครับ มันรู้งานแล้วเลยเดินไปนั่งอยู่กับไอ้โป้งไอ้เก็ต

น้องแองจี้พยายามสอนท่าผมทีละสเต็ป ผมเริ่มจำท่าทางได้บ้าง จนผ่านไปกว่าชั่วโมง เราเลยหยุดพักกินน้ำกัน

เฮ้อ……นี่กูจะถอนตัวทันมั้ยวะ……เชี่ยเอ๊ย…….การเป็นนักร้องนี่แม่งโคตรยากเลย เสียงดีอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องมีอารมณ์เพลง ต้องมีท่าเต้นอีก……เฮ้อ!

ช่วงที่เราพักกันก็มีนักเรียนชายคนนึงเดินมาหยุดที่ประตู หลายๆคนหันไปมอง ผมเลยหันไปมองด้วย ก็เห็นนักเรียนชายรุ่นพี่ ตัวสูงประมาณผม ผิวออกขาวแต่ไม่ใช่คนจีน ใบหน้าหล่อคมคาย ดวงตายาวรีคู่นั้นดูมีอำนาจเวลามอง คิ้วเข้มจัด เลยทำให้หน้าแกหล่อเด่นเตะตาสาวๆทั้งโรงเรียน……..พี่คนนี้ใครๆ ก็รู้จักดีครับว่าเค้าคือใคร

“อ้าว พี่เบสต์ หวัดดีค่ะ มีอะไรให้แองจี้รับใช้คะ” น้องแองจี้ร้องทักก่อนใคร พวกน้องๆเลยพากันหวัดดี รวมทั้งผมด้วย

ครับ…..พี่เบสต์…..นักร้องชายประจำวงของชมรมดนตรี ไม่มีใครไม่รู้จักพี่เบสต์หรอกครับ เพราะพี่แกทั้งหล่อทั้งเสียงดี เป็นนักร้องตัวยืนประจำวงของชมรมมาตั้งแต่ ม.4

งานทุกงานต้องมีพี่เบสต์ ทั้งงานในโรงเรียน งานโชว์นอกโรงเรียน แถมแกยังเดินสายประกวดจนได้รางวัลมาไม่รู้เท่าไหร่ แกเลยมีท่าทางมั่นใจอยู่เสมอ จนดูเหมือนคนขี้เก็ก นักเรียนชายหลายๆคนหมั่นไส้ จะมีก็แต่สาวแท้และสาวเทียมที่พากันกรี๊ด เพราะเห็นแกหล่อ เท่ และร้องเพลงเก่ง

“หึหึ…..” พี่เบสต์ยิ้มที่มุมปาก “เห็นเค้าลือกันว่านักร้องของชมรมการแสดงร้องเพลงดี พี่เลยอยากมาฟัง” พี่เบสต์พูดด้วยเสียงที่ยากจะเดาความรู้สึก…….ฟังดูมันเหมือนชมนะครับ แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่ค่อยชอบนัก น้ำเสียงของแกมันเหมือนดูถูกผมอยู่กลายๆ

“ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่เบสต์” ผมพูดสวนออกไปทันทีแล้วเดินเข้าไปหา “ผมแค่เด็กหัดร้องอะพี่ ไม่ดีพอที่พี่จะถ่อสังขารมาดูถึงนี่หรอก”

ผมยิ้มที่มุมปากกวนตีนไปเล็กๆ เรายืนประจันหน้ากันอยู่ที่ประตูห้อง ผมมองตาแกแบบแข็งๆ เพราะมีเซ้นส์แรงมาก ว่าแกไม่ได้มาดีเท่าไหร่ แกเองพอได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็จ้องผมเขม็งเช่นกัน ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา

“อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย….เอ่อ…..เราชื่อเอกใช่มั้ย” พี่เบสต์รู้ชื่อผมด้วยเหรอวะ “ร้องดีจนใครๆชมไปทั่วแบบนี้ พี่ก็ต้องอยากมาฟังกับหูให้รู้ว่าจริงหรือไม่จริง” พี่เบสต์พูดแล้วยิ้มกวนๆ เอามือโอบไหล่ผมพาเดินเข้ามาในห้องซ้อม

ผมเกร็งไปเลยครับ เพราะไม่คิดว่าแกจะกล้าโอบไหล่ผม ผมมองไปที่ไอ้นัย มันนั่งขมวดคิ้วจ้องมองไม่วางตา…..เอ…..นี่พี่เบสต์แกจะมาไม้ไหนวะ กูงงชิบหาย

“ร้องให้พี่ฟังหน่อยสิ” พี่เบสต์บอกแกมบังคับ “เผื่อพี่จะจีบไปเข้าชมรมดนตรี”

“ได้เลยพี่” ผมตอบอย่างมั่นใจ ถึงผมจะร้องได้ดีไม่เท่าแก ผมก็ไม่กลัวเลยสักนิด

ผมหันไปมองหน้าไอ้นัย มันยกกำปั้นเชียร์ผม ไอ้โป้งกับไอ้เก็ตก็พลอยยกตามไปด้วย ผมยิ่งมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกอง……เอาสิวะ อยากฟังกูก็จะร้องให้ฟัง

น้องแองจี้หยิบไมค์มาให้ผมแถมยกนิ้วสองนิ้วให้ผมอีกเหมือนจะบอกผมว่า…สู้ๆ ก่อนที่น้องแองจี้จะเดินไปที่เครื่องเล่นเพลง

พี่เบสต์เดินไปยืนพิงผนังห้องตรงข้ามกับผมซึ่งอยู่ด้านหลังไอ้นัย แกกอดอกยืนมองผมด้วยสายตาที่ยากจะเดาอารมณ์……ผมรู้สึกอีกแล้วว่าสายตานั่นกำลังดูถูกผมอยู่……ผมไม่ยอมแพ้หรอก

ผมหันไปพยักหน้าให้น้องแองจี้เปิดเพลง ผมตื่นเต้นเล็กๆครับ หลับตานิดนึงก็นึกถึงคำพูดของพี่กรที่บอกผมในวั้นนั้น…….. “งั้นน้องเอกก็จำเอาไว้นะครับ ว่าวันนี้เราบิ้วท์อารมณ์ได้เพราะอะไร”…….ไอ้นัย มึงช่วยกูด้วยนะ

ดนตรีอินโทรเริ่มบรรเลงแล้วครับ ผมลืมตามองก็เห็นไอ้นัยนั่งยิ้มกำมัดเชียร์ผมอยู่……กำลังใจผมมาอีกเพียบ ใจผมฮึกเหิมสุดๆ

“.....รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร มอบกล่องดวงใจเอาไว้ที่คุณ……..”

ผมร้องเพลงออกไปอย่างมั่นใจ นาทีนั้นเหมือนห้องทั้งห้องมีแค่ไอ้นัยกับผมเท่านั้น ผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ร้องเพลงออกไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะบอกไอ้นัยจริงๆ ผมลืมไปหมดเลยครับว่ามีคนมาท้าทายผมให้ร้องเพลงให้ฟัง

ทุกคำของเพลงผมเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ แทบไม่ต้องนึกว่าท่อนต่อไปคืออะไร ผมร้องเพลงออกมาจากใจผมจริงๆครับ

“……รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร
รักคุณเสียยิ่งกว่าใคร รัก…..คุณเสียยิ่งกว่าใคร……..”

ประโยคสุดท้ายของเพลงจบลง ตามด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราวและเสียงกรี๊ดดังๆของน้องแดนเซอร์ ทำให้ผมหลุดออกมาจากภวังค์

ผมเห็นพี่เบสต์ปรบมือให้ผมแถมยกนิ้วโป้งให้อีก ไอ้นัยนั่งยิ้มหน้าแดงอยู่รวมกับไอ้โป้งไอ้เก็ต…..ผมแทบไม่รู้ตัวว่าผมทำอะไรออกไปบ้าง แต่ผมคิดว่าผมทำสำเร็จ

“ร้องดีอย่างที่เค้าว่าจริงๆ” พี่เบสต์เดินเข้ามาหาผมแล้วตบไหล่เบาๆ

“ขอบคุณพี่” ผมบอกออกไปแถมยิ้มหน้าบาน…..นี่กูเอาชนะคำดูถูกของใครบางคนได้แล้วใช่มั้ย…….ผมมองไปที่ไอ้นัย มันยกนิ้วโป้งชูให้ผมเหมือนกัน

“วันหลังไปร้องให้ชมรมดนตรีฟังบ้างนะ” พี่เบสต์บอกมองตาผมแปลกๆ เหมือนกำลังท้าผมอย่างนั้นเลย “ร้องกับดนตรีสด มันไม่ง่ายเหมือนร้องกับแบ็คกิ้งแทร็กหรอก”…….น่าน…….มีกัดกูก่อนจะไปอีกนะ

“ได้สิคับพี่” ผมบอกไปอย่างไม่กลัว แล้วยกมือกำหมัด พี่เบสต์เลยเอาหมัดมาชนหมัดผม…….นี่ถือว่าจะมีการ battle เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แล้วละสิ…….