Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 540
Message ID: 87
#87, RE: นิยายที่ยังไม่มีชื่อเรื่อง
Posted by someone on 11-Apr-13 at 07:45 PM
In response to message #86
หลังจากวันนั้น ไอ้โนก็เดินขาถ่างอยู่เป็นอาทิตย์ครับ ผมรู้สึกสมน้ำหน้าแม่งเหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าควยผมไม่ใช่เล็กๆ ก็ยังอยากลองอีก

แต่มันก็รักษาสัญญานะครับ เพราะหลังจากนั้น มันก็แค่ดูดควย เลียไข่ เลียตูดผมไปตามปรกติ แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ผมไม่มีการแกล้งนอนหลับอีกแล้วครับ บางทีกลางวันในวันหยุด มันก็เอา ผมเองก็เถอะครับ เงี่ยนขึ้นมาก็สะกิดมันทุกที……ก็เด็กวัยรุ่นนะครับ ต้องเข้าใจกันหน่อย อิอิ

ผมปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปตามความอยากของตัวเอง โดยไม่คิดถึงวันข้างหน้าเลยครับ ไม่คิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่นี้ จะส่งผลอะไรบ้างในอนาคต

เวลาผ่านไปหลายเดือน ประมาณกลางเทอมที่สองของ ม.4 ฟ้าก็ส่งแจนมาให้ผม

ผมเคยเห็นเธอมาก่อนแล้วครับ ก็เห็นว่าเธอน่ารักดีแต่ก็ไม่ได้คิดจะจีบอะไร จนเพื่อนเธอแอบมาบอกผมว่าเธออยากรู้จัก ผมเองก็ยังไม่มีแฟน ก็เลยลองคุยดู

แล้วความสัมพันธ์มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆครับ เราเจอกันบ่อยขึ้น ทั้งในโรงเรียนและวันหยุด บางครั้งก็ไปดูหนังด้วยกัน ผมขอจับมือ หอมแก้ม แจนก็ไม่ขัดแม้จะทำท่าเขินอายบ้าง

ไอ้โนคงเริ่มสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของผมกับแจน เพราะผมคุยโทรศัพท์เยอะขึ้น บางทีก็คุยนานมาก ในโรงเรียนมันก็เคยเห็นผมนั่งคุยกับแจนหลายครั้ง จนวันที่มันรู้ว่าผมคบกับแจน มันก็อาละวาดผมจนเกือบมีเรื่องกัน

ไอ้เชี่ย……กูเคยบอกแล้วนี่หว่า ว่าอย่ามาคิดอะไรลึกซึ้งกับกู พอกูจะคบหญิงมึงก็มาอาละวาดเนี่ยนะ

ผมต้องเคลียร์กับมันอยู่นาน เพราะรู้ว่ายังไงก็ยังต้องอยู่กับมันไปจนจบ ม.6 ผมต้องสัญญากับมันว่าผมจะยอมให้มันทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ผมเป็นผู้ชายต้องมีแฟนเป็นผู้หญิง สุดท้ายมันก็ยอมเข้าใจแบบไม่แฮ็ปปี้เท่าไหร่ ผมรู้สึกหวั่นในใจลึกๆ แล้วผมก็เริ่มอึดอัดกับการที่ต้องอยู่ห้องเดียวกับไอ้โนแล้วสิครับ

แล้ววันที่เกิดเรื่องก็มาถึงจนได้ วันนั้นผมเป็นวันที่ผมกับแจนตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ ผมก็อยากสัมผัส อยากกอด อยากจูบแจน ตามประสาคนหื่นขึ้นสมอง ผมจำได้ว่าผมกำลังกินข้าวสวีทหวานอยู่กับแจนในร้านอาหาร ก็มีเสียงโทรศัพท์จากลุงดังขึ้น

ลุงบอกให้ผมรีบกลับบ้าน เพราะจะพาป้ากับไอ้โนไปเยี่ยมญาติที่ป่วยกระทันหันอยู่โรงพยาบาล ผมก็เกิดไอเดียเคลมสาวขึ้นมาในหัวทันที

ครับ ผมชวนแจนไปเที่ยวบ้านผม เผื่อว่าผมจะมีโอกาสอะไรบ้าง แจนเองก็ไม่ปฏิเสธครับ เราเลยมาที่บ้านผมพร้อมกัน

“นั่งตรงนี้ก่อนนะแจน ” ผมบอกแจนให้นั่งที่โซฟาทันทีที่มาถึงบ้าน

“บ้านน่าอยู่นะเอก” แจนพูดขณะที่ผมเอาน้ำมาให้ “อยากเห็นห้องเอกจัง สงสัยจะรกมั้ง คิคิคิ” แจนพูดแบบนี้ผมก็หูผึ่งทันที ผมคงไม่ได้คิดฝ่ายเดียวแล้วล่ะ แจนเองก็คงคิด

“งั้นไปดูห้องเรามั้ยล่ะ จะได้ให้ช่วยเราเก็บของหน่อย” ผมพูดด้วยเสียงระริกระรี้ รีบจูงมือแจนเข้าห้องนอน

“ห้องกว้างดีนะ เอกนอนเตียงไหน” แจนถามผม

“เตียงนี้” ผมชี้มือไปที่เตียงผมแล้วจูงมือแจนเข้าไปนั่ง แล้วผมก็นั่งชิดกับเธอ

“ขอหอมหน่อยนะ” ผมบอกแจนแต่ไม่รอคำอนุญาต ผมก็หอมฟอดไปที่แก้มขาวๆ แจนอายนิดๆ แล้วหันหน้าหนี

“ไม่เอาน่าเอก” แจนพูดเบาๆ แต่ผมก็ยังไม่ยอมหยุด กดจมูกลงไปที่ใบหู เอาแขนโอบล็อคเธอเอาไว้ ผมไซร้หูแจนไปมา ทำเอาแจนครางซี๊ดเบาๆ

ผมจับหน้าแจนหันมาหา แล้วบดปากลงไป แจนไม่หลบแล้วครับ แถวรัวลิ้นตอบผมมาอีก โอยย…….ถึงตอนนั้นแล้ว ผมก็คงไม่ยอมปล่อยให้พลาดละครับ

เราปล่อยให้ความใคร่พาเราสองคนไปถึงสวรรค์ แต่ผมก็ป้องกันตัวนะครับ โดยเอาถุงยางของไอ้โนมาใช้ ผมก็ฟาดไปสองรอบเบาๆ ผมรู้โดยสัญชาติญาณว่าแจนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แต่ผมชอบของผมนี่ครับ เรื่องนั้นผมไม่สนใจหรอก

ผมมาพลาดเอาเมื่อตอนที่ผมเสือกหยิบกล้องดิจิตอลของไอ้โน มาถ่ายรูปเราสองคนเอาไว้ แต่ถ่ายแค่หน้านะครับ แต่อยู่ในสภาพที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน และผมกำลังหอมแก้มเธอยู่ ตอนนั้นผมคิดแค่ว่า จะเอาไปอวดเพื่อนในห้อง ให้มันอิจฉาผมเล่น

ที่ผมกล้าเอากล้องมาถ่ายเพราะเห็นไอ้โมแม่งไม่เคยหยิบใช้เลย หมกเอาไว้ในลิ้นชักตั้งแต่ผมมาอยู่ใหม่ๆ ผมกะว่าพรุ่งนี้จะแอบเอาไปให้เพื่อนดู แล้วก็ลบทิ้ง

ตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ลุงโทรมาบอกว่ากำลังจะกลับ จะกินอะไรมั้ย ผมเลยรีบให้แจนแต่งตัวแล้วส่งขึ้นรถกลับบ้านไป และด้วยความรีบร้อน ผมเลยลืมวางกล้องถ่ายรูปไว้บนโต๊ะ

พอทุกคนกลับมาถึงบ้าน ผมก็ตีเนียนไม่ให้มีพิรุธ นั่งกินขนมกับลุงป้าและไอ้โน แต่ก็ลืมเรื่องรูปในกล้องไปเลย ไอ้โนเข้าห้องนอนก่อนผม ส่วนผมก็ช่วยป้าเก็บจาน ล้างจานเสร็จถึงเดินเข้าห้อง

ครับ……แล้วไอ้โนก็อาละวาดอีกครั้ง เพราะมันเห็นรูปในกล้องและค้นเจอซองถุงยางสองอันในถังขยะ ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้เลยครับ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน

ผมพยายามหว่าล้อมไอ้โนให้อ่อนลง เพราะกลัวลุงกับป้าจะะรู้ แต่มันก็ไม่ฟังครับ กลับบอกว่าจะฟ้องลุงกับป้า ถ้าผมไม่ยอมเลิกคบกับแจน

“แล้วแต่มึงแล้วกัน กูไม่สนใจแล้ว” ผมฉุนขาดพูดแรงใส่ไอ้โน

“พี่เรียกโนว่ามึงเหรอ” ไอ้โนทำหน้าโกรธสุดๆ เดินเข้ามาหาผมน้ำตาไหลอาบแก้ม

“พี่เห็นมันดีกว่าโนรึไง มันจะดีแค่ไหน ก็แค่มีหีให้พี่เย็ด” ไอ้โนเริ่มเสียงดัง แต่ผมไม่สนแล้วครับ กูก็โกรธเป็นนะโว้ยไอ้สัส

“เออสิวะ หีมันต้องดีกว่าตูดอยู่แล้ว กูอยากมีเมียเป็นผู้หญิงโว้ย ไม่ใช่ตุ๊ด”

“ผลัวะ!!!!!” ไอ้โนเหวี่ยงหมัดขวากระแทกหน้าผมเต็มๆ

“งั้นมึงก็ไปอยู่ที่อื่นสิวะ นี่มันบ้านกูนะโว้ย” ไอ้โนโกรธจัด ร้องไห้ตะโกนไล่ผมเสียงดังลั่น


ผมโกรธสุดขีดกระชากคอไอ้โน เหวี่ยงลงไปที่พื้น กะว่าจะเตะให้สาใจ แต่พอเห็นมันร้องไห้ ผมก็ชักเท้ากลับ กัดฟันกรอดๆ ยืนตั่วสั่นด้วยความโกรธ

ตอนนั้นเองครับ ลุงกับป้าก็มาเคาะห้อง เพราะได้ยินเสียงเอะอะในห้องเรา ผมไม่สนใจอะไรแล้วครับ รีบเดินออกไปนั่งหน้าบ้าน กำมือแน่นด้วยความโกรธ……ตอนนั้นผมคิดอยู่อย่างเดียว ว่าผมจะต้องไปอยู่ที่อื่น

ดีที่ไอ้โนไม่ได้บอกเรื่องจริงที่เกิดขึ้นให้ลุงกับป้าฟัง เพราะจริงๆมันก็มีชะนักติดหลังเรื่องดูดควยผมเหมือนกัน มันบอกแค่ว่าเราสองคนทะเลาะกัน แต่ใจผมในตอนนั้นก็ไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้วครับ ก็มันไล่ผมขนาดนั้น ถ้าผมอยู่ก็หน้าด้านเต็มทน

ผมรีบเก็บของเท่าที่จำเป็น โทรหาเพื่อนสนิท แล้วขอโทษลุงกับป้า ขอออกไปนอนบ้านเพื่อน ลุงคงเห็นว่าผมยังโกรธอยู่ เลยยอมให้ไป

คืนนั้นผมก็โทรหาพ่อ เล่าให้พ่อฟังว่ามีเรื่องกับไอ้โนถึงขั้นโดนมันต่อย ผมไม่อยากอยู่บ้านลุงแล้วครับ รุ่งเช้าพ่อกับแม่ก็มาหาทันที ผมยืนกรานว่าจะไม่ไปอยู่บ้านลุงอีก พ่อกับแม่เลยต้องยอมเช่าหอให้อยู่แทน

เหตุผลอีกอย่างที่ผมอยากออกมาอยู่หอ ก็เพราะว่าผมกำลังหลงแจนครับ คิดว่าถ้าอยู่บ้านลุงคงหาโอกาสยากที่จะทำอะไรกัน การอยู่หอจะทำให้ผมกับแจนได้มีที่พลอดรักกันได้อย่างสะดวก………วัยรุ่นก็เงี๊ยะครับ อารมณ์มาก่อนเสมอ

แต่ต่อมาลุงกับป้าก็นัดผมไปเคลียร์อย่างที่เคยเล่าไปละครับ ตัวผมเองพอเรื่องผ่านไป ผมก็เย็นลงเพราะผมก็รู้ตัวว่าผมก็มีส่วนผิด ส่วนไอ้โน…..ผมรู้ว่ามันชอบผมมาก มันก็ยังอยากให้ผมกลับไปอยู่กับมันอีก มันเลยยอมอ่อนลงจับมือกับผม สัญญาว่าจะไม่โกรธกันต่อหน้าลุงกับป้า

ผมพยายามลืมเรื่องทั้งหมด เพราะผมมาอยู่หอแบบนี้มันสบายใจดีแล้ว กับไอ้โนผมก็ยังคุยกับมันได้ มันเองก็เข้าใจอะไรเยอะขึ้นเมื่อไม่มีผม ช่วงที่ผมออกมาอยู่แรกๆ มันเคยส่ง SMS มาขอโทษผมต่างๆนานา แถมเคยโทรมาร้องไห้กับผมด้วย ผมก็ได้แต่บอกว่าผมไม่โกรธอะไรแล้ว แต่ก็คงไม่เหมือนเดิม

ถ้ามีโอกาส ผมก็จะไปเยี่ยมลุงกับป้าบ่อยๆ ครับ เพราะรู้ว่าท่านยังรักและเอ็นดูผมเหมือนลูกชาย บุญคุณที่ท่านมีให้ผม ผมไม่เคยลืม

ก็เหมือนอย่างวันนี้ ที่ผมต้องกลับไปกินข้าวเย็นกับท่านทั้งสอง