ราวกับร่วงลงสู่ห้วงเวลาที่ดิ่งลงในความหลุมดำมืดอันเว้งว้างและไร้จุดสิ้นสุดและยังคงร่วงลงไปเรื่อยๆ ราวกับไม่มีก้นบึ้งในหลุมดำลึกลับแห่งนี้ แต่แล้ว นั่นไง ! เห็นแล้ว ในที่สุด ก็เห็นแล้ว แสงสว่างส่องประกายแพรวพราวระยิบระยับอยู่เบื้องหน้า มันช่างสว่างแสบตาเหลือเกิน ในที่สุด....ก็ถึงทางออกแล้วเสียทีดวงตาของไอ้พีร์กระพริบถี่รัวจากแสงสว่างที่ส่องเข้ามากระทบม่านตาก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ความรู้สึกและสติสัมปชัญญะค่อยๆ ฟื้นกลับคืนมา แต่สัญญาณรับภาพรอบตัวยังคงพร่ามัวราวกับตกอยู่ท่ามกลางม่านหมอกหนา
อื้อ อูยยยย์...............
ตอนนี้ หัวของมันปวดแทบระเบิดและก็รู้สึกกระหายน้ำเหลือเกิน มันกำลังทำอะไร และอยู่ที่ไหนกันนะ
เสียงซุบซิบพึมพำดังหึ่งๆ ขึ้นรอบตัวหลังจากที่เห็นร่างที่นอนเหยียดยาวเริ่มฟื้นคืนสติและกำลังสะบัดหัวอย่างมึนงง
นี่...นี่ กูอยู่ไหน...............
เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความสับสนดูสะท้อนก้องกังวานไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่อับทึบ มืดชื้น และร้อนอบอ้าว
เด็กหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่ตัวได้ถูกรั้งไว้จากการที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยสายหนังเส้นใหญ่ที่ตรึงแน่นกับแผ่นเหล็กรูปทรงประหลาดที่รองรับเรือนร่างมันอยู่มันพยายามขยับตัวอีกครั้งพร้อมกับความตื่นกลัวเริ่มเข้ามาแทรกซึมภายในจิตใจเมื่อพบว่าข้อเท้าทั้งสองข้างก็ไร้สิ้นซึ่งอิสรภาพแล้วเช่นกัน
ความตื่นตกใจยิ่งทวีขึ้นสูงเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นจากพื้นผิวโลหะที่แผ่ซ่านมายังผิวหนังที่เปล่าเปลือยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์มาปกปิด............ถ้าสิ่งที่คาดเดาไว้ไม่ผิด ตอนนี้ มันอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าราวทารกแรกเกิด.....แล้วเสื้อผ้ามันไปไหน ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ ใครพามันมา และที่นี่คือที่ไหน หลากหลายคำถามประดังเข้ามาอย่างไม่หยุด.....หากยังไร้ซึ่งคำตอบจากห้องที่เงียบสงัด หรือว่า...ที่ได้ยินเสียงซุบซิบพึมพำเมื่อชั่วครู่....มันจะหูฝาดไปวะ
เด็กหนุ่มกรอกตาสำรวจสถานที่ไปรอบๆ เท่าที่สายตาจะกวาดไปถึงพบว่า มันอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมพื้นผ้าขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีผนังปูนสีพื้นที่ถูกละเลงด้วยภาพวาดและลายเส้นหวัดๆ ที่สื่อความหมายในเชิงหยาบคายและลามกอนาจารของเด็กมือบอนตามแถวตอม่อทางด่วน สะพานลอย หรือไม่ก็ตามผนังห้องน้ำสาธารณะด้านขวามือของมันมีประตูสังกะสีเก่าคร่ำคร่าเปิดพะเยิบพะยาบอยู่แต่เท่าที่สังเกตคร่าวๆ ภายนอกประตูบานนั้นดูเหมือนจะไม่มีแสงสว่างใดๆ เล็ดลอดเข้ามาเลย.......เป็นความมืดสนิทจนน่ากลัวราวกับห้องนี้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
มันหรี่ตาดูแสงสว่างเจิดจ้าที่ส่องจากหลอดนีออนที่ติดอยู่บนเพดานเหนือตัวมัน ดูเหมือนมีแมลงตัวเล็กจำนวนมหาศาลบินล้อแสงไฟฉวัดเฉวียนไปมาอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ๆ แล้วไหนจะสภาพที่มันถูกตึงร่างอยู่กับโครงเหล็กนี่อีกล่ะ เมื่อดูโดยรวมแล้วคล้ายๆ กับมันตกอยู่ในหนังผีสยองขวัญสั่นประสาทสักเรื่องหนึ่งมากกว่าที่จะเป็นเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวมัน !
มันหลับตาลงอีกครั้ง...หวังลึกๆ ว่า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความฝันร้าย ทันใดนั้น....มันก็รู้สึกขนลุกเมื่อประสาทสัมผัสรับรู้ได้ถึงเงาดำของใครบางคนพาดทับตัวมันอยู่....มันจึงหันไปมองและนัยน์ตาทั้งคู่จะเบิกโพลงด้วยความตื่นตกใจเมื่อพบใบหน้าของคนที่มันรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ไอ้ซัน !