Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: Story Club
Topic ID: 685
Message ID: 0
#0, เรื่องเล่าแปลชุด เมื่อได้กินชายแท้
Posted by บุญแหก แหวกหนองเถียก on 10-Jun-15 at 01:58 PM
เนื่องจากตอนนี้ว่างๆและอ่านงานของคนอื่นๆมาเยอะ เลยอยากจะตอบแทนบ้าง แต่ถ้าจะให้เล่าเรื่องของตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีมากนักสู้เอาเรื่องของฝรั่งมาแปลให้อ่านกันดีกว่า เปลี่ยนบรรยายกาศ อีกอย่างเราจะได้รู้เรื่องราวของเกย์ชาติอื่นๆบ้าง เรื่องที่ผมจะเอามาแปลให้อ่านกันจะเป็นเรื่องที่เกย์ได้กินชายแท้เท่านั้นเนื่องจากว่าผมชอบแบบนี้ จะทยอยลงไปเรื่อยๆตามที่จะทำได้

อนึ่ง สำหรับคนที่สนใจด้านภาษาอังกฤษถ้าอยากรู้ว่าภาษาไทยแบบนี้แปลมาจากต้นฉบับภาษาอังกฤษว่าอะไรก็โพสถามได้จะพยายามตอบให้

เรื่องที่ 1
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ Eric’s Proposal
ชื่อผู้เขียน Thomas Rea
ตีพิมพ์เมื่อ 18 January 2010
ชื่อเรื่องภาษาไทย คำเชิญชวนของอิริก
ชื่อผู้แปล บุญแหก
ตีพิมพ์เมื่อ 10 มิถุนายน 2558
สถานที่พิมพ์ ห้อง Story Club, Palm Plaza Forum
ลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเรียบร้อยแล้ว

เรื่องที่ 1 คำเชิญชวนของอิริก

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอิริกเพื่อนรักของผมเอง แต่ก็เป็นเพื่อนที่สร้างความลำบากใจให้ผมมากพอควร อิริกและผมยังคงเป็นเพื่อนกันมาหลายปี แม้ว่าจะจบจากมหาวิทยาลัยมาแล้วก็ตาม และเมื่อเร็วๆนี้เองเนื่องจากอินเตอร์เนตและพวกโซเชียลเนตเวิร์คที่ทำให้เราต้องกลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง

ความสัมพันธ์ของผมกับอิริคดูแล้วแปลกๆอยู่บ้าง จริงๆแล้วเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้ว่าเราจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยก็ตาม ผมเป็นนักอ่านตัวยง เป็นนักเขียนและสนใจในวิชาการ ในขณะที่เขาเป็นนักกีฬา เป็นนักฟุตบอลตัวมหาลัย เป็นแฟนช่องกีฬาอีเอสพีเอ็นอย่างเหนียวแน่น เวลาว่างก็ไปขลุกอยู่ที่โรงยิม หรือนั่งดื่มตามร้านเหล้าที่มีรายการกีฬาให้ดู แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกันก็คือ เราชอบกินเบียร์นอก ดนตรีที่แสดงสด และสนุกกับการออกเที่ยวกลางคืน นอกนั้นก็สนใจเรื่องเซ็กส์เหมือนกัน แต่ตัวผมเองไม่ค่อยไปถึงไหนเลย

ผมรู้จักเขาตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราเรียนวิชาเดียวกันไม่กี่วิชา อยู่หอพักเดียวกัน และออกเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เขามักพาผมไปออกกำลังกายที่โรงยิม ส่วนตัวผมก็ติววิชาภาษาอังกฤษให้เขา ต่อมาประมาณตอนปีสอง อิริกก็รู้ว่าผมเป็นไบ

ปัจจุบันนี้ ผมไม่อึดอัดกับรสนิยมทางเพศของตัวเอง แม้ว่าผมจะไม่ได้ประกาศมันออกนอกหน้าก็ตาม ส่วนใหญ่ผมออกเดทกับผู้หญิงเป็นหลัก แต่ในบางครั้งถ้าผมเจอผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ และถูกใจกันทั้งสองฝ่าย เราก็นอนด้วยกัน อิริกเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งบันเทิงที่น่าแปลกใจมาก แต่เรื่องพวกนี้ไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาเลย เพราะเขาไม่เคยแสดงอาการรังเกียจในเรื่องพวกนี้ แถมในบางครั้ง อิริกยังเล่าเรื่องตลกขำขำของพวกเกย์ให้เพื่อนในกลุ่มฟังด้วยซ้ำไป แต่เฉพาะในกลุ่มเพื่อนของเราเท่านั้น แม้ว่าเขาจะดูเป็นคนนิ่งๆเฉยชา แต่ก็เป็นคนสนุกสนานโปกฮา ส่วนผมก็เล่าพวกเรื่องตลกขำขำของพวกนักกีฬาซื่อบื้อหรือพวกเพาะกายก้ามปูกลับไปบ้าง ก็ขำขำกันไปในหมู่พวกเรา


มีอยู่คืนหนึ่ง ตอนนั้นเราอยู่ปีสี่ มีบางอย่างเปลี่ยนไป เราออกไปกินเบียร์ที่ร้านในละแวกนั้น หลังจากพอกรึ่มๆเราก็เดินกลับมาหอพักกัน ขณะที่ผมนั่งกินเบียร์ตอนที่ไปถึงร้านใหม่ๆตอนนั้นเพิ่งเริ่มค่ำ ผมได้พูดคุยกับหนุ่มบาร์เทนเดอร์น่ารักมากๆคนหนึ่งและผมก็ได้เบอร์เขามา แน่นอน ทำให้อิริครบเร้าผมว่าเมื่อกลับไปถึงหอให้ผมโทรหาหนุ่มหล่อคนนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผมยังรีรออะไรอยู่อีก ทำไมไม่จัดการให้มันเสร็จเรื่องเสร็จราวให้จบๆกันไป

มันพูดขึ้นว่า “เฮ้ย ดูจากเหตุผลแล้วที่มึงชอบผู้ชายนี่ กูคิดว่าเพราะพวกเกย์ไม่ค่อยมีเรื่องงี่เง่าใช่ไหม กูหมายความว่าพวกมึงไม่ค่อยทำให้พวกเดียวกันเองรู้สึกแย่ๆ สิ่งหนึ่งที่กูเห็นมึงกับพรรคพวกมึงนี่ไม่เคยพูดกันเรื่องการเมืองหรือเรื่องไร้สาระต่างๆเลย พวกมึงไม่ต้องนัดกันไปกินข้าว ไปดูหนัง หรือนั่งพูดคุยกันเป็นชั่วโมงๆ เหมือนกับที่พวกผู้หญิงทำกับพวกกู เดี๋ยวเดียวพวกมึงก็ได้ดูดควยหรือล่อตูดกันแล้ว”
ผมย้อนกลับว่า“ว้าว มึงนี่จัดการสรุปประสบการณ์เรื่องราวทั้งหมดของพวกเกย์อย่างง่ายๆแค่เรื่องดูดควยเท่านั้น มึงนี่ช่างเป็นคนรอบรู้เรื่องราวของมนุษย์จริงๆ แต่ว่าใครจะรู้ละ”

มันยังพูดต่ออีกว่า “มึงฟัง กูแค่พูดว่าผู้ชายแบบมึงคงลำบากที่จะเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงผู้หญิง เพราะงั้นมึงควรที่จะพอใจที่มึงได้ในสิ่งที่มึงต้องการ บางทีเกย์คนอื่นๆอาจไม่มีโอกาสได้มันเลย แต่ในขณะที่มึงมีโอกาสเต็มที่ แค่นี้แหละ จบ”
“คนอย่างกูหรือ....”
“มึงรู้ว่ากูหมายถึงอะไร” มันตอกกลับ

เราเดินคุยกันมาเรื่อยๆจนมาถึงอพาร์ทเมนต์ของมัน ส่วนผมอยู่ตึกถัดไป ผมแวะห้องมันก่อนเพื่อกินเบียร์ต่อ มันไม่เคยแสดงท่าทีแปลกๆกับการที่ผมเป็นไบเลย กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่มันเห็นที่บาร์ทำให้มันมีพฤติกรรมคล้ายนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาเรื่องราวใหม่ๆที่เกิดขึ้น

มันเดินไปหยิบเบียร์ไฮเนเกนจากตู้เย็นมาสองขวด ยื่นให้ผมขวดหนึ่ง
“เอาละ” มันพูดต่อ “กูขอพูดจริงจังเลยนะโว้ย กูกล้าพูดเลยว่าตอนนี้มึงเงี่ยนใช่ไหม ถ้าแค่มึงโทรหาเพื่อนเกย์มึงซักคน มึงก็จะแก้เงี่ยนได้อย่างง่ายๆใช่ไหม”
“ง่ายมากๆเลย” ผมยอมรับ
มันพูดต่อ “เอาละ งั้นถ้าเพื่อนเกย์คนหนึ่งของมึงโทรมาหามึง บอกมึงว่ามันไม่มีเวลาออกไปเที่ยว แต่จะมาหามึงแทนให้มึงดูดควยให้ มึงว่าไง”
“มึงพูดเหี้ยไรวะ” ผมด่า มองมันอย่างฉุนๆ
“เฮ้ยเพื่อน กูพูดจริงจังนะเว้ย มึงตอบมาว่าจะดูดหรือไม่ดูด“
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมกำลังพูดกันถึงเรื่องนี้ตอนตีหนึ่ง แต่กับมันนั้นต่างออกไป ผมกล้าบอกได้ว่ามันอยากรู้จริงๆ มันไม่ได้ต้องการกวนตีน หรืออะไรทั้งสิ้น
“เฮ้ยกูก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่แน่ใจวะ คงขึ้นอยู่กับว่าเป็นใครมั้ง แต่ถ้าเป็นคนที่กูมีความรู้สึกด้วย ไอ้ห่าเฮ้ย กูก็คงตอบตกลงมั้ง”
“ว่าแล้วไหมละ” มันโพล่งออกมา กระโดดออกมาจากโซฟา “นี่แหละที่กูอยากจะพูด คือถ้าไม่มีผู้หญิง อะไรอะไรก็ดูเหมือนง่ายขึ้น”
ผมพูดต่อว่า “กูก็ว่างั้น แล้วไงต่อ มึงต้องการที่จะหัดมีอะไรกับผู้ชายเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆหรือ ไอ้หน้าหม้อ”
“ไม่มีทางละมึง” มันทำหน้ายี้ใส่ “หยะแหยงชิบหาย ที่พูดนี่กูไม่ได้ดูถูกอะไรนะโว้ย”
“แล้วไป ไอ้บ้า”

หลังจากนั้น มันก็เปิดช่องอีเอสพีเอ็น ส่วนผมก็นั่งกินเบียร์ต่อ ผมไม่สนใจดูกีฬามากมายนัก แต่ก็ไม่มีอะไรอื่นอีกให้ดู หลังจากที่มันดูการวิจารณ์กีฬาไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง มันหันมาทางผมแล้วถามว่า “เออ แล้วกูละ’
“อะไรของมึงละ”
“ถ้ากูโทรหามึงแล้วบอกให้มึงดูดควยให้กูหน่อย มึงจะดูดให้มั๊ยวะ”
“มึงบ้าไปแล้ว” “เป็นเหี้ยอะไรของมึงอีกวะ ประสาทแดกหรือเปล่าวะ”
“เฮ้ยกูพูดจริง แค่ กูแค่บอกว่าอยากให้มีคนดูดควยให้กูที ตอนนี้กูหาหญิงมาดูดควยให้กูไม่ได้วะ มึงช่วยกูหน่อยไม่ได้หรือวะ”
ผมตอบมันไปว่า “เฮ้ยเพื่อน มึงไปไกลแล้วหว่ะ มึงคิดจริงๆหรือว่ากูต้องทำอะไรให้มึงทุกอย่าง ตอนแรกกูไม่รู้ว่าเที่ยวๆกับมึงได้ไง แต่ตอนนี้มึงกลับคิดว่ากูอยากจะดูดควยมึง มึงคิดเรื่องอื่นไม่เป็นรึไง ไอ้หลงตัวเอง คิดง่ายนะมึง”
มันแย้งว่า “มึงลองคิดดูดีๆ ตัวมึงชอบอะไร มึงชอบดูดควยผู้ชายใช่ไหม แล้วตัวกูชอบอะไร กูชอบให้คนดูดควยกูใช่ไหม นี่ไม่ใช่เรื่องประจวบเหมาะหรอกหรือ กูไม่ใช่บอกว่าเราจะต้องเป็นเกย์นี่ ถ้ากูหาใครไม่ได้ตอนที่กูเงี่ยน มึงนี่แหละเหมาะสุด หือว่าไง”
“แล้วเพื่อนร่วมทีมฟุตบอลของมึงจะคิดไงกับ ‘เรื่องที่เหมาะสม’ นี้ว่ะ”
มันรีบตอบอย่างเร็วเลย “ไอ้ห่า เรื่องนี้ลับสุดยอดโว้ย ห้ามพูด มึงรู้อยู่แล้วนี่”
“ใจเย็นๆ ที่พูดกันคืนนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายของโลกเลยที่คนอื่นจะรู้ มึงเมาแล้ว นอนเถอะ กูจะกลับห้องแล้ว”
“โอเค แต่อย่าลืม....”
“เออ กูรู้” ผมเดินออกมาและปิดประตู เดินกลับห้อง เข้านอน

วันต่อมา ผมแวะไปที่ห้องอิริกเพื่อเอาหนังที่มันมาลืมทิ้งไว้ที่ห้องผมเมื่อสองสามวันก่อนไปให้ มันกำลังกินกาแฟอยู่พอดี ผมก็เลยกินด้วยซะเลย
“ว่าไง ตกลงมึงคิดยังไง”
“คิดเรื่องไหนวะ” ผมถามกลับ พร้อมกับหยิบขนมเข้าปากชิ้นหนึ่ง
“ก็เรื่องที่เราเตรียมกันไว้ไง”
“อ้าวนี่มึงยังไม่ลืมอีกหรือวะ มึงระวังหน่อยนะ กูว่าเด๋วมึงก็กลายเป็นตุ๊ดหรอก”
“มึงฝันไปเหอะ”
ผมแทบไม่เชื่อว่ามันยังคงอยู่กับเรื่องนี้ ผมเลยตัดบทไปว่าให้นึกฝันสร้างประสบการณ์ว่ามีอะไรกับพวกเกย์เอาเองก็แล้วกัน แล้วเตือนมันเรื่องรายงานประวัติศาสตร์ที่จะถึงกำหนดส่งปลายอาทิตย์นี้ ส่วนผมกินกาแฟจนหมดแล้วออกไป

ในช่วงที่เหลือของวัน จิตใจผมหมกมุ่นวนเวียนอยู่กับคำพูดของมัน มึงพูดจริงหรือเปล่าวะ ผมคิดว่ามันคงเมาและกวนผมเล่นมากกว่า แต่ตอนที่กินกาแฟด้วยกันละ ทำให้ผมคิดว่ามันพูดจริงแน่ ผมอดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันก็เป็นคนที่ดูดีคนหนึ่ง มีไหล่กว้าง วงแขนแข็งแรง มีผมสวย เวลายิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย เป็นคนดูน่าสนใจ แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดมากคือมีผู้หญิงมากมายชอบมัน

คืนนั้นผมแวะไปหามันที่ห้อง มันเอาเบียร์ไฮเนเก้นเย็นๆให้ผมกิน
มันถามผมว่า “คืนนี้ไปไหนกันดีวะเพื่อน กูได้ยินมาว่ามีวงใหม่มาเล่นที่ร้านในตัวเมือง มึงจะไปดูมั๊ยวะ”
ผมตอบมันไปว่า “กูโอเคที่มึงชวนกูก่อนหน้านี้”
“มึงโอ...หา ไอ้มึงพูดจริงเปล่า กูไม่ค่อยแน่ใจเลยวะ” มันดูประหม่า
“อ้าว ไอ้เหี้ย ไหงพูดงี้ไปได้วะ ก็มึงเป็นคนต้นคิดทั้งนั้นนะมึง อย่ามาทำเป็นตกอกตกใจนะมึง”
มันถามย้ำอีกครั้ง “มึงแน่ใจเปล่าวะ”
ผมด่ากลับไปว่า “นี่มึงเลิกกระบิดกระบวนได้ไหมวะ ไม่งั้นเดี๋ยวกูเปลี่ยนใจแล้วนะ”
มันรีบตอบ “เอางั้นก็ได้ จะไปทำกันที่ไหนดี มึงต้องการแบบ....”
นี่มันจะไปไกลแล้วหรือเปล่านี่
“แล้วแต่มึงที่ไหนก็ได้ ถ้ามึงอยากเดี๋ยวนี้ มึงถอดกางเกงแล้วไปนั่งที่โซฟา”

มันเดินไปที่โซฟา ถอดกางเกงกับกางเกงในไปกองไว้กับพื้น แล้วนั่งลง ผมไม่อยากจะเผยความในใจเลยว่าผมประทับใจสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทันควันทันใดทันทีเดี๋ยวนั้นเลย มันมีขาที่แน่นปั๋งอย่างไม่น่าเชื่อและควยมันที่เพิ่งหลุดออกมาจากกางเกงในสีขาวแม้จะยังอ่อนอยู่ แต่ช่างน่าดูยิ่งนัก
มันเอามือจับควยรูดช้า ดูประหม่าในขณะที่พูดขึ้นว่า “มึงจำไว้นะว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครเด็ดขาด”
“มึงนั่งให้สบาย อย่าเกร็ง พิงเบาะไปเลย”
ผมเดินเข้าไปใกล้โซฟาอีกนิด คุกเข่าลงข้างหน้ามัน ผมเอามือถ่างขามันออกนิดหนึ่ง แล้วขยับตัวเข้าไปแทรกตรงหว่างขามันพอดี ผมดึงมือมันเบาๆออกจากควยที่ตอนนี้เริ่มแข็งขึ้นแล้ว ผมสาวควยมันช้าๆจนตอนนี้พองตัวเต็มที่จนมือผมคับตื้อไปหมดกำแทบไม่รอบลำควยที่แน่นกลมกลึง
ตอนนี้มันนั่งพิงพนักเต็มที่หน้าแหงนมองเพดาน ตอนนี้ผมบอกไม่ได้ว่ามันกำลังเสียวกับมือที่รูดขึ้นรูดลงของผม หรือเพราะมันไม่อยากก้มลงมาดูว่ามือที่กำควยมันอยู่นั้นเป็นมือผู้ชายที่เกิดจากความคิดของมันเองที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

น้ำเงี่ยนที่ปริ่มอยู่ที่ปลายควยเริ่มหยดซึมลงตามรอยรูดของมือจนหล่อลื่นไปตามลำควยเป็นมันวาว ผมเอามือดันหน้าท้องมันพร้อมทั้งโน้มตัวลงไปเลียที่หัวควยมีรสเค็มปะแล่มๆ ผมหยุดนิดหนึ่งเผื่อว่ามันจะเปลี่ยนใจ แต่มันเฉย ผมจึงก้มลงไปเลียหัวควยมันต่อ

ผมเริ่มเลียตรงหัวควยแบบเลียไอศกรีมโคนพร้องทั้งสลับดูดเบาๆไปด้วย มันเริ่มซีดปากและขบฟันเบาๆ ปากผมเริ่มอมรูดลงไปช้าๆตามลำควยและพยายามไม่เกร็งคอ แต่อมได้ไม่หมดลำ หัวควยก็ชนกับลำคอผมเสียแล้ว ผมรูดปากขึ้นจนถึงหัวควยแล้วถอนปากออกมาใช้ลิ้นเลียขึ้นลงตามลำควยแทน ลากยาวไปจนถึงพวงไข่ ผมอมไข่ไปด้วย แต่ดูดเบาๆสลับไปมา
มันถึงกับครางแผ่วๆ พึมพำว่า “ซี๊ด แม่งเย็ด”
ส่วนผมตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องคิดแล้ว ผมเกือบสำลัก เลยถอนปากออกเบาๆ กระซิบถามมันว่า “มึงชอบไม๊” มันรีบตอบว่า “เสียวดี ดูดไปเรื่อยๆ เสียวโคตร” ผมก็เลยก้มลงไปดูดต่อ

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่อารมณ์เลยเถิดเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว มันก็อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับผม มันเอื้อมมือที่แข็งแกร่งมาจับที่ท้ายทอยผม มืออีกข้างกำอยู่ที่โคนควยของมันแน่น มันขยุ้มผมเบาๆค่อยดึงหัวผมให้ให้ออกจากควยมันช้าๆแล้วก็เอาควยที่เปียกลื่นถูไถไปมาที่ริมฝีปากสลับกับถูที่แก้มผมไปมาจนแก้มและริมฝีปากผมเปียกชื้นไปด้วยน้ำเงี่ยนของมันกับน้ำลายของผม
“โคตรมันเลยมึง” มันพูดเสียงสั่นๆ
มันเอาควยตีที่หน้าผมเบาๆสองสามครั้ง เอามาครูดถูกับริมฝีปากแล้วแหย่ควยกลับเข้าไปในปากผมอีกครั้ง และดันหัวผมเข้าออกเป็นจังหวะขึ้นลงตามท่อนควยที่แข็งแกร่ง
เราทั้งสองผสานจังหวะไปได้สักพัก มันจับหัวผมให้หลุดจากควยมันอีกครั้ง ผมรู้สึกโล่งจะได้มีโอกาสหายใจหายคอบ้าง ปวดเมื่อยกรามไปหมด
มันบอกว่า “พักนิดหนึ่ง” มือที่จับหัวผมไว้คลายออก มันลุกขึ้นยืนหยิบเบียร์ขึ้นมาซดอึกหนึ่ง แล้วหันมามองผม ยิ้มกว้าง “ไงละ”
ผมรู้หน้าที่ดี เอื้อมมือไปจับควยมันรูดต่อแล้วค่อยๆอ้าปากอมเข้าไปทีละนิด ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลย อาจเป็นเพราะว่าผมกำลังอมควยที่สมบูรณ์ที่สุดอันหนึ่งเท่าที่เคยพบเห็นมา เป็นความสุขบนความหฤหรรษ์

หลังจากที่ผมดูดไปได้พักใหญ่ มันก็เริ่มเอามือมาจับหัวผมโขยกตามจังหวะที่มันกำหนด ลงลึกจนชนเพดานหลอดคอจนผมแทบสำลักอีกครั้ง ผมบอกได้เพียงว่าผมกำลังโดนควยบดคว้านคออยู่ มันอึดมากจนผมรู้สึกได้ว่านานจนไม่มีท่าทีว่าจะน้ำแตก ผมเอามือลูบขาที่แข็งปั๋ง เลยไปถึงหน้าท้องหนาที่เรียบเนียนแข็งแกร่ง ผมรู้สึกได้ว่านี่เป็นผลมาจากเล่นฟุตบอล มือผมจับที่สะโพกมันแน่นหัวก็โขยกเข้าออกอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
มันชักควยออกมาเป็นช่วงๆมาถูทาตามหน้าผมซึ่งผมก็ปฏิบัติหน้าที่ตามที่มันต้องการ ส่วนหนึ่งก็จำมาจากในหนังที่เคยดู จึงแหงนหน้าปิดตาเผยอปากซีดเบาๆราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าควยมันที่กำลังวนเวียนอยู่ตามใบหน้าผม
ในที่สุดผมรู้สึกถึงจังหวะที่ถี่เร่งกระชั้นของควยที่พองแข็งขึ้นจนสุด ผมรู้ในทันที่ว่าน้ำกำลังจะแตก ผมพยายามนึกว่าจะทำอย่างไรดี จะให้มันแตกในปากผมแล้ววิ่งไปบ้วนทิ้ง หรือให้มันแตกใส่ผ้าขนหนูดี แต่ผมก็จำไม่ได้ว่าผ้าขนหนูวางอยู่ตรงไหน

มันครางแรงขึ้น ผมรู้เลยว่าอีกไม่นานมันน้ำแตกแน่ เสียงซีดปากแรงขึ้นในขณะเดียวกันมันเอาสองมือจับหัวผมดันเข้าหาควยมันจนมิดด้ามพร้อมเสียงซีดถี่ๆ น้ำควยมันหลุดพุ่งออกมาเป็นระลอก แต่มันยังจับหัวผมไว้แน่นจนผมไอออกมาซึ่งก็ทำให้ลำคอผมเปิดกว้างจนผมต้องกลืนน้ำควยมันไปโดยปริยาย ผมพยายามจะผลักมันออก แต่มันกลับรัดหัวผมแน่นเข้า น้ำที่พุ่งออกมาส่วนหนึ่งก็ทะลักล้นออกมานอกปากจนไหลย้อยลงมาตามคางผมเลอะไปหมด เมื่อมันผ่อนลมหายใจปล่อยลมเฮือกใหญ่ออกมาจากปาก ตัวก็คลายอาการเกร็งลง นั่นแหละมันถึงจะปล่อยมือ ผมคลายปากออกจากควยมันพร้อมกับน้ำควยมันส่วนหนึ่งที่ยังไหลลงคอไม่หมดก็ทะลักออกมาตามแรงปากที่ถอนออกจากควย จนผมต้องเอามือป้ายเช็ดออก
ผมยังไออยู่แล้วต่อว่ามัน “มึงทำอย่างงี้ได้ไงวะ”
“ทำไมอ่ะ” มันดูรู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาของผม
“ก็ตอนมึงแตกมึงดันควยเข้ามาทำไมวะ”
“ก็กูน้ำแตกแล้วมึงจะให้กูทำไงละ”
“แล้วใครบอกให้มึงน้ำแตกในปากกู ทำไมมึงต้องให้กูกินน้ำควยมึงด้วย” ผมลุกขึ้นยืน หยิบเบียร์ขึ้นมาซด ตาจ้องมันเขม็ง
“เออกูไม่รู้วะ ทีกับพวกผู้หญิงกูก็ทำแบบเดียวกันกับมึงนี่แหละ กูไม่ชอบเวลาเห็นพวกผู้หญิงไปบ้วนทิ้ง มันบอกไม่ถูกวะ” มันมองผมเหมือนกับว่าผมกำลังขอให้มันทำในสิ่งที่มันไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนอะไรพวกนี้
“มึงไม่ต้องซีเรียสอะไรหรอก กูก็ทำของกูแบบนี้” มันยิ้มพร้องกับหยิบกางเกงขึ้นมาใส่ “มึงรู้เปล่า มึงมีทักษะการดูดควยที่เยี่ยมยอดมาก”
แล้วมันก็เดินไปหยิบเบียร์เย็นๆมาสองขวด ยิ้มแล้วยื่นให้ผมขวดหนึ่ง แล้วนั่งลงบนโซฟา หยิบรีโมตเปิดช่องอีเอสพีเอ็นดูไฮไลท์ฟุตบอลต่อ

ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนหน้านี้ว่าไอ้เพื่อนผมคนนี้มันจะเป็นคนหลงตัวเองเอามากๆจนถึงตอนนี้ แต่มันก็มีหุ่นดีเอามากๆ ควยสวย ตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มทุกครั้ง เรายังคบกันอยู่ตลอดแม้ว่าหลังจากเรียนจบแล้ว มันไม่เคยเปลี่ยน มีแต่ผมที่ยังถวิลหาเหตุการณ์ในวันนั้นตลอดมา

*************************** END ******************************