แค่ได้กลิ่นก็พะอืดพะอม แอบช้ำ กล้ำกลืน ขื่นขม แล้วค่ะ

ค่ะ แซ่ปนัว

พวกคนเอเชียชอบกินของเหม็น (ไม่นับเกาหลี มองโกเลีย ญี่ปุ่น)

จีน = เต้าหู้เหม็น (เหม็นอุบาดสุด กว่าทุกสิ่ง), ทุเรียน

ไทยมีของเหม็นทุกภาค
อีสาน = ปลาร้า
เหนือ = ถั่วเน่า (เหม็นกว่าปลาร้า 10 เท่า)
ใต้/กลาง = กะปิ

คนมาลายู = บูดู

>พวกคนเอเชียชอบกินของเหม็น (ไม่นับเกาหลี มองโกเลีย ญี่ปุ่น)
>
>จีน = เต้าหู้เหม็น (เหม็นอุบาดสุด กว่าทุกสิ่ง), ทุเรียน
>
>ไทยมีของเหม็นทุกภาค
>อีสาน = ปลาร้า
>เหนือ = ถั่วเน่า (เหม็นกว่าปลาร้า 10 เท่า)
>ใต้/กลาง = กะปิ
>
>คนมาลายู = บูดู

ตอนขี้นี่คงเหม็นกว่าสิบเท่า ถูกใจเจ๊พังพอนเลยนะคะ

>พวกคนเอเชียชอบกินของเหม็น (ไม่นับเกาหลี มองโกเลีย ญี่ปุ่น)
>
>จีน = เต้าหู้เหม็น (เหม็นอุบาดสุด กว่าทุกสิ่ง), ทุเรียน
>
>ไทยมีของเหม็นทุกภาค
>อีสาน = ปลาร้า
>เหนือ = ถั่วเน่า (เหม็นกว่าปลาร้า 10 เท่า)
>ใต้/กลาง = กะปิ
>
>คนมาลายู = บูดู

ทุกอย่างไม่มีอะไรเหม็นเท่าปลาร้าเลย

ถั่วเน่าของเหนือที่มึงว่าเหม็นกว่าปลาร้า นี่อยากขำ เคยกินรึเปล่ารึ มโน ถั่วเน่าเขาใส่ในน้ำพริกอ่องด้วย หรือเอามาทำแอ็บถั่วเน่า กลิ่นก็ปกตินะ ไม่มีอะไรเหม็น กูถึงกินได้

แต่อีปลาร้าลาวนี้ต้มทีเหม็นไปทั้งซอย อีดอก

เต้าหู้เหม็นก็ไม่ได้เหม็นเท่าปลาร้าเลย

ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย

>>พวกคนเอเชียชอบกินของเหม็น (ไม่นับเกาหลี มองโกเลีย ญี่ปุ่น)
>>
>>จีน = เต้าหู้เหม็น (เหม็นอุบาดสุด กว่าทุกสิ่ง), ทุเรียน
>>
>>ไทยมีของเหม็นทุกภาค
>>อีสาน = ปลาร้า
>>เหนือ = ถั่วเน่า (เหม็นกว่าปลาร้า 10 เท่า)
>>ใต้/กลาง = กะปิ
>>
>>คนมาลายู = บูดู
>
>ทุกอย่างไม่มีอะไรเหม็นเท่าปลาร้าเลย
>
>ถั่วเน่าของเหนือที่มึงว่าเหม็นกว่าปลาร้า นี่อยากขำ
>เคยกินรึเปล่ารึ มโน ถั่วเน่าเขาใส่ในน้ำพริกอ่องด้วย
>หรือเอามาทำแอ็บถั่วเน่า กลิ่นก็ปกตินะ ไม่มีอะไรเหม็น
>กูถึงกินได้
>
>แต่อีปลาร้าลาวนี้ต้มทีเหม็นไปทั้งซอย อีดอก
>
>เต้าหู้เหม็นก็ไม่ได้เหม็นเท่าปลาร้าเลย
>
>ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว
>มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น
>ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย

เต้าหู้เหม็น ไม่เหม็นพ่อมึงดิ ไอเหี้ย เหม็นฉิบหาย กูขรรม สาระแนมาเหยียดของเหม็น แต่เสือกแดกเต้าหู้เหม็นได้ คนที่เขากินของเหม็นไม่ได้เลย ขนาดแค่ทุเรียน เขายังแดกไม่ได้เลย กลิ่นอย่างกับถุงเท้าไม่ได้ซัก แต่มึงข้ามขั้นไปแดกเต้าหู้น่า แดกถั่วเน่าได้ แบบนี้มึงไม่ต้องสงสัยในความเป็นมนุษย์ชอบแดกของเหม็นของตัวเองแล้ว อยู่ในเลเวลโปรขนาดนี้ มึงไปไกลแล้วอีกกะเทยแก่ อย่างเต้าหูเหม็น ถ้ามึงแดกได้ มึงก็แดกขี้ได้แล้วจ้า

ส่วน ภาคเหนือไทย นอกจากถั่วเน่า
คนเหนือยังชอบกินเนื้อเน่าด้วย เนื้อเน่า หรือ จิ๊นเน่า

จิ๊นเน่า นี่เหม็นอุบาทว์ กว่าทุกของเหม็นที่เคยมีมาในไทย เพราะมันคือกลิ่นเน่าของเนื้อสัตว์บกจริงๆ อาหารประจำภาคของคนเหนือเลย อันนี้บอกเลยว่าคือเหม็นกว่าเต้าหูเหม็นไปอีก 100 เท่า และเหม็นกว่าปลาร้าไปอีก 200 เท่า

คนเหนือ คนอีสาน คือพี่น้องกันแท้ๆ แต่มาถูกทำให้แตกแยกกัน ตอน ล้านนา ล้านช้าง ตกเป็นเมืองขึ้นของ กรุงเทพ ตอน สมัย ร.5 นี่เอง

ทั้งๆที่ ไล่ไปดูประวัติศาสตร์ คนภาคเหนือ กับ คนภาคอีสาน ชอบกินของเหม็น คล้ายกัน เพราะจริงๆแล้วเป็นลาวเหม็นกัน อยู่ในกลุ่มเป็นคนไท-กะ-ได อพยพมาจากตอนใต้ของหยูนาน เหมือนๆกัน รากศัพท์ก็มาจากแหล่งเดียวกัน คนก็อพยพมาจากแหล่งเดียวกัน ไม่น่าแปลกอะไรเท่าไรที่วัฒนธรรมการกินของเหม็นจะคล้ายกันมาก

ต่างกันตรงที่ปลาร้ามันดัง แต่จิ๊นเน่า (เนื้อเน่าของคนเหนือ) ไม่ดังนี่สิ เพราะมันเหม็นเกิ๊นนนน กินยาก มีแต่คนเหนือเท่านั้น ที่กินไดั เหม็นขนาดนี้ ภาคอื่นเขาไม่อิน เข้าไม่ถึง

>ส่วน ภาคเหนือไทย นอกจากถั่วเน่า
>คนเหนือยังชอบกินเนื้อเน่าด้วย เนื้อเน่า หรือ จิ๊นเน่า
>
>
>
>จิ๊นเน่า นี่เหม็นอุบาทว์ กว่าทุกของเหม็นที่เคยมีมาในไทย
>เพราะมันคือกลิ่นเน่าของเนื้อสัตว์บกจริงๆ
>อาหารประจำภาคของคนเหนือเลย
>อันนี้บอกเลยว่าคือเหม็นกว่าเต้าหูเหม็นไปอีก 100 เท่า
>และเหม็นกว่าปลาร้าไปอีก 200 เท่า

ว้ายยยยยยยย จิ๊นเน่านี่เหม็นจริง แบบจะอ้วกมาก

ป้าแม่บ้าน ที่บ้าน ชีมาจากแม่แจ่ม ชอบมาทำกิน ปกติที่บ้านให้แม่บ้าน มาใช้ครัวของบ้านใหญ่ได้ ก็ให้พวกนางมาทำในครัวไทย ยังเหม็นเข้ามาในตัวบ้าน แรกๆ คือด่าเลยจ๊ะ เหม็นมาก เราสั่งห้ามเลยว่าไม่ให้ทำนะ

หลังๆ สงสารแก แกคงคิดถึงอาหารถิ่นแกแหละ เลยให้ทำได้ แต่มีข้อแม้คือไม่ให้ทำที่ครัวไทยของบ้านใหญ่แล้ว ให้ไปทำที่ครัวของพวกแม่บ้านแทน แต่ไม่ให้ทำบ่อยเด็ดขาด มันเหม็น แม่บ้านคนอื่นๆเขายังไม่ชอบเลย

จิ่นเน่า ของภาคเหนือ ชนะเริศ ในความเหม็นเน่า

>แค่ได้กลิ่นก็พะอืดพะอม แอบช้ำ กล้ำกลืน ขื่นขม แล้วค่ะ

ใครให้เจ้ไปดมคะ ขึ้นชื่อว่าร้านส้มตำ อาหารอีสาน ดีชั้นก็ไม่เฉียดใกล้เลยค่ะ

ก๋ดีกว่าลูกครึ่งปาปัวแบบ hsgirl คะ
ชอบกินอาหารดิบๆ พุงเลยยื่น อุบาทว์ตามาก
ลืมสวัสดี อีอ้วนดำ ดั้งแหมบ ขี้ไม่ล้างตูด Hsgirl

อีโง่มีปมในชีวิตไม่รู้จัก Hákarl สินะคะ เนื้อฉลามเน่า

เต้าหู้เหม็นอร่อยนะหล่อนทำเป็นเล่นไป เนื้อสัมผัสมันเคี้ยวแล้วหนึบหนับรสสัมผัสดีจะทอดจะต้มคือเลิศ แต่กลิ่นคือ ถ้าไม่เคยแดกของกลิ่นแรงๆมาก่อนคือกลิ่นขี้ชัดๆเลยค่ะ

นี่เป็นสาเหตที่คนภาคนี้เป็นมะเร็งตับเยอะ หรือเปล่าค่

เห็นอียูทูปเบอร์แต่ละตัวชอบกินปลาร้านักหนา

ยิ่งอีเจ๊เบียร์นี่ตัวเหี้ยเลย บอกว่าตัวเองเป็นผู้นำยำใส่ปลาร้า เพราะเมื่อก่อนไม่มีใครเอาปลาร้าไปใส่ยำ เบียร์ทำคนแรก ร้านยำเลยทำตาม

ตอนนี้ขนาดกูสั่งยำไม่ใส่ปลาร้าร้านยำมันก็เอากะละมังที่เพิ่งใส่ปลาร้านั่นแหละมาทำต่อ ยิ่งใครสั่งออนไลน์นี่ซวยเลยถ้าได้เห็นวิธีการทำอ้วกคงพุ่งกินไม่ลง ไม่ใช่ทุกคนอยากกินยำใส่ปลาร้าแบบมึงอีสัด

เพราะคนอิสานเป็นควายแดงสามกีบก็เลยชอบกินขี้ค่ะ

>เพราะคนอิสานเป็นควายแดงสามกีบก็เลยชอบกินขี้ค่ะ

เหนือ อีสาน ภาคกลาง นี่ถิ่นควายแดงทั้งนั้นแหละค่ะ

ภาคตะวันออก ภาคใตั ส่วนมากเป็นสลิ่ม

กทม เมื่อก่อนก็ถิ่นสลิ่ม ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นถิ่นสามกีบแทน

สรุป ปัจจุบัน สามกีบ (ลูกหลานควายแดง) ชนะเริ่ด

ถั่วเน่าของเหนือก้คือนัตโตะของญี่ปุ่น ถ้ามึงจะนับคนเหนือกินของเหม็นแบบถั่วเน่าอิญี่ปุ่นก้ไม่ต่างกันเลยคร่ะ

เหมือที่พวกมึงกินน้ำปลา กินทุเรียน แล้วฝรั่งดูถูกว่าคนไทยชั้นต่ำกินของเหม็นนั้นแหละครา้าาาา

คนตะวันออกกลางก็มี ทำกินยากกวาปลาร้าอีก

>ถั่วเน่าของเหนือก้คือนัตโตะของญี่ปุ่น
>ถ้ามึงจะนับคนเหนือกินของเหม็นแบบถั่วเน่าอิญี่ปุ่นก้ไม่ต่างกันเลยคร่ะ

แล้วเนื้อเน่า ที่คนเหนือชอบกินล่ะคะ คนญี่ปุ่นเขากินเนื้อเน่าแบบคนเหนือไหม

แถวอีสานยังมีเมนูเก่าแก่อีกนะคะ

เช่น ศพดอง วิธีการทำคือไปขุดศพที่เค้าฝังตามป่าช้ามาดองเกลือค่ะ

อีกเมนูคือ ศพเน่าศพอืด อันนี้ต้องรอค่ะว่าเมื่อไหร่จะมีศพจมน้ำเค้าถึงจะทำเมนูนี้ได้ อร่อยเหาะเชียวค่ะ

>แถวอีสานยังมีเมนูเก่าแก่อีกนะคะ
>
>เช่น ศพดอง
>วิธีการทำคือไปขุดศพที่เค้าฝังตามป่าช้ามาดองเกลือค่ะ
>
>
>
>อีกเมนูคือ ศพเน่าศพอืด
>อันนี้ต้องรอค่ะว่าเมื่อไหร่จะมีศพจมน้ำเค้าถึงจะทำเมนูนี้ได้
>อร่อยเหาะเชียวค่ะ

ไม่ใช่ล่ะ ไอเหี้ยยยยยย 555555555555

กะเทยขายขำล่ะแบบนี้

>แถวอีสานยังมีเมนูเก่าแก่อีกนะคะ
>
>เช่น ศพดอง
>วิธีการทำคือไปขุดศพที่เค้าฝังตามป่าช้ามาดองเกลือค่ะ
>
>
>
>อีกเมนูคือ ศพเน่าศพอืด
>อันนี้ต้องรอค่ะว่าเมื่อไหร่จะมีศพจมน้ำเค้าถึงจะทำเมนูนี้ได้
>อร่อยเหาะเชียวค่ะ

กูเคยแดกศพแม่มึงด้วยนะ ส่วนหีหายไปไหนไม่รู้ สงสัยพ่อมึงขุดขึ้นมาแดกก่อน

มีกินปลาไหล ที่ไปแทะศพ ในป่าช้าด้วยค่ะ
และ
มีกินน้องหมาด้วยค่ะ เช่น บางทีหมาโดนรถชน ก็ไปลากเอาไปกินจากกลางถนนเลยค่ะ
บางทีก็เอาหมาตัวดื้อๆ มาใส่กระสอบ แล้วก็ตีมันจนตาย

ไม่รุ้จริงไหมนะ น้องเคยอ่านเจอที่ไหนนี่หละ อิๆ

>มีกินปลาไหล ที่ไปแทะศพ ในป่าช้าด้วยค่ะ
>และ
>มีกินน้องหมาด้วยค่ะ เช่น บางทีหมาโดนรถชน
>ก็ไปลากเอาไปกินจากกลางถนนเลยค่ะ
>บางทีก็เอาหมาตัวดื้อๆ มาใส่กระสอบ แล้วก็ตีมันจนตาย
>
>ไม่รุ้จริงไหมนะ น้องเคยอ่านเจอที่ไหนนี่หละ อิๆ

จริงค่ะ เคยเจอแบบโยนหมาให้รถเหยียบจนเละ จากนั้นก็ปิดถนนล้อมวงทำซอยจุ๊กันตรงนั้นเลย อย่างแซ่บ

ภาคเหนือก็กินปลาร้าคะ ภาคกลางก็ทำปลาร้าขายคะ เเละรายใหญ่ด้วย

มีอะไรเน่าๆโยนไปให้อิป้าพังพอนเลยค่ะ มันชอบแซบ

ตอแหล

>มีอะไรเน่าๆโยนไปให้อิป้าพังพอนเลยค่ะ มันชอบแซบ

มีอะไรเน่าๆโยนไปให้อิป้าพังพอนเลยค่ะ มันชอบแซบ

>ภาคเหนือก็กินปลาร้าคะ ภาคกลางก็ทำปลาร้าขายคะ เเละรายใหญ่ด้วย

ปลาร้าเหนือไม่เหมือนอีสานจ่ะ ไม่เน่าเหมือนมันด้วย

>>ภาคเหนือก็กินปลาร้าคะ ภาคกลางก็ทำปลาร้าขายคะ เเละรายใหญ่ด้วย
>
>ปลาร้าเหนือไม่เหมือนอีสานจ่ะ ไม่เน่าเหมือนมันด้วย

ไม่เหมือนเหี้ยไร ลาวเหมือนกัน

ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว
>มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น
>ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย

ถ้าอย่างนั้นกินอาหารที่ใส่น้ำปลา กะปิในเครื่องแกงทุกวัน มันสะสมในร่างกาย คนไทยคงจะหีเหม๊น ปากเหม็นกันทั้งประเทศเลยสิคะ ที่ไม่รู้สึกได้กลิ่นเหม็นเน่าเพราะเคยชินแล้ว แต่ต่างชาติได้กลิ่นคงเหม็นเน่าน่าดู

>ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว
>>มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น
>>ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย
>
>
>ถ้าอย่างนั้นกินอาหารที่ใส่น้ำปลา กะปิในเครื่องแกงทุกวัน
>มันสะสมในร่างกาย คนไทยคงจะหีเหม๊น
>ปากเหม็นกันทั้งประเทศเลยสิคะ
>ที่ไม่รู้สึกได้กลิ่นเหม็นเน่าเพราะเคยชินแล้ว
>แต่ต่างชาติได้กลิ่นคงเหม็นเน่าน่าดู

ปลาร้าคือของเหม็นที่สุด ไม่งั้นทั่วโลกเขาไม่เกลียดชังกันหรอก

อีดอก คนตั้งกระทู้นี้คงเป็นอีลาวอีสานมีปมด้อยค่ะ อีดอก

ปลาร้ามึงนะหีเหม็น ปากเหม็นที่สุดแล้ว

มาบอกว่า ทุเรียนเหม็น ทุเรียนดีๆ หมอนทองหอมมาก

ถ้ามึงบอกปลาร้าหอม วันหลังมึงก็บอกว่าขี้หอมได้ค่ะ อีดอก

ไม่ต้องมาขิงของคนอื่น อีดอกลาวมีปมด้อย

ส่วนเครื่องแกง มันหอมดับกลิ่นกะปิไปแล้วไง เพราะคนไม่ชอบกะปิ ก็ยังกินเครื่องแกงได้

อร่อยจะตาย รู้ว่าไม่ชอบก็ดีละ วันหลังจะดักสาดด้วนปลาร้า

อะไรนะคะ

>>ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว
>>>มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น
>>>ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย
>>
>>
>>ถ้าอย่างนั้นกินอาหารที่ใส่น้ำปลา กะปิในเครื่องแกงทุกวัน
>>มันสะสมในร่างกาย คนไทยคงจะหีเหม๊น
>>ปากเหม็นกันทั้งประเทศเลยสิคะ
>>ที่ไม่รู้สึกได้กลิ่นเหม็นเน่าเพราะเคยชินแล้ว
>>แต่ต่างชาติได้กลิ่นคงเหม็นเน่าน่าดู
>
>ปลาร้าคือของเหม็นที่สุด
>ไม่งั้นทั่วโลกเขาไม่เกลียดชังกันหรอก
>
>อีดอก คนตั้งกระทู้นี้คงเป็นอีลาวอีสานมีปมด้อยค่ะ อีดอก
>
>ปลาร้ามึงนะหีเหม็น ปากเหม็นที่สุดแล้ว
>
>มาบอกว่า ทุเรียนเหม็น ทุเรียนดีๆ หมอนทองหอมมาก
>
>ถ้ามึงบอกปลาร้าหอม วันหลังมึงก็บอกว่าขี้หอมได้ค่ะ อีดอก
>
>ไม่ต้องมาขิงของคนอื่น อีดอกลาวมีปมด้อย
>
>ส่วนเครื่องแกง มันหอมดับกลิ่นกะปิไปแล้วไง เพราะคนไม่ชอบกะปิ
>ก็ยังกินเครื่องแกงได้

เอ่อกุยังไม่ได้พูดว่าปลาร้ามันหอม หรือพูดถึงทุเรียน ขิงว่าปลาร้ามันหอมตรงไหนเลยอีบ้า แค่เปรียบเทียบว่าของหมักของดองกินไปแล้วมันก็มีกลิ่นกันทุกคน เหม็นมากเหม็นน้อยมันก็แล้วแต่จมูกของแต่ล่ะคนค่ะ กูว่าเหม็นเน่ากว่าปลาร้าก็ปากกับความคิดเน่าๆของมึงนี่แหละ สันดานเสียนอกจากจะปากดีแบบโง่ๆแล้วยังเหยียดเชื้อชาติอีก น่ากลัวจังคนแบบนี้

>>>ปลามันเปผ้นสัตว์น้ำมีกลิ่นคาวอยู่แล้ว
>>>>มันถึงเหม็นเน่าคาวได้มากกว่า กินมากๆ หีเหม็น ปากเหม็น
>>>>ผัวจะไม่จะนัวปาก ไม่เลียหีให้ด้วย
>>>
>>>
>>>ถ้าอย่างนั้นกินอาหารที่ใส่น้ำปลา กะปิในเครื่องแกงทุกวัน
>>>มันสะสมในร่างกาย คนไทยคงจะหีเหม๊น
>>>ปากเหม็นกันทั้งประเทศเลยสิคะ
>>>ที่ไม่รู้สึกได้กลิ่นเหม็นเน่าเพราะเคยชินแล้ว
>>>แต่ต่างชาติได้กลิ่นคงเหม็นเน่าน่าดู
>>
>>ปลาร้าคือของเหม็นที่สุด
>>ไม่งั้นทั่วโลกเขาไม่เกลียดชังกันหรอก
>>
>>อีดอก คนตั้งกระทู้นี้คงเป็นอีลาวอีสานมีปมด้อยค่ะ อีดอก
>>
>>ปลาร้ามึงนะหีเหม็น ปากเหม็นที่สุดแล้ว
>>
>>มาบอกว่า ทุเรียนเหม็น ทุเรียนดีๆ หมอนทองหอมมาก
>>
>>ถ้ามึงบอกปลาร้าหอม วันหลังมึงก็บอกว่าขี้หอมได้ค่ะ อีดอก
>>
>>ไม่ต้องมาขิงของคนอื่น อีดอกลาวมีปมด้อย
>>
>>ส่วนเครื่องแกง มันหอมดับกลิ่นกะปิไปแล้วไง เพราะคนไม่ชอบกะปิ
>>ก็ยังกินเครื่องแกงได้
>
>
>
>เอ่อกุยังไม่ได้พูดว่าปลาร้ามันหอม หรือพูดถึงทุเรียน
>ขิงว่าปลาร้ามันหอมตรงไหนเลยอีบ้า
>แค่เปรียบเทียบว่าของหมักของดองกินไปแล้วมันก็มีกลิ่นกันทุกคน
>เหม็นมากเหม็นน้อยมันก็แล้วแต่จมูกของแต่ล่ะคนค่ะ
>กูว่าเหม็นเน่ากว่าปลาร้าก็ปากกับความคิดเน่าๆของมึงนี่แหละ
>สันดานเสียนอกจากจะปากดีแบบโง่ๆแล้วยังเหยียดเชื้อชาติอีก
>น่ากลัวจังคนแบบนี้

ว่าพี่ตงฟางทำไมค่ะ

คนใต้ก็มีน้ำบูดูนะคะ พอกัน

ปลาร้า คือ การถนอมอาหารของคนโปราณ คือการนำปลาสดหมักดองในเกลือผสมรำข้าว นิยมทำในฤดูเกี่ยวข้าว เข้า หน้าหนาว ก่อนที่จะฤดูกาลแล้ง ไม่มีปลา ให้ กิน แต่ กิน ดิบ ใช้ แทน น้ำปลา เมื่อรัฐรณรงค์ เรื่อง กินสุข คน อีสาน ก็ น้ำปลา มาต้ม ปรุง เครื่อง พร้อม ใช้ ผสม กับ น้ำปลา ปรุงอาหาร ทุก ชนิด โดยเฉพาะ ส้มตำ แจ๋ว...

ปลาร้า มี สอง ประเภท

1. คล้ายปลาเค็ม เป็น ตัวๆ เอา ไว้กิน เนื้อ

2. ปลาร้า ที่ ใช้ เฉพาะน้ำหมักดอก ทำส้มตำ ยิ่งเหม็นมาก ยิ่ง อร่อย

คนที่ ไม่เคย กิน อย่ากิน เพราะลองกินเกิน 3 ครั้ง แล้วจะ ติดใจ

พอๆกับทุเรียน

ก็ยังไม่เหม็นเท่าจิ๋นเน่า ของภาคเหนือค่ะ

>ปลาร้า คือ การถนอมอาหารของคนโปราณ
>คือการนำปลาสดหมักดองในเกลือผสมรำข้าว นิยมทำในฤดูเกี่ยวข้าว
>เข้า หน้าหนาว ก่อนที่จะฤดูกาลแล้ง ไม่มีปลา ให้ กิน แต่ กิน
>ดิบ ใช้ แทน น้ำปลา เมื่อรัฐรณรงค์ เรื่อง กินสุข คน อีสาน ก็
>น้ำปลา มาต้ม ปรุง เครื่อง พร้อม ใช้ ผสม กับ น้ำปลา ปรุงอาหาร
>ทุก ชนิด โดยเฉพาะ ส้มตำ แจ๋ว...
>
>
>ปลาร้า มี สอง ประเภท
>
>1. คล้ายปลาเค็ม เป็น ตัวๆ เอา ไว้กิน เนื้อ
>
>2. ปลาร้า ที่ ใช้ เฉพาะน้ำหมักดอก ทำส้มตำ ยิ่งเหม็นมาก ยิ่ง
>อร่อย
>
>
>
>คนที่ ไม่เคย กิน อย่ากิน เพราะลองกินเกิน 3 ครั้ง แล้วจะ
>ติดใจ
>
>
>พอๆกับทุเรียน
เขียนหนังสือให้ถูกก่อนไหมคะ อิดอก
มาเเสดงความรู้เเต่คำง่ายๆยังเขียนไม่ถูก มันดูขาดความน่าเชื่อถือคะ

ประเทศไทย มีน้ำจืด หวยหนองคลองบึงเยอะ ปลาร้าเป็นการถนอมอาหารเกบไว้กินเหมือนพวกเนื้อเเห้ง ปลาเเห้ง ที่เขาทำกันเยอะในหน้าหนาวเพราะว่า น้ำในนามันจะลดเเละมีปลาที่ติดอยุ่ตามท้องนาเยอะไงคะ ปลาตัวใหญ่เอาไปตากเเห้งทำปลาเเห้ง ปลารมควัน ตัวเล็กๆ ก็เอามาหมักปลาร้า

หิวมากค่ะ

>>ปลาร้า คือ การถนอมอาหารของคนโปราณ
>>คือการนำปลาสดหมักดองในเกลือผสมรำข้าว นิยมทำในฤดูเกี่ยวข้าว
>>เข้า หน้าหนาว ก่อนที่จะฤดูกาลแล้ง ไม่มีปลา ให้ กิน แต่ กิน
>>ดิบ ใช้ แทน น้ำปลา เมื่อรัฐรณรงค์ เรื่อง กินสุข คน อีสาน ก็
>>น้ำปลา มาต้ม ปรุง เครื่อง พร้อม ใช้ ผสม กับ น้ำปลา ปรุงอาหาร
>>ทุก ชนิด โดยเฉพาะ ส้มตำ แจ๋ว...
>>
>>
>>ปลาร้า มี สอง ประเภท
>>
>>1. คล้ายปลาเค็ม เป็น ตัวๆ เอา ไว้กิน เนื้อ
>>
>>2. ปลาร้า ที่ ใช้ เฉพาะน้ำหมักดอก ทำส้มตำ ยิ่งเหม็นมาก ยิ่ง
>>อร่อย
>>
>>
>>
>>คนที่ ไม่เคย กิน อย่ากิน เพราะลองกินเกิน 3 ครั้ง แล้วจะ
>>ติดใจ
>>
>>
>>พอๆกับทุเรียน
>เขียนหนังสือให้ถูกก่อนไหมคะ อิดอก
>มาเเสดงความรู้เเต่คำง่ายๆยังเขียนไม่ถูก
>มันดูขาดความน่าเชื่อถือคะ
>
>ประเทศไทย มีน้ำจืด หวยหนองคลองบึงเยอะ
>ปลาร้าเป็นการถนอมอาหารเกบไว้กินเหมือนพวกเนื้อเเห้ง ปลาเเห้ง
>ที่เขาทำกันเยอะในหน้าหนาวเพราะว่า
>น้ำในนามันจะลดเเละมีปลาที่ติดอยุ่ตามท้องนาเยอะไงคะ
>ปลาตัวใหญ่เอาไปตากเเห้งทำปลาเเห้ง ปลารมควัน ตัวเล็กๆ
>ก็เอามาหมักปลาร้า

หล่อนก็เขียนผิดเหมือนกัน คห.บน เช่นกันค่ะ 555555

>เขียนหนังสือให้ถูกก่อนไหมคะ อิดอก
>มาเเสดงความรู้เเต่คำง่ายๆยังเขียนไม่ถูก
>มันดูขาดความน่าเชื่อถือคะ

วิเองไม่รับประทานอาหารแบบนี้คะ
ต้องน๊าน ทีปีหนค่ะ

สรุปคือลาว เหยียด ลาว หรอคะ

เวลาจะสั่งอาหารถ้าร้านไหนมีคำว่าปลาร้ากูปัดทิ้งเลย เหม็นจริง ๆ ไม่ได้เหยียด จะบอกว่าไม่ชอบก็ไม่ได้เดี๋ยวโดนหาว่าไม่ติดดิน

อ้อ อีพวกที่ชอบแดกอย่าพยายามมายัดเยียดให้คนที่เค้าไม่ชอบหรือทำตัวนิ่ง ๆ ต้องมาแดกด้วย เหมือนโดนบังคับข่มขืน เมื่อก่อนเห็นรายการเกมโชว์ช่องนึงชอบเอามาแกล้ง

ก็ถึงว่าพวกควายแดงสามกีบชอบกินปลาร้าถั่วเน่าเนื้อเน่า ก็เลยโง่เหมือนควาย ชอบเรียกร้องขอทานจะเอานั้นเอานี่อยู่เรื่อย แดกไปเยอะๆนะคะ ค่ะอีลาว

ภาคอีสานนี่คือประชากรคุณภาพชั้นต่ำจริงๆ ชอบกินของเน่าๆถึงได้โง่ให้เค้าจูงจมูกไปมาอยู่นี่ไงค่ะ

วัฒนธรรมการกินเป็นวิถีของแต่ละท้องถิ่น
คนที่กินก็ว่าหอม คนไม่กินก็ว่าเหม็น
ที่ จขกท.ว่ามีแต่คนเอเชียที่กินของเหม็น
ไม่ทราบว่าเคยกิน blue cheese มั้ย?
น้ำปลา ปลาเค็ม กระปิ สำหรับคนไม่คุ้นเคย
มันก็เหม็นเหมือนกันแหละ
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คนมีความคิดปกติจะใช้เหยียดกัน

เคยกินขี้ด้วยเหรอคะ

แดกไม่ได้ ก็ไม่ต้องแดกค่ะ

ว่าแล้ว ก่าอยากกินปลาร้าทอด ข้าวสวนร้อนๆรอบดึก

เบิ้ดคำวิเว่า

แซ่บมากค่ะ ดั๊นชอบ