>กูฟังที่นางแถลงแล้ว สรุปให้
>
>หลักๆคือ นางไปดิว กับคนที่จะมาซื้อหุ้นกู้
>นางไว้หลายเดือนแล้ว ตกลงอะไรกันเรียบร้อย
>
>พอจนใกล้ครบดิวที่ต้องจ่ายเงิน ชุดก่อน
>ก็กำลังจะเซ็นขายหุ้นกู้ชุดใหม่ให้กับคนใหม่
>เพื่อเอาเงินมาจ่าย ชุดก่อนหน้า
>
>แต่คนให้กู้ชุดใหม่ ดันขอเพิ่มเงือนไข ตอนจะเซ็นว่าถ้า
>นางจ่ายไม่ได้ เจ้าหนี้มีสิทธ์ยึดธุรกิจหลักของนางได้
>
>นางเลยไม่เซ็น เพราะนางว่าเอาเปรียบนาง อันนี้ก็จริง
>เพราะคุยกันต้องนานไม่พูด พอถึงกำหนดมาเปลี่ยนเงือนไข
>เหมือนจะเอาเรื่องเวลามาบีบนาง ว่าถ้านางไม่เซ็น ก็ไม่ได้เงิน
>ไปจ่ายชุดเก่า
>
>เกิดปัญหาแน่ๆ อารมณ์ประมาณนี้ คือคงคิดว่าอย่างไง
>นางก็ต้องยอม เพราะไม่งันเสียเครดิต
>
>แต่ผิดคาด นางไม่เซ็น ยอมเสียเครดิต ดีกว่าให้คนมายึดธุรกิจ
>ผลก็อย่างที่เห็น
>
>เอาตรงๆ มีคนไปวิเคราะห์ว่า จริงๆแล้ว ธุรกิจนาง กำไรทุกปีนะ
>แต่เพียงแต่ว่าช่วงที่ผ่านมา นางลงทุนเกินตัวไปเยอะ
>ออกขายหุ้นกู้เพื่อมาหมุน พอเกิดขายชุดใหม่ไม่ได้ เลยสะดุด
>
>แต่ตัวธุรกิจที่นางทำ กำไรทุกปี มากบ้าง น้อยบาง
>แต่ไม่เคยขาดทุน
>
>ที่นี้ ต้องมารอดูว่านางจะหาทางออกอย่างไง

ตั้งแต่ปี 62 หรือจะซื้อช่องทีวี ต้นปี 63 นั่นแหล่ะ
กระแสเงินสดติดลบระดับพันล้านทุกปีค่ะและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กำไรกับเงินลงทุนต่างกันมากๆทุกปี แล้วเงินลงทุนก็มาจากหุ้นกู้ หนี้ธนาคารต่างๆ
ติดลบขนาดนี้แถมยังกำไรน้อยมันมีปัญหาแน่ แล้วอีกอย่างคือต้นทุนของนาง
ส่วนใหญ่เป็นพวกลิขสิทธิ์คอนเทนของพวกนี้มีระยะเวลาค่ะ ขายต่อเปลี่ยนมือก็ยาก
เรียกว่าลงทุนไปเยอะๆเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเลยก็ได้
แค่นางมีเทคนิคในด้านการบัญชี ให้ตัวเลขที่เผยแพร่เป็นกำไรทุกปี
ทำตัวเลขใหม่ให้ขาดทุนเยอะทุกปีก็ได้ค่ะ