https://brandinside.asia/japan-wage-hike-is-big-issue/Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นย้ำ รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อให้รายได้ของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง
นายกฯ ญี่ปุ่น ประกาศนโยบายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาบอกว่า รัฐบาลของเขาจะทำทุกวิถีทางให้รายได้ครัวเรือนเติบโตและจะเร่งแก้ปัญหาเงินฝืด แก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจหดตัวจริงจัง ภารกิจที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐบาลของผมก็คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การขึ้นค่าแรงกำลังเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้
Kishida เน้นว่า ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน ท่ามกลางประเด็นอื้อฉาวด้านเงินทุนที่สนับสนุนพรรค LDP (Liberal Democratic Party) ส่งผลให้คะแนนนิยมที่มีต่อพรรคตกต่ำที่สุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นเรื่องการทำให้ค่าแรงเติบโตอย่างยั่งยืนและทำให้ภาวะเงินเฟ้อมีความเสถียรมากขึ้น จะเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในปีนี้ นอกจากนี้ การเร่งเจรจาขึ้นค่าแรงระหว่างนายจ้างและพนักงาน อาจจะช่วยปูทางให้ธนาคารแห่งญี่ปุ่นล้มเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงินที่ผิดแปลกไปจากเดิม
.
ปีที่ผ่านมา บริษัทญี่ปุ่นก็มีการเสนอให้ขึ้นค่าแรงที่ 3.6% เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 30 ปี และนักเศรษฐศาสตร์ยังคาดการณ์ว่า ปี 2024 นี้ ค่าแรงของญี่ปุ่นน่าจะถีบตัวสูงขึ้นเกือบ 3.9% สะท้อนให้เห็นภาวะวิกฤตในมิติของแรงงานและกระแสเงินสดของบริษัทต่างๆ ที่ 343 ล้านล้านเยน อย่างไรก็ตาม บริษัทขนาดเล็กยังตามหลังบริษัทใหญ่ๆ ในประเด็นเรื่องขึ้นค่าแรง
.
นักวิเคราะห์กำลังจับตาดูว่า การยุติภาวะเงินฝืดกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของแบงก์ชาติญี่ปุ่นจะมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ด้านนายกฯ ญี่ปุ่นเองก็เน้นย้ำว่า รัฐบาลของเขาจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและหาทางเพิ่มค่าแรงให้กับคนทำงานภาครัฐในสาขาการแพทย์และสวัสดิการ รวมทั้งคนทำงานประเภทอื่นๆ ด้วย อาทิ คนขับรถบรรทุกและชนชั้นแรงงานที่ไม่ได้ทำงานประจำ รวมทั้งคนทำงานพาร์ทไทม์ คนทำงานตามสัญญาจ้างเหล่านี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ตรงนี้เช่นเดียวกัน
.
นอกจากนี้ Kishida ไม่เพียงแต่ขึ้นค่าแรงเท่านั้น เขายังเตรียมที่จะหั่นรายได้ชั่วคราวและภาษีที่อยู่ ประมาณ 40,000 เยนต่อคน โดยจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน มันจะช่วยเพิ่มรายได้หลังหักภาษีด้วย ซึ่งการเพิ่มค่าแรงและรายได้หลังหักภาษีนี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เขายังเตรียมเดินหน้าสร้างกรอบแนวคิดเชิงบวกให้กับสังคมว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะมีการขึ้นค่าแรงหรือค่าจ้างให้สูงขึ้น
.
ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง Shunichi Suzuki ต่างก็เน้นย้ำว่าจะต้องปฏิรูปทางการคลังมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ทางการคลังของญี่ปุ่นกำลังได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากมีการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรอบเพื่อรับมือกับโควิดระบาด และอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นก็พุ่งสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงแผนการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 182 ล้านล้านเยน สำหรับช่วงสิ้นปีงบประมาณในเดือนมีนาคม ปี 2025 ด้วย
NEWS
ญี่ปุ่นเพิ่มค่าแรงได้ โดยไม่ส่งผลต่อค่าครองชีพมากนัก เพราะญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าราคาถูกมากมายจากจีน อาเซียน ฯลฯ ถึงญี่ปุ่นเพิ่มค่าแรงก็ไม่ได้ทำให้สินค้าราคาถูกเหล่านี้อัพราคาตาม แถมไม่ได้ทำให้สินค้าเมดอินแจแปน รวมถึงผักผลไม้ อาหารของญี่ปุ่นขายไม่ออก เพราะคนญี่ปุ่นเค้าเชื่อมั่นแบบฝังหัวว่าสินค้าข้าวปลาอาหารที่ผลิตในประเทศมันคุณภาพดี ปลอดภัยกว่าของนำเข้า ถึงราคาสินค้าเมดอินแจแปนจะเพิ่มขึ้นตามค่าแรง แต่อย่าลืมว่ายังไงก็ขาย การขึ้นค่าแรงในญี่ปุ่นคือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เพราะคนมีเงินจับจ่ายมากขึ้น ฉะนั้นการขึ้นค่าแรงของญี่ปุ่นมีแต่ได้กับได้ตัดภาพมาที่ประเทศไทย รากหญ้าโลกที่สาม การขึ้นค่าแรงเสี่ยงมากที่เศรษฐกิจจะแย่กว่าเดิม เพราะประเทศเราเป็นประเทศเน้นการส่งออกสินค้าขั้นต้น วัตถุดิบต่างๆ ต้องราคาถูกถึงจะขายออก ถ้าเพิ่มค่าแรงจะส่งผลให้สินค้าบริโภคอุปโภคที่พวกเราใช้กินใช้แดกกันอยู่ต้องขึ้นตาม ถ้าไม่ไหวก็โดนสินค้าราคาถูกกว่าจากจีนเข้ามาตีตลาด เจ้าของกิจการของไทยที่ไม่ไหวก็ล้มตาย ปัญหาที่ตามมาคือคนตกงาน ฐานการผลิตต่างชาติย้ายออก หรือล้มเลิกแผนการตั้งโรงงานในไทย เพราะผลกำไรไม่คุ้มเพราะค่าแรงสูง ปัญหาที่ตามมาคือตกงาน
สรุป เอามาเทียบกันและเลียนแบบกันไม่ได้ เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจต่างกันฟ้ากับเหว