Go back to previous page
Forum URL: https://www.palm-plaza.com/cgi-bin/CCforum/board.cgi
Forum Name: ThE LoveR
Topic ID: 257547
#0, ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by Ris on 25-Feb-24 at 08:32 AM
วุฒิตรีจากไทยทำงานอะไรได้บ้างคะเราจบเทคนิคการแพทย์แต่ต้องสอบ license หากจะทำงานด้านนี้
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน จะสอบผ่านมั๊ย ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะผ่าน
หากไม่ได้ทำงาน med tech ยังนึกไม่ออกว่าสามารถทำงานอะไรได้บ้าง
ภาษาอังกฤษเรากลางๆพอสื่อสารได้ แฟนบอกเดี๋ยวอยู่นานไปภาษาเราก็จะเก่งขึ้น
เราไม่อยากไปทำงานร้านอาหารไทยอ่ะค่ะไม่ใช่ทางเราจริงๆ มีใครพอแนะนำได้บ้างคะเกี่ยวกับการทำงาน
และการใช้ชีวิตที่อเมริกา

#1, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by นิวแฮมเชียร์ไหน on 25-Feb-24 at 09:12 AM
In response to message #0
อังกฤษ หรือ อเมริกา
ถ้าอเมริกา มันเป็นเมืองเล็กมาก มีอีกเมืองติดกัน คือ กอแฮม ทั้งสองเมือง ผู้คนที่อยู่ในสองเมืองรวมกันมีไม่ถึงแสน ไปเปิด รร สอนเองเลย

#2, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by เล on 25-Feb-24 at 09:23 AM
In response to message #0
>วุฒิตรีจากไทยทำงานอะไรได้บ้างคะเราจบเทคนิคการแพทย์แต่ต้องสอบ
>license หากจะทำงานด้านนี้
>ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหน จะสอบผ่านมั๊ย
>ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะผ่าน
>หากไม่ได้ทำงาน med tech
>ยังนึกไม่ออกว่าสามารถทำงานอะไรได้บ้าง
>ภาษาอังกฤษเรากลางๆพอสื่อสารได้
>แฟนบอกเดี๋ยวอยู่นานไปภาษาเราก็จะเก่งขึ้น
>เราไม่อยากไปทำงานร้านอาหารไทยอ่ะค่ะไม่ใช่ทางเราจริงๆ
>มีใครพอแนะนำได้บ้างคะเกี่ยวกับการทำงาน
>และการใช้ชีวิตที่อเมริกา

แต่งเรื่องตอแหลเก่งแบบนี้ สงสัยมีพันธุกรรมตอแหลเก่งเหมือนแม่ตัวเอง ที่ไปถ่างหีให้พ่อกรรมกรมึงเย็ดจนหีบานตอนอายุ 15-16 ปี ชิมิคะ อีแก่หน้าผี


#3, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by มิส ดัลลัส on 25-Feb-24 at 09:25 AM
In response to message #0
เมืองไหนคะเนี่ย ถ้าไม่ใช่โซน Manchester, Nashua, Salem หรือแถว ๆ ติดกับชายแดน Massachusetts หรือใกล้ Boston นี่ท่าทางจะหางานยากนะคะ เคยไปรัฐนั้นมา 2 ครั้ง ธรรมชาติสวยมาก ป่าเขาเยอะจริง ถ้าเธอจะไปอยู่เมืองโซนเหนือ ๆ ของรัฐนี่เดี๊ยนไม่รู้จะเห็นใจหรือดีใจด้วยดี เพราะมันมีแต่ "ป่า" จริง ๆ ค่ะเธอว์ ตายแล้ว Walmart ยังหายากอ่ะ สวยมันก็สวยหรอก อยู่ไปนาน ๆ อีดอก ท่าจะแห้งเหี่ยวพิกล

แนะนำนะคะ
1. วางหัวโขนลงก่อน อยู่ไทยไม่ว่าจะเคยทำอาชีพที่คิดว่าสูงส่งขนาดไหน เงินเดือนเกินแสน ฯลฯ มาอยู่นี่ไม่มีใครสนใจตรงนั้นค่ะ

2. ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองภาษายังไม่คล่อง มาถึงแล้วให้ไปลงเรียนภาษาตาม community College หรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ใกล้บ้าน ฯลฯ

3. ต่อให้เธอเป็นเด็ก Straight A จากไทย เรียนเก่ง มี Profession ติดตัว แต่ดันพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารระดับ Professional ไม่ได้ ยากนะคะที่จะมีคนจ้าง ยิ่งเป็นงานด้าน Medical หรือ Med Tech ด้วย การสื่อสารควรที่จะต้องเป๊ะ

3. ถ้าแฟนไม่มีกำลังซัพพอร์ตด้านการเงินที่คล่องตัวพอ ก็อย่าเลือกงานค่ะ ต้องปรับตัวให้ได้กับตรงนี้นะคะ งานร้านอาหารไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าอยู่ถูกที่ถูกร้าน เงินดีกว่าพวกทำงานออฟฟิศอีกค่ะ สมัยเดียนทำเสริฟ 5-6 ปีก่อน วันละ $200 up รวมทิปนี่คือปกติมาก ตกเดือนนึงเดี๊ยนมีรายได้ประมาณ 5-6 พันดอลล์พอ ๆ กับเพื่อนสาวที่ผันตัวไปเป็นสจีเดลต้า ซึ่งถือว่าไม่แย่นะคะสำหรับที่นี่ แต่ที่เลิกทำเพราะเริ่มแก่ค่ะ

4. ถ้างานสาย Med Tech มันหาไม่ได้ และไม่อยากทำงานบริการ ฯลฯ แนะนำให้หาคอร์สที่คิดว่าตัวเองสามารถไปเรียนต่อยอดได้ค่ะ แล้วก็ลงเรียนเอาใบ เช่นคอร์สพวก Phlebotomist, Dentist Assistant ฯลฯ หรือพวกงานที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาลตามคลีนิคอ่ะค่ะ



#4, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by กะเทยคือพระเจ้า on 25-Feb-24 at 09:48 AM
In response to message #3
แนะนำว่า อย่าเลือกงาน
แต่ให้เน้นการสมรสเท่าเทียมเพราะนิวแฮมเชียรรัฐนี้มีกฏหมายแต่งงานเพศเดียวกันได้ ตามSame-sex marriage has been legal in New Hampshire since January 1, 2010, based on legislation signed into law by Governor John Lynch on June 3, 2009.

ถ้าอยู่งานวงสังคมเกย์เลสเบียนในนิวแฮมเชียร์ได้ ก็น่าจะทำงานอะไรก็ตามมีความสุขกับแฟนได้
และได้สอบสัมภาษณ์ผ่านสถานทูตได้หรือยัง


#5, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by เกย์อินอเมกา on 25-Feb-24 at 01:50 PM
In response to message #4
ขายอาหารไทยแบบฟู้ดทรัค เลือกเมนูทำง่ายๆ ยูทูปเบอร์ที่อเมการวยกันทุกคน

#7, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by Ris on 25-Feb-24 at 02:43 PM
In response to message #4
>แนะนำว่า อย่าเลือกงาน
>แต่ให้เน้นการสมรสเท่าเทียมเพราะนิวแฮมเชียรรัฐนี้มีกฏหมายแต่งงานเพศเดียวกันได้
>ตามSame-sex marriage has been legal in New Hampshire since
>January 1, 2010, based on legislation signed into law by
>Governor John Lynch on June 3, 2009.
>
>ถ้าอยู่งานวงสังคมเกย์เลสเบียนในนิวแฮมเชียร์ได้
>ก็น่าจะทำงานอะไรก็ตามมีความสุขกับแฟนได้
>และได้สอบสัมภาษณ์ผ่านสถานทูตได้หรือยัง

เราได้วีซ่าท่องเที่ยวมา 10 ปีค่ะ ก็เลยวางแผนว่าปลายปีนี้จะบินไปอเมริกาแล้วไปจดทะเบียนกับแฟนที่ซิตี้ฮอลล์
ละคงยื่นเอกสารขอใบเขียวจากที่นั่นเลยค่ะ แฟนลองปรึกษาทนายเค้าบอกว่าสามารถทำได้ค่ะ
เราก็ไม่อยากเลือกงานนะคะแต่เราไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อน ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลยคิดว่าเราน่าจะทำงาน
แนวนั้นไม่ได้อ่ะค่ะ แต่ถ้าสุดท้ายมันหางานไม่ได้จริงๆเราก็คงต้องจำใจทำ เราไม่อยากพึ่งแฟนไปตลอดค่ะ


#11, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by หีแตดมากคร่ะ on 26-Feb-24 at 10:44 PM
In response to message #7
>>แนะนำว่า อย่าเลือกงาน
>>แต่ให้เน้นการสมรสเท่าเทียมเพราะนิวแฮมเชียรรัฐนี้มีกฏหมายแต่งงานเพศเดียวกันได้
>>ตามSame-sex marriage has been legal in New Hampshire since
>>January 1, 2010, based on legislation signed into law by
>>Governor John Lynch on June 3, 2009.
>>
>>ถ้าอยู่งานวงสังคมเกย์เลสเบียนในนิวแฮมเชียร์ได้
>>ก็น่าจะทำงานอะไรก็ตามมีความสุขกับแฟนได้
>>และได้สอบสัมภาษณ์ผ่านสถานทูตได้หรือยัง
>
>เราได้วีซ่าท่องเที่ยวมา 10 ปีค่ะ
>ก็เลยวางแผนว่าปลายปีนี้จะบินไปอเมริกาแล้วไปจดทะเบียนกับแฟนที่ซิตี้ฮอลล์
>ละคงยื่นเอกสารขอใบเขียวจากที่นั่นเลยค่ะ
>แฟนลองปรึกษาทนายเค้าบอกว่าสามารถทำได้ค่ะ
>เราก็ไม่อยากเลือกงานนะคะแต่เราไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อน
>ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลยคิดว่าเราน่าจะทำงาน
>แนวนั้นไม่ได้อ่ะค่ะ
>แต่ถ้าสุดท้ายมันหางานไม่ได้จริงๆเราก็คงต้องจำใจทำ
>เราไม่อยากพึ่งแฟนไปตลอดค่ะ

อีดอกนึกว่าแต่งแล้ว ก่อนที่จะไปหางาน ไปปูทางเรื่องให้ได้ใบทำงานเขียวก่อนเถอะค่ะ!!!


ถ้าแฟนแน่จริง ให้แฟนให้ยื่นเป็น K1 ไปค่ะ แล้วเข้าไปถ้าไม่แต่งให้หล่อนยังปลอดภัย กลับมาไทย ก็ยังไปขอวีท่องเที่ยวได้อีก

เอาท่องเที่ยว ไปแต่งงาน ทำได้ แต่เป็นการใช่วีผิดประเภท เหมือนพวก นร ที่แต่งงาน ตอนสัมภาษณ์ จะโดนสัมภาษณ์หนัก แฟนหาข้อมูลแล้วทำได้ ใช่ค่ะ แต่ K1 มีคชจ มากกว่า แฟนหล่อนอาจจะอยากประหยัด ไม่อยากเสีย คชจ ค่าทนาย เพราะท่องเที่ยว หล่อนออกเงินขอไปเอง


ไม่มีใบ จะไปทำอะไรได้คะ นอกจาก ร้านไทย งานส่วนมาก เขาก้ให้หล่อนกรอกว่า มี Work Authorizatio ไหม เพราะเขาต้องให้หล่อนเสียภาษี

let's say เดินทางไปถึง 2 เดือนแต่งงาน ต้องทำเอกสารชื่อร่วมกัน กว่าจะเปลี่ยน กว่าจะยื่น กว่าจะถึง ถึงแล้วรอคิว เอกสารไม่ครบ ตีกลับ ยื่นใหม่ รอคิว นัดพิมพ์ลายนิ้วมือ รอสัมภาษณ์

ณ ห้องสัมภาษณ์ "มาถึงไม่ถึง 2 เดือน ทำไมแต่งงานกันเลย เพิ่งอยู่กัน 2 เดือนเองนะ โชว์เอกสารความสัมพันธ์สิคะ" บลาๆๆๆ


แฟนหล่อนทำงานอะไร จ่ายภาษีครบไหม จ่ายมากี่ปี เคยเป็น sponsor ให้ใคร มีคดีความอะไรไหม หล่อนรู้ข้อมูลตรงนี้ไหม เขายินดีเปิดเผยหรือเปล่า เพราะมันต้องยื่น

เบ็ดเสร็จ ขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่ จดทะเบียน (ไม่นับรวม เวลาที่เดทกัน) ที่เคยเจอคนรู้จักทำมา แล้วได้แจ้งว่าได้ใบเขียว คือ 8 เดือน ถึงตอนนั้น สถานะวีซ่าหล่อนก็คงขาดไปแล้ว ถ้าสรุปแล้วขอไม่ได้

คำแนะนำ
1. ให้ผัวยื่นขอ K1 ถ้าผัวคุณสมบัติถึง ยื่นผ่าน เป็นการคัดกรองไปในตัว
2. เข้ามาวีท่องเที่ยว คบกันไปก่อน แล้ว พอใกล้ครบ 6 เดือน เปลี่ยนเป็น F1 ไปลงเรียนไปในตัว รักษาถานะ และแต่งงานไป แล้วค่อยไปปรับ ถ้าผัวดีจริง ให้ผัว ออก คชจ ค่าเรียนค่ะ ถ้าออกไม่ได้ จะแต่งอีกเหรอคะ


การที่หล่อนจะมานั่งวางแผนหางาน ณ จุดนี้ มันเร็วไป ดูแล้วทั้งหล่อนและสามีไม่มีความรู้ตรงนี้ มันไม่ใช่ เข้าเมกาวันนี้ พรุ่งนี้เดินไปแต่ง วันถัดไปเอกสารออก วันถัดไป ไปหางานทำงาน


งานร้านอาหาร หรืองานบริการ ในบางรัฐ เขาจ่ายเงินสดได้ ก็ไม่ต้องรอใบ แต่จะหางานเทคนิคการแพทย์หีแตด ตื่นๆๆๆค่ะ ยังไงหล่อนก็ต้องเดินหางาน เข้าตาม FB ชมรม รัฐที่หล่อนจะไปอยู่ เขาจะโฟสหาคนงาน ก็จองคิวเขาไว้ ทนๆทำไปก่อน เพราะตัวเลือกไม่ได้้เยอะมาก ไว้ได้ใบค่อยเชิดห้าเชิดสิบ

ร้านอาหาร มันก็ไม่ได้แย่ทุกร้าน เจอร้านไหน เหี้ย ก็เดินออกค่ะ ผัวหล่อนต้องเข้าใจ และพอเลี้ยงหล่อนได้บ้าง ถ้าคิดจะแต่งงานอยู่ด้วยกัน เพราะหล่อนอยู่ในช่วง transition ในชีวิต ไม่ใช่ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ไล่แต่จะให้ออกไปหางาน



#13, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by Ris on 01-Mar-24 at 09:37 PM
In response to message #11

>
>อีดอกนึกว่าแต่งแล้ว ก่อนที่จะไปหางาน
>ไปปูทางเรื่องให้ได้ใบทำงานเขียวก่อนเถอะค่ะ!!!
>
>
>ถ้าแฟนแน่จริง ให้แฟนให้ยื่นเป็น K1 ไปค่ะ
>แล้วเข้าไปถ้าไม่แต่งให้หล่อนยังปลอดภัย กลับมาไทย
>ก็ยังไปขอวีท่องเที่ยวได้อีก
>
>เอาท่องเที่ยว ไปแต่งงาน ทำได้ แต่เป็นการใช่วีผิดประเภท
>เหมือนพวก นร ที่แต่งงาน ตอนสัมภาษณ์ จะโดนสัมภาษณ์หนัก
>แฟนหาข้อมูลแล้วทำได้ ใช่ค่ะ แต่ K1 มีคชจ มากกว่า
>แฟนหล่อนอาจจะอยากประหยัด ไม่อยากเสีย คชจ ค่าทนาย
>เพราะท่องเที่ยว หล่อนออกเงินขอไปเอง
>
>
>ไม่มีใบ จะไปทำอะไรได้คะ นอกจาก ร้านไทย งานส่วนมาก
>เขาก้ให้หล่อนกรอกว่า มี Work Authorizatio ไหม
>เพราะเขาต้องให้หล่อนเสียภาษี
>
>let's say เดินทางไปถึง 2 เดือนแต่งงาน
>ต้องทำเอกสารชื่อร่วมกัน กว่าจะเปลี่ยน กว่าจะยื่น กว่าจะถึง
>ถึงแล้วรอคิว เอกสารไม่ครบ ตีกลับ ยื่นใหม่ รอคิว
>นัดพิมพ์ลายนิ้วมือ รอสัมภาษณ์
>
>ณ ห้องสัมภาษณ์ "มาถึงไม่ถึง 2 เดือน ทำไมแต่งงานกันเลย
>เพิ่งอยู่กัน 2 เดือนเองนะ โชว์เอกสารความสัมพันธ์สิคะ" บลาๆๆๆ
>
>
>แฟนหล่อนทำงานอะไร จ่ายภาษีครบไหม จ่ายมากี่ปี เคยเป็น
>sponsor ให้ใคร มีคดีความอะไรไหม หล่อนรู้ข้อมูลตรงนี้ไหม
>เขายินดีเปิดเผยหรือเปล่า เพราะมันต้องยื่น
>
>เบ็ดเสร็จ ขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่ จดทะเบียน (ไม่นับรวม
>เวลาที่เดทกัน) ที่เคยเจอคนรู้จักทำมา
>แล้วได้แจ้งว่าได้ใบเขียว คือ 8 เดือน ถึงตอนนั้น
>สถานะวีซ่าหล่อนก็คงขาดไปแล้ว ถ้าสรุปแล้วขอไม่ได้
>
>คำแนะนำ
>1. ให้ผัวยื่นขอ K1 ถ้าผัวคุณสมบัติถึง ยื่นผ่าน
>เป็นการคัดกรองไปในตัว
>2. เข้ามาวีท่องเที่ยว คบกันไปก่อน แล้ว พอใกล้ครบ 6 เดือน
>เปลี่ยนเป็น F1 ไปลงเรียนไปในตัว รักษาถานะ และแต่งงานไป
>แล้วค่อยไปปรับ ถ้าผัวดีจริง ให้ผัว ออก คชจ ค่าเรียนค่ะ
>ถ้าออกไม่ได้ จะแต่งอีกเหรอคะ
>
>
>การที่หล่อนจะมานั่งวางแผนหางาน ณ จุดนี้ มันเร็วไป
>ดูแล้วทั้งหล่อนและสามีไม่มีความรู้ตรงนี้ มันไม่ใช่
>เข้าเมกาวันนี้ พรุ่งนี้เดินไปแต่ง วันถัดไปเอกสารออก วันถัดไป
>ไปหางานทำงาน
>
>
>งานร้านอาหาร หรืองานบริการ ในบางรัฐ เขาจ่ายเงินสดได้
>ก็ไม่ต้องรอใบ แต่จะหางานเทคนิคการแพทย์หีแตด ตื่นๆๆๆค่ะ
>ยังไงหล่อนก็ต้องเดินหางาน เข้าตาม FB ชมรม
>รัฐที่หล่อนจะไปอยู่ เขาจะโฟสหาคนงาน ก็จองคิวเขาไว้
>ทนๆทำไปก่อน เพราะตัวเลือกไม่ได้้เยอะมาก
>ไว้ได้ใบค่อยเชิดห้าเชิดสิบ
>
>ร้านอาหาร มันก็ไม่ได้แย่ทุกร้าน เจอร้านไหน เหี้ย
>ก็เดินออกค่ะ ผัวหล่อนต้องเข้าใจ และพอเลี้ยงหล่อนได้บ้าง
>ถ้าคิดจะแต่งงานอยู่ด้วยกัน เพราะหล่อนอยู่ในช่วง transition
>ในชีวิต ไม่ใช่ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ไล่แต่จะให้ออกไปหางาน


ขอโทษพี่นะคะตอบช้า ช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ ขอบคุณพี่ที่เข้ามาช่วยแนะนำด้วยค่ะ
จริงๆเรื่องมันยาวแต่จะเล่าสั้นๆนะคะคือรู้จักกับแฟนตั้งแต่ปี 2019 ก่อนโควิด
จะมาถึงอเมริกาอีกค่ะ ตอนนั้นไปเที่ยวบอสตันกับเพื่อนก็ออนทินเดอร์ละก็ได้คุยกัน
เดตกัน ละไปใช้ชีวิตอยู่บ้านเค้า 3 อาทิตย์ก่อนบินกลับไทยค่ะ (เพื่อนกลับก่อนค่ะ)
ช่วงนั้นลาออกจากโรงบาลเก่ากำลังจะหาโรงบาลใหม่ทำงานพอดีเลยมีเวลาค่ะ
บ้านแฟนเค้าอยู่แถว beach นึงที่ไม่ไกลจาก MA มากค่ะจำชื่อไม่ได้ พอกลับมาไทย
เค้าแพลนจะบินมาหาแต่ก็ติดช่วงโควิดซะก่อน ก็คุยกันผ่านไลน์มาตลอด จนหลังโควิดเค้าก็จองตั๋ว
ให้บินไปเยี่ยมเค้า นับเวลาก็ 5 ปีที่คบกันละค่ะ เค้าก็ไม่ได้หน้าตาดีอะไรนะคะอ้วนด้วยซ้ำแต่เค้านิสัยดีมาก
เค้าเข้าใจวัฒนธรรมคนเอเชียเพราะเค้าเคยมาเป็นครูสอนภาษาที่ญี่ปุ่นสมัยเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้เค้า 49
เรา 32 ค่ะ เค้าทำงานธนาคาร Bank of America ค่ะส่วนเรื่องเงินเรายอมรับแบบไม่อายเลยนะคะว่า
เค้าเป็นคนช่วยปิดค่าคอนโดที่เราเคยซื้อไว้ละเหลืออีก 4 แสนกว่าบาทเค้าก็ปิดให้ค่ะ
คิดว่าเค้าน่าจะจริงจังกับเราอยู่

เรื่องกฎหมายเราก็งงๆนะคะเราคิดว่าจะขอวีซ่าคู่หมั้นได้จะต้องเพศชายหญิงที่หมั้นกันแล้วเท่านั้น
เพราะที่ไทยคู่ชายชายมันยังไม่มีกฎหมายรองรับ เราเป็นเกย์นะคะไม่ใช่สาวสอง
ขอถามเป็นความรู้นะคะว่าถ้าจะทำต้องให้แฟนบินมาไทยมั๊ยคะหรือต้องใช้หลักฐานอะไร
ขอวีซ่าคู่หมั้น เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ ตอนแรกที่คุยกับแฟนก็อยากไปต่อโทด้านธุรกิจจะไปวีซ่านักเรียน
แต่ผลภาษาเราที่เคยสอบไอเอลได้แค่ 5.5 เองค่ะก็เลยสมัครไม่ได้

ใจจริงเราก็ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงขั้นนี้ ขั้นที่แบบต้องย้ายประเทศ บอกตรงๆว่าเลิ่กลั่กเหมือนกันค่ะ
ส่วนงานสจ๊วตเราอยากทำมากแต่ไม่รู้ว่าจะมีสายการบินไหนรับมั๊ยเพราะเราสูงแค่ 165 เองค่ะ


#15, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by มิส ดัลลัส on 03-Mar-24 at 08:16 AM
In response to message #13
>
>
>ขอโทษพี่นะคะตอบช้า ช่วงนี้ยุ่งๆค่ะ
>ขอบคุณพี่ที่เข้ามาช่วยแนะนำด้วยค่ะ
>จริงๆเรื่องมันยาวแต่จะเล่าสั้นๆนะคะคือรู้จักกับแฟนตั้งแต่ปี
>2019 ก่อนโควิด
>จะมาถึงอเมริกาอีกค่ะ
>ตอนนั้นไปเที่ยวบอสตันกับเพื่อนก็ออนทินเดอร์ละก็ได้คุยกัน
>เดตกัน ละไปใช้ชีวิตอยู่บ้านเค้า 3 อาทิตย์ก่อนบินกลับไทยค่ะ
>(เพื่อนกลับก่อนค่ะ)
>ช่วงนั้นลาออกจากโรงบาลเก่ากำลังจะหาโรงบาลใหม่ทำงานพอดีเลยมีเวลาค่ะ
>บ้านแฟนเค้าอยู่แถว beach นึงที่ไม่ไกลจาก MA
>มากค่ะจำชื่อไม่ได้ พอกลับมาไทย
>เค้าแพลนจะบินมาหาแต่ก็ติดช่วงโควิดซะก่อน
>ก็คุยกันผ่านไลน์มาตลอด จนหลังโควิดเค้าก็จองตั๋ว
>ให้บินไปเยี่ยมเค้า นับเวลาก็ 5 ปีที่คบกันละค่ะ
>เค้าก็ไม่ได้หน้าตาดีอะไรนะคะอ้วนด้วยซ้ำแต่เค้านิสัยดีมาก
>เค้าเข้าใจวัฒนธรรมคนเอเชียเพราะเค้าเคยมาเป็นครูสอนภาษาที่ญี่ปุ่นสมัยเรียนจบใหม่ๆ
>ตอนนี้เค้า 49
>เรา 32 ค่ะ เค้าทำงานธนาคาร Bank of America
>ค่ะส่วนเรื่องเงินเรายอมรับแบบไม่อายเลยนะคะว่า
>เค้าเป็นคนช่วยปิดค่าคอนโดที่เราเคยซื้อไว้ละเหลืออีก 4
>แสนกว่าบาทเค้าก็ปิดให้ค่ะ
>คิดว่าเค้าน่าจะจริงจังกับเราอยู่
>
>เรื่องกฎหมายเราก็งงๆนะคะเราคิดว่าจะขอวีซ่าคู่หมั้นได้จะต้องเพศชายหญิงที่หมั้นกันแล้วเท่านั้น
>เพราะที่ไทยคู่ชายชายมันยังไม่มีกฎหมายรองรับ
>เราเป็นเกย์นะคะไม่ใช่สาวสอง
>ขอถามเป็นความรู้นะคะว่าถ้าจะทำต้องให้แฟนบินมาไทยมั๊ยคะหรือต้องใช้หลักฐานอะไร
>ขอวีซ่าคู่หมั้น เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้
>ตอนแรกที่คุยกับแฟนก็อยากไปต่อโทด้านธุรกิจจะไปวีซ่านักเรียน
>แต่ผลภาษาเราที่เคยสอบไอเอลได้แค่ 5.5 เองค่ะก็เลยสมัครไม่ได้
>
>ใจจริงเราก็ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงขั้นนี้
>ขั้นที่แบบต้องย้ายประเทศ บอกตรงๆว่าเลิ่กลั่กเหมือนกันค่ะ
>ส่วนงานสจ๊วตเราอยากทำมากแต่ไม่รู้ว่าจะมีสายการบินไหนรับมั๊ยเพราะเราสูงแค่
>165 เองค่ะ

K1 คือวีซ่าคู่หมั้นค่ะ อธิบายนิดนึง

1. แฟนหนูไม่จำเป็นต้องบินมาไทยค่ะ แฟนหนูต้องยื่นเรื่องที่อเมริกากับ USCIS ค่ะ (Form I-129F) แล้ว USCIS จะส่งเอกสารต่าง ๆ มาที่สถานทูตอเมริกาในไทย แล้วเขาก็จะเรียกหนูไปสัมภาษณ์ที่สถานทูต ถ้าผ่านก็ได้วีซ่า ระยะเวลาเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยแน่นอนแต่เกิน 6 เดือนแน่ ๆ

2. ตอนไปสัมภาษณ์เขาก็จะขอดูหลักฐานด้านความสัมพันธ์ แล้วพอวีซ่า K1 หนูผ่าน หนูก็สามารถบินมาอเมริกาได้ และพอมาถึงต้องแต่งงานจดทะเบียนกับแฟนภายใน 3 เดือน

3. วีซ่า K1 ไม่จำกัดเพศค่ะ ไม่เกี่ยว ไม่ต้องแต่งก่อนแล้วค่อยขอวีซ่า

4. พอจดทะเบียนสมรสแล้วอะไรแล้ว ก็ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะเป็น Permanent Resident (ใบเขียว) ตรงนี้ก็ 8-12 เดือน ระหว่างที่รอถ้าหนูขอ Work permit พอได้ Work Permit หนูก็ทำงานได้ถูกกฏหมายในระหว่างที่รอใบเขียว

5. คนที่ขอใบเขียวผ่านกระบวนการ K1 ส่วนใหญ่จะง่ายกว่าพวกที่ขอโดยกระบวนการอื่นจริงค่ะ

6. กฏหมายไทยไม่เกี่ยวอะไรกับหร่อนแล้วค่ะ ณ ตอนนี้

7. ให้แฟนไปคุยกับทนายความด้าน Immigration แถวบ้านดูมั๊ยคะ แฟนหนูจะได้เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ มากขึ้น

8. จริง ๆ เว็บไซต์ USCIS ก็มีอธิบายนะคะ ขั้นตอนการขอวีซ่าต่าง ๆ ลองให้แฟนหนูเข้าไปอ่านก็ได้

9. เรื่องเป็นสจี ลองสมัครดูเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ ไม่ได้กวนตีนนะคะ แต่ที่นี่เขาไม่ได้คัดคนเหมือนจะเอาเป็นเป็นดารา นายแบบ นางแบบ เขาคัดคนที่ทำงานได้จริง ๆ ส่วนสูงอาจมีผล แต่คิดว่าไม่มากเท่าความสามารถที่มี


#6, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by Ris on 25-Feb-24 at 02:38 PM
In response to message #3
>เมืองไหนคะเนี่ย ถ้าไม่ใช่โซน Manchester, Nashua, Salem
>หรือแถว ๆ ติดกับชายแดน Massachusetts หรือใกล้ Boston
>นี่ท่าทางจะหางานยากนะคะ เคยไปรัฐนั้นมา 2 ครั้ง
>ธรรมชาติสวยมาก ป่าเขาเยอะจริง ถ้าเธอจะไปอยู่เมืองโซนเหนือ ๆ
>ของรัฐนี่เดี๊ยนไม่รู้จะเห็นใจหรือดีใจด้วยดี เพราะมันมีแต่
>"ป่า" จริง ๆ ค่ะเธอว์ ตายแล้ว Walmart ยังหายากอ่ะ
>สวยมันก็สวยหรอก อยู่ไปนาน ๆ อีดอก ท่าจะแห้งเหี่ยวพิกล
>
>แนะนำนะคะ
>1. วางหัวโขนลงก่อน
>อยู่ไทยไม่ว่าจะเคยทำอาชีพที่คิดว่าสูงส่งขนาดไหน
>เงินเดือนเกินแสน ฯลฯ มาอยู่นี่ไม่มีใครสนใจตรงนั้นค่ะ
>
>2. ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองภาษายังไม่คล่อง
>มาถึงแล้วให้ไปลงเรียนภาษาตาม community College
>หรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ใกล้บ้าน ฯลฯ
>
>3. ต่อให้เธอเป็นเด็ก Straight A จากไทย เรียนเก่ง มี
>Profession ติดตัว แต่ดันพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารระดับ
>Professional ไม่ได้ ยากนะคะที่จะมีคนจ้าง ยิ่งเป็นงานด้าน
>Medical หรือ Med Tech ด้วย การสื่อสารควรที่จะต้องเป๊ะ
>
>3. ถ้าแฟนไม่มีกำลังซัพพอร์ตด้านการเงินที่คล่องตัวพอ
>ก็อย่าเลือกงานค่ะ ต้องปรับตัวให้ได้กับตรงนี้นะคะ
>งานร้านอาหารไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าอยู่ถูกที่ถูกร้าน
>เงินดีกว่าพวกทำงานออฟฟิศอีกค่ะ สมัยเดียนทำเสริฟ 5-6 ปีก่อน
>วันละ $200 up รวมทิปนี่คือปกติมาก
>ตกเดือนนึงเดี๊ยนมีรายได้ประมาณ 5-6 พันดอลล์พอ ๆ
>กับเพื่อนสาวที่ผันตัวไปเป็นสจีเดลต้า
>ซึ่งถือว่าไม่แย่นะคะสำหรับที่นี่
>แต่ที่เลิกทำเพราะเริ่มแก่ค่ะ
>
>4. ถ้างานสาย Med Tech มันหาไม่ได้ และไม่อยากทำงานบริการ ฯลฯ
>แนะนำให้หาคอร์สที่คิดว่าตัวเองสามารถไปเรียนต่อยอดได้ค่ะ
>แล้วก็ลงเรียนเอาใบ เช่นคอร์สพวก Phlebotomist, Dentist
>Assistant ฯลฯ
>หรือพวกงานที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาลตามคลีนิคอ่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะพี่สำหรับคำแนะนำ ตอนนี้กังวลไปหมดลังเลด้วยว่าจะเอาไงกับชีวิตดีใจนึงก็อยากจะอยู่ไทย
เพราะอยู่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรค่ะพอมีเงินกินเงินใช้เงินเก็บแต่ถ้าไปอยู่นู่นชีวิตก็คงเปลี่ยนไปเยอะและก็ไม่รู้
ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน และดูเหมือนแฟนก็ตั้งความหวังกับเราไว้มากว่าเราจะสอบ license med tech ผ่าน
แต่เค้าก็ไม่ได้กดดันอะไรมากเค้าแค่พูดว่าก็ต้องใช้เวลาเค้าเข้าใจ ถ้าสอบไป 3 ปีแล้วยังสอบไม่ได้
ก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาไงต่อ เค้ายินดีซัพพอร์ตเรา บอสตันเห็นว่าบริษัทเกี่ยวกับการแพทย์เยอะ
สมมติภาษาเราดีขึ้นถ้าลองยื่นสมัครไปเค้าจะรับคนเอเชียมั๊ยคะหรือต้องไปทำงานตามร้านอาหารจิงๆ
สจีเราก็สนใจนะแต่เราตัวผอมบางสูงแค่ 165 เลยคิดว่าไม่น่าจะมีสายการบินไหนรับ ที่คิดๆเผื่อไว้ถ้ามันไม่ได้ทำงาน med tech จิงๆก็อาจจะไปสมัครเป็นแอร์กราวน์ที่สนามบินโลแกนของบอสตันค่ะ


#8, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by มิส ดัลลัส on 25-Feb-24 at 09:37 PM
In response to message #6
>>เมืองไหนคะเนี่ย ถ้าไม่ใช่โซน Manchester, Nashua, Salem
>>หรือแถว ๆ ติดกับชายแดน Massachusetts หรือใกล้ Boston
>>นี่ท่าทางจะหางานยากนะคะ เคยไปรัฐนั้นมา 2 ครั้ง
>>ธรรมชาติสวยมาก ป่าเขาเยอะจริง ถ้าเธอจะไปอยู่เมืองโซนเหนือ ๆ
>>ของรัฐนี่เดี๊ยนไม่รู้จะเห็นใจหรือดีใจด้วยดี เพราะมันมีแต่
>>"ป่า" จริง ๆ ค่ะเธอว์ ตายแล้ว Walmart ยังหายากอ่ะ
>>สวยมันก็สวยหรอก อยู่ไปนาน ๆ อีดอก ท่าจะแห้งเหี่ยวพิกล
>>
>>แนะนำนะคะ
>>1. วางหัวโขนลงก่อน
>>อยู่ไทยไม่ว่าจะเคยทำอาชีพที่คิดว่าสูงส่งขนาดไหน
>>เงินเดือนเกินแสน ฯลฯ มาอยู่นี่ไม่มีใครสนใจตรงนั้นค่ะ
>>
>>2. ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองภาษายังไม่คล่อง
>>มาถึงแล้วให้ไปลงเรียนภาษาตาม community College
>>หรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ ใกล้บ้าน ฯลฯ
>>
>>3. ต่อให้เธอเป็นเด็ก Straight A จากไทย เรียนเก่ง มี
>>Profession ติดตัว แต่ดันพูดภาษาอังกฤษในการสื่อสารระดับ
>>Professional ไม่ได้ ยากนะคะที่จะมีคนจ้าง ยิ่งเป็นงานด้าน
>>Medical หรือ Med Tech ด้วย การสื่อสารควรที่จะต้องเป๊ะ
>>
>>3. ถ้าแฟนไม่มีกำลังซัพพอร์ตด้านการเงินที่คล่องตัวพอ
>>ก็อย่าเลือกงานค่ะ ต้องปรับตัวให้ได้กับตรงนี้นะคะ
>>งานร้านอาหารไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าอยู่ถูกที่ถูกร้าน
>>เงินดีกว่าพวกทำงานออฟฟิศอีกค่ะ สมัยเดียนทำเสริฟ 5-6 ปีก่อน
>>วันละ $200 up รวมทิปนี่คือปกติมาก
>>ตกเดือนนึงเดี๊ยนมีรายได้ประมาณ 5-6 พันดอลล์พอ ๆ
>>กับเพื่อนสาวที่ผันตัวไปเป็นสจีเดลต้า
>>ซึ่งถือว่าไม่แย่นะคะสำหรับที่นี่
>>แต่ที่เลิกทำเพราะเริ่มแก่ค่ะ
>>
>>4. ถ้างานสาย Med Tech มันหาไม่ได้ และไม่อยากทำงานบริการ ฯลฯ
>>แนะนำให้หาคอร์สที่คิดว่าตัวเองสามารถไปเรียนต่อยอดได้ค่ะ
>>แล้วก็ลงเรียนเอาใบ เช่นคอร์สพวก Phlebotomist, Dentist
>>Assistant ฯลฯ
>>หรือพวกงานที่เป็นผู้ช่วยหมอพยาบาลตามคลีนิคอ่ะค่ะ
>
>ขอบคุณค่ะพี่สำหรับคำแนะนำ
>ตอนนี้กังวลไปหมดลังเลด้วยว่าจะเอาไงกับชีวิตดีใจนึงก็อยากจะอยู่ไทย
>เพราะอยู่นี่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรค่ะพอมีเงินกินเงินใช้เงินเก็บแต่ถ้าไปอยู่นู่นชีวิตก็คงเปลี่ยนไปเยอะและก็ไม่รู้
>ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน
>และดูเหมือนแฟนก็ตั้งความหวังกับเราไว้มากว่าเราจะสอบ license
>med tech ผ่าน
>แต่เค้าก็ไม่ได้กดดันอะไรมากเค้าแค่พูดว่าก็ต้องใช้เวลาเค้าเข้าใจ
>ถ้าสอบไป 3 ปีแล้วยังสอบไม่ได้
>ก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาไงต่อ เค้ายินดีซัพพอร์ตเรา
>บอสตันเห็นว่าบริษัทเกี่ยวกับการแพทย์เยอะ
>สมมติภาษาเราดีขึ้นถ้าลองยื่นสมัครไปเค้าจะรับคนเอเชียมั๊ยคะหรือต้องไปทำงานตามร้านอาหารจิงๆ
>สจีเราก็สนใจนะแต่เราตัวผอมบางสูงแค่ 165
>เลยคิดว่าไม่น่าจะมีสายการบินไหนรับ
>ที่คิดๆเผื่อไว้ถ้ามันไม่ได้ทำงาน med tech
>จิงๆก็อาจจะไปสมัครเป็นแอร์กราวน์ที่สนามบินโลแกนของบอสตันค่ะ

อย่าเพิ่งคิดมากเลยค่ะเธอว์ เท่าที่รู้มามันก็เป็นกันทุกคน ไอ้อยากมามันก็อยากมานั่นล่ะค่ะ เข้าใจ ถ้าแฟนยืนยันและยินดีที่จะช่วยเหลือให้ตั้งตัวได้ ก็ลองดูสักตั้งค่ะ

มาถึงก็จัดการเรื่อง Basic ก่อน ในระหว่างที่ทำเรื่องขอใบเขียวที่นี่ กว่าหร่อนจะได้ใบเขียวก็ร่วมปีค่ะ มันไม่ได้ขอแล้วได้เลย เพราะฉนั้นหร่อนมีเวลาประมาณ 6 เดือน - 1 ปีเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะหางานแบบทีเป็น Career จริง ๆ ไม่ใช่งาน Temp แบบร้านอาหารไทย

แล้วไหนจะต้องไปทำใบขับขี่อีก ฝึกขับรถให้คุ้นชินกับกฏจราจรที่นี่ เปิดบัญชีธนาคาร ขอใบ SSN สารพัดอย่างที่หร่อนต้องจัดการค่ะ ก่อนที่หร่อนจะได้เริ่มหางานจริง ๆ จัง ๆ

ในช่วง Period ที่รอใบเขียวนี่แหระ หร่อนกับแฟนหร่อนจะซัพพอร์ตกันและกันยังไงก็ไปคุยกันเอง หลายคู่ทะเลาะกันนะคะช่วงนี้ อีนึงออกไปทำงาน อีนึงนอนอยู่บ้าน มันต้องมีสักวันที่หมั่นไส้กันเอง

Anywho, ในระหว่างร่วมๆ 1 ปีที่รอใบเขียว ถ้าไม่มีอะไรติดขัด ก็ไปหาที่เรียนภาษาฯ ฝึกภาษา เอาให้มันคล่องให้มันได้ เอาที่แบบไปไหนมาไหนคนเดียวได้ สื่อสารได้โดยไม่ต้องให้แฟนช่วย

ออกไปเรียนรู้สังคม ไปชมเมือง ไปทำความรู้จักร้านอาหารไทยไว้ เผื่อวันหนึ่งต้องเดินเข้าไปของานเขาทำ (อันนี้เรื่องจริงนะ วันไหนหร่อนตกอับ ตกงาน ผัวทิ้ง ร้านอาหารไทยนี่แหระจะช่วยหร่อนให้ตั้งตัวได้)

อ่อ แล้วก็จริงค่ะ Massachusetts บริษัทด้านการแพทย์เยอะมาก ที่ได้ยินข่าวมาคนที่อยู่ NH แต่บ้านติดชายแดน MA ก็เข้ามาทำงานที่ Boston เยอะนะคะ ถึงได้สงสัยว่าถ้าหร่อนไม่ได้อาศัยใกล้กับชายแดน MA - Boston คงหางานยาก

เรื่องเป็นเอเชีย อย่าไปกังวลเลยค่ะ แต่ต้องเข้าใจว่าตัวหร่อนเองเป็น Immigrant ความคาดหวังในการสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับ Advance จะเป็นสิ่งแรกที่นายจ้างตามบริษัทเพ่งเล็ง เรื่อง Skill และ Knowledge ค่อยมาที่หลัง เพราะถ้าหร่อนสื่อสารกับเขาไม่ได้ แล้วหร่อนจะอธิบายให้เขาเข้าใจถ่องแท้ได้ยังไงว่าหร่อนมี Skill และ Knowledge ด้านนี้ จริงมั๊ยคะ

เอาจริง ๆ คนมีดีกรีมาจากไทย บางคนเป็นวิศวะฯ เป็นนักกายภาพบำบัด หรือแม้กระทั่งทนาย พอย้ายมาอยู่นี่ คือทิ้งทุกอย่างไปหมด แล้วผันตัวไปทำสายอื่นแทน กะเทยไทยถ้าไม่ทำร้านอาหาร หลายคนไปเป็นสจีก็เยอะค่ะ เพราะที่นี่ไม่เกี่ยงรูปร่าง หน้าตา ขอแค่ดูสุขภาพดีก็พอ หรือเป็น Ground service ที่สนามบิน บางคนก็ไปทำงาน Reception ตามโรงแรม หรือพนักงานทั่วไปตามโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่ตัวหร่อนค่ะ ถ้าหร่อนพยายามแบบจริงจัง หร่อนก็มีสิทธิได้งานระดับกลางถึงบน ตามองค์กรดัง ๆ ได้เหมือนกัน


#9, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by พังพรอน on 25-Feb-24 at 10:48 PM
In response to message #8
เมืองไหนในนิวแฮมเชียร์คะ? รัฐนิวแฮมเชียร์คือใหญ่มากนะคะ พี่เคยไปทำส่วนห้องอาหารใน โรงแรม A.M.C highland center at crawford notch เมือง Bretten wood นิวแฮมเชียร์ค่ะ ทำ job เดียวเนื่องจากไกลปืนเที่ยงมากออกมามีแต่ป่า แต่เก็บตังได้เยอะค่ะเพราะนายจ้างจัดสรรชม.ให้ดี ทำ 4 เดือนได้เฉลี่ยเดือนละ 4 หมื่นกว่าบาท

แต่ถ้าแนะนำะว่าน้องไปรัฐอื่นดีกว่าค่ะเพราะแม้แต่เมืองใหญ่ๆใยนิวแฮมเชียร์ก็ยังเงียบมากๆอยู่ดี เราจะ sick ค่ะ


#10, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by น้อง ให้กำลังใจ on 26-Feb-24 at 02:46 PM
In response to message #9
เป็นกระทู้ที่ดีนะค่ะ

พี่ที่มีประสบการณ์ เข้ามาตอบกระทู้ก็ให้คำปรึกษา แนะนำด้วยจิตใจที่ดี

ชื่นชมๆค่ะ


#12, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by หีแตดมากคร่ะ อีกรอบ on 26-Feb-24 at 10:55 PM
In response to message #0
พี่คนไทย จบ สถาปัต จุฬา มี ปสกในไทยหลายปี เงินดีมากๆ ย้ายมาเมกา หล่อนค่ะ ทำงาน บริษัท architecture นี่แหละ ได้ ชมละ 18 ค่ะ แต่ทำวันนึง 12-14 ชม ชีวิตบัดซบเลย จนนางต้องเบนสาย ไปทำ marketing แทน ปจบ ชีวิตดี มี work life balance งานบางอาชีพ ในไทยถือว่า เทพ มาเมกา คือขี้ข้า


flight attendant ถือว่าดีนะคะ เดือนนึงให้บินไม่เกิน 80 ชม หล่อนจะมีเวลาว่าง ทำอย่างอื่นได้เยอะ ถ้าภาษาง่อย ก็ไปลงเรียนค่ะ


#14, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by สาวแคลิฟอร์เนีย on 02-Mar-24 at 04:58 AM
In response to message #12
บินถึงแล้วทำใบขับขี่ก่อนเลย ขับรถได้ก็ไปทำ หรือไม่เคยขับรถก็เรียน ต้องขับให้ได้ค่ะ เพราะชีวิตจะง่ายขึ้นในการเดินทาง

เปิดแบงค์ ทำสามบัญชี บัญชีแรกเป็นบัญชีค่าใช้จ่ายร่วมกับผัว เช่นค่าเช่าบ้านค่ากิน บัญชีที่สองเก็บเงินค่าทนาย

ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานขอใบเขียวต่างๆ บัญชีที่สามเงินเก็บของเธอเอง

ถ้าจะลงเรียน ดูโรงเรียนที่สามารถเทียบโอนหน่วยกิตจากไทยได้ในบางรายวิชาก็เอา เพราะจะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ เนื่องจากเรทจะเป็น inter ยกเว้นจะแต่งงานเสร็จได้ใบแล้วค่อยเรียน จะถูกขึ้นจมเพราะเป็นเรตคนพื้นถิ่น แต่ถ้ามาท่องเที่ยวก็จะทำงานไม่ได้ เพราะไม่มี SSN น่าจะเป็น F1 ดีกว่า บางแคมปัสให้ทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมง ขอ SSN ได้ด้วย ผัวก็ควรช่วยค่ะ เพราะหล่อนเป็นเอเลี่ยน สิทธิต่างๆมันไม่ได้มีเยอะ ประคับประคองกันไปก่อนจนยื่นผ่านได้ใบถึงจะมีโอกาสเยอะขึ้น


#16, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by แม่มด on 03-Mar-24 at 08:58 AM
In response to message #14
หาผัวเยอะๆค่ะ จะได้มีรายได้หลายทาง

#17, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by หมอสาว med 18 on 03-Mar-24 at 09:41 AM
In response to message #16
เอิ่ม แฟนทำงานธนาคาร ถามจริงๆว่ามันคงพอที่เธอจะเชื่อใจฝากชีวิตไว้กับเขาเหรอคะ ฉันเคยมีฝรั่งมาจีบเป็นระดับศาสตราจารย์เงินเดือนรวมทุกอย่างทุนวิจัยไปเป็นวิทยากรไม่ต่ำกว่าฉันเคยมีฝรั่งมาจีบเป็นระดับศาสตราจารย์เงินเดือนรวมทุกอย่างทุนวิจัยไปเป็นวิทยากรไม่ต่ำ กว่าสามล้าน ฉันยังไม่ไปเลยค่ะโดยอาชีพทุกสิ่งทุกอย่างและกำลังซับฉันยังไม่ไปเลยค่ะโดยอาชีพทุกสิ่งทุกอย่างและกำลังซับพอร์ทจากแฟนฉันไปได้ง่ายง่ายแบบไม่ต้องคิด ฉันอ่านของเธอแล้วดูทุกอย่างเลื่อนลอยไปซะหมดถ้าวันนึงเค้าเขียทิ้งเธอก็เป็นแค่คนตกงานคิดดีดีหน่อยนะคะชีวิตไม่ได้สวยหรูเป็นเทพนิยายสีชมพูอย่างที่เธอหวัง งานล้างจานก็ยังไม่อยากจะทำงานล้างจานก็ยังไม่อยากจะทำแล้วคิดว่าเค้าจะเลี้ยงเธอหรอเห็นแล้วสงสารแทนค่ะ

#18, RE: ขอคำแนะนำจากคนในบอร์ดทีค่ะเรากำลังจะแต่งงานกับแฟนคนอเมริกันต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟนที่ New Hamshire ตอนนี้กังวลเรื่องหางานทำค่ะ
Posted by สาวไทยทำเวททำครัวค่ะ ไม่ล้างจานไปเอาชุดความคิดนี้จากไหนมา on 03-Mar-24 at 02:37 PM
In response to message #17
>เอิ่ม แฟนทำงานธนาคาร
>ถามจริงๆว่ามันคงพอที่เธอจะเชื่อใจฝากชีวิตไว้กับเขาเหรอคะ
>ฉันเคยมีฝรั่งมาจีบเป็นระดับศาสตราจารย์เงินเดือนรวมทุกอย่างทุนวิจัยไปเป็นวิทยากรไม่ต่ำกว่าฉันเคยมีฝรั่งมาจีบเป็นระดับศาสตราจารย์เงินเดือนรวมทุกอย่างทุนวิจัยไปเป็นวิทยากรไม่ต่ำ
>กว่าสามล้าน
>ฉันยังไม่ไปเลยค่ะโดยอาชีพทุกสิ่งทุกอย่างและกำลังซับฉันยังไม่ไปเลยค่ะโดยอาชีพทุกสิ่งทุกอย่างและกำลังซับพอร์ทจากแฟนฉันไปได้ง่ายง่ายแบบไม่ต้องคิด
>ฉันอ่านของเธอแล้วดูทุกอย่างเลื่อนลอยไปซะหมดถ้าวันนึงเค้าเขียทิ้งเธอก็เป็นแค่คนตกงานคิดดีดีหน่อยนะคะชีวิตไม่ได้สวยหรูเป็นเทพนิยายสีชมพูอย่างที่เธอหวัง
>งานล้างจานก็ยังไม่อยากจะทำงานล้างจานก็ยังไม่อยากจะทำแล้วคิดว่าเค้าจะเลี้ยงเธอหรอเห็นแล้วสงสารแทนค่ะ

เขาไม่จ้างคนไทยล้างค่ะ จ้างโก้เหมาเอาถูกกว่า ไม่เคยมาอเมริกาสินะคะ เคยเห็นคนไทยบัสโต๊ะเหรอ มีแต่โก้ค่ะ สากกะเบือยันเรือรบ