หน้าแรก
ธุรกิจ
ธุรกิจ
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
13 เม.ย. 2025 เวลา 11:30 น.
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
Play
ข้อพิพาท "เนสท์เล่-มหากิจศิริ" ศึก "เนสกาแฟ" ฝ่ายหนึ่งศาลแพ่งมีนบุรีคุ้มครองชั่วคราวห้ามไม่ให้ผลิต ขาย "เนสกาแฟ"ในไทย อีกฝ่ายร้องศาลทรัพย์สินฯ ยันสิทธิขายได้ปกติ
จากข้อพิพาท 2 ทุนใหญ่ ทั้งทุนไทยภายใต้ตระกูล มหากิจศิริ และยักษ์อาหารที่ใหญ่สุดในโลกสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ เนสท์เล่ เกี่ยวกับการแจ้งยุติสัญญาที่ให้สิทธิ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) บริษัทร่วมทุนแบบ 50:50% ในการผลิต เนสกาแฟ มีผล 31 ธันวาคม 2567
แม้การแจ้งยุติสัญญาจะดำเนินการล่วงหน้า 2 ปี ทว่า การเจรจาของ 2 ฝ่ายไม่ได้ข้อยุติ ทำให้นำไปสู่กระบวนการทางศาล โดย เฉลิมชัย มหากิจศิริ ได้ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งมีนบุรี เพื่อดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่ และกรรมการ จำนวน 2 คดี จากนั้นศาลแพ่งมีนบุรี ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เนสท์เล่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เนสกาแฟแต่เพียงผู้เดียว ดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป โดยใช้เครื่องหมายการค้า Nescafé หรือเนสกาแฟในประเทศไทย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
รุ่นเกิดเกินล้านทยอยเกษียณ เร่งรับมือ super aged society
รุ่นเกิดเกินล้านทยอยเกษียณ เร่งรับมือ super aged society
14 เม.ย. 2568 | 7:00
รัฐ-เอกชน'จ้างงานสูงวัย สร้างรายได้เพิ่มคุณค่าลดพึ่งพิง
รัฐ-เอกชน'จ้างงานสูงวัย สร้างรายได้เพิ่มคุณค่าลดพึ่งพิง
14 เม.ย. 2568 | 6:41
มอเตอร์โชว์'68 พุ่ง 44.8% หวั่นแบงก์ดับฝันคนจอง ลุ้นรัฐค้ำสินเชื่อ
มอเตอร์โชว์'68 พุ่ง 44.8% หวั่นแบงก์ดับฝันคนจอง ลุ้นรัฐค้ำสินเชื่อ
14 เม.ย. 2568 | 6:36
เนสท์เล่ เร่งแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ผลกระทบลามห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่เกษตรกร ร้านค้า ผู้บริโภค รวมถึงบริษัทที่จะ สูญเสีย ยอดขายมหาศาล เพราะภายใต้ ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส ทำรายได้กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิอีกกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี
ร้านค้าลุ้น 17 เมษายนนี้ เนสกาแฟเริ่มส่งสินค้าปกติ
ความคืบหน้าล่าสุด เนสท์เล่ ได้สื่อสารกับ ลูกค้าพันธมิตร ความว่า
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีหมายเลขดำที่ ทป 58/2568 ได้มีคำสั่งยืนยันว่าบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในอันที่จะใช้เครื่องหมายการค้า Nescafe และ เนสกาแฟ ในประเทศไทย และสามารถใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งคำสั่งศาลนี้มีผลตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2568
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
ตามผลของคำสั่งข้างต้น ทางบริษัทมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า เนสท์เล่สามารถรับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เนสกาแฟได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทีมงานของเนสท์เล่พร้อมจะให้บริการและให้ความช่วยเหลือท่านในการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การดำเนินงานตามปกติ พร้อมลงนามโดย นางสาวเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประเทศไทย
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธาน กรรมการผู้จัดการบริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกรายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ภายหลังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งชี้ขาดให้เนสท์เล่เป็นผู้ถือสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Nescafe และ เนสกาแฟ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ ทำให้ เนสท์เล่ สามารถกลับมาจำหน่ายเนสกาแฟ ได้ตามปกติ ขณะเดียวกันได้มีดีลเลอร์แจ้งถึง สินค้ากาแฟของเนสกาแฟ พร้อมส่งให้แก่ร้านค้าทั่วประเทศอีกครั้งวันที่ 17 เม.ย.นี้ ทำให้หลังจากนี้ไป สินค้าเนสกาแฟ น่าจะสามารถจัดส่งให้แก่ร้านค้าทั่วประเทศต่างๆ ได้ตามปกติ
ทั้งนี้ประเมินว่า หากเนสกาแฟ ต้องหยุดส่งสินค้าให้แก่ร้านค้าทั่วประเทศในช่วง 10 วัน คาดว่าจะเสียหายอย่างน้อยประมาณ 30 ล้านบาทต่อวัน หรือ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยเนสกาแฟ เป็นแบรนด์ผู้นำตลาดกาแฟของไทย ที่ครองส่วนแบ่งประมาณ 60-70%
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
สำหรับ ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ที่เป็นห้างค้าปลีกส่งรายใหญ่ในพื้นที่อุดรธานีและต้องกระจายสินค้าไปใน 4-5 จังหวัดต่างๆ โดยหลังจากเกิดกระแสข่าวเรื่อง การหยุดจำหน่าย ทำให้ลูกค้าบางส่วนเกิดแพนิค สนใจมาสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น แต่บริษัทยังมีสินค้าในสต็อคอยู่ และทราบมาว่าในบางจังหวัดสินค้าเริ่มขาดสต็อคแล้ว
นายสมหวัง เดชศิริอุดมกรรมการผู้จัดการ เล้งเส็ง กรุ๊ป ค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ในจังหวัดสกลนคร กล่าวถึง กรณีของ เนสกาแฟ นั้น บริษัทได้ทราบข่าวที่เกิดขึ้นจากเนสท์เล่ให้ข้อมูลเรื่องคำสั่งศาล ทำให้สินค้าของ เนสกาแฟ ที่บริษัทได้สั่งไว้ชะลอการสั่งชั่วคราว ทำให้สินค้าของแบรนด์เนสกาแฟที่มีอยู่ขาดสต็อค มีไม่เพียงพอกับความต้องการแล้ว เนื่องจากบริษัทได้สั่งสินค้ารอบใหม่เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงกระทบต่อ คู่ค้าและร้านค้าปลีก รวมถึงร้านเครื่องดื่มและร้านขนมที่ไม่มีสินค้าจำหน่ายเช่นกัน ทั้งนี้ จึงอยากให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็วที่สุด
เราทราบข่าวเรื่องห้ามจำหน่าย เนสกาแฟ จาก แบรนด์ เนสท์เล่ ที่โทรมาแจ้งหลังศาลมีคำสั่งออกมา ทำให้ต้องระงับการส่งสินค้าชั่วคราว โดยปัจจุบัน สินค้าของเนสกาแฟ ที่มีอยู่ใน เล้งเส็ง ใกล้ที่จะหมดสต็อคแล้ว จึงต้องสั่งสินค้าใหม่ มาไว้ในช่วงเทศกาลที่เป็นจุดพีคของเครื่องดื่มกาแฟ ทั้งกาแฟกระป๋อง กาแฟผงสำเร็จรูป เป็นต้น ซึ่งเนสกาแฟ ถือเป็นแบรนด์ที่สร้างยอดขายได้สูงสุดในตลาด
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
สอดคล้องกับแหล่งข่าววงการธุรกิจ กล่าวว่า ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบอีกกลุ่มคือ กาแฟรถเข็น ที่ใช้เนสกาแฟ เป็นสูตรในการชงกาแฟขายหน้าร้อน การส่งสินค้าไปยังร้านค้าไม่ได้ กาแฟขาดตลาด ย่อมส่งผลให้ ผู้ประกอบการรายเล็กสูญเสียรายได้ ตามด้วย
เกษตรกรกับผลกระทบการรับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟ
เกษตรกร อีกกลุ่มที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่กระบวนการเริ่มเพาะปลูก ไปจนถึงเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ ได้แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย หลากหลายมิติ เช่น เนสเล่ซื้อกาแฟจากชาวสวนจริง เราก็ชาวสวนขายกาแฟให้เนสท์เล่ปีนี้ราคาดีด้วย สุดท้ายถ้าเนสท์เล่จะรับซื้อสารกาแฟจากเกษตรกรไทย แล้วใช้แบรนด์ตัวเอง ประเด็นนี้ใครจะทำอะไรได้ครับ,
เนสกาแฟ เดินหน้าขายสินค้าได้ แม้มีข้อพิพาท เนสท์เล่-มหากิจศิริ
รังแกคนไทย???? เนสท์เล่ ให้เมล็ดพันธุ์ ต้นกล้ากาแฟ สอนวิธีให้เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดี โดยให้สัญญาใจ ว่าชาวสวนจะขาย green beansให้แก่เนสท์เล่ กาแฟนี้ก็คือจากชาวสวนไร่คนไทยทั้งนั้น ใครๆก็รู้ quota กาแฟไทยไม่เคยเพียงพอขายต่อการผลิต และเนสท์เล่คือเจ้าใหญ่ที่รับซื้อ และซื้อจากคนไทยก่อนเสมอก่อนจะเอาจากเวียดนาม ก็คือช่วยเศรษฐกิจชาวสวนกาแฟไทยทั้งประเทศแล้ว
อะไรก็ตามเจ้าของกิจการคนไทย ย่อมเห็นใจและเข้าใจความเดือดร้อนเกษตรกร และผู้บริโภคคนไทยด้วยกัน ปัญหาปากท้องคนระดับล่างยากลำบากมากมายอยู่แล้ว อย่าซ้ำเติม ,แต่เมื่อต้นปี เป็นบริษัทเนสท์เล่นะที่รับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกร มิใช่ตระกูลมหากิจศิริ สรุปคนไทยด้วยกันเขาเห็นใจเกษตรกรจริงหรือเปล่า เราชาวสวนเดือดร้อน ฯ
แหล่งข่าววงการธุรกิจ กล่าวว่า เนสท์เล่ รับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรในประเทศไทย เกินกว่า 50% ของปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด หากเนสกาแฟไม่สามารถผลิต จำหน่ายได้ จะกระทบต่อเกษตรกรที่ปลูกกาแฟ รวมถึงวัตถุดิบอื่น เช่น รับซื้อน้ำนมดิบ เนื่องจาก เนสกาแฟลาเต้ ต้องใช้น้ำนมเป็นส่วนผสม เป็นต้น สอดคล้องกับ "ไพศาล พืชมงคล" นักกฎหมายชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีประเด็นเกี่ยวกับ ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส มีนโยบายซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรไทยโดยตรง และส่งเสริมเกษตรกรชาวไทยผู้ปลูกกาแฟมากกว่า 70% ทั่วประเทศ
https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1175798