>>พุทธฯเจ้าบอกไว้ว่า การฆ่าตัวตายเป็นบาปค่ะ
>>ต้องทนทุกข์ทรมานในโลกวิญญาณจนกว่าจะหมดอายุไขยที่แท้จริง
>>จำไว้นะคะอีลูกกะหรี่ทั้งหลาย เมืองไทยเป็นเมืองพุทธค่ะ
>>จะให้มีกฏหมายประเภทนี้ไม่ได้
>>
>>ธรรมะสวัสดี
>
>แล้วคนศาสนาอื่นหรือคนไม่นับถือศาสนาต้องทำตามศาสนาพุทธมั้ยคะ
>
>แล้วถ้ามึงจะเอาศาสนามาปกครองผู้คน
>ก็เอามาบังคับใช้ให้ครบทุกข้อ
>
>ไม่ใช่พอใจข้อไหนก็เอามาบังคับข้อนั้น ว่าแต่ว่าคนที่มีเมีย
>500 คน เค้าจะทำตามมั้ยอะ ก็แล้วแต่ความเชื่อ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่มีใครมาบังคับ
แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นสัจธรรม และเป็นจริงทุกเรื่อง
เอาง่ายๆ แค่ศีล 5 พื้นฐาน ก็เป็นสิ่งที่ท่านบอกว่าพึงปฏิบัติแล้วจะได้ชีวิตสงบสุข มากกว่าทุกข์ ซึ่งเป็นจริง
แต่ท่านก็ไม่ได้บังคับให้ทำนะ แค่บอกว่าถ้าทำแล้วชีวิตจะสงบสุขและเจอความสุขมากกว่าทุกข์ เพราะเป็นพื้นฐานของการดับทุกข์เบื้องต้น
แต่ถ้าจะดับทุกข์ได้จริงก็ต้องฝึกเจริญสติและสมาธิ
คำสอนของท่านเป็นจริงทุกเรื่อง ดังนั้น เรื่องที่ท่านตรัสว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาป ก็คงเป็นจริงแน่แท้ เพียงแต่ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้บังคับ อยากทำการฆ่าตัวตายก็ทำเลย
ถ้าภพหน้ามีจริงแล้วต้องเจอกับวิบากกรรมที่ฆ่าตัวตาย คนที่ได้รับก็ตัวคุณเอง ไม่ใช่คนอื่น ดังนั้น ฉันไม่ได้เดือดร้อนจากเธอหรอกจ้า
แต่อย่าเอาความคิดที่ว่า อยากตายแล้วไปให้คนอื่นมาฆ่าให้ตัวเอง มาบอกให้บุคลากรการแพทย์ หมอ พยาบาลทำให้ตัวเอง เพราะเขาก็ไม่ได้อยากฆ่าใครให้บาปมือเขา
คนปกติดีๆ ไม่มีใครมีจิตใจที่อยากไปฆ่าผู้อื่นได้ แม้จะบอกว่าเพื่อช่วยให้เขาไปสบายก็ตาม เพราะนั่นไม่ใช่วิถีของการทำงานของหมอและพยาบาล
ถ้าวาระสุดท้ายแบบต้องใช้แต่เครื่องช่วยหายใจ หายใจเองไม่ได้แล้ว นั่นก็ต้องให้ญาติเป็นคนตัดสิน นี่คือวิธีการแพทย์ที่ถูกจริยธรรม
ใครจะใจดำอำมะหิต คอยฆ่าผู้อื่นได้ทุกวัน แม้จะบอกว่าช่วยให้ไปดี ถ้าทำได้ขนาดนั้น คงไม่ใช่มนุษย์แล้ว