We have no responsibility for the contents in this web community!

ถ้าเข้ามาแล้วพบว่ากระทู้ไม่เรียงตามวัน/เวลา ให้คลิ๊กตรงคำว่า Date/Time ที่อยู่ตรงแถบสีม่วงๆ นะครับ


ห้ามลงประกาศโฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ยกเว้นสปอนเซ่อร์!!!!!

*** ห้ามใช้เนื้อที่บอร์ดเพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ ***


เพิ่มเพื่อน

RBR Section


Register
สมัครสมาชิก


What's RBR?
ต่ออายุสมาชิก

**** ส่วนบริการเข้าบอร์ดเฉพาะสำหรับสมาชิก RBR บอร์ด Devil และ บอร์ด Zombie ต้องการติดต่อสอบถาม ส่งเมลล์ที่ ryubedroom@yahoo.com เท่านั้น ****

กรุณาคลิ๊กที่นี่และ Bookmark ไว้ด้วยครับ

Palm-Plaza.com

Complete the form below to post a message

Original Message
"RE: +.+.+. ทุ่ง...กาม...+.+.+."
Posted by Andrew on 02-Mar-14 at 00:57 AM
ช่วงพักกลางวันเป็นช่วงที่นักเรียนโรงเรียนบ้านนาทองส่วนใหญ่ใช้เวลาจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็หาอะไรเล่นฆ่าเวลา บ้างก็อ่านหนังสือเตรียมตัวสำหรับการเรียนในภาคบ่ายต่อไป ที่สนามฟุตบอล นักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังซ้อมกีฬาอย่างไม่ย้อท่อต่อแดดร้อนเปรี้ยงจนเห็นเปลวระยิบ


ที่ม้าหินอ่อนข้างสนามฟุตบอล เด็กสาวกลุ่มหนึ่งนั่งจับกลุ่มคุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าวนินทานักฟุตบอลหนุ่มๆที่กำลังซ้อมอยู่กลางสนามอย่างสนุกปาก แต่คนที่ตกเป็นเป้าสำคัญ คือเด็กหนุ่มผิวคล้ำร่างสูงที่กำลังซ้อมวิ่งอยู่ที่ลู่ข้างสนามอย่างเอาจริงเอาจัง เขาวิ่งผ่านพวกเธอไปหลายรอบแล้วแต่ไม่หันมามองพวกเธอเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าบางครั้งพวกเธอจะแกล้งพูดชื่อเขาเสียงดังลั่นไปถึงสนามเหมือนจงใจให้เขาได้ยิน แต่เขายังคงมุ่งมั่นอยู่กับการซ้อมวิ่งต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเขาวิ่งผ่านไปอีกรอบ เด็กสาวร่างใหญ่ผิวคล้ำถึงกับโพล่งขึ้นมากลางวง

“อีแวว มึงจะมานั่งเฝ้าไอ้ก้านให้มันได้อะไรขึ้นมาวะ กูไม่เห็นจะสนใจมึงเลย..”

แววทำหน้าง้ำ ค้อนใส่เพื่อนก่อนจะพูดน้ำเสียงสะบัด


“ก็เค้าตั้งใจซ้อมกีฬาอยู่มึงไม่เห็นหรือไง ทุกทีเค้าก็เป็นแบบนี้แหละ เวลาซ้อมก็ซ้อม ไม่ได้มาสนใจกูหรอก ซ้อมเสร็จค่อยเดินมาหากู”

“เหรอ...อีแวว..งั้นมึงดูโน่นสิ” เพื่อนลากเสียงยาวเป็นเชิงประชด พลางชี้มือไปที่ก้าน เขากำลังวิ่งผ่านเด็กม.ต้นที่จับกลุ่มเล่นหมากฮอสที่ม้าหินอ่อนข้างสนามฟุตบอล ก้านโบกมือไปที่ใครคนหนึ่งซึ่งนั่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นเป็นเชิงทักทาย และเด็กชายผิวขาวหน้าตาหมดจดก็จะเงยหน้าขึ้นมาโบกมือตอบเช่นเดียวกัน


ใช่ว่าแววจะไม่สังเกตเห็น ก้านวิ่งผ่านเด็กกลุ่มนั้นหลายรอบแล้ว เขาส่งยิ้มให้เด็กคนนั้นบ้าง พยักหน้าทักทายบ้าง บางทีก็โบกมือให้ น้อยครั้งที่จะวิ่งผ่านไปเฉยๆ ผิดกับตอนที่เขาวิ่งผ่านเธอ แววพยายามซ่อนความรู้สึกขุ่นเคืองเพราะกลัวจะเสียหน้าเพื่อนๆ ทำไมเด็กคนนั้นถึงได้สำคัญกับก้านนักนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าก้านเห็นคนอื่นดีกว่าเธอ ทั้งที่เขาเคยเป็นฝ่ายเข้ามาจีบเธอก่อนด้วยซ้ำ

เสียงนกหวีดจากโค้ชบอกให้รู้ว่าได้เวลาพักซ้อม ก้านเดินไปคุยกับอาจารย์คุมฝึกซ้อมที่ข้างสนาม แววใจเต้นตึกตัก แอบลุ้นว่าคุยกับโค้ชเสร็จแล้วเขาจะเดินมาหาเธอหรือเปล่า


ก้านยืนอยู่ใต้ร่มไม้ข้างสนามฟุตบอล เหงื่อซ่กไปทั่วตัว


“ครูดูจากสถิติแล้ว วันนี้ทำเวลาได้ดีขึ้นนะ ไปได้ยาดีมาหรือเปล่า..”


ก้านหัวเราะเก้อๆ เขาแสร้งก้มมองหญ้ามองดินไปเรื่อยเปื่อย


“หรือได้กำลังใจดี มีคนมานั่งเฝ้าข้างสนาม..” โค้ชกระเซ้า เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เด็กหนุ่มหน้าตาดีจะมีสาวๆมานั่งให้กำลังใจอยู่ข้างสนาม แม้ครูพงษ์จะเห็นว่าไม่เหมาะ แต่ก็ป่วยการจะห้ามปราม ก้านทำหน้าเหรอหราอย่างคนร้อนตัว

โค้ชเอามือตบบ่าเด็กหนุ่มเบาๆ “จะรักจะชอบใครครูก็ไม่ว่าหรอก เด็กวัยรุ่นก็เป็นแบบนี้แหละ แต่อย่าให้รบกวนเวลาซ้อมแล้วกัน เข้าใจไหม” ครูพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เด็กหนุ่มพยักหน้า


“ครูตั้งความหวังกับเราไว้มาก และครูก็เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำสุดความสามารถ มันจะต้องเป็นผลดีกับเราอย่างแน่นอน เชื่อสิ อ้อ... ครูของบกับผู้อำนวยการมาซื้อรองเท้าวิ่งดีๆให้เราแล้ว ต่อให้นักกีฬาเก่งแค่ไหน ถ้าขาดอุปกรณ์กีฬาดีๆ มันก็เสียเปรียบคนอื่นอยู่วันยังค่ำ เดี๋ยวซักอาทิตย์หน้าเราก็คงได้รองเท้าใหม่ไว้ซ้อมวิงแล้วล่ะ”

ก้านยกมือไหว้ครูอย่างตื้นตัน อดหนักใจไม่ได้เพราะเขารู้สึกเหมือนตัวเองแบกความคาดหวังของคนตรงหน้าไว้เต็มเปี่ยม


“มีอีกเรื่องนึงที่ครูอยากให้เราไปแก้ไข ตอนออกตัวสตาร์ท จังหวะสปริ้นท์ตัวของเรายังไม่แรงพอ จำไว้นะ ในการแข่งวิ่งระยะสั้น ทุกเสี้ยววินาทีมีความหมายหมด ถ้าออกตัวพลาด ก็เท่ากับเราเสียเปรียบคู่แข่งไปบางส่วนแล้ว ของแบบนี้มันวัดกันเป็นเสี้ยววินาที พลาดแล้วพลาดเลย เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเข้าใจนะ”


โค้ชกำชับด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ ทั้งที่ใจลอยไปหาคนข้างสนามแล้ว


“ เอาเป็นว่าตอนซ้อมเย็นนี้ ครูจะฝึกหนักเรื่องตอนออกตัวสตาร์ท ช่วงนี้เราต้องพยายามกินโปรตีนเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่งที่สุด เข้าใจไหม ครูมีเรื่องจะพูดแค่นี้ ตอนนี้ ไปพักกินน้ำกินท่าก่อน อีกพักสิบนาทีค่อยมาเริ่มซ้อมใหม่”


ก้านยกมือไหว้โค้ชแล้วออกวิ่งเหยาะๆไปข้างสนาม เขาตรงไปยังม้าหินอ่อนที่บอลกำลังเล่นหมากฮอสอยู่กับเพื่อน และดูเหมือนกับว่ามันกำลังคอยเวลานี้อยู่พอดี เพราะพอเขาไปถึงมันก็สะกิดเพื่อนที่นั่งข้างตัว


“ไอ้นน มึงเล่นแทนกูหน่อยสิ”


เด็กชายอ้วนจ้ำม่ำที่นั่งถัดจากบอลทำหน้ายุ่ง บ่นอุบอิบ “ถ้ากูเล่นแทนมึงแล้วแพ้ มึงเอาการ์ดเกมส์ให้ไอ้โจ้เองนะ”

ก้านฟังแล้วหัวเราะ พึ่งรู้ว่าบอลเล่นหมากฮอสพนันกับเพื่อนเพื่อเอาการ์ดการ์ตูนแถมขนมเป็นการฆ่าเวลาระหว่างที่มานั่งดูเขาซ้อม เขาชะโงกไปดูหมากบนกระดาน ประเมินจากสายตาคร่าวๆ ถ้าใครก็ตามที่มาเล่นต่อจากบอลแล้วแพ้ก็นับว่าโง่เต็มทน เพราะบอลวางหมากไว้เกือบชนะอยู่รอมร่อ ก้านทรุดตัวลงนั่งข้างบอล มันหยิบแก้วน้ำพลาสติกที่มีน้ำเหลือครึ่งแก้วส่งให้เขา แล้วหยิบสมุดมาพัดคลายร้อนให้ ก้านหัวเราะ นึกถึงพี่เลี้ยงกำลังให้น้ำนักมวย


“เหนื่อยไหมพี่ “

ก้านดื่มน้ำรวดเดียวจนหมด ..ชื่นใจ มีคนคอยส่งน้ำส่งท่าแบบนี้ จะให้ซ้อมวิ่งทั้งวันกลางแดดเปรี้ยงๆยังไงก็ไหว
เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ นึกอยากไล่เด็กทั้งกลุ่มไปให้หมด จะได้เหลือแต่เขากับไอ้บอลแค่สองคน


“ไม่เหนื่อย ถ้าเอ็งมาดูพี่ซ้อมทุกวัน..”


“ได้พี่ รางวัลแบ่งผมครึ่งนึง” มันรับปาก ไม่หยุดกระพือลมมาทางก้าน เขาหัวเราะ จับหัวมันโยกเล่น


“มากกว่ารางวัลพี่ก็ให้เอ็งได้รู้ไหม..” ก้านพูดตามความรู้สึก เขาไม่เคยกระหายชัยชนะขนาดนี้มาก่อน กระทั่งรู้ว่ามีคนที่จะดีใจด้วยถ้าเขาจะได้มันมา

“มากกว่ามานั่งเฝ้าพี่ผมก็ทำได้..” มันล้อคำพูดเขา ก้านยิ้มเขินๆ โชคดีที่ เด็กอื่นมัวแต่สนใจหมากฮอสในกระดานหรือไม่ก็เด็กเกินจะเข้าใจนัยยะลึกซึ้งที่เขากับบอลพูดกัน กระทั่งตัวไอ้บอลเอง ก้านก็ยังไม่แน่ใจว่ามันรู้หรือเปล่าว่าคำพูดมันทำให้ใจเขาเตลิดไปไกล..


“วันอาทิตย์ตอนบ่ายๆพี่ไม่มีซ้อม เราไปเที่ยวกันไหม”


“พี่จะไปไหนอ่ะ ไม่รู้ก๋งจะให้ไปหรือเปล่า”


“เอ็งก็ขอก๋งแต่เนิ่นๆสิวะ เราไม่ต้องไปไกลหรอก ไปไหนก็ได้ที่ก๋งอนุญาตให้ไป..” ก้านพูดเสียงเรียบๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะพามันไปเที่ยวโลดโผนอะไรอยู่แล้ว แค่ได้อยู่ที่เงียบๆกันตามลำพังสองคน


“แล้วถ้าก๋งไม่ให้ไป ให้อยู่เฝ้าร้านล่ะ”

“พี่ก็จะไปอยู่เฝ้าร้านกับเอ็งน่ะสิ” ก้านพูดขึงขัง บ่ายวันอาทิตย์จะไปมีความหมายอะไรถ้าไม่ได้เจอไอ้บอล

“จริงนะพี่” มันทำเสียงคาดคั้น “ผมมาเฝ้าพี่ก้านซ้อมวิ่งแล้ว พี่ไปเฝ้าผมขายของมั่งนะ”

ก้านหัวเราะลงลูกคออย่างชอบใจ เขายิ้มเห็นฟันขาวหมดจด ตาพราวเป็นประกาย
“อย่าว่าแต่ไปเฝ้าเอ็งขายของที่ร้านเลย บ่ายนี้พี่โดดเรียนมานั่งเฝ้าเอ็งหน้าห้องเรียนเลยก็ได้”

“โห พี่ เข้าเรียนมั่งเหอะ เดี๋ยวไม่จบมอหก.” มันบ่น เป็นที่รู้กันดีว่าก้านโดดเรียนมากกว่าเข้าเรียน จะว่าไปแล้ว ในแต่ละเทอมก้านใช้เวลาอยู่ในสนามกีฬามากกว่าอยู่ในห้องเรียนด้วยซ้ำไป


“เอ๊า.. ก็อยู่ซ้ำชั้นรอเอ็งไง จะได้เรียนจบพร้อมกัน..”


“รีบเรียนรีบจบเหอะพี่ น้าแก้วจะได้ไม่ต้องเหนื่อย เรียนจบก่อนแล้วมาเลี้ยงข้าวผมด้วย”

ก้านต่อยพุงมันเบาๆอย่างหมั่นไส้ที่มันทำตัวแก่แดดเกินวัยมาสั่งสอนเขา มันเอาสมุดในมื อบังแล้วต่อยกลับเบาๆ ก้านจับมันล็อคคอ เอามือหยิกแก้มตึงๆอย่างหมั่นเขี้ยว สองหนุ่มกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปมา บอลดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนแข็งแรง กลิ่นชื้นเหงื่อที่คุ้นเคยจากเนื้อตัวก้านให้ความอบอุ่นใจอย่างประหลาด เนื้อตัวอุ่นอ้าวจากการซ้อมกีฬาของก้านไม่ทำให้บอลนึกรำคาญใจแม้แต่น้อย ก้านเอาคางกดลงกลางกระหม่อมบอลเพื่อตรึงให้มันอยู่กับที จมูกหอมกลิ่นแชมพูอ่อนๆแบบที่เขาคุ้นเคยมาตลอด นี่มันสระผมทุกวันหรือยังไงนะ กลิ่นหอมๆนี่ทำให้เขาปั่นป่วนอยู่ในอกพิกล สองหนุ่มหยอกเล่นกันในท่ากอดปล้ำเนิ่นนาน กระทั่งเสียงนกหวีดบอกเวลาเริ่มซ้อมอีกรอบ ก้านจึงยอมปล่อยคนในวงแขนอย่างอาลัยอาวรณ์


“พี่ไปซ้อมก่อนนะ” ก้านพูด ยืนอ้อยอิ่งดูบอลจัดแจงเสื้อนักเรียนให้เข้าที่เข้าทาง
“สู้ๆนะพี่ ผมจะดูอยู่ตรงนี้แหละจนหมดคาบเที่ยงค่อยไปเรียน” คำพูดนั้นทำให้หัวใจก้านฮึกเหิมขึ้นมาทันใด เขาหมุนตัวกลับแล้ววิ่งตรงไปยังสนามซ้อมอย่างมุ่งมั่น โดยมีสายตาบอลมองตามอย่างชื่นชม โดยไม่รู้เลยว่า อีกมุมหนึ่งของสนาม มีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งจับตามองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างไม่คลาดสายตา

........................................................................................................


แดดยามสายที่สาดเข้ามาทางหน้าต่างขับภาพหญิงสาวในกระจกให้ยิ่งสวยผุดผาดสะดุดตา แต้วพิศดูภาพตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจ หล่อนยังอยู่ในชุดกระโจมอกขณะเริ่มประทินผิวด้วยโลชั่นประดามีที่ขนซื้อยามเข้าไปในตัวอำเภอ ทาครีมเสร็จก็ผัดแป้งตลับอย่างพิถีพิถัน เสร็จแล้วก็พินิจดูความเรียบร้อยอีกทีก่อนจะเริ่มขั้นตอนถัดไป

หล่อนยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ไม่มีอะไรที่แต้วจะภูมิใจไปมากกว่าความงามของตัวเองอีกแล้ว และไม่มีอะไรที่หล่อนต้องการแล้วจะใช้ความสวยแลกมันมาไม่ได้ แต้วกำลังจะแต้มลิปสติกบนกลีบปาก อยู่ๆประตูห้องนอนก็เปิดผลุงเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

“อีแต้ว สายโด่งแล้วยังมัวอ้อยอิ่งผัดหน้าทาปากอยู่ได้ ผัวมึงขับรถเข้าเมืองไปซื้อของมึงไม่รู้หรือยังไง”


แต้ววางลิปสติกอย่างกระแทกกระทั้น หันไปพูดกับตาเหงี่ยมผู้เป็นพ่ออย่างไม่สบอารมณ์


“ก็รู้สิพ่อ เสียงรถดังหนวกหูออกปานนั้นใครจะไม่ได้ยิน ชั้นเลยต้องพลอยตื่นไปด้วยเลยนี่ไง..”


แต้วบ่นแล้วหันกลับมาแต่งหน้าทาปากต่อ ตาเหงี่ยมถึงกับตบอกผาง “อ้าว อีแต้ว! ตื่นแล้วทำไมไม่เข้าเมืองไปช่วยผัวทำมาหากิน สายแล้วยังมานั่งแต่งหน้าออกงิ้วออกลิเกอยู่ได้”

“โอ๊ย! พ่อ เข้าเมืองกับพี่ทวนทีไรก็มีแต่พาชั้นไปแกร่วอยู่ร้านขายปุ๋ยขายเครื่องมือเกษตร น่าเบื่อจะตาย..”


ตาเหงี่ยมมองหน้าลูกสาวอย่างคลางแคลงใจ ไม่มีเสียล่ะที่แต้วจะเข้าเมืองเพื่อไปช่วยงานทวน อย่างดีหล่อนก็บอกให้ผัวเอาไปปล่อยไว้ที่ตลาดนัด เดินซื้อของสบายใจเฉิบ ทวนเสร็จธุระแล้วค่อยมารับตามที่นัดแนะกัน การที่แต้วยอมพลาดโอกาสเข้าไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ๆในเมืองแบบนี้ แสดงว่าหล่อนคงมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในใจแล้วแน่ๆ


“แล้วนี่มึงแต่งตัวจะไปไหน” ตาเหงี่ยมถามลูกสาวเสียงคาดคั้น แกจ้องหน้าหล่อนผ่านกระจกที่หล่อนกำลังส่องหน้าอยู่


“ไปอนามัยจ้ะพ่อ “ แต้วบอกเสียงอุบอิบในลำคอ ใจจริงหล่อนก็อยากจะโกหก แต่ในหมู่บ้านเล็กๆนี่ ใครจะไปไหนทำอะไรก็รู้กันหมด โดยเฉพาะพ่อของหล่อนที่หูตาราวกับสับประรด


“ไปทำไม สองสามวันก่อนมึงก็พึ่งไปมาไม่ใช่หรือ...”


“ก็ชั้นยังไม่หายนี่พ่อ..หมออนามัยเค้าบอกให้ไปเอายาเพิ่ม..”


“ไม่สบายเป็นอะไร อย่างมึงไม่เคยลงห้วยลงหนอง วันๆเอาแต่นอนสันหลังยาวอยู่บนเรือน จะมาไม่สบายได้ยังไง”

พอจวนจะจนมุมแต้วก็งัดไม้ตาย หล่อนแหวเสียงดังทั้งน้ำหูน้ำตา

“เอ๊ะ! พ่อนี่ไม่เชื่อใจชั้นหรือไง ก็คนมันป่วยก็ต้องไปหาหมอ หรือพ่อจะให้ชั้นนอนตายอยู่บนบ้านนี่แล้วค่อยเอาไปเผาที่วัดทีเดียว...”

ชายชนาถอนใจยาว ใช่ว่าจะไม่รู้ทันลูกสาว แต่ความที่ตามใจกันมาแต่เล็กแต่น้อย พอลูกสาวคนเดียวบีบน้ำตาเข้าทีไรแกก็อดใจอ่อนไม่ได้


“งั้นพ่อจะไปกับเอ็งแล้วกัน เผื่อเป็นล้มเป็นแล้งอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้..”

“เอ๊ะ! พ่อนี่ ชั้นโตแล้วนะไม่ใช่เด็กสองสามขวบ จะได้ต้องให้พ่อคอยกระเตงไปหาหมอ ชั้นไปของชั้นเองได้ พ่อมีธุระปะปังอะไร พ่อก็ไปทำของพ่อแล้วกัน”


ตาเหงี่ยมถอนหายใจคำรบสอง พูดเสียงเนิบนาบทว่าเคร่งขรึมจริงจัง


“แต้ว..พ่อจะบอกเอ็งไว้นะ เอ็งเป็นสาวเป็นนาง ผัวก็มีอยู่แล้วเป็นตัวเป็นตน ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังบ้าง ฉวยพลาดพลั้งขึ้นมาคนเค้าจะว่าเอาได้ว่าพ่อแม่เอ็งไม่รู้จักสั่งสอน ของบางอย่างมันแค่สนุกสนานชั่วครู่ชั่วยาม แต่มึงพลาดไปแล้วมึงเอากลับคืนมาไม่ได้มึงเข้าใจที่พ่อพูดไหมหือ..อีแต้ว”


ตาเหงี่ยมพูดจบก็ลุกไปจากห้องลูกสาวเงียบๆ แต้วหันไปมองตัวเองในกระจก จ้องภาพตัวเองทาปากไว้ครึ่งหนึ่งอยู่เนิ่นนานราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ที่สุดหล่อนก็หยิบลิปสติกขึ้นมาทาปากต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย..

...............................................................................................

Click here to go back to the previous page Go back   Click here to see help FAQ     
Conferences Post form
Your Message
Name*:
Subject*: Upload Pics อัพโหลดรูปภาพ
Message*:
 
HTML Ok
Use [] in place of <>

HTML Reference
 
Images Ok
 
Click on a smilie to add it to your message.
 
Check if you DO NOT wish to use emotion icons in your message
RBR User*: ใส่ Username และ Pass RBR ในกรณีที่โพสแล้วติดแอดมิน
RBR Pass*: ***ผู้ที่ใช้พาส RBR ป่วนหรือโพสผิดกฎบอร์ดจะถูกยึดพาส***
 

 

Palm-Plaza.com All rights reserved.

*** ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
ห้ามโพสข้อความ รูปภาพ ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บุคคลอื่น
ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link "แจ้งลบข้อความ" ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือแจ้งมาได้ที่ ryubedroom@yahoo.com



Copyright Palm-Plaza,Inc. All Rights Reserved.