ที่โรงอาหารในศูนย์ฝึกร.ด.
" ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอไอ้หนุ่ม "
เสียง ทุ้มๆ ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผม ผมหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นไอ้อ๊อต เพื่อนสนิทของผมกำลังเดินเข้ามาหา ผมยิ้มให้มันก่อนจะพูดว่า
" เดี๋ยวค่อยกลับว่ะ เมื่อย อยากจะนั่งพักซักหน่อย นั่งคุยกันก่อนสิวะ "
ไอ้อ๊อตนั่งลงข้างๆ ผม ผมเพิ่งเห็นมามันไม่ได้มาคนเดียว แต่มีเพื่อนอีกคนเดินตามมาด้วย เพื่อนคนนั้นพูดขึ้นมาว่า
" วันนี้ซวยชิบหายเลยว่ะ โดนตัดผมเลย พวกมึงดูสิ แม่งครูฝึกแม่งเหี้ยจริงๆ ผมกูก็ยังไม่ยาวซะหน่อย แต่ก็โดนซะงั้น อีช่างเหี้ยนั่นก็ตัดซะสั้นเลย หมดหล่อเลยกู "
ขณะที่เขาพูด เขาก็ถอดหมวกออก เผยให้เห็นหัวเกรียนๆ ขาวสะอาดที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ ไอ้อ๊อตมองหัวของเพื่อนแล้วก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า
" 5555 กบาลขาวเชียวนะมึง แต่ก็เท่ห์ดีนี่หว่า ดูแมนดี แมนกว่าตอนที่มึงไว้ผมรองทรงแบบยาวๆ ซะอีก มึงรู้มั๊ย มึงตัดผมแบบนี้ดูเป็นผู้ชายแท้ๆ ขึ้นเยอะเลย ไอ้เทพ "
ไอ้เทพเบ้ปาก พลางเอามือเกาตูดไปด้วยอย่างไม่อายสายตาคนที่เดินผ่านไปมา
" ควย ไม่เกี่ยวสัด กูว่าหัวเกรียนๆ แบบนี้ดูเหี้ยมากกว่า ดูไม่ได้เลย กูไม่ชอบทรงนี้เลยจริงๆ กูถือว่าตัดเตรียมไว้สำหรับเข้าค่ายที่เขาชนไก่ก็แล้วกัน อย่างน้อยไปที่โน่นจะได้ไม่มีครูฝึกคนไหนมายุ่งกับกบาลกูอีก "
ไอ้อ๊อตยิ้ม แล้วเอามือลูบต้นคอไอ้เทพเบาๆ ก่อนจะบีบช้าๆ ปากก็พูดไปด้วย
" เออ นี่ก็ใกล้จะไปเข้าค่ายแล้ว พวกมึงเตรียมตัวอะไรกันบ้างหรือยังวะ "
ผมซึ่งเงียบอยู่นาน เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตอบขึ้นมาก่อนว่า
" เราออกกำลังกายทุกวันว่ะ ทั้งวิ่ง เล่นกล้าม ยกดัมเบลล์ เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนจะไปฝึก เรากิน
แบรนด์ด้วยนะ แล้วเราก็ว่ายน้ำ ไปตีเทนนิส แล้วก็... "
ผมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้อ๊อตก็สอดขึ้นมาว่า
" พอ พอแล้วไอ้หนุ่ม รู้แล้วว่านายฟิต สุดยอดจริงๆ เราเองยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยเชื่อมั๊ย ทุกวันเรายังชักว่าว ดูหนังโป๊ เล่นเว็ปแคม อยู่เลยว่ะ จริงๆ นะเนี่ย "
ไอ้อ๊อตพูดน้ำเสียงจริงจัง เพื่อนของผมทุกคนจะพูดสุภาพกับผมเสมอ เพราะพวกเขาเห็นว่าผมพูดจาสุภาพ ก็เลยเกรงใจไม่กล้าพูดหยาบด้วย แต่กับเพื่อนคนอื่นๆ แล้วพวกเขาก็พูดมึงมาพาโวยตามปกติ หยาบๆ เถื่อนๆ ตามประสาผู้ชาย ถึงจะไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัวก็เหอะ
ถูกแล้วครับ เพื่อนของผม 2 คนนี้เป็นเกย์ทั้งคู่ พวกเขาพิศมัยในเรือนร่างผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครมองออกว่าเขา 2 คนเป็นเกย์ เพราะเขาทั้ง 2 คนแมนสุดๆ เรียกวาแมนเกินล้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ ไอ้เทพโดนครูฝึกให้ไปตัดผมซะเกรียน ยิ่งทำให้มันดูแมนมากขึ้น ตัวของไอ้เทพใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ เพราะเล่นกล้ามด้วย หน้าตี๋ หัวเกรียน แถมยังเป้าตุงซะขนาดนั้น จึงไม่มีใครสงสัยเลยว่า มันจะเป็นเกย์ เพราะลักษณะทุกอย่างของมันเป็นลักษณะของชายแท้ชัดๆ
" แล้วมึงล่ะไอ้เทพ เตรียมตัวอะไรบ้าง "
" ของกูก็ไม่ได้เตรียมอะไรหรอก ก็แค่เตรียมร่างกายแบบเดียวกับที่ไอ้หนุ่มมันทำ แต่ของกูจะมีเพิ่มเติมนิดหน่อย คือกูจะแดกเยอะๆ น่ะ แดกแต่ของที่บำรุงร่างกายเท่านั้น งดแดกเหล้าชั่วคราว งดดูดหรี่ด้วย (บุหรี่) ร่างกายจะได้ฟิตๆ หน่อย แล้วก็งดชักว่าวชั่วคราว เดี๋ยวจะไม่มีแรงตอนไปฝึก จะไปเขาชนไก่ทั้งที ร่างกายกูต้องพร้อมว่ะสัด "
ไอ้อ๊อตยักคิ้วแบบกวนๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้อ๊อต กับไอ้เทพ แล้วถามว่า
" เออ ถามจริงๆ เหอะ เราอยากรู้ นาย 2 คนจะเล่นเสียวกันในค่ายหรือเปล่าวะ ตอบเราหน่อย "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองหน้ากันแล้วก็อมยิ้ม ไม่ตอบผมซักคำ

ก่อนจะถึงวันที่ไปเข้าค่าย 2-3 วัน ผมเตรียมฟิตร่างกายอย่างดี ทั้งเล่นกีฬา ยกดัมเบลล์ วิ่ง ทุกวันวันละ 1 ชั่วโมง จนมั่นใจว่าร่างกายพร้อมสุดๆ งดชักว่าวเหมือนที่ไอ้เทพทำ แต่ผมฟิตมากกว่าคือไม่ชักว่าวเลยเป็นเวลา 7 วัน วันแรกๆ ที่งดก็ยังไม่รู้สึกอะไร พอล่วงเข้าวันที่ 4 วันที่ 5 ผมก็เกิดอาการเงี่ยนอย่างมากตามประสาเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีความต้องการทางเพศสูง แต่ผมก็อดทนไม่เอาน้ำออก จนเหลืออีกวันเดียวก็จะไปเข้าค่าย ผมเดินไปที่ร้านตัดผมใกล้บ้านเพื่อทำภารกิจสุดท้ายก่อนจะไปเข้ารับการฝึก จะฝึกทั้งทีขอไปแบบแมนๆ เลยแล้วกันกู!
" ทรงอะไรครับ "
ช่างตัดผมรูปหล่อถามพลางเอามือลูบต้นคอผมไปด้วย ผมรู้สึกสยิวกับการกระทำของเขามาก มือเขาทั้งนุ่มทั้งเย็น ลูบทีผมก็เสียวไปทั้งตัว ผมกระแอมนิดนึงแล้วตอบว่า
" ทรงนักเรียนครับ สั้นๆ เลยนะครับ "
ช่างหนุ่มทำหน้าประหลาดใจ เพราะที่ผ่านมาผมให้เขาตัดรองทรงสูงมาตลอด คราวนี้มาแปลกจริงๆ
" แน่ใจเหรอพี่ เอาทรงนักเรียนเลยเหรอ "
ผมพยักหน้าหงึกๆ
" ครับ ผมจะไปเข้าค่ายร.ด. ครับ "
" อ๋อ เข้าใจล่ะ "
ช่างหนุ่มยิ้มยิงฟัน แล้วลูบต้นคอผมไปมาช้าๆ ทำเอาผมขนลุกซู่ เขาลงมือตัดทันที ครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็เสร็จเรียบร้อย ผมเป็นกระจุกๆ กองอยู่ที่พื้น ภาพในกระจกดูแปลกตาไม่น้อย เป็นภาพที่ผมไม่ได้เห็นมานานแล้วตั้งแต่เรียนร.ด. ปี 2 เพราะพอเรียนปี 2 ก็ตัดผมแบบรองหวีแล้ว ไม่ได้ไถหัวซะเกรียนแบบนี้ แต่วันนี้ผมดูเหมือนตอนเพิ่งเริ่มเรียนร.ด. ปี 1 มาก ผมสั้นเกรียนติดหนังหัวรับกับหน้าตี๋ๆ ของผม ดูดีไม่เบาเลย ผมยิ้มให้กับตนเองในกระจกแล้วเอามือลูบหัวเกรียนเล่น มันสากๆ พิกล พลางคิดในใจ
" เหมือนทหารเกณฑ์ที่เขาเรียกว่าไอ้เณรเลยกู ไอ้หนุ่มเอ๊ย หัวเขียงชิบหาย "
................................

คืนนั้น ผมจัดข้าวของลงเป้สนามจนหมด ของไม่เยอะเท่าไหร่ มีชุดฝึกสำรอง 1 ชุด เอาไว้ใส่วันที่ 4 หรือ 5 ต้องเตรียมไปอีกชุดเพราะว่าใส่ชุดเดียวตลอด 5 วันไม่ไหวแน่ เน่ากันพอดี นอกจากนั้นก็มีกระติกน้ำทหารสีเขียวแก่ เข็มขัดสนามที่เอาไว้คาดกระติกน้ำ ยาแก้ไข้ (เผื่อฉุกเฉินเป็นไข้ขึ้นมา) ไฟฉายกระบอกเล็ก ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ยาดมตราโป๊ยเซียน 1 หลอด (ซึ่งตอนหลังของสิ่งนี้มีประโยชน์มหาศาลต่อชีวิตผม) ผ้าขาวม้าผืนเล็ก (ยืมของพ่อมาใช้) กางเกงใน ช้อน ถุงเท้าสีดำ กระดาษชำระ ผมเตรียมของไปแค่นี้จริงๆ ไม่อยากจะเอาไปมากเหมือนกับบ้าหอบฟาง เกือบลืมผ้าห่ม ผมเลือกผ้าห่มผืนที่เล็กที่สุดยัดลงไปในเป้สนามใบใหญ่ที่พ่อให้มา แล้วก็ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ อีกนิดหน่อยคือพวกสบู่ ขัน ยาสีฟันและแปรงสีฟัน ของอย่างอื่นผมไม่เอาไปเลยเพราะคิดว่าไม่จำเป็น อย่างยาสระผมก็ไม่เอาไป คิดว่าคงไม่สระหรอก หัวก็เกรียนขนาดนี้แล้วจะสระทำไม แป้งก็ไม่เอาไปเพราะผมไม่ชอบประแป้งอยู่แล้ว และอีกอย่างผู้ชายประแป้งมันดูตุ๊ดไปหน่อย ไปร.ด. จะทำสิ่งที่ตุ๊ดทำไม่ได้เด็ดขาด (ถึงแม้ว่าปกติผมก็ไม่ทำอยู่แล้ว) สบู่เอาไปก้อนเดียวก็พอแล้ว ฟอกได้ทั้งตัวตั้งแต่หน้าไปจนถึงตีน ผมตรวจดูข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งก่อนจะหัดผูกเป้สนามจนคล่อง เวลาไปที่โน่นจะได้เอาของออกมาได้เร็วๆ เสร็จแล้วก็หัดคาดเข็มขัดสนามซึ่งก็คาดยากเหมือนกัน แต่ในที่สุดผมก็คาดได้
4 ทุ่ม
ผมมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย พร่งนี้แล้วสินะที่ผมต้องไปเผชิญกับความลำบากที่เขาชนไก่เป็นเวลา 5 วันเต็มๆ ผมเกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมานิดหนึ่ง กังวลว่าจะฝึกกับคนอื่นเขาไม่ได้ กังวลว่าร่างกายจะรับไม่ไหว แต่ผมก็สลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปทันที กังวลอะไรไม่เข้าเรื่องเลย เราเองก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกันนะ เราต้องทำได้สิ ถ้าคนอื่นทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราก็มี 2 มือ 2 ตีน 1 ควย เหมือนๆ กัน เขาทำได้เราก็ต้องทำได้สิวะ ผมคิดแล้วก็หันไปมองที่พื้น ชุดฝึกสำหรับใส่ไปวันพรุ่งนี้วางเตรียมไว้แล้ว ข้างๆ ก็มีกางเกงใน ถุงเท้า และเข็มขัดสนาม ที่วางอยู่ตรงมุมห้องคือเป้สนามสีเขียวแก่ใบเบ้อเริ่มที่บรรจุของของผมไว้จนเต็ม และผูกไว้อย่างเรียบร้อย มีหมวกเบเล่ย์สีเขียวแก่วางอยู่ด้านบน พร้อมจะหยิบมาใส่ได้ทันที
ทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อม
เสียงเคาะประตูดังก๊อก ก๊อก ผมเดินไปเปิดประตู พ่อของผมนั่นเอง เขายิ้มให้ผมแล้วถามว่า
" ไง พร้อมหรือยังลูกพ่อ ไอ้เสือ กับการที่จะไปรบที่เขาชนไก่ 5 วัน "
ผมหัวเราะ พ่อชอบเรียกผมว่าไอ้เสือเพราะอยากให้ผมเข้มแข็งเหมือนเสือ ผมก็ชอบให้พ่อเรียกแบบนี้เหมือนกัน
" พร้อมแล้วพ่อ พร้อมสุดๆ เลย ผมจัดของลงเป้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่ลืมอะไรแล้วล่ะ "
พ่อมองดูข้าวของที่วางอยู่บนพื้นห้อง แล้วก็ยิ้มอย่างพอใจ
" ดีมากลูกพ่อ ไหนเข้ามาใกล้ๆ พ่อซิ "
ผมเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อ พ่อเอามือ 2 ข้างวางบนไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงหนักแน่น
" เต็มที่เลยนะลูก ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ลูกของพ่อเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ฝึกแค่ไม่กี่วันแบบนี้สบายอยู่แล้ว ใช่มั๊ยลูก จำเอาไว้ คนอื่นทำอะไรได้ ลูกก็ทำได้ เขาทำอะไรลูกก็ทำกับเขาด้วยนะ ผู้ชายทั้งนั้นไม่มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เราพวกเดียวกับเขา "
" ครับพ่อ "
ผมรับคำ พ่อเลื่อนมือจากไหล่ลงมาที่ต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของผม แล้วพูดต่อ
" ถ้าโดนครูฝึกด่าก็ไม่ต้องไปใส่ใจนะ อดทนไว้ ครูฝึกสั่งให้ทำอะไรก็ทำ เข้มแข็งเอาไว้ อย่าแสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาด จะเหนื่อยจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทนลูกเดียว มันไม่ถึงตายหรอกลูกก็รู้ พ่อเชื่อว่าลูกของพ่อต้องผ่านการฝึกนี้ไปได้ด้วยดี ใช่มั๊ยไอ้เสือของพ่อ "
ผมยืนตัวตรง ตอบด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
" ครับผม ! ผมจะตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ครับผม ! "
พ่อยิ้มเมื่อได้ยินผมตอบแบบนี้ แล้วพูดว่า
" พ่อภูมิใจในตัวลูกเหลือเกิน ไอ้เสือลูกรักของพ่อ "
ผมยังคงยืนนิ่ง ตามองตรงไปข้างหน้า พ่อตบต้นแขนของผมแรงๆ 2 ที เสียงดังป๊าบๆ แล้วจึงพูดต่อ
" แข็งแรงดีมาก เอาล่ะ นอนเถอะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 นะ พ่อจะเป็นคนมาปลุกเอง แล้วพ่อจะไปส่งที่สวนเจ้าเชต "
" ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับพ่อ "
ผมพูด พ่อยิ้มให้ผมอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไป ส่วนผมก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อแปรงฟัน แล้วจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง ในใจก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
" พรุ่งนี้เราจะต้องเจอกับอะไรบ้างเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลย แต่ยังไงเราก็สู้ตายอยู่แล้ว คนอย่างเราไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น เราจะสู้ สู้ให้เต็มที่ไปเลย แล้วเจอกัน เขาชนไก่ "
ผมนอนคิดแบบนี้ซ้ำๆ ไปจนหลับสนิท

พ่อปลุกผมตอนตี 4 ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งชุดฝึก และเตรียมเป้สนาม เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็ลงมากินข้าวเช้า ผมรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามาก พอๆ กับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปฝึกภาคสนาม พอผมกินข้าวเสร็จก็หยิบหมวกมาใส่ แล้วก็มองตัวเองในกระจก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือภาพของหนุ่มน้อยหน้าตี๋ใส่แว่นคนหนึ่งที่ดูแมนมากใน ชุดฝึกขนาดพอดีตัว หัวเกรียนขาว สวมหมวกเบเล่ย์สีเขียวแก่ที่ดึงปีกหมวกด้านขวาลงมาพองาม ใส่เสื้ออ่อนคอกลมสีกากีแกมเขียว ส่วนเสื้อชั้นนอกกับกางเกงขายาวเป็นสีเขียวแก่ ช่วงไหล่กว้างและช่วงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ กล้ามอกและกล้ามแขนขึ้นเป็นมัดๆ อย่างเห็นได้ชัด หน้าท้องแบนราบ ช่วงต้นขาที่อยู่ภายใต้กางเกงสีเขียวแก่นั้นล่ำใหญ่มากได้สัดส่วนกับช่วง น่องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งๆ เช่นเดียวกับช่วงอก ตรงกลางลำตัวคาดเข็มขัดสายสีเขียวแก่ หัวเข็มขัดถูกขัดอย่างประณีตจนเป็นสีทองแวววาวสวยงามมาก และเสริมความเท่ด้วยเข็มขัดสนามเส้นใหญ่ที่ด้านขวามือมีกระติกน้ำทหาร 1 ใบที่เติมน้ำจนเต็มแล้วห้อยอยู่ด้วย ใส่รองเท้าหนังสีดำชนิดผูกเชือกที่ถูกขัดจนเป็นมันปลาบ ผมมองภาพตัวเองในกระจกอย่างภูมิใจ หล่อไม่เบาเลยเรา
" ลูกพ่อหล่อจริงๆ วันนี้ เท่มากๆ เหมือนทหารจริงๆ เลย "
พ่อผมพูดขึ้นมาดังๆ ผมยิ้มรับคำชมนั้น พ่อพูดต่อว่า
" เสร็จแล้วใช่มั๊ย งั้นออกมาไหว้ศาลพระภูมิก่อนจะไปนะ อย่าลืมขอพรให้ท่านคุ้มครองลูกให้เดินทางไปและกลับด้วยความปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายใดๆ ระหว่างที่รับการฝึกที่เขาชนไก่ "
ผมเดินไปที่ศาลพระภูมิแล้วก็ไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมกับอธิษฐานขอพรท่านในใจว่า ขอให้ผมเดินทางไปและกลับด้วยความปลอดภัย ขอให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงระหว่างที่ไปฝึก 5 วันนี้ รวมทั้งขอให้ผมประสบความสำเร็จในการฝึกอะไรก็ตามตลอด 5 วัน
" เรียบร้อยแล้วพ่อ ไปกันเถอะครับ "
ผมหันไปพูดกับพ่อหลังจากที่ไหว้ศาลพระภูมิเรียบร้อยแล้ว พ่อพยักหน้าแล้วช่วยผมแบกเป้สนามขึ้นรถ ก่อนที่พ่อจะสตาร์ทรถ พ่อถามผมอีกครั้งว่า
" ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก เติมน้ำใส่กระติกรึยัง เอายาดมไปแล้วใช่มั๊ย เข็มขัดสนามคาดหรือยัง "
" ไม่ลืมแล้วครับ น้ำผมก็เติมเรียบร้อยแล้ว ยาดมผมก็เอามาแล้ว เข็มขัดสนามผมก็คาดแล้ว ทุกอย่างพร้อมหมดแล้วครับพ่อ เราออกเดินทางกันได้เลยครับ "
" ดีมาก งั้นเราไปกันเลย "
แล้วพ่อก็ขับรถออกจากบ้านไป ขณะนั้นตี 5 กว่าๆ เรามุ่งหน้าไปสวนเจ้าเชต ผมนั่งตื่นเต้นไปตลอดทางว่าจะได้ฝึกแล้ว รอวันนี้มานาน อยากรู้จริงๆ ว่าจะได้ฝึกอะไรบ้างที่นั่น มันจะต้องสนุกแน่ๆ เลยครับ
................................
ผมถึงสวนเจ้าเชตเวลาประมาณเกือบ 6 โมง มีคนมาเยอะแล้ว พ่อจอดรถที่ข้างถนนตรงประตูทางเข้าสวนเจ้าเชต แล้วหันมาพูดกับผมว่า
" พ่อส่งหนูได้แค่นี้แหละ เดี๋ยวหนูต้องเดินเข้าไปเองนะลูก โชคดีล่ะครับ ไอ้เสือของพ่อ เต็มที่ไปเลยนะ พ่อขอให้ลูกโชคดี แล้วอีก 5 วันเราจะได้พบกัน "
ผมใจหายเมื่อได้ยินคำนี้ ผมจะต้องจากบ้านไปนอนที่อื่นถึง 5 วันเต็มๆ เลยเหรอเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยไปไหนนานขนาดนี้เลย อยู่ที่โน่นคงคิดถึงพ่อมากแน่ๆ แต่ยังไงผมก็ต้องอดทน เพื่ออนาคตของผมเอง ผมก็เป็นลูกผู้ชาย ผมจะอ่อนแอไม่ได้
" ครับพ่อ ผมไปก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมาหาพ่อนะ "
พ่อยิ้ม แล้วก็ตบไหล่ผมเบาๆ ผมสวมหมวก ก้าวลงจากรถ แล้วเดินมาเปิดประตูหลังแบกเป้สนามอันหนักอึ้งลงจากเบาะหลังของรถแล้วสะพาย เอาไว้ข้างหลัง แล้วยืนนิ่งอยู่ตรงริมทางเท้า มองเข้าไปข้างในรถ ผมเห็นพ่อยังคงนั่งเกาะพวงมาลัยมองผมอยู่ด้วยสายตาที่ห่วงใยสุดที่จะบรรยาย เมื่อลูกชายคนเดียวจะต้องไปไกลบ้านนานถึง 5 วัน ผมยิ้มให้พ่ออีกครั้งหนึ่ง ยังคงยืนตรงไม่กระดุกกระดิก และทันใดนั้นเองผมก็ยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำวันทยหัตถ์แสดงความ เคารพพ่อของผมทันที ก่อนจะลดมือลง เป็นภาพที่งดงามมากในความรู้สึกของผมที่ได้มีโอกาสแสดงความเคารพพ่อบังเกิด เกล้าแบบชายชาติทหารแบบนี้ พ่อของผมน้ำตาซึม มองผมด้วยความภาคภูมิใจ แล้วจึงยกมือตั้งฉากแสดงอาการรับรู้ ก่อนจะขับรถจากไป ผมมองตามหลังรถของพ่อจนรถลับหายไปจากสายตา
ผมเดินเข้าไปในสวนเจ้าเชต พยายามมองหาเพื่อน แต่ก็ไม่เห็นเพราะว่าคนเยอะไปหมด ก็เลยเดินไปเดินมาซักพักหนึ่ง ไม่นานก็เจอไอ้อ๊อต กับไอ้เทพ ผมถามมันก็เลยรู้ว่า มัน 2 คนเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง
" เรากับไอ้เทพขึ้นแท๊กซี่มาว่ะ ของนายพ่อมาส่งใช่มั๊ย เมื่อกี้เราก็เห็นนายด้วยล่ะ ตอนลงจากรถพ่อ แถมยังตะเบ๊ะให้พ่อด้วย แมนชิบหายเลยไอ้หนุ่ม เห็นแล้วโดนใจว่ะ "
ผมหัวเราะ แล้วพูดกับมันว่า
" ห่า ก็แมนสิวะ เราก็ผู้ชายเหมือนกันนะเว้ย ปกติเราก็แมนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คงต้องแมนเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้านๆ เท่า เพราะว่าคงต้องฝึกหนักแน่ๆ ถ้าทำตัวอ่อนแอปวกเปียก คงไม่รอดแน่ว่ะ จริงมั๊ย "
ไอ้เทพพูดขึ้นมาบ้างว่า
" จริงของนายว่ะ อ้าวเฮ้ย เราเพิ่งสังเกตุเห็น หัวนายขาวมาเชียวนะ โห ตัดผมเกรียนเตรียมมาเลยเหรอวะเนี่ย โคตรฟิตเลย ไอ้อ๊อตดูหัวไอ้หนุ่มดิ สุดยอด ! เกรียนเหี้ยๆ ไหน ถอดหมวกให้ดูหน่อยได้มั๊ยวะ หนุ่ม "
ผมไม่เคยอายอยู่แล้วเรื่องทำตัวแมนๆ ฟิตๆ แบบนี้ ก็เลยถอดหมวกออก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเห็นแล้วก็ร้องด้วยความทึ่งปนขำ
" โห เย็ดเข้ สุดยอดแห่งหัวเกรียนเลย ไม่โกนซะล่ะวะ ผมก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว ฟิตจริงๆ เลยไอ้หนุ่ม กูยอมรับเลย ไอ้อ๊อตดูสิวะ หัวแม่งโคตรใสเลย 5555 เย็นกบาลมั๊ยวะถามจริง กะจะไม่ให้ครูฝึกยุ่งกับกบาลนายเลยใช่มั๊ยวะเนี่ย "
ไอ้อ๊อตพูดกลั้วหัวเราะว่า
" ไอ้หนุ่ม นายเนี่ยสุดยอดจริงๆ ว่ะ กล้าตัดผมถึงขนาดนี้ เรากับไอ้เทพยังไม่กล้าตัดสั้นเท่านายเลย "
ผมสวมหมวกเหมือนเดิมแล้วจึงพูดว่า
" พอ พอ ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเล้ย ทำตื่นเต้นไปได้ ก็ตัดทรงนักเรียนปกติน่ะแหละแต่ให้ช่างเขาตัดให้สั้นๆ หน่อย จะได้สบายๆ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวอีกเลยตอนไปฝึกที่โน่น ใครๆ เขาก็ตัดกันเยอะแยะ ดูโน่นสิวะ คนนั้นก็ตัด นั่น คนนั้นก็ตัด หัวเกรียนพอๆ กับเราเลย "
ผมพูดแล้วก็ชี้ไปที่นักศึกษาวิชาทหารหลายคนที่เดินไปเดินมาแถวนั้น หลายคนก็ตัดผมเกรียนแบบเดียวกับผม ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยิ้มๆ ไม่พูดอะไรต่อ
ขณะนี้เวลา 6 โมง 15 นาที และจู่ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงทหารพูดใส่โทรโข่งดังขึ้นจากที่ไกลๆ ว่า
" นักศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 3 และปีที่ 4 รวมพล รวมพล "

" เฮ้ย เขาเรียกรวมแล้วเว้ย ไปเข้าแถวกันเร็ว "
ผมพูดกับเพื่อนๆ แล้วรีบวิ่งไปตรงบริเวณที่รวมพลอย่างรวดเร็ว มีไอ้อ๊อต ไอ้เทพวิ่งตามหลังผมมา นักศึกษาวิชาทหารจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศต่างก็วิ่งมาเข้าแถวกันอย่างพร้อม เพรียง ไม่นานทุกคนก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย นักศึกษาในวันนั้นมีมากมายจริงๆ เพราะมีทั้งปี 3 และปี 4 ทุกคนเงียบ ตั้งใจรอฟังคำสั่งต่อไป
" ทั้งหมด แถว - ตรง ! "
ทุกคนยืนตรง และนิ่ง
" ตามระเบียบ - พัก ! "
ทุกคนทำตามคำสั่ง ครูฝึกคนที่สั่งพูดต่อว่า
" จากนี้จะให้ไปพัก 10 นาที แล้วกลับมาขึ้นรถ จำหมายเลยคันที่นักศึกษาจะขึ้นเอาไว้ให้ดีๆ เกาะกลุ่มกับเพื่อนโรงเรียนเดียวกันไว้ด้วย จะได้ไม่หลงขึ้นรถผิดคัน เอาล่ะ ทั้งหมด แถว - ตรง ! "
" พักแถว "
ทุกคนสลายแถวชั่วคราว ต่างก็แยกย้ายกันไป ผมเดินไปนั่งพักที่ใต้ต้นไม้กับไอ้อ๊อต รอเวลาที่เขาจะเรียกให้ไปขึ้นรถ ไม่นานก็ได้ยินเสียงครูฝึกคนเดิมเรียก
" ทุกคน รวม ! เตรียมตัวขึ้นรถได้ "
ทุกคนก็เลยเดินกลับมาเข้าแถวที่เดิม แล้วก็เดินไปขึ้นรถหมวดละคัน หมวดของผมนอกจากจะมีโรงเรียนของผมแล้ว ยังมีโรงเรียนอื่นอยู่ด้วย ซึ่งเป็นโรงเรียนต่างจังหวัด เด็กโรงเรียนอื่นส่วนใหญ่หน้าตาจะเหี้ยมๆ ตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ ดูเถื่อนๆ ผิวคล้ำ กล้ามเยอะ (เหมือนกับผม) ดูแล้วแมนมาก ไม่ดูเหมือนลูกคุณหนู แต่ดูเหมือนหนุ่มบ้านๆ มากกว่า ผมแอบดีใจลึกๆ ที่ได้นั่งรถคันเดียวกับหนุ่มๆ พวกนี้ เพราะผมชอบผู้ชายลักษณะนี้อยู่แล้ว ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็คงจะชอบเหมือนๆ กับผม สังเกตุได้จากมัน 2 คนมองคนโน้นคนนี้อยู่ตลอดเวลา แล้วก็แอบกลืนน้ำลายด้วยความอยาก
ไอ้อ๊อตนั่งคู่กับไอ้เทพ ส่วนผมนั่งข้างกับใครก็ไม่รู้ ตัวใหญ่ ดำๆ หน้าตาก็ธรรมดาๆ มีกลิ่นตัวนิดหน่อยแต่ก็พอทนได้ ผมก็เลยนั่งเบียดเขาจนชิดเพราะผมชอบใกล้ชิดกับผู้ชายอยู่แล้ว เขาก็นั่งเฉยๆ ไม่พูดอะไร รถออกจากสวนเจ้าเชตเวลา 7 โมงตรง ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพหลับไปนานแล้ว ผมคิดว่ามัน 2 คนคงคิดที่จะหลับเอาแรงเอาไว้ก่อน เป็นความคิดที่ดีจริงๆ งั้นผมทำมั่งดีกว่า ผมหันไปมองข้างๆ เห็นหนุ่มนิรนามคนนั้นนั่งหลับเหมือนกัน เขาหลับได้แมนมากๆ นั่งหลับโดยผงกหัวลงเฉยๆ โดยที่ไม่เอนมาซบผมเลย (แน่นอน ผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนเขาจะมาซบผู้ชายด้วยกันล่ะวะ 5555 ) ผมก็เลยไม่อยากจะรบกวนเขา หลับไปเถอะเพื่อน มองไปรอบๆ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ก็จะหลับกันทั้งนั้น งั้นผมหลับมั่งดีกว่า ผมค่อยๆ ผงกหัวลงแบบเดียวกับที่เขาทำ แต่แอบเอนไปทางด้านขวานิดๆ จนหัวผมเกือบจะติดกับหัวเขาอยู่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว หน้าของเรา 2 คนอยู่ใกล้กันมากจนผมได้กลิ่นใบหน้าของเขาเลย มันเป็นกลิ่นที่ยากจะบรรยาย แต่เป็นกลิ่นที่แมนสุดๆ ผมชอบจริงๆ ก็เลยถือโอกาสสูดกลิ่นนี้เข้าไปจนเต็มปอด ก่อนที่ผมจะเคลิ้มหลับไป
...................................
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะรู้สึกว่า รอบๆ ตัวมันร้อนอบอ้าวผิดปกติ ก็เลยเอามือขยี้ตา แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ผมเห็นภูเขาสูงลูกหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ ตรงด้านบนของภูเขามีตัวอักษรตัวเบ้อเริ่มติดไว้ว่า " ร.ด. " ผมรู้ทันทีว่า เราเข้ามาในเขตจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว และกำลังจะถึงเขาชนไก่ในไม่กี่อึดใจนี้
ตอนนี้ทุกคนทยอยตื่นกันหมดแล้ว รวมทั้งหนุ่มนิรนามที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมด้วย ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนอบอ้าวของอากาศข้างนอกรถ สมแล้วที่เคยได้ยินใครต่อใครพูดกันว่า เมืองกาญจน์นี่อากาศโคตรร้อนจริงๆ ร้อนอย่างที่เขาว่าจริงๆ
ไม่นานรถก็มาถึงเขาชนไก่ ผมเหลือบดูนาฬิกา 10 โมงกว่าๆ เราใช้เวลาเดินทางตั้ง 3 ชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย พอรถหยุด ผมก็ได้ยินเสียงครูฝึกดังอยู่ข้างนอกรถว่า
" ลงจากรถ ไปที่รวมพล ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 เร็ว! "
ทุกคนรีบวิ่งลงจากรถ คว้าเป้สนามของตนเอง แล้วสะพายไว้ข้างหลัง วิ่งมาที่ลานรวมพลด้านหน้าทันที แต่กระนั้นก็ยังชุลมุนวุ่นวาย เพราะคนเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเข้าแถวกันไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเข้าแถวไหนดี ผมเองก็งงไม่แพ้คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าจะเข้าตรงไหน ต่างคนต่างก็พยายามมองหาเพื่อนที่รู้จัก แต่ก็หายากจริงๆ เพราะคนเยอะละลานตาไปหมด และก็ต้องรีบเข้าแถวด้วยเพราะกลัวโดนทหารด่า ทำให้ทุกคนต้องวิ่งหาแถวกันแทบจะชนกันตาย ทำให้การเข้าแถวเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง แต่ไม่นานทุกคนก็เข้าแถวได้อย่างเรียบร้อย ครูฝึกยืนอยู่หน้าแถว พูดกรอกลงไปในโทรโข่งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
" ช้ามาก ช้าจริงๆ ไม่มีระเบียบเลย ! ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ! "
ทุกคนทำท่าวิดพื้นท่าเตรียม ปากก็พูดว่า
" เตรียม ! "
ครูฝึกสั่งต่อ และทุกครั้งที่ครูฝึกสั่ง ทุกคนก็จะต้องตะโกนทวนคำสั่งทุกครั้ง แบบนี้
(ครูฝึก) " 50 ครั้ง "
(นศท. ทุกคน) " 50 ครั้ง "
(ครูฝึก) " 20 ครั้ง "
(นศท. ทุกคน) " 20 ครั้ง "
(ครูฝึก) " ปฎิบัติ ! "
ทุกคนวิดพื้นพร้อมกันด้วยความรวดเร็ว ปากก็นับไปด้วย
" 1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12-13-14-15-16-17-18-19-20 "
หลังจากนั้น ครูฝึกก็ทำการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 และทำพิธีเปิด เสร็จแล้วก็เรียกขึ้นรถ ไม่นานรถก็แล่นไปถึงบริเวณที่พักของเรา พอรถจอด ครูฝึกก็เรียกทุกคนลงมาจากรถอีกครั้ง แล้วสั่งให้ทุกคนเข้าแถว พอทุกคนเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็พูดเสียงดังว่า
" นี่คือที่พักของเรา กองพัน 32 "
ผมมองไปรอบๆ บริเวณนี้มันช่างแห้งแล้งเหลือเกิน ผมยืนเข้าแถวอยู่กลางลานโล่ง พื้นเป็นดินแข็งๆ แห้งๆ มีต้นไม้ขึ้นอยู่ไม่กี่ต้น อากาศร้อนอบอ้าวมาก ด้านหน้าเป็นบ้านพักของเหล่าครูฝึก ส่วนด้านหลังเป็นเต็นท์จำนวนมากมายเป็นร้อยๆ หลัง เต็นท์ที่ผมจะได้นอนในคืนนี้ และอีกหลายๆ คืนต่อไป
ระหว่างที่ผมยืนอยู่นั้น ครูฝึกก็จัดการ แบ่งหมวด แบ่งหมู่ ให้พวกเรา การแบ่งใช้เวลานานและขลุกขลักพอสมควรเนื่องจากหลายคนเข้าหมวดเข้าหมู่ไม่ถูก ต้องถามต้องเรียกชื่อกันให้วุ่น ครูฝึกถือโอกาสเช็คชื่อและนับยอดจำนวนคนไปด้วยเลย ครูฝึกไม่ได้แบ่งหมวดหมู่ตามโรงเรียน แต่เอาคละกันเลย ทำให้ในแต่ละหมวดและแต่ละหมู่มีนักศึกษาวิชาทหารจากโรงเรียนปนกันไปหมด อย่างหมู่ของผมมี 3 คนที่มาจากโรงเรียนเดียวกับผม (มีไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนอีก 1 คน) นอกนั้นมาจากโรงเรียนอื่นทั้งสิ้น แต่รวมๆ แล้ว ในหมวดของผม ส่วนใหญ่จะมาจาก 3 โรงเรียน คือโรงเรียนของผม (โรงเรียนในกรุงเทพฯ) และโรงเรียนต่างจังหวัดอีก 2 โรงเรียน ( แต่ก็อยู่ในเขตปริมณฑล ) เพื่อนจากโรงเรียนอื่นดูแมนๆ กันทั้งนั้น ก็ดี ผมชอบแมนๆ อยู่แล้ว ทุกคนในที่นี้ต่างก็อยู่ในกองพันเดียวกันหมด นั่นคือกองพัน 32
ครูฝึกยังแต่งตั้งหัวหน้าหมู่ หัวหน้าหมวด และหัวหน้ากองพันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาวิชาทหารจากโรงเรียนอื่น ( ดีที่ไม่ใช่ผม ค่อยสบายหน่อย ) พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็เดินมายืนอยู่ที่หน้าแถวแล้วประกาศก้องว่า
" ลำดับต่อไป จะเป็นการตรวจอาวุธ ! "

ทุกคนมองหน้ากันเมื่อได้ยินคำว่า " ตรวจอาวุธ " แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ครูฝึก ( ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า หัวหน้าชุดฝึก เพราะใหญ่ที่สุดในกองพัน) พูดต่อ
" เดี๋ยวครูประจำหมวดจะเข้าไปตรวจอาวุธในแต่ละหมวด ให้ทุกคนเอาของออกจากเป้สนามให้หมด เทออกมากองไว้ที่พื้นเลย ให้ครูเดินตรวจดูทีละคนๆ ใครมีขนม อาหารแห้ง พวกของกินทุกอย่างน่ะ ให้ช่วยกันรวบรวมเอามากองไว้ที่หน้าแถวของตนเอง ทุกคน ทราบ ! "
" ทราบ ! "
ทุกคนขานรับพร้อมกัน หัวหน้าชุดฝึกจึงสั่งว่า
" เอาล่ะ เริ่มทำการตรวจอาวุธได้ "
ครูฝึกที่ดูแลแต่ละหมวดต่างก็เดินเข้ามายังหมวดของตนเอง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนต่างก็รีบเทของทุกอย่างที่อยู่ในเป้สนามออกมาทันที แล้วก็ยืนรอรับการตรวจจากครูฝึกอย่างเงียบๆ ผมเทของออกจากเป้สนามด้วยความรวดเร็วแล้วก็ยืนรอ ผมเองไม่ได้เอาขนมหรืออาหารแห้งมาเลยซักอย่าง ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็ไม่ได้เอามาเหมือนกัน แต่ผมเห็นหลายคนเอามา ครูฝึกประจำหมวดเดินดูข้าวของที่กองอยู่บนพื้นทีละคนช้าๆ แล้วบอกให้ช่วยกันรวบรวมของทุกอย่างเอาไปกองไว้หน้าแถว หลายคนทำหน้าเสียดาย แต่ก็ขัดคำสั่งครูฝึกไม่ได้ จึงต้องทำตามคำสั่ง
ไม่นานการตรวจอาวุธก็เสร็จเรียบร้อย ทุกหมวดมีกองของกินอยู่หลายกอง โดยเฉพาะหมวดที่ 3 มีของกินเยอะมากจริงๆ จนหัวหน้าชุดฝึกต้องร้องออกมาด้วยความทึ่ง
" โห แม่ง ทำไมหมวดนี้มีของกินเยอะจังวะ ครูสุชาติ ของกินพวกนี้ส่วนใหญ่มาจากใครวะ "
ประโบคสุดท้ายหัวหน้าชุดฝึกหันไปถามครูสุชาติ ครูฝึกประจำหมวด 3 ครูสุชาติยิ้มกว้าง แล้วชี้ไปที่ปิงปิง ที่กำลังนั่งหน้างอด้วยความเสียดายขนม
" จากอีนั่น แม่งพกของมาแดกเพียบเลย "
" 5555 หมวดมึงได้แดกกันเพลินแน่ๆ "
ครูพิชิต ครูประจำหมวด 2 พูดขึ้น ครูพิชิตเป็นครูฝึกหนุ่มรูปหล่อ ผิวคล้ำ หุ่นดีมาก กล้ามอกแน่น กล้ามท้องขึ้นเป็นลอนๆ กล้ามแขนเป็นมัดๆ เส้นเลือดปูดโปนขึ้นเป็นริ้วๆ เลย ผมมองครูพิชิตอย่างพอใจ หล่อชิบหายเลย ชอบผู้ชายลักษณะนี้จริงๆ
ต่อจากนั้น ครูฝึกก็จัดการแจกจ่ายขนมที่รวบรวมมาให้คนในหมวดกินกันเลย ทุกคนกินกันคนละนิดคนละหน่อยแล้วก็รีบส่งต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานขนมก็ถูกกินจนหมด
หลังจากนั้น ครูฝึกก็ให้ทุกคนพัก 30 นาที เพื่อเอาของไปเก็บที่เต็นท์ของตนเอง เข้าห้องน้ำ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ผมลุกขึ้นสะพายเป้สนาม กำลังจะเดินไปที่เต็นท์ของตนเอง ก็พอดีมีมือสากๆ มาบีบไหล่ผมไว้แน่น ผมหันไปมองก็เห็นครูพิชิตกำลังมองหน้าผมอยู่ด้วยสายตาแปลกๆ
" เดี๋ยวมึงเอาเป้ไปเก็บ แล้วมากับกูหน่อย "
" ครับผม "
ผมตอบรับไปด้วยใจหวั่นๆ เพราะไม่รู้ว่าครูพิชิตให้ผมไปกับเขาเพราะอะไร ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ผมก็ทำหน้างุนงงไม่แพ้กัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมรีบเอาเป้สนามไปเก็บที่เต็นท์ ไอ้อ๊อตพูดขึ้นว่า
" เหนื่อยแน่นาย ไอ้หนุ่ม ครูฝึกแม่งต้องเอานายไปใช้งานแน่ๆ ซวยชิบหายไอ้หนุ่ม แทนที่จะได้พักกลับต้องไปทำงานซะนี่ "
" เออ ช่างเหอะ เขาคงไม่ใช้งานอะไรเรามากหรอก คงแป๊ปเดียวน่า เออ เดี๋ยวเรามานะ "
ผมพูดกับไอ้อ๊อต และก็รีบเดินมาที่หน้าที่พักของครูฝึกด้วยความรวดเร็ว ครูพิชิตยืนรออยู่แล้ว ผมเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เขายิ้มให้ผมแล้วก็โอบไหล่ผมเอาไว้เหมือนสนิทสนมกับผมมานาน ก่อนจะพาผมเดินเข้าไปยังด้านหลังของที่พักเหล่าครูฝึก
ผมเดินเคียงข้างเขาอย่างงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน ก็พอดีเดินมาถึงด้านหลังของที่พัก ผมถึงได้เข้าใจว่า ด้านหลังของที่พักเป็นห้องน้ำที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ มี 2 ส่วน ส่วนที่เป็นรางเอาไว้ยืนเยี่ยว และส่วนที่เป็นห้องๆ สำหรับนั่งถ่าย
" ครูพาผมมาที่นี่ทำไมครับ "
ผมรวบรวมความกล้าถามออกไป ครูพิชิตไม่ตอบ แต่ผลักผมเข้าไปในห้องน้ำ ไม่มีคนเลย (เพราะเป็นห้องน้ำของครูฝึก ครูฝึกคนอื่นอยู่ที่ที่พักหมด) เขาเดินนำผมไปยังห้องน้ำห้องในสุด ผมเดินตามหลังครูพิชิตเข้าไปอย่างช้าๆ พอเรา 2 คนเข้าไปในห้องน้ำแล้วครูพิชิตก็หันมาคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงผม แล้วก็ลูบเบาๆ 1 ที ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เพราะนึกไม่ถึงว่าครูพิชิตจะชอบแบบนี้ แต่ก็รีบสนองตอบด้วยการโผเข้ากอดครูพิชิตทันที ครูพิชิตไซ้หน้าของเขากับหน้าของผมอย่างหื่นกระหาย ปากก็ครางว่า
" ไอ้แว่น ไอ้สัตว์ กูอยากทำแบบนี้มานานแล้ว ไอ้เหี้ย มึงแม่งน่ารักจริงๆ ทั้งหล่อทั้งขาว กูอยากแดกแบบนี้มานานแล้ว อา..... ซี๊ดดดด...... "
ครูพิชิตพูดจบก็เอาปากประกบปากผมด้วยความรวดเร็ว แล้วรีบเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากผมก่อนจะควานไปจนทั่ว ผมเสียววาบไปทั้งตัวเพราะคิดไม่ถึงว่าทหารหาญอย่างครูพิชิตจะใช้ลิ้นได้เก่งถึงขนาดนี้ มือของเขาก็รูดซิปกางเกงของผมลงแล้วก็ล้วงเข้าไปดึงควยขนาด 5 นิ้วครึ่งของผมออกมาจากกางเกงใน ก่อนจะถอกหัวควยลงจนสุด แล้วเขาก็ถอนปากออก ผลักผมไปจนติดฝาผนัง แล้วคุกเข่าลง และโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ครูพิชิตก็คุกเข่าลงเอาปากครอบลำควยของผมไปทั้งลำ แล้วก็รูดปากขึ้นลงๆ มันทำให้ผมเสียวมาก ถึงกับครางออกมาอย่างสุดจะทน
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ดูดแรงๆ เลยครับผม "
ครูพิชิตดูดควยผมอยู่นาน แล้วจึงเลื่อนลงไปดูดไข่ 2 ใบของผม ก่อนจะเอาลิ้นแยงตรงรูเยี่ยวผม จนน้ำแทบแตก ผมหน้าเหยเกด้วยความเสียวปนมันส์ ร้องครางลั่น
จนครูพิชิตต้องถอนปากออกมาแล้วเตือนผม
" อย่าเสียงดัง ไอ้ตี๋ เดี่ยวคนอื่นได้ยิน ควยมึงแม่งแข็งจริงๆ กูโคตรชอบเลย ไหน ขอกูดูดอีกหน่อยซิ หัวควยมึงใหญ่ดี กูชอบ "
ครูพิชิตพูดแล้วก็ปลิ้นหัวควยผมลงมากกว่าเดิม ก่อนจะดูดเน้นๆ ที่หัวควยผม เสียงดังจ๊วบๆๆๆๆ ผมถึงกับร้องครางอย่างสุดจะทน แล้วก้มลงมองดู ภาพของทหารหนุ่มเดนตายกำลังใช้ปากกับควยผมอย่างขะมักเขม้น มันทำให้ผมเสียวสะท้านไปทั้งลำควยจนแทบจะทนไม่ไหว ผมรีบกดหัวครูพิชิตลงเพื่อให้เขาดูดได้มิดโคนควย แล้วพูดเสียงสั่นๆ ว่า
" เบาๆ หน่อยครับผม ผมเสียวหัวควย เดี๋ยวน้ำแตก "
แต่ครูพิชิตก็ไม่สนใจ ยังดูดควยผมต่ออย่างเมามัน จนผมรู้สึกว่ากลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ผมหลับตาปี๋ รู้สึกเกร็งไปทั้งตัว และเสียวหัวควยมาก ควยของผมแข็งเป็นเอ็น เส้นเลือดปูดโปนออกมามากมาย และในที่สุด ผมก็ทนต่อไปไม่ไหว น้ำกามขุ่นข้นที่เก็บมานานก็กระฉูดออกมาจากรูควย พุ่งเข้าไปในปากของครูพิชิตด้วยความรวดเร็ว และหลั่งออกมามากมาย ครูพิชิตสะดุ้ง แล้วก้มลงเอาปากครอบลำควยผมไว้ถึงตรงโคนเพื่อดูดกินน้ำกามของผม เขาใช้ปากรีดน้ำกามออกจนหยดสุดท้าย ก่อนที่จะถอนควยของผมออก แล้วยืนขึ้น รูดซิปกางเกงของเขาลง ควักควยขนาด 7 นิ้วออกมา แล้วบอกให้ผมดูดควยเขาบ้าง
" ดูดควยกูที มึงอยากดูดนักไม่ใช่เหรอ กูรู้มึงชอบควย เต็มที่เลยไอ้สัตว์ นักศึกษา ปฎิบัติ ! "
ถึงเขาจะใช้คำหยาบๆ กับผม แต่ผมก็ยินดีทำให้เขา ผมขานรับทันที
" ครับผม "
ผมก้มลงดูดควยที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นของครูพิชิตทันที ควยครูพิชิตใหญ่สะใจดี หัวควยถอกบานเป็นสีเลือดหมู ลำควยดำสนิทแข็งเป็นหิน มีกลิ่นนิดหน่อยตามประสาทหารที่ต้องอยู่กลางดินกินกลางทรายมานาน ทำให้ควยเปื้อนดินไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ รีบดูดควยเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย จะได้เสร็จๆ ไป
เสียงดัง จ๊วบๆๆๆๆๆๆ
" อา เสียวควยชิบหายเลย มึงเก่งมากไอ้ตี๋ อูยยยยยยยยยยยยยย มันส์ ดูดแรงๆ เลยสัดหมา อูยยยยยย มึงเจ๋งจริงๆ "
เขาร้องครางด้วยความพอใจ ไม่นานน้ำกามของเขาก็กระฉูดออกมาเต็มปากผม มันคาวสุดๆ ผมรีบบ้วนทิ้งทันที เสร็จแล้วเรา 2 คนก็รีบล้างควยก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป พออกมาจากห้องน้ำแล้ว ครูพิชิตก็โอบไหล่ผมเหมือนเดิม แล้วกระซิบข้างหูผมว่า
" มึงห้ามบอกเรื่องนี้กับใครนะไอ้สัตว์ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดยอดเลย แล้วมึงจะสบายตลอดการฝึก 5 วันนี้ กูจะไม่ทำโทษมึงตราบใดที่มึงไม่ปากโป้งเรื่องนี้ เข้าใจมั๊ย "
ผมพยักหน้า
" ครับ ผมไม่บอกใครแน่นอน "
ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจ แล้วตบไหล่ผมแรงๆ ทีนึง แล้วพูดว่า
" ดีมาก ตอนนี้มึงไปพักได้แล้ว ยังไม่หมดเวลาพักเลย แล้วตั้งใจฝึกต่อ โชคดีนะไอ้ตี๋แว่น ไอ้รูปหล่อ "
" ครับผม! "
ผมตอบ แล้วรีบวิ่งไปที่เต็นท์ของผมทันที ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยืนรออยู่แล้ว พอผมวิ่งไปถึง ไอ้อ๊อตก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
" ไงนาย โดนใช้งานหนักเลยล่ะสิ ครูเขาเรียกนายไปทำอะไรวะ ดูดิเหงื่อเต็มหลังเลย คงจะเหนื่อยมากล่ะสิไอ้เหี้ย "
ผมแกล้งทำหน้าบึ้ง ก่อนจะตอบโกรธๆ
" ให้ไปล้างส้วมว่ะ ซวยชิบหาย ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย ส้วมก็เหม็นเหี้ยๆ "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอ้เทพพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจว่า
" ซวยของนายจริงๆ ว่ะ ไอ้หนุ่ม มาวันแรกก็โดนล้างส้วมเลย "
" ใช่ โคตรซวยเลย "
ผมตอบ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
.................................
( เขียนแนวนี้ทุกคนชอบแล้วใช่มั๊ยครับ อีกไม่กี่วันผมจะมาต่อนะครับ )

__________________________________________________________

ไม่มีใครรู้หรอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมและครูพิชิตนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผมยิ้มแล้วนึกไปถึงช่วงเวลาอันแสนสุขนั้น ถ้าไม่มีช่วงเวลานั้นแล้ว เรื่องระหว่างผมกับครูฝึกหนุ่มรูปหล่อนั่น คงไม่เกิด
........................
ในระหว่างที่ครูฝึกหมวด 1 กำลังแบ่งหมวด แบ่งหมู่ กันอย่างวุ่นวายนั้น หมวด 2 ของผมได้รับอนุญาตให้ไปพักได้ ทุกคนกำลังปวดเยี่ยวอย่างเต็มกำลัง ก็เลยวิ่งไปที่ห้องน้ำกันหมดทุกคน รวมทั้งผมด้วย
ขณะที่ทุกคนกำลังยืนเยี่ยวอยู่อย่างสบายอารมณ์นั้น ผมเองก็กำลังยืนชะเง้อมองควยของคนข้างๆ อยู่เงียบๆ โดยไม่ให้เจ้าของควยรู้ตัว ผมได้เห็นควยหลากหลายขนาด แต่ส่วนใหญ่จะดำๆ ยาวๆ บางอันก็ป้อมๆ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นควยของเด็กต่างจังหวัด น่ากินมากจริงๆ ผมก็มองซะเพลินตาไปเลย จนคนค่อยๆ ทยอยออกจากห้องน้ำ แต่ผมก็ยังคงยืนอยู่ที่โถเยี่ยว แล้วก็รุดควยขึ้นลงๆ อย่างเมามัน
ซักพักนึง ผมก็รู้สึกตัวว่ามีผู้ชายผิวคล้ำๆ คนหนึ่งมายืนเยี่ยวที่โถข้างๆ เขาตัวใหญ่และล่ำมากเกินกว่าที่จะเป็นเพื่อนนักศึกษาวิชาทหารด้วยกัน พอเข้ามายืนก็รูดซิปลงแล้วดึงควยออกมาทันที ยืนห่างโถมากจนมองเห็นควยได้ชัดเจน ผมมองตาไม่กะพริบเพราะว่าควยเขาใหญ่มากจริงๆ ขนาดยังไม่แข็งเต็มที่นะครับ ควยกำลังผงกหัวหงึกๆ เป็นจังหวะ เขายืนอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่เห็นเยี่ยวซะที ผมชักผิดสังเกตุ ก็เลยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของควย แล้วก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ
ครูพิชิตนั่นเอง ! เขากำลังมองหน้าผมอยู่ด้วย ส่วนมือก็กำลังสาวควยช้าๆ !
ผมตกใจมาก กลัวโดนด่า และก็กลัวโดนทำโทษ รีบเก็บควยเข้ากางเกงด้วยความรวดเร็ว แล้วเดินมาที่อ่างล้างมือ ครูพิชิตก็เก็บควยเข้าที่เหมือนกันแล้วจึงเดินมาหยุดที่ข้างหลังผม ผมก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้รีบเดินออกจากห้องน้ำไป ไม่รู้หรอกว่า ครูพิชิตมองตามหลังผมจนผมเดินกลับไปเข้าแถวดังเดิม ยังตื่นเต้นไม่หายเลย ที่เห็นครูพิชิตทำเรื่องแบบนั้นให้ผมเห็น
เขาคงรู้ได้จากพฤติกรรมของผมแน่ๆ ว่าผมเป็นเกย์แน่นอน เขาถึงได้กล้าเรียกตัวผมเข้าไปดูดควยในห้องน้ำแบบนั้น ผมนี่โชคดีจริงๆ
ถ้าผมไม่แอบมองควยคนอื่นในห้องน้ำ เรื่องมันส์ๆ แบบนี้คงไม่เกิด
..................................
" คืนนี้นายจะนอนกับเราหรือเปล่าวะ ไอ้อ๊อต "
ผมถามไอ้อ๊อต เพราะไม่เห็นเป้สนามของไอ้อ๊อตในเต็นท์ของผม
" เอ้อ โทษทีว่ะหนุ่ม คือว่า เราอยากไปนอนเต็นท์เดียวกับไอ้เทพน่ะ "
ผมมองหน้ามันแล้วถามเบาๆ
" ไม่อยากนอนกับเราเหรอวะ "
ไอ้อ๊อตหลบตาผม แล้วตอบไม่เต็มเสียง
" เอ๊ย ไม่ใช่อย่างนั้นว่ะ แต่... แต่เราอยากนอนกับไอ้เทพจริงๆ นายก็รู้นี่หว่าว่า เรา 2 คนมีแผนจะทำอะไรกันตอนกลางคืน "
" ล่อตูดกันใช่มั๊ย "
ผมพูดตรงๆ ไอ้อ๊อตพยักหน้า
" เออว่ะ อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน "
" งั้นเราก็ต้องนอนคนเดียวสิวะ "
ผมพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความน้อยใจ ไอ้อ๊อตรีบตบไหล่ผมเบาๆ แล้วปลอบว่า
" เอาน่าเพื่อน นอนคนเดียวสบายจะตาย ไม่ต้องเบียดใคร ไม่อึดอัดด้วย ดีออก เรายังอยากจะนอนคนเดียวเลย ถ้าไม่ติดว่าอยากจะเล่นอะไรเสียวๆ กับไอ้เทพมัน "
ผมถามต่อ
" แล้วตอนแรกไอ้เทพต้องนอนกับใครวะ ครูฝึกเขาเป็นคนจัดให้พวกเราเองนี่หว่า เต็นท์ละ 2 คน ถ้านายไปนอนเต็นท์เดียวกับไอ้เทพ แล้วอีกคนจะไปนอนไหนวะ นอนกับเราแทนเหรอ "
" ตอนแรกไอ้เทพต้องนอนกับไอ้ป่าน แต่ไอ้ป่านขอไปนอนกับเพื่อนเต็นท์อื่นว่ะ มันอยากไปนอนกับเพื่อนสนิทของมันจริงๆ นายรู้เปล่า บางเต็นท์นอนกัน 3 คน 4 คนเลย แม่งสนุกชิบหาย เย็ดกันมันส์ไปเลย "
" นี่ยังไงๆ เราก็ต้องนอนคนเดียวจริงๆ ใช่มั๊ยวะ "
ไอ้อ๊อตยิ้มให้ผมแล้วตอบด้วยเสียงหนักแน่น
" เอาน่า อย่าซีเรียส บอกแล้ว นอนคนเดียวสบายจะตายห่า "
ผมอ้าปากจะพูดต่อ ก็พอดีได้ยินเสียงครูฝึกเรียกดังลั่น
" ทั้งหมด รวม!!! "
" ไปเว้ย เขาเรียกรวมแล้ว "
ผมพูดแล้วก็รีบวิ่งไปยังที่รวมพลทันที พอไปถึงก็รีบเข้าแถวตามลำดับที่ของตนเอง ไม่นานแถวก็เรียบร้อย
" ได้เวลากินข้าวกันแล้ว "
หัวหน้าชุดฝึกพูดเสียงดัง แล้วก็อธิบายถึงวิธีการกินข้าวของที่นี่ให้ทุกคนฟัง ที่นี่มีเขามีให้เลือก 2 แบบ คือ ข้าวหลวง กับข้าวราษฎร์ ข้าวหลวง คือเป็นข้าวที่ครูฝึกทำให้กินเอง เอาใส่จานหลุมๆ เตรียมไว้ให้เสร็จ อาหารก็มีหลากหลายแต่ส่วนใหญ่จะเผ็ดมาก ส่วนข้าวราษฎร์นั้น ข้างๆ กองพันจะมีร้านค้าขายอาหารหลายอย่างให้เลือกซื้อกินได้เต็มที่ จึงเหมาะกับพวกลูกคนมีกะตังค์ทั้งหลาย ข้าวหลวงนั้นเหมาะกับคนที่ไม่ได้พกตังค์มา และต้องการประหยัด ครูฝึกให้เลือกเองว่าจะกินข้าวแบบไหน เพื่อนๆ โรงเรียนอื่นส่วนใหญ่เลือกที่จะกินข้าวหลวง (คงอยากประหยัดเงิน และคงเป็นคนกินง่าย เขาถือว่ายัดๆ เข้าปากไปให้มันอิ่มๆ ก็พอแล้ว จะกินอะไรก็กินได้ทั้งนั้น แมนจริงๆ ) ส่วนผม ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนๆ โรงเรียนเดียวกันส่วนใหญ่เลือกกินข้าวราษฎร์ ผมลองถามเหตุผลหลายคนว่าทำไมไม่กินข้าวหลวง เหตุผลของพวกเขาทำเอาผมหน้าหงายเลย
" กินของแม่งทำเหี้ยไรล่ะ ซื้อแดกเองดีกว่า อร่อยกว่าเยอะ "
" กลัวไม่อร่อยว่ะหนุ่ม กลัวพวกทหารแม่งเอาตีนทำ "
" กูรวย กูก็อยากจะกินของที่กูอยากกินสิวะ จะไปกินข้าวเหี้ยๆ ของพวกแม่งทำไม "
ตกลงพวกเราก็เลยไปซื้อข้าวกินที่ร้านค้ากันหมด อาหารที่ขายส่วนใหญ่เป็นข้างแกง กับข้าวเยอะมาก และให้ข้าวเยอะสุดๆ จนผมกินไม่หมด ผมกินได้แค่ครึ่งจานก็ต้องเลิกกินเพราะกินไม่ไหวจริงๆ แต่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพกินจนเกลี้ยง แม่งกินโคตรเก่งเลย
บริเวณร้านค้ายังมีตู้โทรศัพท์แบบใช้บัตรด้วย มีคนต่อแถวโทรกันยาวเหยียด ผมก็อยากโทรไปหาพ่อด้วย แต่คิดไปคิดมาไม่โทรดีกว่า เพราะมีคนรอโทรกันเยอะแล้ว ขี้เกียจรอ
เรา 3 คนกินข้าวกันหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดเวลาพัก ไอ้อ๊อตก็เลยชวนไอ้เทพไปห้องน้ำ
มัน 2 คนไม่ทันสังเกตุว่า ตอนที่มันกำลังเดินไปห้องน้ำอยู่นั้น มีนักศึกษาวิชาทหารตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินตามหลังพวกมันไปด้วย!
..............................
( สนุกมั๊ยครับ อีกไม่กี่วันมาเล่าตอนต่อไปครับ )

__________________________________________________________

ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเดินเข้าไปในห้องน้ำ มีนักศึกษาวิชาทหารอยู่ในนั้นหลายคน มัน 2 คนก็เลยทำเป็นเดินไปเดินมาเพื่อรอให้คนอื่นๆ ใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วก็ออกไป ซักพักคนอื่นๆ ก็ออกจากห้องน้ำไปเกือบหมด เหลืออยู่ไม่กี่คนที่กำลังยืนเยี่ยวอยู่ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเห็นลู่ทางสะดวกดีแล้วก็เลยเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าห้องน้ำห้องในสุด และรีบผลุบเข้าไปในนั้นทันที
" คนเยอะชิบหาย นึกว่าจะเข้ามาในนี้ไม่ได้ซะแล้ว "
ไอ้เทพกระซิบข้างหูไอ้อ๊อตเบาๆ ไอ้อ๊อตรีบกระซิบตอบ
" เออน่า ยังไงเราก็เข้ามาในนี้ได้แล้ว อย่าเสียเวลาเลยไอ้ห่า เร็วๆ รีบทำกันเหอะ กูเงี่ยนแล้ว "
ไอ้อ๊อตพูดยังไม่ทันจบ ไอ้เทพก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากกับไอ้อ๊อตทันที แล้วเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากจนลึก ไอ้อ๊อตไม่รอช้ารีบเอามือเค้นคลึงเป้ากางเกงตุงๆ ของไอ้เทพแล้วรูดซิปลง งัดควยดุ้นใหญ่ยาวของไอ้เทพออกมาจากกางเกงในแล้วถอกหัวเข้าออกๆ อย่างมันส์มือ ควยของไอ้เทพสู้มือมากๆ ไอ้เทพหลับตาปี๋ด้วยความเสียวก่อนจะถอนปากออกแล้วรูดซิปกางเกงไอ้อ๊อตลงบ้าง ก่อนจะควานหาควยของเพื่อนรักด้วยหวังที่จะถอกควยเพื่อนเล่นบ้าง ก็พอดีไอ้อ๊อตโน้มตัวมาตรงแก้มดำๆ ของมันแล้วหอมเสียงดังฟอด! และเลื่อนปากไปที่ติ่งหูพร้อมกับขบเบาๆ ด้วย การกระทำของไอ้อ๊อตยิ่งเพิ่มความเสียวให้กับไอ้เทพเป็นทวีคูณ จนมันต้องร้องครางออกมา
" ซี๊ดดดดดดด เสียวดีจริงๆ ว่ะเพื่อนเอ๊ย มึงมันเจ๋งจริงๆ เลย ซี๊ดดดดด ไหน ขอกูดูดควยมึงหน่อยสิ กูอยากดูดควยมึงมานานแล้วไอ้เหี้ยเอ๊ย "
ไอ้อ๊อตผละจากไอ้เทพแล้วถอยหลังไปจนชิดผนังห้องน้ำ เตรียมตัวที่จะควักควยออกมาให้เพื่อนดูด แต่แล้วมันก็ต้องทำหน้าตกใจสุดขีด พร้อมกับชี้ไปที่พื้นห้องน้ำห้องข้างๆ แล้วพูดเสียงสั่นๆ ว่า
" เฮ้ย นั่นมือใครวะ !!!! "
ไอ้เทพตกใจ รีบมองไปตามที่ไอ้อ๊อตชี้ มือสีดำป้อมๆ มือหนึ่งยื่นออกมาจากห้องน้ำห้องข้างๆ มือนั้นกำลังกวักอย่างช้าๆ คล้ายกับตั้งใจจะกวักเพื่อเรียกไอ้อ๊อตกับไอ้เทพ มือนั้นกวักอยู่ 2-3 ทีก็ผลุบหายไป
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไอ้อ๊อตกระซิบข้างหูไอ้เทพว่า
" มือครูฝึกป่าววะ ชิบหายแล้วคราวนี้ พวกเราโดนจับได้เหรอวะเนี่ย "
ไอ้เทพกระซิบตอบ
" เฮ้ย กูว่าไม่ใช่มือครูฝึกว่ะ มือมันป้อมๆ เนียนๆ ไม่เหมือนมือครูฝึกเลย มือครูฝึกต้องเหี่ยวและกร้านกว่านี้ กูว่ามันอาจจะเป็นมือนักศึกษาวิชาทหารด้วยกันก็ได้นะ "
" แล้วมันจะยื่นมือมาทำไมวะ กูไม่เข้าใจ มันต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆ เฮ้ย ไอ้เทพ กูชักใจไม่ดีแล้วว่ะ แม่งต้องรู้แน่เลยว่าเรา 2 คนมาทำเหี้ยอะไรในห้องน้ำ เกิดแม่งเอาไปบอกครูฝึกจะทำไงวะ ซวยแน่ๆ เลยกู "
" เฮ้ย อย่าเพิ่งคิดอะไรมากสิวะ มันอาจจะไม่ใช่แบบที่มึงคิดก็ได้ บางทีกูว่ามันอาจจะอยากมาร่วมแจมกับพวกเราด้วยก็ได้นะ "
ไอ้เทพพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ไอ้อ๊อตยังมีสีหน้ากังวล ไอ้เทพก็เลยพูดต่อ
" เอางี้ กูจะเปิดออกไปดูแล้วกัน แล้วจะไปดูห้องข้างๆ ว่ามันเป็นใครกันแน่ ให้มันรู้ดำรู้แดงกันไปเลย "
ไอ้อ๊อตพยักหน้า
" เอางั้นก็ได้ กูก็จะไปด้วย แต่ถ้าไม่มีอะไร เราเลิกทำก่อนแล้วกันนะ ชักไม่ปลอดภัยแล้วว่ะ กลัวมีคนจับได้ "
ไอ้เทพค่อยๆ แง้มประตูออกมา ตอนแรกไม่เห็นใครก็เลยเปิดอ้าออกมาจนกว้าง แล้วมันก็เห็นนักศึกษาวิชาทหารหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่หน้ามัน เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างเล็ก แต่ล่ำ หัวเกรียนมาก ผิวคล้ำมีแววกร้านแดด หน้าตาหล่อแบบไทยๆ กล้ามใหญ่มากและมีเส้นเลือดขึ้นที่แขนเพียบ เป้ากางเกงตุงแน่นและพองออกมาจนเห็นได้ชัด ไอ้เทพอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มคนนี้คือ " ไอ้เด่น " หัวหน้าหมู่ของมัน เป็นเพื่อนใหม่จากต่างโรงเรียน ไอ้เทพขยับปากจะพูด แต่ไอ้เด่นเอานิ้วชี้แตะที่ปากของมันเป็นสัญญาณว่า ไม่ให้พูด แล้วดันตัวไอ้เทพเข้าไปในห้องน้ำดังเดิม มันเองก็เข้ามาด้วย
ไอ้อ๊อตซึ่งยังอยู่ในห้องน้ำเห็นไอ้เด่นเข้ามากับไอ้เทพก็ตกใจไม่แพ้กัน มันรีบถามไอ้เด่นทันที
" เฮ้ย ไอ้เหี้ยเด่น นี่มึงเข้ามาทำเหี้ยไรวะเนี่ย "
ไอ้เด่นยิ้มแล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 3 คนว่า
" กูเล่นด้วย กูเห็นพวกมึง 2 คนเข้าห้องน้ำห้องเดียวกัน กูคิดว่าพวกมึงจะต้องมาเล่นเสียวกันแน่ๆ ขอกูเล่นด้วยคนนะ "
" ไอ้เหี้ย แล้วเมื่อกี้มึงใช่มั๊ยที่เป็นคนยื่นมือออกมา "
ไอ้เทพถาม ไอ้เด่นทำเสียงงึมงำในคอเป็นเชิงตอบรับ
" มึงนี่มันเหลือเกินจริงๆ ชอบแบบนี้ก็ไม่บอกกู กูก็นึกว่ามึงเป็นชายแท้ เห็นแมนชิบหาย ที่แท้ก็ชอบแบบเดียวกับพวกกูนี่เอง ร้ายนักนะไอ้ห่า "
ไอ้เทพพูดยิ้มๆ แล้วหันไปพูดกับไอ้อ๊อตเบาๆ
" ไอ้อ๊อต ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว รุมมันเลยดีกว่า กูก็เล็งไอ้เหี้ยนี้มานานแล้ว หล่อซะขนาดนั้น เล่นแม่งให้น้ำแตกเลย "
ไอ้อ๊อตยิ้ม แล้วพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะจ้องหน้าไอ้เด่นเขม็ง แล้วจึงโถมเข้าไปกอดรัดไอ้เด่นจนแน่นโดยที่มันยังไม่ทันตั้งตัว แล้วระดมจูบปากไอ้เด่นอย่างหื่นกระหาย เสียงดังจ๊วบๆๆๆ ไอ้เด่นสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าจะถูกจู่โจมรวดเร็วขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ขัดขืนกลับกอดรัดไอ้อ๊อตแน่นพอๆ กันพร้อมกับเอาลิ้นของมันพันกับลิ้นไอ้อ๊อตไปด้วย ซักพักไอ้อ๊อตก็พลิกตัวออกทางด้านข้าง แต่ยังคงดูดปากไอ้เด่นอยู่ ไอ้เทพรีบรูดซิปกางเกงไอ้เด่นลงแล้วดึงควยดุ้นยาวของไอ้เด่นออกมาชมโลกภายนอก ควยของไอ้เด่นดำมาก และยาวพอสมควร เส้นเอ็นปูดโปนเต็มไปหมด ไอ้เทพรีบก้มลงดูดทันที อีกมือก็ดึงกางเกงของไอ้เด่นลงไปกองแทบเท้า ควยของไอ้เด่นค่อยๆ ขยายขนาดขึ้นจนแข็งตัวเต็มที่ มันใหญ่จนคับปากไอ้เทพเลยทีเดียว ขาของไอ้เด่นสั่นพั่บๆ ด้วยความเสียว ระหว่างนั้นไอ้เทพก็เอามือขวาเล่นพวงไข่แฝดของไอ้เด่นไปด้วย มือซ้ายก็บีบตูดไอ้เด่นแรงๆ ด้วยความเงี่ยน ส่วนไอ้อ๊อตรีบเลื่อนปากลงมาที่หัวนมดำๆ ของไอ้เด่นแล้วเอาลิ้นฉกเร็วๆ เพื่อเพิ่มความเสียวให้กับมัน มือก็ลูบไล้แผ่นอกเนียนๆ ที่มีกลิ่นสาปชายของไอ้เด่นไปมา นานๆ ก็หอมลงไปบนแผ่นอกของไอ้เด่นซักครั้งหนึ่ง แผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามของไอ้เด่นหอมมาก ไอ้เด่นครางเสียงหลง น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความเสียวสุดๆ ถูกจู่โจมทั้งข้างบนข้างล่างพร้อมกันแบบนี้ ใครล่ะจะทนไหว
" อูยยยยยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดด พวกมึง....พวกมึงรุมกูเหรอ...... ซี๊ดดดดดด...... ไม่ไหวแล้วแม่ง............ กูเสียวน้ำจะออกแล้ว ........ ซี๊ดดดดดดด.........จะออกแล้วโว้ย.......... โอยยยย......... "
ไอ้เทพได้ยินอย่างนั้นก็รีบเอามือบีบตูดแน่นๆ ของไอ้เด่นเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ปากก็ครอบลำควยลงไปจนมิด ควยไอ้เด่นกระตุกเบาๆ แล้วน้ำกามเหนียวข้นก็กระฉูดออกมาจากรูจู๋น้อยอย่างไม่ยั้ง ไอ้เด่นรีบพูดด้วยเสียงกระเส่า
" ออกแล้ว กูออกแล้ววววววววว........... "
ไอ้เทพรีบเอาปากรองน้ำกามของเพื่อนจนน้ำกามของไอ้เด่นออกมาหมดเกลี้ยง แล้วจึงค่อยๆ เอาปากรูดควยเน้นๆ อีกทีนึงเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำของมันออกมาหมดแล้ว ก่อนจะถ่มทิ้งไป แล้วจึงยืนขึ้นมองหน้าไอ้เด่นซึ่งกำลังยืนหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อยปนมันส์ ไอ้เด่นเหงื่อออกท่วมตัวเลย สีหน้าของมันดูมีความสุขมาก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพยิ้มแล้วตบไหล่ของไอ้เด่นเบาๆ คนละข้าง ไอ้เด่นก็ยิ้มตอบแล้วพูดว่า
" ขอบใจมากนะพวกมึง ที่ทำให้กูมีความสุข กูจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย เพื่อนรัก กูขอออกไปก่อนนะ ในนี้มันร้อน "
ไอ้เด่นพูดจบก็ตบไหล่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเบาๆ คนละทีสองที แล้วจึงเปิดประตูออกจากห้องน้ำไป
" โชคดีจริงๆ ที่ได้เล่นเสียวกับหัวหน้าหมู่ มึงว่ามั๊ย "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้น ไอ้เทพอมยิ้ม ไม่ตอบอะไร ไอ้อ๊อตเห็นไอ้เทพไม่ตอบก็เลยพูดว่า
" พวกเราก็ออกไปกันบ้างเหอะ เดี๋ยวก็คงหมดเวลาพักแล้ว จะได้ไปฝึกต่อในภาคบ่าย "
ทั้ง 2 คนจึงแต่งตัว แล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
..................................
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมแถวดังขึ้นอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมาเข้าแถวบริเวณที่รวมพลทันที ไม่นานแถวก็เสร็จเรียบร้อย หัวหน้าชุดฝึกยืนจังก้าอยู่หน้าแถว เป้าของหัวหน้าชุดฝึกตุงมากจนผมแอบกลืนน้ำลาย เขาตะโกนใส่โทรโข่งว่า
" ต่อไปเราจะทำการซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืน ต้องเดินไปไกลพอสมควร หมวด 1 เดินไปก่อน แล้วหมวดที่เหลือก็เดินไปตามลำดับ เว้นระยะระหว่างหมวดด้วย ไม่ต้องรีบเดินมากนัก รอเพื่อนบ้าง ทุกคน ทราบ ! "
" ทราบ ! "
ทุกคนตอบพร้อมกัน
แล้วหมวด 1 ก็เริ่มออกเดิน ตามด้วยหมวด 2 ของผม และปิดท้ายด้วยหมวด 3
........................................ (โปรดติดตามตอนต่อไป อีกไม่นานเกินรอครับ)

__________________________________________________________

ตอนที่ 9

ขณะนั้นเป็นเวลาบ่าย อากาศกำลังร้อนจัด เปลวแดดอันร้อนระอุแผ่กระจายครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณที่เรากำลังเดินอยู่ ทำให้ผมและเพื่อนๆ รู้สึกร้อนมาก ทุกย่างก้าวของผมมีแต่ความร้อนและความเหน็ดเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นอยู่ทุก วินาทีที่ผ่านไป พื้นดินร้อนมาก ร้อนจนผมรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่บนกะทะที่ใส่น้ำมันเดือดๆ เอาไว้จนเต็ม พร้อมที่จะทอดนักศึกษาวิชาทหารทุกคนให้สุกได้ทุกเมื่อ บริเวณ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยไม้ยืนต้นแห้งๆ บ้าง พุ่มไม้และกอไม้บ้าง ล้วนแต่โดนแดดเผาจนไหม้เกรียม ยิ่งเดินก็ยิ่งร้อนจนแทบทนไม่ไหว ผมกับเพื่อนๆ กัดฟันเดินไปอย่างสุดทรมาน เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน แถมคอแห้งอีก ไม่รู้จะทำยังไงดี น้ำในกระติกก็เหลืออีกไม่มากเท่าไหร่แล้ว
ไอ้อ๊อตซึ่งเดินตามหลังผมมา ไอแรงๆ 2-3 ทีแล้วพูดเสียงแหบ
" ไอ้เหี้ย ร้อนชิบหายเลย ทำไมมันร้อนอย่างนี้วะ หนุ่ม เราร้อนจังว่ะ "
ผมได้ยินไอ้อ๊อตบ่นก็เลยตอบไปว่า
" เราก็ร้อนเหมือนกันว่ะ แม่ง ตอนนี้อุณหภูมิคงซัก 40 องศาล่ะมั๊ง ร้อนโคตรๆ "
" อีกไกลมั๊ยวะ กว่าจะถึงสนามยิงปืน "
" ถามเราแล้วเราจะรู้มั๊ย เดินไปเหอะว่ะ พูดมากเดี๋ยวคอแห้งนะสัด "
ผมพูดแล้วหยิบกระติกน้ำที่ห้อยอยู่ที่เอวด้านขวาขึ้นมาเปิดฝาออก กระดกน้ำเข้าปากอึกหนึ่ง แล้วรีบปิดฝาห้อยไว้ที่เดิม แดกแค่นี้ก็พอแล้ว เราต้องประหยัดน้ำหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเติมน้ำครั้งต่อไปเมื่อไหร่
" รู้งี้เราอยู่บ้านชักว่าวดีกว่า สบายกว่ามาเดินในนรกแบบนี้เยอะเลย "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาอีก ผมยิ้ม
" เออ เราก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้เราว่านายหยุดพูดแป๊ปนึงเหอะ แฮ่ก แฮ่ก (เสียงผมหอบ) เราเหนื่อยว่ะ ไม่มีแรงจะคุยกับนายแล้ว "
ไอ้อ๊อตก็เลยเงียบ ไม่พูดอะไรอีก ผมนั้นรู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจ เดินเท่าไหร่ๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะถึงซักที ระยะทางไกลโคตรๆ ทั้งกองพันไม่มีใครคุยกันเลย ต่างก้มหน้าก้มตาเดินกันอย่างเดียว เดิน..เดิน และก็เดิน.. จนในที่สุดก็ถึงสนามยิงปืน
" ถึงซะที เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว "
ผมพูดกับตนเอง พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ที่ตรงนี้โล่งกว้างมาก แต่ก็ร้อน และนั่น! มีร่มคันใหญ่กางอยู่ด้วย ดีล่ะ ขอหลบแดดซักพักก็แล้วกัน ผมและเพื่อนๆ ก็เลยวิ่งเข้าไปหลบแดดใต้ร่มคันนั้น ต่างก็เบียดเสียดกันเพื่อที่จะได้ยืนอยู่ใต้ร่มคันนั้น ได้หลบแดดซักพักทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงครูฝึกตะโกนขึ้นมาว่า
" ทั้งหมด รวม ! "
" เอาอีกแล้วเหรอวะ เหี้ย กูยังไม่หายเหนื่อยเลย เรียกอีกแล้ว "
ผมคิดในใจ แต่ก็รีบวิ่งไปเข้าแถวด้วยความรวดเร็ว อากาศในตอนนี้ยิ่งทวีความร้อนยิ่งขึ้นจนผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
" ทั้งหมด แถว ตรง ! "
ทุกคนยืนตรง และนิ่ง รอฟังคำสั่งต่อไป
" นั่ง ! "
ทุกคนทรุดตัวลงนั่งทันที แล้วก็ต้องกัดฟันเพราะพื้นสนามร้อนมาก แทบจะต้มไข่สุกได้เลย แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมควักยาดมออกมาดม แล้วก็สูดหายใจลึกๆ 1 ที แต่กระนั้นก็ไม่อาจคลายความเหนื่อยได้ มันเหนื่อยเหลือเกิน แถมร้อนด้วย แต่ยังไงก็ต้องอดทน
ครูฝึกให้พวกเรานั่งพักแป๊ปนึง แล้วก็สั่งให้ยืน และให้แต่ละคนวิ่งไปรับปืนมาคนละ 1 กระบอก ปืนหนักมาก หลังจากนั้นก็ให้วิ่งไปบริเวณที่ทำการยิงปืนเพื่อทำการฝึกตามสถานีต่างๆ สถานีแรกที่ผมรับการฝึกคือสถานีฝึกการยิงปืนด้วยกระสุนจริง 18 นัด แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมจึงยังไม่บรรจุกระสุนจริง 18 นัดนั้นจะเป็นการยิงปรับทางปืน 3 นัด และยิงบันทึกแต้ม 15 นัด แบ่งเป็นท่านอนยิง 5 นัด ท่านั่งสูงยิง 5 นัด และท่านั่งคุกเข่ายิง 5 นัด แต่พอผมไปถึงสถานที่ฝึกยิง ครูฝึกประจำสถานีก็ให้ทุกคนนั่งพักก่อน ผมรีบนั่งลงไปตรงนั้นเลยเพราะเมื่อยมาก ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็นั่งลงไปเหมือนกัน ไอ้เทพพูดขึ้นว่า
" กูว่า เรารีบไปเติมน้ำกันก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวจะไม่มีเวลาเติมนะมึง "
ผมกับไอ้อ๊อตเห็นด้วย ก็เลยวิ่งไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม ที่นี่เขามีแท็งค์น้ำใหญ่ๆ ให้เราเติมน้ำได้สะดวก พอเติมน้ำเสร็จ ไอ้อ๊อตก็พูดกับผมว่า
" ไปเยี่ยวกันมั๊ย เราปวดว่ะ "
" นายไปก่อนเหอะ เรายังไม่ปวด "
ผมตอบเสียงแผ่วเพราะยังไม่หายเหนื่อย ไอ้อ๊อตก็เลยวิ่งไปเข้าส้วม ส้วมที่นี่เป็นส้วมซึม กั้นด้วยสังกะสีเตี้ยๆ แบบง่ายๆ พอให้ถ่ายทุกข์ได้ แต่สกปรกมากจริงๆ เป็นส้วมที่ไม่ถูกสุขลักษณะเลย น้ำก็ไม่มีราด กลิ่นงี้เหม็นหึ่งอย่างสุดจะทนทาน แต่ทุกคนก็ฝืนใช้เยี่ยวให้เสร็จๆ ไป ทำไงได้ล่ะครับ ในป่ามีส้วมแบบนี้ก็ดีแล้ว จะไปเยี่ยวตรงอื่นก็ไม่ได้
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมแถวดังขึ้นอีกแล้ว ผมรีบวิ่งไปเข้าแถวทันที ไอ้อ๊อตซึ่งเยี่ยวยังไม่ทันสุดดีก็จำต้องรีบสะบัดๆ ควยแล้วเก็บเข้าที่ก่อนจะวิ่งกระหืดหระหอบมาเข้าแถว เมื่อทุกคนเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทำการฝึกยิง ในการยิงจะมีพลยิงและคู่ฝึก พลยิงจะเป็นคนยิง ส่วนคู่ฝึกจะทำหน้าที่บรรจุกระสุนใส่ในปืนของพลยิง แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมดังกล่าวแล้ว เราจึงแค่ฝึกทำท่ายิงเท่านั้น ในขั้นแรกครูฝึกแประจำสถานีพูดกับทุกคนในหมู่ของผมว่า
" วันนี้หัดทำท่ายิงให้ถูกต้องก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องยิงจริงๆ จะได้ทำท่าถูก ก่อนอื่นให้ทุกคนในหมู่ไปประจำตามช่องยิงก่อน ช่องยิงละ 2 คน คนนึงเป็นพลยิง อีกคนเป็นคู่ฝึก แต่วันนี้คู่ฝึกก็เป็นพลยิงด้วย ฝึกทำท่ายิงเหมือนกัน เอ้า ไปได้ ! "
ทุกคนในหมู่รีบวิ่งไปประจำตามช่องยิงของตนเอง แล้วยืนนิ่งอยู่ ผมได้คู่กับไอ้อ๊อต ครูฝึกสั่งต่อว่า
" นอน เตรียมยิง ! "
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งแรก ผมก็ทำกึ่งขวาหันด้วยความรวดเร็วแล้วแยกเท้าซ้ายออกไปครึ่งก้าว มือขวากำด้ามปืนแน่น แล้วย่อเข่าทั้งสองลงจดพื้นพร้อมกับล้มตัวลงอยู่ในท่านอนคว่ำ ลดศอกขวาลงกับพื้น ยื่นศอกซ้ายไปข้างหน้าแล้วกำกระบอกปืนเอาไว้ พร้อมๆ กับดันพานท้ายปืนเข้าร่องไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม กางขาทั้ง 2 ข้างออก ผมรู้สึกเจ็บที่ข้อศอกมากขณะที่เอามือขวากำด้ามปืนเอาไว้แน่นจนเส้นเลือดที่ แขนปูดพองออกมา เนื่องจากตอนนี้ศอกทั้ง 2 ข้างของผมอยู่บนพื้นดินแข็งๆ พอดี แต่ก็พยายามอดทน กระชับด้ามปืนไว้ให้มั่น มองตรงไปข้างหน้า ไอ้อ๊อตซึ่งนอนทำท่ายิงอยู่ข้างๆ ผมก็ทำแบบเดียวกับที่ผมทำ ได้ยินเสียงครูฝึกตะโกนอยู่ข้างหลังว่า
" ขาน่ะกางออกเยอะๆ สิโว้ย ไม่ต้องหนีบ แหกๆกว้างๆ เลยมึง "
แล้วก็รู้สึกเหมือนมีตีนหนักๆ เตะขาผมเบาๆ ให้ผมกางขาออกให้มากกว่านี้ ผมรีบกางขาออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้เป้าควยและพวงไข่ของผมสัมผัสพื้นดินร้อนๆ อย่างเต็มที่ แต่ผมก็ต้องนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่นานครูฝึกก็สั่งต่อ
" ต่อไป นั่งสูง นั่ง - เตรียมยิง ! "
ผมยืนขึ้น แล้วทำท่ากึ่งขวาหัน ก้าวเท้าซ้ายไปทางซ้ายครึ่งก้าว แล้วนั่งยองๆ เท้าทั้งสองแบนราบติดกับพื้น แขนซ้ายท่อนบนวางบนเข่าซ้าย มือขวากำพานท้ายปืนเข้าร่องไหล่ เสร็จแล้วจึงเลื่อนมือขวามากำด้ามปืนไว้จนแน่น ลดข้อศอกขวาลงยันไว้กับเข่าขวาด้านในโดยเอาเข่าบีบข้อศอกไว้ ท่านี้เผยให้เห็นเป้ากางเกงอันอวบอูมของนักศึกษาวิชาทหารได้ชัดเจนมากหากมอง จากทางด้านข้าง แต่ก็ไม่มีใครมองเห็นเพราะต่างก็เห็นแต่แผ่นหลังของคนอื่น (เนื่องจากทุกคนนั่งหันหลังให้กัน)
ผมนั่งทำท่านี้อยู่นานจนรู้สึกปวดตุบๆ ที่โคนขา ครูฝึกก็ยังไม่สั่งให้เปลี่ยนท่าซักที ก็เลยต้องทำท่านี้ค้างไว้ก่อน ไม่นานครูฝึกก็เริ่มสั่งต่อ
" นั่งคุกเข่า นั่ง - เตรียมยิง ! "
ผมลุกขึ้นยืนอีกครั้งหนึ่ง แล้วทำท่ากึ่งขวาหัน ทรุดตัวลงนั่งบนส้นเท้าขวา ในท่าคุกเข่า แล้วเอามือขวายกพานท้ายปืนใส่ไหล่ขวา ก่อนจะอัดพานท้ายเข้าร่องไหล่แรงๆ มือซ้ายรองรับปากกระบอกปืน ยกศอกขวาขึ้นเสมอแนวไหล่ แขนซ้ายท่อนล่างตั้งตรง พร้อมกับโนม้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ตามองตรง
ไม่กี่อึดใจต่อมา ครูฝึกก็สั่งว่า
" ทั้งหมด ยืน ! "
ทุกคนยืนขึ้นด้วยความรวดเร็ว แล้วทำท่าตรง ถือปืนด้วยมือขวาไว้ข้างลำตัวด้านขวา
" ตามระเบียบ พัก ! "
ผมแยกเท้าซ้ายออกไปทางด้านซ้าย เอามือขวากำศูนย์หน้าของปืนแล้วผลักปืนออกไปข้างหน้าในแนวเฉียง ส่วนมือซ้ายวางไว้ทางด้านหลังในลักษณะหงายมือแล้วแตะไว้ตรงบริเวณเข็มขัด ผมไม่ลืมที่จะยืดอกขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย
" แถว ตรง ! "
ผมรีบชักเท้าซ้ายกลับดังเดิมพร้อมกับดึงปืนเข้ามาลำตัว เอามือซ้ายแนบไว้ข้างลำตัว ส่วนมือขวาก็จับด้ามปืนไว้แน่น เมื่อครูฝึกเห็นว่าทุกคนเรียบร้อยดีแล้ว ก็พูดขึ้นมาว่า
" การฝึกในสถานีที่ 1 เสร็จสิ้นลงแล้ว ต่อไปขอให้ไปฝึกต่อยังสถานีที่ 2 "
ครูฝึกนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งต่อด้วยเสียงอันดังว่า
" เฉียงอาวุธ ! "
ทุกคนยกปืนขึ้นให้เฉียงผ่านไปทางข้างหน้า แล้วยืนนิ่ง
" วิ่ง หน้า - วิ่ง ! "
ทุกคนออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่สถานีที่ 2
.....................................
" แถว หยุด ! "
เสียงครูฝึกตะโกนไล่หลังมา ทุกคนหยุดวิ่งและรีบจัดแถว ทุกคนต่างก็หอบแฮ่กๆ เพราะความเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากวิ่งมาไกลพอสมควร ผมเองก็เหนื่อยไม่แพ้คนอื่นๆ เหมือนกัน
" เหนื่อยว่ะเหี้ยอ๊อต เราเหนื่อยชิบหายเลย "
ผมพูดกับไอ้อ๊อต ซึ่งกำลังยืนหอบอยู่เหมือนกัน ไอ้อ๊อตไม่ตอบได้แต่พยักหน้าเฉยๆ ผมควักยาดมออกมาดมอีกครั้งหนึ่งก่อนจะรีบเก็บใส่กระเป๋า เพราะครูฝึกประจำสถานี (คนใหม่) กำลังเดินตรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยของแต่ละแถวอยู่ ผมก็เลยต้องยืนนิ่งจนครูฝึกตรวจเสร็จทุกแถวแล้วจึงสั่งให้ทุกคนนั่ง
สถานีที่ 2 เป็นการฝึกยิงปืนด้วยแสงเลเซอร์ ผมกับเพื่อนๆ ก็นั่งดูนิดๆ หน่อยๆ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ได้เวลาพักอีกแล้ว หนนี้ผมกับไอ้อ๊อตเหนื่อยมากแล้ว ก็เลยพากันมานั่งลงตรงโคนต้นไม้ข้างๆ ที่ฝึกเลย ไม่มีแม้แต่แรงจะอ้าปากพูดกัน ผมนั่งเฉยๆ อยู่ครู่หนึ่ง ไอ้เทพก็เดินมานั่งข้างๆ ผม แล้วพูดว่า
" เฮ้ย เป็นไรวะหน้าซีดเชียว เหนื่อยมากเหรอวะ "
ผมฝืนยิ้มให้มัน แล้วตอบเสียงแหบ
" เออ โคตรเหนื่อยเลย ร้อนด้วย อากาศร้อนๆ แบบนี้ทำเราหมดแรงได้ง่ายๆ ว่ะ เราไม่ถูกกับอากาศร้อน "
ไอ้เทพยิ้มแล้วตบต้นแขนผมล่ำๆ ของผมเบาๆ
" ไรวะไอ้หนุ่ม นี่แค่วันแรกเองนะ จะหมดแรงแล้วเหรอ อย่าลืมสิว่านายจะต้องฝึกอีก 4 วันเต็มๆ เลยนะเว้ย เราได้ยินพวกผลัดก่อนๆ ที่ไปมาแล้วเล่าให้ฟังว่า วันแรกนี่เบาสุดแล้วนะ รู้ป่าว "
" นี่เบาสุดแล้วเหรอวะเนี่ย ชิบหาย ขนาดเบาสุดยังขนาดนี้แล้ว แล้ววันต่อไปจะขนาดไหนวะเนี่ย เวรกรรมอะไรของเราวะเนี่ยที่ทำให้เราต้องมาตกระกำลำบากถึงขนาดนี้ ซวยชิบเป๋ง "
ผมพูดอย่างปลงๆ ไอ้อ๊อตมองหน้าผมแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
" สู้ๆ สิเว้ยหนุ่ม นายต้องผ่าน 5 วันนี้ไปให้ได้ นาย เรา และก็ไอ้เทพ จะต้องผ่านไปด้วยกัน เราต้องทำได้ เพราะเราเป็นลูกผู้ชาย "
" เออ เราจะสู้ เราต้องทำได้แน่ๆ "
ผมพูดยิ้มๆ รู้สึกได้กำลังใจในการฝึกกลับคืนมาอีกเยอะเลย ขอบใจนะเพื่อนที่พูดให้กำลังใจเรา เราจะสู้ สู้ไปด้วยกัน เพื่ออนาคตของเรา

พอหมดเวลาพัก ผมกับเพื่อนๆ ก็เดินต่อไปยังสถานีที่ 3 การฝึกเล็ง แต่เราโชคดีที่ทหารสถานีนี้ใจดี เเลยไม่ต้องฝึก ผมก็เลยนั่งคุยกับไอ้อ๊อตและไอ้เทพไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้บ่ายแก่แล้ว อากาศเริ่มคลายความร้อนลงมาก ผมและเพื่อนๆ รู้สึกดีขึ้น (คงเป็นเพราะได้นั่งพักนานพอสมควร) ก็เลยคุยเล่นกับเพื่อนๆ ได้สนุกขึ้น นั่งคุยไปได้ซักพัก ไอ้เด่น หัวหน้าหมู่ของผมก็เดินมาคุยด้วย (ตอนนั้นผมยังไม่ทราบว่าไอ้เด่นเป็นเกย์) มันเป็นคนนิสัยดีและคุยสนุกมาก มาพร้อมกับเพื่อนชายแท้อีกหลายคน เราคุยกันอย่างเฮฮาสนุกสนาน ไม่นานก็ได้เวลาพักอีก ผมก็เลยนั่งคุยกับเพื่อนๆ อยู่ตรงนั้นเองโดยที่ไม่ลุกไปไหน
ไอ้เด่นแนะนำเพื่อนชายแท้ของมันให้ผม ไอ๊อ๊อต และไอ้เทพรู้จัก แต่ละคนหล่อๆ แมนๆ ตัวใหญ่ๆ และล่ำๆ ทั้งนั้น น่าแดกมากๆ ผมคุยไปก็ใจเต้นรัวเพราะชอบแบบนี้อยู่แล้ว
" พวกมึงมีใครจะเรียนร.ด. ปี 4 ปี 5 บ้างมั๊ยวะ "
ไอ้เด่นถาม ไอ้อ๊อตรีบตอบมาก่อน
" ไม่ไหวว่ะ กูไม่เรียนแน่ๆ กูเรียนไม่ไหว มึงจะเรียนเหรอ "
ไอ้เด่นพยักหน้าก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัด
" กูเรียนแน่นอน กูชอบ กูสนุกของกู กูชอบร.ด. ร.ด. สอนให้กูเป็นลูกผู้ชาย "
ไอ้อ๊อตและไอ้เทพแอบยิ้มโดยที่ผมก็ไม่รู้สาเหตุที่มันยิ้มแบบนั้น เพื่อนชายแท้คนอื่นๆ ก็พูดขึ้นมาบ้าง
" กูก็จะเรียน สนุกดี มาเข้าค่ายครั้งนี้สนุกมากเลย กูชอบว่ะ แม่งเท่ห์ด้วย กูอยากเรียนให้ถึงปี 5 เลย "
" กูก็เรียนด้วย "
" กูก็เรียนเหมือนกัน "
ผมโพล่งออกไปว่า
" เราเองไม่อยากเรียนว่ะ เพราะคงเรียนไม่ไหวแน่ๆ มันหนัก "
ไอ้เด่นและเพื่อนชายแท้ทุกคนมองหน้าผม นิ่งไปอยู่เป็นนาน ก่อนที่ไอ้เด่นจะรวบรวมความกล้าถามผมว่า
" มึงแทนตัวเองว่า เรา เหรอ ไอ้หนุ่ม "
ผมพยักหน้า แล้วทำหน้างง เพื่อนชายแท้คนหนึ่งมองหน้าผมแล้วพูดว่า
" นี่มึงเป็นตุ๊ดเปล่าวะ ตุ๊ดมันจะแทนตัวเองว่าเรานะ "
ผมฉุนโกรธขึ้นมาทันทีเพราะไม่ชอบให้ใครมาถามผมแบบนี้อยู่แล้ว มันเหมือนเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีผมอย่างมาก ผมเองรู้ตัวว่าไม่ใช่ตุ๊ดแน่นอน ผมเป็นเกย์ ผมเกือบจะหลุดปากพูดออกไปว่า " เราไม่ใช่ตุ๊ดนะ เราเป็นผู้ชายเต็มตัว " แต่สามัญสำนึกทำให้ผมต้องรีบหุบปากแน่น ไม่พูดประโยคนั้นออกไป ผมจะพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้าพูดแบบนั้นไอ้เด่น และเพื่อนชายแท้ของมันอาจจะคิดว่าผมแก้ตัวแน่ๆ และเขาจะยิ่งปักใจเชื่อไปใหญ่ว่า ผมเป็นตุ๊ด เห็นได้ว่า ไอ้เด่น และเพื่อนชายแท้ของเขามีความคิดว่า ผู้ชายเต็มตัวต้องพูดคำหยาบ ถ้าไม่พูดก็ดูเรียบร้อยเกินไป อาจจะดูเหมือนตุ๊ดได้ เขามีความคิดแบบนี้นี่เอง เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำตัวให้ดูเหมือนผู้ชายเต็มตัวในความคิดของเขา และแสดงให้เห็นว่า ผมก็เป็นพวกเดียวกับเขา ใช่แล้ว ! ต้องทำแบบนี้อย่างเดียวเท่านั้น
ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอื้อมมือไปตบบหลังเพื่อนชายแท้คนที่พูดเมื่อกี้ดังป้าบๆ หลังเขาแข็งมาก ผมชอบจริงๆ แล้วพูดเสียงดัง
" กูไม่ได้เป็นตุ๊ดนะมึง กูเป็นผู้ชายทั้งแท่ง "
เพื่อนชายแท้คนนั้นค่อยยิ้มออก แล้วแซวผมว่า
" ทั้งแท่งเหรอมึง 5555 แสดงว่ายังไม่มีเมียใช่มั๊ย ผู้ชายทั้งแท่งหมายถึงผู้ชายที่ยังไม่ได้เอากับใคร ยังไม่มีเมีย ยังไม่แต่งงาน "
" เออว่ะ "
ผมตอบส่งๆ ไป แต่เพื่อนชายแท้รวมทั้งไอ้เด่นคงจะเชื่อแล้วว่าผมไม่ได้เป็นตุ๊ด เพราะไอ้เด่นพูดขึ้นมาว่า
" เออ ดีดี พูดแบบนี้ค่อยคุยกัยรู้เรื่องหน่อย ดูแมนขึ้นมาหน่อยมึง กูชอบแบบแมนๆ อยู่แล้ว "
ถ้าผมจะฉุกคิดซักนิดนึงว่า คำพูดประโยคนี้ของไอ้เด่น มันเป็นคำพูดแนว " เกย์ " อย่างเห็นได้ชัด ผมก็จะรู้ทันทีว่า ไอ้เด่นแม่งเป็นเกย์ !
แต่ตอนนั้น ผมไม่ทันคิด เพราะมัวตื่นเต้นกับตัวตนใหม่ของผมที่เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อกี้นี้เอง
ไอ้อ๊อตกอดคอผมแล้วกระซิบถามผมเบาๆ
" เฮ้ย คุณชาย พูดมึงพูดกูแบบนี้ไม่กระดากปากเหรอวะ เดี๋ยวคุณหญิงแม่รู้เข้าแย่เลยนะ 5555 "
ผมตบหลังไอ้เด่นแรงๆ เป็นเชิงหยอก แล้วตอบเสียงดัง
" ห่าเหี้ยอะไรของมึงวะเนี่ย กูพูดได้อยู่แล้ว กูก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ทำไมกูจะพูดไม่ได้วะ "
ไอ้เทพกระซิบข้างหูผมบ้าง
" ถ้าฝืนก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะเว้ย เรารู้นายอึดอัด "
" เฮ้ย เราพูดได้อยู่แล้ว เอ๊ย กูพูดได้อยู่แล้ว มา ต่อไปกูจะพูดภาษาระดับเดียวกับนาย เอ๊ย มึงแล้ว ต่อไปเราจะได้สนิทกันมากกว่านี้ ไม่ต้องมาใช้เราๆ นายๆ แบบเดิมอีก มา มาพูดหยาบกันดีกว่า มึง "
ผมพูดอย่างคึกจัด แล้วเริ่มต้นคุยกับด้วยภาษาหยาบคายอย่างสนุกปาก การกระทำนี้ทำให้ผมสนิทกับเพื่อนๆ มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเราพูดกันได้อย่างเปิดเผยไม่ต้องมานั่งเกรงใจกันอีกต่อไป ขณะที่ผมกำลังคุยจ้ออยู่นั้น ไอ้อ๊อตก็สะกิดไอ้เทพแล้วพูดเบาๆ ข้างหูมันด้วยความทึ่ง
" ไอ้หนุ่มมันปรับตัวเก่งชิบหาย กูล่ะนับถือมันจริงๆ ในที่สุด มันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเราแล้ว "
" นี่แหละ การปรับตัวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เกย์ ล่ะ ต่อไปนี้ก็ไม่มีใครมองว่า ไอ้หนุ่มเพื่อนกูเป็นเกย์เป็นตุ๊ดอีกแล้ว เพราะจะดูแม่งไม่ออกอีกต่อไป "
ไอ้เทพพูดเบาๆ
........................................
ไม่นานก็หมดเวลาพัก ตอนนี้เย็นมากแล้ว ครูฝึกเรียกรวมแล้วก็ให้เดินกลับที่พัก ขากลับรู้สึกสบายกว่าขามาเพราะแดดหมดแล้ว อากาศก็ไม่ร้อน และทุกคนต่างก็คลายความเหน็ดเหนื่อยลงไปเยอะแล้ว แป๊ปเดียวหมวดของเราก็ถึงที่พัก ครูฝึกให้พวกเรานั่งพักผ่อนเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้ไปอาบน้ำ
ครูฝึกกำหนดเวลาว่า ต้องอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว ให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง แล้วจะเรียกรวม เวลาเหลือเฟือ ผมจึงกลับไปที่เต็นท์ ถอดชุดฝึกออกแล้วนุ่งผ้าขาวม้าแทน หยิบขันและสบู่วิ่งไปที่โรงอาบน้ำ ที่นี่มีโรงอาบน้ำ 3 หลัง สำหรับ 3 หมวด แยกกันอาบตามหมวด ผมหมวด 2 ก็อาบโรง 2 โรงอาบน้ำก็เหมือนกับของทหาร คือเป็นอ่างน้ำใหญ่ๆ ใส่น้ำจนเต็มให้ทุกคนตักอาบได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการจำกัดขัน มีคนอาบกันเยอะมากจนกลายเป็นชุลมุนวุ่นวาย ต่างก็แย่งกันตักแย่งกันอาบกันเต็มที่ ทุกคนนุ่งกางเกงในอาบกันหมด ตอนนั้นผมร้อนเหี้ยๆ ทำให้ต้องลืมความเป็นเกย์ไปชั่วขณะ เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้เร้าอารมณ์ผมเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ ผิวมันๆ หัวเกรียนๆ นุ่งกางเกงในอาบน้ำกันเป็นฝูง หน้าตาก็เหี้ยๆ ทั้งนั้น และก็เบียดเสียดกันยุ่งอีรุงตุงนังไปหมด แต่ละคนก็ตัวเหม็นเหี้ยๆ เหงื่องี้เต็มตัวไหลเยิ้มไปทั้งตัวเลย ผมเองก็อยูในสภาพที่ไม่ต่างกับพวกมัน ก็เลยไม่คิดเรื่องอื่น เราพวกเดียวกัน ขออาบด้วยคนนะเพื่อน ว่าแล้วก็เดินเข้าไปทั้งตัก ทั้งจ้วง ทั้งเทน้ำจากอ่างราดตัวอย่างเต็มที่เพราะมันทนไม่ไหวแล้ว ผมตักน้ำอาบไปหลายสิบขัน เพื่อนๆ ของผมก็อาบกันอย่างเมามันมากจริงๆ เขวี้ยงขันก็มี สาดน้ำกันก็มี ผมก็โดนสาดจนหัวหูเปียกไปหมด ไม่ว่ากันเพราะมาเข้าค่ายที่นี่มันก็เถื่อนๆ แบบนี้อยู่แล้ว สะใจดีออก บางคนก็สระผมด้วย สำอางชิบหายเลยมึง แต่ผมไม่สระ เอาน้ำราดตัวแล้วถูสบู่ก็พอแล้ว เสร็จแล้วก็จ้วงอาบต่อ คนเยอะแบบนี้ไม่เห็นไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเลย แต่มันก็ต้องอยู่ในนี้แน่ๆ ผมใช้เวลาอาบน้ำล้างควยอยู่นานก็เสร็จ รีบวิ่งมาเช็ดตัวที่เต็นท์แล้วแต่งชุดครึ่งท่อน ( ไม่ใส่เสื้อนอกใส่แต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว ) แต่งแบบนี้สบายดี เพราะเสื้ออ่อนมันบาง และเย็น อาบน้ำแล้วผมรู้สึกสดชื่นขึ้น รู้สึกมีความสุขขึ้นมากเลย พอแต่งตัวเสร็จแล้วก็เอาของเข้าเต็นท์ โชคร้ายมากที่ผมไม่ได้เอาผ้าปูรองนอนมา เลยต้องเอาผ้าห่มสีเขียวปูแทน ยอมเลอะก็คราวนี้แหละ ปูเสร็จแล้วกลับคิดว่าดีกว่าใช้ผ้าปูรองนอนอีก เพราะผืนผ้าห่มมันใหญ่และก็นุ่มกว่าผ้าปูรองนอนตั้งเยอะ แต่ก็เสียดายผ้าห่มที่ต้องเลอะเศษใบไม้ แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอก
จัดของเสร็จออกไปหาไอ้อ๊อต คุยกันนิดหน่อยแล้วก็พามันมาดูเต็นท์ผม มันบอกว่าใช้ผ้าห่มปูดีเหมือนกันเพราะใหญ่ดี เรียบร้อยแล้วเราไปกินข้าวกันที่ร้านค้าที่เดิม ผมกินหมูปิ้งกับข้าวไปนิดหน่อยเพราะไม่กล้ากินข้าวมากกลัวจะอืดและปวดท้อง มื้อเย็นนี้มีคนซื้อข้าวกันคึกคักกว่ามื้อกลางวัน (แต่โรงเรียนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ยังนิยมกินข้าวหลวงอยู่) ป้าแกก็ยังตะโกนว่า " อยากขายค่ะ... อยากขาย.... " ไม่ยอมหยุดเหมือนเดิม
ช่างเป็นคุณป้าที่ไฟแรงเสียนี่กระไร ผมนับถือเลย
กินเสร็จผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพก็นั่งเล่นอยู่แถวนั้นนั่นเอง ผมเห็นคนต่อคิวโทรศัพท์กันยาวกว่าเมื่อกลางวัน ทำให้ผมคิดถึงบ้านจับใจ อยากจะโทรไปหาพ่อ แต่ก็ต้องตัดใจ ไม่โทร
ตอนนี้ได้แต่รอเวลาที่ครูฝึกจะเรียกรวมพล........
ผมเริ่มรู้สึกสนุกกับการมาเข้าค่ายฝึกร.ด. ขึ้นมาซะแล้วสิครับ

ตกกลางคืนครูฝึกเรียกรวมที่หน้ากองบก. เพื่อฟังการบรรยายเรื่อง " สิทธิและหน้าที่ของกำลังสำรอง " 2 ชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าจะน่าเบื่อ แต่พอฟังไปนานๆ ก็รู้สึกมันส์ดีเหมือนกัน ไม่นานการบรรยายก็จบลง ตอนนั้นเกือบๆ จะ 3 ทุ่มแล้ว ครูฝึกให้เราไปพักแป๊ปนึง ก่อนจะเรียกรวมอีกครั้งเพื่อสวดมนต์ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับเข้าเต็นท์
.....................................
กลางดึกคืนนั้น
ทันทีที่ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพผลุบเข้าไปในเต็นท์ และเปิดไฟฉายกระบอกเล็กวางทิ้งไว้ใต้ผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ไอ้เทพก็เปิดฉากรุกทันที มันโถมเข้าใส่ไอ้อ๊อตแล้วกอดไอ้อ๊อตไว้แน่น มือก็เค้นคลึงบริเวณเป้ากางเกงของไอ้อ๊อตอย่างหื่นกระหายราวกับไม่ได้สัมผัสควยมาเป็นแรม ปี ไอ้อ๊อตขยับปากจะพูดแต่ไอ้เทพรีบประกบปากเข้ากับปากไอ้อ๊อตแล้วเอาลิ้นสอด เข้าไปจนลึก แล้วเริ่มควานปากของไอ้อ๊อตช้าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อน ไอ้อ๊อตสะดุ้งแต่ก็รีบตอบสนองทันที ลิ้นของ 2 หนุ่มแตะกันแล้วเริ่มพันกันพัวเนีย ก่อนที่จะพันกันเร็วขึ้นๆ ซักพักไอ้เทพก็ถอนปากออก แล้วถลกเสื้อสีกากีแกมเขียวของไอ้อ๊อตขึ้น เผยให้เห็นกล้ามอกแข็งๆ และหัวนมสีดำของไอ้อ๊อต มันน่าดูดจริงๆ ไอ้เทพไม่รอช้ารีบก้มลงดูดหัวนมเพื่อนทันที เสียงดังจ๊วบๆ ไอ้อ๊อตหลับตาปี๋ด้วยความเสียว
" อูยยยยยยย ซี๊ดดดดดด เสียวจังเลยว่ะเพื่อน ไอ้เทพ ไอ้เหี้ย ดูดแรงๆ ว่านี้อีกสิวะ อูยยยย "
ไอ้เทพดูดหัวนมข้างซ้าย ก่อนจะย้ายไปดูดข้างขวา แล้วค่อยๆ เลื่อนปากลงมาตามเนินกล้ามอกที่เรียบๆ แต่แข็งแกร่งของไอ้อ๊อต พร้อมกับสูดกลิ่นสาปชายเข้าไปจนเต็มปอด หอมเหลือเกิน กูทนไม่ไหวแล้วเหี้ยอ๊อต
เร็วเท่าความคิด ไอ้เทพปลดหัวเข็มขัดของไอ้เด่นออกแล้วกระชากสายเข็มขัดโยนทิ้งไป ปลดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิปลง กางเกงในสีดำที่ตรงส่วนเป้านูนตุงออกมามากจนแทบล้นปรากฏอยู่ตรงหน้ามัน ไอ้เทพรีบซุกหน้าลงไปตรงนั้นแล้วงับลำนูนๆ เล่นอย่างเมามัน ไอ้อ๊อตถึงกับครางเสียงสั่นๆ
" ไอ้เทพ มึง มึงดูดควยกูเร้ว กูไม่ไหวแล้ว ซี๊ดดดด ....... "
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็กดหัวเกรียนๆ ของไอ้เทพลงไปจนแนบเป้าควย น้ำใสๆ ซึมออกมาเลอะเป้ากางเกงในจนเห็นเป็นหยดๆ บอกให้รู้ถึงระดับความเงี่ยนของไอ้อ๊อตที่พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ไอ้เทพรีบรูดกางเกงในของไอ้อ๊อตลงแล้วขว้างทิ้ง พร้อมกับดึงกางเกงขายาวออกด้วย ตอนนี้ท่อนล่างของไอ้อ๊อตเปลือยเปล่าแล้ว ขาของมันมีขนขึ้นยุ่บยั่บแถมน่องยังโตด้วย ท่อนควยขนาดใหญ่สีดำสนิทที่มีเส้นเลือดขึ้นเต็มลำตั้งโด่เด่อยู่ตรงหน้า กำลังผงกหัวหงึกๆ รอรับการดูดอยู่ ไข่ของไอ้อ๊อตใบใหญ่มากแถมยังดำสนิท หมอยดกดำเป็นเงาแถมยังเยอะมาก ไอ้เทพเห็นแล้วก็เอ่ยปากชมว่า
" โห ของมึงนี่สุดยอดไปเลยเพื่อน "
ไอ้อ๊อตหลับตาพริ้ม ขณะที่ควยยังคงผงกหัวอยู่ตลอดเวลา แล้วตะคอกใส่ไอ้เทพ
" เลิกเห่าได้แล้วไอ้เหี้ย รีบจัดการกับควยกูเร็ว กูไม่ไหวแล้ว "
" ได้เลยเพื่อน "
ไอ้เทพพูดจบแล้วก็ก้มลงเอาปากครอบลำควยของไอ้อ๊อตจนเกือบมิดโคน แล้วดูดอย่างสะใจ สลับกับเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวด้วย ไอ้อ๊อตร้องซี๊ดดดดดดด แล้วเอามือกดกบาลของไอ้เทพลงอีกเพื่อให้ดูดได้ถึงโคนควย ไอ้เทพดูดควยเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย ลีลาการดูดของมันเจ๋งมาก เล่นเอาไอ้อ๊อตเบ้ปากด้วยความเสียว น้ำแทบแตก
" อูยยยยย ดูดเก่งชิบหายเลยมึงเนี่ย แม่ง กูเสียวจนใจจะขาดอยู่แล้วเหี้ยเอ๊ย อูยยยยยย นั่น อย่างนั้นนนน ดูดเน้นๆ ที่หัวควยกูเลยมึง "
ไอ้เทพเงยหน้าขึ้นมองไอ้อ๊อตนิดนึงแล้วตั้งหน้าตั้งตาดูดต่อ มันดูดเน้นๆ ที่หัวควยสีชมพูสดของไอ้อ๊อตหลายทีจนไอ้อ๊อตครางเสียงหลง ไอ้เทพยิ่งได้ใจ มันถอนปากขึ้นจนควยเกือบหลุดจากปากแล้วกลับครอบปากลงไปจนมิดลำควยอีกครั้ง เสียงดังป๊อก! มันทำแบบนี้ติดต่อกันหลายครั้ง ส่วนมือก็บีบตูดของไอ้อ๊อตแน่น ตูดของไอ้อ๊อตแข็งมาก ไอ้เทพเอานิ้วแยงรูตูดไอ้อ๊อตทีนึง รูตูดของไอ้อ๊อตยังไม่หลวมมาก แบบนี้แหละกำลังดี ไอ้เทพคิดในใจ
ซักพัก ไอ้เทพก็ถอนปากออก แล้วจับไอ้อ๊อตนอนคว่ำ มันเอามือแหกตูดของไอ้อ๊อตออกแล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียรูตูดให้อย่างไม่นึกรังเกียจ ไอ้อ๊อตรู้สึกจั๊กจี้ปนเสียว ไอ้เทพเลียรูตูดเสียงดังแผล่บๆ จนรูตูดของไอ้อ๊อตชุ่ม แล้วมันก็พูดว่า
" ขอเสียบตูดหน่อยนะมึง กูทนไม่ไหวแล้ว "
ไอ้อ๊อตยิ้ม แล้วพูดว่า
" ไม่มีปัญหา แต่มึงเอาเควายทาก่อนนะ.. ไม่งั้นกูเจ็บตายเลย "
" กูไม่ได้เอาเควายมา ไม่เห็นต้องใช้เลยไอ้เหี้ย ใช้ไอ้นี่ก็พอแล้ว ลื่นๆ ดี มึงไม่เจ็บหรอก มึงก็รู้ควยกูไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย มึงก็เคยมาแล้วนี่ ใช่มั๊ยวะ "
ไอ้เทพพูดแล้วก็ถ่มน้ำลายลงไปที่รูตูดของไอ้อ๊อตหลายๆ ครั้ง แล้วก็แก้ผ้าออกจนหมด มันชักควยขึ้นลงๆ จนควยแข็งได้ที่ ก่อนจะค่อยๆ เอาควยไปถูตรงรูตูดของไอ้อ๊อต แต่ยังไม่ได้เสียบเข้าไป
" เบาๆ นะไอ้สัด อย่าทำแรง กูขอร้องล่ะ "
ไอ้อ๊อตร้องคราง ไอ้เทพยิ้มแล้วตอบเสียงแผ่ว
" เออน่า กูเอาเล่นๆ กูไม่เสียบจริงจังหรอกเพื่อน ขอกูแค่ถูๆ ไถๆ ตรงรูตูดมึงก็พอแล้ว กูรู้ถ้ากูเย็ดมึงแรงๆ จริงๆ มึงคงไม่มีแรงฝึกวันต่อๆ ไปแน่ๆ กูเล่นๆ แค่นี้ก็พอ กูเข้าใจ เพื่อน กูรักมึงนะ "
ไอ้เทพเอาหัวควยถูๆ ไถๆ ตรงรูตูดช้าๆ แต่ไม่เสียบพรวดเข้าไปเพราะกลัวเพื่อนเจ็บ ทำแค่เอาลำควยคาไปที่รูตูดเท่านั้น แต่หัวควยที่สัมผัสกับรูตูดก็ทำเอาไอ้อ๊อตเสียวไม่ใช่เล่น มันร้องครางด้วยความเสียว ไอ้เทพรีบพลิกตัวไอ้อ๊อตให้นอนหงายเหมือนเดิม หัวควยยังคงถูเข้าออกๆ อยู่ตรงรูตูดของไอ้อ๊อต แต่ปากกลับครอบลงไปที่ลำควยเหมือนเดิม แล้วดูดขึ้นๆ ลง คราวนี้ไอ้อ๊อตสุดจะทนไหวแล้ว
" มะ ไม่ไหวแล้วไอ้เทพ กะ กูเสียวควยจะตายอยู่แล้ว ไอ้สัตว์ น้ำกูจะออกแล้วนะมึง ไอ้เหี้ยเอ๊ย ซี๊ดดดดดด ให้กูแตกคาปากมึงเลยนะเพื่อน อูยยยย มึงอย่าเลียรูควยกูแบบนั้นสิ มันเสียว กูทนไม่ไหวแล้วววววว "
ไอ้เทพได้ยินดังนั้นก็เอาหัวควยเสียบเข้าไปในรูตูดของไอ้อ๊อตลึกกว่าเดิมอีกนิด แต่ก็ไม่ทำให้ไอ้อ๊อตเจ็บ แล้วครอบปากลงไปจนมิดลำควย ร่างกายของไอ้อ๊อตเกร็งแน่น มันตัดสินใจจะไม่ทนอีกต่อไป น้ำกามขุ่นข้นพุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยของไอ้อ๊อตอย่างรวดเร็ว และแรง พร้อมๆ กับเสียงครางอย่างสะใจของมัน
" อูยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดดดดด ออกมาแล้วโว้ย ยยยยย "
น้ำกามของไอ้อ๊อตหลั่งออกมาเยอะมาก ไอ้เทพรีบเอาปากรองรับน้ำกามของเพื่อนรักทันที ควยของไอ้อ๊อตกระตุกๆ 4-5 ทีก็หยุด ไอ้เทพยังคงดูดควยไอ้อ๊อตต่อเพื่อให้แน่ใจว่าไอ้อ๊อตหลั่งออกมาหมดแล้ว พอน้ำกามออกมาจนหมดไอ้เทพจึงเอาปากออก แล้วบ้วนน้ำกามของไอ้อ๊อตทิ้งลงพื้น
" แฮ่ก แฮ่ก โอยมันส์จริงๆ เพื่อน สุดยอดเลยว่ะ "
ไอ้อ๊อตพูดพลางหอบไปด้วย ไอ้เทพล้มตัวลงนอนบ้าง ควยของมันชี้ขึ้นฟ้าชูคอเริงร่า หัวควยถอกบานแดงโร่ ไอ้อ๊อตมองแล้วก็ก้มลงเอามือถอกควยไอ้เทพเล่นแรงๆ
" ถอกแรงๆ ไอ้เหี้ย อา...... กูเสียวปลาชะโดกูจริงๆ นั่นอย่างงั้น.... จะแตกแล้วโว้ยยยย มันส์ควยจริงๆ "
ไอ้เทพโดนถอกควยไม่กี่ทีน้ำกามของก็พุ่งกระจายขึ้นข้างบน แล้วย้อนลงมาเปรอะหน้าท้องของมันเอง กลิ่นคาวน้ำกามของไอ้เทพคละคลุ้งไปทั้งเต็นท์ แต่มัน 2 คนก็ไม่ได้นึกรังเกียจ ไอ้เทพนอนหอบบ้างแล้วพูดว่า
" โอยยยย เสียวเหี้ยๆ "
ไอ้อ๊อตล้มตัวลงนอนกอดเอวไอ้เทพ แล้วใช้ลิ้นเลียน้ำกามของไอ้เทพจนหมด แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันกลมดิก ในสภาพเปลือยกายล้อนจ้อน ควยที่ยังเปื้อนน้ำกามอยู่สัมผัสกันอย่างจัง
" กูรักมึง ไอ้อ๊อต "
ไอ้เทพพูดเบาๆ แล้วหอมแก้มไอ้อ๊อตช้าๆ แล้วเอามือดึงลำควยนิ่มๆ ของไอ้อ๊อตเล่น
" กูก็รักมึง เพื่อน "
ไอ้อ๊อตพูดขึ้นบ้าง แล้วเอามือกุมไข่ไอ้เทพอย่างทะนุถนอม พร้อมกับหลับตาด้วยความเหนื่อยอ่อน
ไม่นานทั้งคู่ก็หลับสนิท
...................................
ในขณะเดียวกัน ที่เต็นท์ B23
ผมนอนพลิกไปพลิกมา มันเหงาจริงๆ ที่ต้องนอนคนเดียวแบบนี้ ไม่มีเพื่อนจะคุยด้วย แต่ก็ดีเพราะนอนคนเดียวสบายมาก จะเหยียดแข้งเหยียดขาก็ทำได้ตามสบายไม่มีใครว่า ได้ยินเสียงคนในเต็นท์อื่นคุยกันเสียงดัง ร้องครางกันก็มี (สงสัยคงกำลังเย็ดกันอยู่) ไม่ได้รู้สึกอิจฉาเขาหรอกครับ เพราะผมไม่ได้อยากจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ยังไงผมก็โชคร้ายมากที่ไฟฉายเกิดเสีย จะไปยืมคนอื่นก็เกรงใจ ก็เลยต้องทนควานหาของในที่มืดคนเดียว เลอะเหมือนกันแต่ก็ไม่มาก ควานไปควานมาเจอน้ำส้มที่แอบซื้อมาเมื่อตอนเย็นก็เลยดื่มเงียบๆ จนอิ่มแล้วก็นอนราบลงไป ผมรู้สึกร้อนมากก็เลยเปิดเต็นท์ ถอดรองเท้าถุงเท้ายื่นตีนออกมา ค่อยรู้สึกเย็นขึ้น นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ตั้งนานก็ยังไม่หลับซักทีก็เลยนอนฟังเต็นท์อื่นคุยกัน แต่ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่นานก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดนอนก็เลยพยายามนอนข่มตาเพื่อให้หลับ ผมรู้สึกทรมานมาก เหนื่อยแบบสุดขีด แถมยังคิดถึงบ้านด้วย แต่ก็ต้องอดทน ผมนอนคิดไปคิดมาอยู่หลายตลบก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ลืมความทุกข์ทั้งหลายแหล่ในวันนี้ เตรียมรับศึกหนักในวันต่อไป

ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคนคุยกันที่เต็นท์อื่นเบาๆ ก็คิดว่าคงจะเช้าแล้ว ควานหานาฬิกาแล้วเปิดท้ายเต็นท์ส่องกับไฟด้านนอกเห็นเวลาตี 4 กว่าๆ เต็นท์อื่นเริ่มลุกออกไปล้างหน้าแปรงฟันกันบ้างแล้ว ผมยังไม่อยากรีบลุกก็เลยนอนต่อเงียบๆ อีกแป๊ปนึง จนคนเริ่มลุกไปที่โรงอาบน้ำมากขึ้นก็เลยลุกตามเขาไปด้วย ล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้วก็กลับมาแต่งชุดฝึก พอตี 5 ครูฝึกก็เป่านกหวีดให้ตื่น ตี 5 กว่าๆ ก็เรียกรวม
" ทั้งหมด แถว ตรง ! "
ทุกคนยืนตรง หลายคนยังดูงัวเงียอยู่ ผมเองตื่นเต็มที่แล้วแต่ก็ไม่หายเมื่อย แถมหิวจัดเพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งคืน (กินแต่น้ำส้ม) ครูฝึกให้แยกย้ายไปกินข้าว ผมรีบไปซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวกินไป 3 ไม้ กำลังจะไปซื้ออีกก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดเรียกแถวอีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาเข้าแถว คนอื่นก็รีบวื่งมาเหมือนกัน ทำให้การเข้าแถววุ่นวายพอสมควร หัวหน้าชุดฝึกดูจะไม่พอใจมาก แผดเสียงดังลั่น
" ช้าชิบหายเลย ยังกะเต่า ใช้ไม่ได้ ทั้งหมดวิดพื้นท่าเตรียม ! "
" เตรียม ! " ทุกคนขานรับ พร้อมกับนอนราบลงเตรียมวิดพื้น
" 20 ครั้ง ปฏิบัติ ! "
ทุกคนทำตามคำสั่งจนครบ โดนทำโทษแต่เช้าเชียววันนี้ พอวิดพื้นเสร็จ หัวหน้าชุดฝึกก็พาทุกหมวดเดินไปที่สนามยิงปืน (ที่เดียวกับเมื่อวาน) ตอนนนั้นยังเช้ามืดอยู่ ทางก็ยังมืดตื๋ออยู่เลย มองทางก็ไม่ค่อยเห็น ผมเดินไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงสนามยิงปืนท้องฟ้าก็สว่างโร่แล้ว ครูฝึกจัดแบ่งหมวดหมู่เข้าทำการยิงปืน ผมเป็นหมวดสุดท้ายที่จะได้ยิงปืน ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนๆ กลางพื้นทรายไปก่อน ผมรู้สึกเบื่อและเหนื่อยมากๆ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็ดูเหนื่อยไม่แพ้กัน มัน 2 คนไม่ค่อยพูดอะไร ได้แต่นั่งเฉยๆ แบบเซ็งๆ มีแต่ไอ้เด่นที่ยังดูกระตือรือร้นอยู่ เรานั่งรอกันนานมากจนผมสงสัยว่าทำไมหมวดแรกๆ ถึงได้ยิงปืนกันช้าขนาดนี้ ก็ดีเหมือนกัน พวกผมจะได้พักยาวๆ ผมนั่งต่ออีกซักพัก ครูฝึกก็เรียกผมไปบริเวณยิงปืน เราต้องรับปืนแบบเดียวกับเมื่อวานและทำการยิงในท่าต่างๆ เหมือนที่ฝึกไปเมื่อวาน แต่วันนี้เป็นการยิงด้วยกระสุนจริงๆ มีเป้าเรียงรายอยู่ด้านหน้า ไกลน่าดู มีพลยิงและคู่ฝึกเหมือนเดิม ตอนแรกผมต้องไปนั่งรอดูชุดแรกๆ ยิงก่อน เขายิงกันเสียงดังมาก จนผมต้องใส่ที่ครอบหูและเอาสำลีอุดหูไว้ พอถึงเวลาที่ผมต้องยิงเอง มันยากกว่าที่คิดไว้ซะอีก ตอนแรกผมเป็นคู่ฝึกก่อน คู่ฝึกมีหน้าที่บรรจุกระสุนให้พลยิง วันนี้ไม่ได้คู่กับไอ้อ๊อต แต่คู่กับใครก็ไม่รู้ หน้าเหี้ยมาก ผิวดำท่าทางนักเลง แต่ก็ดูแมนดี ผมบรรจุกระสุนอย่างทุลักทุเลเต็มทนเพราะไม่เคย จนพลยิงต้องพูดว่า
" ห่า เสร็จยังวะ เร็วๆ ดิมึง ช้าชิบ "
" เออ พยายามอยู่ ใจเย็นๆ อย่าเร่งดิวะ "
ผมตอบ แล้วก็พยายามบรรจุกระสุนจนสำเร็จ แล้วนั่งดูพลยิงยิง พอมันยิงเสร็จ ผมก็เปลี่ยนมาเป็นพลยิงแทน ไอ้คู่ของผมก็บรรจุกระสุนผิดๆ ถูกๆ เหมือนกัน เวรกรรมจริงๆ ก็มันบรรจุง่ายซะที่ไหนล่ะ ยากจะตายห่า แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน พอมันบรรจุกระสุนเสร็จแล้วผมก็เริ่มยิง ตอนยิงเสียงดังมากๆ และเกิดปัญหาคือ ตอนผมเล็งผมก็คิดว่าเล็งแม่นแล้ว โดนเป้าแน่นอน แต่พอยิงจริงๆ ความแรงของการยิงทำให้ปากกระบอกปืนเชิดขึ้นด้านบนเกือบทุกครั้ง และทำให้ยิงพลาดเป้า แต่ผมก็ยิงไปจนหมด 18 นัดด้วยความยากลำบาก ยิงแต่ละครั้งก็มีปลอกกระสุนกระเด็นออกมาด้วย ไอ้คู่ฝึกของผมก็ต้องพยายามตามเก็บปลอกกระสุนใส่ไปในหมวกมันให้หมดทุกอัน ตามคำสั่งของครูฝึกที่ให้เก็บปลอกกระสุนด้วย
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" ตรวจเป้าได้ "
ครูฝึกพูดขึ้น ผมมองไปที่เป้าสีขาวที่อยู่ไกลลิบข้างหน้าผม เป้าที่ผมยิงไปเมื่อกี้นี้ ความจริงตรงเป้านี้ ด้านล่างจะมีหลุมยิง และมีคนนอนอยู่ในหลุมยิงด้วย พอทุกคนยิงกันหมดแล้ว เขาก็จะเลื่อนเป้า (แผ่นที่ทุกคนยิง)มาดูแล้วเลื่อนกลับที่เดิม ใช้ไม้ที่ตรงปลายติดกระดาษสีขาวชูขึ้น เวลาครูฝึกขานแต่ละนัด อย่างเช่นขานว่า " นัดที่ 1 นัดที่ 2 " ถ้านัดไหนยิงเข้า เขาจะชูไม้ขึ้นไปตรงเป้าจุดที่เรายิงถูก ถ้าไม่ถูกเลย ยิงไปไหนก็ไม่รู้ก็จะโบกไม้ไปมา (หมายถึงยิงไม่ถูก) เป้าของผมมีทั้งชูไม้ขึ้นครั้งหนึ่ง (หมายถึงยิงถูก แต่ไม่โดนเป้าตรงกลาง) และมีการโบกไม้ไปมาด้วย (ยิงไม่ถูก) แต่รวมๆ ทั้ง 18 นัด ผมยิงเข้าเป้าไปไม่กี่นัด นอกนั้นยิงไปที่ไหนก็ไม่รู้ เออ เหี้ยจริงๆ ผมคงเป็นนักแม่นปืนไม่ได้แล้วแน่ๆ ฝีมือยิงห่วยบรมเลย
พอยิงปืนเสร็จผมรู้สึกโล่งขึ้นมาก คิดว่าผ่านด่านความยากลำบากมาได้ด่านหนึ่งแล้ว ครูฝึกให้ไปพัก ผมก็นั่งพักอยู่แถวนั้นนั่นเอง ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็นั่งลงเป็นเพื่อนผม
" ไงนาย ยิงเข้ากี่นัดวะ "
ผมถามทั้งคู่ มัน 2 คนมองหน้าผมอย่างประหลาดใจ แล้วไอ้อ๊อตก็ถามขึ้นเบาๆ
" อ้าว ไม่พูดภาษาพ่อขุนแล้วเหรอวะ เห็นเมื่อวานจ้อใหญ่เลย "
" ไม่ดีกว่าว่ะ เรากระดากปากจริงๆ ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน และเราก็ไม่ชอบด้วย เอาเหอะ ขอเราพูดแบบเดิมดีกว่านะ ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ "
ไอ้เทพยิ้มแล้วหันไปพูดกับไอ้อ๊อต
" กูนึกแล้วเชียว อย่างไอ้หนุ่มเนี่ยจะพูดภาษาพ่อขุนได้ซักกี่น้ำกัน ที่พูดเมื่อวานก็เห็นแล้วล่ะว่าดูฝืนๆ เอาว่ะ ตามใจ ไม่พูดก็ดีเหมือนกัน มันแปลกๆ ว่ะที่เห็นคนที่เรียบร้อยมาตลอดแบบนายมาพูดกูๆ มึงๆ แบบนี้ มันดูแล้วตลกๆ ยังไงพิกล "
" แต่เราว่านะ ถึงไอ้หนุ่มมันจะไม่พูดคำหยาบก็ดูไม่เหมือนตุ๊ดแต๋วอะไรหรอก หน้าตาออกจะแมนเหี้ยๆ ขนาดนั้น ไม่มีใครสงสัยหรอกว่ะ ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเป็นแค่ผู้ชายเรียบร้อยเท่านั้นแหละ จริงมะหนุ่ม "
ไอ้อ๊อตพูดกับไอ้เทพก่อนที่จะหันมาถามผม ผมหัวเราะเบาๆ
" ถูกต้องสัด คนจะเป็นแมนไม่ได้หมายความว่าจะต้องพูดหยาบเสมอไปหรอกนะ ไม่พูดหยาบก็แมนได้ 5555 "
" จริงๆ "
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพรีบสนับสนุน
...............................
หลังจากพักแล้ว หมวดของผมก็เดินกลับเต็นท์ด้วยความเหนื่อยอ่อน กลับมาถึงเป็นหมวดแรก เพราะหมวดอื่นๆ ต้องไปนอนในหลุมตรวจเป้า ครูพิชิต ครูฝึกประจำหมวดของเราก็เลยให้ช่วยกันเก็บขยะ ผมเก็บขยะไปนิดหน่อยแล้วก็นั่งลงคุยกับเพื่อนๆ ต่อ จนเกือบเที่ยงครูพิชิตก็ปล่อยให้พวกเราไปกินข้าว ตอนนี้หมวดอื่นก็ยังไม่มา ผมก็เลยซื้อข้าวมานั่งกินกับไอ้เทพ ไอ้อ๊อต และไอ้เด่น พร้อมกับคุยกันอย่างสนุกสนาน นั่งไปไม่นานหมวดอื่นๆ ถึงได้กลับมา และต่างก็แยกย้ายไปกินข้าว
....................................
ตอนบ่ายทหารเรียกรวมพลอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำการฝึก เป็นการฝึกเข้าฐานข้ามเครื่องกีดขวาง มี 10 ฐาน ดังนี้
1. กำแพง 6 ฟุตแกว่งตัว ให้ทุกคนวิ่งเร็วๆ กระโดดขึ้นกำแพงแล้วโหนเชือกลงพื้น
2. หลังคาอกไก่ เป็นแบบทางเดินลาดขึ้นแล้วก็ลาดลง ไม่สูงมาก
3. กำแพง 8 ฟุต ต้องช่วยกันดึงให้ขึ้นไปและดันตูดเพื่อให้ผ่านไปได้
4. กำแพง 10 ฟุต สูงขึ้นมาอีกหน่อย
5. แท่นกระโดด 6 ฟุต เป็นทางลาดขึ้นไปแล้วให้กระโดดลงมา
6. คูกระโดด เป็นทางเดินสูงๆ ยาวๆ เว้นร่องไว้ให้กระโดด
7. ตาข่ายทหารราบ เป็นตาข่ายสูงๆ ไว้ปีนขึ้นปีนลง
8. ชิงช้าข้ามคู 10 เมตร โหนเชือกข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง
9. สะพานต้นซุง ต้องเดินทรงตัวไปบนท่อนซุงยาวๆ
10. สะพานลอย เป็นทางไม้กระดานแผ่นเดียวสูงๆ เดินขึ้นไปหน่อยแล้วเดินลงมา สั่นได้ด้วย เสียวตก
พอฟังครูฝึกบรรยายถึงการฝึกในแต่ละฐานจบ ครูฝึกก็แผดเสียงดังลั่นว่า
" ทุกคนต้องข้ามฐานทั้ง 10 ฐานให้ได้อย่างเร็วที่สุด ! วิ่งไปแล้วห้ามหยุดนะ ถ้าครูเห็นใครหยุด หรือไม่ยอมฝึกอันไหนล่ะก็ จะให้หมอบซะให้เข็ด "
ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ก็ฐานแต่ละฐานน่ะง่ายซะที่ไหนกัน ยากเหี้ยๆ แต่ก็ต้องฝึก ครูฝึกกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะสั่งว่า
" ทั้งหมด ยืน ! "
ทุกคนลุกขึ้นยืน
" วิ่ง หน้า - วิ่ง ! "
คนหัวแถวเริ่มออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว ผมก็วิ่งตามไป และเริ่มผ่านไปทีละฐาน แต่ละฐานก็ห่างกันพอสมควร กว่าจะวิ่งไปถึงก็เหนื่อยใช่ย่อย ถึงฐานที่เป็นกำแพงผมก็หงายเงิบแล้ว เพราะข้ามไปไม่ได้จริงๆ ก็เลยแอบลักไก่วิ่งอ้อมไปอย่างไม่คิดชีวิต ไอ้อ๊อตวิ่งอยู่หน้าผม และวิ่งทิ้งช่วงห่างผมไปทุกทีๆ ผมวิ่งตามมันไม่ทัน จะตะโกนเรียกให้รอผมด้วยก็ไม่มีแรง ก็เลยต้องกัดฟันวิ่งต่อไป
" เร็วๆ ซิเว้ยไอ้ตี๋ เพื่อนมึงวิ่งไปโน่นแล้ว อย่าช้าสิสัด เร็วๆๆๆๆ กูไม่อยากสั่งหมอบมึงนะ ! "
เสียงคุ้นๆ หูดังขึ้นข้างๆ ตัว ผมหันไปมองขณะที่ตีนก็กำลังวิ่งอยู่ แล้วผมก็เห็นว่า ครูพิชิตนั่นเองที่กำลังวิ่งขนาบข้างผมอยู่ ผมฝืนยิ้มให้เขา แต่ไม่มีแรงจะพูดตอบ
" อดทนหน่อย ไอ้ตี๋ สู้ๆ กูล่วงหน้าไปก่อนนะ "
ครูพิชิตพูดอีก แล้วออกวิ่งนำผมออกไปจนห่าง ผมวิ่งจนหน้าซีด ปากคอสั่น เหนื่อยจนแทบจะขาดใจ ร้อนก็ร้อน แต่ก็พยายามวิ่งไปเรื่อยๆ พอมาแท่นกระโดด 6 ฟุต ผมเกิดนึกสนุกอยากข้ามขึ้นมาบ้าง ก็เลยกระโดดข้ามขึ้นไปถึงด้านบน แต่พอไปยืนก็ตกใจมากเพราะไม่มีทางปีนลงมา ก็เลยตัดสินใจจะกระโดดลงมา แต่แล้ว
ตุ๊บ !
ผมเกิดเสียหลักหล่นตุ๊บลงมากระแทกพื้นดินที่เต็มไปด้วยทรายอย่างจัง หน้าคะมำคว่ำลงไปกับพื้นเลอะทรายไปหมด แถมตรงนั้นยังมีกองหินคมๆ อยู่เพียบ ผมถึงกับร้องลั่นด้วยความเจ็บเพราะโดนหินบาดแขน แถมเมื่อกี้หล่นลงมาผิดท่า ทำให้ข้อตีนบิดไปทางซ้ายด้วย รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที
" โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ตีนกู ๆ "
ด้วยความเจ็บทำให้ผมลืมตัวหลุดคำหยาบออกมาเต็มๆ ไอ้อ๊อตซึ่งวิ่งอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงผมร้องก็ตะโกนว่า
" เฮ้ย ไอ้หนุ่ม เป็นไรมากมั๊ยวะ "
และมันก็หันมาเตรียมจะวิ่งมาช่วยผม ก็พอดีครูฝึก(ที่ไม่ใช่ครูพิชิต) วิ่งตามมาเห็นเข้า ก็เลยตะโกนว่า
" ไม่ต้องไปช่วยมัน ! แม่งไม่เจ็บหรอก ร่วงลงมาแค่นั้นน่ะ วิ่งต่อ ไป เร้ว ! "
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมอย่างเห็นใจ ใจหนึ่งอยากจะช่วย แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวครูฝึก ก็เลยตัดสินใจหันหลังวิ่งต่อไป ผมกัดฟันลุกขึ้นช้าๆ ครูฝึกคนนั้นมองมาที่ผม แล้วตรงเข้ามาเขกกบาลผมแรงๆ 1 ที แล้วตะคอกใส่ผมว่า
" ไปต่อได้แล้ว อย่าทำสำออย ไอ้แว่น เจ็บนิดเจ็บหน่อยทำหน้ายังกะปวดขี้ รีบไปเลยมึง ก่อนที่กูจะสั่งหมอบ เร็ว ! ไอ้ห่านี่ "
ผมหน้าบึ้งทันที แต่ก็รีบวิ่งกะเผลกกะเผลกต่อ รู้สึกเจ็บที่ข้อตีนอย่างมาก สงสัยข้อตีนจะแพลงซะแล้ว ผมวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปถึงฐานต่อๆไปด้วยความยากลำบาก มันเจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว หลังก็เคล็ด ไหล่ก็บิดเพราะตอนหล่นลงมามันหล่นแบบไม่เป็นท่าเลย ทำให้ทุกส่วนในร่างกายบิดเบี้ยวไปหมด ผมวิ่งๆ ไปไม่นานขาก็ขัดกัน ทำให้ผมล้มลงเสียงดังป้าบ ! หน้าคะมำไปกับพื้น ทรายร้อนๆ ทะลักเข้าปากผม
" อา..... แหวะ.... เค็มๆ โอ๊ยยยย ไอ้เหี้ย ใครก็ได้ช่วยกูที ข้อตีนกูหักแล้วแน่ๆ กูวิ่งไม่ไหวแล้ววว "
ผมพูดเสียงแผ่วด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย คนอื่นๆ วิ่งนำหน้าผมไปหมดแล้ว ทิ้งให้ผมอยู่รั้งท้ายคนเดียว แต่ผมก็กัดฟันลงนอน " คลาน " ไปช้าๆ ไม่กี่ก้าวพอให้รู้สึกดีขึ้น ก่อนจะสปริงตัวขึ้นเดินกะเผลกๆ ต่อ วิ่งไม่ไหวแล้ว ต้องเดินอย่างเดียว ระยะทางก็ไกลแสนไกล ฐานหลังๆ ผมไม่ได้ฝึกเลย เพราะแค่เดินผ่านก็จะเดินไม่ไหวแล้ว ต้องเดินลากขาอย่างกับคนขาหักเพราะเจ็บตีนมากๆ ตีนเคล็ดแล้ว ในที่สุดก็ผ่านมาได้หมดทุกฐาน ผมรีบเดินช้าๆมาเข้าแถวและล้มเผละลงไปตรงนั้นเลย แล้วเอามือนวดข้อตีนช้าๆ ผมรู้สึกเหนื่อยสุดขีด เจ็บตีนก็เจ็บ ปวดหลังก็ปวด หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม ต้องควักยาดมออกมาดม สารรูปของผมตอนนี้ดูไม่ได้เลย เละเทะมากเพราะคลุกดินคลุกทรายมาเพียบ แถมยังเคล็ดไปทั้งตัว คิดในใจว่าถ้าวิ่งมากกว่านี้ผมคงกระอักเลือดตายไปแล้วแน่ๆ ไม่ไหวแล้วเหนื่อยเหลือเกิน ผมคิดแล้วก็หลับตาลงด้วยความเหน็ดเหนื่อย ไอ้อ๊อตหันมามองผมแล้วพูดว่า
" เป็นไรมากมั๊ยวะ หนุ่ม หน้าซีดเชียว "
ผมลืมตาขึ้นแล้วส่ายหน้า ก่อนจะตอบเสียงแหบ
" ไม่เป็นไร เรายังไหว "
ไอ้อ๊อตไม่รู้หรอกว่า ความจริงผม "เป็นไร " อย่างมาก เจ็บไปทั้งตัว หลังก็เคล็ด ไหล่ก็บิด แขนก็เคล็ด แถมข้อตีนยังเคล็ดอีกด้วย
เวรกรรมอะไรของผมวะเนี่ย ถึงต้องเป็นแบบนี้ !

ผมนั่งพักยังไม่ทันจะหายมึนครูฝึกก็สั่งให้ลุก แล้วก็พาเดินไปที่ลานหอโดด แล้วก็ให้นั่งฟังครูฝึกคนใหม่พูดเรื่องการส่งข่าวหรืออะไรผมก็จำไม่ได้เพราะตอนนั้นไม่ได้สนใจฟังเขาพูดแล้วเพราะเจ็บตีนมาก พอครูฝึกคนใหม่พูดจบ หัวหน้าชุดฝึกก็บอกว่า
" เห็นหลายคนเหมือนจะป่วย ไม่ไหวเลยเด็กสมัยนี้ อ่อนแอชิบหาย ลำดับต่อไป ทุกคนจะต้องเดินขึ้นเขาไปยังศาลของร. 1 อีกหลายกิโล ! "
ผมฟังแล้วลมแทบจับ เหนื่อยจะตายอยู่แล้วยังจะต้องเดินไปขึ้นเขาอีกเหรอเนี่ย แถมตีนก็เจ็บขนาดนั้น ไม่ไหวแน่ๆ ความรู้สึกของผมตอนนั้นคิดว่า ถ้าไม่ไปจะได้มั๊ยนะ ก็พอดีได้ยินหัวหน้าชุดฝึกพูดต่อว่า
" สำหรับใครที่คิดว่าป่วย จะไม่ไปก็ได้ ให้แยกออกมาทางนี้ ไปหาครูพิชิต แล้วครูพิชิตจะให้นายสิบพยาบาลตรวจดูว่าเป็นอะไร แต่ถ้าใครยังไหว ก็ลุกขึ้น ! เดินมาทางนี้เลย เราจะขึ้นเขาไปด้วยกัน "
ผมคิดว่าผมคงเดินระยะไกลๆ แบบนั้นไม่ไหวแน่ๆ เพราะเจ็บตีนมากจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ก็เลยรีบเดินกะโผลกกะเผลกแยกออกมา ปรากฏว่ามีคนป่วยเกือบๆ 40 คนที่สมัครใจไม่เดินขึ้นเขา (โรงเรียนผมป่วยกันเกินครึ่ง โรงเรียนอื่นแทบไม่มีเลย ) ทุกคนมานั่งรวมกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพซึ่งไม่ได้ป่วยด้วย และตอนนี้กำลังจะเดินขึ้นเขา ก็หันมามองผม ผมยิ้มให้มันนิดนึงคล้ายๆ กับจะบอกว่า โชคดีนะเพื่อน ! มัน 2 คนก็ยิ้มตอบผมแล้วก็รีบเดินขึ้นเขา ไม่นานทุกคนก็เดินขึ้นเขาจนหมดและลับหายไปจากสายตา
ครูพิชิตเดินเข้าไปถามทีละคนว่า ป่วยเป็นอะไร ผมได้ยินแต่ละคนตอบว่า ปวดหัวบ้าง เป็นไข้หวัดบ้าง ขาเจ็บบ้าง สารพัดจะสรรหามาหลอกครูฝึก แต่ครูพิชิตก็จะพูดว่า " ไม่จริงหรอก ฟอร์มแล้วล่ะมึง " จนครูพิชิตมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม แล้วเขาก็ลงนั่งยองๆ พูดกับผมว่า
" ตีนมึงเป็นไงบ้าง ไอ้ตี๋แว่น "
ผมแกล้งทำหน้านิ่ว แสดงอาการว่าเจ็บปวดมาก ก่อนตะตอบไปว่า
" สงสัยจะขาแพลงครับ "
" ไหน ถอดรองเท้าถุงเท้าออกซิวะ ขอกูดูหน่อย "
ผมดึงเชือกรองเท้าออกแล้วจัดการถอดรองเท้าถุงเท้า ครูพิชิตเอามือจับข้อตีนผมเบาๆ ถูไปถูมาซักพัก แล้วก็กวักมือเรียกนายสิบพยาบาลให้เดินมาหา นายสิบพยาบาลเดินมาพร้อมกับถือตลับยาอะไรมาซักอย่างมาด้วยและยื่นให้ครู พิชิต ครูพิชิตส่งตลับยาให้ผม แล้วพูดว่า
" เอายานี่ทาซะ แล้วนั่งนวดไป นวดเบาๆ นะมึง เดี๋ยวก็หาย "
ผมรับยามาแล้วจัดการทาทันที ครูพิชิตยืนขึ้นแล้วเดินไปดูคนอื่นต่อ จนมาถึงคนสุดท้ายของแถวผม มันชื่อ ไอ้แมน เป็นเด็กหนุ่มผิวขาวแบบตี๋ๆ หน้าใส หุ่นล่ำ ก้นใหญ่ ครูพิชิตเดินมาหยุดตรงหน้ามัน แล้วลงนั่งยองๆ ก่อนจะจ้องตามัน ไอ้แมนไม่กล้าจ้องตาครูพิชิต มันรีบหลบสายตาทันที แต่ครูพิชิตเอามือเชยคางมันขึ้น มันสะดุ้งทันที ครูพิชิตยิ้มแล้วถามเบาๆว่า
" แล้วมึงล่ะ เป็นอะไร "
ไอ้แมนอึกอัก แล้วตอบไม่เต็มเสียง
" ไข้หวัดครับ "
ครูพิชิตเอามือแตะหน้าผากไอ้แมนเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปจับแก้ม ไอ้แมนสะดุ้งอีกครั้ง ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
ครูพิชิตยิ้มอย่างมีเลศนัย
" เฮ้ย ไม่เห็นต้องตัวสั่นขนาดนั้นเลย ไอ้ห่า ไม่ต้องกลัวเว้ย อืมมมม แต่กูว่ามึงไม่ได้เป็นไข้หวัดหรอก กูว่ามึงฟอร์มมากกว่า "
" ผมเป็นจริงๆ นะครับ "
ไอ้แมนแย้ง แล้วแกล้งไอเบาๆ ครูพิชิตไม่พูดต่อ รีบยืนขึ้น แล้วเดินกลับไปที่หัวแถว ก่อนจะตะโกนว่า
" เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนเป็นคนป่วย ก็ไม่ต้องไปขึ้นเขา เราจะกลับที่พักกันเดี๋ยวนี้ ทั้งหมด จัดแถว ! "
ทุกคนรีบจัดแถว พอเรียบร้อยแล้วครูพิชิตก็สั่งต่อ
" นิ่ง ! " ทุกคนนิ่ง
" หน้า - เดิน ! "
ทั้งหมดออกเดินกลับที่พัก
..................................
ผมเดินช้าๆ รู้สึกดีขึ้นเพราะได้ยาดีจากครูพิชิต แต่ก็ยังมีอาการเจ็บๆ อยู่บ้าง โชคดีที่ตอนขากลับ ครูพิชิตสั่งให้ทุกคนเดินช้าๆ เพราะเห็นใจคนที่ขาเจ็บอย่างผม และอีกหลายๆคนที่ขาเจ็บเหมือนกัน เราจึงใช้เวลาเดินทางกลับที่พักนานกว่าตอนขาไป แต่ในที่สุดเราก็ถึงที่พัก พอถึงที่พัก ครูพิชิตก็เรียกรวมแถว แล้วแบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม และมอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มทำ
กลุ่มแรกครูพิชิตให้ไปกวาดลานข้างห้องน้ำ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง (มีผมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย) ให้ตักน้ำมาราดพื้นดินให้ชุ่มเพื่อให้พื้นดินเย็น และนักศึกษาสามารถนั่งได้ (เพราะปกติพื้นจะร้อนมากๆ ) ผมใช้วิธียืนต่อแถวจากโรงอาบน้ำออกมา หัวแถวใช้ถังตักน้ำจากอ่างน้ำจนเต็มถัง แล้วส่งถังต่อกันมาเรื่อยๆ จนถึงท้ายแถวคนสุดท้าย ก็เอาน้ำไปราดพื้น ผมมีหน้าที่ส่งถัง นานๆ ก็สลับหน้าที่เป็นคนราดน้ำกันบ้าง เพราะการราดน้ำลงพื้นก็สนุกดี แถมยังแอบเอาน้ำมาลูบเนื้อลูบตัวให้เย็นชุ่มฉ่ำได้อีกด้วย ผมทำงานนี้อยู่ถึง 3 ชั่วโมง ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แต่ก็คิดว่า ก็ยังดีกว่าไปเดินตากแดดหัวแดงขึ้นเขาแบบคนอื่นๆ ล่ะวะ แบบนี้ดีกว่า สนุกกว่าเยอะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่เพื่อนๆ ผู้ชายกำลังทำงานอยู่อย่างขยันขันแข็ง แต่ละคนก็หุ่นดีน่าแดกกันทั้งนั้น เห็นแล้วควยโด่เลย
ครูพิชิตเดินดูทุกคนทำงานอยู่เงียบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงอาบน้ำ ไอ้แมนเป็นหัวแถว กำลังตักน้ำจากอ่างน้ำส่งให้เพื่อนอยู่อย่างขะมักเขม้น ครูพิชิตยิ้มที่มุมปากแล้วพูดกับไอ้แมนว่า
" ไหนว่าเป็นหวัดไงมึง กูไม่เห็นว่ามึงจะเป็นอะไรเลย "
ไอ้แมนยิ้มเขินๆ แล้วมองหน้าครูพิชิต พลางนึกในใจว่า ครูพิชิตแม่งโคตรหล่อเลย กูชอบหน้าตาแบบนี้อยู่แล้ว ครูพิชิตเอื้อมมือไปตบไหล่ไอ้แมนเบาๆ แล้วหันไปพูดกับคนที่ยืนข้างหลังไอ้แมนว่า
" มึงมาเป็นหัวแถวแทนไอ้นี่หน่อย มันไม่สบาย กูจะพามันไปกินยา "
" ครับ "
ไอ้คนนั้นตอบแล้วก็ขึ้นมายืนแทนที่ไอ้แมน ไอ้แมนทำหน้างงๆ ครูพิชิตก้มลงกระซิบข้างหูไอ้แมนว่า
" มึงไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น มากับกูก่อน "
ไอ้แมนก็เลยไม่พูดอะไร ครูพิชิตเดินนำหน้าไปก่อน มีไอ้แมนเดินตามมาทีหลัง ไม่มีใครมองไอ้แมนเพราะกำลังก้มหน้าก้มตากวาดพื้น หรือไม่ก็กำลังรับถังน้ำที่เพื่อนกำลังส่งต่อมาอย่างขะมักเขม้น จึงไม่มีใครมองใครอยู่แล้ว
ไอ้แมนเดินตามครูพิชิตมาที่หลังกองบก. (ที่พักของครูฝึก) ครูพิชิตยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ไอ้แมนสงสัยว่า ครูพิชิตจะพามันไปไหน ตอนนี้มันอยู่ห่างจากจุดที่เพื่อนๆ อยู่มาก ครูพิชิตพามันเดินต่อไปอีกหน่อย จนแน่ใจว่าไม่มีใครมองเห็นแล้วจึงหยุดเดิน ไอ้แมนมองไปรอบๆ บริเวณนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และสุมทุมพุ่มไม้จำนวนมาก ยากที่จะมีคนมองเห็น ครูพิชิตหันมาพูดกับไอ้แมนว่า
" มึงชอบแบบไหน "
" ชอบอะไรครับ "
ไอ้แมนถามอย่างงงๆ ครูพิชิตยิ้มแล้วตบตูดไอ้แมนเบาๆ
" รับหรือรุก "
ไอ้แมนตกใจตาเหลือก ตอบตะกุกตะกักว่า
" อ้า ผมไม่... ไม่... ไม่ได้ชอบแบบนั้นครับครู "
" โกหก ไอ้เหี้ย ! "
ครูพิชิตด่าตรงๆ ไอ้แมนหน้าซีด ครูพิชิตพูดต่อ
" มึงนึกว่ากูมองมึงไม่ออกเหรอ กูสังเกตุมึงมานานแล้ว ในห้องน้ำที่กลางป่าตรงสนามยิงปืนกูก็เห็นว่ามึงทำอะไร สายตามึงมันฟ้องว่า มึงชอบแบบเดียวกับที่กูชอบ อย่ามาปิดกูซะให้ยาก มึงชอบแบบนี้ กูรู้ "
ไอ้แมนตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ครูพิชิตเขยิบเข้ามายืนจนชิด เป้ากางเกงของเขาแนบกับเป้าของไอ้แมน แล้วครูพิชิตก็พูดช้าๆ
" จับเลยสิ ของชอบมึงนี่ จับเลย "
ไอ้แมนค่อยๆ เอื้อมมือไปจับเป้ากางเกงของครูพิชิต มันตุงออกมามากจริงๆ ไอ้แมนบีบเบาๆ ก่อนที่จะรูดซิปกางเกงของครูพิชิตลง เผยให้เห็นกางเกงในสีดำที่ตรงเป้านูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด มันรีบดึงขอบกางเกงในลง แล้วงัดควยดุ้นยาวสีดำมะเมื่อมออกมาทันที แล้วถอกเข้าถอกออกอย่างสนุก
" อา... เสียววววววววว ดีมาก ถอกไปเรื่อยๆ เลยมึง อูยยยยยยยยยย "
ครูพิชิตห่อปากด้วยความเสียว ไอ้แมนก็ทนเงี่ยนไม่ไหวอีกต่อไป มันเอามือโอบไหล่ครูพิชิตให้โน้มตัวลง แล้วประกบปากเข้ากับปากของครูพิชิต เสียงดังจ๊วบบบบบ
ครูพิชิตรีบดูดปากตอบทันที แล้วเอาลิ้นพันกับลิ้นไอ้แมน ไอ้แมนหลับตาพริ้ม มือก็ยังคงถอกควยครูพิชิตอยู่ไม่ยอมหยุด ซักพักครูพิชิตก็ถอนปากออก แล้วเอามือถอกควยตัวเองเล่น พลางถามไอ้แมนว่า
" มึงยังไม่ได้ตอบกูเลย ว่ามึงเป็นแบบไหน "
ไอ้แมนซึ่งตอนนี้เงี่ยนจัด มันควักควยออกมาจากกางเกงแล้ว และตอนนี้กำลังถอกควยขึ้นลงๆ อยู่ ตอบเสียงสั่นๆ ว่า
" รับ ครับ ผม "
" ดี ดี งั้นมึงหันหลังเลย แล้วเดินมาที่ต้นไม้ตรงนี้ "
ครูพิชิตสั่ง ไอ้แมนทำตาม มันหันหลังแล้วเดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ข้างหน้า ครูพิชิตดึงกางเกงของไอ้แมนลง ตูดขาวเนียนของมันปรากฏอยู่ตรงหน้าครูพิชิต ครูพิชิตถึงกับร้องคราง
" โหววว แม่ง ตูดมึงขาวเนียยนชิบหาย น่าเย็ดเป็นบ้า "
ครูพิชิตตบตูดไอ้แมนเบาๆ แล้วสั่งต่อ
" กอดต้นไม้เอาไว้ ไม่ต้องให้ชิดนะ อย่าให้ควยโดนต้นไม้ ถ่างขาออกเยอะๆ เดี๋ยวกูจะชักควยให้มึงไปด้วย "
ไอ้แมนรีบกอดต้นไม้ใหญ่ไว้จนแน่น ครุพิชิตล้วงครีมตลับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วละเลงครีมนั้นลงไปตรงรู ตูดของไอ้แมนจนทั่ว แล้วจึงถอกควยลงจนสุด แนบร่างเข้าไปกับตูดของไอ้แมน มือซ้ายก็สอดผ่านเอวของไอ้แมนไปจับควยท่อนใหญ่ขาวจั๊วของมันที่กำลังผงกหัว หงึกๆ รอรับการถอกอยู่ แล้วครูพิชิตก็จัดการถอกควยขาวๆ ของไอ้แมนด้วยความรวดเร็ว หัวควยไอ้แมนแดงแปร๊ด น้ำใสๆ ซึมออกมาช้าๆ
" ถ่างขาออกไปให้มากกว่านี้อีกมึง ไม่มีอะไรต้องอายกันแล้ว แหกตูดกว้างๆ นั่นอย่างงั้น ดีมาก "
ไอ้แมนและครูพิชิตถ่างขาออกเต็มที่ ครูพิชิตค่อยๆ เอาควยแหย่เข้าไปในรูตูดไอ้แมน ไอ้แมนสะดุ้งเพราะเจ็บ ครูพิชิตรีบถามก่อน
" เจ็บมั๊ยวะ "
ไอ้แมนตอบเสียงสั่นๆ
" เจ็บครับ "
ครูพิชิตรีบถอนควยออกก่อน แล้วละเลงครีมลงไปที่รูตูดไอ้แมนมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า จนตอนนี้รูตูดของไอ้แมนเต็มไปด้วยครีม และลื่นๆ แล้วครูพิชิตก็ค่อยๆ เสียบควยเข้าไปใหม่ แบบช้าๆ ไม่พรวดพราดเสียบลงไป
" คราวนี้เป็นไง ยังเจ็บอยู่มั๊ย ถ้าเจ็บต้องบอกกูนะ "
" ไม่เจ็บแล้วครับ เอาเลยครับ เอาตูดผมแรงๆ เลยครับครู ครูครับ เร็วๆ "
ครูพิชิตได้ยินดังนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ชักควยของไอ้แมนไปด้วย ไอ้แมนมั้งมันส์ทั้งเสียวร้องครางลั่น ควยขยายขนาดขึ้นแข็งโด่เป็นลำยาว เส้นเอ็นเขียวๆ ปูดโปนออกมาเต็มลำควย
" อา........... เสียวววววววว ซี๊ดดดดดด ครูครับ แรงๆ ครับครู ซี๊ดดดดดดดด เสียวตูดจังเลยครับ โอยยยยยยยยย มันส์ชิบหายเลย "
ครูพิชิตก็ใส่ไม่ยั่ง เสียงดังป้าบๆๆๆๆ รูตูดของไอ้แมนฟิตมากจริงๆ ทำเอาครูพิชิตทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่นานครูพิชิตก็ร้องขึ้นมาว่า
" โอ๊กกกกก กูออกแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย "
ครูพิชิตพูดจบก็ชักควยออกมาจากรูตูดไอ้แมน แล้วหันควยที่กำลังแข็งโด่เต็มที่ไปอีกทาง ยืนจังก้าชักควยขึ้นลงแล้วปล่อยน้ำสีขาวขุ่นให้พุ่งกระจายปรี๊ดๆๆๆๆ ออกมาจากรูควยอย่างมากมาย ไอ้แมนมองตามด้วยความทึ่งปนเสียดาย ทำไมแม่งหลั่งเร็วจังวะ กระเด้ากูไปไม่กี่ทีเอง
พอครูพิชิตหลั่งออกมาจนหมด ก็หันมาทางไอ้แมนแล้วพูดว่า
" มา กูช่วย "
และโดยที่ไอ้แมนยังไม่ทันตั้งตัว ครูพิชิตก็คุกเข่าลงดูดควยขาวๆ ของไอ้แมนทันที แล้วใช้ลิ้นเลียไปตามรูควยช้าๆ ก่อนจะแยงลงไปจนลึก ดูดหัวควยแดงๆ ของมันเร็วๆ และเน้นๆ จนไอ้แมนต้องร้องซี๊ดดดดดดด้วยความเสียวแทบจะขาดใจ
" อา..... ดีจังครับครู โอยยยยยยย เสียว วว ไม่ไหวแล้ววววววววว น้ำจะพุ่งแล้วครับ อูยยยยยยย "
ครูพิชิตได้ยินดังนั้นก็รีบครอบปากดูดลงไปจนมิดโคนควย ไอ้แมนเกร็งควยนิดนึงแล้วปล่อยน้ำหวานขาวข้นออกมาอย่างไม่ยั้ง มันพุ่งทะลุลงคอครูพิชิตอย่างรวดเร็ว ครูพิชิตรีบดูดกินน้ำกามของไอ้แมนทันที จนน้ำของไอ้แมนออกมาหมดเกลี้ยง ครูพิชิตจึงเอาปากออกจากควย แล้วกลืนน้ำกามที่ยังเหลือในปากลงคอจนหมด แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก พูดว่า
" แม่งงงง น้ำควยมึงนี่หวานจังนะไอ้ตี๋ อร่อยดี กูชอบ วันหลังมาให้กูแดกอีกนะ กูชอบแดกน้ำอาตี๋ "
" ได้เลยครับ ควยของครูก็ใหญ่ยาวใช่เล่นครับ แถมเย็ดเก่งอีกต่างหาก "
ไอ้แมนพูดขึ้นมาบ้าง มันกล้าพูดกับครูพิชิตมากขึ้น คงเพราะเห็นว่า เราเป็นพวกเดียวกันแล้ว แถมยังมีอะไรลึกซึ้งกันแล้วด้วย
" เออ "
ครูพิชิตพูดสั้นๆ แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปลายควยตัวเอง แล้วยังเช็ดปลายควยและรูตูดให้ไอ้แมนอีกด้วย จนควยและรูตูดของไอ้แมนสะอาด แล้วทั้งครูพิชิตและไอ้แมนก็แต่งตัวจนเรียบร้อยเหมือนเดิม ครูพิชิตหอมแก้มไอ้แมนทีนึง แล้วตบตูดไอ้แมนแรงๆ อีก 2 ที แล้วจึงพูดเบาๆ
" ไอ้ตี๋ มึงห้ามไปบอกเรื่องนี้กับใครนะ เก็บเอาไว้เป็นความลับสุดยอดเลย แล้วมึงจะสบายตลอดการฝึกที่เหลือนี้ กูสัญญาว่ากูจะไม่ทำโทษมึงตราบใดที่มึงไม่เอาเรื่องกูไปบอกใคร โอเคมั๊ย "
" ครับ ผมไม่บอกใครแน่นอน "
ไอ้แมนตอบ ครูพิชิตมองหน้าไอ้แมนแล้วพูดต่อ
" ไหนขอกูหอมแก้มมึงอีกทีซิ แก้มมึงนิ่มว่ะ หอมด้วย ไอ้เหี้ยเอ๊ยตี๋ๆ นี่มันน่ารักเป็นบ้าเลย กูชอบตี๋ๆ ชิบหาย เจอทีไรอดใจไม่ไหวทุกที รักมึงว่ะไอ้ตี๋ "
ครูพิชิตพูดจบแล้วก็หอมแก้มไอ้แมนติดต่อกันครั้งแล้วครั้งเล่า จนแก้มไอ้แมนช้ำ พอครูพิชิตหอมจนหนำใจ ไอ้แมนก็ถือโอกาสขอหอมแก้มครูพิชิตบ้าง ครูพิชิตก็ให้หอม ไอ้แมนรีบหอมแก้มครูพิชิตดังฟอดใหญ่หลายครั้ง ถึงแก้มครูพิชิตจะสากๆ แต่หอมแล้วก็ให้ความรู้สึกแมนๆ ดี พอทั้งคู่เริ่มคลายความอยากลงแล้ว ครูพิชิตก็สั่งว่า
" เอาละ มึงเดินกลับไปที่พักกับกู ป่านนี้เพื่อนๆ มึงคงทำงานกันเกือบจะเสร็จแล้ว เดี่ยวพวกมึงก็ได้อาบน้ำกินข้าวแล้วว่ะ "
" ครับ "
ไอ้แมนตอบสั้นๆ ครูพิชิตยิ้มแล้วเดินโอบไหล่ไอ้แมนไปจนถึงที่พัก ก่อนจะปล่อยให้ไอ้แมนไปหาเพื่อนๆ ตอนนี้ครูฝึกคนอื่นมาบอกทุกคนให้เลิกทำงานได้แล้ว ทุกคนก็เลยนั่งพักและหาที่นั่งคุยกันเงียบๆ
" ไปไหนมาวะแมน เห็นนายเดินไปกับครูพิชิต ครูพิชิตให้นายไปทำไรเหรอ "
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้แมนยิ้มๆ แล้วตอบว่า
" ไม่มีไรหรอกว่ะ เขาก็แค่ให้เราไปกวาดใบไม้หลังกองบก. ก็แค่นั้นเอง "
" เหนื่อยแย่เลยเนอะ "
ผมพูดอย่างเห็นอกเห็นใจ ไอ้แมนได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข ไม่พูดอะไรต่อ

5 โมงครึ่ง พวกเพื่อนๆ ที่เดินขึ้นเขาก็ทยอยกลับมา พวกคนป่วยที่นั่งคุยกันอยู่ก็แปลกใจว่า ทำไมกลับมาเร็วจัง เพราะตามกำหนดการเดิมที่ครูฝึกได้บอกไว้ จะต้องกลับมาราวๆ 6 โมง (ผมถามไอ้อ๊อตตอนหลังว่าทำไมกลับมาเร็ว มันก็บอกว่า ยังเดินไปไม่ถึงเลย ไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น นักศึกษาวิชาทหารทุกคนก็หมดแรงอ่อนล้าเดินไม่ไหวกันซะแล้ว ครูฝึกก็เลยให้เดินกลับ กลัวร่างกายจะรับไม่ไหว) เป็นอันว่าไม่มีใครขึ้นไปถึง ครูฝึกก็ให้พวกเราแยกย้ายกันไปอาบน้ำ การอาบน้ำก็เหมือนเมื่อวาน ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพียงแต่วันนี้ผมกล้ามองรูปร่างของเพื่อนๆ มากขึ้น เพื่อนๆ ส่วนใหญ่หุ่นจะดี กล้ามเนื้อเยอะ ผิวดำ และเป้าตุงๆ แต่ผมก็ไม่มีเวลามองนาน เพราะต้องรีบอาบน้ำให้เสร็จ ก่อนจะเดินใส่กางเกงในตัวเดียวกลับมาแต่งตัวที่เต็นท์ (ผมไม่นุ่งผ้าขาวม้า เพราะหมดความอายไปนานแล้ว ไม่มีใครนุ่งผ้าขาวม้าเดินกันซักคน ! นุ่งแต่กางเกงในเดินกันว่อนเลย ) พอแต่งตัวเสร็จก็ชวนไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และไอ้เด่นไปกินข้าว
............................
ตกกลางคืน ครูฝึกเป่านกหวีดรวมพลกันอีกครั้ง คืนนี้พวกเราต้องไปฟังการบรรยายต่อจากเมื่อวาน แต่ต้องเดินไปฟังใกล้ๆ ลานโดดหอ ก็เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ ที่ลานโดดหอมีจอหนังกลางแปลงจอใหญ่มากอยู่ด้านหน้า วิทยากรที่มาพูดวันนี้พูดน่าเบื่อ ไม่สนุกเลย ตอนท้ายๆ ของการบรรยายมีการฉายสไลด์ และวีดีโอประกอบการบรรยาย ก็ดูกันเพลินๆ จำอะไรไม่ได้เลย อากาศกำลังเย็นสบายกำลังดี น่านอนมาก พอการบรรยายจบลง ทุกคนก็เดินกลับไปที่พัก ผมรู้สึกสบายขึ้นมาก คงเป็นเพราะเมื่อตอนบ่ายได้นั่งพักนานพอสมควร แต่ก็ยังมีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง
กลับมาถึงที่พัก พักผ่อนนิดหน่อย ครูฝึกบอกพวกเราว่า คืนพรุ่งนี้ พวกเราจะต้องไปนอนในป่า ให้เอาแต่ของที่จำเป็นใส่เป้ไป ของที่ไม่จำเป็นให้เอาใส่ถุงพลาสติกแล้วผูก เขียนหมายเลขเต็นท์เอาไว้ แล้วเอามาฝากไว้ที่กองหมวด ผมก็เลยไปซื้อถุงพลาสติกที่ร้านค้ามา 2 ถุง และซื้อผ้าปูรองนอนเอาไว้ปูนอนในป่าด้วย ผมเก็บสิ่งของเกือบทุกอย่างใส่ถุงพลาสติก ตอนแรกคิดว่าจะเอาผ้าห่มไปด้วย แต่ผมเห็นว่ามันหนักและคิดว่า ในป่าคงจะไม่หนาวเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจเอาฝากไว้ด้วย ผมเลยเอาของไปฝากไว้ 2 ถุงเลย (คนอื่นแค่คนละถุง) สิ่งที่ผมเอาใส่เป้ไปก็มีแค่ผ้าปูรองนอน และผ้าผืนเล็กๆ อีกผืนสองผืนเท่านั้น ไม่เอาอย่างอื่นไปเลยเพราะกลัวหนัก
2 ทุ่มกว่า ครูฝึกเรียกรวมอีกครั้ง สวดมนต์ แล้วแยกย้ายกันไปนอน คืนนี้ผมต้องเป็นยามด้วย ที่ค่ายนี้เขาจัดยามทุกวัน เมื่อคืนก็มียามแต่ผมไม่โดนเป็นเมื่อคืน แต่มาเป็นคืนนี้แทน เท่าที่ผมทราบ ยามจะมีหลายกะ กะละ 2 ชั่วโมง คนที่เป็นเวรกะแรกคือ 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม แล้วก็มีกะต่อไปเรื่อยๆ ไปจนกว่าจะเช้า ทุกคนต้องเป็นยาม ส่วนใหญ่ยามจะมีเป็นคู่ (เพราะนอน 2 คน) แต่ผมเป็นยามคนเดียว (ก็ผมนอนคนเดียว) คืนนี้ผมอยู่เวรยาม 5 ทุ่มถึงตี 1 ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพอยู่ยามกะที่เกือบจะเช้าเลย ก็ดี ถึงเวลาตื่นพอดี
ยามจะต้องอยู่ประจำจุดต่างๆ ดังนี้
1. หน้ากองบก.
2. รอบๆ เต็นท์ (ที่พักทั้งหมด)
3. ประตูหน้า (บริเวณถนนหลังที่พัก ร้านค้า ตลอดจนทางเดินรอบๆ เต็นท์ ) ( ผมประจำจุดนี้ครับ)
4. คลังอาวุธ
5. ห้องน้ำ (ที่เดียวกับโรงอาบน้ำ) (จุดนี้โชคดีชิบหาย ได้เข้าห้องน้ำตลอดเวลาโดยที่ไม่มีใครแย่ง ใครได้เป็นยามจุดนี้เนี่ย สบายจริงๆ)

ผมงีบไปนิดนึงจนได้ยินเสียงเพื่อนกะแรกมาเรียก เพื่อเปลี่ยนกะ ผมก็เลยถอดเสื้อนอกออก ใส่แต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวมุดออกจากเต็นท์ไป (ร้อนครับ แต่งแบบครึ่งท่อนก็คงพอ) ผมเริ่มออกเดินตรวจรอบๆ เต็นท์ก่อน ก็เจอไอ้แมนกับเพื่อนของมันที่ต้องอยู่เวรประจำรอบๆ เต็นท์ ก็เลยทักทายกันนิดหน่อย ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินตรวจต่อ ผมเดินไปเดินมาจนถึง 5 ทุ่มกว่าๆ เดินไปที่ร้านค้าเห็นเพื่อนๆ หลายคนแอบมาโทรศัพท์ตอนดึกๆ ด้วย ตอนแรกพวกเขาเห็นผมเดินมาก็ตกใจ นึกว่าครูฝึก (เพราะผมตัวใหญ่ ล่ำ เหมือนครูฝึก) แต่พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ทุกคนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ใครคนหนึ่งพึมพำออกมาว่า
" นึกว่าครูฝึก ที่แท้ก็ยามนี่เอง เอ้า โทรต่อเว้ยพวกมึง "
ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร อยากจะโทรศัพท์ก็โทรได้ตามสบาย (ยามจะไปทำอะไรได้) ก็เลยเดินกลับมาเดินตรวจแถวๆ เต็นท์อีก ผมเห็นบางเต็นท์มีรองเท้ากองอยู่นอกเต็นท์หลายคู่มาก ทำให้ผมนึกอย่างเสียวไส้ว่า ในเต็นท์กำลังทำอะไรกันอยู่ ต้องมีหลายคนอยู่ในนั้นแน่ๆ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของหัวหน้าชุดฝึกที่สั่งกับยามทุกคนว่า
" ถ้าพวกมึงเห็นเต็นท์ไหนดูเหมือนว่าคนในเต็นท์กำลังเอากันล่ะก็ พวกมึงต้องปรามๆ มัน ให้มันนอนไปซะ ด้วยการทำแบบนี้ เตะเต็นท์แม่งเลย เชื่อเหอะ มันไม่กล้าออกมาทำอะไรพวกมึงหรอก เพราะพวกแม่งกำลังเย็ดกันอยู่ บางทีแม่งอาจจะแก้ผ้าอยู่ด้วย ไม่เชื่อพวกมึงลองทำดูสิ "
เต็นท์นั้นมีเสียงซู้ดซี๊ดดังออกมาด้วย ผมเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงเหมือนคนกำลังกินของเผ็ดเลย ซี๊ดซ๊าดๆ อย่างสะใจ อย่างนี้ชัวร์เลย กำลังเย็ดกันอยู่แน่ๆ ผมนึกสนุกอยากจะแกล้งพวกมันบ้าง ก็เลยเตะแรงๆ ไปที่ข้างๆ เต็นท์ เสียงดังปึ๊ก !
มีเสียงเอะอะออกมาจากในเต็นท์ว่า
" เฮ้ย เหี้ย ทำเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้สัตว์ "
ผมสะดุ้ง กลัวคนในเต็นท์จะออกมาต่อยผม ก็เลยยืนนิ่งรอดูท่าทีซักพัก ..... ปรากฏว่า คนในเต็นท์ไม่ออกมา ด่าผม แต่แม่งก็ไม่กล้าออกมา
ชัวร์ กำลังแก้ผ้าอยู่เลยไม่กล้าออกมาแน่ๆ ผมนึกขำในใจ แต่ก็เข้าใจหัวอกเกย์ด้วยกัน ก็เลยเดินหนีไปเต็นท์อื่น อีกเต็นท์ได้ยินเสียงปับๆๆๆ อย่างชัดเจน แม่งเอ๊ย เย็ดกันดังชิบหาย ต้องปรามกันหน่อยแล้ว ผมก็เลยเตะไปตรงข้างๆ เต็นท์อย่างแรงทีนึง เสียงดังป้าบ!
" อีสัตว์ อีเหี้ย เตะหาพ่อมึงเหรอ "
" อย่ามาเสือกกับกูไอ้เหี้ย แม่ง "
เสียงด่าด้วยถ้อยคำถ่อยๆ 2 เสียงดังออกมาจากในเต็นท์คนละที เสียงแรกเป็นเสียงกะเทย แต่เสียงที่ 2 เป็นเสียงผู้ชาย เกย์กับกะเทยเย็ดกันนี่เอง เหี้ยจริงๆ และแน่นอน ทั้งคู่ไม่กล้าออกมาจากเต็นท์เหมือนกัน ผมยิ้มแล้วตัดสินใจเลิกพฤติกรรมแบบนี้ ไม่อยากจะกวนใจแล้ว อยากทำอะไรก็ทำไปเหอะ ตามสบาย ผมคิดแล้วก็นั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่แถวนั้น นั่งไปซักพัก ผมก็รู้สึกปวดเยี่ยวอย่างมาก ก็เลยตัดสินใจจะแอบหนีไปเข้าห้องน้ำที่โรงอาบน้ำ
.................................
ผมเดินมาถึงโรงอาบน้ำ ไอ้เด่นยืนเงกอยู่ข้างหน้า ผมยิ้มด้วยความดีใจที่ได้เจอเพื่อน รีบเดินเข้าไปตบไหล่มันทันที ไอ้เด่นสะดุ้งตื่นแล้วจ้องหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ แล้วพูดว่า
" ไง ไอ้หนุ่ม เป็นยามเหรอมึง "
ผมพยักหน้า แล้วมองการแต่งตัวของไอ้เด่น มันแต่งครึ่งท่อนเหมือนผม เสื้อนอกไม่ใส่ ใส่แต่เสื้ออ่อนกับกางเกงขายาวสีเขียวแก่ เป้ากางเกงตุงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
" เออ กูอยู่ประตูหน้า มึงอยู่ห้องน้ำเหรอ สบายเลยนี่ จะขี้จะเยี่ยวทำได้ตลอด ไม่มีใครด่า "
ไอ้เด่นยิ้ม ก่อนจะตอบ
" เออ กูอยู่ห้องน้ำกับเพื่อน แม่งขี้อยู่ กูเองเมื่อกี้ลองขี้ดู แต่ก็ขี้ไม่ออก แม่งเหี้ยสัดๆ อ่ะ ปวดขี้ชิบหายแต่ดันขี้ไม่ออก "
ผมไม่พูดอะไร เดินเข้าไปที่โถเยี่ยวทันที เพราะปวดเยี่ยวจนท่อจะแตกอยู่แล้ว พอไปถึงก็รูดซิปควักควยออกมาปล่อยน้ำทิ้งออกจากร่างกายทันที เสียงดังจ๊อกๆ
ขณะที่ผมกำลังเยี่ยวอยู่อย่างสบายอารมณ์อยู่นั้น ผมก็รู้สึกเหมือนมีมือมาจับตูดผม มือไอ้เด่นแน่ๆ ผมก็เลยพูดเย้ามันว่า
" ห่าไอ้เด่น มึงอย่าแกล้งกูดิวะ จับตูดกูทำไม กูเสียวนะ อย่าแกล้งเว้ยๆ กูจะเยี่ยว เดี่ยวก็เยี่ยวรดซะเลยนี่ "
แต่มือของไอ้เด่นไม่ยอมหยุด กลับจับตูดผมแน่นขึ้นแล้วบีบแรงๆ แถมยังควานหารูตูดผมด้วย จนผมแปลกใจ ร่างของไอ้เด่นค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนแนบเข้ากับแผ่นหลังและตูดของผม ผมรู้สึกได้ถึงร่างล่ำๆ อุ่นร้อนที่แนบอยู่ด้านหลัง ผมรีบร้องเสียงดัง
" เฮ้ย ไอ้เหี้ยเด่นมึงทำอะไรของมึงวะเนี่ย ปล่อยกูก่อน กูยังเยี่ยวไม่เสร็จ ทำอะไรวะเฮ้ย อย่าดิวะ "
ผมรีบสะบัดๆ ควยและกำลังจะเก็บเข้าไปในกางเกง ก็พอดีไอ้เด่นยื่นมือของมันมาดึงมือผมไว้ไม่ให้เก็บ จนมือผมหลุดออกจากควย แต่กลับเป็นมือของไอ้เด่นเองที่จับควยที่ห้อยต่องแต่งของผมเอาไว้ได้ และโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ไอ้เด่นก็จับควยที่ยังอ่อนๆ ของผมชักขึ้นชักลงอย่างรวดเร็ว ผมตกใจมาก ขยับปากจะถามแต่ความเสียวที่ลำควยกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมพูดไม่ออก ควยอ่อนๆ ของผมกลับแข็งโด่ขึ้นอย่างเร็วและตั้งผงาดฟ้าอย่างท้าทาย เส้นเลือดปูดโปนออกมาเต็มที่ ลำควยยาวใหญ่ตรงปลายเป็นหัวดอกเห็ดแดงแจ๋ ไอ้เด่นเอามือถอกหนังหุ้มควยผมเข้าออกๆ อย่างสนุกมือ เผยให้เห็นหัวควยที่มันวาวอย่างชัดเจน จนผมถึงกับร้องครางไม่เป็นภาษา
" อา.......ซี๊ดดดดดดดดด เย็ดเคี่ยม เสียวควยโว้ยยยยย ไอ้เด่น ที่แท้มึงก็ชอบแบบนี้เองเหรอวะ เพื่อน นึกว่าชายแท้ซะอีกก ซี๊ดดดด เสียวควยชิบหายเลย ถอกแรงๆ เลย "
แทนคำตอบ ไอ้เด่นกลับบดขยี้ลำควยในกางเกงของมันเข้ากับตูดของผมอย่างจงใจ มือก็สาวลำควยผมไปด้วย จนน้ำผมจะออกอยู่แล้ว ผมรีบร้องห้ามเสียงหลง
" เฮ้ยยยย หยุดชักก่อนเว้ย ไอ้เหี้ยยยยยยยยย น้ำกูจะไหล ทำนบกูจะแตก แม่งงงงงงง กูเสียวเหลือเกินว่ะ โอยยยยย ควยกูแข็งชิบหายเลย "
ไอ้เด่นซุกหน้าลงไปตรงลำคอขาวๆ ของผมแล้วไซ้อย่างหื่นกระหาย พร้อมๆ กับขบติ่งหูผมเบาๆ ด้วย ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว มือของไอ้เด่นดึงกางเกงขายาวของผมลงไปกองกับพื้น แล้วรูดกางเกงในของผมลงเช่นกัน ก่อนที่จะลูบคลำไข่แฝด 2 ใบของผมเล่นอย่างมันส์มือ ผมเกร็งควยขึ้นด้วยความเสียว ควยของผมผงกหัวหงึกๆ อย่างเสียวจัด ไข่ 2 ใบที่ห้อยอยู่แกว่งไกวไปมา แต่ไอ้เด่นรวบไข่ทั้ง 2 ใบไว้ในอุ้งมือ แล้วสะกิดบอกผมว่า
" หันมาหน่อยสิมึง กูอยากกินไข่ "
ผมหันหลังกลับมา ไอ้เด่นรีบก้มลงคุกเข่าเอาปากห่อพวงไข่ของผมเข้าไปในปากหมดทั้งพวง ไข่ขาวๆ 2 ใบอยู่ในปากของมันแล้ว แล้วไอ้เด่นยังดุนไข่แฝดของผมเล่นอย่างสะใจอีกด้วย !

ตอนที่ 15

" อา...... เสียววววควยจังเลยมึงงงง ซี๊ดดดดด นั่น ดูดไข่กูเลย "
ผมร้องครางด้วยความเสียว ไอ้เด่นดูดไข่ผมเล่นนานพอสมควรก่อนจะเอาปากออก แล้วถลกเสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวของผมขึ้น บรรจงเอาลิ้นเลียที่หัวนมสีดำของผมอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน มันเลียหัวนมข้างซ้ายแล้วก็ข้างขวา ก่อนจะลากลิ้นจากหัวนมลงมาถึงสะดือ ผมถึงกับครางลั่นเมื่อไอ้เด่นเอาลิ้นฉกไปตรงสะดือและลากลิ้นลงมาตามไรขนจน ถึงหมอยนุ่มๆ ของผม มันเอามือลูบหน้าท้องแบนราบที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามของผมช้าๆ ผมรู้สึกผ่อนคลายมาก จึงหลับตาลงอย่างมีความสุข มือก็ลูบหัวเกรียนๆ ของไอ้เด่นไปด้วย ท่อนล่างของผมเปลือยเปล่าแล้วตอนนี้ รองเท้าถุงเท้าของผมถูกถอดเหวี่ยงออกไปจนหมดแล้ว
ปัง!
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ผมสะดุ้งเฮือก ไอ้ไก่ เพื่อนของไอ้เด่น (คนที่ผมคิดว่าเป็นชายแท้) ก้าวออกมาจากห้องน้ำ แล้วหันมาจ้องหน้าผม ผมตกใจมากรีบสะกิดหัวไหล่ไอ้เด่นให้หยุดการกระทำของมันชั่วคราวแล้วบอกว่า
" เหี้ย พอก่อน.. เพื่อนมึงมองกูอยู่ "
ไอ้เด่นลุกขึ้นยืน แล้วกวักมือเรียกไอ้ไก่ให้เดินเข้ามาหา ไอ้ไก่เดินเข้ามาช้าๆ ตาจับจ้องไปที่ควยของผม และก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไรออกไป ไอ้ไก่ก็ยื่นมือมาดึงควยผมเล่นเบาๆ แล้วพูดกับผมว่า
" ชอบแบบนี้ด้วยเหรอวะหนุ่ม กูไม่ยักรู้มาก่อนเลย "
ผมอ้าปากค้าง คนที่ผมคิดว่าเป็นชายแท้ กลับกลายเป็นว่า ชอบแบบเดียวกับผมเหรอเนี่ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด !
ไอ้ไก่ไม่รอช้า รีบคุกเข่าลงห่อปากดูดควยของผมทันที ผมก็รีบแอ่นควยกระแทกปากของมันด้วยความรวดเร็ว ไอ้ไก่ดูดหัวควยผมเสียงดังจ๊วบๆๆ ก่อนจะอ้าปากกว้างดูดลงไปจนมิดลำควย
" อา.......... ดูดเก่งชิบหายเลยมึง "
ผมร้องคราง ไอ้เด่นยืนมองยิ้มๆ แล้วเดินไปข้างหลังผม คุกเข่าลงเช่นกันแล้วแหกรูตูดผมออก แล้วใช้ลิ้นเลียรูตูดผมช้าๆ ก่อนจะรัวลิ้นเร็วขึ้นๆ เป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้มากขึ้นอีกเท่าตัว ผมทั้งเสียวทั้งจั๊กจี้ ถึงกับทนไม่ไหวอีกต่อไป
" อูยยยยยยยยย เสียวรูตูดชิบหายเลย มึงง..... ทำไมพวกมึงถึงได้เก่งกันแบบนี้วะ แสดดดด กูไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย "
ไอ้เด่นเลียรูตูดผมไปซักพักนึงแล้วก็ยืนขึ้น สะกิดไอ้ไก่ ไอ้ไก่รีบถอนปากออก แล้วยืนขึ้นบ้าง แล้วโน้มตัวมาประกบปากกับผมทันที ลมหายใจร้อนๆ ของไอ้ไก่รดปากผม บ่งบอกถึงความเงี่ยนอันมากมายในตัวของมัน ไอ้ไก่ใช้ลิ้นสอดเข้าไปในปากผมจนลึก แล้วดูดปากผมอย่างเมามันส์ ส่วนไอ้เด่นก็คุกเข่าลงดูดควยผมต่อจากไอ้ไก่ ไอ้เด่นดูดไม่เก่งเท่าไอ้ไก่ แต่ก็ทำให้ผมเสียวควยได้มากขึ้นไปอีก สักพักไอ้เด่นก็ถอนปากออกจากควยผม ส่วนไอ้ไก่ก็ก้มลงไปดูดควยผมต่ออีกอย่างไม่นึกรังเกียจ ไอ้เด่นกระซิบที่ข้างหูผมว่า
" ขอกูเล่นตูดมึงหน่อยได้มั๊ยวะ "
ผมสะดุ้ง ขณะที่อัดควยเข้าปากไอ้ไก่จนมิดโคนอย่างสะใจ แล้วรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
" เฮ้ย ไอ้ห่า ไม่เอา กูไม่ให้เว้ย กูไม่ชอบให้ใครเล่นตูด "
" น่า นิดเดียวน่า ขอกูเถอะ "
" พูดไม่รู้เรื่องเหรอมึง กูบอกไม่เอาเว้ย "
ไอ้เด่นพยายามอ้อนวอนขอเล่นตูดผม แต่ผมไม่ยอมท่าเดียวเพราะไม่ชอบ จนในที่สุดไอ้เด่นก็ยอมแพ้
" เออ เออ ตามใจ ไม่ให้เล่นก็ไม่เป็นไร งั้นกูเล่นควยมึงอย่างเดียวก็ได้ "
ขณะที่ไอ้เด่นพูดอยู่นั้น ผมก็เสียวควยจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะไอ้ไก่ดูดเก่งเหลือเกิน ผมรีบพูดกับมันว่า
" เฮ้ย พอก่อน เลิกดูดก่อน เดี๋ยวน้ำกูออกก่อนจะไม่สนุก "
ไอ้ไก่ได้ยินดังนั้นจึงยอมลุกขึ้น แล้วปลดเข็มขัดถอดกางเกงขายาวและกางเกงในรวมทั้งรองเท้าถุงเท้าออก จนท่อนล่างของมันเปลือยเปล่า ควยดำๆ ขนาดไม่ใหญ่นักตั้งโด่เด่อยู่ตรงหน้าผม ไอ้เด่นรีบก้มลงดูดควยไอ้ไก่ทันที
" อูยยยยยย เสียวววววว "
ไอ้ไก่ร้องครางเบาๆ ผมมองหน้าไอ้ไก่ หน้ามันไม่ถือว่าหล่อ ออกจะชาวบ้านๆ ถึกๆ แต่ก็มีเสน่ห์พอสมควร รูปร่างมันก็ดี หุ่นสมส่วน ขายาวแขนยาว กล้ามขึ้นเป็นมัดๆ ผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไป รีบถลกเสื้อของมันขึ้นแล้วดูดเลียหัวนมดำๆ ของมันทันที ก่อนจะลูบหน้าท้องกร้านแดดของมันไปมาด้วยความเงี่ยนจัด
ไอ้เด่นดูดควยไอ้ไก่อยู่นานก่อนจะถอนปากออก ผมรีบพูดเสียงดัง
" ขอกูมั่ง ! "
ว่าแล้วผมก็ดูดควยไอ้ไก่ต่อทันที ควยไอ้ไก่ขนาดกำลังดีดูดง่ายมาก หัวควยเล็ก แต่ลำควยแข็งมาก ไข่ก็ลูกเล็กสีดำสนิทห้อยโตงเตงอยู่ตรงหว่างขา ผมทั้งดูดทั้งเลียควยมันก่อนจะฉกลิ้นไปตรงไข่ขวาของมันเร็วๆ ไอ้ไก่ยืนส่ายไปมาด้วยความเสียว ขาสั่นพั่บๆ
ไอ้เด่นซึ่งตอนนี้ถอดกางเกงและรองเท้าถุงเท้าออกหมดแล้ว กำลังยืนสาวควยขึ้นลงๆ จนแข็งเต็มที่ แล้วมันก็พูดว่า
" ไก่ มึงเกาะขอบอ่างได้แล้ว "
ไอ้ไก่ดึงควยออกจากปากผม แล้วเดินไปที่อ่างอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่นักศึกษาทุกคนตักน้ำจากอ่างนี้อาบน้ำ ตอนเย็นทุกวัน ยืนถ่างขาเอามือเกาะขอบอ่างเอาไว้แน่น ผมนั่งขัดสมาธิข้างๆ ไอ้ไก่ มือก็จับควยของไอ้ไก่รูดขึ้นรูดลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความเสียวให้กับมัน ไอ้เด่นยืนอยู่ข้างหลังไอ้ไก่ มันเอามือแหกตูดไอ้ไก่ออก แล้วเอาเควาย (ที่มันเอาติดตัวมา) ละเลงจนทั่วรูตูด แล้วถอกลำควยลงจนสุด เสียบพรวดเข้าไปในรูตูดของไอ้ไก่ด้วยความรวดเร็ว มันเสียบง่ายมากจนผมแปลกใจ สงสัยตูดของไอ้ไก่ต้องหลวมมากแน่ๆ ถึงได้เสียบง่ายขนาดนี้ ไอ้เด่นเสียบเข้าไปจนสุดแล้วก็เริ่มโยกเข้าโยกออกช้าๆ ก่อนจะเริ่มโยกเร็วขึ้นๆ พวงไข่ใหญ่ๆ ของไอ้เด่นกระแทกง่ามตูดไอ้ไก่อย่างเร็วและแรง
เสียงควยกระแทกรูตูดดังปั่บๆๆๆๆๆ
ไอ้ไก่ครางเสียงหลงด้วยความเสียว ไอ้เด่นรีบโยกควยเข้าออกๆ เร็วขึ้นๆ ผมมองด้วยความทึ่งปนเสียว ในขณะที่มือซ้ายก็ยังสาวควยไอ้ไก่ไปด้วย ไอ้เด่นได้จังหวะจึงเอาควยบดขยี้รูตูดไอ้ไก่ทันที ก่อนจะถอนควยออกมาช้าๆ แล้วยัดพรวดลงไปใหม่อีกครั้ง มันทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา ไม่นานมัน 2 คนก็เปลี่ยนท่า ไอ้ไก่นอนหงาย ยกขาทั้งสองพาดไว้บนไหล่ของไอ้เด่น ไอ้เด่นจับขาของไอ้ไก่ไว้แล้วเสียบรูตูดสดๆ จากทางด้านล่าง เสียงดังปั่บๆๆๆ ผมมองดูแล้วสุดจะทนไหว รีบถอกควยออกจนหัวควยสีชมพูดสดบานแดงเถือก แล้วเอาไปจ่อไว้ที่ปากของไอ้ไก่ แล้วพูดว่า
" รูล่างมึงโดนไปแล้ว รูบนก็โดนนี่มั่งนะ "
พูดจบผมก็ยัดควยเข้าปากไอ้ไก่ไปทั้งลำ แล้วกระแทกลำควยเข้าออกๆ ในปากของไอ้ไก่บ้าง ไอ้ไก่ก็ดูดควยผมช้าๆ ขณะเดียวกันก็รับแรงกระแทกของไอ้เด่นไปด้วย เวลาผ่านไปนาน ไอ้เด่นก็กลั้นต่อไปไม่ไหว หลังจากกระเด้าควยเข้ารูตูดไอ้ไก่มานานหลายสิบนาที มันรีบชักลำควยลื่นๆ ออกมาจากรูตูดของไอ้ไก่ แล้วก็ระเบิดน้ำกามขุ่นข้นหวานมันออกมาจากรูควยทันที น้ำกามพุ่งกระฉูดลงไปตรงหน้าท้องเปลือยของไอ้ไก่ที่นอนหงายอยู่อย่างแรง และแตกกระจายออกเป็นวงกว้าง กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว ไอ้เด่นรีดน้ำกามออกมาจนหมด แล้วหันไปจัดการกับควยไอ้ไก่โดยการถอกเข้าออกๆ อย่างมันส์มือจนควยไอ้ไก่แข็งเป็นหิน ส่วนผมก็รีบกระแทกลำควยเข้าปากให้ไอ้ไก่ดูดอย่างเอาเป็นเอาตาย จนในที่สุดน้ำกามของผมก็กำลังจะแตก ไอ้ไก่รีบคายควยผมออกมาทันที ไม่ให้น้ำผมออกในปาก ผมก็เลยเอารูควยไปจ่อไว้ที่หน้ามัน แล้วน้ำกามเหนียวข้นของผมก็ระเบิดออกเต็มหน้าของไอ้ไก่เลย ผมรีบชักควยเข้าออกๆ ให้น้ำกามหลั่งออกมามากที่สุด ไอ้ไก่มันนอนหงายอยู่ด้วย จะเอี้ยวหลบไปทางไหนผมก็จ่อควยไปที่หน้ามันได้ มันก็เลยต้องรับน้ำกามผมไปเต็มๆ ตอนนี้หน้าของไอ้ไก่จึงเต็มไปด้วยน้ำกามขาวๆ เหนียวๆ เยอะๆของผมเลอะเทอะไปหมด ไอ้ไก่ด่าลั่น
" ไอ้เหี้ยยยยยยย เลอะหน้ากูหมดแล้วววววว "
วินาทีนั้นนั่นเอง ไอ้ไก่ก็เกร็งควยด้วยความเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว น้ำกามคาวๆ ถูกปล่อยออกมาด้วยความรวดเร็ว ไอ้เด่นรออยู่แล้ว พอไอ้ไก่ปล่อยน้ำออกมาปุ๊บ มันก็ครอบปากลงไปที่ควยพอดี แล้วดูดกินน้ำกามของเพื่อนจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือเลยแม้แต่หยดเดียว ไอ้ไก่ครางลั่น
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด กูเสร็จแล้วววววววว "
ไอ้เด่นดูดควยไอ้ไก่จนไอ้ไก่หลั่งออกมาหมดไส้หมดพุง แล้วควยเริ่มอ่อนลงแล้วจึงเอาปากออก ผมรีบยืนขึ้น มองหน้าไอ้ไก่ที่เลอะด้วยน้ำกามผมอย่างสะใจ แล้วพูดว่า
" ขอบใจมากนะพวกมึง กูสนุกมากเลย ไอ้ไก่ควยมึงหวานมาก กูชอบ ไว้ขอกูดูดอีกนะ "
แล้วผมก็วักน้ำในอ่างล้างควยผมจนสะอาด แล้วรีบใส่กางเกงนอกกางเกงใน รวมทั้งถุงเท้ารองเท้า แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทันที ไอ้เด่นฉุดไอ้ไก่ให้ลุกขึ้น แล้วต่างคนต่างก็ล้างควยทำความสะอาดกันจนเสร็จ แล้วจึงแต่งตัว ไอ้ไก่ล้างหน้าเสร็จก็บ่นยิ้มๆ
" แม่ง เล่นปล่อยน้ำใส่หน้ากูเลย กว่าจะล้างออกหมดแทบตาย ไอ้เหี้ยเอ๊ย ชาติหมา "
" แต่มึงก็ชอบไม่ใช่เหรอวะ "
ไอ้เด่นถามยิ้มๆ เช่นกัน ไอ้ไก่หน้าแดงแล้วตอบเขินๆ
" รู้ทันกูไปหมดทุกอย่างเลยนะมึง เออ กูชอบ แม่งเสียวสะใจแบบแมนๆ ดี ไป ไปยืนยามต่อกันเหอะ "
ไอ้ไก่พูดแล้วก็กอดคอไอ้เด่นเดินออกจากโรงอาบน้ำเพื่อไปยืนยามต่อ
.................................
6 ทุ่มกว่า
ผมเดินไปเดินมาอีกหลายรอบ รู้สึกหนาวก็เลยกลับไปที่เต็นท์เอาเสื้อนอกมาใส่ เลยกลายเป็นว่าผมแต่งชุดฝึกเต็มยศเลย ค่อยหายหนาวลงหน่อย ผมรู้สึกดีขึ้นมาก เดินไปเดินมาหลายรอบจนชักเมื่อยก็เลยนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิม บรรยากาศเงียบและวังเวงมาก เวรยามคนอื่นๆ ที่เดินตรวจรอบเต็นท์ (ไอ้แมนและเพื่อน) หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ ไม่เห็นเลย ยามตรงจุดอื่น (เช่นที่กองบก. และคลังอาวุธ) ก็ไม่รู้ว่ายังอยู่หรือเปล่าเพราะผมขี้เกียจเดินไปดู มองออกไปไกลๆ เห็นยามที่ห้องน้ำ (ไอ้ไก่และไอ้เด่น) ยังยืนอยู่ก็รู้สึกอุ่นใจ ผมนั่งเงียบๆ อยู่นาน รู้สึกเหงามากๆ เพราะเป็นยามประตูหน้าคนเดียว ก็เลยเดินตรวจรอบๆ เต็นท์อีกครั้งแก้เหงา เพื่อนๆ ส่วนใหญ่หลับกันหมดแล้ว ดูแล้วก็น่าสงสารคงจะเหนื่อยกันมาก ผมเองก็ทั้งง่วงทั้งเพลียจนจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อกี้หลั่งน้ำกามออกไปตั้งเยอะ ยิ่งรู้สึกเพลียมาก อยากจะหลับ แต่ก็ต้องฝืนถ่างตาไว้ไม่ให้หลับ ผมเดินกลับมานั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง รอเวลาเปลี่ยนกะ ตรงนี้เงียบมาก ไม่มีเสียงใดๆ เลย ผมก็ได้แต่นั่งรอๆ และก็รอ อากาศก็หนาว ผมได้แต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ รอเวลาเปลี่ยนกะอย่างเดียว
อีก 5 นาทีตี 1 จะหมดกะของผมแล้ว ผมรีบไปเรียกเพื่อนกะต่อไปให้มาอยู่เวรยามต่อ ส่วนผมก็กลับเข้าเต็นท์ ถอดเสื้อนอกออก ได้เวลานอนซะที ! คืนนี้ยืมไฟฉายไอ้อ๊อตมาก็เลยส่องหาของได้สะดวก ผมถอดรองเท้าถุงเท้าออกจนหมดเพราะว่ามันอับเหลือเกิน ผมล้มตัวลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย อ่อนเพลียสุดชีวิต อยากจะพักผ่อนซะหน่อยเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินเข้าป่าแต่ช้ามืด
ผมหลับสนิทไปด้วยความรวดเร็ว ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศในคืนนั้น

" อือออ กี่โมงแล้ววะเนี่ย "
ผมพูดพลางพลิกตัวไปมาช้าๆ แล้วเอามือขยี้ตาเพื่อให้หายจากอาการง่วง แล้วควานหานาฬิกาข้อมือที่ถอดทิ้งเอาไว้ก่อนนอน พอเจอแล้วก็หยิบขึ้นมาแล้วคลานออกไปส่องดูเวลานอกเต็นท์ ตี 4 แล้ว
ผมยังอยากจะนอนต่อ แต่ก็กลัวจะนอนเพลินจนแต่งตัวไม่ทัน ก็เลยคว้าแปรงสีฟันและยาสีฟันลุกออกจากเต็นท์เดินไปที่โรงอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว
ที่โรงอาบน้ำมีคนยืนอยู่พอสมควร ทุกคนยังอยู่ในชุดครึ่งท่อน ต่างก็กำลังแปรงฟันและล้างหน้ากันอย่างขะมักเขม้น ผมก็รีบล้างหน้าแปรงฟันเหมือนกัน ไอ้เด่นซึ่งแปรงฟันเสร็จแล้วและกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่หันมาเห็นผมเข้าก็ ร้องทัก
" ไง ไอ้หนุ่มหัวเกรียน แปรงฟันเสร็จแล้วเหรอวะมึงน่ะ วันนี้ต้องไปลุยป่ากันแล้วนะเว้ย พร้อมยัง ๆ "
ท่าทางและน้ำเสียงขึงขังของไอ้เด่น ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
" พร้อมแล้วว่ะ เออ มึงมานี่หน่อยสิ กูอยากจะถามอะไรซักหน่อย "
ไอ้เด่นเดินเข้ามาหาผม ผมกอดคอมันแล้วหันหลังให้กับคนอื่นๆ ก่อนจะกระซิบถามมันเบาๆ ว่า
" ถามจริงๆ เหอะ เรื่องเมื่อวานน่ะ มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็น "
ไอ้เด่นยิ้มแก้มแทบปริ แล้วตอบช้าๆ
" โด่ ! นึกว่าจะถามอะไร กูมองตามึง กูก็รู้แล้วว่ามึงเป็น กูรู้ตั้งแต่วันแรกที่กูคุยกับมึงแล้ว สายตามึงปิดกูไม่ได้หรอกเพื่อน มันฟ้องออกมาว่า มึงน่ะ ชอบแบบเดียวกับกู "
" สุดยอดเลยมึง มึงดูกูออกได้ไงวะ กูล่ะเชื่อมึงเลย "
" ก็เรามันพวกเดียวกัน ทำไมจะดูไม่ออกวะ "
ผมยิ้มเมื่อได้ยินมันพูดแบบนี้ แล้วจึงหันหลังกลับ ก่อนจะตบไหล่ไอ้เด่นเบาๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูมันช้าๆ แต่นุ่มนวล
" ไปแต่งตัวกันเหอะ เดี๋ยวก็ได้เวลาไปแล้ว "
" โอเค "
ไอ้เด่นตอบ แล้วทั้งผมกับไอ้เด่นก็แยกย้ายกันกลับไปแต่งตัวที่เต็นท์
................................
ปรี๊ดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นในเวลาไม่นานนัก ทุกคนรีบวิ่งมายังลานรวมพลทันที หัวหน้าชุดฝึกให้ทุกคนไปรับปืนมาคนละ 1 กระบอก แล้วเริ่มออกเดินจากเต็นท์เข้าไปในป่าทั้งๆ ที่ยังมืดมาก ผมเดินไปด้วยความยากลำบากมากเพราะมันมืดจริงๆ มองทางก็ไม่ค่อยจะเห็น ทางที่เดินไปก็ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ต้นไม้ก็ขึ้นเยอะ บางช่วงต้องข้ามสะพานด้วย เสียวตกจริงๆ โชคดีที่ครูฝึกประจำหมวดเอาไฟฉายส่องที่พื้นไปตลอดทางเลยพอเห็นทางบ้าง เดินไปนานๆ ชักเมื่อยขา แต่ผมก็กัดฟันเดินต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าไกลมาก เดินไปเดินมากลับหลงกับหมวดของตนเอง ทำไงดีเนี่ย ก็เลยเดินมั่วๆ ตามหมวดไหนไปก็ไม่รู้จนกระทั่งถึงที่หมาย พอถึงที่หมายก็พยายามหาหมวดของตนเองเข้า กว่าจะเข้าหมวดถูกก็แทบแย่ ครูฝึกให้เราวางสัมภาระไว้ที่ลาน แล้วให้ไปรับข้าวที่ " ตำบลจ่ายอาหาร " คราวนี้พวกเราทุกคนต้องแดกข้าวหลวงเพราะไม่มีร้านค้าอยู่แถวนี้แล้ว ก็เลยรับข้าวที่ใส่จานหลุมๆ มาให้เสร็จ เอามานั่งแดกกับเพื่อนๆ ตรงพื้นเลอะๆ ตรงนั้นเอง อาหารก็ไม่น่าแดกเลยซักนิด เป็นน้ำพริกเละๆ และข้าวแข็งๆ ผมกระเดือกแทบไม่ลง แต่ก็ฝืนยัดๆ เข้าปากไปเพื่อให้มีแรงฝึก แถมครูฝึกที่ตักข้าวให้ผมก็ตักให้ผมซะเยอะจนแดกไม่หมด แต่ผมก็พยายามยัดแต่ข้าวเปล่าๆ เข้าปากให้มากที่สุดเพื่อจะได้มีแรง แดกเสร็จแล้วก็ต้องล้างถาดเอง โดยเอาถาดไปจุ่มในน้ำ 1 และจุ่มน้ำ 2 ต่อ แล้วก็เอาไปล้างในกะละมังใส่ผงซักฟอก สุดท้ายก็เอาถาดที่ล้างแล้วไปจุ่มในน้ำร้อน ก่อนจะเอาไปวางไว้ตรงที่ใส่ถาด เสร็จแล้วก็เดินไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม และนั่งรอเวลาทำการฝึกในภาคเช้า
เช้านี้เราต้องทำการฝึก 3 สถานี แต่ละสถานีก็โหดๆ ทั้งนั้น เริ่มจากสถานีแรกคือ " บุคคลทำการรบในเวลากลางวัน " ซึ่งสถานีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 สถานีย่อย คือ การจัดรูปขบวนรบ การพราง และการระวังข้าศึก ผมเข้าฝึกในสถานีการจัดรูปขบวนรบก่อน การจัดรูปขบวนรบเป็นการจัดการวางกำลังในสนามรบ แต่ละหมู่มีกำลัง 11 นาย ประกอบด้วย
- ผู้บังคับหมู่
- หัวหน้าชุดยิง ก
- หัวหน้าชุดยิง ข
- พลยิงปืนเล็ก
- พลยิงกระสุน 1
- พลยิงกระสุน 2
- พลยิงเครื่องยิงจรวด
- พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. เอ็ม 203
- พลยิงปืนเล็กอัติโนมัติ (ปล./ อ)
- พลนำสาร 1
- พลนำสาร 2
เป็นการจัดกำลังพลที่แปลกๆ ไปหน่อย แตกต่างจากที่ผมเคยเรียนมา แต่ก็ช่างมันเถอะ แต่วันนี้เป็นแค่การซ้อมทำการรบ (จะรบจริงวันพรุ่งนี้!) ครูฝึกก็เลยยังไม่ได้กำหนดตำแหน่งให้เรา เพียงแต่พูดให้ฟังเฉยๆ หลังจากนั้นก็ต้องฝึกการเคลื่อนที่ในสนามรบ ครูฝึกตะโกนเสียงดังว่า
" ต่อไปเป็นการฝึกเดิน วิ่ง โผ หมอบ คลานสูง คลานต่ำ และลอดลวดหนาม ทุกคนต้องฝึกกับคู่ฝึกของตนเอง เรียกว่า " เงา " ไปไหนต้องไปด้วยกันตลอด จะทำอะไรต้องทำเหมือนๆ กันทุกอย่าง เริ่มจากจุดนี้ ไปสิ้นสุดที่ชายป่าด้านโน้น ทั้งหมด ลุก! "
ทุกคนลุกขึ้นยืนทันที ครูฝึกให้ทุกคนดึงแขนเสื้อที่พับขึ้นไว้เอาลงมาปิดแขนและข้อศอกให้หมดเพื่อ ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บตอนฝึก ตอนนี้เลยดูเหมือนทุกคนใส่เสื้อแขนยาวอยู่ แล้วครูฝึกก็เป่านกหวีดให้สัญญาณ แล้วตะโกนว่า
" ไปได้ ! "
ผมวิ่งเข้าไปประกบคู่กับคู่ฝึกของผมทันที คู่ฝึกของผมเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆ ชาวบ้านๆ ออกแนวกร้านๆ ผิวดำๆ แต่ก็ไม่มีเวลามองหน้ากันนานเพราะต้องรีบฝึก ตอนแรกครูฝึกให้พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆก่อน แล้วจู่ๆ ครูฝึกก็ตะโกนว่า
" หมอบ ! "
ผมกับคู่ฝึกรีบล้มตัวลงนอนหมอบทันที แล้วครูฝึกก็สั่งต่อ
" คลานสูงไปจนถึงรั้วลวดหนามข้างหน้า เร็วๆ เลยมึง เร็วๆๆๆๆ !!!! "
ผมรีบคลานสูงโดยใช้ข้อศอกคลาน โดยขยับศอกซ้ายสลับกับศอกขวาคลานไปเรื่อยๆ เป้ากางเกงและร่างกายท่อนล่างแนบไปกับพื้นสากๆ ทำให้ผมรู้สึกทรมานยิ่งนัก ผมคลานสูงไปอย่างรวดเร็วจนถึงลวดหนาม เป็นลวดหนามจริงๆ เลยนะครับ มีแค่เส้นเดียว แต่ลวดหนามคมกริบจนผมขนลุก แล้วก็ขึงไว้สูงจากพื้นดินแค่นิดเดียวเท่านั้น พอทุกคนคลานมาหยุดอยู่ตรงหน้าลวดหนามแล้ว ก็ได้ยินครูฝึกสั่งต่อ
" นอนหงายลอดไป แล้วลุกขึ้นโผไปที่กอไม้ข้างหน้าของแต่ละคน เร็ว! "
ผมพลิกตัวเป็นนอนหงาย แล้วลอดผ่านลวดหนามไปอย่างทุลักทุเล (เสียวโดนควย) เสร็จแล้วก็รีบโผไปที่กอไม้ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่าคู่ฝึกของผม เขาโผมาถึงก่อนหน้าผมอีก พอผมมาถึงเขาก็พูดว่า
" อย่าช้าดิวะ เร็วๆ หน่อย กูอยากไปให้ถึงที่หมายจะแย่อยู่แล้ว กูเหนื่อย "
" เออ "
ผมตอบไปแค่นั้น ตอนนี้สภาพภูมิประเทศโล่งกว้างกว่าเดิม ไม่เหมาะกับการคลานสูงอีกต่อไปแล้ว
" คลานต่ำไปจนถึงลวดหนามเส้นต่อไป เร็วๆๆๆ อย่าช้า ไอ้ห่าเอ๊ย "
เสียงครูฝึกสั่งต่อ ผมรีบนอนคว่ำแล้วลงคลานต่ำทันที คลานต่ำจะแตกต่างกับคลานสูงตรงที่ใช้ข้อศอกคลานไม่ได้ แต่จะต้องนอนคลานโดยทำตัวให้แนบกับพื้นดินมากที่สุด แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยใช้แขนทั้ง 2 ข้าง ประกอบกับใช้ขาขวายันเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เป็นการคลานที่ยากและเคลื่อนที่ไปได้ช้ากว่าคลานสูง ผมค่อยๆ คลานต่ำไปอย่างทุลักทุเลมากกว่าตอนคลานสูง จนถึงลวดหนามแล้วจึงพลิกตัวลอดไปได้อีกครั้ง
" เสร็จแล้วโผไปตามจุดที่ปักไม้เอาไว้ เร็ว ! "
ผมรีบโผไปยังพุ่มไม้ที่เขาปักไม้อาไว้ทันที การโผคือการวิ่งเป็นระยะทางสั้นๆ แบบเร็วๆ ไปตามจุดโน้นจุดนี้ พอวิ่งไปถึงพุ่มไม้นั้นก็รีบล้มตัวนอนราบไม่ให้ครูฝึกเห็นตัว ผมโผไปโผมาจนปวดไปหมดทั้งตัว แต่ก็ต้องอดทน พอพ้นจากเขตโผไปแล้วคราวนี้เจอรวมมิตรเลย เพราะครูฝึกออกคำสั่งให้พวกเราทำทุกอย่าง ทั้งวิ่ง หมอบ คลาน โผ คลานสูง คลานต่ำ ไปเรื่อยๆ ไม่มีการหยุดเลย สลับกับลอดลวดหนามที่มีอยู่ตลอดทาง
" คลานสูงสิวะ เร็วๆ สิไอ้ตี๋ มึงคลานหรือมึงกระเด้าพื้นอยู่วะเนี่ย ! "
" ลงคลานต่ำ เร็วๆ เอ้า หมอบ กูบอกให้หมอบยังจะคลานอยู่อีก มึงนี่ ! "
" โผมาที่จุดนี้ แล้วลอดลวดหนามไปเลยมึง อย่าช้า ! "
" คลานน่ะแหกขากว้างๆ ไปเลย นั่นอย่างนั้น ดีมากมึง เอ้าๆ เร็วๆ เข้าหน่อย เว้ย ! "
" หมอบสัดหมอบ หมอบลงไปก่อน ทำทีว่ากำลังหลบลูกระเบิดน่ะมึง แล้วเดี๋ยวค่อยคลานต่อ "
เสียงครูฝึกที่วิ่งอยู่ข้างๆ สั่งผ่านโทรโข่งไม่ยอมหยุด ผมทั้งวิ่ง ทั้งโผ ทั้งคลานจนเจ็บระบมไปทั้งตัว ครูฝึกสั่งอะไรก็ต้องทำทุกอย่าง
" รอกูด้วยสิวะ "
ผมพูดกับคู่ฝึกของผมพลางหอบแฮ่กๆ ขณะที่วิ่งไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมวิ่งช้ากว่าเขา และกำลังวิ่งไล่หลังเขาอยู่
" มึงก็เร็วๆ ดิวะ "
คู่ฝึกของผมพูดแล้วก็ฉุดข้อมือผมให้วิ่งไปพร้อมๆ กับเขา ก็พอดีครูฝึกสั่งให้หมอบ เรา 2 คนรีบหมอบลงไปทันที เขามองหน้าผมแล้วพูดว่า
" เอางี้ มึงช้าแบบนี้ มึงวิ่งหน้ากูเลยดีกว่า "
พอดีครูฝึกสั่งให้วิ่งต่อ เขาก็เลยยืนขึ้นแล้วผลักผมให้วิ่งไปข้างหน้า แล้วเขาวิ่งประกบอยู่ข้างหลัง เวลาที่ผมวิ่งช้าลงเขาก็จะคอยดุนหลังผมไว้ไม่ให้ความเร็วตก ทำให้ผมวิ่งได้เร็วขึ้นๆ เพราะมีเขาคอยช่วยจี้หลังผมไว้ให้ ถ้าผมวิ่งเซ (เพราะเหนื่อย) เขาก็คอยดึงแขนผมไว้ไม่ให้ผมเซ ผมก็ช่วยเขาเหมือนกันเวลาที่เขาคลานช้าโดยการเอาแขนช่วยดันแผ่นหลังแข็งๆ ของเขาให้ตัวของเขาเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วขึ้น เป็นอันว่าเรา 2 คนต่างคนต่างช่วยกันฝึกไปด้วยกัน ร่วมกันฝึกเคียงบ่าเคียงไหลกันตามวิถีแห่งคนกล้า
นี่แหละ น้ำใจของลูกผู้ชาย จะแสดงออกมาในยามคับขันแบบนี้เสมอ
ก่อนจะถึงที่หมายครูฝึกสั่งให้ทุกคนต้องวิ่งเป็นระยะทางไกลมากแบบเร็วๆ ไม่ได้หยุดพัก ( ประมาณว่ากำลังหนีข้าศึก) ผมวิ่งจนขาลาก เหนื่อยสุดขีด แต่ในที่สุดก็ถึงที่หมาย ระยะทางไม่ถึงกับไกลมาก แต่พอทุกคนไปถึงก็หมดแรงกันไปตามๆ กัน พอถึงที่หมายแล้ว ครูฝึกก็ให้นั่งพัก คู่ฝึกของผมถึงกับนอนแผ่หราลงไปเลยเพราะเหนื่อยมาก เขานอนกางแข้งกางขาอ้าซ่าแล้วหลับตา ผมรีบกระเถิบลงไปดูรอยต่อตรงเป้ากางเกงของเขาทันที เขาใส่กางเกงแบบพอดีตัวค่อนข้างฟิต ทำให้ผมเห็นเป้ากางเกงส่วนล่างของเขาอย่างชัดเจน มันตุงออกมามากผิดปกติ แสดงว่าไข่ของเขาต้องพวงใหญ่มากแน่ๆ มันถึงได้ตุงพองออกมาได้อย่างนี้ ผมมองแล้วก็กลืนน้ำลายดังเอื๊อก! ชอบแบบนี้จัง แขนขาของเขายาวเก้งก้าง ผมมองแล้วก็ยิ้มๆ ตอนแรกผมเองก็นั่งพักเฉยๆ ทำท่าว่าจะไม่หายเหนื่อยก็เลยนอนแผ่กับเขาบ้าง ยอมเลอะใบไม้ (เพราะตอนนี้ก็เลอะจะแย่อยู่แล้ว) เอาหมวกมาเป็นหมอน มีคนนอนแผ่ตามผมและคู่ฝึกกันหลายคน เรานอนแผ่ไข่กันอยู่แป๊ปนึง ครูฝึกก็เรียกให้พวกที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่ง ห้ามนอน พอลุกขึ้นมาครั้งนี้ผมรู้สึกสบายขึ้นมาก คราวหลังถ้าเหนื่อยมากๆ ผมจะนอนแผ่แบบนี้อีก ผมหันไปพูดกับคู่ฝึกที่กำลังหาวหวอดๆ อยู่ว่า
" ขอบใจมากนะมึง ที่ช่วยกูตอนกูอยู่ในสนามรบ "
คู่ฝึกของผมยิ้มแบบกวนตีน ก่อนจะตอบด้วยท่าทางที่กวนตีนไม่แพ้กัน
" เออ ไอ้สัตว์ ไม่เป็นไร มึงก็ช่วยกูไม่น้อยเหมือนกัน ไอ้หน้าตี๋ "
ผมหัวเราะแล้วเอามือลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆ อย่างหลงใหล กลิ่นตัวแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ คนนี้ชายแท้แน่ๆ ผมคิดในใจ เขาก็ไม่ว่าอะไร ยอมให้ผมลูบหลังไปเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งพักกันอย่างสบายใจ รอเวลาให้ครูฝึกเรียกไปฝึกต่อยังสถานีที่ 2

ตอนที่ 17

นั่งพักกันพอหายเหนื่อย ผมและเพื่อนๆ ก็แบกปืนเดินไปที่สถานีที่ 2 การพราง ที่ตั้งของสถานีนี้อยู่ในป่าลึก สถานีนี้ไม่เหนื่อย ทุกคนนั่งฟังครูฝึกอธิบายวิธีการพรางหน้าพอเข้าใจ แล้วครูฝึกก็ให้พรางหน้า โดยใช้สีฝุ่นสีดำทาให้ทั่วหน้าจนดำพรืดไปหมด สีฝุ่นที่ใช้กันมี 3 สี คือ แดง ดำ และเหลือง ครูฝึกกำหนดให้แต่ละหมวดพรางหน้าด้วยสีที่แตกต่างกัน หมวดของผมใช้สีดำ ซึ่งผมไม่ชอบเลยเพราะมันสกปรกที่สุด ถ้าเป็นสีเหลืองยังจะพอสะอาดกว่า แต่ผมจะทำไงได้ ก็เลยจำใจเอามือกอบสีฝุ่นสีดำขึ้นมาจากอ่างจนเต็มกำมือแล้วโปะไปจนทั่วหน้า เน้นตรงโหนกแก้มและคาง ไอ้อ๊อตและไอ้เทพรวมทั้งเพื่อนๆ ทุกคนในหมวดก็ทำแบบเดียวกับผม ในไม่ช้าหน้าของทุกคนก็ดำปี๋ ครูฝึกยังสั่งอีกว่า ห้ามล้างออกจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ! แย่จริงๆ เลย พอทุกคนพรางเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็ให้ทุกคนฝึกการซุ่มดูข้าศึกตามสุมทุมพุ่มไม้อีกซักพักใหญ่ แล้วจึงค่อยเดินไปสถานีที่ 3
สถานีที่ 3 เป็นสถานีการระวังข้าศึก ทุกคนต้องไปซุ่มดูข้าศึกที่กำลังจะมุ่งหน้ามาทางเรา เราฝึกกันเป็นคู่ คราวนี้ไอ้แมนเป็นคู่ฝึกของผม ครูฝึกให้ผมกับไอ้แมนเดินไปนั่งซุ่มเงียบๆ อยู่ที่พุ่มไม้ แล้วคอยสังเกตุข้าศึก เรา 2 คนต้องบันทึกรายละเอียดของข้าศึกที่กำลังจะเข้าโจมตีเราให้ได้มากที่สุด ทั้งลักษณะของข้าศึก เวลาที่ข้าศึกมา สถานที่ที่ข้าศึกอยู่ อาวุธที่ข้าศึกถือ ฯลฯ ผมกับไอ้แมนนั่งซุ่มดูอยู่เงียบๆ พักหนึ่ง เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาหลายคน แต่เห็นไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ไกลมาก แต่พอจะรู้ว่า ข้าศึกเป็นนักศึกษาวิชาทหารด้วยกันนี่แหละ แต่ละคนถือปืนแบบเดียวกับที่ผมและเพื่อนๆ ถือ ผมพยายามเพ่งมองและพูดลักษณะของข้าศึกให้ไอ้แมนฟัง ไอ้แมนเป็นคนจดบันทึกในสิ่งที่ผมพูด
" มองไม่ค่อยเห็นเลยว่ะ สัด อยู่ไกลชิบหาย แต่รู้ว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ดำๆ หัวเกรียน เดินแบกปืนไปมา แล้วก็อีกคนเป็นผู้ชายผอม สูง แขนยาว อืมมมม เฮ้อ เดินไปเดินมาแบบนี้เวียนหัวว่ะ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร แม่งตัวดำๆ เหมือนกันหมดเลย "
ไอ้แมนพยายามจดตามที่ผมพูด พอจดเสร็จมันก็เงยหน้าขึ้นจากกระดาษถามผมว่า
" แล้วพวกมันหล่อมั๊ยวะ เป้ามันตุงมั๊ย นายมองเห็นรึปล่าว "
ผมหัวเราะ แล้วตอบว่า
" 555 ถามเหี้ยไรวะ เออ หล่อทุกคนว่ะ ข้าศึกทุกคนคิ้วเข้ม หัวเกรียน หุ่นดี เป้างี้ตุงออกมาเป็นก้อนเลย เราชอบว่ะ อยากดูดควยแม่งทุกตัวเลย เฮ้ย ตรงนี้นายอย่าจดลงไปนะ "
ไอ้แมนยิ้มและเขยิบมานั่งจนชิดผม วางกระดาษกับปากกาลงกับพื้น แล้วเอามือโอบไหล่ผมแข็งๆ ของผมไว้ แล้วบีบเบาๆ ปากก็พูดช้าๆ
" แล้วเราล่ะหนุ่ม หล่อสู้พวกมันได้มั๊ย "
ผมสะดุ้ง กลัวคนอื่นเห็นว่าไอ้แมนกำลังโอบไหล่ผมอยู่ ก็เลยรีบแกะมือมันออกจากไหล่แล้วกระซิบเบาๆ
" เออ นายหล่อ แต่อย่าทำอย่างงี้ เดี๋ยวคนอื่นเห็นนะเว้ย จดต่อๆ "
ไอ้แมนยอมหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมา ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครเห็นการกระทำของไอ้แมนเมื่อกี้ แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเพราะรู้สึกว่ามีมือสากๆ ล้วงจากทางด้านข้างมาคลำตรงเป้ากางเกงผมพอดิบพอดี เนื่องจากตอนนี้ผมกับไอ้แมนนั่งอยู่กับพื้นในท่า " นั่งกางขา " อันเป็นท่าที่ครูฝึกสั่งให้ทุกคนนั่ง คือนั่งแล้วยืดขาไปข้างหน้าแล้วจึงชันเข่าขึ้นและกางหว่างขาออกจนกว้างเพื่อ ให้ทรงตัวได้ดี ( แบบรูปตัว V กลับหัว ) ตรงหว่างขาจึงกางอ้าซ่า เมื่อทุกคนนั่งท่านี้ สิ่งที่อยู่ภายในเป้ากางเกงซึ่งก็คือท่อนเอ็นก็จะต้องโด่ขึ้นฟ้าและไข่ก็จะห้อยลงระพื้นตามธรรมชาติ เพราะว่าท่านั่งมันเปิดเผยแบบนี้ ไอ้แมนจึงล้วงมาจับของสงวนของผมได้อย่างง่ายดาย มันกำลังเอามือลูบไล้ไปมาตรงเป้ากางเกงผมพอดี คลำไปคลำมาจนเจอท่อนเอ็นทั้งท่อนตั้งเด่อยู่ในกางเกง มันรีบเอามือรูดท่อนเอ็นนั้นทันที จนผมต้องร้องครางเบาๆ
" ซี๊ดดดดดดด นายจับโดนท่อนควยเราจังๆ เลยเพื่อน โอยยย เสียวววววววว "
ผมเคลิ้มไปนิดนึง เพราะไอ้แมนรูดเป้าควยของผมเก่งมาก ยิ่งรูดก็ยิ่งเสียว ถึงบางทีจะรูดไม่ถูกนักเพราะเป็นการรูดผ่านเนื้อผ้า แต่ผมก็ตั้งสติได้ รีบดึงมือไอ้แมนออกทันที แล้วพูดเสียงเข้ม
" พอก่อนเว้ย เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น ไว้ค่อยเล่นกันใหม่ ตรงนี้ไม่เหมาะ "
ไอ้แมนไม่พูดอะไร รีบหยิบกระดาษมาจดบันทึกต่อ ไม่นานครูฝึกก็ประกาศให้ปิดสถานการณ์ (จบการฝึกการระวังข้าศึก) แล้วทุกคนก็ออกเดินทางต่อไป
ผมและเพื่อนๆ เดินมาหยุดที่จุดต่อไปเพื่อพักเหนื่อย ครูฝึกประจำจุดให้พวกเรานั่งพัก อากาศร้อนมาก ครูฝึกประจำจุดนี้ใจดี หน้าตาท่าทางออกสาวนิดหน่อย เขาเล่าเรื่องตลกๆ ให้พวกเราฟัง สอนให้พวกเราดูฉี่ดูอึของคนให้เป็น โดยเขาพูดถึงความแตกต่างระหว่างฉี่ของผู้หญิงกับฉี่ของผู้ชาย และฉี่ของคนท้อง เขาสามารถแยกได้หมด ส่วนอึนั้นเขาก็ดูรู้อีกว่า อึกองนี้ผ่านมากี่วันแล้ว น่าแปลกมากที่เขารู้ได้ขนาดนั้น ผมและเพื่อนๆ นั่งฟังเขาเล่าเพลินๆ พอให้หายเครียด แล้วครูฝึกก็ให้พวกเราเดินกลับไปยังที่ตั้งกอง เพื่อกินข้าวหลวง ผมยังคงเหนื่อยอยู่ แต่ไม่เหนื่อยเท่าเมื่อเช้า สงสัยร่างกายคงจะปรับให้แกร่งขึ้นมาบ้างแล้ว ผมรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาก ไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ค่อยเพลียเหมือนวันแรกๆ ที่เริ่มฝึก
พอเรากินข้าวเสร็จ ครูฝึกก็ให้พวกเราใช้บริการของ " หน่วยบริการความสดชื่น " ซึ่งก็คือร้านขายน้ำ ร้านขายน้ำนี้ต้องถือว่าเป็นสวรรค์ของพวกเราจริงๆ เพราะมันทำให้พวกเราหายเหนื่อยและสดชื่นขึ้นมาก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุราวกับอยู่กลางทะเลทราย ผมซื้อน้ำมาดื่มขวดหนึ่ง รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก นั่งพักกันอีกแป๊ปนึง ครูฝึกก็เรียกรวม เพื่อทำการฝึกในภาคบ่าย
ช่วงบ่ายนี้เราต้องฝึกอีกสถานีหนึ่ง คล้ายๆ กับสถานีที่ 1 ต่างกันตรงที่สถานีนี้มีป้ายบอกหมายเลขให้ยืนตามตำแหน่ง และเคลื่อนพลทีละหมวดเป็นแถวหน้ากระดาน ไอ้เด่นอยู่หัวแถว ผมอยู่ท้ายแถว ทุกคนต้องโผ หมอบ คลานสูง คลานต่ำ วิ่ง และลอดลวดหนามอีกครั้งตามสัญญาณนกหวีด พื้นที่ที่ทำการฝึกเป็นที่โล่งแจ้งไม่เหมือนกับสถานีที่ 1 ที่เป็นป่าค่อนข้างทึบ พื้นก็เต็มไปด้วยหินทรายร้อนๆ สยองน่าดู แต่ก็ต้องฝึก
ปี๊ด !
ครูฝึกเป่านกหวีดสั้นๆ แล้วก็ตะโกนว่า
" คลานสูง ! "
ผมรีบนอนลงคลานสูงทันที รู้สึกได้ถึงทรายร้อนๆ ที่สัมผัสกับร่างกายท่อนล่าง มันร้อนสุดๆ เลย ผมกัดฟันคลานไปด้วยความยากลำบาก ไหนจะหนักปืนที่ถือมาตลอดตั้งแต่เช้า แม้แต่ตอนคลานก็ยังต้องถืออยู่ แล้วยังต้องดูเพื่อนๆ ที่คลานในระนาบเดียวกัน เพื่อให้คลานได้ระนาบพอดีกันไม่ล้ำหน้าอีก ลำบากจริงๆ
ครูฝึกเป่านกหวีดอีกครั้งหนึ่งแล้วสั่งต่อ
" ลุก ! วิ่ง ! "
ผมลุกขึ้นแล้ววิ่งด้วยความรวดเร็ว
" หมอบบบบบบบบบบบ ! "
ตอนนี้ไม่ว่าทุกคนจะวิ่งไปถึงตรงไหน ต่างก็รีบล้มตัวลงหมอบทันที แล้วครูฝึกก็สั่งให้ลุก วิ่ง แล้วก็ให้หมอบ คลานต่ำไปเรื่อยๆ และก็ลุกขึ้นวิ่งอีก ก่อนจะคลานสูงบ้าง ฯลฯ เป็นอย่างนี้ไปตลอดทาง ผมเหนื่อยแทบจะขาดใจ มือก็ถูกหินครูดเป็นแผลเลือดไหลหลายครั้งแล้ว เจ็บแต่ก็ต้องทน แถมอาการปวดขาเนื่องจากอุบัติเหตุในวันที่สองก็ยังไม่หายดีอีกด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานเหลือเกิน
" เหยาะแหยะชิบหายเลยเว้ย อะไรวะ จะหมอบจะคลานชักช้าอืดอาดจริงๆ คลานให้มันกว่านี้สิโว้ย เร็วๆ ๆๆๆ !! ไอ้แว่นมึงก็คลานเร็วๆ สิวะ ห่าเอ๊ย "
ครูฝึกเร่งผมใหญ่ ผมกัดฟันพยายามคลานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เหงื่อไหลย้อยลงมาจากหน้าผากลงมาเข้าตา 2 ข้างของผมไม่ยอมหยุด แสบตาเหี้ยๆ แต่ก็ไม่มีเวลาแม้จะเอามือเช็ด หลังของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหนื่อยสุดยอดจริงๆ ผมหันไปมองดูเพื่อนคนอื่นๆ ทั้งไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้เด่น ไอ้แมน และไอ้ไก่ ทุกคนกำลังตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ แม้ว่าทุกคนจะมีสีหน้าที่ไม่สู้จะดีนักก็ตาม คลานไปเรื่อยๆ จนถึงลวดหนามเส้นยาวเหยียด ปราการด่านสุดท้ายของการฝึก ผมรีบพลิกตัวนอนหงายเอาปืนวางไว้ที่ร่องหว่างขาแล้วลอดข้ามไปด้วยความคล่อง แคล่ว ทุกคนลอดได้อย่างพร้อมเพรียงกันจริงๆ ครูฝึกมองอย่างพอใจแล้วตะโกนว่า
" ถึงที่หมายแล้ว พักได้ ! "
ผมรีบลุกขึ้นยืนทันที ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพรีบเดินเข้ามาหา ผมคุยกับมันสองสามคำแล้วก็ชวนกันไปใช้บริการของ หน่วยบริการความสดชื่น กันอีกครั้ง เรา 3 คนซื้อน้ำมานั่งดื่มกันเงียบๆ ซักพักไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็มานั่งคุยด้วย อากาศร้อนอบอ้าวมาก เราทุกคนรู้สึกเหนื่อยแบบสุดๆ หลังจากคุยกันไม่กี่คำแล้วก็พากันนั่งเงียบ เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้น ครูฝึกเดินเข้ามาตรงที่ๆ เรานั่ง แล้วพูดว่า
" ไง หมดสภาพกันแล้วเหรอพวกมึง นั่งแผ่ไข่หราเชียว วันนี้แค่ซ้อมเข้าตีนะ ยังแค่เบาะๆ พรุ่งนี้แหละของจริง พวกมึงต้องเข้าตีจริงๆ ระยะทางไกลกว่านี้มากเลย กูบอกไว้ก่อน แล้วพวกมึงจะเห็นว่า ที่ฝึกไปวันนี้ ขี้ๆ มากเลยว่ะ "
ครูฝึกพูดจบก็ตบไหล่ผมเบาๆ เพราะผมนั่งอยู่ใกล้จุดที่เขายืนพูดที่สุด ก่อนจะเดินไปพูดแบบนี้กับกลุ่มอื่นต่อ ผมมองหน้าเพื่อนๆ ไม่มีใครพูดอะไรกัน ได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อได้รู้ว่า พรุ่งนี้ต้องเหนื่อยกว่าวันนี้อีกหลายเท่า ตอนนี้พวกเราทุกคนเกือบจะหมดสภาพแล้วเพราะเหนื่อยมากจริงๆ เงียบไปพักหนึ่ง ผมก็เริ่มพูดกับไอ้อ๊อตว่า
" แม่ง พรุ่งนี้ตายแน่ๆ เลยสัด แค่วันนี้ก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว "
ไอ้อ๊อตมองหน้าผม แล้วพูดคำคมออกมาว่า
" ถ้ามึงตาย กูก็จะตายด้วย อย่างน้อย ตายในสนามรบก็ยังดีกว่าตายที่อื่นละวะ "
" กูเห็นด้วยกับไอ้อ๊อตว่ะ กูก็ยินดีตายเคียงข้างพวกมึง เพราะพวกมึงคือเพื่อนของกู "
ไอ้เด่นพูด แล้วโอบไอ้ไก่ช้าๆ ไอ้ไก่รีบซบลงไปที่ร่องอกล่ำๆ ไอ้เด่นทันที ผมมองหน้าไอ้แมน เห็นมันยิ้มให้ผม ผมก็เลยยิ้มตอบ ไม่พูดอะไรต่อเพราะพูดไม่ไหว มันเหนื่อยจริงๆ พวกเราก็เลยนั่งเงียบๆ ไปจนหมดเวลาพัก
......................
พอหมดเวลาพัก ครูฝึกก็เรียกรวมแล้วก็พาพวกเราเดินเข้าป่าไปยังสถานีต่อไป นั่นคือ สถานีการดำรงชีพในป่า (SURVIVAL) มีครูฝึกพิเศษมาบรรยาย เขาพูดสนุกดี สอนให้พวกเราดูผลไม้ สัตว์ และพืชที่เป็นพิษให้เป็น และสอนวิธีการใช้ชีวิตในป่า แถมยังสาธิตการจับงูชนิดต่างๆ ให้ดูอีกด้วย เขาจับงูเก่งมาก ทุกคนฟังด้วยความตื่นเต้นเร้าใจอยู่ตลอดเวลา บางทีเขาก็แกล้งทำเป็นจะโยนงูมาทางคนฟัง เล่นเอาพวกที่นั่งข้างหน้าอย่างไอ้เด่นและไอ้เทพวิ่งกันกระเจิงเลย ทำแบบนี้หลายครั้งอีกต่างหาก ขำมากๆ ทุกคนสนุกสนานเฮฮากันมาก ค่อยคลายความเหนื่อยจากการฝึกรบลงได้บ้าง ก็ดีเหมือนกัน
พอการบรรยายอันแสนสนุกจบลง ก็บ่ายแก่มากแล้ว ครูฝึกให้พวกเราทำอาหารแดกกันเอง เป็นการฝึกการทำอาหารแบบชาวป่า แต่ละหมู่ต้องทำอาหารแดกกันเองภายในหมู่ ครูฝึกให้หมูป่าและผักสดๆ มาหมู่ละ 1 กระป๋อง เอาไปทำกับข้าวกันเอง ผมกับไอ้แมนอาสาไปหาฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพไปหาน้ำ ส่วนไอ้เด่น ไอ้ไก่ และคนอื่นๆ ที่เหลือก็รับหน้าที่เป็นพ่อครัว ผมเดินกอดคอกับไอ้แมนไปหักไม้ฟืนที่กองสุมๆ กันอยู่แถวๆ นั้นมาเป็นจำนวนมาก เอามาทำเป็นฟืน ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเอากระป๋องไปรองน้ำจากแท็งค์น้ำ แล้วรีบกลับมาช่วยกันหุงข้าวโดยให้หม้อสนาม มีการดงข้าวด้วย ไอ้เด่นกับไอ้ไก่ช่วยกันหั่นหมูป่าเพื่อทำแกงหมูป่า คนอื่นๆ ก็ช่วยกันทำกับข้าวอย่างสุดฝีมือ ผมเองไมได้ช่วยทำกับข้าวเลยเพราะว่าผมทำกับข้าวไม่เป็น แต่ก็พยายามช่วยหั่นหมูและดงข้าว รวมทั้งเติมเชื้อฟืนให้ลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา ไม่นานข้าวก็หุงสุก แกงก็ทำเสร็จ แล้วพวกเราก็มานั่งล้อมวงตักข้าวตักแกงแดกกันตรงนั้นเลย ข้าวอร่อยดีแต่แฉะเกินไปหน่อย แกงมี 2 หม้อ หม้อหนึ่งเป็นแกงหมูป่า ไม่ค่อยอร่อยเพราะเค็มมาก อีกหม้อหนึ่งแกงอะไรก็ไม่รู้ ใส่แต่ผักเยอะมากๆ ผมกินไม่มากเพราะกินไม่ค่อยลง รสชาติของอาหารก็พิกล และผมก็ไม่คุ้นกับการกินอาหารแบบนี้ด้วย แต่ผมก็พยายามทำเป็นว่าอร่อยมาก เนื่องจากไม่อยากให้เพื่อนเสียใจ เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำกันสุดฝีมือทุกคน และดูๆ ไปเขาก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งนั้น ก็เลยต้องรักษาน้ำใจกันหน่อย
" อร่อยว่ะแม่ง มึงนี่ทำกับข้าวเก่งนี่หว่า ไอ้เด่น "
ไอ้อ๊อตพูด ขณะตักแกงเข้าปากอีก 1 ช้อน
ไอ้เด่นยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า
" ไม่ใช่ฝีมือกูคนเดียวหรอก ฝีมือพวกมึงทุกคนด้วยแหละ ก็พวกเราช่วยกันทำนี่หว่า ถ้ากูทำคนเดียวคงไม่ออกมาอร่อยแบบนี้หรอก "
เพื่อนๆ คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย แต่ไม่พูดอะไร เพราะปากกำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่
" อย่ามัวแต่คุยเลยว่ะ แดกสัด แดก แดกเยอะๆ เลย ตอนนี้เป็นเวลาแดกว่ะ แม่งหิวชิบหายเลย "
ไอ้แมนพูด เพื่อนๆ ทุกคนจึงไม่มีใครพูดต่อ ก้มหน้าก้มตาแดกอย่างตะกละตะกราม ผมมองเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ตอนนี้พวกเรารักกันมากขึ้น สามัคคีกันมากขึ้น เพราะเราใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว เราแดกด้วยกัน นอนด้วยกัน และมีอะไรด้วยกันแล้ว (มีกับบางคน) ก็เลยทำให้พวกเราสนิทกันมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะผมกับไอ้เด่น และไอ้ไก่ เราสนิทกันมากขึ้นจริงๆ
พอแดกข้าวเสร็จครูพิชิตก็เอากล้วยบวชชีมาให้ 1 กระป๋องซึ่งอันนี้พวกครูฝึกทำกันเอง รสชาติจึงอร่อยมาก พวกเราเลยแบ่งกันแดกจนอิ่มตื้อ พอทุกคนแดกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และเพื่อนคนอื่นๆ อาสาเอาหม้อและช้อนไปล้าง ส่วนผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพช่วยกันแบกปืนของทุกคนไปรออยู่ตรงที่รวมพล
.........................
ไม่นานครูฝึกก็เรียกแถว ตอนนี้เย็นมากแล้ว จากจุดที่พวกเราทำอาหารกัน เราต้องเดินกลับไปที่ตั้งของเราเพื่อไปเอาเป้สนามที่วางทิ้งเอาไว้ทาวางไว้ ที่ลานนอน ใต้ต้นไม้ คืนนี้เราต้องนอนในป่าเรียงกันเป็นแถวยาวเหยียด แบบหัวชนหัว ครูฝึกเป็นคนจัดที่นอนให้ว่าใครนอนตรงไหน ข้างซ้ายของผมเป็นไอ้แมน ส่วนข้างขวาเป็นเพื่อนโรงเรียนอื่น ผมรีบวางสัมภาระ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียว เพื่อนโรงเรียนอื่นดูหรูมาก ผ้าปูเป็นแบบพิเศษหนานุ่มผืนใหญ่มาก กินที่ผมอีก แต่ก็ดีตอนดึกๆ จะได้อาศัยนอนบนผ้าปูด้วย (ท่าทางจะนุ่มน่าดูเลยนะ) ส่วนไอ้แมนก็พันธุ์เดียวกับผม ไม่หรูแต่ติดดิน และก็แมนสมชื่อ ปูผ้าปูรองนอนสีเขียวแบบธรรมดาๆ เหมือนของผมเลย ทุกคนต่างวางเป้สนามไว้ตรงหัวนอน กะจะใช้เป้สนามต่างหมอนหนุนหัว ผมพยายามทำเป้ให้เรียบๆ จะได้นอนได้สบายหัวไม่กระเดิก
ปูผ้าเสร็จ แต่ยังไม่ทันจะจัดสัมภาระ ก็ได้ยินเสียงนกหวีดเรียกอีกแล้ว ผมต้องทิ้งสัมภาระไว้อย่างนั้นแล้วรีบคว้าปืนวิ่งไปเข้าแถวทันที เดี๋ยวนี้ปืนกลายเป็นอาวุธประจำตัวของผมและของทุกคนไปซะแล้ว ต้องแบกต้องถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมันสำคัญสุดชีวิตจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกรักปืนขึ้นมาแล้วสิครับ จากเดิมที่เกลียดเข้าไส้เพราะมันหนักโคตร!
" แถว ตรง หน้า เดิน ! "
ครูพิชิตสั่งเสียงดังปานฟ้าผ่า ผมและเพื่อนๆ หมวด 2 ทุกคนรีบเดินไปยังพื้นที่ฝึกอีกจุดหนึ่ง พอพวกเราทุกคนไปถึง ท้องฟ้าก็มืดซะแล้ว ผมเหลือบดูนาฬิกา ทุ่มครึ่งพอดี

คืนนี้เราต้องฝึก " บุคคลทำการรบในเวลากลางคืน " เริ่มด้วยการบรรยายของครูฝึกเรื่องการดูหมู่ดาวต่างๆ มีเวทีตั้งอยู่ข้างหน้า และจัดแสงสีให้เป็นรูปดาวประกอบด้วย สวยดี และยังมีการแสดงละครสั้นๆ ของครูฝึกเป็นตอนๆ ให้พวกเราดู เช่น การเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เหยียบกับระเบิด การเดินขบวนแบบเงียบๆ ในเวลากลางคืน และการตัดเหล็กที่กีดขวางทางเดินเวลาเดินทางในป่า ครูฝึกทุกคนร่วมแสดงละครอย่างเต็มที่ รวมทั้งครูพิชิตสุดหล่อของผมด้วย เขาแสดงเป็นนายทหารซุ่มซ่ามที่เผลอเหยียบกับระเบิดเข้า แล้วก็มีเอฟเฟ๊กส์เสียงตูม ! ดังขึ้นมาเหมือนเหยียบกับระเบิดเข้าจริงๆ (ทุ่มทุนสร้างน่าดู) ครูพิชิตก็ร้อง โอ๊ยๆๆๆๆ เสียงดังลั่นเหมือนเจ็บจริงๆ ดูแล้วแมนมากๆ ครูฝึกคนอื่นๆ ก็แสดงได้ดีไม่แพ้กัน ผมประทับใจรแสดงในคืนนี้จริงๆ เพราะมีความสมจริงในระดับหนึ่ง พอละครจบลง ก็มีการฝึกฟังเสียงในป่าแล้วให้ทายว่า เสียงที่ฟังนั้นเป็นเสียงอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียงของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ พวกเราก็ทายถูกซะเป็นส่วนใหญ่เพราะมันง่าย สนุกดี ไม่มีใครหลับเลย เสร็จแล้วก็เริ่มการฝึกเคลื่อนขบวนในเวลากลางคืน ทุกคนเข้าแถวเป็นแถวตอนห่างๆ พอให้คลานได้ ตอนกลางคืนนี้เราจะเคลื่อนขบวนเหมือนตอนกลางวันไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดเสียงดังและจะทำให้ข้าศึกรู้ตัว ไม่มีการโผ คลานสูง และคลานต่ำแบบที่ต้องใช้เสียงดัง จะต้องเงียบให้มากที่สุด ทุกคนทำได้แค่ค่อยๆหมอบช้าๆ แล้วก็คลานแบบเงียบๆ สุดชีวิต แล้วก็ค่อยๆ หยุด หมอบต่ออีกพักหนึ่งแล้วก็ค่อยๆ คลานต่อแบบช้าๆ ครูฝึกสั่งว่าห้ามทำเสียงดังเด็ดขาด พวกเราก็พยายามทำอย่างเงียบๆ ที่สุด คลานเสร็จแล้วก็หมอบเงียบๆ อีกครู่หนึ่งตามที่ครูฝึกสั่ง พร้อมกับเอาปืนขึ้นมาเล็งไปข้างหน้า ทำทีว่ากำลังจะยิงข้าศึก น่าแปลกที่ทุกคนตั้งใจฝึกมากราวกับกำลังรบอยู่จริงๆ ผมก็ตั้งใจฝึกไม่น้อยไปกว่าคนอื่นเลย คลานและหมอบอย่างช้าๆ ไปบนพื้นดิน แล้วจึงนอนหมอบอย่างเงียบกริบ ทุกคนไม่มีใครพูดคุยกันเลย การฝึกทำกันสั้นๆ ไม่นานมาก แล้วจึงปิดสถานการณ์ ฝึกกันแค่นั้น ไม่มีการเคลื่อนพลไปไกลๆ เหมือนรบในเวลากลางวัน ผมรู้สึกว่า ฝึกรบในเวลากลางคืนนี้ สบายกว่าฝึกรบในเวลากลางวันเยอะเลย ไม่ต้องวิ่งต้องคลานระยะทางไกลๆ ให้เหนื่อย แค่คลานในระยะใกล้ๆ แล้วก็หมอบเงียบๆ เท่านั้นเอง
พอปิดสถานการณ์แล้ว ครูฝึกก็เรียกรวมพลเหมือนเดิม แล้วให้เดินกลับลานนอน
พอเดินถึงลานนอน ก็มีการสวดมนต์ จัดเวรยาม แล้วก็เข้านอน เหล่าครูฝึกก็นอนอยู่แถวนั้นด้วย ผมวางปืนวางหมวกไว้ข้างลำตัวแล้วจึงล้มตัวลงนอน ไม่ได้ถอดรองเท้า นอนทั้งชุดฝึกนั่นเลย อากาศร้อนอบอ้าวมากๆ ผมคิดว่าจะหาอะไรมาห่มดีหรือเปล่า เพราะกลางดึกอาจจะหนาวก็ได้ เหลือบไปมองไอ้แมนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็เห็นมันนอนไม่ห่มอะไรเลย แล้วก็หลับไปแล้ว ผมก็เลยหยิบหมวกขึ้นมากอด ไม่ห่มอะไรเลยเหมือนกัน ผมรู้สึกเหนื่อยมาก วันนี้ฝึกหนักจริงๆ ทั้งล้าทั้งเพลียเกือบจะกระอักเลือดตายเอาให้ได้ สุดยอดแห่งความทรมานเลย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง เสียงคุยของเพื่อนๆ เริ่มจะเบาลงๆ แสดงว่าคงจะทยอยหลับกันแล้ว ผมหลับตาลง ทั่วทั้งลานนอนเงียบสนิท ไม่นานผมก็เคลิ้มหลับไป
...................................
1 ชั่วโมงผ่านไป
" กูไม่ไหวแล้วว่ะเหี้ย ดูสิพวกแม่งหลับกันเกือบหมดแล้ว แล้วทำไมพวกเราจะต้องมายืนยามห่าเหี้ยอะไรวะเนี่ย ดูสิ ครูฝึกแม่งก็หลับกันหมดแล้ว กูว่า พวกเราก็นอนมั่งดีกว่าว่ะ ครูฝึกแม่งไม่รู้หรอกว่ายามน่ะนอนหรือตื่น "
ยามกะดึกบ่นกับเพื่อนเบาๆ ขณะเดินตรวจไปรอบๆ ลานนอน เพื่อนของมันพยักหน้าเห็นด้วย
" เออว่ะ ฮ้าววววววว (เสียงหาว) กูง่วงจนทนไม่ไหวแล้ว ยามเยิมอะไรกูไม่เป็นแล้ว นอนกันดีกว่า ไปมึง นอนสัดนอน ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว "
ทั้ง 2 คนเดินกลับไปยังที่นอนของตน แล้วล้มตัวลงนอนทันที ไม่ช้าทั้งคู่ก็หลับสนิท เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ถึงจะหมดกะของพวกมัน 2 คนแล้ว ยามกะต่อไปก็ไม่มาอยู่ยามต่อ เพราะต่างก็หลับไปหมดทุกคนเพราะความเหนื่อยล้า เป็นอันว่าคืนนี้ ไม่มียามเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนพากันหลับหมด
...............................
เที่ยงคืน
ไอ้แมนพลิกตัวมานอนกอดผมไว้แน่น แล้วหอมแก้มผมเบาๆ 1 ที ผมรู้สึกตัวนิดนึงแต่ยังหลับตาอยู่ ไอ้แมนหอมแก้มผมช้าๆ แล้วประกบปากผมเบาๆ อย่างดูดดื่มๆ และพยายามเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากผม แต่ผมไม่สนองตอบเพราะอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น ร่างกายกำลังอ่อนล้าเต็มทน ไอ้แมนเห็นผมยังเฉยก็เลยเอื้อมมือลงไปลูบคลำที่เป้ากางเกงผม ผมรู้สึกรำคาญไอ้แมนขึ้นมาซะแล้ว อะไรวะ คนจะหลับจะนอน เหนื่อยและก็ง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว ตอนนี้กูยิ่งไม่อยากจะคิดถึงเรื่องเซ็กส์ด้วย ไอ้แมนยังคงคลำเป้ากางเกงผมไม่ยอมหยุด ผมก็เลยกระชากมือมันออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนรำคาญว่า
" อย่ามายุ่งกับเรา เราจะนอน ! "
พูดจบผมก็หลับต่อ ไอ้แมนเห็นว่าผมไม่เล่นด้วยก็เลยเลิกสนใจผม มันพลิกตัวไปสะกิดไอ้เทพที่นอนอยู่อีกด้านเบาๆ ไอ้เทพลืมตาตื่นขึ้นจ้องหน้าไอ้แมน ไอ้แมนกระซิบข้างหูมันว่า
" ไปเยี่ยวเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ป่ะวะ "
ไอ้เทพหยีตา ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก มัน 2 คนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากลานนอน เพื่อนๆ ทั้งหมวดหลับสนิทกันหมดแล้ว ไอ้แมนพาไอ้เทพเดินมาถึงบริเวณแท็งค์น้ำข้างๆ ลานนอน แล้วไอ้เทพก็พูดขึ้นมาว่า
" ตรงนี้ก็พอแล้วสัด จะเยี่ยวก็เยี่ยวซะ เร็วๆ กูเสียวมีคนมาเห็นว่ะ "
" ใครจะมาเห็นวะ แม่งหลับกันหมดแล้ว "
" มันก็ไม่แน่ อย่าพูดมาก เยี่ยวซะมึง "
ไอ้เทพพูดแล้วก็หันหลังให้ไอ้แมน ไอ้แมนรีบรูดซิปกางเกงลง ควักควยขาวๆ ที่แข็งเต็มที่แล้วออกมาชมโลก แล้วก็รูดหนังหุ้มควยลงช้าๆ เผยให้เห็นหัวควยสีชมพูใสๆ สมวัยเด็กหนุ่มอายุ 17 มันรูดหนังหุ้มควยเล่น 2- 3 ที ไอ้แมนที่ยืนหันหลังให้รู้สึกผิดสังเกตุที่ไม่ได้ยินเสียงเยี่ยวซะที ก็เลยพูดเสียงดัง
" เยี่ยวซะทีสิวะเฮ้ย มัวทำเหี้ยอะไรอยู่สัด "
และด้วยความที่ไอ้เทพก็สนใจควยไม่น้อยไปกว่าเกย์คนอื่นๆ ในโลกนี้ มันก็หักห้ามใจไว้ไม่ไหว รีบหันหลังกลับมาหาไอ้แมนทันที แล้วมันก็เห็นไอ้แมนกำลังยืนสาวลำควยอย่างช้าๆ จนลำควยตั้งโด่ เส้นเลือดปูดโปนเต็มลำควย ตอนนี้มันปลดตะขอกางเกงลงแล้ว ไอ้เทพเลยมองเห็นหมอยดำๆ ของมันกระจายอยู่รอบท่อนควย และลามลงไปถึงไข่ พอมันเห็นไอ้เทพหันมามองมันยิ่งแอ่นโชว์ควยอย่างเต็มที่ ไอ้เทพอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
" เฮ้ย ไอ้เหี้ย นี่มึงไม่ได้เยี่ยวนี่ สัด มึง.... มึงว่าวนี่หว่า ไอ้สันดาน ไอ้เหี้ย โห ว่าวเต็มๆ เลยมึง "
ไอ้แมนยิ้มแล้วถอกหนังหุ้มควยลงจนสุด ก่อนจะพูดเสียงสั่น
" แน่จริงมึงดูดควยกูสิ "
ไอ้แมนยังพูดไม่ทันจบ ไอ้เทพก็คุกเข่าลงดูดควยไอ้แมนทันที มันดูดหัวควยไอ้แมนอย่างหื่นกระหายราวกับไม่ได้ดูดหัวควยผู้ชายมาหลายปี ไอ้แมนร้องครางเบาๆ
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดด มันส์เว้ยยยย "
ไอ้เทพเลื่อนปากจากหัวควยลงมาถึงลำควยก่อนจะครอบปากลงไปจนมิดด้าม แล้วเอาลิ้นตวัดไปตรงพวงไข่ห้อยยานของไอ้แมน แล้วงับไข่ทั้ง 2 ใบของเพื่อนช้าๆ แถมยังดูดแรงๆ จนไอ้แมนน้ำลายไหลด้วยความเสียว
" อาซซซซซซซซ ลูกกระโปกกู มึงดูดลูกกระโปกกูได้เสียวดีเจงๆ โอยยย ทำไมมันมันส์อย่างนี้วะ สุดยอดดดดดเลยเพื่อน "
ไอ้เทพดูดไข่ไอ้แมนต่ออีกซักพัก แล้วจึงยืนขึ้นประกบปากกับเพื่อนรักทันที ไอ้แมนก็ดูดปากตอบอย่างไม่รีรอแถมยังกอดรัดไอ้เทพด้วยความเงี่ยน มือก็รูดซิปกางเกงไอ้เทพลงและถลกกางเกงของเพื่อนลงไปกองที่ข้อเท้า ไม่นานควยท่อนใหญ่ของไอ้เทพก็กระแทกเข้าปากของไอ้แมนจนมิดลำ ก่อนจะซอยปากไอ้แมนยิกๆ จนไอ้แมนแทบสำลัก แต่มันก็พยายามดูดและเลียควยของไอ้เทพอย่างสุดความสามารถ
" ซี๊ดดดดดดดดด เสียวหัวควยว่ะ "
ไอ้เทพครางแล้วก็ยิ่งอัดควยเข้าปากไอ้แมนลึกลงไปอีก แล้วก็แอ่นสะโพกร่าจนไข่แกว่งไปมา ไอ้แมนรีบเอามือคว้าไข่ไอ้เทพไว้แล้วบี้เล่นเบาๆ เพื่อเพิ่มความเสียวให้ไอ้เทพ ไอ้เทพยิ้มอย่างสะใจก่อนจะถอดเสื้อนอกออก
เหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว แล้วสะกิดไอ้แมนให้ลุกขึ้นมาเลียหัวนมมัน ไอ้แมนก็ทำตามอย่างไม่รังเกียจ ขณะที่ไอ้แมนกำลังเลียหัวนมไอ้เทพอยู่อย่างเพลิดเพลินนั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นมา
" เฮ้ย ! พวกมึง 2 ตัวทำอะไรกันอยู่วะ "
ไอ้เทพตกใจมาก รีบผลักไอ้แมนออกห่างทันทีแล้วมองหาต้นเสียง ร่างๆ หนึ่งยืนอยู่ใกล้มัน 2 คนมาก และกำลังจ้องหน้าไอ้เทพและไอ้แมนอยู่ ร่างๆ นั้นสูงใหญ่ ล่ำ ใส่ชุดครึ่งท่อน แววตามีประกายแบบแปลกๆ ไอ้เทพมองหน้าร่างๆ นั้นแล้วก็หน้าซีดเผือด มันกระซิบข้างหูไอ้แมนเสียงสั่นๆ
" ซวยแล้วว่ะ ตายแน่ๆ เลย ครูฝึกแม่งดันมาเจอเข้าให้ วิ่งหนีกลับลานนอนกันดีกว่าว่ะ อยู่ไม่ได้แล้ว "
ไอ้เทพทำท่าจะวิ่งหนีไปจริงๆ แต่ไอ้แมนรีบฉุดข้อมือไอ้เทพไว้ สีหน้าไม่มีแววตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว
" ไม่ต้องหนี ครูพิชิตเป็นพวกเดียวกับเราเว้ย "
ไอ้เทพหันขวับมามองหน้าไอ้แมน
" มึงหมายความว่าไง "
ไอ้แมนไม่ทันจะตอบ ครูพิชิตก็มองลงไปที่ควยท่อนใหญ่ของไอ้เทพที่ยังไม่ได้เก็บเข้าที่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความพอใจ
" ควยใหญ่ดีนี่หว่า เอ่อ พวกมึงยังไมได้ตอบกูเลยว่าพวกมึงมาทำอะไรกันตรงนี้ "
" มาเยี่ยวครับ "
ไอ้แมนรีบตอบทันที ครูพิชิตมองหน้าไอ้แมนแล้วยิ้มแปลกๆ
" ดึกแล้วไม่ยอมหลับยอมนอน มาทำเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษซะแล้ว "
ไอ้เทพหน้าซีด เอามือดึงกางเกงขึ้น แต่ครูพิชิตรีบพูดเสียงดัง
" ไม่ต้องใส่ กูจะทำโทษมึงทั้งอย่างนี้แหละ ไอ้เหี้ย มึงนี่ก็หล่อดีเหมือนกันนี่หว่า "
ครูพิชิตพูดจบก็เอามือลูบหน้าของไอ้เทพช้าๆ อย่างชอบใจ และก่อนที่ไอ้เทพจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ครูพิชิตก็เอาปากมาชนกับปากของมันซะแล้ว ไอ้เทพรีบกอดครูพิชิตไว้แน่น กลิ่นเนื้อหนุ่มของครูพิชิตลอยมาแตะจมูกไอ้เทพ มันหอมเหลือเกิน ครูพิชิตดูดปากไอ้เทพอย่างสะใจแถมยังเอาลิ้นควานไปจนทั่วปากของมันอีกด้วย ซักพักก็ถอนปากออก คุกเข่าลงดูดควยไอ้เทพต่อทันที ไอ้เทพอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึงที่ครูฝึกรูปหล่อจะมาดูดควยของมันแบบนี้ แถมดูดต่อจากไอ้แมนด้วย แต่ครูพิชิตไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจเลย เขาดูดควยเก่งมาก เล่นเอาไอ้เทพร้องครางเสียงหลง
" ซี๊ดดดดดดดดด ครูคร้าบบบบบบบบ ผมเสียวววววววครับผม "
ครูพิชิตดูดควยไอ้เทพอยู่นานจึงคายออก แล้วพูดช้าๆ
" ก็กูอยากให้มึงเสียวไงวะ กูถึงทำแบบนี้ ไอ้เหี้ยเอ๊ย ทำไมเด็กสมัยนี้แม่งถึงได้น่าแดกอย่างนี้วะ กูล่ะรักพวกมึงจริงๆ อยากจะแดกแม่งให้หมดทั้งหมวดเลย "
" ก็แดกเลยครับครู ผมยินดีให้แดกครับ "
ไอ้เทพพูด ครูพิชิตยืนขึ้นแล้วถอดกางเกงออก ควยท่อนใหญ่ของครูพิชิตแข็งโด่ชี้ขึ้นฟ้า ไอ้เทพมองแล้วก็ต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล่บๆ ด้วยความอยากดูด
" ดูดเลยมึง "
ครูพิชิตเหมือนจะรู้ความต้องการของไอ้เทพถึงได้สั่งแบบนี้ ไอ้เทพรีบคุกเข่าลงดูดควยครูพิชิตอย่างเร็ว ส่วนไอ้แมนก็เดินอ้อมไปข้างหลัง แล้วคุกเข่าลงเช่นกัน มันบีบตูดครูพิชิตแรงๆ แล้วก็แหกออก ก่อนจะแลบลิ้นเลียรูตูดอันแข็งแกร่งของครูพิชิตอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงดังแผล่บๆ โดนจู่โจมทั้งข้างหน้าข้างหลังแบบนี้ มีหรือที่ครูฝึกหนุ่มจะทนไหว เขาถึงกับร้องครางลั่นด้วยความเสียว
" โอยยยยยยยย เสียวควยว่ะ เสียวรูตูดด้วย กล้ารุมกูเหรอไอ้เด็กเวร ไอ้สัตว์ อย่างงั้นแหละ กูชอบบบบบบบบ "
ไอ้แมนได้ทีรีบลุกขึ้นถลกเสื้ออ่อนของครูพิชิตออก แล้วเลียหัวนมสีดำที่แข็งเป็นไตของครูพิชิตแรงๆ ติดต่อกัน ครูพิชิตคงจะเสียวจนทนไม่ไหวแล้ว เขาลูบหัวไอ้แมนพร้อมกับครางไปด้วย
" ไอ้ตี๋ มึงเลียหัวนมกูได้เจ๋งจริงๆ โอยยยย มันส์ มาขอกูดูดปากมึงหน่อย กูรักมึง ไอ้ตี๋ "
ไอ้แมนรีบดูดปากครูพิชิตตามคำสั่ง ครูพิชิตก็ดูดตอบอย่างหื่นกระหาย ดูดกันไปซักพัก ครูพิชิตก็ถอนปากออกพูดกับไอ้เทพที่กำลังดูดควยของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายว่า
" พอก่อนไอ้หนุ่ม เดี๋ยวน้ำกูออกก่อน เรามาเล่นซ้อน 3 กันดีกว่า กูจะอัดตูดมึง แล้วมึงก็อัดตูดไอ้ตี๋นั่นต่อ อัดตูดกันแบบ 3 คนรวดน่ะ มึงเข้าใจมั๊ย เสียวดี มาเล่นกันเลยมึง "
ไอ้เทพกับไอ้แมนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ครูพิชิตควักครีมออกมาทารูตูดของไอ้เทพกับไอ้แมนจนเยิ้ม แล้วให้มัน 2 คนยืนเอาตูดกัน ไอ้แมนเอามือยันแท็งค์น้ำเอาไว้ ไอ้เทพเริ่มเอาควยสอดเข้ารูตูดไอ้แมนช้าๆ แล้วครูพิชิตก็เอาควยสอดเข้ารูตูดไอ้เทพเช่นกัน ไม่นานทั้ง 3 คนก็เริ่มเย็ดกันแบบเมามัน
" เจ็บมั๊ยยยยย เจ็บมั๊ยยยยยยยย ตอบกูมาสิ อืออออออ ซี๊ดดดดดดดดดดดดด ตอบกูสิเว้ย "
ครูพิชิตถามขณะที่ซอยควยเข้ารูตูดไอ้เทพอย่างเมามันส์
" ไม่เจ็บครับ " " ไม่เจ็บครับ "
ทั้งไอ้เทพและไอ้แมนตอบพร้อมกัน ครูพิชิตจึงอัดลำควยกระแทกเข้ารูตูดไอ้เทพจนลึกสุดๆ แล้วโยกเร็วขึ้นๆ
ปั่บๆๆๆๆ
ไอ้เทพก็ใช่ย่อย ตอนนี้รูตูดของมันก็มันส์อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ลืมจะซอยตูดไอ้แมนอย่างไม่ยั้ง เพื่อให้ไอ้แมนได้รับรสความมันส์พอๆ กับมัน ไอ้แมนอ้าตูดรับอย่างรู้งาน ร้องอย่างสะใจ
" เร่งอีก เร่งอีก เร็วๆๆๆๆๆๆๆๆ เว้ย แรงๆๆ "
" แค่นี้แรงพอมั๊ยวะ "
ครูพิชิตตะโกนตอบแล้วเร่งกระแทกรูตูดไอ้เทพแรงขึ้นๆ ส่งแรงต่อให้ไอ้เทพกระแทกไอ้แมนได้แรงขึ้นเช่นกัน เสียงไอ้เทพหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ครูพิชิตก็เช่นเดียวกัน
" แฮ่กๆๆๆๆ เหนื่อย อดทนหน่อยนะพวกมึง กูจะเสร็จแล้ว ซี๊ดดดดดดดดดดดด โอยยยยยย เหี้ย กูจะออกแล้วนะ สัด โอยยยยย ไม่ไหวแล้วน้ำกูพุ่งแล้วววววววว ว วว ว "
ครูพิชิตพูดจบก็ดึงควยออกจากรูตูดไอ้เทพแล้วถอกหัวควยสีเลือดหมูลงจนหัวควยบานแดงโร่ น้ำกามขาวๆ จำนวนมากทะลักออกมาจากรูควยอย่างไม่ยั้ง พุ่งกระฉูดออกไปอย่างแรงและไกลมาก ครูพิชิตร้องครางลั่นแล้วรูดลำควยเข้าออกๆ ไม่ยอมหยุด น้ำกามยังคงพุ่งปรี๊ดๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนน้ำออกมาหมด ไอ้เทพเองก็เร่งซอยรูตูดไอ้แมนอย่างสุดชีวิต ไม่นานมันก็หมดความอดทน มันชักควยออกมาจากรูตูดไอ้แมนแล้วระเบิดน้ำกามขาวๆ ออกมาอย่างสุดจะอั้น ครูพิชิตรีบเอามือขวามาถอกหัวควยให้ไอ้เทพแล้วรูดขึ้นลงๆ อย่างมันส์มือ ส่วนมือซ้ายก็ลูบแผ่นอกของไอ้เทพไปด้วย น้ำกามของไอ้เทพกระฉูดออกมามากมายแถมยังกระจายเรี่ยราดไปหมด จังหวะที่ไอ้เทพน้ำแตกนั้น ครูพิชิตทั้งจูบทั้งหอมแก้มไอ้เทพพร้อมๆ กับถอกควยและลูบแผ่นอกของมัน จนไอ้เทพต้องหลับตาปี๋ด้วยความเสียว
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด เสียวเว้ยยยยยย "
ไอ้เทพพูดเสียงดังลั่น ครูพิชิตรีบพูดขึ้นมาทันที
" เอาเลยมึง กูอยากให้มึงเสียว แตกออกมาเยอะะๆ เลย ไอ้เหี้ย นั่นอย่างนั้น โหย น้ำออกมาซะเยอะเชียวมึง เสียวล่ะสิไอ้สัตว์ โอยยย สะใจกูจริงๆ เวลาเห็นพวกมึงหลั่งน้ำกามเนี่ย กูชอบเหลือเกินว่ะ มันสะใจดี "
ครูพิชิตกอดจูบและถอกควยให้ไอ้เทพจนมันหลั่งออกมาหมด แล้วก็เอามือเช็ดน้ำกามที่เลอะตรงปลายควยให้ แล้วจึงหันมาจัดการกับไอ้แมน ครูพิชิตโถมเข้ากอดจูบมันแล้วถอกลำควยขาวๆ ของมันออกมาอย่างเร็ว เสียงดังปั่บๆๆๆๆ ไอ้แมนครางเบาๆ ด้วยความเสียว ครุพิชิตดูดปากไอ้แมนอย่างดูดดื่ม แล้วจึงพูดว่า
" เสียวมั๊ยไอ้ตี๋ ชอบล่ะสิ เอาเลย ถ้าชอบก็หลั่งออกมาเยอะๆ เลย ไอ้สัตว์ นี่แบบนี้เป็นไงสัด เสียวควยมั๊ย "
ครูพิชิตพูดพลางรูดลำควยไอ้แมนเร็วกว่าเดิมอีก จนไอ้แมนทนไม่ไหวอีกต่อไป ควยท่อนขาวของมันกระตุกแรงๆ ก่อนที่น้ำกามขาวข้นจะกระฉูดออกมาอย่างรวดเร็ว ครูพิชิตรีบรูดลำควยขึ้นลงๆ เพื่อให้น้ำของไอ้แมนออกมาให้มากที่สุด
" อา............... น้ำผมออกแล้วครับครู "
ไอ้แมนพูด ขณะที่น้ำของมันยังพุ่งไม่ยอมหยุด
" เอาออกมาเยอะๆ เลยไอ้เหี้ย นั่นนน เออ ดีมาก พุ่งปรี๊ดดๆ เลย โห เยอะเหมือนกันนี่ ไอ้สัตว์ออกมาเยอะๆ 555555 สะใจ ออกแม่งให้หมดตัวเลย ดีๆ "
ครูพิชิตรีบหอมแก้มมันฟอดใหญ่ขณะที่มือยังคงถอกควยของมันไปเรื่อยๆ จนน้ำของไอ้แมนหลั่งออกมาหมด
" มึงนี่น้ำเยอะจริงๆ กูล่ะชอบมากเลย เด็กๆ วัยรุ่นเนี่ย น้ำแม่งเยอะกันทุกคน "
ครูพิชิตพูดอย่างพอใจ แล้วเอานิ้วป้ายน้ำกามที่เลอะตรงรูควยของไอ้แมนแล้วเอามาดูดกิน เสร็จแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหัวควยของไอ้แมน และไอ้เทพจนสะอาด แล้วชี้ไปที่ห้องน้ำของครูฝึก ก่อนจะสั่งว่า
" ตรงโน้นเป็นห้องน้ำ มึงไปล้างตูดซะให้เรียบร้อย แล้วไปนอน พรุ่งนี้ต้องฝึกหนัก แต่มึงไม่ต้องห่วง กูไม่ทำโทษพวกมึงแน่ๆ กูจะช่วยพวกมึงอยู่ห่างๆ แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครล่ะ โชคดีนะพวกมึง กูรักมึงทั้งคู่เลย "
ครูพิชิตหอมแก้มไอ้เทพและไอ้แมนคนละฟอด ก่อนจะตบไหล่มัน 2 คนเบาๆ แล้วเดินจากไป ไอ้เทพและไอ้แมนรีบเดินไปล้างตูดที่ห้องน้ำจนสะอาด แล้วจึงเดินกลับมานอนที่ลานนอนเหมือนเดิม
" สนุกมั๊ยวะไอ้แมน "
ไอ้เทพถามเบาๆ ไอ้แมนหลับตาแล้วตอบช้าๆ
" สนุกชิบหายเลย กูรักครูพิชิตจังเลยว่ะ โชคดีจริงๆนะที่ครูฝึกประจำหมวดของเราชอบแบบนี้ พวกเราก็เลยพลอยได้สนุกไปด้วย "
" กูไม่นึกเลยว่าครูฝึกของเรา จะชอบแบบนี้ เห็นแมนๆ แบบนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเกย์ "
" อย่าคิดอะไรมาก เขาเป็นก็ดีแล้ว ทหารเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็เป็นเกย์ได้ อย่างน้อยเขาก็ทำให้กูกับมึงมันส์ได้ แต่ตอนนี้กูว่านอนดีกว่าว่ะ ดึกมากแล้ว กูเพลียว่ะ "
ไอ้แมนสรุป
" เออว่ะ งั้นกูนอนล่ะ ฝันดี "
ทั้งคู่จึงเลิกคุยแล้วนอน ไม่นานทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาวิชาทหารหรือครูฝึกที่นอนอยู่ในลานนอนแห่งนั้นก็หลับเป็นตาย

ปรี๊ดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดปลุกให้ผมลืมตาตื่นขึ้น วันนี้ไม่มีใครตื่นก่อนนกหวีดเลยเพราะต่างก็หมดแรงกันทั้งนั้น ทุกคนตื่นเพราะเสียงนกหวีดพร้อมกันหมด ผมเหลือบมองดูนาฬิกา ตี 5 พอดี รีบเก็บผ้าปูที่นอนเข้าเป้สนาม หยิบหมวก หยิบปืนวิ่งมาเข้าแถวทันที สลัดความงัวเงียออกไปจนหมดสิ้น พอทุกคนเข้าแถวตามหมู่เรียบร้อยดีแล้ว ครูฝึกก็สั่งให้เดินไปรวมพลยังที่เดิม แล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าวเช้า พอทุกคนกินเสร็จ และล้างถาดเสร็จแล้ว ต่างก็รีบไปเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม เตรียมเอาไว้ดื่มระหว่างทาง เพราะได้ข่าวที่บอกต่อๆ กันมาว่า วันนี้จะโหดที่สุด
ไม่นาน ครูฝึกก็เรียกรวมพล และพาทุกคนออกเดินไปจนถึงชายป่า แล้วจึงสั่งให้หยุดและนั่งลง ครูพิชิตยืนจังก้าอยู่หน้าแถว แล้วเริ่มต้นพูดด้วยเสียงอันดัง
" วันนี้จะเป็นการฝึกการเข้าตี ก่อนอื่นครูจะแบ่งกำลังพลออกเป็น 3 ส่วนตามหมู่ กำลังพลแต่ละส่วนจะมีชื่อเรียกเป็นของตนเอง ส่วนแรกชื่อว่า " เห่าดง " ส่วนที่ 2 ชื่อว่า " เห่าฟ้า " ส่วนที่ 3 ชื่อว่า " เห่าไฟ " แต่ละส่วนต้องทำการเข้าตี แต่จะเข้าตีไม่พร้อมกัน เห่าดงจะตีก่อน แล้วตามด้วยเห่าไฟ แล้วก็เห่าฟ้า เห่าดง ลุก ! "
กำลังพลหลายหมู่ที่ครูพิชิตจัดไว้ในชื่อของเห่าดง รีบลุกขึ้นทันที แล้วเดินตามครูพิชิตเข้าป่าไป ผมเองอยู่เห่าฟ้า เข้าตีทีหลังสุด ต้องรอก่อน ระหว่างที่รออยู่นั้น ครูฝึกคนอื่นก็สั่งให้ทุกคนเก็บขยะไปพลางๆ ก่อน ผมเดินเก็บขยะไปพลางนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้แปรงฟันเลย
" เหี้ยแม่ง กูนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แปรงฟันเลยนี่หว่า หน้าก็ยังไม่ได้ล้าง ขี้ตากูยังมีอยู่เลย โสโครกชิบหายเลยว่ะ อ้วก ! ไอ้อ๊อต กูอยากรู้ว่าทำไมแม่งไม่ให้เวลาพวกเราแปรงฟันเลยวะ เหม็นปากชิบหาย "
ผมพูดกับไอ้อ๊อตขณะเดินเก็บขยะไปด้วย ไอ้อ๊อตยิ้มแล้วก็ตอบว่า
" กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ รู้แต่ว่ามันทำให้กูไม่กล้าดูดปากกับผู้ชายคนไหนเลยวันนี้ ไม่ว่าแม่งจะหล่อแค่ไหนก็ตาม กูทนกลิ่นไม่ได้จริงๆ "
" ไว้ถ้าทหารสั่งให้พักเมื่อไหร่ เราหลบไปแปรงฟันกันดีกว่านะมึงนะ "
ผมพูด ไอ้อ๊อตพยักหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ เราเก็บขยะกันต่อไปอีกซักพัก ก็ได้ยินเสียงครูฝึกเป่านกหวีดรวม ผมกับไอ้อ๊อตรีบวิ่งไปเข้าแถวอย่างไม่รอช้า ครูฝึกให้นั่งรออีกซักพัก แล้วครูพิชิตก็เดินมายืนจังก้าอยู่หน้าแถวของพวกเราอีกครั้งหนึ่ง แล้วตะโกนลั่น
" เอาละ เห่าฟ้า ได้เวลาเข้าตีแล้ว พร้อมจะรบกันหรือยังวะเฮ้ยยยยยยยยยยยยย ! "
" พร้อมมมมมมมมมมม "
ทุกคนตะโกนขานรับพร้อมกันดังสนั่น ผมแอบยิ้มอยู่ในใจ ครูพิชิตนี่บทจะแมน ก็แมนเหี้ยๆ จริงๆ ไม่นึกเลยว่าแมนๆ แบบนี้ จะเป็นเกย์ได้ ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจที่ได้ยินเสียงขานรับดังขนาดนี้ ก็เลยเริ่มต้นบรรยายวิธีการฝึกเข้าตีให้พวกเราฟัง
" การเข้าตี เป็นการรบด้วยวิธี รุก ที่เป็นการบุกเข้าจู่โจมข้าศึกแบบเข้าไปหาถึงที่เลย ต่างกับการรับที่เราจะตั้งรับอยู่แต่ในฐาน การรบแบบรุกนี้มีความมุ่งหมายเพื่อที่จะทำลายกำลังรบของข้าศึกให้ลดน้อยลง และเพื่อยึดภูมิประเทศที่ข้าศึกยึดครอง
ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่ " ที่รวมพล " ซึ่งเป็นที่ที่ทหารทุกนายจะต้องมารวมพลที่นี่ เพื่อฟังคำสั่งของผู้บัญชาการ ต่อไปครูจะพาทุกคนไปยัง ฐานออกตี ทั้งหมด ลุก ! "
ทุกคนลุกขึ้น ครูพิชิตสั่งต่อ
" หน้า เดิน ! "
ครูพิชิตพาทุกคนเดินเข้าไปในป่าที่ยังไม่รกทึบมากนัก คงยังเป็นชายป่าอยู่ แล้วจึงสั่งให้นั่งอีกครั้ง ก่อนจะบรรยายต่อ
" ที่นี่คือ " ฐานออกตี " ห่างจากที่รวมพลในระยะทางที่ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง เป็นที่ที่หมู่ทำการจัดขบวนเข้าตีและทำการติดต่อประสานงานเป็นขั้นสุดท้ายก่อนจะเข้าตี ถัดจากจุดนี้จะเป็น " แนวออกตี " ซึ่งโดยปกติจะเป็นภูมิประเทศที่ตั้งฉากกับทิศทางที่เราจะเข้าตี อย่างเช่น ถนน หรือแม่น้ำ เวลาทุกคนเดินผ่านจุดนี้ ให้สังเกตแนวออกตีด้วย ไม่ใช่เดินเรื่อยเจื้อย ไม่มองอะไรเลย
เขตตั้งแต่แนวออกตีเป็นต้นไป จะเรียกว่า " เขตปฎิบัติการ " เขตนี้เต็มไปด้วยหิน ลำธาร ต้นไม้มากมาย ทุกคนต้องวิ่งและหมอบไปเรื่อยๆ ตามสัญญาณปืนที่ยิงอยู่ที่หอควบคุมเป็นระยะๆ ถ้าได้ยินเสียง ปัง ปัง ปัง ต้องหมอบทันที แล้วก็คลานสูงหรือคลานต่ำไปเรื่อยๆ เพราะเสียงปังปังนั่นหมายความว่า ข้าศึกมันกำลังยิงเรา ถ้าไม่หมอบ เราก็โดนยิงตายห่าแล้ว พอเสียงปืนเงียบจึงค่อยวิ่งได้ แล้วก็ต้องทำท่ายิงไปด้วยนะมึง คือมึงต้องเข้าใจว่า ในเขตปฏิบัติการนี้ ข้าศึกจะต้องถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือหลอ อ้อ แล้วก็อย่าลืมหา " จุดตรวจสอบ " ด้วย เพื่ออ้างในการรายงานที่ตั้งในฝ่ายของเรา แต่มึงต้องหาเอาเอง ครูจะไม่บอกว่า จุดตรวจสอบมันคืออะไร
พอพ้นเขตนี้ไปได้ ก็จะถึง " แนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้าย " ก่อนจะเข้าถึง " ที่หมาย " ตรงนี้แหละ ทุกคนจะต้องเข้าตะลุมบอนกับข้าศึก ซึ่งก็คือหมวดอื่น ทุกคนจะต้องเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างเร็วสุดๆ ในรูปขบวนแถวหน้ากระดาน และจะต้องแหกปากตะโกนโห่ร้องให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิงกราดไปให้ทั่วๆ ให้แม่งตายห่าให้หมด เดี๋ยวถึงตรงนั้นแล้วครูจะบอกอีกที จำไว้ อย่ากินแรงเพื่อน ฝึกให้เต็มที่ แล้วมึงจะรู้สึกสนุกไปกับมันเอง เอ้า ลุก ! "
ครูพิชิตสั่งลุกแล้วจึงเริ่มชี้วางตัวกำลังพลในแต่ละหมู่ตามจุดต่างๆ หัวหน้าหมู่ (ไอ้เด่น) จะฟังตำแหน่งจากครูพิชิตแล้วชี้ตำแหน่งให้พวกเรา ทุกคนต้องจำตำแหน่งต่างๆ ให้ได้หมด ซึ่งตำแหน่งก็เหมือนกับที่เคยเรียนมาเมื่อวาน มีหัวหน้าหมู่ หัวหน้าชุดยิง ก ,ข พลปืนเล็ก พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ผมได้เป็นพลปืนเล็ก นอกจากนั้นก็ยังมีพลยิงกระสุน 1,2 พลยิงเครื่องยิงจรวด และพลนำสาร 1,2 ผู้ซึ่งนำข่าวสารจากหมู่อื่นๆ มาส่งอยู่เรื่อยๆ ซึ่งใครเป็นพลนำสารจะรับบทหนักมาก ต้องพูดเยอะ และต้องเดินไปเดินมาเหนื่อยน่าดู
หลังจากวางตัวเรียบร้อย พวกเราทุกคนก็ออกเดินเข้าป่าไปเรื่อยๆ ตามลำดับหมู่ แล้วจึงเริ่มวิ่ง วิ่งเร็วขึ้นๆๆ แล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" ระวัง หมอบบบบบบบบ "
ครูพิชิตซึ่งเดินตามหลังมาห่างๆ ตะโกนลั่น ผมรีบล้มตัวลงหมอบทันที แล้วก็เริ่มต้นคลานไปเรื่อยๆ ผ่านสุมทุมพุ่มไม้ไปนับสิบ เมื่อเสียงปืนเงียบลง ผมจึงลุกขึ้นวิ่งต่อได้อีกครั้ง
" ถึงแนวออกตีแล้วววววว "
เสียงครูพิชิตตะโกนไล่หลังมา ผมมองหน้าเพื่อนๆ อย่างงงๆ ไอ้เด่นหันมาพูดกับคนในหมู่ว่า
" ไหนวะ แนวออกตี "
แล้วมันก็มองไปรอบๆ ผมมองไปที่ตีนของตนเองแล้วก็ร้องว่า
" นี่ไงสัด แนวออกตี เป็นเส้นขีดบนพื้นนี่เอง หมายความว่า จากตรงนี้ เราก็เข้าเขตปฏิบัติการแล้วสิวะ "
ถูกของผมจริงๆ แนวออกตีเป็นเส้นที่ขีดอยู่บนพื้น เป็นสัญลักษณ์บอกว่าจากนี้ ต้องเหนื่อยของจริงแล้ว
" หยุดทำเหี้ยไร เห่าฟ้า วิ่ง หน้า วิ่ง ! "
ครูพิชิตตะโกนสั่ง ผมและเพื่อนๆ ทุกคนออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เราวิ่งไปนานมากๆ จนผมรู้สึกเหนื่อยแบบสุดๆ ก็พอดีได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก ผมก็ต้องหมอบลงไปอีกครั้ง แล้วก็คลานสูง หรือคลานต่ำ แล้วแต่สภาพภูมิประเทศ ผมวิ่ง วิ่ง วิ่ง และก็วิ่งจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว เสียงปืนก็ยิงไม่ยอมหยุด แต่ผมก็กัดฟันวิ่งต่อไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" หมอบบบบบบบบ คลานนนนนน "
เสียงครูพิชิตดังซ้ำๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เขตปฏิบัติการนี่พื้นที่มันช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน วิ่งเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ยอมถึงแนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายซะที ผมทั้งวิ่งทั้งคลานเป็นสิบๆ ครั้ง เหนื่อยเหลือเกิน ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้วะ
" เห่าฟ้า หาจุดตรวจสอบด้วย อย่าลืม ! "
ครูพิชิตตะโกน ไอ้เด่นฟังแล้วก็พูดเสียงดัง
" เออ เกือบลืม เฮ้ย! พวกเรา หาจุดตรวจสอบหน่อยเว้ย "
" แล้วมันคืออะไรวะ จุดตรวจสอบเนี่ย "
ไอ้เทพถามด้วยความสงสัย ไอ้ไก่นึกอยู่พักหนึ่งจึงพูดขึ้นมาว่า
" มันจะเป็นเส้นขีดแบบเดียวกับแนวออกตีรึเปล่าวะ "
" กูว่าไม่น่าจะใช่ว่ะ "
ผมพูดขึ้นบ้าง ทุกคนในหมู่หันมามองหน้าผม ไอ้เด่นถามผมทันที
" แล้วมึงรู้เหรอว่า จุดตรวจสอบคืออะไร "
" กูเคยอ่านในหนังสือว่ะ เขาบอกว่า จุดตรวจสอบจะต้องเป็นจุดที่เด่นๆ ที่ไม่มีลักษณะกลืนไปกับภูมิประเทศบริเวณนั้น "
" อะไรของนายวะ เรางง "
ไอ้แมนพูดเบาๆ ด้วยความงุนงง ผมเลยพูดต่อว่า
" กูว่าเราแยกย้ายกันหาดีกว่า "
ทุกคนในหมู่ก็เลยแยกย้ายกันหาจุดตรวจสอบ ไม่นานก็เจอ ที่แท้จุดตรวจสอบก็คือ กองหินกองเล็กๆ บริเวณที่ถนนตัดกันตรงนั้นนั่นเอง ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่หาจุดตรวจสอบเจอ จู่ๆ ไอ้ไก่ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหาทุกคนแล้วบอกว่า
" กูพลนำสาร 1 นะ เมื่อกี้ครูพิชิตแม่งเรียกกู แล้วฝากกูมาบอกพวกมึงว่า ให้รีบไปที่แนวประสานการปฏิบัติให้เร็วที่สุด ข้าศึกมารอนานแล้ว เราต้องเข้าตะลุมบอนกับแม่งแล้ว "
" ชิบหายแล้ว งั้นรีบไปเร็วพวกเรา "
ไอ้เด่นพูดแล้วก็รีบวิ่งนำหน้าไปทันที ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้ไก่ ไอ้แมน และผม วิ่งตามไปเป็นพรวน ผมวิ่งแทบจะไม่ไหวอยู่แล้วเพราะรู้สึกปวดข้อตีนเต็มกำลัง รองเท้าที่ใส่ก็โคตรรัดข้อตีนเลย ยิ่งทำให้ผมปวดจนแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็ฝืนวิ่งต่อไป ตอนนี้ผมวิ่งรั้งท้ายอยู่ ไอ้อ๊อตหันมามองผมแล้วก็เร่งยิก
" เร็วๆ สิวะหนุ่ม สู้ตายเว้ยมึง "
ไอ้อ๊อตคงลืมตัว เผลอพูดคำหยาบใส่ผมอีกแล้ว แต่ผมก็ไม่สนใจ ตอบมันไปว่า
" กูไปไม่ไหวแล้ว ตีนกูเจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว เพื่อน กูคงไปไม่ถึงที่หมายแน่ๆ "
" ไหงพูดงั้นวะ อย่าอ่อนแอสิมึง มากูช่วยลากมึงไปเอง "
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็วิ่งเข้ามาพยุงผม แล้วลากผมให้วิ่งเคียงข้างมันไปเรื่อยๆ
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมและไอ้อ๊อตหมอบลงไปทันที ฝุ่นฟุ้งตลบเต็มไปหมด พอเสียงปืนเงียบลงไอ้อ๊อตจึงค่อยๆ พยุงผมขึ้น แต่ผมเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
" กูไม่ไหวแล้วจริงๆ เพื่อน มึงไปเถอะ ทิ้งกูไว้ตรงนี้แหละ โอยยย กูเหนื่อยเหลือเกิน "
" ได้ไงวะ เราเพื่อนกัน จะทิ้งกันได้ไง เราไปไหนต้องไปด้วยกันสิวะ "
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็ทรุดนั่งลงไปกับพื้น ประคองร่างผมไว้ แล้วเอามือบีบนวดร่างกายผมช้าๆ เพื่อให้ผมคลายความอ่อนล้าลงบ้าง ไอ้เทพ ไอ้เด่น และเพื่อนๆ ทุกคนในหมู่หันมามองผมกับไอ้อ๊อต แล้วต่างก็รีบวิ่งมาหาเรา 2 คนทันที
" สู้ๆ เว้ยไอ้หนุ่มเพื่อนรัก มึงต้องทำได้ "
ไอ้เด่นตะโกน ไอ้เทพก็พูดขึ้นมาบ้าง
" เข้มแข็งเข้าไว้สัด เข้มแข็งเข้าไว้ มึงเป็นลูกผู้ชายนะเว้ย "
ผมได้ยินแล้วก็ฮึดสู้ ฝืนยืนขึ้นอย่างช้าๆ ตอนนี้แผลที่ข้อตีนผมต้องกำลังอักเสบหนักอยู่แน่ๆ มันถึงทำให้ผมเจ็บปวดจนสุดจะทนทานแบบนี้ แต่ผมก็ยังฝืนยิ้ม
" เออ กูไหวแล้ว ไปต่อได้ ขอบใจพวกมึงทุกคนนะ "
ผมยืนขึ้นแล้วก็ออกวิ่งต่อ เพื่อนๆ ทุกคนก็ออกวิ่งไปเช่นกัน ผมพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ฝืนวิ่งต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต แต่วิ่งๆ ไปไม่นานผมก็ล้มป้าบ ! หน้าคะมำลงไปบนพื้นดิน แว่นหลุดออกจากตากระเด็นไปไกล ผมถึงกับร้องด้วยความเจ็บปวด
" โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ! "
ไอ้อ๊อตตกใจ รีบวิ่งเข้ามาดูผมอีกรอบ
" เฮ้ย วิ่งอีท่าไหนวะ ล้มซะเต็มที่เลย เอ้านี่แว่น ใส่แล้ววิ่งต่อนะ อีกนิดนึงก็จะถึงแนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้ายแล้ว "
ไอ้อ๊อตเก็บแว่นแล้วเอาแว่นสวมให้ผม ผมหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด ยังคงนอนคว่ำอยู่อย่างนั้น แล้วพูดเสียงสั่นๆว่า
" ทิ้งกูไว้ตรงนี้เหอะ กูไปต่อไม่ไหวแล้ววว "
" ไอ้เหี้ย ต้องไหวสิวะ มึงเป็นผู้ชายมึงต้องเข้มแข็งสิวะ มึงมีควยรึเปล่าวะ มึงมีควยมั๊ย ไอ้เหี้ยถ้ามึงไม่มีควยกูจะทิ้งมึงไว้ตรงนี้จริงๆ ด้วย เพราะกูถือว่ามึงไม่ใช่ผู้ชาย มึงเป็นแค่คนอ่อนแอคนหนึ่ง ตอบกูมาสิเว้ย ถ้ามึงมีควย แสดงว่ามึงยังเป็นลูกผู้ชาย มึงต้องไปต่อกับกู และกับเพื่อนๆ สัด ไอ้หนุ่ม ลุกสิวะ "
คำพูดของไอ้อ๊อตทำให้ผมนึกถึงคำของพ่อขึ้นมาได้ว่า
" จะเหนื่อยจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องอดทนลูกเดียว มันไม่ถึงตายหรอกลูกก็รู้ ..... พ่อเชื่อว่าลูกต้องผ่านการฝึกไปได้ด้วยดี "
ใช่แล้ว ผมต้องอดทน ผมจะอ่อนแอไม่ได้ ผมก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน ผมคิดแล้วก็พยายามลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง กัดริมฝีปากเพื่อข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วตอบไอ้อ๊อตว่า
" กูมีควย กูเป็นลูกผู้ชาย กูจะไปต่อกับมึง "
ไอ้อ๊อตยิ้มด้วยความดีใจ แล้วตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะพูดเสียงดัง
" เจ๋งมากเพื่อนรัก กูนึกแล้วว่ามึงต้องทำได้ ไป เราไปต่อกันเลย "
เรา 2 คนรีบวิ่งต่อไปอย่างช้าๆ สลับกับหมอบ และคลาน ตามเสียงปืน น่าแปลกที่อาการเจ็บข้อตีนของผมทุเลาลงไปมาก คงเป็นเพราะผมมีกำลังใจที่เข้มแข็งขึ้นจากคำพูดของไอ้อ๊อต ผมวิ่งไปเรื่อยๆ นานเป็นชั่วโมง สุดท้ายก็ลอดลวดหนาม (คราวนี้เป็นเชือกขึง) และในที่สุดก็มาถึง " แนวประสานการปฏิบัติขั้นสุดท้าย " (มีป้ายติดอยู่) รวมเวลาที่วิ่งมา 2 ชั่วโมง เห่าฟ้าทุกคนหยุดวิ่ง และหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะทำอะไรต่อดี ครูพิชิตก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ทุกคนต่างก็พูดกันเองว่า ทำอะไรต่อไปวะ
" ครูพิชิตหายไปไหนวะ แล้วต้องทำอะไรต่อวะเนี่ย "
ไอ้เด่นพูดขึ้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปเหมือนกัน ขณะที่ทุกคนกำลังหันรีหันขวางอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังมาจากหอบังคับการว่า
" ระวัง ระวัง ข้าศึกกำลังจะบุกมาแล้ว เห่าฟ้า เห่าฟ้า เตรียมเข้าตะลุมบอน หัวหน้าหมู่ ขว้างระเบิดนำร่องทำลายข้าศึกแนวหน้าไปก่อน ปฏิบัติ ปฏิบัติ "
ไอ้เด่นได้ยินดังนั้นก็ทำตามที่ได้เตี๊ยมกับครูพิชิตไว้แล้ว มันตะโกนดังลั่น
" ทุกคนหมอบ กูจะขว้างระเบิด ! "
ผมและทุกคนตกใจ รีบหมอบลงไปโดยเร็ว พอทุกคนหมอบและก้มหัวลงต่ำหมดแล้ว ก็สังเกตุเห็นว่า ข้างหน้ามีข้าศึกกำลังเดินขบวนมากันเยอะมาก เดินมาเป็นแถวรูปหน้ากระดาน ทุกคนถือปืนในท่ายิงใต้แขน ต่างก็กำลังเดินจ้ำเข้ามาหาพวกเรา ไอ้เด่นก็หมอบลงเช่นกันแล้วทำท่าดึงสลักระเบิดออก แล้วจึงทำท่าขว้างระเบิดออกไปทันที แล้วก็แหกปากลั่น
" ตูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ! "
ผมและทุกคนก็ช่วยกันร้องตะโกนว่า ตูมๆๆๆๆๆ เหมือนกับไอ้เด่น และสังเกตุว่า ข้าศึกทุกคนรีบหมอบลงอย่างรวดเร็ว จนแถวของข้าศึกหายวับไปเหลือแต่สีเขียวๆ ของเสื้อผ้าเท่านั้น ไม่นานไอ้เด่นก็ตะโกนว่า
" ลุก ! "
ผมรีบลุกขึ้น ข้าศึกก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ผมมองไปก็เห็นข้าศึกเป็นผู้ชายหล่อๆยืนอยู่เต็มไปหมดก็สะกิดให้ไอ้อ๊อตดูแล้วพูดว่า
" แนะ มึงดูสิ กูต้องตะลุมบอนกับผู้ชายพวกนั้นว่ะ มันส์แน่ๆ "
" เออ กูก็ว่างั้น เตรียมมันส์กันได้แล้วมึง "
ไอ้อ๊อตพูดยิ้มๆ ไอ้เด่นไม่รอช้ารีบตะโกนว่า
" ลุยยยยยยยยยยยยยยยยย เลย ! "

สิ้นเสียงของไอ้เด่น เห่าฟ้าทุกคนก็วิ่งมาเข้าแถวเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ทุกคนต่างก็ถือปืนในท่ายิงใต้แขน และร้อง “ ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ “ ไปด้วย เพราะว่าพวกเราไม่มีกระสุนจริงๆ กัน ก็เลยต้องใช้กระสุนปากแทน ข้าศึกก็ค่อยๆ เดินเข้ามาหาพวกเราอย่างช้าๆ และทำท่ายิงกราดไปเรื่อยๆ ด้วย ไม่นานพวกเราก็เดินมาประจัญหน้ากับข้าศึกพอดี แล้วทุกคนก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังมาจากหอบังคับการว่า
“ ยึดที่หมายได้แล้ว ข้าศึกร่นถอย ร่นถอย “
ข้าศึกทุกคนค่อยๆ หันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ ผมมองตามอย่างงงๆ แล้วหันมาพูดกับไอ้อ๊อตว่า
“ อะไรวะ ยึดได้แล้วเหรอ ยังไม่ทันได้เข้าตะลุมบอนกับมันเลย “
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม
“ แค่นี้ก็พอแล้วสัด นี่เป็นแค่การฝึกเท่านั้นนะ อย่าลืมสิวะ “
“ ยังไม่มันส์เลยสัด แม่ง กูนึกว่าจะได้เข้าไปยิงตะลุมบอนใกล้ๆ กับพวกแม่งซะหน่อย จะได้ถือโอกาสแอบจับตูดจับควยตอนมันเผลอซะเลย ข้าศึกแม่งมีแต่หล่อๆ ทั้งนั้น มึงก็เห็นใช่มั๊ย แต่ละคนหล่อและก็ล่ำชิบหาย กูชอบผู้ชายแบบนั้นมากเลยว่ะ หน้าไทยๆ กล้ามเยอะๆ แบบนั้น อูยยยย นึกแล้วเสียวควย “
“ พอไอ้สัตว์พอ มึงนี่ทะลึ่งจริงๆ เขาให้ไปตะลุมบอนกับข้าศึก เสือกจะไปจับโน่นจับนี่ของข้าศึก ไอ้เหี้ย “
“ แล้วมึงไม่ชอบเหรอ “
“ ชอบสิวะ ถามได้ “
“ เออ เหมือนกันเลย เสียดายไม่ได้รบแบบถึงเนื้อถึงตัวกับพวกมัน ทำได้แค่เดินเข้าไปประจัญหน้ากับพวกมันเอง โคตรเสียดายเลย “
ไอ้อ๊อตมองตาผม แล้วพูดเสียงหนักแน่น
“ กูว่านะ ถ้ามึงอยากรบแบบถึงเนื้อถึงตัวจริงๆ อย่างที่มึงพูดเมื่อกี้ รอตอนปี 4 ละกัน มึงจะได้ฝึกการตีโฉบฉวย อันนั้นจะสมจริงขึ้นมาอีกหน่อย มึงจะได้มีโอกาสรบแบบใกล้ชิดกับข้าศึกหล่อๆ แบบที่มึงชอบแน่นอน รบเลยตัวต่อตัวเลยนะโว้ย กลางวันตีกับข้าศึก ส่วนกลางคืนก็นอนตีไข่กันเอง “
ผมฟังแล้วก็หัวเราะลั่น
“ 55555 ทะลึ่งจริงๆ มึงเนี่ย พูดซะตรงเลย แล้วมึงไปรู้เรื่องนี้มาได้ไง “
“ พอดีกูรู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนจบปี 5 แล้ว เคยคุยกับเขาเรื่องนี้ ก็เลยพอรู้มาบ้างว่าเขาฝึกอะไรกันบ้างตอนเข้าค่าย “
“ พูดเหมือนมึงจะเรียนปี 4 ต่ออย่างนั้นแหละ มึงจะเรียนเหรอวะ “
“ กูน่ะไม่เรียนหรอก กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่ากูเรียนไม่ไหวแน่ๆ กูทนลำบากไม่ไหวหรอก กูขอแค่เรียนจบปี 3 ก็พอแล้ว ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ที่กูพูดก็เผื่อว่ามึงอยากจะเรียนต่อ “
“ โอ๊ย กูก็ไม่เรียนต่อหรอก แค่ปี 3 นี่กูก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว ลำบากเหี้ยๆ ทรมานสุดๆ กูเองก็ขอแค่จบปี 3 ก็พอแล้ว ประสบการณ์แบบนี้ ขอแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็พอแล้วว่ะ “
“ ก็แล้วแต่มึงนะ “
ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงครูพิชิตพูดดังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
“ ภารกิจเสร็จสิ้น เห่าฟ้า เห่าฟ้า กลับที่รวมพลได้ ปฏิบัติ “
ตอนนี้ครูฝึกคนใหม่ก็เดินออกมาจากไหนก็ไม่รู้ มาสั่งให้พวกเราเข้าแถว และให้หันหลังเดินกลับไปตามทางเดิม ครูฝึกเดินปิดท้ายแถวอยู่หลังสุด ผมและเพื่อนๆ เดินกลับอย่างอ่อนระโหยโรยแรง มันเหนื่อยจริงๆ เหนื่อยแบบสุดๆ ไปเลย แต่โชคดีที่แผลที่ข้อตีนไม่เจ็บมากไปกว่านี้ คงเป็นเพราะผิวด้านไปเรียบร้อยแล้วเลยไม่รู้สึกเจ็บ เดินไปได้ครึ่งทาง แถวก็เริ่มเละ ทุกคนเริ่มเดินกันตุปัดตุเป๋มากขึ้นเพราะความเหนื่อยล้า ไอ้อ๊อตซึ่งเดินอยู่ข้างหน้าผม ก็เดินช้าลงเพราะว่าเหนื่อย จนกลายมาเป็นเดินเคียงข้างผมแล้วในตอนนี้ มันหันมาพูดกับผมเบาๆ พร้อมกับหอบไปด้วย
“ เออ ไอ้หนุ่ม กูก็ลืมไป กูขอโทษนะที่เผลอขึ้นมึงกูกับมึงมานานเลย กูลืมไปว่ามึงไม่ชอบคนที่ใช้คำหยาบ “
“ เฮ้ย ไม่เป็นไรเว้ย กูเองก็ลืมตัวพูดคำหยาบกับมึงมานานเหมือนกัน กูไม่ถือหรอก เราเพื่อนกัน กูเลิกกระดากปากแล้ว พูดหยาบได้ กูไม่อยากจะใช้สรรพนามแบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกแล้ว กูอยากจะพูดภาษาเดียวกับมึง และกับเพื่อนในกลุ่ม ในเมื่อเพื่อนในกลุ่มเราพูดกูมึงกันหมด กูก็ขอพูดด้วยคนสิวะ แล้วกูว่า พูดแบบนี้มันดูจริงใจกว่าพูดแบบเก่าตั้งเยอะ “
ไอ้อ๊อตยิ้มด้วยความดีใจที่ผมไม่ถือโทษโกรธมัน ผมมองหน้ามันแล้วก็พูดต่อ
“ เออ ไอ้อ๊อต กูถามหน่อย ตกลงมึงเชื่อแล้วใช่มั๊ยว่า กูมีควย “
“ กูเชื่อแล้ว เพราะมึงแสดงให้กูเห็นว่ามึงมีความเข้มแข็งและอดทนตามวิสัยของลูกผู้ชาย มึงก็ย่อมจะต้องมีควยแน่ๆ “
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ผมพูดต่อ
“ แล้วมึงสนใจควยกูมั๊ยล่ะ “
ไอ้อ๊อตมองหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะตอบไม่เต็มเสียง
“ สนใจสิวะ ถามทำเหี้ยไร “
“ เปล่าว่ะ อย่าสนใจคำพูดกูเลย “
ผมพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วก็รีบก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป ใจจริงผมอยากจะมีอะไรกับไอ้อ๊อตมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส ถึงเราจะเป็นเหมือนๆ กันแต่ผมก็ไม่อยากทำอะไรกับมันเพราะเราทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันมานาน ถ้ามันไม่เอ่ยปากขอ ผมก็ไม่อาจจะทำมันได้ แต่ถ้ามันขอผมแค่คำเดียว ผมยินดีจะสนองตอบอย่างเต็มที่เลย แต่วันนั้นยังไม่มาถึง ผมก็เลยยังไม่ได้มีอะไรกับมันซักที นี่ก็ลองถามลองเชิงมันดูเล่นๆ มันก็มีทีท่าว่าสนใจควยผมเหมือนกัน อย่างนี้ก็มีลุ้นนะเนี่ย ! เราไม่ได้คุยกันอีกเพราะยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย ไม่มีแรงจะคุยแล้ว เพื่อนๆ คนอื่นก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน ไม่มีใครพูดกันเลย ตั้งหน้าตั้งตาเดินอย่างเดียว ทั้งร้อนทั้งเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้สึกคอแห้งมากก็เลยเปิดฝากระติกน้ำแล้วกระดกน้ำเข้าปากเป็นครั้งที่ 3 ของวันนี้ น้ำในกระติกก็เหลืออีกไม่มากแล้ว ต้องประหยัดหน่อย ดื่มน้ำเสร็จก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานเห่าฟ้าทุกคนก็เดินมาถึงที่รวมพลด้วยความเหนื่อยอ่อน มีพวกหมวดอื่นที่ฝึกเสร็จก่อนมานั่งรออยู่ตั้งนานแล้ว ครูฝึกให้นั่งพักแป๊ปนึงแล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว มื้อกลางวันนี้ก็เหมือนเดิม ข้าวแข็งๆ กับข้าวเหี้ยๆ ใส่มาในจานหลุมให้เสร็จ แต่มื้อนี้มีกล้วยบวชชีเป็นของหวานด้วย (คงเหลือจากเมื่อวาน) ผมกินข้าวไปนิดเดียวเพราะเหนื่อยจนกินไม่ลง แถมข้าวยังแข็งมากๆ แต่กินกล้วยบวชชีจนหมด อร่อยดี เห็นไอ้อ๊อตไม่กินกล้วยก็เลยขอกินกล้วยมัน มันก็ให้ ผมก็เลยกินกล้วยของไอ้อ๊อตจนหมดเหมือนกัน ได้กินกล้วยอร่อยๆ แล้วทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น
กินเสร็จแล้วพวกเราไปใช้บริการที่ “ หน่วยบริการความสดชื่น “ กันอีกครั้ง ผมซื้อน้ำอัดลมมาดื่มขวดนึง ดื่มแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น ระหว่างที่ดื่มก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนดูมีความสุขขึ้นมาก คงจะดีใจที่ผ่านการฝึกที่ยากลำบากที่สุดไปแล้ว การฝึกที่เหลือก็สบายแล้ว
ตอนบ่าย ครูฝึกเรียกรวมอีกครั้งเพื่อทำการฝึก “ ตั้งรับ “ มีครูฝึกคนใหม่ที่ไม่ใช่ครูพิชิตมาบรรยายทฤษฎีก่อน คนนี้พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จากที่ฟังๆ มาผมก็พอจะเข้าใจว่า การตั้งรับนั้นมีความมุ่งหมายเพื่อออมกำลังเอาไว้ก่อน และล่อข้าศึกเข้ามายังพื้นที่ที่เราต้องการ และเพื่อรอโอกาสกลับมาเป็นฝ่ายรุก การตั้งรับนี้เป็นการตั้งรับในพื้นที่ คือเป็นการยึดและรักษาภูมิประเทศที่ใดที่หนึ่งเอาไว้ พื้นที่ในการตั้งรับจะมี 2 ส่วน คือ “ พื้นที่ส่วนระวังป้องกัน “ เป็นพื้นที่ที่ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นยามจะต้องทำการระวังป้องกันในพื้นที่ส่วนนี้ และ “ พื้นที่การรบ “ พื้นที่การรบนั้นห้ามข้าศึกล่วงล้ำมาเด็ดขาด ซึ่งพื้นที่การรบก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ “ พื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า “ อยู่ด้านหน้า เป็นส่วนที่เราต้องไม่ให้ข้าศึกเข้ามาได้ และ “ พื้นที่กองหนุน “ เป็นส่วนที่เตรียมเอาไว้กรณีที่พื้นที่การตั้งรับไม่สามารถต้านทานกำลังของข้าศึกได้ ในการตั้งรับเราต้องดัดแปลงภูมิประเทศให้เหมาะสมโดยการทำ หลุมบุคคลคู่ หลุมบุคคลเดี่ยว หรือคูยิง แล้วแต่สภาพภูมิประเทศนั้นๆ พอการบรรยายจบลงก็ได้เวลาการฝึกปฏิบัติ ครูฝึกให้ทุกคนไปวางตัวยังหลุมบุคคลคู่ เรียกเป็นล็อคๆ ล็อคของผมมี 4 คน (ปกติหลุมบุคคลคู่ก็ต้องนั่งได้แค่ 2 คน แต่นักศึกษาวิชาทหารมีจำนวนมาก ก็เลยให้นั่งกัน 4 คนเลย) แบ่งเป็น 2 คู่ คู่แรกมีผมกับเงา (คู่ฝึกอีกหมู่) คู่ที่ 2 มีไอ้แมนกับเงา ผมกับเงาได้เป็นยามระวังเหตุ เรา 2 คนก็เลยต้องออกไปนั่งเงียบๆ หลังพุ่มไม้ที่สมมุติให้เป็นพื้นที่ส่วนระวังป้องกัน ส่วนไอ้แมนกับเงาก็นั่งอยู่ในหลุมบุคคลคู่เงียบๆ บริเวณพื้นที่การตั้งรับในแนวหน้า ส่วนครูฝึกและไอ้เด่นหัวหน้าหมู่นั่งอยู่บริเวณพื้นที่กองหนุน ระหว่างนั้นไอ้เด่นจะพูดสั่งการใส่โทรโข่งไปเรื่อยๆ โดยสมมุติสถานการณ์ให้แก้ปัญหา ตามคำสั่งที่ได้รับจากครูฝึก เช่น เกิดอุบัติเหตุต้องปฐมพยาบาลด้วย ข้าศึกบุกมาให้ยามทำหน้าที่ระวังป้องกันด้วย ฯลฯ ผมกับเงาก็นั่งฟังไอ้เด่นพูดไปเรื่อยๆ ตอนนี้เรา 2 คนนั่งชิดกันมาก ผมได้กลิ่นเนื้อหนุ่มของเงาเต็มๆ มันหอมมากจริงๆ เงาเป็นผู้ชายตัวเล็ก หัวเกรียน หน้าดำๆ ขี้ก้าง แต่ก็ดูดีมีเสน่ห์แบบชายไทยแท้ หน้าของเงาอยู่ใกล้ซะจนผมอยากจะหอมแก้มซักฟอด แต่ก็ต้องอดใจไว้ เงานั่งเฉยๆ อยู่นานก็พูดขึ้นมาลอยๆ ว่า
“ เบื่อว่ะ ตั้งรับเนี่ย ไม่มันส์เหมือนเข้าตีเลย ว่าป่ะ กูว่าเข้าตีสนุกกว่าเยอะ ได้วิ่งได้หมอบได้คลาน สนุกกว่าเยอะ กูชอบบุกมากกว่ามานั่งรอข้าศึกแบบนี้ว่ะ แม่งสะใจดี ยิงกันปังๆๆๆๆๆ ตูมๆๆๆ 5555 มันส์ สนุกดี “
“ กูก็ว่างั้นเหมือนกัน “
ผมตอบสั้นๆ คิดในใจว่าเงาเป็นผุ้ชายที่แมนมากเลย ท่าทางจะชอบการฝึกครั้งนี้มากเลย ดูท่าทางเขาก็ไม่โทรมมากด้วย ร่างกายเขาคงจะแข็งแรงพอสมควรและเขาก็คงชอบสนุกแบบนี้อยู่แล้วด้วย เขาจึงฝึกด้วยความสนุก ไม่ใช่จำใจฝึกแบบผม
ใช่แล้ว ถ้าเราฝึกด้วยความสนุก เราจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ที่ผ่านมาผมฝึกแบบจำใจต้องฝึก ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่สนุกเลย เหมือนโดนยัดเยียดให้ฝึก ร่างกายก็เลยไม่ไหวไปจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ผมคงต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ซะแล้ว คงต้องฝึกให้สนุก แล้วผมจะสนุกไปจริงๆ และไม่รู้สึกเหนื่อยมากแบบที่ผ่านมา
เอาละ ต่อไปผมจะฝึกให้สนุกก็แล้วกัน
ผมกับเงานั่งต่อไปอีกซักพัก ก็ปิดสถานการณ์ เรา 2 คนก็เลยเดินกลับไปรวมกับเพื่อนอีก 2 คนที่หลุมบุคคลคู่ หลังจากนั้นเราก็สลับตำแหน่งกันบ้าง ผมกับเงานั่งในหลุมบุคคลคู่ ส่วนไอ้แมนกับเงาไปเป็นยามบ้าง ก็นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเหมือนเดิม ไม่นานก็ปิดสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ครูฝึกเรียกรวมพล ตอนนี้เย็นมากแล้ว
“ พันไหน “ ครูฝึกตะโกนถาม
“ 32 ! “ ทุกคนตะโกนตอบพร้อมกัน
“ ไม่ได้ยิน ! พันไหน ! “
“ 32 ! “ ทุกคนตะโกนเสียงดังกว่าเดิม
“ 32 นั่ง ! “
ครูฝึกให้พวกเรานั่งพักซักพัก แล้วก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว เตรียมตัวฝึกต่อในตอนกลางคืน พอผมกินข้าวเสร็จ ก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ จนหมดเวลาพัก ตอนนี้ทุกคนหายเหนื่อยกันแล้ว ต่างก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นเพราะได้นั่งพักนานตอนที่ฝึกตั้งรับ
ตกกลางคืน เราฝึกวางตัวในเวลากลางคืน ผม เงา ไอ้แมนและเงาของมัน เดินกลับไปนั่งที่หลุมเดิม ครูฝึกสั่งให้พวกเรานั่งเงียบ ๆ เราก็เลยนั่งเงียบกันอยู่อย่างนั้นนานมากๆ นานจนคิดว่าครูฝึกลืมไปแล้วหรือเปล่า ฟ้ามืดแล้ว ทุกคนในหมวดผมนั่งกันเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย จนได้เวลาสมควร ครูฝึกก็เป่านกหวีดเป็นสัญญาณให้ปิดสถานการณ์ แล้วให้เดินเงียบๆ มายังที่รวมพล ตอนกลางคืนนี้ครูฝึกสั่งให้พูดกันเบาๆ เดินกันเงียบๆ เพราะข้าศึกจะได้ไม่รู้ตัวว่าเราวางตัวอยู่ เสร็จแล้วจึงยุติการฝึกตั้งรับ ให้พวกเราเดินเรียงแถวออกจากป่า กลับที่พักได้ ผมและเพื่อนๆ รู้สึกดีใจมากที่จะได้ออกจากป่าซะทีหลังจากทนลำบากในป่ามานาน ต่างก็รีบเดินจ้ำเอาๆ เพื่อให้ถึงที่พักเร็วๆ ขากลับนี้มีแต่แสงจันทร์นำทางไม่มีคนส่องไฟฉายให้เหมือนตอนขามา แต่ก็พอมองเห็น หมวดของผมรีบเดินกันมากจนครูฝึกต้องบอกให้หยุดก่อน ตรวจดูแล้วรู้สึกว่าจะมีคนหลงกันด้วย ก็เลยต้องยืนรอหมวดอื่นๆ ก่อนและตะโกนเรียกกันอยู่ตั้งนาน กว่าหมวดอื่นจะเดินมาถึง แสดงว่าหมวดของผมเดินเร็วไปจริงๆ ฟิตมากๆ เลย เดินเร็วจนหมวดอื่นตามไม่ทัน ! พอหมวด 1 และหมวด 3 เดินมาถึงแล้ว ครูฝึกก็สั่งให้พวกเราเดินต่อไป แต่ก็ไม่ลืมกำชับว่า
“ หมวด 2 มึงไม่ต้องรีบเดินขนาดนั้นก็ได้ ที่พักไม่หายไปไหนหรอก รอเพื่อนมั่ง ไอ้เหี้ย ! “
ผมและเพื่อนๆ ในหมวด ก็เลยพยายามเดินให้ช้าลง ผมหายเจ็บข้อตีนแล้ว แถมกำลังวังชาก็กลับมาเต็มที่เหมือนเดิม รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจขึ้นมากที่จะได้กลับที่พัก ไอ้เทพที่ตอนนี้เดินข้างๆ ผม พูดขึ้นมาว่า
“ กูจะได้กลับไปนอนที่เต็นท์แล้ว ดีใจชิบหาย นอนในป่าแม่งไม่สบายเลย สู้นอนเต็นท์ก็ไม่ได้ มึงว่ามั๊ย “
ไอ้เทพหันมาถามผม ผมพยักหน้า ไอ้อ๊อตพูดขึ้นมาบ้างว่า
“ คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสินะ ที่ต้องนอนที่เขาชนไก่ พรุ่งนี้กูก็จะได้กลับบ้านแล้ว เย้ “
“ เออใช่ คืนสุดท้ายแล้ว คืนพรุ่งนี้กูก็ไม่ต้องมานอนกลางดิน กินกลางทรายแบบนี้อีกแล้ว กูจะได้นอนบนเตียงนุ่มๆ ได้อาบน้ำเย็นๆ ได้แดกอาหารฝรั่งหรูๆ ไอ้เหี้ยเอ๊ย พรุ่งนี้กูก็จะเป็นอิสระแล้ว “
ไอ้เทพพูดยาวเหยียด ผมสอดขึ้นมาว่า
“ หรูจังนะมึง เออ กูเองก็อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว มาที่นี่ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย สกปรกด้วย วันๆ คลุกดินคลุกทรายตลอด ไม่ได้ลิ้มรสความสบายบ้างเลย เนี่ยพรุ่งนี้พอกูกลับไปถึงบ้านนะ กูจะนอนแม่ง 2 วัน 2 คืนเลย ให้สมกับที่กูเหนื่อยมานาน “
ไอ้อ๊อตฟังแล้วก็ตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะพูดกับผมและไอ้เทพว่า
“ เอาน่า อดทนอีกนิดนึงเว้ยเพื่อนๆ เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้พวกเราก็สบายแล้วว่ะ การฝึกใกล้จะจบเต็มทีแล้ว ว่าแต่คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายทั้งที กูกับไอ้เทพก็เลยคิดที่จะฉลองกันหน่อย ไอ้หนุ่ม มึงจะมาร่วมฉลองกับพวกกูด้วยมั๊ยวะ “
“ ฉลองอะไรของพวกมึงวะ แล้วฉลองที่ไหน “
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมองตากันแล้วก็ยิ้ม
“ เดี๋ยวมึงก็รู้เอง ว่าแต่มึงจะฉลองกับกูมั๊ยล่ะ “
ไอ้เทพถาม ผมยิ้มแล้วตบหลังไอ้เทพป้าบๆ ก่อนจะตอบมัน
“ เอาไงเอากันเพื่อน ฉลองก็ฉลอง กูก็ชอบเรื่องสนุกๆ อยู่แล้ว “
“ ได้เลยเพื่อน ตกลงเราจะฉลองกัน 3 คน นะ มึงสนุกแน่ๆ งานฉลองนี้คงไม่สนุก ถ้าขาดมึง “
ไอ้เทพพูดยิ้มๆ สายตาของมันมีเลศนัยบางอย่าง แต่ผมไม่ทันสังเกตุ ส่วนไอ้อ๊อตก็มองหน้าไอ้เทพแล้วแอบอมยิ้ม เรา 3 คนตั้งหน้าตั้งตาเดินกันต่อไป ผมคุยกับเพื่อนๆ ไปตลอดทาง ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็เดินช้าลงและเกาะกลุ่มกันคุยกับผมเสียงดัง ตอนนี้ไม่มีใครเดินเป็นแถวอีกแล้ว ครูฝึกก็เดินรั้งท้ายอยู่ทำให้ไม่มีเวลาสนใจระเบียบแถว ก็เลยปล่อยให้นักศึกษาวิชาทหารเดินกันตามสบาย ผมคุยเรื่องทะลึ่งตึงตังกับเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ และหัวเราะกันสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขจริงๆ เราเดินกันประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่นานก็กลับมาถึงที่พัก
“ ถึงที่พักแล้วเว้ย พวกเราออกจากป่าแล้ว กลับมาถึงที่พักแล้วจริงๆ นั่นไงเต็นท์ของพวกเรา พวกมึงดูสิ “
ผมพูดกับเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพื่อนๆ ทุกคนมองไปที่เต็นท์ของตนเองด้วยความรู้สึกดีใจแบบสุดๆ ในที่สุด เราก็กลับมาถึงที่พักอันแสนสุขของเราซะที หลังจากที่ไปบุกป่าฝ่าดงมา 2 วันเต็มๆ
คราวนี้ก็เหลืออีก 1 วันเท่านั้น ………
ลาก่อน ! ป่าที่ผมได้อาศัยฝึกมาตลอด 2 วัน และนอนมา 1 คืน ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้กลับมาที่ป่านี้อีกหรือเปล่า

พอทุกคนกลับมาถึงที่พัก ครูฝึกก็ปล่อยให้ไปอาบน้ำทันที ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งไปในเต็นท์ และถอดเสื้อผ้าออกด้วยความรวดเร็วเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แล้วคว้าผ้าขาวม้ามานุ่งปิดร่างกายท่อนล่างไว้พอหลวมๆ (ตอนกลางคืนแบบนี้ไม่อยากเดินใส่กางเกงในโทงๆ ครับ มันเย็นยะเยือกยังไงไม่รู้ ) คว้าสบู่ ขัน ยาสีฟันและแปรงสีฟันผลุบออกจากเต็นท์เดินไปที่โรงอาบน้ำทันที ระหว่างทางเจอไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และไอ้เด่น ก็เลยชวนกันเดินไปด้วยกัน ระหว่างที่เดินไอ้อ๊อตก็บีบต้นแขนผมเบาๆ แล้วบอกว่า
“ อาบน้ำแปรงฟันให้สะอาดๆ นะเว้ย เดี๋ยวคืนนี้คงต้องใช้ปากนานแน่ๆ “
ผมยิ้มแล้วตอบกลับไปทันที
“ เออ สัด มึงเองก็เหมือนกันแหละ อาบให้สะอาดๆ ละกัน “
ตอนนี้ทุกคนเดินมาถึงโรงอาบน้ำแล้ว คนกำลังอาบน้ำกันเยอะมากๆ ผมและเพื่อนๆ รีบเดินเข้าไปแล้วสลัดผ้าขาวม้าออกจากตัว จ้วงน้ำจากอ่างเอาขึ้นมาราดตัวอย่างไม่รอช้า ทุกคนตักน้ำอาบเอาอาบเอาเพราะร้อนเหลือเกิน ระหว่างที่อาบผมก็มองหุ่นของคนที่มาอาบไปด้วย ทุกคนกบาลเกรียน หุ่นดี กล้ามเนื้อเยอะ ส่วนใหญ่ผิวจะดำมันขึ้นเงา มีไม่กี่คนที่ขาวตี๋ เป้ากางเกงก็ตุงเป็นลำกันทั้งนั้นแม้แต่ไอ้เด่น ไอ้อ๊อต และไอ้เทพ ก็ตุงด้วย ทุกคนต่างก็กำลังราดน้ำลงไปบนกบาลกันทั้งนั้น ทำให้ผมเกรียนๆ ชี้ขึ้นกลายเป็นทรงหัวตั้ง ดูแล้วน่ารักมากเหมือนเด็กม.ต้น เลย บางคนก็กำลังถูสบู่จนตัวขาวโพลนไปหมด บางคนยิ่งแล้วใหญ่กำลังล้วงเข้าไปในกางเกงในแล้วเอาสบู่ถูควยดุ้นน้อยของเขาอย่างไม่อายสายตาคนอื่น นี่ถ้าแก้ผ้าได้คงแก้ไปนานแล้วนะเนี่ย ผมคิดในใจ ดูจากมือที่กำลังล้วงควักควยอยู่ผมก็พอจะนึกภาพควยของเขาออก ควยคงจะดำๆ และขนาดก็คงจะใหญ่ไม่ใช่เล่นเลย ทุกคนอาบกันแบบไม่อายกันเลย เป็นภาพที่ชวนมองมาก แต่ผมก็ไม่มีเวลามองนานเพราะต้องรีบอาบ ครูฝึกให้เวลาทุกคนอาบน้ำแต่งตัวเพียง 45 นาทีเท่านั้น แล้วจะเรียกรวม ผมก็เลยต้องรีบอาบน้ำ แปรงฟัน และล้างหน้าที่ผมพรางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ล้างไม่ค่อยออก ไอ้อ๊อตตักน้ำราดลงไปบนแผ่นอกของตนเองเสียงดังซ่าๆ แล้วหันมามองผมที่ตอนนี้กำลังตักน้ำมาล้างหน้าอยู่
“ ไอ้หนุ่ม เวลามึงไม่ใส่อะไรแบบนี้ มึงดูดีจังว่ะ “
ผมเงยหน้าขึ้นมองมันแล้วหัวเราะ
“ 5555 ยังใส่อยู่โว้ย นี่ไงกูใส่กางเกงในอยู่ กูไม่ได้แก้ผ้าอาบนะมึง “
“ กูหมายถึง รูปร่างมึงว่ะ กูพูดจริงๆ นะ เวลามึงใส่ชุดฝึกก็ดูงั้นๆ แต่กูเพิ่งเห็นว่าความจริง มึงหุ่นดีโคตรๆ กล้ามเนื้อมึงเยอะดีจังเลยว่ะ กล้ามอกกล้ามแขนมึงนี่แบบว่า… เหลือเกินจริงๆ ไหนขอกูจับหน่อยได้มั๊ย “
ไอ้อ๊อตพูดยังไม่ทันจบ มันก็ถือโอกาสเอามือมาลูบๆ คลำ ๆ ที่กล้ามอกผมช้าๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร มันค่อยๆ ลูบไหล่และหลังเนียนๆ ของผม ระหว่างที่มันลูบอยู่ ผมก็พูดไปด้วย
“ จะลูบจะจับอะไรก็ตามใจมึงเหอะ กูไม่ว่า แต่…เฮ้ยสัดมึงล้วงเข้าไปในตูดกูแล้ว ไอ้เหี้ย เอามือออกก่อน 5555 เดี๋ยวเพื่อนๆ เห็น “
ไอ้เทพได้ยินก็เลยหันมาพูดยิ้มๆ ทั้งๆ ที่ฟองยาสีฟันยังเต็มปากอยู่
“ ตามสบาย กูจะทำเป็นไม่เห็นนะ เต็มที่เลยไม่ต้องอาย “
“ กับพวกมึงด้วยกันน่ะกูไม่อายหรอก กูหมายถึงคนอื่นในนี้เว้ย เอามือออกก่อนไอ้อ๊อต กูอายเค้า “
ไอ้อ๊อตยอมเอามือออกจากตูดผมแล้วเปลี่ยนมาลูบข้างหน้าแทน ปากก็พูดไปด้วย
“ อูยยยย สัดดดดด กูลูบกล้ามมึงแล้วกูก็เสียวว่ะ ไอ้เหี้ยคนอะไรหล่อแล้วยังหุ่นดีอีก มึงดูสิควยกูเริ่มแข็งแล้วนะ ไม่เชื่อมึงมองเป้ากูได้เลย แม่งไม่ไหวแล้ว “
จริงอย่างที่มันพูด ตอนนี้เป้าของไอ้อ๊อตตุงออกมามาก แถมยังไหวพะเยิบๆ อีกด้วยราวกับควยอยากจะออกมาชมโลกภายนอกยังงั้นแหละ ผมยิ้มๆ ไม่พูดอะไร ไอ้อ๊อตลูบหน้าท้องของผมช้าๆ แล้วทำท่าจะล้วงเข้าไปในกางเกงใน ผมรีบตะครุบมือมันไว้ด้วยความตกใจ
“ เฮ้ย ไอ้เหี้ย จะทำไรวะ อย่าล้วงเข้าไปสิ เดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้า พอสัดพอ มึงอย่าทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้สิวะ อายเค้า นี่ที่สาธารณะนะ อยากล้วงเดี๋ยวกูให้ล้วง แต่เป็นที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่ อาบน้ำต่อเหอะสัด เดี๋ยวไม่ทันนะ “
“ ขอโทษว่ะ กูเผลอตัวไปหน่อย “
ไอ้อ๊อตทำหน้าเจื่อนแล้วรีบปล่อยมือจากผม หลังจากนั้นมันก็อาบน้ำต่อ ผมก็ล้างหน้าต่อ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่นานเพื่อนในกลุ่มก็อาบน้ำแปรงฟันเสร็จเรียบร้อย แยกย้ายกันกลับเต็นท์ไปแต่งชุดครึ่งท่อน แต่งตัวเสร็จยังมีเวลาเหลือก็เลยเอาของ 2 ถุงที่ฝากไว้ที่ครูฝึกคืน แล้วก็ซื้อน้ำเปล่ามาเติมใส่กระติกจนเต็ม พอเติมน้ำเสร็จแล้วครูฝึกก็เรียกรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อสวดมนต์ แล้วก็แยกย้ายกันเข้านอน
………………………………
เที่ยงคืน
ผมนอนกระสับกระส่ายอยู่ในเต็นท์ รองเท้าถุงเท้าถูกถอดวางไว้ข้างๆ ตอน 4 ทุ่ม ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมาบอกผมว่า ดึกๆ จะมาหาเพื่อมาฉลองตามที่ได้พูดเอาไว้แล้ว แต่รอแล้วรออีก มัน 2 คนก็ไม่มาซะที จะออกไปหาถึงเต็นท์ก็กลัวว่ามัน 2 คนกำลังเย็ดกันอยู่ แล้วจะโดนด่าว่ามาเสือกอะไร ผมก็เลยนอนรออยู่ที่เต็นท์ แต่มันก็ไม่เห็นมาเลย ความง่วงเริ่มเข้าครอบงำผม ผมพยายามถ่างตาไม่ให้หลับอยู่ตั้งนานแต่ไม่นานก็ทนง่วงไม่ไหว มันทั้งเหนื่อยและเพลียจากการฝึกมาทั้งวันแล้ว ร่างกายผมอ่อนล้าไปหมด ไม่ช้าผมก็เผลอหลับไป
“ ไอ้หนุ่ม ไอ้หนุ่มเว้ย หลับแล้วเหรอวะ“
ไอ้อ๊อตเปิดท้ายเต็นท์ มองเข้าไปข้างในแล้วเรียกเบาๆ เอาไฟฉายส่องเข้าไปในเต็นท์ด้วย เห็นผมนอนแผ่หราหลับอยู่ก็เลยมุดออกไป แล้วยืนขึ้นพูดกับไอ้เทพว่า
“ เต็นท์ไอ้หนุ่มมันแคบมาก สงสัยแม่งไม่มีเวลาจัดของด้วย ของวางระเกะระกะชิบหาย เราคงเข้าไปพร้อมกัน 2 คนไม่ได้ เดี๋ยวกูก่อน แล้วตามด้วยมึงแล้วกัน “
“ ไรวะ กูก็อยากรุมไอ้หนุ่มพร้อมๆ กับมึงนี่หว่า ทำไมต้องเข้าไปคนละทีด้วยวะ เข้าไปพร้อมๆ กันไม่ได้เหรอ “
ไอ้อ๊อตมองหน้าไอ้เทพ แล้วนิ่งไปนานราวกับกำลังใช้ความคิดอยู่
“ เอางั้นเหรอ งั้นกูขอเคลียร์พื้นที่เต็นท์มันก่อนละกัน รอแป๊ป “
ไอ้อ๊อตพูดแล้วก็ผลุบเข้าไปในเต็นท์ผมอีกครั้ง มันเอาไฟฉายส่องของที่วางอยู่ในเต็นท์แล้วหยิบมาวางกองๆ รวมกันไว้ที่ปลายตีนผม เสร็จแล้วจึงมุดออกมาพูดกับไอ้เทพอีกครั้ง
“ โอเค ตอนนี้ข้างในกว้างขึ้นกว่าเดิมแล้ว ลุยได้เลย อ้อ เงียบๆ เบาๆ ด้วยนะสัด อย่าไปเหยียบไอ้หนุ่มแม่งล่ะ “
“ เออน่า “
ไอ้อ๊อตและไอ้เทพค่อยๆ คลานเข้าไปหาผมที่กำลังนอนไม่รู้เรื่องอยู่ในเต็นท์ ไอ้อ๊อตวางไฟฉายไว้ตรงปลายตีนผม แสงจากไฟฉายทำให้มองเห็นทุกอย่างในเต็นท์อย่างชัดเจน ไอ้เทพมองหน้าผมที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ แล้วสะกิดไอ้อ๊อตให้มองด้วย
“ ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งหล่อว่ะ มึงดูสิ แม่งหล่อจริงๆ ขาวตี๋แบบนี้ หุ่นอย่างนี้ กูอดใจไม่ไหวแล้วว่ะ ขอกูประเดิมละกัน “
ไอ้เทพพูดจบแล้วก็ลงนอนตะแคงข้างๆ ผม โน้มตัวมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ไอ้อ๊อตซึ่งหมอบอยู่ข้างล่างรีบถอดหัวเข็มขัดของผมออกด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่วายบ่น
“ ขนาดนอนยังใส่ซะเต็มยศเลย เข็มขัดก็ไม่ถอด ลำบากกูอีก แต่ก็ไม่เป็นไร เพื่อมึงกูยอมได้ ไอ้หนุ่ม“
ไอ้เทพเห็นไอ้อ๊อตพูดเสียงดังไปนิดก็เลยพูดเบาๆ
“ เบาๆ สิวะ เดี๋ยวเพื่อนตื่น ไอ้เหี้ย บางทีมันอาจจะไม่ชอบให้พวกเรามาทำแบบนี้กับมันตอนมันหลับอยู่ก็ได้ อย่าให้มันรู้ตัวเป็นดีที่สุด “
ไอ้อ๊อตกระซิบตอบเบาๆ
“ เออ กูรู้แล้ว “
พอไอ้อ๊อตถอดเข็มขัดผมออก มันก็เลื่อนตัวขึ้นมานอนตะแคงข้างเหมือนไอ้เทพ แต่อยู่แค่ระดับเอวของผมเท่านั้น แล้วแกะกระดุมกางเกงออก รูดซิปลง ก่อนจะซุกหน้าลงไปยังเป้านูนๆ ของผมแล้วจูบเบาๆ อย่างหลงใหล
“ เป้ามันตุงแถมยังหอมดี กูชอบ เฮ้ย ช่วยกันถอดกางเกงมันหน่อยเร้ว ! “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพช่วยกันดึงกางเกงผมออกแล้วขว้างไปข้างๆ แถมไอ้เทพยังถลกเสื้ออ่อนของผมขึ้นด้วย แล้วบรรจงเลียไปที่หัวนมดำๆ ของผมเบาๆ มันเลียข้างซ้ายแล้วย้ายไปเลียข้างขวา แล้วค่อยๆ ลากลิ้นวนไปรอบๆ ก่อนจะลากไปจนทั่งแผ่นอก ลงมาเรื่อยๆ จนถึงสะดือ และจบลงตรงหมอย ไอ้อ๊อตก็ไม่รอช้ารีบถลกกางเกงในของผมลงเช่นกัน ควยขาวๆ ลำยาวเกือบๆ 6 นิ้วกระเด้งออกมาอย่างรวดเร็ว ไอ้อ๊อตมองแล้วก็พูดกับไอ้เทพเบาๆ
“ ควยแม่งใหญ่เหมือนกันนี่หว่า กูก็นึกว่าตี๋ๆ แบบมันจะเล็กๆ อืมมมม กลิ่นหอมดีด้วย “
ไอ้อ๊อตดมควยของผมก่อนที่จะถอกหนังหุ้มควยลงจนสุด หัวควยสีแดงขนาดใหญ่มากโผล่ออกมาทันที ลำควยผงกๆ ด้วยความเงี่ยน เส้นเลือดปูดโปนออกมาเยอะมาก ตรงปลายควยมีน้ำใสๆ ซึมออกมานิดหน่อย ไอ้อ๊อตรีบเลียน้ำนั้นกินทันที แล้วจึงครอบปากลงไปจนมิดโคนควย แล้วเริ่มดูดเอาๆ ไม่ยอมหยุด มือซ้ายก็เล่นพวงไข่ผมไปด้วย ส่วนมือขวาก็ลูบหน้าท้องที่เป็นลอนมัดกล้ามของผมไปพลางๆ
ไม่นานไอ้อ๊อตก็ถอนปากออกเอามือชักแทน แล้วพูดเสียงสั่นๆ
“ หัวควยแม่งใหญ่ดี ดูดแล้วมันส์ปาก ควยแม่งสู้ปากกูชิบหายเลย ลำควยแข็งเหี้ยๆ “
“ ขอกูดูดมั่ง “
ไอ้อ๊อตรีบปล่อยมือออกจากควย แล้วกระเถิบขึ้นไปหอมแก้มผมดังฟ่อด ! มันหอมแก้มซ้ายขวาของผมไม่ยอมหยุด ก่อนจะเลื่อนมาดูดปากผมเบาๆ แถมเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากด้วย ส่วนไอ้เทพก็ดูดควยผมต่อจากไอ้อ๊อต มันทั้งเลียหัวควย ทั้งเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวเบาๆ แล้วยังดูดเน้นๆ บริเวณเงี่ยงควยอีกด้วย มันดูดควยผมอยู่นานก่อนจะเปลี่ยนมาดูดไข่ผมทีละใบ เสียงดังจ๊วบๆๆ ไข่ของผมหายเข้าไปในปากของไอ้เทพช้าๆ ก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับความเสียวแบบเหี้ยๆ พอมันดูดไข่ผมจนหนำใจแล้ว มันก็จับขาผมยกขึ้น แล้วเอาลิ้นฉกไปตรงรูตูดผมพอดี มันทั้งเสียวทั้งจั๊กจี้ ผมเผลอตัวครางออกมาเบาๆ
“ อา…. อูยยยยยยยยยยยยยยยยย “
ไอ้อ๊อตซึ่งดูดปากผมอยู่ตกใจ รีบถอนปากออกมาแล้วถามไอ้เทพ
“ เฮ้ย มันครางแล้ว มันจะตื่นมั๊ยวะเนี่ย “
“ ไม่หรอกน่า มันหลับไปแล้วนี่หว่า อย่าสนเลย เล่นต่อๆ “
ไอ้เทพพูดแล้วก็กระดกลิ้นเลียรูตูดผมต่อ ไอ้อ๊อตทนเงี่ยนไม่ไหวก็เลยกอดผมจนแน่น เอาหน้าซุกไปที่ซอกคอผมแล้วหอมเข้าไปซะเต็มที่เลย มันทั้งกอดทั้งจูบซอกคอผม แล้วก็หอมแผ่นอกและหน้าท้องผมไปด้วย ผมทั้งเสียวทั้งจั๊กจี้ ร้องครางช้าๆ อย่างสะใจ
“ อือออออออออ อา……..ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด “
ตอนนี้ร่างกายท่อนล่างของผมเสียวไปหมดแล้ว เพราะไอ้เทพเอามือชักว่าวให้ผม แล้วจับขาผมถ่างออกจนสุด ไอ้อ๊อตก็กำลังไซ้ผมอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมมันยังขบติ่งหูผมเบาๆ ด้วย แล้วกระซิบข้างหูผมเสียงสั่นๆ
“ ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงจะรู้ตัวบ้างรึเปล่าวะ ว่ากูน่ะ อยากจะทำแบบนี้กับมึงมาตั้งนานแล้ว แต่กูไม่กล้า มึงเดาไม่ออกจริงๆ เหรอว่า กูอยากจะทำอะไรกับมึง เพื่อน กูสนใจควยมึงมานานแล้ว แต่กูไม่กล้า กูไม่มีโอกาสแม้แต่จะเห็นควยมึง จนวันนี้ กูได้เห็น ได้สัมผัสและได้ลิ้มรส “ หนุ่มน้อย “ ของมึงแล้วล่ะ 5555 มันดีกว่าที่กูคิดไว้ซะอีก “
“ กระซิบห่าไรของมึงวะ มันไม่ได้ยินที่มึงพูดหรอก มันหลับไปแล้ว ไอ้เหี้ย “
ไอ้เทพพูด ไอ้อ๊อตพลิกตัวเป็นนอนคว่ำแล้วนอนทับลงไปบนตัวผม ไอ้เทพตะแคงหลบไปข้างๆ นั่งดูสิ่งที่ไอ้อ๊อตกำลังจะทำ ไอ้อ๊อตซึ่งถอดกางเกงรวมทั้งกางเกงในออกหมดแล้ว ตอนนี้กำลังนอนคว่ำทับลงไปบนตัวผม กางขาออก แล้วใช้ควยบดขยี้ควยของผมอย่างสะใจ จนควยของผมซึ่งแข็งเต็มที่แล้วชี้ขึ้นฟ้าพาดไปกับหน้าท้อง ไอ้อ๊อตรีบเอาควยของมันพาดลงไปบนควยผมทันทีแล้วขยับเอวขึ้นลงๆ ถูควยไปมาช้าๆ ควยของเรา 2 คนขนาดพอๆ กันจึงทับกันได้พอดี แต่หัวควยผมใหญ่กว่ามันมาก ควย 2 อันต่างก็ชี้ขึ้นฟ้าและถูกทับอยู่ระหว่างร่างกายของผมกับไอ้อ๊อต ไอ้อ๊อตหลับตาปี๋ด้วยความเสียว แล้วกอดผมไว้แน่น พร้อมกับดูดปากผมไปด้วย
ไม่นานไอ้อ๊อตก็ถอนปากออกแล้วพูดใส่หน้าผมเบาๆ
“ ไอ้หนุ่ม กูรักมึงว่ะเพื่อน “
“ กูก็รักมึง ! “
ไอ้อ๊อตตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงของผม ผมลืมตาขึ้นแล้วกอดไอ้อ๊อตไว้แน่น ไอ้เทพก็พลอยตกใจไปกับไอ้อ๊อตด้วย ไอ้อ๊อตรีบพูดใส่หน้าผมว่า
“ เฮ้ย นี่มึงยังไม่หลับอีกเหรอวะ “
“ พวกมึงทำกูเสียวแบบนี้ กูจะหลับลงได้ไงวะ คิดจะลักหลับกูเหรอ ไม่สำเร็จหรอก นี่เหรองานฉลองของพวกมึง ไอ้พวกเหี้ย กูก็นึกว่าอะไร ฉลองกัน 2 คนสนุกใหญ่เลยนะ มา ! ให้กูฉลองด้วยสิ “
ผมตอบแล้วก็เอามือลูบหัวนมไอ้อ๊อตแรงๆ แถมหอมแก้มมันด้วย ตัวมันหอมกลิ่นสบู่มาก ไอ้อ๊อตรีบกอดผมตอบแล้วเลียซอกคอผมทันที มันทำให้ผมเสียวมากๆ ไอ้เทพก็ล้มตัวลงนอนตะแคงแล้วกอดผมบ้าง ตอนนี้ผมโดนรุม 2 เลย ไอ้เทพอยู่ด้านซ้ายกำลังกอดและหอมแก้มสลับกับดูดหัวนมผมอยู่อย่างเมามัน ส่วนไอ้อ๊อตซึ่งอยู่ด้านขวากำลังเอามือกำควยของผมแล้วถอกเข้าถอกออกอย่างเร็ว จนผมเสียวสุดๆ น้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว
“ โอยยยยยยยยยยยยย ไอ้อ๊อตกูเสียวควยยยยยยย ดีมาก ถอกให้เร็วกว่านี้ไอ้เหี้ย กูชอบ ไอ้เทพมึงเล่นไข่กูเลยสิ ไอ้สัตว์ “
ไอ้เทพเอามือเล่นไข่ตามที่ผมบอก แล้วเลื่อนตัวลงไปเลียรูตูดผมต่อ ผมร้องครางลั่น เสียงควยถูกถอกดังปั่บๆๆ หัวควยถอกบานเหมือนดอกเห็ด ผมซี๊ดปากแล้วพูดกับไอ้อ๊อตว่า
“ มา กูดูดควยให้ “
ผมโน้มตัวลงไปดูดควยไอ้อ๊อตทันที ไอ้อ๊อตกดกบาลผมลงจนผมดูดได้มิดโคนควย แล้วก็ร้องครางอย่างสะใจ ผมทั้งเลียหัวควยของมันแถมยังเอาลิ้นไชรูควยมันเล่นด้วย ผมดูดควยมันไม่นานไอ้อ๊อตก็ให้ผมนอนหงายเหมือนเดิม แล้วมันก็ก้มลงไปดูดควยผมอีกครั้งหนึ่ง มันดูดควยเก่งมากๆ ทั้งเลียทั้งดูดอย่างเมามัน เสียวไปทั้งหัวทั้งลำควยเลย ความเสียวทวีขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าถ้าโดนมันดูดแบบนี้ต่อไป น้ำกามต้องระเบิดออกมาแน่ๆ ผมก็เลยรีบสะกิดบอกไอ้อ๊อตว่า
“ พอก่อน เย็ด เย็ดกันไอ้เหี้ย ต้องน้ำแตกจากการเย็ดถึงจะมันส์ นอนหงายเลยสัด อูยยยยย กูเงี่ยนจนทนไม่ไหวแล้ว แหกตูดด้วยด้วยไอ้เหี้ยอ๊อต นั่นอย่างงั้น ไม่ต้องกลัวเจ็บนะสัด “
ไอ้อ๊อตนอนหงาย แหกตูดออก ไอ้เทพรีบกระเถิบตัวขึ้นมาดูดเลียหัวนมไอ้อ๊อตจากด้านข้าง ผมถ่มน้ำลายลงไปจนทั่วรูตูดของไอ้อ๊อต เอานิ้วแยงเพื่อความแน่ใจว่าเอาควยเข้าได้ แล้วจึงถอกควยลงสุดจนหัวควยบานเป็นมันเยิ้ม จับขาไอ้อ๊อตกางออกจนกว้าง แล้วจ่อหัวควยไปที่รูตูดไอ้อ๊อต ไอ้อ๊อตร้องคราง
“ เบาๆ นะ อย่าทำกูเจ็บนะเพื่อน “
“ มึงไม่เจ็บนานหรอก กูรับรอง กูแตกเร็ว “
ผมไม่รอช้ารีบแหย่หัวควยบานๆ ที่ขนาดของหัวใหญ่น้องๆ เห็ดเข้าไปในรูตูดของไอ้อ๊อตช้าๆ ก่อนที่จะสอดลำควยตามเข้าไปจนเกือบมิดโคนควย แล้วจึงเริ่มโยกเบาๆ ระวังไม่ทำให้เพื่อนเจ็บ หัวควยกระแทกรูตูดไอ้อ๊อตเป็นจังหวะช้าๆ ก่อนที่ผมจะกระแทกเร็วขึ้นๆ ไอ้อ๊อตร้องลั่น หน้าเหยเกด้วยความเสียวกระสันต์
“ โอยยยย กระแทกจุดเสียวกูพอดีเลยยยยย ไอ้เหี้ย กูเสียวโว้ย เหี้ยเอ๊ย ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด “
ผมเอาหัวควยบานๆ สีแดงเถือกกระแทกรูตูดของไอ้อ๊อตเร็วขึ้นๆ เสียงดังป้าบๆๆๆ ปากก็พูดไปด้วย
“ เพื่อนรัก เพื่อนรัก ในที่สุด มึงก็เป็นเพื่อนรักกูแล้วในวันนี้ ไอ้อ๊อต เพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อนคนไหนๆ เพื่อนที่กูได้เอาตูดด้วยความรัก โอยยยย เสียวววววว มึงขมิบรูตูดใส่ควยกูด้วยเหรอ ไอ้เหี้ยมิน่าถึงเสียวขนาดนี้ อูยยยยย เสียวหัวควยจะแย่อยู่แล้ว น้ำกูจะออกแล้วววววว “
ไอ้อ๊อตขมิบรูตูบใส่หัวควยบานๆ ของผมไม่ยอมหยุด ความเสียวแล่นไปทั่วร่างกาย ผมสูดหายใจลึกๆ เตรียมจะชักควยออกมาหลั่ง ก็พอดีไอ้เทพโพล่งขึ้นมาว่า
“ เดี๋ยว อย่าเพิ่งแตก ขอกูด้วยคน กูก็อยากโดนไอ้ตาเดียวหัวลูกชมพู่ของมึงทะลวงเหมือนกัน มาขอกูบ้าง “
“ ได้เลยเพื่อน อยากได้ควย เดี๋ยวกูจัดให้ “
ผมรีบดึงควยออกจากรูตูดของไอ้อ๊อตทันที ไอ้อ๊อตกลิ้งตัวไปด้านข้างแล้วใช้มือชักควยของตนเองไปเรื่อยๆ ผมหันมาจัดการกับไอ้เทพ ทั้งกอดทั้งจูบและดูดปากมันเป็นการใหญ่ ตอนนี้มันนอนหงายในสภาพแก้ผ้าออกหมดแล้วเช่นกัน ควยของมันแข็งโด่ผงกหัวหงึกๆ ผมจับมันฉีกขาออกแล้วถ่มน้ำลายลงไปตรงรูตูดมันเหมือนที่ทำกับไอ้อ๊อต แล้วถอกควยลงจนหัวควยบานแดงเถือกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ผมจ่อหัวควยสีแดงเลือดหมูไปตรงรูตูดของไอ้เทพแล้วค่อยๆ ยัดหัวควยและลำควยเข้าไปช้าๆ แล้วก็ขยับสะโพกกระแทกรูตูดมันแรงๆ ไอ้เทพถึงกับร้องครางโหยหวน
“ โอยยยยยย อือออออ ซี๊ดดดด เสียวตูดจังเลยว่ะ หัวควยมึงนี่ใหญ่ดีจริงๆ กระแทกทีมันส์ชิบหายเลย “
“ เออ กูก็เสียวเหมือนกัน ก็หัวควยกูมันใหญ่นี่หว่า ซี๊ดดดดดดดด เสียวโว้ยยยยยยยย “
เสียงลำควยกระแทกรูตูดดังป้าบๆๆๆๆ ผมเอามือลูบแผ่นอกและหัวนมไอ้เทพไปด้วย ควยก็กระแทกรูตูดไม่ยอมหยุด แถมยังเอาหัวควยบดรูตูดแบบเน้นๆ ให้อีกด้วย ผมรู้ดีว่าทำแบบนี้ มันจะทำให้ไอ้เทพเสียวแทบขาดใจ แล้วก็จริงดังคาด ไอ้เทพครางดังกว่าเดิม มันหลับตาปี๋ และหอบไปด้วย
“ โอยยยยย แฮ่กๆ เสียวตูดจัง กูไม่เคยเสียวแบบนี้มาก่อนเลยว่ะ อูยยยยยยยยยยย ซี๊ด….. “
ผมเอามือบีบเอวไอ้เทพไว้แล้วเอาหัวควยขยี้รูตูดไอ้เทพอย่างจงใจอีกครั้ง ก่อนจะกระเด้าแล้วกระเด้าอีกอย่างมันส์ควย ป้าบๆๆๆๆๆ
“ ไอ้เทพ เพื่อนรัก ชอบแบบนี้มั๊ย เพื่อนรักอีกคนของกู โอยยย ไม่ไหวแล้ว น้ำกูจะแตกแล้ววววว “
ไอ้อ๊อตนั่งมองผมเย็ดกับไอ้เทพแล้วชักควยเข้าออกเข้าออกอยู่นานจนรู้สึกทนไม่ไหว รีบโผเข้ามากอดผมแล้วเลียหัวนมผมไปด้วยทั้งๆ ที่ผมกำลังนั่งเย็ดอยู่ ทำให้ผมยิ่งเสียวจนทนไม่ไหว หัวควยก็เสียว แถมหัวนมยังเสียวอีก ใครทนไหวก็นับถือแล้ว ผมเสียวจนสุดจะกลั้นได้อีกต่อไป รีบบอกไอ้อ๊อตกับไอ้เทพว่า
“ กูไม่ไหวจริงๆ แล้วเพื่อนรักทั้ง 2 สุดจะทนแล้วววววว กูจะแตกแล้วนะ โอยยยย แตกแล้ว แตกดีกว่ากู “
วินาทีนั้น ผมก็ชักควยออกมาจากรูตูดไอ้เทพ ตอนนี้ควยของผมแข็งแบบเต็มที่ หัวควยมันวาวสีแดงเถือกดูน่ากลัวมาก แถมลำควยก็แข็งราวกับหิน มันดีดตัวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ผมเอามือถอกหนังหุ้มควยที่กองอยู่ที่เงี่ยงควยลงจนสุดทันที น้ำกามสีขาวขุ่นข้นระเบิดออกมาจากรูควยไม่ยั้ง พุ่งกระฉูดข้ามหัวของไอ้เทพทันที มันพุ่งฟืดๆ ออกมาเป็นสายยาวติดต่อกันหลายที ผมครางเสียงดังลั่น มือยังคงรูดควยขึ้นลงๆ ไม่ยอมหยุด เสียวเหี้ยๆ เลยกู ปั่บๆๆๆๆ
“ ซี๊ดดดดดดดดดดด ออกแล้วโว้ยยยยย ออกมาเยอะเลยโว้ยยยยย สะใจโว้ยยย พุ่งใหญ่เลย “
น้ำกามของผมยังคงพุ่งอยู่ น้ำกามที่ออกมาแรกๆ พุ่งไปถึงคอของไอ้เทพ หลังๆ จึงค่อยพุ่งโดนหน้าท้องของไอ้เทพอย่างจังจนกระจายเละเทะเต็มไปหมด จังหวะเดียวกับไอ้อ๊อตก็น้ำแตกเช่นกัน ไอ้อ๊อตรีบหันควยไปตรงหน้าท้องไอ้เทพ ทำให้น้ำกามเหนียวๆ ของมันพุ่งไปที่เดียวกับผม น้ำกามของไอ้อ๊อตก็ไม่ใช่น้อยๆ มันออกมาเยอะมาก แถมยังพุ่งกระจายไปรวมกับน้ำของผมจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร ไอ้เทพสะดุ้งสุดตัวแล้วพูดว่า
“ เหี้ย น้ำใครวะร้อนชิบหาย ยังกะน้ำร้อนแน่ะ น้ำมึงรึเปล่าวะไอ้หนุ่ม สัด โคตรร้อนเลย แต่ก็ดี กูชอบ เร่าร้อนดี อูยยยย ช่วยกูด้วยยยย ดูดควยกูให้น้ำแตกด้วยสิ กูเสียว “
“ น้ำกูเองแหละที่ร้อน จะให้กูดูดควยเหรอ ได้เลยเพื่อน “
ผมตอบแล้วรีบรูดควยรีดน้ำกามออกจนหมด แล้วจึงก้มลงเอาปากครอบควยลำยาวของไอ้เทพต่อทันที ผมดูดควยมันไม่นานน้ำกามของมันก็แตกคาปากผม ผมเอาปากรองน้ำกามของมันไว้จนมันหลั่งออกมาจนหมด แล้วจึงถ่มทิ้งไป
“ แฮ่ก แฮ่ก ทั้งเหนื่อยทั้งเสียว โอยยย มันส์ มึงนี่มันสุดยอดจริงๆ เพื่อนเทพ เพื่อนอ๊อต “
ผมพูดพลางหอบไปด้วย ไอ้เทพเอามือละเลงน้ำกามจำนวนมากที่ไหลเนืองนองอยู่ทั่วหน้าท้องมัน แล้วจึงมองควยผม ก่อนจะพูดว่า
“ มึงก็สุดยอดจริงๆ ดูสิควยมึงยังไม่ค่อยอ่อนเลย ไอ้เหี้ย ลำควยยังยาว หัวควยก็ยังบานอยู่อีก สุดยอดจริงๆ ว่ะมึงเนี่ย ฟิตยังกะม้าแน่ะ “
ผมยิ้มรับคำชมของไอ้เทพ ไอ้อ๊อตซึ่งนั่งหอบอยู่ข้างๆ โผเข้าหอมแก้มผม มือก็ดึงควยผมเล่นไปด้วย แล้วพูดว่า
“ ไอ้หนุ่ม กูรอวันนี้มานานแล้ว ในที่สุดก็มาถึงจนได้ วันที่กูได้เล่นเสียวๆ กับมึง กูรักมึง เพื่อน กูรักมึงจริงๆ “
“ กูก็รักมึง กูเองก็อยากจะทำแบบนี้กับมึงมานานแล้วเหมือนกัน แต่ไม่กล้า ตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอีกแล้วนะ เพราะเรา 3 คนก็มีอะไรกันถึงขั้นนี้แล้ว เพื่อนอ๊อต เพื่อนเทพ “
ไอ้อ๊อตยิ้มน้อยๆ แล้วปล่อยมือจากควยผม หันไปคว้าควยไอ้เทพมาถอกเล่นบ้าง ปากก็พูดต่อ
“ มึงสัญญานะ ว่ามิตรภาพของเรา 3 คนจะยังคงยืนยาวไปตลอดกาล ไม่มีเปลี่ยนแปลง กูหวังนะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนี้ จะไม่ทำให้มิตรภาพที่เราเคยมีมาตลอด 3 ปี (ม.4-6) ลดน้อยลง “
ไอ้เทพรีบพูดขึ้นมาก่อน
“ ไม่ลดอยู่แล้ว มันจะยิ่งทำให้ความเป็นเพื่อนของเราเหนียวแน่นขึ้นต่างหากล่ะ “
ผมพูดขึ้นมาบ้าง
“ ใช่ๆ มันทำให้กูรักพวกมึงมากขึ้น และกูจะรักพวกมึงตลอดไปแน่นอน กูสัญญา “
ไอ้อ๊อตฟังผมพูดจนจบแล้วจึงพูดขึ้นมาเบาๆ
“ กูก็รักมึง ไอ้หนุ่ม ไอ้เทพ “
ผมเกิดความคิดเหี้ยๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกเพื่อนรักทั้ง 2 คนว่า
“ เอางี้ เรามาชนควยสาบานกันดีกว่า ว่าเราจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพเห็นด้วย พวกเราไม่เคยอายที่จะเล่นกับควยอยู่แล้ว เรา 3 คนก็เลยคุกเข่าล้อมวงกัน ยืดเอวขึ้น เอามือถอกหัวควยลงจนสุด แอ่นควยออกมาแล้วเอาหัวควยมาชนกันตรงกลางวง รูควยของเรา 3 คนก็เลยชนกัน หัวควยของผมใหญ่ที่สุดก็เลยเป็นจุดเด่น รองลงมาคือหัวควยของไอ้เทพแล้วก็ไอ้อ๊อต ไอ้เทพมองหัวควยของผมแล้วก็ยิ้มขำๆ ก่อนจะพูดว่า
“ ไอ้หนุ่มควยหัวถอก ในฐานะที่มึงมีหัวควยใหญ่ที่สุด มึงพูดก่อนละกัน “
ผมยิ้มอายๆ เกิดมามีหัวควยใหญ่นี่โดนล้อประจำเลย แต่ก็ช่างมัน ขำๆ ดีว่ะ ตอนนี้หัวควยของเรา 3 คนชนกันแล้ว น้ำกามที่เลอะอยู่ตรงรูควยสัมผัสกันอย่างจัง ให้ความรู้สึกสยิวแบบแปลกๆ ผมมองหน้าเพื่อนรักทั้ง 2 คนแล้วพูดว่า
“ ไอ้เทพ ไอ้อ๊อต กูรักพวกมึง เพื่อนรัก กูสัญญาว่ากูจะเป็นเพื่อนกับพวกมึงตลอดไป “
ไอ้เทพพูดเป็นคนต่อมา
“ ไอ้หนุ่ม ไอ้อ๊อต กูรักพวกมึง กูสัญญาว่าจะคงมิตรภาพระหว่างเรา 3 คนเอาไว้ให้นานเท่านาน จนกว่าแผ่นดินจะกลบหน้ากู “
และไอ้อ๊อตพูดเป็นคนสุดท้าย
“ ไอ้หนุ่ม ไอ้เทพ กูก็รักพวกมึง กูสัญญาว่ากูจะเป็นเพื่อนกับพวกมึงไปตลอด และกูจะไม่ลืมพวกมึงเลย “
ไอ้เทพเอาหัวควยของมันดันหัวควยของผมและของไอ้อ๊อตไปมาช้าๆ จนตูดส่ายไปมา แล้วพูดว่า
“ โอเค ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกเราก็เป็นเพื่อนรักกันตลอดไปแล้ว “
พอไอ้เทพพูดจบ ผมก็โผเข้ากอดไอ้อ๊อตทันที ควยของเรา 2 คนชนกันอย่างจัง ผมขยี้ควยของไอ้อ๊อตอย่างจงใจ ไอ้อ๊อตก็กอดผมตอบซะแน่น ผมหอมแก้มมันอีกครั้งหนึ่ง ปากก็พูดไปด้วย
“ ขอบใจนะที่มึงช่วยกูมาตลอด ตั้งแต่ที่พยายามจะช่วยกูที่สนามยิงปืนแแล้ว แล้วยังตอนที่มึงช่วยกูเต็มๆ ที่สนามรบตอนเข้าตีอีก กูขอบใจมึงมากจริงๆ ถ้ากูไม่ได้มึง กูก็ไม่รู้ว่ากูจะเป็นยังไงต่อไป กูรักมึงจริงๆ “
ไอ้อ๊อตกอดผมตอบ มันเอามือลูบกบาลเกรียนๆ ของผม แล้วจึงลูบไปจนทั่วแผ่นหลัง แล้วพูดเสียงสั่นๆ
“ ที่กูช่วยมึงก็เพราะกูรักมึงไง ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงเป็นเพื่อนที่กูรักมากคนหนึ่งเลย ตอนอยู่ที่โรงเรียนมึงก็ช่วยกูเรื่องเรียนตลอด จนกูสอบผ่านมาตลอด ถ้ากูไม่ช่วยมึงตอบแทนบ้าง กูก็เหี้ยเกินไปแล้ว “
“ ขอบใจ ขอบใจจริงๆ เหลืออีก 1 วันเท่านั้น มึงสัญญานะว่ามึงจะช่วยกูอีก นะเพื่อนนะ “
ผมพูด ไอ้อ๊อตกอดผมแน่นมากขึ้นแล้วรับปาก
“ กูสัญญาว่ะ “
“ กูก็รักมึงนะไอ้หนุ่ม “
ไอ้เทพพูดแล้วก็เข้ามากอดเรา 2 คนด้วย มันยังบอกอีกว่ามันก็รักผมไม่น้อยไปกว่าไอ้อ๊อตเลย แต่ที่ผ่านมามันยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ช่วยผมเท่าไหร่ ต่อไปมันจะพยายามช่วยผมให้มากขึ้นกว่าเดิม เรา 3 คนกอดกันซะกลม เหงื่อของเรา 3 คนไหลเยิ้มเต็มตัวจนแฉะไปหมด แต่ก็ไม่มีใครรังเกียจเหงื่อของเพื่อนเลย ผมเองก็รู้สึกว่าเหงื่อของไอ้อ๊อตกับไอ้เทพมันช่างหอมเย้ายวนใจผมจริงๆ ผมเอามือลูบหลังชุ่มเหงื่อของเพื่อนรักทั้ง 2 อย่างสะใจ แล้วยังดูดปากกับไอ้อ๊อตแล้วก็ไอ้เทพสลับไปมาอย่างดูดดื่มอย่างไม่นึกรังเกียจเลย รักพวกมึงจริงๆ เลยคืนนี้ จนสมควรแก่เวลา ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพก็กลับไปเอาผ้าขาวม้าที่เต็นท์ เรา 3 คนเปลี่ยนไปนุ่งผ้าขาวม้า แล้วเดินกอดคอไปยังโรงอาบน้ำ ยามที่ยืนอยู่หน้าโรงอาบน้ำมองเรา 3 คนแปลกๆ
“ พวกมึงจะอาบน้ำกันเหรอ “
ยามถาม ผมพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ เออ ขอพวกกูอาบกันหน่อยเถอะ นิดเดียวเท่านั้นแหละ เหนียวตัวชิบหาย พวกกูจะรีบอาบรีบไปว่ะ “
ยามทำท่าเหมือนไม่อยากให้อาบ เพราะครูฝึกคงจะสั่งว่าห้ามไม่ให้นักศึกษาวิชาทหารมาอาบน้ำยามวิกาลแบบนี้ เพื่อตัดปัญหา ผมก็เลยควักแบงค์ 20 ที่เตรียมมายื่นให้มัน แล้วบอกว่า
“ แค่นี้คงอาบได้แล้วนะไอ้สัตว์ อย่าบอกใครล่ะมึง “
ยามรับเงินมาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ผมกับเพื่อนๆ รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำล้างตูดล้างควยจนสะอาด อากาศตอนดึกนี่หนาวเหมือนกัน เรายังคงนุ่งกางเกงในอาบกันเหมือนเดิม ใจจริงผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพอยากจะแก้ผ้าอาบน้ำแบบเดียวกับที่พวกทหารทำ มันดูแมนๆ ดี แต่ก็ไม่กล้าเพราะเห็นยามกำลังยืนมองอยู่ พอเราอาบน้ำเสร็จก็เดินกอดคอกลับมาที่เต็นท์ พอถึงเต็นท์ผม ผมก็พูดว่า
“ ฝันดี เพื่อนรักทั้งสอง แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ สัด “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพตอบเกือบพร้อมกัน
“ ฝันดี เพื่อนหนุ่ม เจอกันพรุ่งนี้โว้ย “
ผมยิ้มแล้วมุดเข้าไปในเต็นท์ ภายในเต็นท์มีกลิ่นคาวน้ำกามของเพื่อนทั้ง 2 คนคละคลุ้ง แต่ผมก็ไม่นึกรังเกียจ รีบล้มตัวลงนอนแผ่อย่างสบายใจ สบายชิบหายเลยได้นอนคนเดียวแบบนี้ ผมคิดแล้วเอาผ้าเช็ดตัวมาหนุนแล้วหยิบหมวกมากอด คืนนี้เป็นคืนที่ผมประทับใจจริงๆ ได้สนุกเสียวแบบสุดๆ กับเพื่อนรักทั้งคู่ แล้วยังได้บอกความในใจของผมออกไปจนหมดด้วย ถึงแม้จะรู้สึกละอายใจนิดหน่อยเพราะผมเคยตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนมาเข้าค่ายแล้วว่า มาที่นี่จะมาฝึกแบบแมนๆ อย่างเดียว ไม่ได้ต้องการจะมามีเซ็กส์ แต่ก็อดใจไม่ไหว มีเซ็กส์ไปจนได้ แต่ก็ช่างเถอะ อย่างไรมันก็เสียวดี ผมนอนยิ้มอย่างมีความสุข คิดในใจว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่ประทับอยู่ในความทรงจำของผมไปตลอดกาล ไม่มีวันลบเลือนเลย คืนนี้นอนเขาชนไก่เป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้ก็ฝึกวันสุดท้ายแล้วด้วย ไม่รู้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง แต่ผมก็สู้ตาย จะฝึกแบบเต็มที่และจะสนุกไปกับมันด้วย ผมนอนคิดไปยิ้มไปจนหลับสนิท
…………………………………………
ที่เต็นท์ของไอ้เทพ และไอ้อ๊อต ไอ้อ๊อตยังไม่หลับ มันพลิกตัวไปมาหลายครั้ง สุดท้ายก็พลิกไปกอดไอ้อ๊อตเอาไว้แน่น แล้วพูดเบาๆ
“ ไอ้เทพ ถามไรหน่อยดิ “
“ มีไร “ ไอ้เทพตอบเบาๆ ยังหลับตาอยู่ มันคงง่วงแล้ว
“ ตกลงมึงเป็นแบบไหนกันแน่ “
ไอ้เทพนิ่งไปครู่หนึ่ง
“ มึงถามกูทำไม “
“ มึงลืมไปแล้วเหรอ คืนนั้นมึงทำทีจะเอาตูดกู แต่กูรู้สึกว่ามึงไม่ค่อยอยากจะเอาตูดกูเท่าไหร่ แค่เอาหัวควยถูๆ ไถๆ ตรงรูตูดกูนิดเดียวเอง มึงอ้างว่าไม่อยากทำกูเจ็บ กูก็ตะหงิดๆ ว่ามันผิดวิสัยคนเป็นรุก คนเป็นรุกแม่งไม่ทำแบบนี้หรอกมึงก็รู้ใช่มั๊ย มันต้องเอาตูดแบบสุดๆ ไปแล้ว แล้วคืนนี้มึงก็ให้ไอ้หนุ่มเอาตูดเฉยเลย เหมือนกับกู กูเลยสงสัยว่า มึงเป็นรุกหรือรับกันแน่วะเพื่อน “
ไอ้เทพนิ่งไปเป็นนาน สุดท้ายก็พูดว่า
“ โอเค กูไม่ปิดบังมึงอีกแล้ว กูก็เป็นรับเหมือนมึงน่ะแหละ คืนนั้นกูแค่อยากจะลองรุกดูบ้าง แต่มันไม่มีความรู้สึกอยากทำจริงๆ ว่ะ กลัวควยเปื้อนขี้ แล้วใจจริงกูก็เอาตูดมึงไม่ลงด้วย กูก็เลยแค่เอาควยถูๆ ข้างนอกตูดมึงก็แค่นั้นเอง หึ หึ เข้าใจแล้วนะ “
ไอ้อ๊อตยิ้มทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ แล้วพูดต่อ
“ แล้วเรา 2 คนก็เป็นขั้วเดียวกันจนได้ 555 ขอบใจที่พูดความจริงกับกูนะ เพื่อนรัก ต่อไปก็ไม่ต้องมาทำเป็นจะมาเอาตูดกูอีกแล้วนะ เราพวกเดียวกันแล้ว “
ไอ้เทพหัวเราะก่อนจะตอบไป
“ เออ พวกเดียวกันก็พวกเดียวกัน กูนอนล่ะ เพลีย พรุ่งนี้ปลุกกูด้วยนะ “
“ โอเค “
ไอ้อ๊อตตอบแล้วนอนกอดไอ้เทพต่อ ไอ้เทพก็กอดตอบ ไม่นานทั้งคู่ก็หลับไป

ผมรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เช้ามืด รีบลุกออกจากเต็นท์เดินไปที่โรงอาบน้ำเพื่อแปรงฟันและล้างหน้าที่ยังดำจากสีพรางหน้าอยู่ ผมพยายามล้างด้วยน้ำเปล่า ล้างตั้งนานก็ออกไม่หมดซะที เพื่อนนักศึกษาวิชาทหารที่ยืนล้างหน้าอยู่ข้างๆ ก็เลยให้ผมยืมโฟมล้างหน้า ผมขอบใจเขาแล้วก็ล้างหน้าด้วยโฟมไม่กี่ครั้งหน้าก็หายดำ แล้วผมก็รีบเดินกลับมาที่เต็นท์รีบเก็บของลงเป้สนามจนหมด ก่อนจะออกมาทักทายเพื่อนๆ นอกเต็นท์ วันนี้ทุกคนดูมีความสุขมากเพราะจะได้กลับบ้านกันแล้ว หลังจากที่ทนทรมานกันมาถึง 4 วันเต็มๆ
ตี 5 ครูฝึกเป่านกหวีดเรียกให้ตื่น แล้วพอตี 5 15 นาทีก็เป่านกหวีดอีกครั้งเพื่อเรียกรวม ทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวทันทีพร้อมกับแบกเป้สนามมาด้วย เสร็จแล้วครูฝึกก็ให้แยกย้ายไปกินข้าว ผมซื้อหมูปิ้งข้าวเหนียวกินนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ พอทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับมารวมพลกันอีกครั้ง หัวหน้าชุดฝึกยืนจังก้าอยู่ด้านหน้าแถวเหมือนเดิม ตะโกนเสียงดังลั่น
“ วันนี้เป็นการฝึกวันสุดท้ายแล้ว ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ด้วย ทั้งหมด ทราบ ! “
“ ทราบ! “ ทุกคนตะโกนตอบพร้อมกัน
“ ลุก ! “
ทุกคนลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว หัวหน้าชุดฝึกกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยความพอใจ นักศึกษาวิชาทหารทุกคนดูมีระเบียบขึ้น แข็งแกร่งขึ้น 4 วันของการฝึกวิชาทหารที่เขาชนไก่นี้ มันหล่อหลอมนักศึกษาทุกคนให้แกร่งสมชายชาตรีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะจริงๆ
“ หน้า – เดิน ! “
ทุกคนออกเดินตามครูฝึกไปเรื่อยๆ ครูฝึกพาทุกคนเดินมาที่ลานโดดหอ ( ที่เดียวกับที่ฝึกฐาน 10 ฐานในตอนบ่ายของวันแรกนั่นเอง ) พอมาถึงแล้วก็เอาเป้วางรวมกันไว้ แล้วแยกย้ายกันไปฝึกตามหมวด หมวดของผมต้องฝึก “ ข้ามลำน้ำ “ ก่อน ครูพิชิตพาผมและเพื่อนๆ เดินไปถึงบึงใหญ่แห่งหนึ่ง มีเชือกขึงอยู่เต็มไปหมด มีทั้งเชือกเส้นเดี่ยว เส้นคู่ สะพานขึง และเชือกแบบแปลกๆ อีกมากมาย เราต้องไต่เชือกเหล่านี้ข้ามลำน้ำไปให้ได้ ครูพิชิตยืนอยู่หน้าแถวแล้วสั่งว่า
“ ให้ทุกคนวิ่งตามกันไปทีละหมู่ ไปตามเชือกเส้นต่างๆ ที่ขึงไว้รอบบึงนี้ แล้วก็ไต่เชือกข้ามไปทีละคน ก่อนอื่นจะให้เพื่อนเราสาธิตให้ดูก่อน เอ้า ไอ้จักรพล ออกมาไต่ให้เพื่อนดูซิ “
ไอ้จักรพล หรือไอ้เด่น รีบวิ่งออกมาหน้าแถวแล้วนอนคว่ำไต่เชือกเส้นเดี่ยวที่ขึงไว้ระหว่างต้นไม้ 2 ต้นไปอย่างรวดเร็ว มันไต่ได้คล่องแคล่วและเร็วมากเพราะตัวมันเพรียว ไม่เทอะทะ แต่พอไต่ไปได้แค่ครึ่งทางก็เอามือกุมเป้ากางเกงด้วยความเจ็บ เพราะการนอนคว่ำแล้วไต่เชือกไปเรื่อยๆ แบบนี้ เชือกก็ย่อมรั้งเป้าอยู่แล้ว แต่มันก็กัดฟันไต่ต่อไปจนถึงปลายเชือก ก่อนจะกระโดดลงมายืนที่พื้นทำหน้าเหยเกอย่างบอกไม่ถูก ( คงเจ็บเป้าพอสมควร ) เพื่อนๆ ทุกคนปรบมือให้ แล้วฟังครูพิชิตพูดต่อ
“ ทำได้ดี ทุกคนก็ต้องทำได้แบบมันนะ ตอนฝึกจริงเชือกจะขึงอยู่เหนือบึงแบบนั้น ทุกคนดู ( ครูพิชิตชี้ไปที่เชือกที่ขึงอยู่เหนือบึงที่มีน้ำเต็มเปี่ยม ทุกคนมองตามแล้วก็ถอนหายใจ ) พยายามไต่ข้ามไปให้ได้ล่ะ แต่ถ้าใครพลาดตกลงมาก็เรื่องของมึง ยังไงก็ฝึกให้ครบทุกอันแล้วกัน เอ้า ทั้งหมด ลุก ! เริ่มฝึกได้ หมู่ 1 ไปก่อน แล้วตามด้วยหมู่ 2, 3 ตามลำดับ ระหว่างฝึกอย่าลืมร้อง เอี้ย…เอี้ย….เอี้ย…… ไปด้วยล่ะ ใครไม่ร้องจะโดนหมอบ! “
หมู่ 1 ลุกแล้ววิ่งไปยังเชือกเส้นแรก เป็นเชือกเส้นเดี่ยว ผมมองดูเพื่อนๆ ไต่ข้ามไปทีละคน บางคนก็ไต่คล่องเหลือเกินแป๊ปเดียวก็ไต่เสร็จแล้ว ส่วนใหญ่คนที่ไต่คล่องๆ จะเป็นเพื่อนโรงเรียนอื่น และจะเป็นพวกที่รูปร่างดี ผอมเพรียว แมนๆ รูปร่างลักษณะเหมาะกับการฝึกทหาร พวกนี้ไต่ข้ามไปได้อย่างง่ายดาย แต่เพื่อนโรงเรียนเดียวกับผมบางคนก็ไต่ข้ามไปได้ได้ บางคนไต่ไปครึ่งทางก็ร่วงลงน้ำซะแล้ว ผมมองแล้วกระซิบกับไอ้อ๊อตว่า
“ โห แล้วอย่างนี้กูจะไต่ข้ามมั๊ยวะเนี่ย ยากชิบหาย เพื่อนๆ เราไต่แล้วร่วงซะเยอะเลย “
ไอ้อ๊อตยิ้มแล้วหันมาจับมือผมไว้แน่น แล้วพูดช้าๆ
“ สู้ๆ เถอะว่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คงต้องวัดดวงกันแล้วล่ะ ตาดีรอด ตาร้ายร่วง “
ตอนนี้รอบๆ บึงได้ยินแต่เสียงตะโกนซ้ำๆ แบบนี้
เอี้ย…….เอี้ย……….เอี้ย………
ถึงคิวของหมู่ผมแล้ว ไอ้เด่นเป็นคนไต่คนแรก แน่นอน มันไต่ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แล้วตามด้วยไอ้ไก่ ซึ่งก็ไต่ไปได้เช่นกัน ถัดมาคือไอ้อ๊อต มันไต่ไปได้แค่ครึ่งทางก็ร่วงลงน้ำซะแล้ว ไอ้เทพก็เหมือนกัน จนถึงตาผม ผมค่อยๆ ขึ้นไปนอนคร่อมเชือกเอาไว้ เอามือจับเชือกเอาไว้ซะแน่น แล้วไต่ไปข้างหน้าช้าๆ มันยากกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย แถมผมเป็นคนตัวใหญ่แขนขาเบ้อเริ่มและกล้ามเป็นมัดๆ แบบนี้ เชือกเส้นเล็กๆ เส้นนั้นจึงไม่สามารถรับน้ำหนักของผมได้ ผมไต่ไปได้ไม่ไกลร่างกายของผมก็เริ่มเอียงซ้าย โงนเงนไปมา แล้วมือก็เกิดลื่นขึ้นมาเฉยๆ เพราะเหงื่อออกมามาก ทำให้ผมยึดเชือกเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป และวินาทีนั้น มือทั้ง 2 ข้างของผมก็หลุดจากเชือก พร้อมๆ กับร่างของผมที่ร่วงลงน้ำเสียงดังตูม!!
“ ว๊ากกกกกกกกกกก ! “
ผมร้องลั่นทันทีที่หล่นลงไปในน้ำ น้ำในบึงเย็นเฉียบมาก แถมลึกถึงหน้าอกเลย ผมรู้สึกเย็นยะเยือกแบบสุดๆ เพื่อนๆ ที่ยืนมองอยู่บนฝั่งหัวเราะเยาะผมดังลั่น แต่ผมก็ไม่โกรธอะไร เราพลาดเองนี่หว่า ทำไงได้ ผมรีบเดินลุยน้ำขึ้นฝั่ง ไอ้อ๊อตซึ่งอยู่ในสภาพเปียกปอนและตอนนี้ยืนรออยู่บนฝั่งรีบยื่นมือมาดึงผมขึ้นมา แล้วพูดว่า
“ ตกน้ำเหมือนกูเลยเพื่อน เอาน่า ช่างมัน ไปฝึกอันต่อไปกันเหอะ “
“ เออ ซวยชิบหายไม่น่าตกน้ำเลย แม่งเปียกไปถึงรองเท้า และกางเกงในเลย แม่ง! แฉะเลยกู “
ผมบ่น แล้วยืนรอไอ้แมนก่อน ไอ้แมนเป็นคนสุดท้ายในหมู่ที่ฝึกข้ามเชือกเส้นเดี่ยว มันก็ตกน้ำเหมือนผม ผมรอจนมันลุยน้ำขึ้นฝั่งมาได้แล้ว จึงวิ่งไปฝึกเชือกอันต่อไป แต่ผมและเพื่อนๆ ก็ไม่ลืมที่จะตะโกน เอี้ย……….เอี้ย………..เอี้ย……………….
อันต่อไปเป็นเชือกเส้นคู่ ผมพอไต่ได้ และต่อด้วยสะพานขึง อันนี้ต้องค่อยๆ ปีนข้ามสะพานที่ทำด้วยเชือกล้วนๆ ไปยังฝั่งตรงข้าม ผมปีนได้ไม่ตกน้ำ แต่ก็ปีนยากจริงๆ สรุปก็คือผมและเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ตกน้ำตรงเชือกเส้นเดี่ยวอันเดียวเท่านั้น เชือกเส้นคู่และสะพานขึงไม่ค่อยมีใครตก ส่วนใหญ่จะข้ามไปได้ พอฝึกข้ามลำน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งฝึกผูกเชือกให้เป็นเงื่อนแบบต่างๆ ผมก็ผูกไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ แต่ก็พยายามทำไปจนเสร็จ แล้วก็พากันเดินกลับไปนั่งพักที่ลานโดดหอที่เดิม ตอนนี้ผมเดินไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะตัวเปียกโชก น้ำยังขังอยู่ในรองเท้าเต็มไปหมด ครูฝึกก็เลยสั่งให้พวกที่ตัวเปียกไปทำให้ตัวแห้งก่อน ให้เวลา 45 นาที ผมกับเพื่อนๆ ก็เลยพากันไปนั่งตรงลานกว้างข้างๆ ลานโดดหอ ถอดรองเท้าถุงเท้าออกผึ่งแดดแล้วนั่งตากแดดกันเป็นหย่อมๆ ไอ้แมนซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้นมาว่า
“ พวกเราไม่น่าตกน้ำเลยนะ แฉะไปหมดเลย พวกที่ไม่ตกน้ำเขาไปเตรียมตัวโดดหอกันแล้ว เรายังต้องมารอให้ตัวแห้งอีก “
“ เอาน่า อย่าสนใจเลย ปล่อยให้พวกนั้นโดดไปก่อนเถอะ พวกเราโดดหลังๆ ก็ได้ “
“ แต่เราไม่อยากโดดเลยว่ะ “
ไอ้แมนพูดแล้วก็มองหน้าผม พอมันเห็นว่าผมไม่พูดอะไรก็เลยถามผมบ้าง
“ หนุ่ม นายไม่กลัวการโดดหอเหรอวะ “
ผมหัวเราะก่อนจะตอบมัน
“ ไม่หรอกว่ะ เราว่ามันน่าสนุกดี เราไม่กลัวความสูงอยู่แล้ว อยากโดดจะตาย ท่าทางจะเสียวดี “
“ แต่มันสูงนะเว้ย เรากลัวว่ะ เราเป็นโรคกลัวความสูงอยู่ด้วย เราไม่อยากโดดเลยให้ตายสิ โคตรเสียวเลย “
ผมตบไหล่ไอ้แมนเบาๆ แล้วปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ อย่ากลัวสิวะ หลับหูหลับตาโดดไปเลย ตอนโดดก็อย่ามองลงไปข้างล่าง ปล่อยตัวตามสบาย เดี๋ยวก็โดดเสร็จแล้ว เราเชื่อว่านายทำได้ “
ไอ้แมนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ
“ ขอบใจนะที่ปลอบเรา นายนี่เก่งว่ะ ไม่กลัวอะไรเลย เราสิขี้ขลาดชิบหาย จะทำอะไรก็กลัวไปหมด มาฝึกร.ด. ที่นี่ก็ทำอะไรไม่ค่อยจะได้เลย โดนครูฝึกด่าประจำ เรามันคนอ่อนแอ “
“ เอาน่าแมน อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิวะ นายไม่อ่อนแอและก็ไม่ขี้ขลาดหรอก ถ้านายอ่อนแอนะ นายจะผ่านการฝึกร.ด. มาถึงวันสุดท้ายได้ไงวะ สู้ๆ นะเว้ย อีกเดี๋ยวการฝึกก็จะจบแล้ว “
ผมพูดให้กำลังใจไอ้แมนแล้วก็ลูบหลังมันเบาๆ ไปด้วย ไอ้แมนมองหน้าผมแล้วก็สวมกอดผมทันที ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รีบผลักไอ้แมนออกห่างแล้วบอกว่า
“ เฮ้ย มากอดอะไรตอนนี้ เดี๋ยวคนอื่นเห็นหรอก “
ไอ้แมนยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพูดเบาๆ
“ งั้นไปกอดกันตรงโน้นกันดีกว่า รองเท้าถุงเท้าถอดวางไว้ตรงนี้แหละ ไม่มีใครเอาไปหรอก มาเร็วๆ ไอ้หนุ่ม เดี๋ยวเวลาหมดซะก่อน “
“ ตรงไหนวะ “
ผมถาม แต่ไอ้แมนไม่ตอบ มันฉุดให้ผมลุกขึ้นแล้วพาผมเดินตีนเปล่าไปที่ห้องน้ำสังกะสีใกล้ๆ ลานโดดหอ ระหว่างที่เดินไอ้แมนก็แอบชะโงกมาหอมแก้มผมไปตลอดทาง ผมก็พูดซ้ำๆ ว่าอย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นเห็น แต่มันก็ไม่ยอมฟัง
“ ไม่มีใครมองหรอกน่า อย่าทำปอดแหกไปเลย เอ้า ถึงแล้ว “
ห้องน้ำแห่งนี้เป็นแบบเดียวกับห้องน้ำที่สนามยิงปืน คืออยู่ในที่โล่งแจ้ง เป็นสังกะสีเตี้ยๆ กั้นแยกเป็นห้องแคบๆ ข้างล่างมีโถสำหรับให้ยืนเยี่ยวหรือนั่งขี้ก็ได้ คนที่มายืนเยี่ยวข้างๆ ก็จะเห็นร่างกายท่อนบนของเพื่อน แต่ถ้าชะโงกลงมาดูก็จะเห็นควยอย่างชัดเจน เวลานี้มีคนมายืนเยี่ยวอยู่ไม่กี่คน ไอ้แมนกระซิบบอกผมว่า
“ แถวนี้มันโล่งไปหมด จะทำอะไรก็ลำบาก มีแต่ที่นี่ที่เดียวแหละที่พอจะเล่นเสียวกันได้ เราจะทำให้นายเสียวเอง ไอ้หนุ่ม “
ผมยังไม่เข้าใจว่าไอ้แมนคิดจะทำอะไร ยังไม่ทันได้ถาม ไอ้แมนก็กระซิบต่อ
“ ขอดูดหน่อยเถอะนะ อยากดูดมานานแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปนั่งแอบๆ ในห้องน้ำก่อน แล้วนายค่อยเดินตามเข้าไป พอเข้าไปแล้วก็ยืนเฉยๆ นะ เราจะดูดให้เอง “
ผมตกใจมากพอรู้ว่าไอ้แมนคิดจะดูดควยผมในห้องน้ำสังกะสีเตี้ยๆ แบบนี้ รีบละล่ำละลักพูดกับมัน
“ เฮ้ย ไอ้เหี้ย เอาจริงเหรอวะ.. เรา…เราไม่เอาด้วยหรอกว่ะ ถ้าคนอื่นมายืนเยี่ยวข้างๆ แล้วชะโงกมาดู ก็เห็นนายกำลังดูดควยเราอยู่สิวะ ห่าเราไม่เอาด้วยหรอกว่ะ เสียว ถ้าโดนจับได้ล่ะเสร็จแน่ “
“ ไม่มีใครชะโงกมาดูหรอกน่า เชื่อเราสิ ผู้ชายน่ะเขาไม่อยากจะดูควยของผู้ชายด้วยกันหรอก แล้วอีกอย่างคนมาเยี่ยวน้อยขนาดนี้ เขาไม่มายืนเยี่ยวข้างๆ นายหรอก คอยดูได้เลย ขอดูดหน่อยเถอะว่ะหนุ่ม เราทนไม่ไหวแล้วว่ะ ขอร้องล่ะ เราอยากดูดควยนายใจจะขาดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงน่า ไม่มีใครเห็นเราหรอก เราจะนั่งแอบอย่างดีเลยล่ะ “
ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อน ในเมื่อเห็นมันอยากดูดควยผมขนาดนี้ ผมก็ต้องยอม ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่หว่า สบายตัวอีกต่างหาก
“ เอางั้นเหรอวะ เอาก็ได้ แต่แค่แป๊ปเดียวนะเว้ย “
ผมตอบตกลง ไอ้แมนรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำห้องสุดท้ายทันที นั่งคุดคู้อยู่บนโถส้วมพอไม่ให้คนอื่นมองเห็นแล้วเอื้อมมือมาปิดประตูแต่ไม่ลงกลอน ผมรีบเดินตามเข้าไปทันที เอามือกดไหล่ไอ้แมนลงไปให้มันก้มลงต่ำกว่าเดิมอีกนิดเพื่อไม่ให้คนมองเห็นตัวมัน โชคดีที่ไอ้แมนเป็นคนตัวไม่ใหญ่ จึงสามารถนั่งคู้อยู่ในห้องน้ำได้โดยที่ไม่มีคนเห็น แต่ถ้ามีคนทะลึ่งมามองใกล้ๆ ก็ต้องเห็นอยู่แล้ว แล้วผมก็ยืนเฉยๆ อยู่อย่างนั้น ทำเหมือนกำลังยืนเยี่ยวธรรมดาๆ ไอ้แมนรีบถอดหัวเข็มขัด ปลดกระดุม และรูดซิปผมลงอย่างเร็ว ไม่ช้าควยขาวๆ ท่อนใหญ่ของผมก็กระเด้งออกมาชี้หน้ามัน มันรีบอ้าปากจนกว้างแล้วครอบปากลงไปจนมิดถึงโคนควย แล้วรูดปากขึ้นลงๆ ช้าๆ เป็นจังหวะ
ผมรู้สึกเสียวมาก แต่ก็ยังกลัวคนจะเห็น รีบมองไปรอบๆ มีเพื่อนๆ ทยอยมาเยี่ยวกันมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะยืนเยี่ยวห่างๆ ผม ไม่เข้ามายืนใกล้ๆ ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นว่า ผมกำลังถูกไอ้แมนใช้ลิ้นเลียหัวควยแผล่บๆ ไม่ยอมหยุด
“ อา……. ควยมึงใหญ่ดีจัง หวานด้วย อร่อยดี “
ไอ้แมนเงยหน้าพูดกับผมแล้วครอบปากลงไปใหม่ ใช้ลิ้นตวัดรูควยผมแรงๆ 2 ที ผมถึงกับซู้ดปากด้วยความเสียว รีบอัดกระแทกลำควยเข้าปากไอ้แมนอย่างไม่รีรอ มือก็ขยี้กบาลเกรียนๆ ของมันไปด้วย เสียงควยถูกดูดดังจ๊วบๆๆๆๆๆ
“ ไง ไอ้หนุ่ม เยี่ยวเหรอวะ “
ไอ้เทพที่เพิ่งเดินเข้ามาตะโกนทักผม ผมหันไปมองมันแล้วก็ยิ้ม มันเดินเข้ามายืนเยี่ยวตรงห้องที่ห่างจากผมไปอีก 1 ห้อง ผมลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีที่มันไม่มายืนข้างๆ ไม่งั้นได้เห็นอะไรดีๆ แน่
“ เออว่ะ ปวดชิบหายเลย “
ผมตอบเสียงสั่นๆ เพราะว่ากำลังเสียวหัวควยมากๆ ไอ้แมนดูดควยเก่งจริงๆ ทำเอาผมขาสั่นพั่บๆ ด้วยความเสียวแบบสุดๆ หน้าตาเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเสียว ไอ้เทพมองหน้าผมแล้วขมวดคิ้ว
“ มึงเป็นไรวะ ตัวสั่นใหญ่เลย แถมยังทำหน้าแปลกๆ อีก ยังกะเสียวอยู่แน่ะ มึงเยี่ยวหรือมึงชักว่าววะเนี่ย “
ผมใจหายวาบ ไม่อยากให้ไอ้เทพรู้ในสิ่งที่ผมถูกไอ้แมนทำอยู่ ก็เลยรีบหัวเราะกลบเกลื่อนไป
“ ไอ้เหี้ย เยี่ยวอยู่จริงๆ เว้ย ใครจะมาชักว่าวที่นี่วะ เหม็นก็เหม็น ไม่มีอารมณ์ว่ะ จริงมั๊ย “
ไอ้เทพฟังแล้วก็หัวเราะบ้าง ก่อนจะพูดต่อ
“ เออ เออ กูพูดเล่นน่า เยี่ยวเสร็จแล้วก็รีบไปที่ลานนะ อย่ามัวแต่ยืนรูดควย เดี๋ยวต้องไปโดดหอแล้ว อย่าช้าล่ะมึง เดี๋ยวโดนหมอบไม่รู้ด้วยล่ะ “
ไอ้เทพพูดจบแล้วก็เดินออกไป ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็ต้องเกิดอาการเสียววาบไปทั้งตัวเพราะไอ้แมนทั้งดูดทั้งเลียควยผมอย่างเมามันจนน้ำแทบแตก เพื่อนบางคนที่เยี่ยวเสร็จแล้วต่างเดินออกมาจับกลุ่มกันห่างๆ มองผมแล้วพูดกันเองว่า
“ ทำไมไอ้เหี้ยนั่นแม่งเยี่ยวนานจังวะ กูเห็นมันยืนตั้งนานแล้วยังไม่ยอมเสร็จซะที ยืนมองควยตัวเองอยู่ได้ ไอ้เหี้ย แถมยังทำตัวสั่นๆ ด้วย ไม่รู้แม่งเป็นอะไรของมัน “
แต่เพื่อนๆ อีกหลายคนก็พูดสวนขึ้นมาว่า
“ อย่าไปยุ่งกับแม่งเลย แม่งอาจจะอั้นเยี่ยวไว้มากก็ได้ ก็เลยเยี่ยวนานหน่อย อย่าไปสนใจเลยว่ะ เดินกลับลานกันเหอะ มันจะเยี่ยวนานแค่ไหนก็เรื่องของมัน ไปเหอะว่ะ “
แล้วทุกคนก็พากันเดินกลับไปที่ลานกว้าง ตอนนี้นอกจากผมกับไอ้แมนแล้ว ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย ผมซู้ดปากด้วยความเสียวเป็นครั้งที่ 2 แล้วเอามือขยี้กบาลของไอ้แมนอย่างสะใจ ก่อนจะพูดเสียงสั่นๆ
“ คนไปหมดแล้วว่ะ โอยยย ซี๊ดดดดดดดด เสียวควยจังเลยโว้ยยยยย โอยยยยย นายดูดเก่งชิบหายเลย “
พอไอ้แมนได้ยินว่าคนไปหมดแล้ว มันก็ถอนปากออกจากควยผม แล้วยืนขึ้นถอดกางเกงนอกกางเกงในออกด้วยความรวดเร็ว แล้วจึงทรุดนั่งลงไปใหม่ แต่เป็นการนั่งหันหลังให้ผม แล้วจึงผงกหัวลงไม่ให้มองเห็น ยกตูดขาวๆ ขึ้นให้อยู่ในระดับเดียวกับควยผม ก่อนจะพูดว่า
“ เย็ดตูดเราเลย เร็วๆ ตอนนี้ไม่มีคน ทางสะดวก เร็วๆ สิวะ “
ผมไม่อยากขัดใจมันก็เลยต้องยอมทำตามที่มันขอ ทั้งๆ ที่กลัวคนอื่นเห็นจะแย่ ผมเอื้อมมือไปบีบตูดขาวๆ ของไอ้แมน 1 ทีเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ มันรีบโก้งโค้งยกตูดจนโด่งขึ้นกว่าเดิม ผมเอานิ้วแตะน้ำลายแล้วแหวกรูตูดมันออกช้าๆ เอาน้ำลายทาจนชุ่ม จนรูตูดของไอ้แมนลื่นได้ที่ แล้วผมก็ถอกลำควยลงจนสุด เอาหัวควยแดงเถือกจ่อตรงรูตูดไอ้แมนแล้วค่อยๆ ยัดหัวควยพร้อมด้วยลำควยเข้าไปช้าๆ จนสุด แล้วก็โยกเข้าโยกออกเบาๆ ก่อนจะกระเด้าเร็วขึ้นๆ
ปั่บๆๆๆๆๆๆๆ
“ โอววววว เสียวววว มันส์ชิบหายเลย แรงๆ ไอ้หนุ่ม แรงๆ “
ไอ้แมนร้องครางเสียงหลง ผมยิ่งเร่งอัดควยเข้าไปในรูตูดไอ้แมนแรงขึ้นๆ จนร่างของไอ้แมนสั่นเทิ้มไปหมด
“ จับเอวเราแล้วเย็ดสิวะ เน้นๆ เลย เร็ว ๆๆๆ แรงๆ ด้วย โอยเสียวง่ามตูดชิบหาย “
ผมรีบจับเอวของไอ้แมนเอาไว้ แล้วกระแทกลำควยเข้าออกอย่างไม่ยั้ง ลำควยเสียดสีกับขนที่รูตูดอย่างจัง ทำให้ไอ้แมนถึงกับร้องโอ้ก! ด้วยความเสียวปนมันส์ ผมกระแทกไปไม่กี่ทีก็รู้สึกว่าน้ำจะออกแล้ว ก็เลยตบตูดไอ้แมนแรงๆ 2-3 ทีแล้วพูดว่า
“ เรารักนายนะ ไอ้แมน น้ำเราจะออกแล้วนะ ให้เราออกยังไง แตกในรูตูดนายได้มั๊ย “
ผมยังคงกระเด้ารูตูดของไอ้แมนต่อไปเรื่อยๆ มันร้องครางแล้วรีบตอบทันที
“ อูยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดด แตกในรูตูดเราได้เลย นายเย็ดมันส์ชิบหาย โอยยย รีบแตกเร็วๆ สิเว้ย เมื่อยแล้ว “
ผมได้ยินอย่างนั้นก็รีบอัดลำควยเข้าไปจนสุด แล้วน้ำกามเหนียวๆ ใสๆ ก็กระฉูดเข้าไปในรูตูดของไอ้แมน พร้อมๆ กับเสียงร้องครางอย่างสะใจของผม
“ โอยยยยยยยยยยยยย ซี๊ดดดดดดด น้ำกูแตกอีกแล้วโว้ยยยยยยยยย “
ควยผมกระตุกๆ 2-3 ทีก็หยุด น้ำกามออกมาไม่มากเท่าไหร่ ผมรีบรูดลำควยช้าๆ จนน้ำที่ค้างอยู่ในลำควยออกมาหมด แล้วจึงถอนลำควยออกมาจากรูตูดของไอ้แมนทันที น้ำกามของผมไหลยืดออกมาจากตูดของไอ้แมน มันหันหลังกลับมาทั้งๆ ที่ยังอยู่ในท่านั่งยองๆ แล้วพูดกับผมว่า
“ ทำไมน้ำออกน้อยจังวะ มาที่นี่เอาน้ำออกบ่อยเหรอ แต่ก็ดี ไม่ค่อยเลอะเท่าไหร่“
ผมยิ้มให้มันก่อนจะตอบ พลางคิดในใจ มันต้องน้อยอยู่แล้ว ก็เมื่อคืนเพิ่งหลั่งมานี่เองวะ !
“ คงงั้นแหละ “
ไอ้แมนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำกามออกจากตูดของมันจนสะอาด แล้วลุกขึ้นยืนกอดผมไว้แน่น หอมซอกคอผมเบาๆ ก่อนจะรีบปล่อย แล้วกระซิบข้างหูผม
“ ขอบใจมากนะที่ช่วยเรา เรารักนายว่ะ นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้เย็ดกับนายซะแล้ว รอมาหลายวันแล้วนายก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเราเลย วันนี้โชคดีมีเวลาว่างก็เลยได้มีโอกาสเย็ดกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ อย่างว่ากลัวคนมาเห็นด้วยล่ะ ก็เลยต้องรีบทำให้เสร็จๆ ไป แต่เราก็สนุกว่ะ ไว้กลับไปโรงเรียนแล้วเราหาเวลามาเย็ดกันแบบนี้อีกนะ คราวนี้ขอนานๆ กว่านี้ล่ะ “
“ ได้เลยเพื่อนรัก แต่เราว่าตอนนี้ เราเดินกลับลานกว้างก่อนดีกว่า เดี๋ยวก็คงได้เวลาโดดหอแล้ว “
“ โอเค ไปกันเลย “
แล้วผมกับไอ้แมนก็แต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วก้าวออกจากห้องน้ำ เดินกอดคอกันกลับไปที่ลานกว้าง
…………………………………………….
เราไปถึงลานกว้างแล้วก็รีบใส่รองเท้าถุงเท้าอย่างเร็ว ไม่นานครูฝึกก็เรียกให้เข้าแถว เตรียมโดดหอ ผมต้องใส่หมวกเหล็ก แต่งตัวสำหรับโดดหอโดยเฉพาะ ต้องผูกสายอุปกรณ์อะไรซักอย่างไว้กับตัว แล้วเดินต่อแถวขึ้นไปบนหอสูงทีละหมู่ ผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะไม่เคยโดดหอมาก่อนเลยในชีวิต อีกทั้งเริ่มรู้สึกเวียนหัวและเพลียจนอยากจะอ้วกเนื่องจากเพิ่งหลั่งน้ำกามออกไป ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และไอ้แมนก็ดูจะกลัวเหมือนกัน พวกมันหน้าซีดพอๆ กับผม มีไอ้เด่นคนเดียวที่สีหน้าแช่มชื่น ดูไม่มีความกลัวเลย แต่ผมก็พยายามทำใจให้เข้มแข็ง สลัดความอ่อนเพลียออกไป แล้วคิดว่า ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว คนอื่นโดดได้เราก็ต้องโดดได้สิวะ!
“ ไอ้หนุ่ม เสียวมั๊ยวะ กูเสียวว่ะ แม่งสูงเหมือนกันนะเนี่ย “
ไอ้เทพพูดกับผมขณะเดินต่อแถวขึ้นบันไดหอสูงอย่างช้าๆ ผมพยักหน้า แต่พูดอะไรไม่ออกเพราะกำลังตื่นเต้นมาก พอดีครูฝึกหน้าใหม่ที่ยืนอยู่บนหอตะโกนลงมาว่า
“ เฮ้ย เงียบทำไมวะ พันไหนวะเนี่ย เงียบชิบหายเลย ร้องเอี้ย…เอี้ย…ด้วยสิวะ แม่ง “
แล้วครูฝึกก็กระโดดลงมาเขกหมวกเหล็กของไอ้เด่น ผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพคนละที ทุกคนในหมู่ก็เลยพร้อมใจกันร้องลั่น
“ เอี้ย…………เอี้ย………..เอี้ย……….เอี้ย………… “
ครูฝึกยิ้มอย่างพอใจ
“ เออ เจ๋ง อย่างนี้ค่อยคึกคักขึ้นหน่อย เอ้า ขึ้นมาทีละคน “
ไอ้เด่นขึ้นไปคนแรก แล้วยืนอยู่ตรงช่องที่จะโดด ครูฝึกเอาอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตัวของไอ้เด่นติดเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โดด เช็คความเรียบร้อยแล้วจึงตบไหล่มันเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
“ แหกปากร้องเอี้ย…. เอี้ย….ดังๆ เลยนะมึง ไม่ต้องอายใคร ไปได้ ! “
ทันที่ที่ครูฝึกพูดจบ ไอ้เด่นก็กระโดดลงไปทันที พร้อมกับแหกปากลั่น
“ เอี้ย…………เอี้ย………เอี้ย…………. “
ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อเห็นร่างของไอ้เด่นทะยานลงสู่เบื้องล่าง ไอ้อ๊อตโดดเป็นคนต่อไป หลังจากติดอุปกรณ์ให้ไอ้อ๊อตเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็พูดกับไอ้อ๊อตแบบเดียวกับที่พูดกับไอ้เด่น
“ อย่าลืมแหกปากร้องเอี้ย…… ด้วยนะเว้ย จะได้ลดความเสียวที่สูงลงไปได้บ้าง ไปได้! “
ว่าแล้วครูฝึกก็ผลักไอ้อ๊อตลงไปทันที ต่อไปก็เป็นคิวของไอ้เทพ ไอ้เทพหน้าซีดนิดหน่อย พอติดอุปกรณ์ให้ไอ้เทพเสร็จแล้ว ครูฝึกก็เลยตบไหล่มันเบาๆ แล้วพูดว่า
“ ไม่ต้องกลัวนะมึง จับสายที่โดดให้แน่นๆ ล่ะ ห้ามปล่อย แล้วก็อย่าลืมร้องเอี้ย..เอี้ย…. ด้วยนะ “
“ คะ..ครับผม “
ไอ้เทพตอบตะกุกตะกักพลางเอามือจับสายที่ผูกติดกับตัวมันทางด้านบนไว้แน่น เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ทุกคนที่โดดหอต่างก็จับสายเส้นนี้ไว้แน่นกันทั้งนั้น เพราะกลัวจะตกลงมา ทั้งๆที่ความจริงไม่มีทางที่จะร่วงลงมาแน่ๆ เพราะสายถูกผูกไว้กับอุปกรณ์ที่แข็งแรงมาก แต่ทุกคนก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น ก็เลยจับสายนี้ไว้ซะแน่นเพื่อให้อุ่นใจ
“ ไปได้ ! “
ครูฝึกพูดแล้วก็ผลักไอ้เทพเบาๆ มันกระโดดลงไปทันที ผมได้ยินเสียงตะโกน เอี้ย…เอี้ย……ห่างออกไปทุกทีๆ
“ คนต่อไป! “
ครูฝึกเรียก ผมก้าวออกไปยืนอยู่ต่อหน้าครูฝึกช้าๆ
ในที่สุด เวลาแห่งความเสียวก็มาถึงจนได้!

ผมก้าวไปยืนตรงช่องโดด ครูฝึกเอาอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตัวของผมติดเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โดด เช็คความเรียบร้อยแบบเดียวกับที่ทำกับทุกคน แล้วจึงตบหลังผมเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงเข้ม
“ ไม่ต้องกลัวนะไอ้แว่น หายใจเข้าลึกๆ อย่าลืมร้องเอี้ย…เอี้ย….ด้วยล่ะ ไปได้ ! “
พูดจบครูฝึกก็ผลักผมลงมาทันที ผมกลั้นใจกระโดดลงมาเต็มที่ รู้สึกว่าตัวลอยอยู่กลางอากาศ แล้วเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเรื่อยๆ มันโหวงเหวงมาก เหมือนจะหล่นลงไปข้างล่างให้ได้ ผมเอามือจับสายยึดเอาไว้จนแน่น เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตื่นเต้นทั้งเสียว แต่ก็รู้สึกมันส์ดี ผมไม่กล้ามองไปข้างล่างเลยเพราะรู้ว่าผมอยู่ในตำแหน่งที่สูงมาก ลมเย็นๆ พัดมาปะทะหน้าผม ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียวไส้มากขึ้น
“ เอี้ย……เอี้ย………..เอี้ย………… “
ผมแหกปากแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตัวลอยแกว่งไปแกว่งมาอยู่กลางอากาศ ไม่นานผมก็ลอยมาจนถึงนั่งร้านตรงจุดที่จะลงแล้ว เพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่ข้างล่างตะโกนลั่น
“ งอขา งอขาไว้ ! “
ผมรีบงอขาตามที่เพื่อนบอกทันที เพื่อนคนหนึ่งที่ยืนรออยู่บนพื้นกระโดดขึ้นมาจับขาล่ำๆ ด้านขวาของผมเอาไว้ เพื่อนอีกคนจับขาขวา แล้วยึดตัวผมที่กำลังหมุนเคว้งอยู่เอาไว้จนตัวผมนิ่ง ก่อนจะช่วยกันดึงตัวผมไปข้างหน้า เพื่อนอีกคนเข็นนั่งร้านออกมาจากฉากหลังเพื่อให้ผมหย่อนขาลงไปบนนั้น พอผมลงมายืนบนนั่งร้านเรียบร้อยแล้วเพื่อนที่นั่งอยู่บนนั่งร้านก็ช่วยผมแกะสายอุปกรณ์ออกจากตัวแล้วผูกเชือกอะไรซักอย่างให้ แล้วผมก็ไต่บันไดลงมาจากนั่งร้าน แล้ววิ่งถือสายอุปกรณ์ที่โยงกับสลิงไว้ด้านบนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ปากก็ร้อง เอี้ย ….เอี้ย…เอี้ย….. ไปด้วย
พอผมกลับมาถึงที่จุดเริ่มต้นแล้ว ก็ต้องช่วยเพื่อนคนที่จะโดดต่อไปแต่งตัวให้เหมาะสมกับการโดดหอ คนที่โดดแล้วต้องถอดอุปกรณ์ของตนเองส่งต่อให้เพื่อน แล้วก็ต้องช่วยเพื่อนแต่งตัวด้วย ตอนที่ผมเตรียมตัวจะโดดก็มีเพื่อนมาช่วยผมแต่งตัวแบบนี้เหมือนกัน พอผมโดดเสร็จแล้วจึงต้องมาช่วยเพื่อนคนอื่นแต่งตัวบ้าง เป็นการแสดงความมีน้ำใจ ผมถอดหมวกเหล็กออกแล้วสวมไปบนกบาลเพื่อนคนนั้น ติดสายอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ที่ตัวของเขาจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็ตบไหล่เขาเบาๆ เพื่อนคนนี้หน้าตาหล่อ ผิวดำ แมนและเท่มาก พอเขาเห็นว่าผมแต่งตัวให้เขาเสร็จแล้ว เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ ขอบใจที่ช่วยแต่งให้เรานะเว้ย ! “
“ เออ โดดดีๆ ล่ะ “
ผมตอบยิ้มๆ แล้วลูบหลังเขาเบาๆ อีก 1 ที ก่อนที่เขาจะออกวิ่งไปยังหอสูง ส่วนผมก็ไปนั่งพักเหนื่อยรวมกับเพื่อนๆ แล้วก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย ไม่นานครูฝึกอีกคนก็มาบอกว่า คนที่โดดแล้วให้ไปซื้อปีกซะ ไอ้เด่นรับอาสาไปซื้อให้เพื่อนๆ เอง ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับปีกจำนวนมาก (เพราะมีคนฝากซื้อเยอะ) แล้วจึงแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ผมเอาปีกสีทองมาติดไว้ตรงอกเสื้อด้วยความภาคภูมิใจ นี่คือรางวัลแห่งความกล้าหาญแท้ๆ !
“ ตอนโดดน่ะเสียวสุดยอดเลย แต่พอโดดแล้วได้ปีกมาประดับเนี่ย โคตรภูมิใจเลย เนอะมึงเนอะ “
ผมพูดกับเพื่อนๆ ไอ้อ๊อตฟังผมพูดแล้วจึงพูดขึ้นมาบ้าง
“ เออว่ะ กูก็คิดเหมือนมึง ปีกนี่สวยดีนะ กูชอบว่ะ มันเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศแท้ๆ เลย เพราะมันต้องแลกด้วยความกล้าหาญแบบสุดๆ ในการโดดหอว่ะ พูดแล้วยังเสียวไม่หายเลย ตอนโดดน่ะกูเสียวชิบหาย ! “
ไอ้เด่นหัวเราะแล้วพูดเสียงดัง
“ 5555 กูว่าไม่เท่าไหร่ว่ะ โดดหอเนี่ยกูยอมรับว่ามันส์ดี แต่ก็จิ๊บๆ ว่ะ เทียบไม่ได้เลยกับปี 4 ปี 5 ที่กูจะต้องเจอ กูเดาเอานะว่าถึงตอนนั้น กูจะได้เล่นอะไรเสียวๆ มากกว่าตอนนี้ซะอีก กูชอบว่ะไอ้เรื่องเสียวๆ แบบนี้เนี่ย”
“ ไม่ยักรู้นะว่ามึงชอบเล่นเสียวๆ ด้วย “
ผมพูดยิ้มๆ ไอ้เด่นมองหน้าผมแล้วหัวเราะร่วน
“ 5555555 มึงไม่ต้องเลย พวกมึงทุกคนก็ชอบเล่นเสียวๆ อยู่แล้วนี่ เล่นมาทุกคืนเลยไม่ใช่เหรอ ไอ้พวกเหี้ย! “
ผม ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้ไก่ และไอ้แมนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ถูกของไอ้เด่นมันจริงๆ
หลังจากเรานั่งพักกันพอหายเหนื่อยแล้ว ก็พากันไปซื้อน้ำดื่มกันที่ “ หน่วยบริการความสดชื่น “ ผมซื้อน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิลด์แบบขวดมาดื่มเพื่อชดเชยโปรตีนที่เสียไป ดื่มแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาก ดีจริงๆ พอดื่มเสร็จ เพื่อนๆ ในกลุ่มก็ขอตัวไปเยี่ยวกันหมด ผมก็เลยนั่งพักอยู่แถวนั้นรวมกับเพื่อนๆ คนอื่นในหมวด 2 ผมนั่งอยู่ครู่หนึ่ง ครูฝึกคนเดิมก็เดินมาหาพวกเรา แล้วก็ชี้มาที่ผม และชี้ไปเพื่อนคนอื่นๆ อีก 3 คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมซึ่งผมไม่รู้จักชื่อ แต่จำหน้าได้ว่าอยู่โรงเรียนเดียวกับผม แล้วสั่งว่า
“ มึง 4 คน มากับกู กูจะให้มึงทำงานที่มูลดิน “
ผมกับเพื่อนอีก 3 คนรีบลุกเดินตามครูฝึกไปทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องไปทำอะไร แต่ที่แน่ๆ คือต้องเหนื่อยแน่นอน ซวยจริงๆ นึกว่าโดดหอเสร็จแล้วจะได้นั่งพัก กลับต้องไปทำงานอีกแล้ว
แต่ผมมาถึงที่มูลดิน ซึ่งก็คือตรงลานโดดหอนั่นเอง ผมถึงได้รู้ว่า งานที่มูลดินไม่ได้แย่อย่างที่คิด สำหรับเพื่อนอีก 3 คนอาจจะคิดว่ามันเป็นงานที่ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน แต่สำหรับผมไม่เลย งานที่มูลดินก็คือคนที่คอยช่วยพวกที่โดดหอลงมานั่นเอง ผมมีหน้าที่กระโดดจับขาขวาของคนที่โดดหอลงมาให้มั่น เพื่อนอีกคนหนึ่งกระโดดจับขาซ้าย แล้วเรา 2 คนก็ช่วยกันดึงเขาไปข้างหน้า เพื่อนอีกคนซึ่งยืนอยู่หลังนั่งร้านก็รีบเข็นนั่งร้านออกมาจากฉากหลังเพื่อให้คนโดดหอหย่อนขาลงไปบนนั้น แล้วเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่บนนั่งร้านก็ช่วยเขาแกะสายอุปกรณ์ออกจากตัวแล้วผูกเชือกอะไรซักอย่างให้ ก่อนจะปล่อยให้เขาไต่บันไดลงมาเอง พอผมเริ่มทำงานก็มีคนกระโดดลงมาเรื่อยๆ ผมกับเพื่อนๆ ก็ต้องตะโกนเสียงดังซ้ำๆ ว่า
“ งอขาไว้ๆ ๆ งอขาด้วยเว้ย ! “
เสร็จแล้วก็กระโดดจับขาขวาของเขาไว้ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งต้องอาศัยพละกำลังมากเพราะว่าตัวของเขาจะแกว่งไปแกว่งมาไม่หยุด ผมต้องกะจังหวะดีๆ เพื่อจะได้กระโดดจับขาเขาไว้โดยไม่พลาด ผมกระโดดจับขาล่ำๆ ของผู้ชายที่โดดหอมาเป็นสิบๆ คน เหนื่อยเหมือนกัน ร้อนด้วย แต่สนุกมากกว่าเพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบ ขาของผู้ชายน่ะล่ำๆ แข็งๆ กันทั้งนั้น แถมได้จับคนละตั้งนานๆ แบบนี้ สวรรค์แท้ๆ เลยครับ เพื่อนบางคนกลัวโดดหอมาก พอกระโดดลงมาถึงมูลดิน มองลงมาข้างล่างเห็นผมยืนรอจับขาเขาอยู่ ก็แหกปากลั่น
“ ไอ้หนุ่ม ไอ้หนุ่ม ช่วยกูด้วย จับขากูที! “
ผมรีบกระโดดจับขาเขาทันที แล้วก็จับอยู่ตั้งนานจนเขายืนบนนั่งร้านเรียบร้อย แล้วไต่ลงบันไดวิ่งออกไป คนไหนหล่อๆ ล่ำๆ ผมก็จะจับขานานหน่อย แต่ถ้าไม่หล่อก็จับแป๊ปเดียว ผมมีความสุขมาก ทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็งถึงแม้ว่าจะร้อนจะเหนื่อยล้าแค่ไหนก็สู้ตาย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ผมทำงานจับขาเพื่อนๆ จนไม่มีใครโดดแล้ว ก็ต้องเลิก ทั้งๆ ที่ยังนึกเสียดายว่า ยังจับขาไม่หนำใจเลย
ผมเดินกลับมาที่เดิมอย่างอ่อนระโหยโรยแรง เห็นแต่ไอ้แมนและไอ้เทพนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แค่ 2 คนเท่านั้น นอกนั้นก็เป็นเพื่อนหมวดอื่นๆ ที่เพิ่งโดดหอเสร็จ แล้วทยอยมานั่งพักดื่มน้ำดื่มท่า ถามพวกมันก็ได้ความว่า เพื่อนคนอื่นๆ ในหมู่ แยกย้ายกันไปทำงานตามที่ครูฝึกสั่ง บางคนก็ไปทำงานที่มูลดินอื่น บางคนก็ไปทำความสะอาดปืนและตรวจเช็คอาวุธต่างๆ บางคนก็ไปช่วยครูฝึกทำงานอื่นๆ ส่วนมัน 2 คนทำงานเสร็จแล้ว ครูฝึกจึงให้พัก และจะเรียกรวมทุกคนอีกครั้งในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า ผมก็เลยนั่งลงข้างๆ มัน 2 คน รู้สึกเหนื่อยพอสมควรเพราะเสียพลังงานไปกับการทำงานที่มูลดินไม่น้อย ก็เลยนั่งเงียบๆ อยู่เป็นนาน
ผมนั่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ รู้สึกตัวอีกทีก็เห็นร่างสูงใหญ่ของครูพิชิตยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมรีบสวมหมวกแล้วลุกขึ้นยืนตรงทันที แล้วสะกิดไอ้แมนกับไอ้เทพให้ทำแบบเดียวกับผมด้วย พอเรา 3 คนยืนกันหมดแล้ว ครูพิชิตก็พูดช้าๆ
“ ตามสบายเถอะพวกมึง ไม่ต้องมากระเบียบนักก็ได้ ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวระหว่างกูกับพวกมึงๆ กูแค่อยากจะมาพูดอะไรกับพวกมึงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไม่ได้พูดอีก “
ครูพิชิตพูดพลางมองหน้าผม ไอ้แมน และไอ้เทพ แล้วเดินผ่านหน้าเรา 3 คนไปมา
“ อีกเดี๋ยวพวกมึงก็จะได้กลับบ้านไปนอนสบายแล้ว ส่วนกู…ก็ยังต้องอยู่ที่เขาชนไก่นี้ไปอีกนาน จนกว่าพวกมึงจะฝึกกันหมดทุกผลัด “
ผมมองหน้าครูพิชิต ครูพิชิตซึ่งตอนนี้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้แมน พูดต่อ
“ กูอยู่มาตั้งแต่ผลัดแรก และก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว พวกมึงลองคิดดูสิ ว่าครูฝึกอย่างพวกกูน่ะลำบากกว่าพวกมึงหลายเท่านัก พวกมึงมาแค่ 5 วัน แล้วก็กลับไปนอนตากแอร์สบายๆ ที่บ้านแล้ว แต่พวกกูต้องอยู่เป็นปีๆ แถมยังมีปี 4 ปี 5 อีก แล้วก็ไม่รู้ตั้งกี่ผลัด แถมยังต้องเตรียมการฝึกให้พวกมึงอีก ต้องตะโกนเสียงแหบเสียงแห้ง ทำกับข้าวให้พวกมึงแดก ขุดหลุมให้พวกมึงลงไปนั่งตั้งรับ เตรียมกระสุนให้พวกมึงซ้อมยิงปืน เคลียร์พื้นที่ให้ก่อนที่พวกมึงจะเข้าตี และก็อีกเยอะแยะที่กูทำให้พวกมึง ฝีมือกูทั้งนั้น หึ หึ “
ครูพิชิตพูดแล้วยิ้มแห้งๆ
“ พวกมึงดูผิวกูสิ “
ผมและเพื่อนอีก 2 คนมองผิวของครูพิชิต มันดำเกรียมจนแทบไหม้ บ่งบอกว่าตากแดดมานาน ครูพิชิตพูดต่อ
“ พวกมึงหลายคนน่ะ เกลียดครูฝึกอย่างพวกกู กูบังเอิญไปได้ยินมา เพื่อนพวกมึงน่ะแหละ ด่าพวกกูซะเละเลย ด่าว่าบ้าอำนาจมั่ง เหี้ยมั่ง แกล้งลงโทษพวกมึงมั่ง สารพัดจะด่าจริงๆ กูก็ไม่โกรธหรอกนะ กูเข้าใจพวกมึง กูเองก็ไม่ได้อยากจะทำโทษพวกมึงหรอก ถ้าพวกมึงมีระเบียบนะ กูจะไม่ทำโทษเลย เพราะกูรักพวกมึง “
ครูพิชิตตบไหล่ไอ้เทพเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงดัง
“ ใจจริงน่ะ ครูฝึกทุกคนรักพวกมึงนะ ไม่งั้นเขาไม่ทำเพื่อพวกมึงมากขนาดนี้หรอก อย่างที่กูบอกไปแล้ว ครูฝึกน่ะลำบากกว่าพวกมึงหลายเท่านัก พวกมึงรู้มั๊ย แต่ทุกคนก็ยอมเหนื่อยเพื่อให้พวกมึงฝึกได้เต็มที่ และเข้มแข็งสมชายชาตรี ถึงแม้ว่าครูฝึกบางคนจะไม่ได้เป็นชายแท้ก็ตาม “
ไอ้แมนแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินครูพิชิตพูดแบบนั้น
“ กูคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับพวกมึงอีกแล้ว บางทีอาจจะเจอกันตอนปี 4 ปี 5 ถ้าพวกมึงคิดจะเรียนนะ แต่มันก็คงยาก โอกาสมันน้อย ครูฝึกจะต้องหมุนเวียนมาฝึกให้พวกมึง พวกมึงก็คงต้องเจอครูฝึกคนอื่นๆ อีกเยอะแยะ อาจจะไม่เจอกูอีกเลยตลอดชีวิตก็ได้ “
ครูพิชิตเดินมาหยุดตรงหน้าผม เอามือ 2 ข้างบีบไหล่ของผมไว้แน่น จ้องหน้าผม แล้วพูดต่อ
“ ไหนๆ จะต้องจากกันแล้ว กูก็ขออวยพรให้มึงโชคดีนะ ไอ้ตี๋แว่น กูอยากให้มึงรู้ว่ากูรักมึงมาก และกูจะไม่ลืมมึง และเรื่องที่เกิดขึ้นในวันแรกที่มึงมาเลย มึงต้องเข้มแข็งกว่านี้นะ เกิดมาเป็นลูกผู้ชายทั้งที อย่าอ่อนแอง่ายๆ จำคำกูไว้ล่ะ สู้ต่อไปนะมึง โชคดีว่ะ “
“ ขอบคุณครับ “
ผมพูดเสียงดังฟังชัด ครูพิชิตยิ้มอย่างพอใจ แล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้เทพบ้าง ก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ
“ โชคดีนะ ไอ้หนุ่มน้อย กูรักมึงมากนะ คืนนั้นกูมีความสุขมากจริงๆ ว่ะ กูดีใจที่ได้สนุกกับมึง และกูก็ดีใจที่เห็นมึงฝึกอย่างเข้มแข็ง องอาจ สมชายชาติทหาร ถึงมึงจะชอบเพศไหนก็ตาม มึงก็ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่วันยังค่ำ อย่าให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีมึงได้ เพียงเพราะว่ามึงเป็นเกย์ จำคำกูไว้ดีๆ ล่ะ “
“ ขอบคุณครับครู “
ไอ้เทพพูด ครูพิชิตเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้แมน แล้วบีบไหล่มันแรงๆ ไอ้แมนสะดุ้งโหยงเพราะเจ็บ
“ สำหรับมึง ไอ้ตี๋ กูก็รักมึงนะ กูจะไม่มีวันลืมเรื่องคืนนั้นเลย มันเสียวมากๆ ถึงใจจริงๆ มึงเองก็หล่อน่ารักดีนะ ขาวตี๋ แต่กูอยากให้มึงดูแมนกว่านี้มากๆ จริงอยู่ที่การกระทำของมึงจะแมน แต่หุ่นมึงยังไม่แมนเท่าไหร่ มึงมันล่ำ แต่ตัวมึงเล็กไปหน่อย ล่ำแต่ตัวเล็กก็ไม่ไหวว่ะ ดูไม่แมน กูอยากให้หุ่นมึงดีกว่านี้ เอางี้ พอกลับไปถึงบ้านนะ มึงออกกำลังกายให้มากกว่านี้ แดกนมเยอะๆ จะได้สูงๆ ร่างกายมึงน่าจะยังโตได้อีกนะ ใช่มั๊ยวะ เด็กรุ่นๆ มึงเนี่ย กูว่ายังไม่ถึง 20 กันทั้งนั้น ยังมีโอกาสสูงได้ กูอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่แบบพวกมึงตัวสูงใหญ่ว่ะ แม่งเห็นแล้วเสียวดี เออ แม่ง พูดแล้วควยกูแข็งเลย 555 เอางี้ มึงทำตามที่กูบอกแล้วกัน หุ่นมึงจะดีเหมือนไอ้ 2 คนนี้ ยังไงกูก็ขอให้มึงโชคดีเช่นกันว่ะ “
“ ครับผม ขอบคุณที่ให้คำแนะนำผมครับ “
ไอ้แมนพูด ครูพิชิตมองหน้าพวกเรา 3 คนอีกครั้งหนึ่ง แล้วพูดช้าๆ
“ กูดีใจที่ได้รู้จักเด็กน่ารักอย่างพวกมึง ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก กูจะไม่ลืมพวกมึงเลย โชคดีเอ็นท์ติดทุกคนนะ แล้วก็อย่าลืมคิดถึงกูกันบ้างล่ะ เออ พวกมึงพักผ่อนต่อเหอะ กูไปล่ะ “
พูดจบครูพิชิตก็เดินตบไหล่เรา 3 คนคนละครั้ง ผม ไอ้แมน และไอ้เทพยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำวันทยหัตถ์แสดงความเคารพครูพิชิตเป็นครั้งสุดท้าย ครูพิชิตยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกแสดงความเคารพตอบ แล้วเดินจากไป ผม ไอ้แมน และไอ้เทพทรุดตัวลงนั่งต่อ ไอ้เทพถามผมว่า
“ มีอะไรเกิดขึ้นวันแรกเหรอวะ เมื่อกี้กูได้ยินครูพิชิตพูดกับมึง มึงไปทำอะไรกับครูพิชิตมาวะ เล่าให้กูฟังหน่อยสิ “
ผมยิ้มแล้วถามกลับทันที
“ แล้วเรื่องคืนนั้นของพวกมึง 2 คนล่ะ มันอะไรวะ กูก็ได้ยินนะ มีความลับอะไรปกปิดกูอยู่เหรอ ร้ายจริงๆ นะไอ้พวกเหี้ย เล่าให้กูฟังก่อนเลย พวกมึงก็ไปมีอะไรกับครูพิชิตมาใช่มั๊ย แม่ง พวกมึงนี่เหี้ยจริงๆ ว่ะ “
“ มึงก็เหี้ยเหมือนกันน่ะแหละ เสือกไปทำอะไรกับครูฝึกตั้งแต่วันแรกเลย “
ไอ้เทพด่าผมแล้วยิ้มเขินๆ แล้วจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องของมันกับไอ้แมนให้ผมฟัง พอผมฟังไอ้เทพเล่าจบแล้วผมก็เล่าเรื่องของผมให้ฟังบ้าง สุดท้ายเรา 3 คนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน
………………………………….
ปรี๊ด…..ปรี๊ด………..
เสียงนกหวีดรวมดังขึ้นอีกครั้ง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนรีบวิ่งมาจากทุกทิศทุกทางมาเข้าแถวรวมกันตรงที่รวมพลหน้ากองบก. ทันที ทุกคนต่างรีบหาแถวกันอย่างวุ่นวาย แต่ก็หากันไม่ค่อยจะเจอเพราะไม่ได้เข้าแถวรวมกันทุกหมวดแบบนี้มานานแล้ว ส่วนใหญ่ในการฝึกที่ผ่านมา จะฝึกแยกเป็นหมวดๆ เพื่อความคล่องตัวในการฝึก ตอนเข้าแถวก็จะเข้าง่ายเพราะเข้าในหมวดของตนเองแค่หมวดเดียวเท่านั้น แต่คราวนี้ต้องเข้ารวมกันทุกหมวด ย่อมจะทำให้เข้าแถวได้ยากขึ้น หลายคนเข้าแถวผิดหมวดก็มี ทำให้ต้องเสียเวลาหาคนในหมู่กันนานมาก กว่าแถวจะเสร็จเรียบร้อยก็เสียเวลาไปมาก หัวหน้าชุดฝึกขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แผดเสียงลั่น
“ ช้ากว่าเดิมมาก! ฝึกดีๆ มา 5 วันจนจะได้กลับบ้านอยู่แล้ว ดันมาตายตอนจบซะนี่ เข้าแถวมั่วไปหมด ไม่ได้เรื่องเลย พัน 32! อย่างนี้คงต้องเสียเหงื่อกันหน่อยแล้ว ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ! “
“ เตรียม ! “
ทุกคนตะโกนพร้อมกันในขณะที่ลดตัวลงตัวนอนคว่ำ เอามือ 2 ข้างดันพื้นไว้ ขาเหยียดตึง ครูฝึกสั่งต่อ
“ 40 ครั้ง ! “
ผมและเพื่อนๆ กัดฟันตะโกนลั่น เหนื่อยอีกแล้วกู
“ 40 ครั้ง ! “
“ ปฏิบัติ ! “
ผมและเพื่อนๆ วิดพื้นจนครบ 40 ครั้ง แล้วก็ลุกขึ้นยืนตามเดิม ทุกคนเหนื่อยหอบ แข้งขาอ่อนล้าไปหมด ทุกคนมีสีหน้าไม่ดีเลย หลายคนทำท่าจะเป็นลม เพราะวันนี้แดดจัดมาก อากาศก็ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน แถมพวกเรายังยืนตากแดดกันอยู่ด้วย ผมเอามือปาดเหงื่อบนหน้าผากทิ้งช้าๆ พลางหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย เหงื่อผมแตกเต็มหลังไปหมด ร้อนก็ร้อน เพลียก็เพลีย ไม่กี่นาทีต่อมา ครูฝึกก็ตะโกนว่า
“ แยกย้ายกันไปรอบๆ แล้วรอฟังเสียงนกหวีด พอได้ยินเสียงนกหวีดของครู รีบวิ่งมาเข้าแถวอีกครั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าคราวนี้ช้ากว่าครั้งแรก โดน 70 ครั้งแน่ แล้วครูจะให้วิ่งเข้าแถวใหม่อยู่อย่างนี้แหละจนกว่าจะเข้าแถวได้เร็วขึ้น ปฏิบัติ ! “
ทุกคนต่างเดินช้าๆ ออกจากที่รวมพล ยืนกระจายกันอยู่รอบๆ ต่างก็ยืนเกาะกลุ่มกับเพื่อนๆ ในหมวดเดียวกันไว้เอาไว้ ผมพูดกับไอ้อ๊อต ไอ้เทพ และเพื่อนๆ คนอื่นที่พอจะรู้จักว่า
“ เพื่อให้เข้าแถวได้เร็ว ๆ กูขอแนะนำว่า ใครอยู่หมู่เดียวกันให้จับมือกันไว้ เวลาเขาเรียกก็จับมือวิ่งตามไปเป็นพรวนเลย จับมือคนต่อคนแบบเรียงตามลำดับไหล่ไว้ด้วยเลยยิ่งดี แบบนี้เข้าได้เร็วแน่ๆ ทำเลยพวกมึง “
ทุกคนเห็นด้วยกับวิธีของผม คนที่อยู่หมู่เดียวกันก็จับมือเพื่อนที่อยู่หมู่เดียวกันเอาไว้แน่น ผมเองก็จับมือเพื่อนๆ ไว้เหมือนกัน โดยเพื่อนทุกคนจับมือเรียงตามลำดับการเข้าแถวก่อนหลัง หรือตามลำดับไหล่เอาไว้แล้ว
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
ทุกคนรีบวิ่งกลับมายังที่รวมพลอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว แล้วรีบจัดแถว วิธีของผมได้ผล เพื่อนๆ ไม่มีใครหลงแถวไปเข้าหมวดอื่นเลย ทุกคนเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยด้วยเวลารวดเร็ว หัวหน้าชุดฝึกยิ้มอย่างพอใจแล้วตะโกนลั่น
“ ดี ดีมาก ในเมื่อทุกคนทำได้ดีแบบนี้ ครูก็มีของขวัญจะให้ การฝึกวิชาทหารสิ้นสุดลงแล้ว ลำดับต่อไปจะเป็นของขวัญที่พวกครูเตรียมไว้ให้ลูกศิษย์ที่น่ารักอย่างนักเรียนทุกคน “
หัวหน้าชุดฝึกบางครั้งก็ยังติดเรียกพวกเราว่า นักเรียนอยู่ ไม่เรียกว่า นักศึกษาวิชาทหาร แต่ผมก็ชอบให้เขาเรียกแบบนี้ เพราะว่าฟังแล้วดูดี และอีกอย่าง พวกเราก็ยังเป็นนักเรียนอยู่จริงๆ ตอนนี้ทุกคนรู้สึกยินดีที่ได้ยินว่า การฝึกวิชาทหารได้สิ้นสุดลงแล้ว และกำลังสงสัยว่า ของขวัญที่ว่านั้นคืออะไร
“ครูจะพานักเรียนไปเที่ยว! รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่ๆ “
ผมและเพื่อนๆ ทุกคนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ และถามตนเองว่า เที่ยวไหนวะ เที่ยวในเขาชนไก่เนี่ยนะ ?
........................................
(ติดตามตอนจบในคราวหน้านะครับ)

หัวหน้าชุดฝึกไม่ได้พูดอะไรต่อ ครูฝึกแต่ละหมวดจึงให้นักศึกษาวิชาทหารทุก คนทยอยขึ้นรถคันที่นั่งมาวันแรก แล้วพาพวกเราไปที่ “ พิพิธภัณฑ์ทหาร “ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากเขาชนไก่เท่าไรนัก พอไปถึงก็ต้องรีบวิ่งมาเข้า แถวที่ลานด้านล่างทันที แล้วจึงเดินไปตามทางขึ้นเขาเตี้ยๆ ขึ้นไปถึงลาน ชั้นบน อากาศร้อนอบอ้าวมาก ผมและเพื่อนๆ ถึงกับเหงื่อแตกพลั่กๆ ตัว เปียกชุ่มไปหมด ครูฝึกสั่งให้นั่ง แต่ก็ไม่มีใครนั่งได้เพราะพื้นร้อน มาก ทุกคนก็เลยนั่งยองๆ ฟังครูฝึกพูดสรุป แต่ก็ไม่มีใครมีกะจิตกะใจฟัง ว่าครูฝึกพูดเรื่องอะไรเพราะกำลังร้อนจนแทบบ้า
“ โอย ร้อนโว้ย! ไม่ไหวแล้วว่ะ โคตรร้อนเลย “
ผมบ่น ไอ้อ๊อตหันหน้ามาพูดกับผมเบาๆ
“ อดทนหน่อยเถอะว่ะ เดี๋ยวมันก็จบแล้ว “
ผมยิ้มอย่างอ่อนแรง พอครูฝึกพูดจบปุ๊บ ทุกคนก็พากันวิ่งไปหลบร้อนบนหอคอย จนหอคอยแน่นไปหมด บนหอคอยลมเย็นสบายดีมาก ผมค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย สัก พักครูฝึกก็เรียกรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าไปในห้องแสดงนิทรรศการ ห้องนี้ ตั้งอยู่ที่ลานชั้นบนใกล้ๆ กับลานที่เรานั่งยองๆ เมื่อครู่ ติดแอร์เย็น สบายมาก ผมและเพื่อนๆ ทุกคนกลับมาสดชื่นมีเรี่ยวมีแรงขึ้นอีกครั้ง เพราะไม่ได้สัมผัสกับความเย็น ของแอร์มานาน ไอ้อ๊อตถึงกับสูดแอร์เข้าไปเต็มปอดแล้วพูดว่า
“ อา…. สวรรค์จริงๆ เลย ในที่สุด สวรรค์ก็เห็นใจกูแล้ว ให้กูได้มีโอกาสได้มาที่นี่ มีความสุขจังว่ะ “
“ เป็นโปรแกรมปิดท้ายการฝึกที่ดีจริงๆ ว่ะ ของขวัญที่หัวหน้าชุดฝึกให้กับพวกเรานี่เยี่ยมจริงๆ เย็นดีว่ะ “
ผมพูดอย่างมีความสุข แล้วหันไปมองเพื่อนๆ ทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นราวกับปลาในหนองน้ำแห้งขอดที่เพิ่งได้รับน้ำฝนใหม่ๆ ต่างก็นั่งพักผ่อนอย่างสบายอก สบายใจ ระหว่างนี้ครูฝึกก็บรรยายเรื่องประวัติศาสตร์สงครามไปเรื่อยๆ และ เปิดวีดีโอเรื่อง ประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ ให้ดูด้วย ผมและ เพื่อนๆ ก็ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง แต่ผมตั้งใจดูวีดีโอมากเพราะผมชอบดูหนังแนว นี้อยู่แล้ว วีดีโอสนุกดี ภาพสวย เหมือนจริงมาก ช่วงเวลาที่อยู่ในห้อง นี้เป็นช่วงที่สบายที่สุดของการฝึกที่เขาชนไก่แล้ว ผมดูวีดีโอไปก็พักผ่อน ไปด้วย รู้สึกมีความสุขจริงๆ
พอวีดีโอจบ ครูฝึกก็ให้พวกเราไปพัก ผมและเพื่อนๆ เดินลงมาที่ลานด้าน ล่าง มี “ หน่วยบริการความสดชื่น “ อยู่ ผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพ ก็เลยซื้อน้ำอัดลมดื่มกัน แล้วก็นั่งพัก กันอยู่แถวนั้น ไม่นานไอ้อ๊อตก็เริ่มบทสนทนาครั้งสุดท้ายที่เขาชนไก่
“ คราวนี้คงไม่มีอะไรแล้ว จบสิ้นกันซะที การฝึกร.ด. ในที่สุดกูก็ฝ่าฟันมาถึงวันสุดท้ายจนได้ “
ไอ้เทพพูดขึ้นบ้าง
“ กูเหนื่อยโคตรๆ เลย ไม่คิดว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ ร้อนก็ร้อน แต่มันก็ผ่านไปแล้ว มัน ผ่านไปแล้วว่ะเพื่อนๆ กูผ่านร.ด. ปี 3 แล้ว ดีใจจริงๆ ว่ะ “
ผมยิ้มแล้วพูดกับเพื่อนรักทั้ง 2 คนช้าๆ
“ เกิดเหตุการณ์มากมายขึ้นที่นี่เนอะ พวกมึงว่ามั๊ย อย่างน้อยๆ มาฝึก ที่นี่ กูเหี้ยขึ้นมาก แกร่งขึ้นมาก ตอนนี้กูก็ไม่มีอะไรต่างกับพวกมึง แล้ว กูพูดหยาบเป็นที่นี่ กูได้สาบานเป็นเพื่อนรักกับพวกมึงที่นี่ และกู ได้ทำอะไรที่กูไม่เคยทำมาก่อนที่เขาชนไก่นี่ด้วย คิดแล้วกูประทับใจจริงๆ เลย กูจะไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เลย “
“ กูก็ไม่ลืมเหมือนกัน กูจะเก็บมันไว้ในความทรงจำตลอดไป “
ขณะที่ไอ้อ๊อตพูด ไอ้เด่น ไอ้ไก่ และไอ้แมนก็เดินเข้ามาหา แล้วก็นั่งลงข้างๆ ไอ้แมนหยิบมือถือขึ้นมา คุย ส่วนไอ้เด่นมองหน้าผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพ แล้วเริ่มพูด
“ ถึงเวลาที่กูจะต้องจากกับพวกมึงแล้วว่ะ “
ผมหน้าม่อยลงทันที
“ เออ นั่นสิ เดี๋ยวพอพวกกูขึ้นรถ กูก็ไม่ได้เจอกับมึงอีกแล้ว เพราะ ว่าการฝึกมันจบแล้วนี่หว่า เสียดายจังว่ะ ไอ้เด่น มึงน่าจะอยู่โรงเรียน เดียวกับกูนะ กูไม่อยากจากมึงเลย “
ไอ้เด่นยิ้มแห้งๆ
“ กูก็ไม่อยากจากพวกมึง แต่มีพบก็ต้องมีจาก กูยอมรับว่า 5 วันที่กูได้กิน ได้นอน ได้ฝึกร่วมกับพวกมึง มันทำให้กูผูกพันกับพวกมึงไม่ใช่น้อยเลย ว่ะ กูรักพวกมึงนะ ไอ้หนุ่ม ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ ไอ้แมนด้วย ถึงกูจะรู้จักกับพวกมึงมาไม่นาน แต่กูรู้สึก ผูกพันกับพวกมึงยังกับรู้จักมาเป็นปีอย่างนั้นแหละ “
“ ก็เพราะว่ามึงเป็นพวกเดียวกับพวกกูไงล่ะ มึงถึงได้รู้สึกแบบนี้ “
ไอ้เทพพูด ไอ้เด่นเขยิบมาใกล้ผมแล้วพูดเสียงสั่น
“ ไอ้หนุ่ม กูรักมึงนะ จากกันแล้วก็อย่าลืมกูล่ะ ถึงแม้กูจะไม่มีโอกาส เจอมึงอีกแล้ว แต่มึงจะอยู่ในใจกูตลอดไป กูจะไม่ลืมมึงเลย เพื่อน! “
ผมโผเข้ากอดไอ้เด่นทันที เรา 2 คนตบหลังกันและกันเบาๆ นักศึกษาวิชาทหารคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่แถวนั้นต่างมองอย่างประหลาดใจที่เห็นผู้ชาย 2 คนกอดกันกลมดิก เรากอดกันไม่นานก็ผละจากกัน ไอ้เด่นพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ โชคดีไอ้หนุ่ม โชคดี เราคงได้พบกันอีก “
“ โชคดีเช่นกัน ไอ้เด่น เพื่อนรัก “
ไอ้เด่นยิ้มให้ผม แล้วหันไปพูดลากับไอ้อ๊อตแล้วกอดมันบ้าง
“ โชคดีนะไอ้อ๊อต “
“ โชคดีว่ะ หัวหน้าหมู่ “
ไอ้อ๊อตตอบ ไอ้เด่นยิ้มแก้มแทบปริแล้วลาไอ้เทพกับไอ้แมนต่อ ไอ้ไก่ก็พูดลา ผมและเพื่อนๆ เช่นกัน แต่มันไม่ได้กอดพวกเรา พอทุกคนร่ำลากันเสร็จแล้ว ยังไม่หมดเวลา พัก พวกเราก็เลยนั่งคุยกันต่อ ไอ้อ๊อตพูดพึมพำ
“ กูคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว เขาชนไก่เนี่ย ดีใจชิบหายเลยว่ะ “
“ กูก็เหมือนกัน สิ้นสุดกันซะที ถ้ากูต้องมาอีกกูคงบ้าตายแน่ๆ ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย สัด “
ไอ้เทพพูดบ้าง ไอ้เด่นสอดขึ้นมาทันที
“ แต่กูยังต้องมาอีกว่ะ ตอนปี 4 ปี 5 กูตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียนต่อ “
ไอ้อ๊อตหัวเราะ
“ 5555 เออ จะมาอีกก็เรื่องของมึงเหอะ แต่กูขอบาย ให้กูมาอีกกูไม่มาแล้ว แม่ง มาแล้วก็เหนื่อย “
ผมพูดขึ้นมาบ้าง
“ กูภูมิใจว่ะที่ผ่านการฝึก 5 วันนี้มาได้ แต่กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ เลือดตาแทบกระเด็นเลยกู โหดชิบหาย กูขอเรียกการฝึกร.ด. ครั้งนี้ว่า ร.ด. หฤโหด เลยละกัน “
ไอ้เด่นฟังแล้วทำหน้าแปลกๆ
“ มันโหดขนาดนั้นเลยเหรอวะ กูว่าไม่นะ ไอ้หนุ่ม กูว่ามันฝึกหนักก็จริง แต่ก็ไม่โหดเท่าไหร่นะ “
“ มันอาจไม่โหดสำหรับมึง แต่มันโหดสำหรับกูว่ะ มึงไม่ได้ตกจากกำแพงแล้วตีนบวมแบบกูนี่ ไอ้เด่น มึงไม่รู้อะไร กูเจ็บตีนมาตลอดเลยตั้งแต่ตกจาก กำแพงวันนั้น แต่กูก็อดทน ไอ้ห่า กูฝึกแบบล้มลุกคลุกคลานมาตลอด กูอดทน ชนิดที่เรียกว่าไม่เคยอดทนแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่กูก็ทำได้ กูทำได้ จริงๆ “
ผมพูดเสียงหนักแน่น ไอ้เด่นเอื้อมมือมาตบหลังผมแรงๆ ก่อนจะพูดว่า
“ มึงเป็นคนเก่ง มึงต้องทำได้อยู่แล้ว “
“ ขอบใจที่ชมกู เพื่อน “
ผมตอบแล้วโอบไหล่ไอ้เด่นเอาไว้ พลางยิ้มให้กับเพื่อนทุกคนอย่างมีความสุข
……………………………………
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
ครูฝึกเป่านกหวีดอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ ลุกขึ้นยืน ผมไม่ลืมที่จะตบไหล่ไอ้เด่นเบาๆ อีกครั้งแล้วพูดว่า
“ โชคดีอีกครั้งว่ะเพื่อน กูจะไม่ลืมมึงเลย “
“ โชคดีเช่นกันว่ะ รีบไปเข้าแถวเหอะ “
ไอ้เด่นพูดแล้วรีบวิ่งไปเข้าแถวทันที พอทุกคนเข้าแถวเสร็จแล้ว ครูฝึกก็ ทยอยให้ทุกคนเดินขึ้นรถ ขากลับนี้คนแน่นมากกว่าขาไปจนต้องนั่งเบียดกันเบาะละ 3 คน ผมจึงได้มีโอกาสนั่งกับไอ้อ๊อต และไอ้เทพ รถออกจากเขาชนไก่ตอน บ่ายๆ ผมชะโงกมองเขาชนไก่เป็นครั้งสุดท้าย ไอ้อ๊อตมองผมแล้วหัวเราะเสียง ดัง
“ แหม มองตาละห้อยเชียวนะมึง มึงอาลัยอาวรณ์ที่นี่มากนักเหรอวะ ทำยัง กับว่ามึงไม่อยากจากที่นี่ไปอย่างนั้นแหละ ติดใจอยากจะอยู่ต่อเหรอวะ “
ผมส่ายหน้า แล้วพูดกับไอ้อ๊อต
“ กูรักที่นี่ว่ะ เพราะที่นี่สอนอะไรกูหลายๆ อย่าง สอนให้กูเข้มแข็ง กล้าหาญ และยังสอนให้กูรู้จักคำว่ามิตรภาพด้วย “
“ มึงอยากมาอีกรึไง “
ไอ้อ๊อตถาม ผมเงียบ ไอ้เทพซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ มานาน โพล่งขึ้นมา
“ กูก็รักว่ะ แต่กูไม่อยากมาอีกแล้ว เออ มึง 2 คน กูว่าตอนนี้เรามาหลับกันก่อนดีกว่า กูง่วงเหี้ยๆ เลย “
ไอ้อ๊อตเห็นด้วย มันก็เลยนั่งพิงไอ้เทพแล้วหลับไป ไม่นานมัน 2 คนก็หลับสนิท ผมมอง 2 ข้างทางจนรถออกจากเขตเขาชนไก่ แล้วครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอด 5 วันที่เขาชนไก่ แต่ก็คิดได้ไม่นานเพราะทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ไม่นานผมก็ หลับไปด้วยความอ่อนเพลียเช่นเดียวกับไอ้อ๊อต และไอ้เทพ
……………………………….
“ เฮ้ย ถึงสวนเจ้าเชตแล้วโว้ย “
ผมสะกิดบอกเพื่อนรักทั้ง 2 คน ให้ตื่น ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตั้งแต่รถแล่นมาถึงสะพานพระปิ่นเกล้า แล้ว ตอนนี้รถจอดที่สวนเจ้าเชตเรียบร้อย ทุกคนทยอยลงจากรถ ครูฝึกเรียก รวมอีกครั้งแล้วให้ทุกคนกล่าวคำปฏิญาณพร้อมกันเป็นครั้งสุดท้าย พอกล่าว จบ ครูฝึกก็พูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“ ขอให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย กลับไปพบพ่อแม่ หรือลูกเมีย ที่บ้าน โชคดีนะครับ ! “
แล้วครูฝึกก็ให้นักศึกษาวิชาทหารเดินออกจากประตูทีละหมวด ทันทีที่ทุกคนก้าวพ้นประตู ทุกคนก็เฮออกมาดังๆ ด้วยความดีใจ
“ เฮ! สำเร็จแล้วโว้ยยยยยยยยย กูทำสำเร็จแล้วโว้ยยยยยยย “
เสียงใครต่อใครตะโกนแบบนี้ดังกึกก้อง ทุกคนในตอนนี้ต่างมีความรู้สึกเดียว กัน นั่นคือความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ฝึกร.ด. มาจนจบปี 3 อย่างสมบูรณ์ซะที หลังจากที่อดทนเรียนมาถึง 3 ปี ผมและเพื่อนๆ ยิ้มอย่างมีความสุข ดีใจมากจริงๆ หมดเคราะห์หมดกรรมกัน ซะที ไม่ต้องทนลำบากกันอีกต่อไปแล้ว เราอยู่ในโลกที่ปิดตายมา 5 วันเต็มๆ ต่อจากวันนี้ ถึงเวลากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงกันอีกครั้ง
เพื่อนๆ นักศึกษาวิชาทหารเริ่มทยอยกันเดินทางกลับบ้าน ผม ไอ้อ๊อต และไอ้เทพ ขึ้นแท็กซี่กลับด้วยกัน แต่ก็ไม่ลืมจะลาไอ้แมนก่อน
“ โชคดีไอ้แมน แล้วเจอกันวันจันทร์นะ “
“ เออ อย่าลืมที่สัญญากันไว้ล่ะ คราวนี้ขอเย็ดแบบนานๆ นะ โชคดีหนุ่ม “
“ โอเคว่ะ แล้วเจอกัน “
ผมตอบไอ้แมน แล้วรีบก้าวขึ้นรถแท๊กซี่ รถขับมาส่งถึงบ้านผมก่อน ผมหัน มาลาไอ้อ๊อตกับไอ้เทพ
“ กูไปก่อนนะ เพื่อนรัก แล้วเจอกันวันจันทร์ ที่โรงเรียน อ้อ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นที่เขาชนไก่ ขอให้มึง 2 คนเก็บเอาไว้เป็นความลับนะ รู้กัน 3 คนแค่นั้น “
“ แน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นที่นั่นน่ะ มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปเรื่องระหว่างกูกับมึง ยังต้องมีต่ออีกยาว หึ หึ ได้เสียวไปจนกว่าจะจบม. 6 แน่ๆ “
ไอ้อ๊อตพูดยิ้มๆ ไอ้เทพเสริมขึ้นมาว่า
“ แบบทรีซัมด้วยนะสัด มันส์ๆ ดี “
“ พอ พอ พวกมึงเนี่ย พูดออกมาได้ไม่อายปาก กูไปก่อนล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะ โชคดี ไอ้อ๊อต ไอ้เทพ “
“ โชคดี เพื่อนหนุ่ม วันจันทร์เจอกัน “
ไอ้อ๊อตกับไอ้เทพพูดขึ้นมาเกือบจะพร้อมกัน ผมยิ้มแล้วตบไหล่เพื่อนทั้ง 2 เบาๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถ แล้วโบกมือลาพวกมันจนรถแล่นจากไป
ผมกลับมาถึงบ้านแล้ว กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน หน้าดำปี๋เพราะยังล้างสีฝุ่น ออกไม่หมด ปากแตกเลือดออกซิบๆ ผิวดำเกรียมแทบไหม้ เนื้อตัวมอมแมมสกปรกสุดๆ เหงื่อออกชุ่มไปหมดทั้ง หลัง แบกเป้สนามพองโตที่แสนจะหนักอึ้งจนไหล่แทบยุบ ติดปีกสีทองอร่ามไว้บน อกเสื้อ ปลายรองเท้าหนังขาดวิ่นเนื่องจากผ่านการเดินลุยป่ามาอย่าง โชกโชน สารรูปของผมตอนนี้เหมือนทหารผ่านศึกเลย หมดสภาพจริงๆ แต่มันก็ดู แมนมากๆ
ผมเปิดประตูบ้านเข้าไป แล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น พ่อนั่งดูทีวีอยู่พอดี พอพ่อหันมาเห็นผมก็ร้องตะโกนด้วยความดีใจ
“ หนุ่ม ลูกพ่อ กลับมาแล้วเหรอลูก ! “
ผมรีบยกมือขวาขึ้นแตะขอบหมวกด้านขวาทำวันทยหัตถ์แสดงความเคารพพ่อทันทีเหมือนตอนที่ผมจะไป แล้วพูดเสียงดัง
“ ผมทำสำเร็จแล้วครับพ่อ ! ผมฝึกร.ด. เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ! “
“ เก่งมากลูกพ่อ เก่งมาก เหนื่อยมากมั๊ย มาพ่อช่วยแบกของ “
พ่อพูดด้วยความดีใจ แล้วกุลีกุจอมาช่วยผมแบกเป้ แล้วให้ผมไปอาบน้ำ แต่งตัว ก่อนรับประทานอาหารร่วมกับทุกคนในครอบครัว พอผมกินอิ่มแล้ว ผมก็เล่า เรื่องราวการฝึกทหารที่เขาชนไก่ให้ทุกคนในครอบครัวฟัง พอผมเล่าจบก็ขอตัวมานอนเพราะเหนื่อยเหลือเกิน
ก่อนที่ผมจะนอน ผมไม่ลืมที่จะหยิบไดอารี่ขึ้นมาเขียนความประทับใจในการเข้าค่ายที่เขาชนไก่ครั้งนี้แบบสั้นๆ พอเขียนเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน แล้วหลับ เป็นตาย คืนนั้นผมนอนหลับอย่างเป็นสุขที่สุดในชีวิต
………………………………..
บนโต๊ะเขียนหนังสือของผม ไดอารี่เล่มนั้นยังคงกางหราอยู่ ปรากฏข้อความอยู่ตรงกลางหน้ากระดาษไม่กี่ประโยค ดังต่อไปนี้
“ การไปฝึกร.ด. ครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ยากจะลืมจริงๆ มันทั้งโหด ทั้งหนัก และ ก็ทั้งเสียว ตลอด 5 วันในเขาชนไก่ มันทำให้ผมได้รู้จักและได้สัมผัสกับรสชาติความเป็นลูกผู้ชาย ที่หาไม่ได้จากตำราเล่มไหนๆ มันทำให้ผมแกร่งขึ้น กล้าหาญขึ้นกว่าเดิม มาก ผมจะไม่ลืมทุกเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เลยตราบชั่วชีวิต และผมกล้าพูด ได้เต็มปากว่า ไม่มีการไปเข้าค่ายครั้งไหน ที่ทำให้ผมประทับใจเท่าค่ายฝึก ร.ด. ณ เขาชนไก่นี้อีกแล้ว
ดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสไปฝึก “ ร.ด. หฤโหด ” ในครั้งนี้
หนุ่ม
31 มกราคม 2544 “
………………………………………..

………จบบริบูรณ์………

(ติดตามอ่านภาค 2 ในสัปดาห์หน้านะครับ)

ตอนที่ 1

" ถึงแล้วครับพี่ "
ผมลืมตาขึ้น สลัดความง่วงออกจากตัว รีบคว้าเป้หนัก 9 กิโลกรัมสะพายหลังทันที แล้วจ่ายเงินให้กับคนขับ ก่อนจะก้าวลงจากรถแท็กซี่ด้วยความรวดเร็ว
ผมเหลือบดูนาฬิกา เกือบจะ 6 โมงแล้ว มาก่อนเวลารวมพลตั้งนาน ก็เลยถือโอกาสเดินเล่นนิดหน่อย อากาศยามเช้านี่สดชื่นจริงๆ ผมเดินไปก็มองหาเพื่อนไปด้วย แต่ก็หาไม่เจอเพราะว่ามีคนเยอะมาก นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 และ 4 กำลังทยอยเดินทางมาถึงสวนเจ้าเชต สถานที่รวมพลที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี
ผมสะพายเป้สนามเดินไปเดินมาซักพักก็ เริ่มรู้สึกหนักและเมื่อยขา ก็เลยนั่งลงใต้ต้นไม้แถวๆ นั้น ปลดเป้สนามออกจากตัว ตรวจเช็คความพร้อมของอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนออกเดินทาง ทุกอย่างพร้อมหมด กระติกน้ำก็เติมน้ำจนเต็มแล้ว เข็มขัดสนามก็คาดมาอย่างดี รองเท้าถูกขัดมันจนเป็นเงา หัวเข็มขัดก็ขัดจนเหลืองอร่ามน่าดูมาก ขณะที่ผมกำลังนั่งนึกอะไรเพลินๆ ก็รู้สึกเหมือนมีมือหยาบกร้านมาตบที่ไหล่ผมเบาๆ ผมรีบหันไปดูแล้วก็ต้องยิ้มอย่างดีใจ
" ไงไอ้บอม มาเร็วเหมือนกันนี่หว่า นั่งก่อนๆ เพื่อน "
ไอ้บอมยิ้ม ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมแล้วพูดว่า
" พร้อมมั๊ยวะหนุ่ม "
ผมมองหน้ามันแล้วตอบช้าๆ
" พร้อมอยู่แล้วว่ะ เรารอวันนี้มานานแล้ว วันที่เราจะได้กลับไปยังที่ที่เรารักอีกครั้ง "
" ท่าทางนายจะรักเขาชนไก่มากเลยใช่มั๊ยวะ ดูนายอยากไปมากเลย "
ผมยิ้มกว้าง พลางนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่เขาชนไก่ ก่อนจะตอบไอ้บอม
" แน่นอน เรารักเขาชนไก่มากว่ะ เพราะเขาชนไก่สอนให้เราเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมมาก "
" แต่ปี 4 นี่ ไม่สบายเหมือนปี 3 นะ เราบอกไว้ก่อน ครูฝึกที่คุมเราโหดไม่ใช่เล่น ตอนปี 3 นายอยู่กองพันอะไรวะ "
" 32 ว่ะ ถามทำไมเหรอ "
ไอ้บอมฟังแล้วก็ถอนใจเฮือก แล้วรีบพูดต่อ
" เฮ้อ 32 เหรอวะ โคตรน่าอิจฉาเลย ครูฝึกพัน 32 น่ะใจดีนะ ตอนเราปี 3 เราเจอแต่ครูฝึกโหดๆ ทั้งนั้น ปี 4 นี่ก็โหด ตอนเรียนธรรมดานี่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนฝึกภาคสนามนี่แหละ นรกชัดๆ นายคอยดูต่อไปแล้วกัน "
" โห อย่างนั้นยังเรียกว่าใจดีอีกเหรอวะ รู้เปล่าครูฝึกน่ะสั่งทำโทษตลอดเลย ไม่ได้ใจดีอะไรอย่างที่นายคิดหรอก เออ แต่ไม่ว่าการฝึกมันจะนรกจะโหดขนาดไหน เราก็จะสู้ว่ะ เราไม่กลัวหรอก เกิดเป็นลูกผู้ชาย จะกลัวอะไรวะ ใช่มั๊ยไอ้เพื่อนเลิฟ "
ไอ้บอมอมยิ้ม แล้วกอดคอผมแน่น กลิ่นสาปชายของไอ้บอมแตะจมูกผม มันช่างหอมเหลือเกิน ผมรีบซุกหน้าลงไปที่อกของมันทันที ไอ้บอมก็ไม่ว่าอะไร สักพักก็ได้ยินเสียงครูฝึกตะโกนใส่โทรโข่งดังลั่น
" นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 รวมพล รวมพล "
ผม และไอ้บอมรีบผละจากกัน คว้าเป้สนามวิ่งไปเข้าแถวทันที หลังจากที่จัดหมวดหมู่เรียบร้อยแล้ว ก็ทยอยขึ้นรถ รถออกจากสวนเจ้าเชต 6 โมงครึ่งพอดี
ผมนั่งดีใจไปตลอดทาง ดีใจที่จะได้กลับไปยังที่ที่ผมรักและประทับใจ และดีใจที่จะได้ไปฝึกความเป็นลูกผู้ชายอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ผ่านการฝึกแบบหฤโหดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ผมคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจเรียนร.ด. ต่อถึงแม้ว่าเพื่อนๆ หลายคนจะคัดค้านและไม่เห็นด้วย หลายคนบอกว่าเสียเวลาเปล่า แถมเหนื่อยอีก จะเรียนไปทำไม แต่ผมคิดว่าถึงจะเหนื่อย แต่ก็สนุก แถมยังได้ประสบการณ์ชีวิตที่น้อยคนจะมีโอกาสได้สัมผัส ได้มีโอกาสฝึกร่วมกับผู้ชายแท้ๆ นับร้อย มันส์ดีออก เสียดายที่นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มีน้อยกว่าชั้นปีที่ 3 มาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครอยากจะเรียนต่อกัน เห็นว่าเรียนจบปี 3 ก็พอแล้ว ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร น้อยคนที่จะคิดเรียนต่อปี 4 พวกที่เรียนต่อปี 4 ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ชอบทหารจริงๆ ชอบการฝึกแบบโหดๆ หนักๆ มันส์ๆ ตามประสาลูกผู้ชาย ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจที่เพื่อนๆ ปี 4 ของผมจะเป็นแมนกันทุกคน ถึงเป็นเกย์ก็เป็นเกย์แมนไม่แสดงออกกันทั้งนั้น
ไอ้บอมเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมรู้จัก เราเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นเกย์เหมือนๆ กันและมีความคิดคล้ายๆ กัน เรา 2 คนชอบทหารและเต็มใจที่จะเรียนร.ด. ด้วยเหตุผลโก้ๆ ว่าต้องการซึมซับความเป็นลูกผู้ชายจากการเรียนร.ด. ให้มากที่สุด เรียนร.ด. ทำให้เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ต้องการจะใกล้ชิดกับผู้ชายแท้ๆ ให้มากที่สุด เวลาได้อยู่ใกล้ๆ เขาเหล่านั้น มันมีความสุขมากจริงๆ ครับ
เพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่ฝึกด้วยกันก็พอรู้จักกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทเท่าไหร่ แต่ประเดี๋ยวพอไปถึงเขาชนไก่ ก็คงสนิทกันมากขึ้นเองแหละ เพราะเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันถึง 7 วันทีเดียว
ผมนั่งคิดอะไรไป เรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เริ่มร้อนผ่าวๆ ไปทั้งตัว ความรู้สึกแบบนี้ มันกลับมาอีกแล้ว เราเข้าเขตเขาชนไก่แล้วแน่ๆ ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทิวทัศน์ที่เคยคุ้นตามาแล้ว ภูเขาลูกใหญ่ๆ ลูกนั้นยังตั้งตระหง่านอยู่ ตัวอักษร " ร.ด. " ขนาดใหญ่มากที่ติดอยู่บนนั้นทำให้ผมหวนนึกไปถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ความสุข ความประทับใจ มิตรภาพ ของลูกผู้ชาย ล้วนเกิดขึ้นที่นี่ทั้งสิ้น เสียดายที่คราวนี้ ไม่มีเพื่อนๆ ชุดนั้นแล้ว
" ผมกลับมาแล้วนะ เขาชนไก่ "
ผมพูดกับตัวเองเบาๆ นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว วันที่ผมเดินทางออกจากที่นี่ คำถามที่เพื่อนรักคนหนึ่งของผมถามผมเล่นๆ ยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมทุกวินาที เขาถามว่า
.... มึงอยากมาอีกรึไง .....
ในวันนั้น ผมไม่ได้ตอบอะไรไป แต่ ณ วันนี้ ผมตอบได้เต็มปากว่า ผมอยากมา และในที่สุดผมก็ได้มาที่นี่อีกครั้งหนึ่งจริงๆ เขาชนไก่ในวันนี้ยังไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ เพียงแต่ดูแห้งแล้งขึ้น และน่าเกรงขามมากขึ้นกว่าเดิม ผมนั่งมองดูต้นไม้สองข้างทางไปเรื่อยๆ คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วไปพลางๆ
10 โมงกว่าๆ รถก็แล่นมาถึงอุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ ( ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ผมเรียกที่นี่ว่า พิพิธภัณฑ์ทหาร ) พอรถจอดสนิท นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 4 ทุกคนก็ทยอยลงจากรถ ครูฝึกพาพวกเราชมการแสดงนิทรรศการในอาคาร และดูชัยภูมิของไทยจากหอคอย เมื่อดูแล้วผมจึงสรุปได้ว่า ทางฝ่ายไทยเรามีชัยภูมิที่ดีกว่าพม่า ทำให้สามารถรบชนะพม่าได้ ผมและเพื่อนๆ ก็ดูกันตามสบาย อากาศตอนนี้ยังไม่ค่อยร้อนก็เลยไม่มีใครบ่น ซักครู่เราก็ขึ้นรถไปที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 เพื่อทำพิธีเปิด
เมื่อพิธีเปิดเสร็จสิ้นลง เราก็ขึ้นรถต่อไปยังที่พักของเรา นั่นคือ กองพัน 41
ทันทีที่รถจอดสนิท ครูฝึกก็ตะโกนใส่โทรโข่งดังลั่น
" ลงมาเข้าแถว เร็วๆ ชักช้าโดนหมอบแน่ๆ "
ผม ไอ้บอม และเพื่อนๆ รีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเข้าแถว ผมมองไปรอบๆ เห็นนักศึกษาวิชาทหารผลัดก่อนๆ ที่มารอกลับบ้านยืนกอดคอเกาะกลุ่มกันเต็มไปหมด ทุกคนชี้มาที่พวกผม แล้วตะโกนซ้ำๆ ว่า
" พวกมึงต้องตายๆๆๆๆๆ ตายแน่ๆ มึงตายแน่ๆๆๆๆๆ "
" ตายแน่ๆ มึงเอ๊ย 5555 "
บางคนตะโกนแล้วก็ชี้ไปที่แผลที่กบาลบ้าง ชี้ไปที่แผลที่แขน หรือขาบ้าง คือจงใจจะบอกว่าการฝึกมันสุดโหดจริงๆ โหดถึงขนาดได้แผลมานับไม่ถ้วน ผมและไอ้บอมมองแล้วก็หน้าซีด แต่ก็คิดปลอบใจตัวเองว่า ไม่มีอะไรหรอกน่า พวกนั้นคงแค่ขู่เล่นๆ คงไม่ได้ฝึกโหดอะไรขนาดนั้น ผมหันไปมองเพื่อนคนอื่นๆ ทุกคนก็มองกันเฉยๆ ไม่มีใครแสดงอาการวิตกกังวลหรือกลัวแต่อย่างใด
ครู ฝึกรีบจัดการต้อนนักศึกษาผลัดก่อนๆ ขึ้นรถไปจนหมด เมื่อพวกนั้นไปกันหมดแล้ว หัวหน้าชุดฝึกก็กล่าวต้อนรับ พอกล่าวต้อนรับจบ ก็หาเหตุมาทำโทษพวกเราจนได้
" ยุกยิกกันทำไม เอ้า ทุกคน หมอบ! "
ทุกคนจำใจต้องหมอบลงไป ฝุ่นคละคลุ้งไปหมด กองพัน 41 นี่สภาพภูมิประเทศไม่ดีเท่าไหร่นัก มีแต่ฝุ่น กรวด และทรายเต็มไปหมด ผมถึงกับต้องกลั้นหายใจก่อนจะหมอบลงไป แต่ฝุ่นก็เข้าจมูกจนต้องไอออกมา ทุกคนก็ไอเหมือนกันหมด พอเราหมอบลงไปหมดแล้ว หัวหน้าชุดฝึกก็สั่งต่อ
" ทั้งหมด ลุก ! "
ทุกคนรีบลุกขึ้นมาทันที
" ทั้งหมด แถว.. ตรง ตามระเบียบ.. พัก "
ทุก คนปฏิบัติตาม หลังจากนั้นก็เป็นการเข้าแถวใหม่โดยการจัดคละสถาบันการศึกษา ผมยังคงได้อยู่หมู่เดียวกับไอ้บอม โชคดีจริงๆ มีการแต่งตั้งหัวหน้าหมู่ หัวหน้าหมวด หัวหน้ากองร้อย และหัวหน้ากองพัน กองพัน 41 แบ่งออกเป็น 3 กองร้อย คือ ร้อย 1 ( อินทรีย์ ) ร้อย 2 ( เสือดำ ) ร้อย 3 ( ฉลามขาว ) ผมอยู่ร้อย 1 หมวด 1 หมู่ 1 ทั้งหมู่ผมรู้จักไอ้บอมคนเดียว นอกนั้นไม่รู้จักใครเลย
ระหว่างที่จัดหมวดหมู่กันอยู่นั้น หมวดของผมคงจะคุยกันเสียงดังไปหน่อย ทำให้ครูฝึกประจำหมวดรำคาญ ก็เลยแผดเสียงลั่น
" หมวด 1 เสียงดังชิบหายเลย ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ! "
ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่ง " เตรียม ! "
" 50 ครั้ง ปฏิบัติ ! "
ทุกคนวิดพื้นตามคำสั่งจนครบ เสร็จแล้วจึงลุกขึ้นมายืนท่าตรง ผมหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย แถมปวดกบาลตึ้บเพราะอากาศเริ่มร้อนขึ้นทุกทีๆ เมื่อจัดหมวดหมู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาแดกข้าว การแดกข้าวของปี 4 ไม่เหมือนตอนปี 3 ตอนปี 3 เราจะได้รับข้าวและกับข้าวใส่มาในถาดหลุมๆ ให้เสร็จ แดกได้ทันที แต่ปี 4 นี่ ทุกคนจะได้หม้อข้าวสนามคนละ 1 อัน คนหนึ่งรับข้าว อีกคนรับกับข้าว แล้วมานั่งจับบัดดี้แดกข้าวกันเอง ผมได้รับข้าว ส่วนไอ้บอมได้กับข้าว ผมก็เลยชวนไอ้บอมมาแดกด้วยกัน พอทุกคนจับบัดดี้และนั่งลงเป็นคู่ๆ แล้ว หัวหน้าชุดฝึกยังไม่ปล่อยให้เราแดกทันที
" ทุกคน พูดตามครู สี่หนึ่ง สี่หนึ่ง !!!! ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน กองพันลูกผู้ชาย เอี้ย ! เอี้ย ! เอี้ย ! "
ทุกคนแหกปากตะโกนลั่น
" สี่หนึ่ง สี่หนึ่ง !!!! ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน กองพันลูกผู้ชาย เอี้ย ! เอี้ย ! เอี้ย ! "
หัวหน้าชุดฝึกพูดต่อ
" ที่นี่คือกองพันลูกผู้ชาย ! ที่ที่จะหล่อหลอมผู้ชายธรรมดาๆ ให้กลายเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ทั้งร่างกายและจิตใจ ที่นี่ไม่มีความสบายให้ มีแต่ความลำบาก ความทุกข์ เพราะว่า ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน ทุกคน ขัดฉาก ! "
ผมและเพื่อนๆ ยกแขนขึ้นขัดฉาก หัวหน้าชุดฝึกถามว่า
" ไหนใครไม่มีช้อน ยกมือขึ้นซิ "
หลายคนยกมือ หัวหน้าชุดฝึกมองแล้วก็พูดว่า
" ในเมื่อบางคนมีช้อน บางคนไม่มี ไม่เสมอภาคกัน งั้นทุกคนก็กินด้วยมือเปล่าแล้วกัน ! "
ผมอึ้งไปนิดนึง ไม่นึกว่าจะต้องแดกข้าวด้วยมือเปล่าแบบนี้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยแดกข้าวด้วยมือเลย แล้วครูฝึกก็สั่งให้หัวหน้ากองพันพูดปลุกขวัญว่า
" เรากินเพื่ออยู่ เราสู้เพื่อชาติ วินัยสร้างศักดิ์ศรี ซื่อสัตย์สร้างความดี สามัคคีสร้างพลัง เชิญรับประทาน ! "
พอหัวหน้ากองพันพูดจบ ผมและเพื่อนๆ ต้องพูดตามที่ครูฝึกสั่งว่า
" ขอบคุณครับ ครูครับ ทานข้าวไหมครับ "
แล้วทุกคนก็รีบก้มหน้าก้มตาเปิบข้าวใส่ปากทันที ผมมองข้าวที่อยู่ในหม้ออย่างแหยงๆ แล้วก็เหลือบไปมองหม้อของไอ้บอมที่ใส่แกงส้มกุ้งแห้งไว้จนเต็มหม้อ พลางคิดในใจ..นี่เราต้องแดกด้วยมือจริงๆ เหรอเนี่ย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเปิบข้าวด้วยมือเลย เวรแท้ๆ ผมกำลังจะเอามือเปิบข้าวก็พอดีได้ยินหัวหน้าชุดฝึกตะโกนลั่น
" อย่าโอ้เอ้ ให้เวลา 10 นาทีเท่านั้น ใครกินไม่หมดโดนราดหัวแน่?..ผ่านไป 1 นาที 2 นาที "
ผมได้ยินอย่างนั้นก็รีรออะไรไม่ได้แล้ว ขืนแดกช้าจนแดกไม่หมดมีหวังโดนราดกบาล เละทั้งตัวแน่ๆ แถมหัวหน้าชุดฝึกยังแกล้งนับให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ แบบนั้นอีก เอาวะ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ใช้มือแดกข้าว แดกก็แดก ผมคิดแล้วก็ตัดสินใจเอามือเปิบข้าวใส่ปากทันที แล้วจึงล้วงหม้อของไอ้บอมหยิบแกงส้มใส่ปากไปอีก 1 คำ ไอ้บอมก็เอื้อมมือมาล้วงข้าวในหม้อผมใส่ปากแดกเช่นเดียวกัน เรา 2 คนผลัดกันแดกอย่างรีบเร่ง คำแล้วคำเล่า จนลืมไปว่าหัวหน้าชุดฝึกหยุดนับไปนานแล้ว และกำลังนั่งมองพวกเราแดกอย่างใจเย็น ตอนนี้ไม่มีใครพูดกันเลย ต่างก็รีบเปิบข้าวและกับข้าวเข้าปากด้วยความหิวโหยจนมือเลอะไปตามๆ กัน

ไม่นานผมกับเพื่อนๆ ก็แดกอิ่ม พอแดกเสร็จก็พากันไปล้างหม้อ แล้วก็มาเข้าแถวที่เดิม หลังจากนั้นครูฝึกประจำหมวดก็เช็คชื่อ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทุกคนต้องนั่งตากแดดหัวแดงกันอยู่ตรงที่รวมพลนั้นจนกว่าจะเช็คชื่อครบทุกคน พอเช็คเสร็จแล้ว ครูฝึกก็บอกว่าใครที่ไม่ได้เอาของใช้ที่จำเป็น เช่น กระติกน้ำสนาม เข็มขัดสนาม หรือผ้าปูรองนอน ก็ให้มายืมได้ ใครมีแล้วก็ไม่ต้องยืม ผมเตรียมทุกอย่างมาพร้อมแล้วจึงไม่ต้องยืมอะไร ไอ้บอมลืมเอากระติกน้ำมา ก็เลยไปยืมจากครูฝึก ไม่งั้นจะไม่มีน้ำดื่ม กระติกน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสุดๆ ในการเข้าค่ายร.ด. เพราะช่วยให้เราดับกระหายได้ และต้องหมั่นเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอ เพราะครูฝึกบอกว่า วันท้ายๆ ของการฝึกเราต้องไปฝึกในป่า ที่นั่นไม่มีแท๊งค์น้ำให้เติมบ่อยๆ เหมือนที่นี่ ถ้าน้ำหมดก็จบกัน
เมื่อทุกคนยืมของเสร็จแล้ว ครูฝึกก็ให้ไปรับปืนปลย. 88 ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของทุกคน ต้องเอาติดตัวไว้ตลอด หนักไม่ใช่เล่น แต่พวกเราชินกับการถือปืนมาตั้งแต่ปี 3 แล้ว จึงไม่รู้สึกลำบากอะไร
ขณะที่เพื่อนๆ หมวดอื่นกำลังทยอยรับปืนอยู่นั้น ครูฝึกประจำหมวดของผมเกิดนึกอะไรขึ้นมาไม่ทราบ สั่งให้หมวดของผมยืนขึ้น และบอกว่าจะสอนท่าทำโทษแบบใหม่ให้ เผื่อโดนครูฝึกคนอื่นสั่งทำโทษจะได้ทำเป็น
" ครูจะสอนท่าทำโทษใหม่ให้ เรียกว่าท่า 69 ! "
นักศึกษาหมวด 1 ทุกคนครางฮือ บางคนก็พึมพำกับเพื่อนข้างๆ บางคนก็แอบอมยิ้ม บางคนอ้าปากหวออย่างคาดไม่ถึง บางคนหัวเราะขึ้นมาทันที ผมได้ยินแล้วรู้สึกตกใจนิดหน่อย หันไปมองหน้าไอ้บอม ไอ้บอมมองผมตอบแล้วยิ้มเขินๆ ไม่กล้าพูดอะไร ไม่รู้ไอ้บอมมันคิดอะไรอยู่ ผมสิคิดเลยเถิดไปมากมาย ก็ท่า 69 เนี่ยความหมายมันเป็นยังไงก็รู้ๆ กันอยู่ แต่ผมก็รีบดึงความคิดกลับมา คิดในใจว่า มันไม่ใช่แบบที่เราคิดแน่ๆ ลองดูต่อไปก่อนดีกว่า
ครูฝึกกระแอมเบาๆ แล้วพูดต่อ
" เฮ้ย ! เฮ้ย ! อย่าคิดมาก กูรู้พวกมึงคิดอะไรอยู่ ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างที่พวกมึงคิดนะ ไอ้พวกทะลึ่ง! กูจะให้เพื่อนพวกมึงสาธิตให้ดู เอ้า มึง 2 คนออกมานี่ซิ "
ครูฝึกเรียกเพื่อนของผม 2 คนออกมาหน้าแถว แล้วให้มันทำท่า 69 โดยให้คนหนึ่งนอนหงาย อีกคนนอนคว่ำทับลงไปบนตัวคนแรกให้พอดีกัน หันกบาลไปที่ตีนคนแรก ( เสียวโว้ย! ) แต่อนุโลมให้เบี่ยงๆ ตัวกันได้บ้าง ไม่งั้นตีนคนที่ 2 คงฟาดหน้าคนแรกแน่ๆ แล้วให้คนแรกเกาะขาคนที่ 2 ไว้ คนที่ 2 ก็เกาะขาคนแรกเหมือนกัน แล้วก็กลิ้งไปเรื่อยๆ ปรากฏว่า 2 คนนั้นกลิ้งไปไม่เท่าไหร่มือก็หลุดออกจากกัน กลิ้งไปคนละด้าน พอจบการสาธิตแล้วครูฝึกก็ให้ทุกคนจับคู่กันทำท่า 69 บ้าง ผมจับคู่กับไอ้บอม โชคดีที่หุ่นของเรา 2 คนใกล้เคียงกัน ก็เลยทำท่า 69 ได้ง่ายๆ แต่ผมกับไอ้บอมก็กลิ้งได้ไม่กี่ครั้งก็หลุดกระเด็นออกจากกัน คนอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เราทุกคนทำท่า 69 กันอย่างสนุกสนานจนครูฝึกสั่งให้เลิก แล้วเรียกกลับมาเข้าแถวตามเดิม ผมรู้สึกเวียนหัวจากการกลิ้งนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกมันส์สะใจดี
เมื่อทุกคนรับปืนครบหมดแล้ว ครูฝึกก็ปล่อยให้พัก ผมและไอ้บอมถือโอกาสเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ในหมู่ โดยเข้าไปทักทายทีละคน เริ่มจากหัวหน้าหมู่ก่อน หัวหน้าหมู่เป็นเด็กหนุ่มผิวดำ สูงยาวหุ่นดี หน้าตาไม่หล่อแต่ดูแมน กล้ามแขนใหญ่เบ้อเริ่ม ตูดใหญ่กำลังดี ดูเผินๆ เหมือนนักเรียนนายร้อยมาก พอผมเข้าไปทักหัวหน้าหมู่ก็ยิ้มให้แล้วพูดว่า
" เออ เราชื่อสันติว่ะ แล้วนี่เพื่อนเราชื่อ ปกป้อง เรา 2 คนมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันว่ะ "
ผมมองไปที่ไอ้ปกป้องซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้สันติ ไอ้ปกป้องก็เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่หล่อเหมือนกัน แต่ก็ดูแกร่ง หุ่นไม่ดีเท่าไอ้สันติ แต่ตรงเป้านี่สิ ตุงออกมามากจริงๆ ท่าทางอาวุธประจำตัวจะใหญ่ไม่ใช่เล่น ผมเห็นไอ้บอมแอบชำเลืองมองเป้าไอ้ปกป้องบ่อยๆ จนผมต้องเอาศอกกระทุ้งสีข้างมันหลายที เพื่อไม่ให้ไอ้ปกป้องหรือไอ้สันติผิดสังเกตุ เราพูดคุยกันต่อซักพัก เพื่อนในหมู่อีก 3 คนก็เดินมาสมทบ พอมัน 3 คนเดินมาถึง ไอ้คนหนึ่งที่ดูตัวใหญ่ที่สุด สกปรก และเถื่อนที่สุด ก็พูดเสียงดัง
" แม่ง ร้อนว่ะ ร้อนเหี้ยๆ เลย เมื่อไหร่แดดจะหมดซะทีวะ กูร้อนจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว "
มันพูดแล้วก็จ้องหน้าเพื่อนๆ ในหมู่ ก่อนจะพูดต่อ
" ไงพวกมึง ทำไรกันอยู่วะ นี่พวกมึงอยู่หมู่เดียวกับกูใช่มั๊ย เห็นหน้าคุ้นๆ เออ ดีดี มีอะไรก็ช่วยๆ กันหน่อยละกัน กูไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ พูดง่ายๆ กูโง่น่ะ ถ้าเรื่องใช้แรงกูทำได้ แต่ถ้าใช้สมองกูไม่ไหวว่ะ อืมมม พูดมาซะยาว กูยังไม่ได้บอกชื่อกูเลย กูชื่อโต้งนะ มาจากยโสธร "
พอไอ้โต้งหยุดพูด ผมก็รีบพูดขึ้นมาทันที
" ไอ้โต้ง กูชื่อหนุ่มนะ แล้วนี่เพื่อนกู ไอ้บอม กูเด็กกรุงเทพว่ะ "
ไอ้โต้งมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม ผมรีบเข้าไปตบไหล่ตบหลังมันเพื่อแสดงความเป็นพวกเดียวกัน ไอ้บอมก็ทำแบบเดียวกับผม เพื่อนคนอื่นๆ ก็ผลัดกันแนะนำตัวจนครบทุกคน ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่อีก 2 คน มันชื่อ ไอ้ธีระ และไอ้โรจน์ ทั้งคู่เป็นเด็กหนุ่มหุ่นนายร้อยแบบเดียวกับไอ้สันติ มาจากภาคอีสาน แต่คนละจังหวัด
ระหว่างที่พวกเราคุยกันอยู่นั้น ผมรู้สึกว่าไอ้โต้งเป็นคนเดียวที่มีท่าทางแปลกๆ มันพูดเสียงดังมาก น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากแบบไม่ค่อยมีมารยาท ถ้ามันไม่พอใจอะไรก็บ่นออกมาตรงๆ แต่ก็เป็นการบ่นพึมพำคนเดียว ไม่บ่นแบบใส่อารมณ์ และไม่ดุหรือด่าเพื่อนๆ เลย ผมรู้สึกอีกว่าไอ้โต้งเป็นคนที่ปากกับใจตรงกัน ดูห้าวๆ ลุยๆ ตามประสาผู้ชาย มันเป็นคนไม่หล่อ หน้าใหญ่ รูปร่างก็ไม่ดี ถึงตัวมันจะใหญ่แต่ก็ดูเทอะทะไม่สมส่วน แขนเบ้อเริ่ม น่องก็โตเท่าต้นตาล เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผล เป้ากางเกงพองใหญ่พอสมควร แถมเวลานั่งก็ชอบนั่งชันเข่ากางขามากๆ ตามสไตล์ผู้ชาย ไม่นั่งขัดสมาธิแบบคนอื่น ทำให้มองเห็นเป้าได้ชัดเจน คะเนด้วยสายตาแล้วผมคิดว่าควยไอ้โต้งต้องใหญ่มากแน่ๆ ผมคิดแล้วก็สะกิดไอ้บอมเบาๆ แล้วกระซิบว่า
" เฮ้ย ไอ้บอม นายว่าไอ้โต้งเนี่ย เป็นยังไงบ้าง "
ไอ้บอมทำหน้างงๆ ก่อนจะกระซิบตอบผม
" เป็นยังไง ก็เป็นนักเลงสิวะ แม่งโคตรเถื่อนเลย ดูดิ เหี้ยกลับชาติมาเกิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดูสกปรกๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ เรารู้นะเว้ยว่านายคิดอะไรอยู่ แบบนี้ของแท้แน่นอน ไม่มีทางกลายพันธุ์แน่ๆ สัด "
" เราก็ว่างั้นแหละ แต่ท่าทางแม่งจะควยใหญ่นะ เราอยากเห็นควยนักเลงจังว่ะ "
" เออ ไว้ไปแอบดูตอนมันยืนเยี่ยวละกัน ห่า เราไม่เห็นอยากดูเลย คงจะสกปรกชิบหาย เราอยากดูของไอ้สันติ หรือไม่ก็ไอ้ปกป้องมากกว่า หุ่นแม่งน่าแดกเป็นบ้า ขนาดหุ่นยังดีขนาดนี้ แล้วควยล่ะจะขนาดไหน นี่ถ้าได้แดกนะคงจะอิ่มไปอีกนาน ผู้ชายเหี้ยไรวะ หุ่นสะท้านใจเกย์จริงๆ "
ผมหัวเราะ แล้วพูดกับไอ้บอมเบาๆ
" 555 กูก็ชอบว่ะ แบบมันเนี่ยเขาเรียกว่าหุ่นนายร้อยเว้ย ไอ้เหี้ย หุ่นแบบนี้แหละ พิมพ์นิยม เกย์ชอบกันทั้งนั้น อูยยยย พูดแล้วควยกูแข็ง "
เราทั้ง 7 คนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผม ผมหันไปมอง หัวหน้ากองพันของเรานั่นเอง มันบอกว่าขอคุยด้วยคน เพราะท่าทางกลุ่มของพวกเราจะคุยกันสนุกดี
" กูชื่อกร กูมาจากร้อยเอ็ดคนเดียวว่ะ เห็นพวกมึงคุยกันสนุกดี ก็เลยอยากจะมาร่วมแจมด้วย คงไม่รังเกียจกูนะ "
หัวหน้ากองพันพูดแล้วก็มองหน้าไอ้บอม ไอ้สันติฟังแล้วก็พูดยิ้มๆ
" เออ ห่า ใครจะไปรังเกียจมึงวะ หัวหน้ากองพัน มึงมาอยู่กลุ่มเดียวกับกูน่ะดีแล้วเราลูกข้าวเหนียวเหมือนๆ กัน กูคนอุดรว่ะ "
ไอ้กร หัวหน้ากองพัน ยิ้มแห้งๆ ผมมองหน้าไอ้กร แววตาของมันเศร้าๆ พิกล ผมเลยเอาแขนกอดคอมันไว้ ไอ้กรสะดุ้ง แต่ก็ไม่ว่าอะไร ผมเลยกระเซ้ามัน
" เฮ้ย ไรวะ กูโอบแค่นี้ทำเป็นสะดุ้ง ไอ้ห่า ผู้ชายด้วยกันนะเว้ย "
" เออ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ จะโอบก็โอบไป "
ไอ้กรตอบเบาๆ ผมเลยเอามือลูบแผ่นหลังมันเบาๆ ไอ้กรเป็นคนตัวเล็ก แขนขายาว ไม่ล่ำ แต่ดูปราดเปรียว ท่าทางฉลาดและเรียบร้อย ผมบีบไหล่บีบคอมันเล่น ไอ้กรก็ยังเฉยๆ ระหว่างนั้นไอ้ปกป้องก็พูดขึ้นมาว่า
" พูดกูมึงกันได้หรือยังวะ เราคุ้นเคยกันแล้วนี่ จะได้คุยกันสะดวกปากมากขึ้น "
ทุกคนรีบตอบพร้อมกัน
" ได้เลย ! "
ผมมองหน้าเพื่อนใหม่ทุกคน รู้สึกมีความสุขที่ได้รู้จักกับเพื่อนๆ เหล่านั้น แต่ละคนดูเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่มีใครเป็นเกย์เลย สงสัยปีนี้จะไม่ได้เล่นเสียวกับคนอื่นแน่ๆ คงเล่นกับไอ้บอมได้คนเดียว เสียดายจัง แต่ผมก็ต้องทำใจ ผู้ชายแท้ๆ ยังไงก็ยังเป็นผู้ชายแท้ๆ อยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางที่จะสนใจขั้วเดียวกันอยู่แล้ว
" ไปเยี่ยวกันเหอะไอ้หนุ่ม กูปวดจะตายห่าอยู่แล้ว "
ไอ้บอมพูด ผมและไอ้บอมเลยขอตัวไปเยี่ยวที่ห้องน้ำ ไอ้สันติเลยพูดว่า
" งั้นตอนนี้แยกกันก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยกลับมาเจอกันใหม่ "
เราก็เลยสลายตัวกันชั่วคราว ไอ้สันติกับไอ้ปกป้องกอดคอกันเดินเล่นรอบๆ ที่พัก ไอ้โต้งวิ่งไปต่อแถวโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ เพื่อนคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันไปทำกิจธุระส่วนตัว รอเวลารวมกันอีกครั้งตอน 4 โมงเย็น

ปรี๊ด......ปรี๊ดดดดดด......
เสียง นกหวีดเป่ารวมพลดังอีกครั้ง ทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวทันที ครูฝึกประจำหมวดจัดนักศึกษาวิชาทหารออกเป็นคู่ๆ และบอกหมายเลขเต็นท์ให้ ผมรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้นอนคู่กับไอ้บอม แต่กลับได้นอนคู่กับไอ้ธีระแทน แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวแอบไปมุดเต็นท์ของไอ้บอมก็ได้ ถ้ามันต้องการผม เราทุกคนเอาของเข้าเต็นท์ ผมพูดเล่นๆ กับไอ้ธีระว่า
" เดี๋ยวกูนอนด้านขวาละกัน มึงนอนด้านซ้ายนะ แล้วอย่าเผลอมากอดกูแล้วกัน ไอ้ห่า กูสู้นะเว้ย "
ไอ้ธีระหัวเราะ แล้วจ้องหน้าผม
" ไอ้เหี้ย กูไม่ทำอะไรมึงหรอก เราผู้ชายด้วยกันนะเว้ย มึงพูดให้กูคิดนะ หรือว่ามึงอยากจะ.... "
ผมเริ่มรู้สึกว่าผมพูดมากไปแล้ว เดี๋ยวความลับจะแตก ก็เลยรีบกลบเกลื่อน
" เฮ้ย เฮ้ย อย่าคิดมากสิวะ กูก็พูดเล่นไปงั้นแหละ กูกับมึงก็ชายแท้ทั้งคู่ ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่ๆ กูสาบาน อย่าเข้าใจกูผิดนะ กูไม่ชอบไม้ป่าเดียวกัน กูเป็นผู้ชาย 100% "
ไอ้ธีระยิ้ม แล้วโอบไหล่ผมแน่น ก่อนจะกระซิบตอบสั้นๆ
" กูเชื่อมึง ไอ้หนุ่ม "
ผมยิ้มตอบ แล้วผมกับไอ้ธีระก็กอดคอกันเดินไปทักทายเต็นท์อื่นๆ ผมเจอไอ้บอมอยู่ที่เต็นท์ถัดไปอีก 3 เต็นท์ มันนอนคู่กับไอ้โรจน์
ซักพักไอ้สันติกับไอ้ปกป้องก็เดินมาสมทบ เราก็เลยเดินคุยกันไปเรื่อยๆ จน 5 โมงเย็น ครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวมอีกครั้งเพื่อกินข้าวเย็น กับข้าวเย็นวันนี้เป็นผักกาดดองต้มหมู มีถั่วเขียวต้มน้ำตาลเป็นของหวานด้วย และแน่นอน ใช้มือแดกเหมือนเดิม !
พอเราแดกข้าวเย็นเสร็จก็มืดแล้ว ครูฝึกปล่อยให้พวกเราพักแป๊ปนึง แล้วก็เรียกรวมอีกครั้งเพื่อฟังบรรยายเรื่องการสุขาภิบาล ครูฝึกพยาบาลเป็นคนบรรยาย เขาพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แต่ทุกคนก็ทนฟังจนจบ ต่อด้วยเรื่องธุรการ ครูฝึกอีกคนมาบรรยายต่อ คนนี้พูดดีกว่าคนแรก เขาพูดถึงเรื่องสิทธิของนศท.ว่ามีอะไรบ้าง พวกเราก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จนถึง 3 ทุ่ม ก็สวดมนต์ ครูฝึกจัดเวรยาม คืนแรกนี้ผมกับไอ้ธีระยังไม่โดนยาม สบายไป แต่พรุ่งนี้อาจจะโดนก็ได้ พอจัดเวรยามเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันเข้าเต็นท์
.......................

พอผมกับไอ้ธีระผลุบเข้าไปในเต็นท์ ไอ้ธีระก็ถอดเสื้อนอกออก เหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว แล้วจึงถอดรองเท้าถุงเท้าออกวางไว้ข้างๆ ตัว ล้มตัวลงนอนทันที แล้วพูดว่า
" ไอ้หนุ่ม กูนอนก่อนนะ ง่วงว่ะ พรุ่งนี้ถ้ากูตื่นสาย มึงปลุกกูด้วยนะ ฝันดีเว้ย "
" เออ ฝันดี "
ผมตอบพลางถอดเสื้อนอกออกเหมือนกัน แล้วโยนไว้ข้างๆ เป้สนาม เวลานอนนี่แต่งชุดครึ่งท่อนก็พอ แต่ไม่ได้ถอดถุงเท้ารองเท้าเหมือนไอ้ธีระ ผมถอดแว่นตาออก เสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ มัน มองหน้าตาและสรีระของไอ้ธีระอย่างหื่นกระหาย ไอ้ธีระนี่หุ่นดีจริงๆ ยิ่งเวลามันใส่เฉพาะเสื้ออ่อนพอดีตัวแบบนี้ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ กล้ามอกแน่น กล้ามแขนขึ้นเป็นมัดๆ อยากจะกอดอยากจะจูบซะให้หนำใจ แต่ผมก็ต้องอดใจไว้ก่อนเพราะไอ้ธีระมันไม่ใช่เกย์ ขืนทำอะไรลงไปอาจจะเสียเพื่อนได้ สายตาผมมองไล่ลงมาถึงเป้ากางเกง เป้ากางเกงของไอ้ธีระไม่ตุงเท่าไหร่ คิดว่าควยคงกำลังหดอยู่ ท่อนขาของมันใหญ่และดูแข็งแกร่งมาก น่าจับเป็นบ้า ผมมองไอ้ธีระตั้งแต่กบาลจดตีนหลายสิบรอบจนหนำใจ แล้วจึงเปลี่ยนมาจ้องหน้าดำๆ ของมัน จมูกของไอ้ธีระเล็ก ริมฝีปากก็หนามาก น่าจูบชิบหายเลย แก้มก็ดำเนียนได้ใจ ผมเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ แก้มของมัน พยายามระวังไม่ให้สัมผัสกับแก้มเพื่อนโดยตรง แล้วสูดกลิ่นผู้ชายแท้ๆ เข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะเลื่อนลงมาซุกที่ต้นคอของมัน แล้วสูดกลิ่นกายของมันอีกรอบ ผมสูดกลิ่นของไอ้ธีระจนหนำใจ แล้วจึงพลิกตัวมาอยู่ในท่านอนหงายตามเดิม จับมือไอ้ธีระไว้แน่น มือของมันสากมาก แสดงว่าคงใช้มือทำงานมาอย่างโชกโชนตามประสาเด็กต่างจังหวัด ผมค่อยๆ หลับตาช้าๆ ความง่วงและความเหนื่อยล้าเริ่มเข้าครอบงำผม ในที่สุดผมก็เคลิ้มหลับไปโดยลืมความตั้งใจที่จะแอบไปมุดเต็นท์ไอ้บอมจนหมดสิ้น
...................................

4 ทุ่ม
" หนุ่ม หนุ่มเว้ย เฮ้ย หลับยังวะ "
ผมสะดุ้งตื่นขึ้น เสียงไอ้บอมนี่นา เหลือบไปมองที่ปลายตีนก็เห็นไอ้บอมกำลังแหวกเต็นท์ยื่นหน้าเข้ามาพอดี ผมรีบลุกขึ้น แล้วพยักหน้าให้ไอ้บอมก่อนจะหยิบแว่นมาใส่ แล้วมุดออกจากเต็นท์ไป ไอ้บอมยืนหน้าตาตื่นอยู่ มันใส่ชุดครึ่งท่อนเหมือนผม เป้ากางเกงตุงออกมาอย่างเห็นได้ชัด พอผมยืนขึ้นมันก็พูดขึ้นมาก่อน
" ไอ้เหี้ย ให้เราเรียกตั้งนาน นึกว่านายจะไม่ตื่นซะแล้ว มาเล่นอะไรสนุกๆ กันดีกว่าว่ะ เราโคตรเงี่ยนเลย "
ผมหาวเสียงดังก่อนจะตอบ
" แม่งเอ๊ย เราง่วงจะตายห่าแล้วยังจะปลุกออกมาอีก นี่เพิ่งคืนแรกเองนะเว้ย จะรีบเล่นอะไรกันนักหนา ยังมีอีกตั้ง 6 คืน คืนแรกขอนอนพักก่อนไม่ได้เหรอวะ แล้วเราก็ไม่เงี่ยนด้วย "
" ไอ้ห่า เล่นคืนแรกนี่ล่ะเด็ดสุดแล้ว ยังไม่ค่อยเหนื่อยด้วย เรายังไม่รู้ว่าคืนต่อๆ ไปจะมีโอกาสได้เล่นกันมั๊ย รู้แต่ว่าคืนไหนนอนที่กองพันเนี่ย มันเล่นกันได้สะดวก แต่ถ้าไปนอนในป่าแล้ว หมดสิทธิ์เล่นจริงๆ ว่ะ นะไอ้หนุ่มนะ ขอแค่คืนนี้คืนเดียว แล้วเราจะไม่กวนนายแล้ว เล่นกันก่อน ต่อไปเราจะต้องเหนื่อยมากขึ้นๆ จนเล่นกันไม่ไหวแน่ๆ "
ผมส่ายหน้าอย่างรำคาญ แต่ก็นึกอยากเล่นขึ้นมาบ้างแล้ว ก็เลยถามมันไปว่า
" แล้วจะไปเล่นกันที่ไหนล่ะวะ ในเต็นท์ไม่เอานะเว้ย ไม่อยากให้คู่เต็นท์มันรู้ ทั้งไอ้โรจน์ทั้งไอ้ธีระมันก็ชายแท้ทั้งคู่ แถมมันทั้งคู่ก็นอนในเต็นท์อีก ถ้ามันรู้เรื่องละก็ ซวยแน่ๆ "
" เออ ไม่เล่นในเต็นท์หรอก ไม่อยากรบกวนไอ้ธีระกับไอ้โรจน์มัน ปล่อยมันนอนไปเหอะ เราเตรียมที่เล่นเอาไว้แล้วว่ะ ที่ดีซะด้วยนะเว้ย "
" ที่ไหนวะ "
ไอ้บอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
" ตามมา เดี๋ยวก็รู้เอง "
ผมเดินตามไอ้บอมไปเรื่อยๆ ความจริงผมก็พอจะนึกสถานที่ที่เราจะใช้เล่นกันได้ ก็มีอยู่ที่เดียวเท่านั้นแหละครับ ถึงจะเหม็นหน่อยแต่ก็พอใช้แก้ขัดได้
..............................

ที่ห้องน้ำของกองพัน 41
" ทางสะดวกเว้ย ยามไปไหนก็ไม่รู้ เข้าไปเลย "
ทันทีที่ไอ้บอมพูดจบ ผมก็ผลุบเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุดทันที แล้วดึงไอ้บอมเข้าไปด้วย เสียงล๊อกประตูดังกริ๊ก! ผมมองหน้าไอ้บอมแล้วก็ยิ้ม ต่อจากนี้ไปก็เป็นเวลาส่วนตัวของเรา 2 คนแล้ว
................................

" โอ๊ยยยย ปวดขี้เว้ย ไม่น่าแดกถั่วเขียวต้มน้ำตาลไปมากเลย สัด จะราดอยู่แล้ว ขอขี้ก่อนดีกว่า ไม่ไหวแล้วว่ะ อูยยยย ข้าศึกบุกทะลวงหลังแล้ว ไอ้เหี้ยเอ๊ย ! "
ไอ้โต้งพึมพำเบาๆ ก่อนจะตาลีตาเหลือกวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ กดล๊อกประตู แล้วถอดกางเกงออกนั่งยองๆ ปลดทุกข์อย่างสบายใจ แต่แล้วมันก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคน 2 คนกำลังคุยกันเบาๆ อยู่ในห้องข้างๆ ถัดจากห้องที่มันขี้อยู่ แถมมีเสียงครางเป็นระยะๆ ด้วย ไอ้โต้งค่อยๆ เอาหูแนบกับผนังห้องน้ำแล้วเงี่ยหูฟัง พลางนึกในใจ
... มัน 2 ตัวทำอะไรกันในห้องน้ำห้องเดียวกันวะ มาเยี่ยวด้วยกันเหรอ พิลึกว่ะ สงสัยจัง ขอกูดูหน่อยละกันว่ามันทำอะไรกันอยู่....
ไอ้โต้งรีบใส่กางเกงแล้วลุกขึ้นยืนบนโถส้วม เอามือยันผนังห้องน้ำเอาไว้ แล้วแอบชะโงกหน้าลงไปยังห้องน้ำห้องข้างๆ อย่างช้าๆ

ทันทีที่ผมกับไอ้บอมเข้าไปในห้องน้ำ เรา 2 คนก็ถอดเสื้อออกทันที ผมจ้องแผ่นอกและหน้าท้องของไอ้บอมตาไม่กะพริบ ไอ้บอมมันหุ่นดีจริงๆ แผ่นอกแน่น กล้ามอกเป็นมัดๆ ส่วนกล้ามท้องก็เป็นลอนๆ เลย หัวนมของมันดำน่าดูดมากๆ ไอ้บอมไม่ยอมให้ผมสังเกตุรูปร่างมันนาน มันรีบโถมเข้าใส่แล้วกอดรัดผมทันที
" ช้าๆ ก็ได้ ใจเย็นๆ เพื่อน "
ผมกระซิบข้างหูไอ้บอมเบาๆ ไอ้บอมไม่สนใจที่จะตอบ แต่กลับกอดผมไว้แน่นขึ้น หน้าของมันซุกไซ้ไปทั่วลำคอผมอย่างหื่นกระหายจนผมจั๊กจี้ ผมดันตัวไอ้บอมออกห่างแล้วจ้องตามัน ไอ้บอมคงเงี่ยนมาก มันดึงตัวผมเข้าไปจูบทันที ปากของผมสัมผัสกับปากหนาๆ ของมันอย่างจัง แล้วไอ้บอมก็สอดลิ้นเข้าไปในปากผมแล้วควานไปทั่ว ลมหายใจร้อนๆ จากจมูกของไอ้บอมรดริมฝีปากผม ยิ่งทำให้ความเงี่ยนของผมเพิ่มมากขึ้นๆ จนทนต่อไปไม่ไหว ผมเลยเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากของไอ้บอมแล้วควานลิ้นใส่มันบ้าง ไอ้บอมหลับตาพริ้ม ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งของควยในเป้ากางเกงของไอ้บอม
ในขณะที่เรา 2 คนกำลังยืนกอดกันอยู่อย่างนี้ เรายืนดูดปากกันอยู่ซักพัก แล้วไอ้บอมก็ถอนปากออก โน้มตัวมาดูดหัวนมของผมช้าๆ
" อา.... เสียว.... นายดูดหัวนมเก่งเหมือนกันนี่หว่า "
ไอ้บอมตวัดลิ้นใส่หัวนมผมซ้ำๆ ผมรู้สึกเสียวจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว ไม่นานไอ้บอมก็หยุดเลียหัวนมผม ผมรีบโน้มตัวไปดูดหัวนมมันบ้าง หัวนมไอ้บอมค่อนข้างใหญ่และดำ ผมดูดเลียหัวนมมันจนหนำใจ แล้วจึงถอยหลังไปจนชิดผนัง หันหน้าเข้าโถส้วม ไอ้บอมเดินอ้อมไปยืนอยู่หน้าผมแล้วนั่งยองๆ ลงบนโถส้วม พลางพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 2 คน
" ขอแดกควยหน่อยนะ เราหิวควยว่ะ ไม่ได้แดกควยมานานแล้ว "
ผมพยักหน้า ไอ้บอมไม่รอช้ารีบแกะกระดุมกางเกงของผมทันที ก่อนจะงัดควยขาวๆ ลำยาวเกือบๆ 6 นิ้วออกมาจากกางเกงใน แล้วถอกหนังหุ้มควยลงจนสุด หัวควยสีชมพูใสๆ หัวเบ้อเริ่มโผล่ออกมาทันที มันรีบทำปากจู๋แล้วครอบปากลงไปจนถึงโคนควย อมควยไปจนมิดลำอย่างง่ายดาย จากนั้นไอ้บอมก็เริ่มขยับปากขึ้นลงๆ ดูดควยผมอย่างเมามัน มืออีกข้างก็รูดกางเกงขายาวของผมลงไปกองแทบเท้า พวงไข่แฝด 2 ใบของผมปรากฎต่อสายตาของมัน มันรีบเอามือมาเล่นพวงไข่ขาวๆ ของผมอย่างสะใจ
ผมมองหน้าไอ้บอม มันช่างเป็นภาพที่น่าดูอะไรเช่นนี้ หนุ่มผิวดำผมสั้นเกรียนกำลังใช้ปากดูดควยหนุ่มตี๋อย่างผมอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ไหวแล้ว อย่างนี้ต้องอัดลำควยให้ลึกกว่านี้แล้ว ผมคิดแล้วจึงเอามือทั้ง 2 ข้างจับกบาลเกรียนๆ ของไอ้บอมไว้ แล้วกระแทกลำควยเข้าปากไอ้บอมให้ลึกกว่าเดิม ไอ้บอมทำท่าเหมือนจะสำลักแต่ก็ยังคงดูดต่อ ผมกัดฟันด้วยความเสียว ไอ้เหี้ยทำไมมึงดูดเก่งอย่างนี้วะ ดูดจนน้ำกูจะออกอยู่แล้ว ผมคิดแล้วก็เอามือลูบกบาลและต้นคอของไอ้บอมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลดความเสียวลงไปบ้าง ซักพักไอ้บอมคงเมื่อยปาก มันค่อยๆ ปล่อยลำควยผมออกจากปาก แต่ยังคงอมหัวควยบานๆ แดงเถือกของผมอยู่
" ซี๊ดดดดดดดดดดดด......มันส์เว้ยยยยยยยยยย "
ผมร้องครางเบาๆ ตอนนี้หัวควยของผมเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดงสดแล้วเนื่องจากเงี่ยนมาก ไอ้บอมดูดเน้นๆ ตรงหัวควยของผมแถมยังเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวของผมด้วย มันตวัดลิ้นแผล่บๆ ใส่รูเยี่ยวของผมเป็นระยะๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวจนน้ำแทบแตก โดนดูดควยแถมโดนเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวแบบนี้ ใครจะไปทนไหววะ
" โอยยยยย พอก่อนไอ้บอม พอก่อน เสียวรูเยี่ยว มา กูดูดให้มึงบ้าง "
ปกติผมจะไม่พูดหยาบคายกับไอ้บอม แต่ตอนนั้นผมเสียวจนลืมตัวก็เลยเผลอพูดหยาบใส่มัน ไอ้บอมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของผม มันลุกขึ้นยืนบ้าง ผมเดินไปนั่งยองๆ ที่โถส้วมแล้วแกะกระดุมกางเกงของมัน รูดกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้า ไอ้บอมใส่กางเกงในสีฟ้าสด ควยลำใหญ่พาดอยู่ในกางเกง ผมรีบรูดกางเกงในของมันลงทันที ควยขนาด 6 นิ้วกระเด้งออกมาและตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าผม ลำควยดำสนิท หนังหุ้มปลายของไอ้บอมสวยมาก ลักษณะเหมือนดอกจำปีที่ห่อหุ้มหัวควยของมันเอาไว้อย่างมิดชิด แถมตรงหนังส่วนปลายที่เปิดออกมาเป็นรูเยี่ยวยังยื่นยาวออกมาอีกต่างหาก ผมเอามือดึงหนังหุ้มปลายของไอ้บอมเล่นอย่างสนุก ให้ตายสิวะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่หนังหุ้มปลายควยสวยน่าดูดแบบนี้ มาก่อนเลย
" เอ้า มัวแต่เล่นหนังหุ้มปลายควยกูอยู่ได้ ดูดได้แล้วไอ้เหี้ย ควยกูแข็งมากแล้ว "
ไอ้บอมเร่งผมด้วยภาษาระดับเดียวกับที่ผมใช่เมื่อกี้ ผมเลยรีบรูดหนังหุ้มปลายของไอ้บอมลงไปจนสุด หัวควยเรียวๆ สีแดงแจ๋โผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว หัวควยของไอ้บอมไม่บานเหมือนของผม ออกจะเรียวๆ น่าดูดเหมือนกัน ลำควยผงกหัวหงึกๆ รูเยี่ยวมีน้ำใสๆ ซึมออกมาเล็กน้อย ผมรีบอ้าปากดูดควยไอ้บอมทีเดียวมิดโคนเลย
" ดูดลึกๆ เลยไอ้เหี้ยหนุ่ม ไอ้สัตว์ อา....เสียว....เสียวควยชิบหายเลย แม่งเอ๊ยยยยย "
ไอ้บอมพูด ผมใช้ปากรูดลำควยไอ้บอมเร็วขึ้นๆ สลับกับเอาลิ้นเลียแผล่บๆ บริเวณรูเยี่ยวของมันด้วย ไอ้บอมเกร็งตูดแน่น พลางอัดลำควยเข้าออกๆ เป็นจังหวะ ผมเอื้อมมือไปบีบตูดของมัน ตูดของไอ้บอมแข็งมากๆ ผมจับตูดของมันด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ดึงไข่มันเล่น ซักพักผมก็ถอนปากออกจากควย แล้วฉกลิ้นไปตรงไข่ดำๆ ของมันแล้วก็เลียไข่จนทั่ว ไอ้บอมถึงกับสะดุ้ง
" โอยย กูเสียวไข่ .... ไอ้เหี้ย เลียไข่กูเยอะๆ เลย กูชอบให้คนเลียไข่ นั่นอย่างนั้น มึงเก่งจังเลย กูรักมึงเว้ย ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย "
ไอ้บอมพ่นคำหยาบใส่ผมไม่ขาดปาก เวลานี้ทั้งผมและไอ้บอมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เราพูดหยาบใส่กันแบบไม่ยั้ง สัญชาตญาณความเป็นลูกผู้ชายถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด แต่มันกลับทำให้เรา 2 คนรู้สึกดีมากๆ บางทีการพูดหยาบๆ และการแสดงออกแบบเถื่อนๆ อาจจะมีส่วนช่วยเร้าอารมณ์เงี่ยนของเรา 2 คนให้เพิ่มขึ้นก็ได้
" เสียวมั๊ยไอ้สัตว์ เสียวมั๊ย นี่แน่ะ เลียไข่ซะเลย กูอยากให้มึงเสียว ควย มากูขอดูดควยต่ออีกหน่อยนะมึง กูชอบควยมึงจังว่ะ กูจะดูดให้ตัวงอ ครางไม่หยุดเลย "
ผมเงยหน้าขึ้นพูดหลังจากที่ก้มลงไปเลียไข่ไอ้บอมโดยใช้ลิ้นเลียแผล่บๆ ตรงไข่และซอกไข่แบบเร็วๆ ไอ้บอมครางลั่นด้วยความเสียว ผมเลียไข่ต่ออีกแป๊ปนึงแล้วจึงเปลี่ยนมาดูดควย ควยไอ้บอมแข็งขึ้นๆ จนคับปากผมแถมมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นจนเต็มลำควยไปหมด ผมรีบเอาลิ้นดุนเส้นเลือดที่ควยไอ้บอมเล่นเบาๆ ก่อนจะครอบปากลงไปจนมิดลำ แล้วก็เลื่อนปากขึ้นลงแล้วดูดหัวควยแรงๆ 1 ที เสียงดังป๊อก! ผมทำแบบนี้ซ้ำๆ ไม่ยอมหยุด ไอ้บอมแหกปากลั่น น้ำลายไหลเยิ้มด้วยความเสียว
" โอยเสียวววววววว กูเสียวควยยยยยยยยย สุดยอดเลย ไอ้เหี้ยยยย ทำไมมึงดูดควยเก่งจังวะ กูไม่ไหวแล้ว น้ำกูจะพุ่งอยู่แล้ว มา เรามาน้ำแตกกันดีกว่า มึงแตกก่อนละกัน มา มึงยืนขึ้นมา "
ไอ้บอมพูด ผมถอนปากออกพลางคิดในใจว่า มึงก็ดูดควยเก่งเหมือนกันน่ะแแหละ ทำเอากูน้ำแทบแตก ดีที่กูกลั้นเอาไว้นะ ไม่งั้นออกแน่ๆ ผมรีบยืนขึ้น หันหน้าไปยังโถส้วม ไอ้บอมยืนอยู่ข้างขวาของผม มันเอาแขนกอดเอวผมไว้แล้วดึงตัวผมเข้าไปจนชิด จับควยผมให้ชี้ไปด้านหน้าแล้วถอกหัวควยผมออกมา ก่อนจะชักลำควยผมเข้าออกๆ เร็วขึ้นๆ ผมหน้าเบ้ด้วยความเสียว อ้าปากครางออกมาเบาๆ
" ซี๊ดดดดด..... เสียวควยโว้ยยยยยยย "
ไอ้บอมรอจังหวะนี้อยู่แล้ว รีบประกบปากกับผมอย่างไม่รอช้า มันดูดปากผมขณะที่มือก็ชักควยผมไปด้วย ซักพักไอ้บอมก็แลบลิ้นออกมานอกปากช้าๆ ให้ผมเอาลิ้นไปแตะกับลิ้นของมันแล้วเรา 2 คนก็รัวลิ้นพันลิ้นใส่กันอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงลิ้นพันกันดังแผล่บๆๆๆ
" ไม่ไหวแล้ว ออกแล้วกู....ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด "
ผมสุดจะทน กลั้นน้ำเงี่ยนมานาน มันเสียวจนทนไม่ไหวจริงๆ ความอดทนของผมสิ้นสุดลงแล้ว ผมร้องครางเสียงหลงแล้วรีบโถมเข้าใส่ไอ้บอมแล้วดูดปากมันอย่างแรงที่สุด เท่าที่จะทำได้ ลิ้นของเรา 2 คนพันกันอยู่ในปากเป็นพัลวัน พร้อมๆ กับน้ำเงี่ยนเหนียวข้นจำนวนมากของผมก็พุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยทันที เสียงดังฟืดๆๆๆๆ ไอ้บอมถอกหัวควยของผมเข้าออกๆ ไม่ยอมหยุดด้วยความสะใจ น้ำเงี่ยนยังคงฉีดพุ่งออกมาจากควยไม่ยอมหยุด ปากของผมก็ยังคงประกบอยู่กับปากของไอ้บอม นาน..กว่าน้ำเงี่ยนจะพุ่งออกมาจนหมด ผมจึงค่อยๆ ถอนปากออกร้องครางเบาๆ
" อา.....ซี๊ดดดดด เสียวควยดีจริงๆ น้ำกูออกมาเยอะชิบหายเลย "
" ทีนี้ตากูมั่ง "
ไอ้บอมพูด ผมเปลี่ยนมายืนตรงที่ที่ไอ้บอมยืนเมื่อกี้ ไอ้บอมยืนแยกขาหันหน้าไปด้านหน้า ส่วนผมยืนอยู่ด้านขวาของมัน ผมเอามือชักลำควยของมันอย่างเร็วๆ พร้อมๆ กับดูดปากมันไปด้วย ไอ้บอมดูจะเสียวมาก มันหน้านิ่วด้วยความเสียว ขาสั่นพั่บๆ เลย
" ชักแรงๆ เลยไอ้หนุ่ม นั่นอย่างนั้น โอยยยยย มันส์ควยจริงๆ "
ไอ้บอมพูดแล้วแอ่นควยไปข้างหน้ามากกว่าเดิม ผมได้ทีก็เลยถอกควยของมันแรงขึ้นๆ จนหัวควยเบ่งบาน ลำควยแข็งยังกับหิน ไอ้บอมแลบลิ้นออกมาอีกครั้งหนึ่งให้ผมเอาลิ้นมาแตะกับมันแล้วเอาลิ้นพันกัน อีกรอบ ผมก็สนองตอบอย่างเต็มใจ มือก็ชักควยมันไม่ยอมหยุด เสียงดังพั่บๆๆๆๆๆ ไม่นานไอ้บอมก็ร้องลั่น
" อาาาาาาา.... กูเสร็จแล้วโว้ยยยย ออกแล้วโว้ยยยย ถอกควยกูให้สุดเลยเพื่อน นั่นอย่างนั้น... "
วินาทีเดียวกันนั้น ควยไอ้บอมกระตุกอย่างแรง 2-3 ที ก่อนจะดีดผึงขึ้นมา แล้วน้ำเงี่ยนข้นๆ ก็ถูกฉีดออกมาทันที ฟืดๆๆๆ ผมรีบถอกควยมันลงจนสุดตามที่มันบอกเพื่อให้หัวควยของมันบานออกมาเต็มที่และ ให้เพื่อนหลั่งน้ำแห่งความเสียวออกมาให้มากที่สุด ได้ผลครับ หัวควยของไอ้บอมบานแดงโร่ยังกะดอกเห็ดแถมน้ำเงี่ยนก็พุ่งกระฉูดออกมามากมาย นานหลายนาทีจนถึงหยดสุดท้าย ผมรีดลำควยให้มันจนกระทั่งมันหยุดหลั่งจริงๆ ไอ้บอมถึงกับหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน มันมองหน้าผมแล้วพูดด้วยเสียงปนหอบ
" แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยว่ะ "
ผมยิ้ม พลางมองลำควยของไอ้บอม ตอนนี้หนังหุ้มปลายของมันกลับมาห่อหุ้มหัวควยของมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ควยของมันก็ยังไม่ยอมหด มึงนี่ฟิตจริงๆ ผมคิดในใจแล้วเอื้อมมือไปดึงหนังหุ้มปลายของไอ้บอมเล่น ไอ้บอมยิ้มให้ผมแล้วพูดต่อ
" ชอบเล่นหนังหุ้มปลายควยกูจังนะมึง ไอ้ห่า เห็นเล่นมาหลายทีแล้ว เออ หนุ่ม กูถามหน่อย มึงมีความสุขมั๊ยวะเพื่อน "
" มีมากเลยว่ะ ขอบใจมึงมากนะ เพื่อนรัก กูรักมึงจังว่ะ "
ผมตอบแล้วกอดไอ้บอมต่อ ปากของเรา 2 คนชนกันอีกครั้ง ผมกับไอ้บอมจูบกันอย่างดูดดื่ม ผมเลื่อนปากไปจูบแก้มไอ้บอมแรงๆ 1 ที ก่อนจะหอมแก้มมันด้วย แก้มไอ้บอมถึงจะดำแต่ก็หอมมากๆ ที่สำคัญมีกลิ่นสาปชายอยู่ด้วย ไอ้บอมก็หอมแก้มผมตอบเช่นกัน แถมยังขบติ่งหูผมเบาๆ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูผม
" กูก็รักมึง มา เรามากอดกันนานๆ ดีกว่าว่ะ "
ผมกับไอ้บอมก็เลยยืนกอดจูบสลับกับหอมแก้มและขบติ่งหูกันไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข เรา 2 คนเหงื่อแตกเต็มตัวเลยทีเดียว ไอ้บอมเอามือมาแตะที่แก้มผมแล้วกระซิบว่า
" ตัวมึงร้อนจัง เป็นไรรึป่าววะ "
" ร้อนรักไงมึง กูไม่เป็นไรหรอก กูร้อนน่ะ มึงก็ตัวร้อนเหมือนกันน่ะแหละ ในนี้มันร้อน แต่อย่าสนใจเลย กอดกันต่อเหอะ "
ผมกับไอ้บอมก็เลยยืนกอดกันต่อ ทั้งๆ ที่ตัวของเราต่างก็ชุ่มเหงื่อด้วยกันทั้งคู่ แต่ผมกับไอ้บอมก็ไม่สนใจ ผู้ชายด้วยกัน กอดกันเหงื่อออกเต็มตัวแบบนี้ แมนจะตายห่า กลิ่นเหงื่อของผู้ชายมันก็เร้าอารมณ์ดีด้วย โคตรชอบเลย ตอนนี้กูไม่สนอะไรแล้ว ขอกอดก่อนดีกว่า
ปัง !
ผมกับไอ้บอมสะดุ้ง คลายอ้อมกอดแล้วจึงมองหน้ากัน ผมกระซิบข้างหูมันว่า
" เสียงคนปิดประตูห้องน้ำใช่มั๊ยวะ "
ไอ้บอมพยักหน้า แล้วกระซิบตอบผม
" ใช่ แสดงว่ามีคนมาเข้าห้องน้ำว่ะ แล้วก็น่าจะเป็นห้องข้างๆ ด้วย เพราะเสียงมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง "
" ชักไม่ค่อยดีแล้ว กูว่าเรารีบออกไปจากห้องน้ำนี่ก่อนดีกว่าว่ะ เดี๋ยวจะซวย กูไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง "
" ดีเหมือนกัน กูก็ชักจะร้อนแล้ว ไป รีบแต่งตัว แล้วรีบออกไปกันเหอะว่ะ "
เรา 2 คนเลยรีบล้างควย แต่งตัวใส่ชุดครึ่งท่อนจนเรียบร้อย แล้วพากันเดินออกจากห้องน้ำห้องนั้นทันที
.........................

พอผมกับไอ้บอมก้าวพ้นประตูห้องน้ำ ก็เห็นไอ้โต้งกับเพื่อนของมันอีก 1 คนยืนขวางอยู่ มัน 2 คนจ้องหน้าผมกับไอ้บอมเขม็ง ผมรีบยิ้มให้ไอ้โต้งแล้วพูดว่า
" ไงโต้ง มึงมาเข้าห้องน้ำเหรอวะ มาซะดึกเชียวนะ "
ไอ้โต้งทำหน้าเฉยๆ ยังคงจ้องหน้าผมกับไอ้บอมอยู่ ไอ้บอมพูดขึ้นมาบ้าง
" กูปวดท้องขี้ ก็เลยชวนไอ้หนุ่มมาเข้าห้องน้ำด้วยกัน ไม่กล้ามาคนเดียวว่ะ กลัวผีหลอก "
ไอ้โต้งยิ้มที่มุมปากนิดนึง แล้วถามผมกับไอ้บอมด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" ขี้กันสนุกมั๊ยวะ "
ผมทำเป็นหัวเราะก่อนจะตอบไอ้โต้ง
" ไอ้ห่า ขี้จะไปสนุกอะไรล่ะ มึงนี่ก็ถามแปลกๆ "
ไอ้โต้งจ้องหน้าผม แววตาของมันเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเมื่อผมเจอกับมันครั้งแรกเลย มันจ้องหน้าผมนานจนผมรู้สึกหวั่นๆ ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ ถึงได้จ้องหน้าเอาๆ อยู่อย่างนี้ ผ่านไปหลายนาที ไอ้โต้งก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
" กูเพิ่งรู้นะ ว่าการขี้เนี่ย มันต้องขี้พร้อมกัน 2 ตัว ในห้องเดียวกันด้วย สงสัยมึงต้องช่วยกันเบ่งแน่ๆ กูพูดถูกมั๊ยวะ "
ผมใจหายวาบเมื่อได้ยินไอ้โต้งพูดแบบนี้ นี่มันต้องรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมกับไอ้บอมแน่ๆ มันถึงได้พูดอะไรเป็นนัยๆ แบบนี้ ท่าทางจะไม่ค่อยดีแล้ว รีบเผ่นก่อนดีกว่า ผมคิดในใจ ปากก็พูดไปด้วย
" มึงพูดอะไรของมึงวะ กูไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย กูกับไอ้บอมง่วงแล้ว จะกลับเต็นท์นอนล่ะ มึงจะไปขี้ก็ไปขี้เหอะ กูขอไปนอนก่อนล่ะ "
เพื่อนของไอ้โต้งที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาบ้าง
" จะรีบไปไหนวะ มาเล่นอะไรกันก่อนไม่ดีกว่าเหรอ "
" เล่นอะไร "
ผมถาม ไอ้บอมสะกิดแขนผมเป็นสัญญาณว่าไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ตัวมันเองแกล้งหัวเราะเบาๆ แล้วรีบพูดตัดบท
" ไว้เล่นวันหลังเหอะว่ะ วันนี้เรา 2 คนง่วงจริงๆ ขอไปนอนก่อนล่ะ ไปเหอะไอ้หนุ่ม "
แล้วไอ้บอมก็รีบดึงมือผมให้เดินหนีไอ้โต้งกับเพื่อนของมันทันที เพื่อนของไอ้โต้งรีบตะโกนไล่หลังเสียงดัง
" อ้าวเฮ้ย จะรีบไปไหนวะ นอนน่ะนอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลาเล่นสนุกน่ะหายากนะเว้ย โธ่ไอ้ควาย ! "
ผมกับไอ้บอมไม่สนใจ รีบเดินหนีออกห่างไอ้ 2 คนนั้นให้เร็วที่สุด ซักพักก็ได้ยินเสียงไอ้โต้งตะโกนดังลั่น
" ไอ้พวกเสียชาติเกิด!!!!!! "
ผมหยุดกึก หันหลังไปมองมัน 2 คน มัน 2 คนยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผมทำท่าจะเดินเข้าไปถามว่า มึงว่าใคร แต่ไอ้บอมรีบดึงมือผมกลับแล้วกระซิบเบาๆ
" อย่าไปสนใจมันเลย รีบหนีก่อนดีกว่า "
" ทำไมวะ ทำไมต้องหนีมันด้วย นายไม่เห็นเหรอว่ามันดูถูกพวกเราขนาดไหน เราว่าไอ้เหี้ยโต้งแม่งต้องรู้อะไรบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นมันไม่พูดแบบนี้หรอก ดูคำพูดแม่งสิ มันพูดเหมือนมันรู้ว่าเรา 2 คนทำอะไรกันมา แล้วเพื่อนมันอีกตัวก็เกย์แน่ๆ แค่มองหน้าก็รู้แล้ว แล้วยิ่งการพูดจานี่ใช่เลย ไอ้สัตว์ จะชวนไปเล่นเสียวแน่ๆ "
" เออ เราก็คิดเหมือนนาย เราถึงไม่อยากให้นายไปยุ่งกับพวกแม่งไง ไอ้โต้งแม่งเหี้ยจะตายห่า เพื่อนมันก็ดูเป็นคนไม่ดีเลย ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับพวกมันดีกว่าว่ะ ปล่อยมันไป ถึงมันจะรู้อะไรๆ เกี่ยวกับเรา แต่มันก็เอาไปพูดไม่ได้หรอก "
" แล้วถ้าเกิดไอ้เหี้ยนั่นมันเอาเรื่องนี้ไปพูดกับเพื่อนในหมู่ฟังล่ะ จะทำไง "
" ถ้ามันเอาไปพูดก็ช่างแม่ง คงไม่มีใครเชื่อหรอก เราทำเฉยๆ ซะอย่าง ไม่ยอมรับ ไม่สนใจ เพื่อนคนอื่นก็ไม่มีใครเชื่อคำพูดของมันหรอก ไม่มีใครเขาสนใจเรื่องพรรค์นี้หรอกไอ้หนุ่ม อย่าร้อนใจไปเลย "
" เออ โอเค อย่างงั้นก็ได้ เอ้า ถึงเต็นท์นายแล้ว หลับฝันดีนะเพื่อนรัก แล้วเจอกันพรุ่งนี้ "
" ฝันดีเช่นกันเพื่อน นอนหลับให้สบายล่ะ "
ไอ้บอมพูดแล้วรีบมุดเข้าไปในเต็นท์ทันที ส่วนผมก็รีบเดินไปที่เต็นท์ของตนเอง แล้วมุดเข้าไปเช่นกัน ไอ้ธีระยังคงหลับสนิท ผมมองหน้ามันยิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนบ้าง คืนนี้เป็นคืนที่สนุกจริงๆ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะได้มีโอกาสเล่นเสียวกับเพื่อนรักตั้งแต่คืนแรก หวังว่าคืนต่อๆ ไปผมคงจะมีโอกาสได้เล่นเสียวแบบนี้กับคนอื่นๆ บ้าง แต่ถ้าไม่มีโอกาสเล่นกับคนอื่นก็ไม่เป็นไร นัดไอ้บอมมาเล่นกันใหม่ก็ได้ ผมนอนคิดไปยิ้มไปจนหลับ
...............................................

ขณะเดียวกัน ที่หน้าห้องน้ำของกองพัน 41
" ไอ้แว่นคนนั้นน่าแดกดีว่ะ หุ่นก็ดี หน้าตาก็ดี กูสนใจมันจังเลย แต่เพื่อนของมันกูไม่ชอบว่ะ กูชอบแบบขาวๆ ตี๋ๆ มากกว่า ตี๋ๆ มันดูสะอาด น่ารักดี โอ๊ย ไอ้เหี้ย พูดแล้วอยากดูดควยมันจังเลยว่ะ โต้ง "
" มึงอยากแดกมั๊ยล่ะ กูจะช่วย "
" อะไรนะ พูดจริงดิวะ มึงจะช่วยกูจริงๆ เหรอ "
" จริงสิ กูจะช่วยให้มึงได้แดกไอ้สัตว์แว่นอย่างที่มึงต้องการ แต่มึงต้องเย็ดตูดมันด้วยนะ กูอยากเห็นมันโดนเย็ด คงสะใจดีว่ะ แต่มึงต้องช่วยกูจัดการด้วยนะ "
" แล้วมึงจะให้กูจัดการกับไอ้ 2 ตัวนั่นยังไง กูขอไอ้แว่นคนเดียวนะ ไอ้ดำเพื่อนของมันกูไม่เอา "
" ทำอย่างนี้ไง "
ไอ้โต้งโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเพื่อนคนนั้นหลายนาที พอไอ้โต้งกระซิบจบ เพื่อนคนนั้นก็พูดยิ้มๆ
" แผนการมึงเด็ดมาก เรื่องชั่วๆ ล่ะกูยกให้มึงเลย ตกลง กูจะทำตามที่มึงบอก 5555 สนุกแน่ๆมึง "

ทันทีที่ผมกับไอ้บอมเข้าไปในห้องน้ำ เรา 2 คนก็ถอดเสื้อออกทันที ผมจ้องแผ่นอกและหน้าท้องของไอ้บอมตาไม่กะพริบ ไอ้บอมมันหุ่นดีจริงๆ แผ่นอกแน่น กล้ามอกเป็นมัดๆ ส่วนกล้ามท้องก็เป็นลอนๆ เลย หัวนมของมันดำน่าดูดมากๆ ไอ้บอมไม่ยอมให้ผมสังเกตุรูปร่างมันนาน มันรีบโถมเข้าใส่แล้วกอดรัดผมทันที
" ช้าๆ ก็ได้ ใจเย็นๆ เพื่อน "
ผมกระซิบข้างหูไอ้บอมเบาๆ ไอ้บอมไม่สนใจที่จะตอบ แต่กลับกอดผมไว้แน่นขึ้น หน้าของมันซุกไซ้ไปทั่วลำคอผมอย่างหื่นกระหายจนผมจั๊กจี้ ผมดันตัวไอ้บอมออกห่างแล้วจ้องตามัน ไอ้บอมคงเงี่ยนมาก มันดึงตัวผมเข้าไปจูบทันที ปากของผมสัมผัสกับปากหนาๆ ของมันอย่างจัง แล้วไอ้บอมก็สอดลิ้นเข้าไปในปากผมแล้วควานไปทั่ว ลมหายใจร้อนๆ จากจมูกของไอ้บอมรดริมฝีปากผม ยิ่งทำให้ความเงี่ยนของผมเพิ่มมากขึ้นๆ จนทนต่อไปไม่ไหว ผมเลยเอาลิ้นสอดเข้าไปในปากของไอ้บอมแล้วควานลิ้นใส่มันบ้าง ไอ้บอมหลับตาพริ้ม ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งของควยในเป้ากางเกงของไอ้บอม
ในขณะที่เรา 2 คนกำลังยืนกอดกันอยู่อย่างนี้ เรายืนดูดปากกันอยู่ซักพัก แล้วไอ้บอมก็ถอนปากออก โน้มตัวมาดูดหัวนมของผมช้าๆ
" อา.... เสียว.... นายดูดหัวนมเก่งเหมือนกันนี่หว่า "
ไอ้บอมตวัดลิ้นใส่หัวนมผมซ้ำๆ ผมรู้สึกเสียวจนจะขาดใจตายอยู่แล้ว ไม่นานไอ้บอมก็หยุดเลียหัวนมผม ผมรีบโน้มตัวไปดูดหัวนมมันบ้าง หัวนมไอ้บอมค่อนข้างใหญ่และดำ ผมดูดเลียหัวนมมันจนหนำใจ แล้วจึงถอยหลังไปจนชิดผนัง หันหน้าเข้าโถส้วม ไอ้บอมเดินอ้อมไปยืนอยู่หน้าผมแล้วนั่งยองๆ ลงบนโถส้วม พลางพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 2 คน
" ขอแดกควยหน่อยนะ เราหิวควยว่ะ ไม่ได้แดกควยมานานแล้ว "
ผมพยักหน้า ไอ้บอมไม่รอช้ารีบแกะกระดุมกางเกงของผมทันที ก่อนจะงัดควยขาวๆ ลำยาวเกือบๆ 6 นิ้วออกมาจากกางเกงใน แล้วถอกหนังหุ้มควยลงจนสุด หัวควยสีชมพูใสๆ หัวเบ้อเริ่มโผล่ออกมาทันที มันรีบทำปากจู๋แล้วครอบปากลงไปจนถึงโคนควย อมควยไปจนมิดลำอย่างง่ายดาย จากนั้นไอ้บอมก็เริ่มขยับปากขึ้นลงๆ ดูดควยผมอย่างเมามัน มืออีกข้างก็รูดกางเกงขายาวของผมลงไปกองแทบเท้า พวงไข่แฝด 2 ใบของผมปรากฎต่อสายตาของมัน มันรีบเอามือมาเล่นพวงไข่ขาวๆ ของผมอย่างสะใจ
ผมมองหน้าไอ้บอม มันช่างเป็นภาพที่น่าดูอะไรเช่นนี้ หนุ่มผิวดำผมสั้นเกรียนกำลังใช้ปากดูดควยหนุ่มตี๋อย่างผมอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ไหวแล้ว อย่างนี้ต้องอัดลำควยให้ลึกกว่านี้แล้ว ผมคิดแล้วจึงเอามือทั้ง 2 ข้างจับกบาลเกรียนๆ ของไอ้บอมไว้ แล้วกระแทกลำควยเข้าปากไอ้บอมให้ลึกกว่าเดิม ไอ้บอมทำท่าเหมือนจะสำลักแต่ก็ยังคงดูดต่อ ผมกัดฟันด้วยความเสียว ไอ้เหี้ยทำไมมึงดูดเก่งอย่างนี้วะ ดูดจนน้ำกูจะออกอยู่แล้ว ผมคิดแล้วก็เอามือลูบกบาลและต้นคอของไอ้บอมไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลดความเสียวลงไปบ้าง ซักพักไอ้บอมคงเมื่อยปาก มันค่อยๆ ปล่อยลำควยผมออกจากปาก แต่ยังคงอมหัวควยบานๆ แดงเถือกของผมอยู่
" ซี๊ดดดดดดดดดดดด......มันส์เว้ยยยยยยยยยย "
ผมร้องครางเบาๆ ตอนนี้หัวควยของผมเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดงสดแล้วเนื่องจากเงี่ยนมาก ไอ้บอมดูดเน้นๆ ตรงหัวควยของผมแถมยังเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวของผมด้วย มันตวัดลิ้นแผล่บๆ ใส่รูเยี่ยวของผมเป็นระยะๆ ยิ่งทำให้ผมเสียวจนน้ำแทบแตก โดนดูดควยแถมโดนเอาลิ้นแยงรูเยี่ยวแบบนี้ ใครจะไปทนไหววะ
" โอยยยยย พอก่อนไอ้บอม พอก่อน เสียวรูเยี่ยว มา กูดูดให้มึงบ้าง "
ปกติผมจะไม่พูดหยาบคายกับไอ้บอม แต่ตอนนั้นผมเสียวจนลืมตัวก็เลยเผลอพูดหยาบใส่มัน ไอ้บอมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของผม มันลุกขึ้นยืนบ้าง ผมเดินไปนั่งยองๆ ที่โถส้วมแล้วแกะกระดุมกางเกงของมัน รูดกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้า ไอ้บอมใส่กางเกงในสีฟ้าสด ควยลำใหญ่พาดอยู่ในกางเกง ผมรีบรูดกางเกงในของมันลงทันที ควยขนาด 6 นิ้วกระเด้งออกมาและตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าผม ลำควยดำสนิท หนังหุ้มปลายของไอ้บอมสวยมาก ลักษณะเหมือนดอกจำปีที่ห่อหุ้มหัวควยของมันเอาไว้อย่างมิดชิด แถมตรงหนังส่วนปลายที่เปิดออกมาเป็นรูเยี่ยวยังยื่นยาวออกมาอีกต่างหาก ผมเอามือดึงหนังหุ้มปลายของไอ้บอมเล่นอย่างสนุก ให้ตายสิวะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่หนังหุ้มปลายควยสวยน่าดูดแบบนี้ มาก่อนเลย
" เอ้า มัวแต่เล่นหนังหุ้มปลายควยกูอยู่ได้ ดูดได้แล้วไอ้เหี้ย ควยกูแข็งมากแล้ว "
ไอ้บอมเร่งผมด้วยภาษาระดับเดียวกับที่ผมใช่เมื่อกี้ ผมเลยรีบรูดหนังหุ้มปลายของไอ้บอมลงไปจนสุด หัวควยเรียวๆ สีแดงแจ๋โผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว หัวควยของไอ้บอมไม่บานเหมือนของผม ออกจะเรียวๆ น่าดูดเหมือนกัน ลำควยผงกหัวหงึกๆ รูเยี่ยวมีน้ำใสๆ ซึมออกมาเล็กน้อย ผมรีบอ้าปากดูดควยไอ้บอมทีเดียวมิดโคนเลย
" ดูดลึกๆ เลยไอ้เหี้ยหนุ่ม ไอ้สัตว์ อา....เสียว....เสียวควยชิบหายเลย แม่งเอ๊ยยยยย "
ไอ้บอมพูด ผมใช้ปากรูดลำควยไอ้บอมเร็วขึ้นๆ สลับกับเอาลิ้นเลียแผล่บๆ บริเวณรูเยี่ยวของมันด้วย ไอ้บอมเกร็งตูดแน่น พลางอัดลำควยเข้าออกๆ เป็นจังหวะ ผมเอื้อมมือไปบีบตูดของมัน ตูดของไอ้บอมแข็งมากๆ ผมจับตูดของมันด้วยมือซ้าย ส่วนมือขวาก็ดึงไข่มันเล่น ซักพักผมก็ถอนปากออกจากควย แล้วฉกลิ้นไปตรงไข่ดำๆ ของมันแล้วก็เลียไข่จนทั่ว ไอ้บอมถึงกับสะดุ้ง
" โอยย กูเสียวไข่ .... ไอ้เหี้ย เลียไข่กูเยอะๆ เลย กูชอบให้คนเลียไข่ นั่นอย่างนั้น มึงเก่งจังเลย กูรักมึงเว้ย ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย "
ไอ้บอมพ่นคำหยาบใส่ผมไม่ขาดปาก เวลานี้ทั้งผมและไอ้บอมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เราพูดหยาบใส่กันแบบไม่ยั้ง สัญชาตญาณความเป็นลูกผู้ชายถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด แต่มันกลับทำให้เรา 2 คนรู้สึกดีมากๆ บางทีการพูดหยาบๆ และการแสดงออกแบบเถื่อนๆ อาจจะมีส่วนช่วยเร้าอารมณ์เงี่ยนของเรา 2 คนให้เพิ่มขึ้นก็ได้
" เสียวมั๊ยไอ้สัตว์ เสียวมั๊ย นี่แน่ะ เลียไข่ซะเลย กูอยากให้มึงเสียว ควย มากูขอดูดควยต่ออีกหน่อยนะมึง กูชอบควยมึงจังว่ะ กูจะดูดให้ตัวงอ ครางไม่หยุดเลย "
ผมเงยหน้าขึ้นพูดหลังจากที่ก้มลงไปเลียไข่ไอ้บอมโดยใช้ลิ้นเลียแผล่บๆ ตรงไข่และซอกไข่แบบเร็วๆ ไอ้บอมครางลั่นด้วยความเสียว ผมเลียไข่ต่ออีกแป๊ปนึงแล้วจึงเปลี่ยนมาดูดควย ควยไอ้บอมแข็งขึ้นๆ จนคับปากผมแถมมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นจนเต็มลำควยไปหมด ผมรีบเอาลิ้นดุนเส้นเลือดที่ควยไอ้บอมเล่นเบาๆ ก่อนจะครอบปากลงไปจนมิดลำ แล้วก็เลื่อนปากขึ้นลงแล้วดูดหัวควยแรงๆ 1 ที เสียงดังป๊อก! ผมทำแบบนี้ซ้ำๆ ไม่ยอมหยุด ไอ้บอมแหกปากลั่น น้ำลายไหลเยิ้มด้วยความเสียว
" โอยเสียวววววววว กูเสียวควยยยยยยยยย สุดยอดเลย ไอ้เหี้ยยยย ทำไมมึงดูดควยเก่งจังวะ กูไม่ไหวแล้ว น้ำกูจะพุ่งอยู่แล้ว มา เรามาน้ำแตกกันดีกว่า มึงแตกก่อนละกัน มา มึงยืนขึ้นมา "
ไอ้บอมพูด ผมถอนปากออกพลางคิดในใจว่า มึงก็ดูดควยเก่งเหมือนกันน่ะแแหละ ทำเอากูน้ำแทบแตก ดีที่กูกลั้นเอาไว้นะ ไม่งั้นออกแน่ๆ ผมรีบยืนขึ้น หันหน้าไปยังโถส้วม ไอ้บอมยืนอยู่ข้างขวาของผม มันเอาแขนกอดเอวผมไว้แล้วดึงตัวผมเข้าไปจนชิด จับควยผมให้ชี้ไปด้านหน้าแล้วถอกหัวควยผมออกมา ก่อนจะชักลำควยผมเข้าออกๆ เร็วขึ้นๆ ผมหน้าเบ้ด้วยความเสียว อ้าปากครางออกมาเบาๆ
" ซี๊ดดดดด..... เสียวควยโว้ยยยยยยย "
ไอ้บอมรอจังหวะนี้อยู่แล้ว รีบประกบปากกับผมอย่างไม่รอช้า มันดูดปากผมขณะที่มือก็ชักควยผมไปด้วย ซักพักไอ้บอมก็แลบลิ้นออกมานอกปากช้าๆ ให้ผมเอาลิ้นไปแตะกับลิ้นของมันแล้วเรา 2 คนก็รัวลิ้นพันลิ้นใส่กันอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงลิ้นพันกันดังแผล่บๆๆๆ
" ไม่ไหวแล้ว ออกแล้วกู....ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด "
ผมสุดจะทน กลั้นน้ำเงี่ยนมานาน มันเสียวจนทนไม่ไหวจริงๆ ความอดทนของผมสิ้นสุดลงแล้ว ผมร้องครางเสียงหลงแล้วรีบโถมเข้าใส่ไอ้บอมแล้วดูดปากมันอย่างแรงที่สุด เท่าที่จะทำได้ ลิ้นของเรา 2 คนพันกันอยู่ในปากเป็นพัลวัน พร้อมๆ กับน้ำเงี่ยนเหนียวข้นจำนวนมากของผมก็พุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยทันที เสียงดังฟืดๆๆๆๆ ไอ้บอมถอกหัวควยของผมเข้าออกๆ ไม่ยอมหยุดด้วยความสะใจ น้ำเงี่ยนยังคงฉีดพุ่งออกมาจากควยไม่ยอมหยุด ปากของผมก็ยังคงประกบอยู่กับปากของไอ้บอม นาน..กว่าน้ำเงี่ยนจะพุ่งออกมาจนหมด ผมจึงค่อยๆ ถอนปากออกร้องครางเบาๆ
" อา.....ซี๊ดดดดด เสียวควยดีจริงๆ น้ำกูออกมาเยอะชิบหายเลย "
" ทีนี้ตากูมั่ง "
ไอ้บอมพูด ผมเปลี่ยนมายืนตรงที่ที่ไอ้บอมยืนเมื่อกี้ ไอ้บอมยืนแยกขาหันหน้าไปด้านหน้า ส่วนผมยืนอยู่ด้านขวาของมัน ผมเอามือชักลำควยของมันอย่างเร็วๆ พร้อมๆ กับดูดปากมันไปด้วย ไอ้บอมดูจะเสียวมาก มันหน้านิ่วด้วยความเสียว ขาสั่นพั่บๆ เลย
" ชักแรงๆ เลยไอ้หนุ่ม นั่นอย่างนั้น โอยยยยย มันส์ควยจริงๆ "
ไอ้บอมพูดแล้วแอ่นควยไปข้างหน้ามากกว่าเดิม ผมได้ทีก็เลยถอกควยของมันแรงขึ้นๆ จนหัวควยเบ่งบาน ลำควยแข็งยังกับหิน ไอ้บอมแลบลิ้นออกมาอีกครั้งหนึ่งให้ผมเอาลิ้นมาแตะกับมันแล้วเอาลิ้นพันกัน อีกรอบ ผมก็สนองตอบอย่างเต็มใจ มือก็ชักควยมันไม่ยอมหยุด เสียงดังพั่บๆๆๆๆๆ ไม่นานไอ้บอมก็ร้องลั่น
" อาาาาาาา.... กูเสร็จแล้วโว้ยยยย ออกแล้วโว้ยยยย ถอกควยกูให้สุดเลยเพื่อน นั่นอย่างนั้น... "
วินาทีเดียวกันนั้น ควยไอ้บอมกระตุกอย่างแรง 2-3 ที ก่อนจะดีดผึงขึ้นมา แล้วน้ำเงี่ยนข้นๆ ก็ถูกฉีดออกมาทันที ฟืดๆๆๆ ผมรีบถอกควยมันลงจนสุดตามที่มันบอกเพื่อให้หัวควยของมันบานออกมาเต็มที่และ ให้เพื่อนหลั่งน้ำแห่งความเสียวออกมาให้มากที่สุด ได้ผลครับ หัวควยของไอ้บอมบานแดงโร่ยังกะดอกเห็ดแถมน้ำเงี่ยนก็พุ่งกระฉูดออกมามากมาย นานหลายนาทีจนถึงหยดสุดท้าย ผมรีดลำควยให้มันจนกระทั่งมันหยุดหลั่งจริงๆ ไอ้บอมถึงกับหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน มันมองหน้าผมแล้วพูดด้วยเสียงปนหอบ
" แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยว่ะ "
ผมยิ้ม พลางมองลำควยของไอ้บอม ตอนนี้หนังหุ้มปลายของมันกลับมาห่อหุ้มหัวควยของมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ควยของมันก็ยังไม่ยอมหด มึงนี่ฟิตจริงๆ ผมคิดในใจแล้วเอื้อมมือไปดึงหนังหุ้มปลายของไอ้บอมเล่น ไอ้บอมยิ้มให้ผมแล้วพูดต่อ
" ชอบเล่นหนังหุ้มปลายควยกูจังนะมึง ไอ้ห่า เห็นเล่นมาหลายทีแล้ว เออ หนุ่ม กูถามหน่อย มึงมีความสุขมั๊ยวะเพื่อน "
" มีมากเลยว่ะ ขอบใจมึงมากนะ เพื่อนรัก กูรักมึงจังว่ะ "
ผมตอบแล้วกอดไอ้บอมต่อ ปากของเรา 2 คนชนกันอีกครั้ง ผมกับไอ้บอมจูบกันอย่างดูดดื่ม ผมเลื่อนปากไปจูบแก้มไอ้บอมแรงๆ 1 ที ก่อนจะหอมแก้มมันด้วย แก้มไอ้บอมถึงจะดำแต่ก็หอมมากๆ ที่สำคัญมีกลิ่นสาปชายอยู่ด้วย ไอ้บอมก็หอมแก้มผมตอบเช่นกัน แถมยังขบติ่งหูผมเบาๆ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูผม
" กูก็รักมึง มา เรามากอดกันนานๆ ดีกว่าว่ะ "
ผมกับไอ้บอมก็เลยยืนกอดจูบสลับกับหอมแก้มและขบติ่งหูกันไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข เรา 2 คนเหงื่อแตกเต็มตัวเลยทีเดียว ไอ้บอมเอามือมาแตะที่แก้มผมแล้วกระซิบว่า
" ตัวมึงร้อนจัง เป็นไรรึป่าววะ "
" ร้อนรักไงมึง กูไม่เป็นไรหรอก กูร้อนน่ะ มึงก็ตัวร้อนเหมือนกันน่ะแหละ ในนี้มันร้อน แต่อย่าสนใจเลย กอดกันต่อเหอะ "
ผมกับไอ้บอมก็เลยยืนกอดกันต่อ ทั้งๆ ที่ตัวของเราต่างก็ชุ่มเหงื่อด้วยกันทั้งคู่ แต่ผมกับไอ้บอมก็ไม่สนใจ ผู้ชายด้วยกัน กอดกันเหงื่อออกเต็มตัวแบบนี้ แมนจะตายห่า กลิ่นเหงื่อของผู้ชายมันก็เร้าอารมณ์ดีด้วย โคตรชอบเลย ตอนนี้กูไม่สนอะไรแล้ว ขอกอดก่อนดีกว่า
ปัง !
ผมกับไอ้บอมสะดุ้ง คลายอ้อมกอดแล้วจึงมองหน้ากัน ผมกระซิบข้างหูมันว่า
" เสียงคนปิดประตูห้องน้ำใช่มั๊ยวะ "
ไอ้บอมพยักหน้า แล้วกระซิบตอบผม
" ใช่ แสดงว่ามีคนมาเข้าห้องน้ำว่ะ แล้วก็น่าจะเป็นห้องข้างๆ ด้วย เพราะเสียงมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง "
" ชักไม่ค่อยดีแล้ว กูว่าเรารีบออกไปจากห้องน้ำนี่ก่อนดีกว่าว่ะ เดี๋ยวจะซวย กูไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง "
" ดีเหมือนกัน กูก็ชักจะร้อนแล้ว ไป รีบแต่งตัว แล้วรีบออกไปกันเหอะว่ะ "
เรา 2 คนเลยรีบล้างควย แต่งตัวใส่ชุดครึ่งท่อนจนเรียบร้อย แล้วพากันเดินออกจากห้องน้ำห้องนั้นทันที
.........................

พอผมกับไอ้บอมก้าวพ้นประตูห้องน้ำ ก็เห็นไอ้โต้งกับเพื่อนของมันอีก 1 คนยืนขวางอยู่ มัน 2 คนจ้องหน้าผมกับไอ้บอมเขม็ง ผมรีบยิ้มให้ไอ้โต้งแล้วพูดว่า
" ไงโต้ง มึงมาเข้าห้องน้ำเหรอวะ มาซะดึกเชียวนะ "
ไอ้โต้งทำหน้าเฉยๆ ยังคงจ้องหน้าผมกับไอ้บอมอยู่ ไอ้บอมพูดขึ้นมาบ้าง
" กูปวดท้องขี้ ก็เลยชวนไอ้หนุ่มมาเข้าห้องน้ำด้วยกัน ไม่กล้ามาคนเดียวว่ะ กลัวผีหลอก "
ไอ้โต้งยิ้มที่มุมปากนิดนึง แล้วถามผมกับไอ้บอมด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" ขี้กันสนุกมั๊ยวะ "
ผมทำเป็นหัวเราะก่อนจะตอบไอ้โต้ง
" ไอ้ห่า ขี้จะไปสนุกอะไรล่ะ มึงนี่ก็ถามแปลกๆ "
ไอ้โต้งจ้องหน้าผม แววตาของมันเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเมื่อผมเจอกับมันครั้งแรกเลย มันจ้องหน้าผมนานจนผมรู้สึกหวั่นๆ ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ ถึงได้จ้องหน้าเอาๆ อยู่อย่างนี้ ผ่านไปหลายนาที ไอ้โต้งก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
" กูเพิ่งรู้นะ ว่าการขี้เนี่ย มันต้องขี้พร้อมกัน 2 ตัว ในห้องเดียวกันด้วย สงสัยมึงต้องช่วยกันเบ่งแน่ๆ กูพูดถูกมั๊ยวะ "
ผมใจหายวาบเมื่อได้ยินไอ้โต้งพูดแบบนี้ นี่มันต้องรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมกับไอ้บอมแน่ๆ มันถึงได้พูดอะไรเป็นนัยๆ แบบนี้ ท่าทางจะไม่ค่อยดีแล้ว รีบเผ่นก่อนดีกว่า ผมคิดในใจ ปากก็พูดไปด้วย
" มึงพูดอะไรของมึงวะ กูไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย กูกับไอ้บอมง่วงแล้ว จะกลับเต็นท์นอนล่ะ มึงจะไปขี้ก็ไปขี้เหอะ กูขอไปนอนก่อนล่ะ "
เพื่อนของไอ้โต้งที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาบ้าง
" จะรีบไปไหนวะ มาเล่นอะไรกันก่อนไม่ดีกว่าเหรอ "
" เล่นอะไร "
ผมถาม ไอ้บอมสะกิดแขนผมเป็นสัญญาณว่าไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ตัวมันเองแกล้งหัวเราะเบาๆ แล้วรีบพูดตัดบท
" ไว้เล่นวันหลังเหอะว่ะ วันนี้เรา 2 คนง่วงจริงๆ ขอไปนอนก่อนล่ะ ไปเหอะไอ้หนุ่ม "
แล้วไอ้บอมก็รีบดึงมือผมให้เดินหนีไอ้โต้งกับเพื่อนของมันทันที เพื่อนของไอ้โต้งรีบตะโกนไล่หลังเสียงดัง
" อ้าวเฮ้ย จะรีบไปไหนวะ นอนน่ะนอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เวลาเล่นสนุกน่ะหายากนะเว้ย โธ่ไอ้ควาย ! "
ผมกับไอ้บอมไม่สนใจ รีบเดินหนีออกห่างไอ้ 2 คนนั้นให้เร็วที่สุด ซักพักก็ได้ยินเสียงไอ้โต้งตะโกนดังลั่น
" ไอ้พวกเสียชาติเกิด!!!!!! "
ผมหยุดกึก หันหลังไปมองมัน 2 คน มัน 2 คนยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผมทำท่าจะเดินเข้าไปถามว่า มึงว่าใคร แต่ไอ้บอมรีบดึงมือผมกลับแล้วกระซิบเบาๆ
" อย่าไปสนใจมันเลย รีบหนีก่อนดีกว่า "
" ทำไมวะ ทำไมต้องหนีมันด้วย นายไม่เห็นเหรอว่ามันดูถูกพวกเราขนาดไหน เราว่าไอ้เหี้ยโต้งแม่งต้องรู้อะไรบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นมันไม่พูดแบบนี้หรอก ดูคำพูดแม่งสิ มันพูดเหมือนมันรู้ว่าเรา 2 คนทำอะไรกันมา แล้วเพื่อนมันอีกตัวก็เกย์แน่ๆ แค่มองหน้าก็รู้แล้ว แล้วยิ่งการพูดจานี่ใช่เลย ไอ้สัตว์ จะชวนไปเล่นเสียวแน่ๆ "
" เออ เราก็คิดเหมือนนาย เราถึงไม่อยากให้นายไปยุ่งกับพวกแม่งไง ไอ้โต้งแม่งเหี้ยจะตายห่า เพื่อนมันก็ดูเป็นคนไม่ดีเลย ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับพวกมันดีกว่าว่ะ ปล่อยมันไป ถึงมันจะรู้อะไรๆ เกี่ยวกับเรา แต่มันก็เอาไปพูดไม่ได้หรอก "
" แล้วถ้าเกิดไอ้เหี้ยนั่นมันเอาเรื่องนี้ไปพูดกับเพื่อนในหมู่ฟังล่ะ จะทำไง "
" ถ้ามันเอาไปพูดก็ช่างแม่ง คงไม่มีใครเชื่อหรอก เราทำเฉยๆ ซะอย่าง ไม่ยอมรับ ไม่สนใจ เพื่อนคนอื่นก็ไม่มีใครเชื่อคำพูดของมันหรอก ไม่มีใครเขาสนใจเรื่องพรรค์นี้หรอกไอ้หนุ่ม อย่าร้อนใจไปเลย "
" เออ โอเค อย่างงั้นก็ได้ เอ้า ถึงเต็นท์นายแล้ว หลับฝันดีนะเพื่อนรัก แล้วเจอกันพรุ่งนี้ "
" ฝันดีเช่นกันเพื่อน นอนหลับให้สบายล่ะ "
ไอ้บอมพูดแล้วรีบมุดเข้าไปในเต็นท์ทันที ส่วนผมก็รีบเดินไปที่เต็นท์ของตนเอง แล้วมุดเข้าไปเช่นกัน ไอ้ธีระยังคงหลับสนิท ผมมองหน้ามันยิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนบ้าง คืนนี้เป็นคืนที่สนุกจริงๆ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะได้มีโอกาสเล่นเสียวกับเพื่อนรักตั้งแต่คืนแรก หวังว่าคืนต่อๆ ไปผมคงจะมีโอกาสได้เล่นเสียวแบบนี้กับคนอื่นๆ บ้าง แต่ถ้าไม่มีโอกาสเล่นกับคนอื่นก็ไม่เป็นไร นัดไอ้บอมมาเล่นกันใหม่ก็ได้ ผมนอนคิดไปยิ้มไปจนหลับ
...............................................

ขณะเดียวกัน ที่หน้าห้องน้ำของกองพัน 41
" ไอ้แว่นคนนั้นน่าแดกดีว่ะ หุ่นก็ดี หน้าตาก็ดี กูสนใจมันจังเลย แต่เพื่อนของมันกูไม่ชอบว่ะ กูชอบแบบขาวๆ ตี๋ๆ มากกว่า ตี๋ๆ มันดูสะอาด น่ารักดี โอ๊ย ไอ้เหี้ย พูดแล้วอยากดูดควยมันจังเลยว่ะ โต้ง "
" มึงอยากแดกมั๊ยล่ะ กูจะช่วย "
" อะไรนะ พูดจริงดิวะ มึงจะช่วยกูจริงๆ เหรอ "
" จริงสิ กูจะช่วยให้มึงได้แดกไอ้สัตว์แว่นอย่างที่มึงต้องการ แต่มึงต้องเย็ดตูดมันด้วยนะ กูอยากเห็นมันโดนเย็ด คงสะใจดีว่ะ แต่มึงต้องช่วยกูจัดการด้วยนะ "
" แล้วมึงจะให้กูจัดการกับไอ้ 2 ตัวนั่นยังไง กูขอไอ้แว่นคนเดียวนะ ไอ้ดำเพื่อนของมันกูไม่เอา "
" ทำอย่างนี้ไง "
ไอ้โต้งโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเพื่อนคนนั้นหลายนาที พอไอ้โต้งกระซิบจบ เพื่อนคนนั้นก็พูดยิ้มๆ
" แผนการมึงเด็ดมาก เรื่องชั่วๆ ล่ะกูยกให้มึงเลย ตกลง กูจะทำตามที่มึงบอก 5555 สนุกแน่ๆมึง "

ยังอยากอ่านเรื่อง นักฟุตบอลด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ

ตอนที่ 4

ปรี๊ดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดของครูฝึกดังขึ้น ผมสะดุ้งตื่นทันที เหลือบดูนาฬิกา ตี 5 แล้ว นอนซะเพลินเลย ก็เลยรีบเขย่าตัวไอ้ธีระที่นอนอยู่ข้างๆ แรงๆ
" ตื่นได้แล้วมึง เขาเรียกรวมแล้ว "
ไอ้ธีระลืมตาขึ้น แล้วรีบลุกขึ้นนั่ง บิดซ้ายบิดขวาสลัดความง่วงออกจากตัว แล้วหันมาพูดกับผม
" เออ โอเค กูหายง่วงแล้ว ไปกันเหอะมึง "
ผมกับไอ้ธีระรีบมุดออกจากเต็นท์ วิ่งไปเข้าแถวทันที ไม่นานแถวก็เสร็จเรียบร้อย แล้วจึงเริ่มออกกำลังกาย ครูฝึกบอกไว้ตั้งแต่วันแรกว่า ทุกๆ เช้าตอนตี 5 จะต้องตื่นมาออกกำลังกายทุกวัน มาออกกำลังกายนี่แต่งชุดครึ่งท่อนก็พอ อากาศตอนเช้าหนาวมาก ไม่น่าแต่งครึ่งท่อนเลยเพราะเสื้อสีกากีแกมเขียวมันบางนิดเดียว ลมหนาวพัดมาทีก็หนาวไปทั้งตัว แต่งชุดฝึกเต็มยศมาออกกำลังกายจะดีกว่า ผมคิดพลางเอียงตัวไปทางซ้ายที ขวาที แล้วต่อด้วยยืดแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นข้างบน แขนเสื้อของผมร่นลงมากองที่หัวไหล่ เผยให้เห็นกล้ามแขนขาวๆ ขึ้นเป็นมัดๆ เพื่อนที่ตัวผอมๆ หลายคนมองกล้ามแขนผมด้วยความสนใจ คงจะอยากมีกล้ามเหมือนผมแน่ๆ ผมออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นท่าพื้นฐาน อย่างกระโดดตบ กระโดดแยกเท้า หมุนข้อเท้า และจบด้วยวิดพื้น 50 ที
เสร็จแล้วครูฝึกก็ให้พัก ผมกับเพื่อนๆ ในหมู่รีบไปล้างหน้า แปรงฟัน ทำกิจธุระส่วนตัว ครูฝึกให้นักศึกษาวิชาทหารบางหมู่ช่วยกันเอาหม้อสนามตักน้ำจากสระข้างๆ กองพันมาราดตรงบริเวณที่เรานั่ง เพื่อที่ฝุ่นจะได้น้อยลงบ้างเพราะบริเวณนี้ฝุ่นเยอะมากๆ คงจำได้ว่าเมื่อวานผมกับเพื่อนๆ ต้องหมอบที่บริเวณนี้ กินฝุ่นไปพอสมควร ครูฝึกคงเห็นใจก็เลยช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ก็ดี คราวนี้ถ้าพวกเราโดนสั่งหมอบก็คงไม่ต้องกินฝุ่นมากเท่าวันแรกอีกแล้ว
7 โมงเช้า เสียงนกหวีดดังขึ้นอีกครั้ง พวกเรารีบวิ่งมาเข้าแถวบริเวณที่รวมพลอีกครั้ง คราวนี้เข้าแถวช้าไปหน่อย หัวหน้าชุดฝึกยืนมองอยู่นาน แถวก็ยังไม่เสร็จซักที ก็เลยสั่งทำโทษซะเลย
" ไม่ได้เรื่อง ! ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ! "
นักศึกษาทุกคนครางฮือด้วยความไม่พอใจ ผมคิดในใจว่า หัวหน้าชุดฝึกแม่งโหดมากจริงๆ เอะอะก็สั่งทำโทษตลอด ไอ้บอมคงพูดถูก บรรดาครูฝึกปี 4 นี่ไม่ใจดีเหมือนตอนปี 3 แล้ว ปี 4 นี่โดนทำโทษบ่อยกว่าเดิมมาก นี่แค่วันที่ 2 ยังโดนทำโทษไปตั้งหลายครั้ง แล้ววันต่อๆ ไปจะขนาดไหน ตอนปี 3 ยังไม่เห็นโดนทำโทษบ่อยขนาดนี้เลย แถมโดนแต่ละทีก็ไม่ต้องทำครั้งละมากๆ แบบนี้ด้วย เวรกรรมจริงๆ
ทุกคนลงนอนคว่ำเอามือดันพื้นเอาไว้ แล้วแหกปากพร้อมกัน
" เตรียม ! "
ครูฝึกสั่งต่อ
" 50 ครั้ง ! "
ทุกคนกัดฟันตะโกนตอบ
" 50 ครั้ง ! "
" ปฎิบัติ ! "
ทุกคนวิดพื้นจนครบ เสร็จแล้วก็ได้เวลาแดกข้าว กับข้าวเช้าวันนี้เป็นแกงเขียวหวานไก่ มีของหวานเป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาล น่าสังเกตุว่ากับข้าวจะวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีอะไรใหม่ ผมและเพื่อนๆ รีบเปิบข้าวเข้าปากด้วยความหิวโหยเนื่องจากเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายและ วิดพื้นมาอย่างหนัก มื้อนี้ครูฝึกไม่ได้เร่งอะไรพวกเรา ปล่อยให้แดกข้าวตามสบาย ก็ทำให้รู้สึกดีครับ อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีเมตตาบ้าง...ผมคิดในใจพลางเอามือหยิบไก่ในแกงเขียว หวานจากหม้อสนามของไอ้ธีระเข้าปาก ( มื้อนี้ผมจับคู่แดกกับไอ้ธีระ เปลี่ยนๆ กันบ้าง จะได้มีเพื่อนเยอะๆ ไอ้บอมก็ไปแดกคู่กับไอ้โรจน์ )
" อร่อยมั๊ยวะหนุ่ม "
ไอ้ธีระถามผม ผมยิ้มก่อนจะตอบช้าๆ
" ก็อร่อยดีว่ะ เหนื่อยๆ แบบนี้มันทำให้กูหิวจัด แดกข้าวได้เยอะว่ะ ตอนหิวๆ แบบนี้ แดกอะไรก็อร่อยหมดแหละ มึงว่ามั๊ย "
" ก็คงงั้น น่าขอบคุณครูฝึกนะที่สั่งทำโทษหนักๆ แบบนี้ มันทำให้กูแดกข้าวได้อร่อยขึ้นจมเลย "
ผมเงยหน้าขึ้นจากหม้อสนาม มองหน้าไอ้ธีระ
" มึงมองโลกในแง่ดีจังว่ะ โดนทำโทษหนักขนาดนี้ยังจะไปขอบคุณครูฝึกอีก กูไม่เห็นจะชอบโดนทำโทษเลย เหนื่อยก็เหนื่อย ไม่รู้จะทำโทษเหี้ยไรนักหนา บ้าอำนาจกันเข้าไป กูเกลียดครูฝึกที่ชอบทำโทษหนักๆ แบบนี้ที่สุดเลยว่ะ "
" อย่าไปเกลียดเขาเลย ลองมองให้ลึกสิวะ คิดว่าเราได้ออกกำลังกายเพิ่มขึ้นดีกว่า ร่างกายจะได้ฟิตๆ ครูฝึกเขาไม่ได้บ้าอำนาจอะไรหรอก เขาแค่อยากฝึกให้พวกเราอดทน และเป็นระเบียบก็เท่านั้น ถ้าเราไม่มีความเป็นระเบียบ ก็ต้องโดนเขาทำโทษเป็นธรรมดา "
ผมอมยิ้ม แล้วตบหลังไอ้ธีระ 1 ที ก่อนจะพูดเสียงดัง
" มึงนี่คิดได้ดีจัง ความคิดโคตรจะผู้ใหญ่เลย คนอื่นเขาไม่ชอบโดนทำโทษกันทั้งนั้น รวมทั้งกูด้วย แต่มึงกลับชอบ เออ มีคนอย่างมึงอยู่ในโลกนี้ก็ดีเหมือนกัน คิดอะไรในแง่ดีจริงๆ 555 "
" เออ กูมองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รีบแดกกันเหอะว่ะ กูอิ่มแล้วนะ แต่ดูเหมือนมึงจะยังไม่อิ่ม มึงจะเอาแกงเขียวหวานอีกมั๊ย "
ไอ้ธีระถามผม ผมรีบพยักหน้า แล้วตอบมัน
" เอาดิวะ ไอ้นั่นมันของโปรดกูเลย ขอกูอีกหน่อยละกัน "
ผมเขยิบเข้าไปใกล้ไอ้ธีระมากกว่าเดิม เอื้อมมือจะล้วงแกงเขียวหวานในหม้อสนามของมัน แต่ไอ้ธีระดึงมือผมออก ผมทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่ามันดึงมือผมออกทำไม ไอ้ธีระเห็นผมทำหน้างงเลยรีบพูดขึ้นมาทันที
" ไม่ต้อง ! มากูจะป้อนให้มึงเอง "
ผมทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะถามมัน
" มันจะดีเหรอวะ ผู้ชายด้วยกันมาป้อนของกินให้กันแบบนี้เนี่ย ไม่น่าเกลียดเหรอ "
" น่าเกลียดเหี้ยไรล่ะ เรื่องธรรมดาว่ะ เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันป้อนสิวะ แล้วกูก็เห็นว่ามึงใช้มือได้ไม่ค่อยจะเก่งเลย หยิบแกงได้ทีละน้อยๆ แบบนี้จะไปแดกทันคนอื่นเขาได้ไงวะ ในฐานะที่กูแดกด้วยมือเก่ง กูเลยอยากจะช่วยมึงว่ะ เอาน่าอย่าคิดห่าอะไรมากมาย มึงอ้าปากเหอะ "
พูดจบมันก็เอามือทั้ง 2 ข้างกอบไก่พร้อมด้วยน้ำแกงเขียวหวานออกจากหม้อสนามของมันจนเต็มอุ้งมือ แล้วยกอุ้งมือขึ้นมาจนใกล้กับปากของผม ผมรีบอ้าปากกินไก่และดูดน้ำแกงเขียวหวานจากมือมันทันทีเพราะกลัวน้ำแกงจะ ไหลออกจากอุ้งมือของมันแล้วจะทำให้พื้นเลอะ ไอ้ธีระมองผมที่กำลังแดกแกงเขียวหวานที่อยู่ในมืออย่างพอใจ แล้วพูดต่อ
" แดกไก่เยอะๆ เลยสัด ถ้าชอบแดกน้ำแกงเขียวหวานก็ดูดน้ำในมือกูให้หมดเลย จะดูดนิ้ว ดูดมือกูก็ได้ แต่อย่ากัดมือกูล่ะ เอ้า อ้าปากกว้างๆ แดกอีกหลายๆ คำเลยนะ ไอ้หนุ่ม ของดีๆ อย่าให้เหลือ "
ไอ้ธีระล้วงเข้าไปในหม้อสนาม กอบไก่พร้อมด้วยน้ำแกงเขียวหวานจนเต็มอุ้งมืออีกครั้ง แล้วยกอุ้งมือมาใกล้ปากของผม ผมรีบแดกแกงเขียวหวานในมือของมันจนหมดเกลี้ยง แถมยังดูดนิ้วดูดฝ่ามือของมันอย่างไม่นึกรังเกียจ เสียงดังจ๊วบๆ สลับกับเปิบข้าวเข้าปากไปด้วย ไอ้ธีระเอามือกอบแกงเขียวหวานให้ผมแดกคำแล้วคำเล่าจนหมดหม้อ ไม่มีใครมองพฤติกรรมของผมกับไอ้ธีระเนื่องจากต่างคนต่างก็กำลังแดกข้าว อย่างเอร็ดอร่อย พอกับข้าวหมด ข้าวก็หมดพอดี ผมเอามือเช็ดปากพลางบอกว่า
" อร่อยสุดๆ เลยว่ะ ขอบใจมึงมากๆ นะที่ป้อนแกงให้กู ห่า มึงใจดีจริงๆ ว่ะ กูรักมึงชิบหายเลยเพื่อน กูไม่เคยเห็นเพื่อนคนไหนทำให้กูมากเท่ากับมึงเลย ดูสิ มือมึงเลอะหมดเลย "
ไอ้ธีระยิ้มแก้มปริ แล้วพูดกับผม
" จะเป็นไรไปวะ มือเลอะ เดี๋ยวก็ล้างได้ มึงไม่เคยได้ยินเหรอที่เขาบอกว่า ลูกผู้ชายต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ กูก็บอกไปแล้วว่ามึงเป็นเพื่อนกู กูก็ต้องช่วยมึงสิวะ เออ กูก็รักมึงเหมือนกัน ไป อิ่มแล้วก็ไปล้างหม้อล้างมือกันเหอะว่ะ เดี๋ยวต้องไปฝึกแล้ว "
" ได้เลย เพื่อน "
พอผมกับไอ้ธีระล้างหม้อและล้างมือเสร็จแล้ว ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ ในหมู่เดียวกัน ซักพักครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อรับปืน แล้วจึงมีการเชิญธงประจำกองร้อย หัวหน้าชุดฝึกกล่าวนำว่า
" ทั้งหมด แสดงความเคารพธงประจำกองร้อย ตรงหน้า ระวัง วันทยา.... วุธ !! "
ผมรีบยกปืนขึ้นมาตั้งตรงอยู่ข้างหน้าลำตัว มือขวากำรอบปืนเอาไว้ แล้วใช้มือซ้ายตบบริเวณกึ่งกลางรองลำกล้องปืนแรงๆ แล้วจึงกำไว้แน่น จากนั้นก็ปล่อยมือขวาลง สะบัดมือลงไปแตะไว้ที่ส่วนปลายของแง่หน้าพานท้ายปืน นิ้วมือทั้งห้าเหยียดตึงเรียงชิดติดกัน แขนขวาเหยียดตึง มองตรงไปข้างหน้า แล้วตะโกนลั่น
" สี่หนึ่ง สี่หนึ่ง !!! ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน กองพันลูกผู้ชาย เอี้ย เอี้ย เอี้ย !! "
พอทุกคนกล่าวจบ หัวหน้าชุดฝึกก็สั่งต่อ
" เรียบ.. อาวุธ ! "
ผมยกมือขวามาตบที่กึ่งกลางลำกล้องปืนแล้วกำรอบปืนไว้เหนือมือซ้าย นำปืนเข้าร่องไหล่ขวา ยกข้อศอกซ้ายมาข้างหน้าจนลำแขนทั้งลำขนานไปกับพื้นดิน เอามือขวาที่จับปืนอยู่ลดปืนลงจนพานท้ายปืนสัมผัสกับพื้นดิน และปืนแนบติดกับขาขวา ส่วนมือซ้ายก็แนบข้างลำตัวเหมือนเดิม
หัวหน้าชุดฝึกพูดต่อ
" ต่อไปจะเป็นการฝึกที่สถานีการสงครามพิเศษ ต้องวิ่งไปฝึกในป่า ระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ วิ่งดีๆ รักษาระเบียบแถวด้วย ทั้งหมด เฉียง.. อาวุธ ! "
ผมยกปืนขึ้นให้เฉียงไปข้างหน้าในลักษณะที่ทะแยงกับลำตัว มือซ้ายหงายขึ้นกำที่ปืนด้านบนตรงบริเวณกึ่งกลางรองลำกล้องปืน มือขวาคว่ำลงกำที่คอปืนด้านล่าง ทุกส่วนในร่างกายอยู่ในท่าตรง ผมสูดลมหายใจเข้าแรงๆ 1 ที พร้อมกับยกอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจนสง่าผ่าเผย พยายามให้ไหล่ทั้ง 2 ข้างเสมอกัน ผมเกร็งกล้ามแขนกำปืนไว้แน่น และคิดในใจว่า ผมกำลังจะเริ่มฝึกในสถานีการสงครามพิเศษแล้ว ไม่รู้ว่าฝึกอะไรแต่คงจะหนักแน่นอน ผมจะตั้งใจฝึกอย่างเต็มที่ ผมจะสู้ตาย ผมจะผ่านความลำบากนี้ไปให้ได้ ไม่ว่าจะต้องฝึกหนักแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางกลัว เพราะผมเป็นลูกผู้ชาย
" วิ่ง หน้า .. วิ่ง ! "
ผมและเพื่อนๆ รีบออกวิ่งเหยาะๆ ตามกันไปทันที ทุกคนวิ่งเข้าไปในป่า มุ่งหน้าไปยังสถานีการฝึกสงครามพิเศษอย่างไม่รอช้า

ไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม น.ศไม่ได้เขียนเรื่องใหม่ๆบ้างเลยหรอครับ

ตอนที่ 5

" แถว.. หยุด ! "
ผมและเพื่อนๆ หยุดวิ่งทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งนี้ และรีบจัดแถว ขณะนี้เราวิ่งมาถึงสถานีการฝึกสงครามพิเศษแล้ว คือ สถานี " การดำรงชีพในป่า " มีป้ายขนาดใหญ่พอสมควรเขียนชื่อสถานีนี้ติดอยู่ด้านหน้า ครูฝึกประจำสถานีสั่งให้ทุกคนนั่ง แล้วก็เริ่มต้นบรรยาย การดำรงชีพในป่านี้ ผมเคยเรียนมาแล้วเมื่อตอนฝึกภาคสนามปี 3 แต่ตอนนั้นผมไม่ค่อยตั้งใจเรียน เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง ปีนี้ผมโตขึ้น รู้สึกสนใจในวิชาความรู้ทางทหารมากขึ้นกว่าเดิม ก็เลยนั่งฟังอย่างตั้งใจ ผิดกับเพื่อนๆ หลายคนที่นั่งฟังอย่างเสียไม่ได้ หลายคนแอบนั่งหลับก็มี แม้แต่ไอ้บอมและไอ้ธีระก็นั่งเหม่อลอย ไม่รู้พวกมันกำลังคิดอะไรกันอยู่ ครูฝึกก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงบรรยายต่อไปเรื่อยๆ
ที่สถานีนี้ ผมได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูผลไม้และพืชว่าชนิดไหนกินได้ หรือกินไม่ได้ โดยอาศัยหลักการต่างๆ เช่น การสอบถามชาวบ้าน หรืออาจจะลองชิมดูเลย โดยครั้งแรกให้ชิมทีละน้อยๆ แค่นิดเดียวก่อน ถ้ารู้สึกว่าฝาด หรือมีอะไรผิดปกติ ต้องทิ้งทันที ห้ามกินต่อ ไม่งั้นอาจตายได้ แต่ถ้าชิมแล้วไม่รู้สึกอะไรก็ลองชิมใหม่ คราวนี้ชิมในปริมาณที่มากกว่าเดิม และมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแน่ใจว่า มันกินได้ หรืออาจจะใช้การสังเกตุสัตว์ป่าบางชนิด เช่น ลิง ถ้าลิงกินอะไรได้ แสดงว่าคนก็กินได้
มีการบรรยายเรื่องงูชนิดต่างๆ พร้อมกับเอางูที่สต๊าฟไว้แล้วให้พวกเราดูด้วย เท่าที่เห็นก็มี งูสามเหลี่ยม งูแมวเซา และงูเขียวหางไหม้ ครูฝึกบอกว่าที่นี่มีงูเยอะ โดยเฉพาะงูเห่าและงูจงอาง มีงูเห่าพ่นพิษด้วย ถ้าโดนพ่นพิษเข้าตาจะทำให้ตาบอด อันตรายมากๆ งูที่กล่าวมาทั้งหมดมีพิษทั้งนั้น
ครูฝึกยังบรรยายความรู้ในการดำรงชีพในป่าอีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องต้นไม้มีพิษอย่างต้นซาก ซึ่งคล้ายกับต้นสะเดามาก ถ้าคนกินเข้าไปอาจจะตายได้ และยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมาก แต่ผมจำได้ไม่หมด ไม่นานการบรรยายก็จบลง ครูฝึกคนใหม่ก็เข้ามาบรรยายต่อ

ต่อไปเป็นเรื่องการใช้แผนที่เข็มทิศ เราต้องเรียนทฤษฎีกันก่อนแล้วค่อยปฏิบัติจริง เข็มทิศของทหารมีชื่อว่า " เข็มทิศเล็นเซติก " ไม่เหมือนเข็มทิศที่พวกเราเคยใช้กันอยู่ เข็มทิศที่พวกเราใช้จะเป็นตลับกลมๆ แบนๆ มีเข็มทิศที่ชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ แต่เข็มทิศเล็นเซติกจะดีกว่านี้ คือ มีฝาตลับที่สามารถเปิด ปิดได้เพื่อป้องกันการชำรุดและเสียหาย
ส่วนประกอบของเข็มทิศมีอยู่ 3 ส่วน คือ (1) ฝาตลับเข็มทิศ (2) เรือนเข็มทิศ ซึ่งประกอบด้วยกรอบหน้าปัดเข็มทิศ หน้าปัดเข็มทิศกลมๆ มีลูกศรพรายน้ำชี้ไปทางทิศเหนือ และมีมาตราวัดมุม 2 ชนิด คือ องศา และ มิลเลียม เข็มทิศนี้สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะมีพรายน้ำช่วยทำให้ เกิดความสว่างอยู่ในเรือนเข็มทิศ (3) มีช่องเล็งไว้เพื่อเล็งไปยังที่หมาย และมีแว่นขยายไว้สำหรับอ่านมาตรามุมทั้งแบบองศา และ มิลเลียม หน่วยมิลเลียมจะละเอียดกว่าหน่วยองศามาก จึงเป็นที่นิยมในแวดวงทหารในการหาพิกัดที่แน่นอน ชัดเจน เพราะในการหาพิกัดจะคลาดเคลื่อนไม่ได้
ครูฝึกยังสอนให้แต่ละหมู่หัดใช้เข็มทิศวัดมุมบนแผนที่ การวัดมุมบนแผนที่นี้ค่อนข้างยาก เพราะพวกเรายังไม่คุ้นเคยกับการใช้เข็มทิศเล็นเซติกเท่าไหร่ แต่ก็พยายามวัดกันอย่างสุดความสามารถ วัดมุมบนแผนที่เสร็จแล้วก็ต้องวัดมุมสำหรับการเดินเองอีก การวัดมุมแบบนี้เรียกว่า " การเล็งประณีต " วิธีทำก็ยกเข็มทิศขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา ยกก้านเล็งให้ทำมุม 45 องศา แล้วเล็งผ่านช่องเล็งตรงไปยังเส้นเล็งและที่หมาย พร้อมกับมองที่แว่นขยายเพื่ออ่านมุมไปด้วย
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ฝึกวัดมุมบนแผนที่ และวัดมุมแบบเล็งประณีตจนพอทำได้ แล้วครูฝึกก็ให้ฝึกใช้เข็มทิศดู โดยเขาบอกพิกัดมาให้ 6 ตัว แล้วให้พวกเราเปิดแผนที่ วัดมุมบนแผนที่ แล้วก็ใช้เข็มทิศวัดมุมแบบเล็งประณีต เดินไปตามทิศนั้นๆ เอง ถ้าไปถูกทิศจะเจอหลักเสาซีเมนต์ จับเวลาด้วย ใครหาหลักเสาซีเมนต์ได้ไม่ครบจะถูกทำโทษ
พอครูฝึกเริ่มจับเวลา ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ก็รีบวัดมุมจากแผนที่ทันที ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่พยายามที่จะอ่านมุมจากเข็มทิศ แต่ดูเหมือนมันจะยังงงๆ อยู่ ไอ้ปกป้องเลยอ่านแทน ดูไอ้ปกป้องจะชำนาญเรื่องการอ่านแผนที่พอสมควร พอเราอ่านมุมจากแผนที่เสร็จแล้ว ก็ต้องวัดมุมสำหรับเดินเอง ไอ้ปกป้องขออาสาทำเอง
" เดี๋ยวต้องเดินไปทางทิศเหนือว่ะ แล้วเดี๋ยวไปถึงตรงนั้นต้องวัดมุมอีกที เพราะกูไม่รู้ว่ามันจะเดินตรงๆ ได้ตลอดหรือเปล่า วัดจากแผนที่นี่ มันเดินตรงได้ไม่ตลอดว่ะ เส้นทางมันมีเฉียงเป็นมุม 45 องศาด้วย "
ไอ้สันติฟังแล้วก็พูดออกมาด้วยความทึ่ง
" โห ป้อง มึงนี่เชี่ยวชาญแผนที่เข็มทิศจริงๆ ว่ะ ไปเรียนมาจากไหนวะ ขนาดกูเป็นหัวหน้าหมู่ กูยังไม่รู้เรื่องเลย ไอ้แผนที่เข็มทิศเนี่ย แม่งอะไรก็ไม่รู้ วัดมุมยากชิบหาย "
ไอ้ธีระพูดขึ้นมาบ้าง
" นั่นสิ มึงเก่งดีว่ะ บอกหน่อยมึงไปฝึกใช้มาจากไหนถึงได้ชำนาญจัง "
ไอ้ปกป้องยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ
" พ่อกูเป็นทหารว่ะ เคยสอนกูอ่านแผนที่และใช้เข็มทิศบ่อยๆ กูก็เลยใช้คล่อง แต่พวกมึงอย่าเชื่อกูมากนักเลย กูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากูจะทำถูกมั๊ย แผนที่อันนี้แม่งไม่เหมือนกับที่กูเคยใช้ว่ะ ละเอียดโคตรๆ พิกัดแต่ละตัวก็ยุ่งยากจริงๆ ถ้ากูพาพวกมึงไปผิดทางก็อย่าว่ากูนะ "
" ไม่มีใครว่ามึงหรอก ห่า อย่างน้อยหมู่เรามีคนที่เก่งแผนที่เข็มทิศแบบมึงคนเดียว ก็พอแล้ว นำทางให้พวกกูได้ ถึงว่าสิ ที่แท้พ่อมึงเป็นทหารนี่เอง ถึงได้มีพื้นฐานเรื่องนี้ นับถือๆ ว่ะ "
ไอ้บอมพูด เพื่อนคนอื่นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอ้บอม ผมรีบพูดแทรกขึ้นมาว่า
" แต่กูว่าตอนนี้ เราออกเดินกันดีกว่าว่ะ ไปช้า หาเสาไม่เจอ จะโดนทำโทษนะเว้ย "
ไอ้สันติได้ยินผมพูด ก็รีบพูดเร็วปรื๋อ
" เออ จริงอย่างที่หนุ่มบอกว่ะ ออกเดินกันดีกว่า เสียเวลามามากแล้ว ไอ้ป้อง มึงเชี่ยวที่สุด กูให้มึงเดินนำหน้าเลย นำพวกกูไปให้ถูกทางล่ะ ไปสัด ไปกันเหอะ "
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่จึงเริ่มต้นออกเดินไปตามทิศที่ไอ้ปกป้องบอก โดยมีไอ้ปกป้องเดินนำหน้า มือก็ยกเข็มทิศขึ้นมาเล็งประณีตไปด้วย
..............................
หมู่ ของผมเดินไปทางทิศเหนือเรื่อยๆ ยิ่งเดินสภาพป่าก็ยิ่งรกชัฏมากขึ้น จนมาเจอกับดงหนามขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า เดินต่อไปไม่ได้อีก ไอ้ปกป้องมองแล้วก็พูดด้วยความแปลกใจ
" เฮ้ย ทำไมเจอดงหนามวะเนี่ย แล้วจะเดินต่อได้ยังไงวะ "
ไอ้ธีระพูดช้าๆ
" ครูฝึกเขาให้พวกเราหาวิธีฝ่าดงหนามไปเองรึเปล่าวะ "
ไอ้บอมรีบสอดขึ้นมา
" กูว่าไม่ว่ะ หนามขึ้นเต็มพื้นที่ขนาดนี้ ยังไงก็ผ่านไปไม่ได้ กูว่าเรามาผิดทางแล้วว่ะ "
ไอ้ปกป้องมองหน้าไอ้บอม แล้วพูดอย่างใช้ความคิด
" งั้นเหรอวะ เออ อาจจะมาผิดทางจริงๆ แหละ ว่าแต่จะไปทางไหนต่อดีล่ะ มันไม่มีทางไปแล้วนะโว้ย หนามรายรอบเต็มไปหมดเลย ไม่งั้นก็ต้องเดินกลับทางเก่า "
ผมฟังไอ้ปกป้องพูดแล้วก็โพล่งออกมา
" กลับทางเก่าไม่ได้หรอกว่ะ ยังไงเราก็ต้องเดินต่อเพื่อหาหลักเสาซีเมนต์ให้ได้ มันต้องมีวิธีฝ่าดงหนามเหี้ยนี่ไปซิวะ มันต้องมีทางไปต่อ เชื่อกูสิ "
เพื่อนๆ ในหมู่ต่างเดินไปเดินมาและพยายามหาทางที่จะไปต่อ ก็พอดีได้ยินเสียงไอ้ธีระตะโกนขึ้นมาว่า
" เฮ้ย พวกเราๆๆ ทางนี้เว้ย ทางนี้ มีทางให้ไปได้ว่ะ "
ทุกคนรีบวิ่งมาหาไอ้ธีระ ตรงที่ไอ้ธีระยืนมีทางไปจริงๆ แต่เป็นทางแคบๆ มีสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นหนาแน่นไปหมด แต่ก็พอฝ่าได้ ไอ้สันติยิ้มแล้วพูดว่า
" เจ๋งมาก ไอ้ระ ไป พวกเราไปทางนี้แหละ ทางแคบว่ะ เดินเรียงหนึ่งละกัน ไป ไอ้ป้อง มึงนำไปเลย "
ไอ้ปกป้องเดินนำแถวไปก่อน เพื่อนคนอื่นๆ เดินตามมาเป็นพรวน ทางตรงนี้เดินยากมาก มีแต่ต้นไม่ขึ้นรกทึบไปหมด พื้นที่ก็เต็มไปด้วยหินทรายและใบไม้แห้งๆ เหยียบแล้วจะเกิดเสียงดังกรอบแกรบๆ ผมเดินตามไอ้บอมไปช้าๆ คอยระวังไม่ให้เถาวัลย์เกี่ยวหน้า อากาศตอนนี้ร้อนอบอ้าวมากๆ คอผมแห้งผาก ขาก็เมื่อยน่าดู แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อไป
ไม่นานพวกเราก็เดินฝ่าป่ารกทึบมาได้สำเร็จ ป่าเริ่มโปร่งขึ้น และเจอหลักเสาซีเมนต์ต้นที่ 1 อยู่ตรงหน้า ทุกคนในหมู่ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เจอซะที ไอ้สันติเดินเข้ามาตบไหล่ไอ้ปกป้องแล้วชมว่า
" เจ๋งว่ะ เพื่อนกู มึงพาพวกกูมาถูกทางจริงๆ เหลืออีก 2 เสา พาไปให้ถูกนะเว้ย ชีวิตของพวกกูฝากไว้กับมึงคนเดียวนะ "
ไอ้ปกป้องยิ้มรับคำชม แล้วกางแผนที่ออกอีกครั้งหนึ่ง หยิบเข็มทิศขึ้นมาวัดมุม เพื่อนๆ ในหมู่เข้ามามุงรอบไอ้ปกป้อง ไอ้ปกป้องวัดมุมไปซักพักแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูดกับเพื่อนๆ
" คราวนี้กูไม่รู้แล้วว่ะ ว่าจะไปทิศไหน "
เพื่อนๆ ทุกคนร้อง เฮ้ย ! ด้วยความตกใจ ไอ้โต้งตะโกนใส่ไอ้ปกป้องด้วยเสียงอันดัง
" อ้าวเฮ้ย ไหงอย่างงี้วะ ไหนมึงบอกมึงเก่งเรื่องนี้ไง แล้วทำไมอันนี้ถึงบอกไม่รู้ล่ะ อันแรกมึงยังรู้เลย อันนี้มึงก็ต้องรู้สิวะ ลองวัดใหม่ซิ ไอ้เหี้ย "
" ก็กูไม่รู้นี่ว่าตรงที่เรายืนอยู่ตรงนี้มันอยู่ที่พิกัดไหนในแผนที่ เราเดินมั่วกันมาจนมาถึงเสาแรกนี้ได้ เราไม่ได้เดินตามแผนที่ เพราะงั้นตอนนี้กูถึงไม่รู้แล้วว่าจะไปต่อทางไหนดี "
" ไอ้เหี้ยเอ๊ย แล้วเสือกบอกว่าใช้คล่อง แล้วทีนี้เราจะทำไงต่อดีวะเนี่ย "
ไอ้โต้งบ่น ผมพูดขึ้นมาบ้าง
" ไหนขอกูกับไอ้บอมลองทำหน่อยซิ เผื่อจะหาทางไปได้ "
ไอ้ปกป้องยื่นเข็มทิศให้ผม และแผนที่ให้ไอ้บอม เรา 2 คนช่วยกันดูแผนที่และวัดมุมอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ สุดท้ายผมจึงตัดสินใจพูดออกมาว่า
" กูว่าเดินไปตามทิศเหนือต่อเหอะ เสาหลักซีเมนต์หลักที่ 2 คงอยู่ไม่ไกลจากเสาแรกเท่าไหร่ ลองเดินไปดูกันเหอะ "
ไอ้โต้งหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น แล้วมันก็พูดเย้ยผม
" โอ๊ย เชื่อมัน เดี๋ยวก็หลงทางหรอก ขนาดไอ้ป้องที่เก่งๆ ตอนนี้มันยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเลย นับประสาอะไรกับคนโง่ๆ ที่ไม่รู้เรื่องแผนที่ อย่างไอ้หนุ่ม "
ผมจ้องหน้าไอ้โต้ง ใบหน้าผมแดงก่ำด้วยความโกรธผสมเหนื่อย กำหมัดแน่น แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเนื่องจากผมเรียนรู้ที่จะหุบปากเงียบเวลาโดนคน อื่นด่า ไม่โต้ตอบ ไม่ใช้กำลัง จะได้ไม่มีเรื่อง ผมเพียงแต่แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า และแววตาเท่านั้น
ไอ้บอมเห็นท่าไม่ดี เลยรีบพูดตัดบท
" เอาน่า เอาน่า อะไรของมึงวะ ไอ้โต้งมึงอย่าปากหมาให้มันมากนักเลย ไปดูถูกไอ้หนุ่มมันทำไม ตัวมึงฉลาดนักรึไงไอ้ห่า ตอนนี้เราต้องหาทางไปให้ถึงเสาหลักซีเมนต์ก่อน เรื่องอื่นค่อยเคลียร์กันทีหลัง เอ้า ไปกันเหอะมึง "
หมู่ของผมออกเดินต่อ ไอ้ปกป้องเดินนำหน้า ผมรีบเดินตามหลังไอ้บอมไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ไอ้โต้งเดินรั้งท้ายตามหลังไอ้โรจน์เหมือนเดิม ผมรู้สึกเกลียดไอ้โต้งขึ้นมาทันที คนอะไรวะ พูดจาหมาไม่แดกมากๆ เกลียดปากมันจริงๆ มันไม่น่ามาอยู่หมู่เดียวกับผมเลย เสียอารมณ์ชิบหาย
" อย่าไปสนใจแม่งเลย ไอ้หนุ่ม คนมันปากหมา สันดานเหี้ยอยู่แล้ว คงจะเปลี่ยนสันดานมันยาก อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์เลย ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า เพื่อนคนอื่นที่นิสัยดี น่าคบ ยังมีอีกเยอะ ปล่อยแม่งไป "
ไอ้บอมปลอบผมขณะที่เดินอยู่ ผมยิ้มแห้งๆ ไม่ได้ตอบอะไรเพราะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเริ่มรู้สึกปวดขาขึ้นมาแล้วเนื่องจากเดินมานานเป็นชั่วโมงๆ ยังไม่ได้นั่งพักเลย มันทรมานเหลือเกิน
ไม่นาน ไอ้ปกป้องคนหัวแถวก็หยุดเดิน แล้วตะโกนลั่น
" สัดเอ๊ย เจอดงหนามอีกแล้วว่ะ "
เพื่อนที่เหลือรีบวิ่งมาด้านหน้า ภาพที่ทุกคนเห็นคือ ดงหนามขนาดใหญ่กว่าเดิม ขึ้นเป็นวงกว้าง แถมยังมีสุมทุมพุ่มไม้ขึ้นหนาแน่นจนดูรกทึบไปหมด ไม่มีทางจะเดินต่อไปแน่ๆ ทุกคนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดินอย่างอ่อนใจ ไอ้สันติพูดเนือยๆ อย่างอ่อนแรง
" แล้วคราวนี้จะไปทางไหนดีล่ะวะ กูไม่เข้าใจว่าทำไมไปทางไหนก็เจอแต่หนาม หนาม แล้วก็หนาม แม่งเอ๊ย จะทำไงดีวะเนี่ย "
ไอ้ธีระพยายามเดินไปทางโน้นที ทางนี้ที เพื่อหาทางไปแบบเดียวกับเมื่อกี้ แต่ไม่นานมันก็เดินกลับมานั่งจ่อมอยู่ข้างๆ ไอ้บอมอย่างหมดแรง ไอ้ปกป้องเห็นไอ้ธีระกลับมาจึงเอ่ยปากถาม
" ไง ระ พอจะเจอทางลัดอีกมั๊ยวะ "
ไอ้ธีระส่ายหน้าก่อนจะตอบเสียงแหบ
" ไม่เจอเลยว่ะ รอบๆ นี่มีแต่หนามล้วนๆ เลย แค่ทำตัวลีบเดินผ่านไปยังไม่ได้เลย หนามมันขึ้นหนาแน่นจริงๆ ขืนผ่านไปล่ะโดนหนามแทงตายห่ากันหมดแน่ กูว่าเรามาผิดทางจริงๆ แล้วว่ะ ตรงนี้มันไปต่อไม่ได้แน่ๆ คงต้องกลับทางเก่าแล้วว่ะ "
ไอ้ปกป้องทำหน้าเหี่ยว พลางหยิบกระติกน้ำขึ้นมากรอกน้ำใส่ปากเพื่อดับกระหาย ผมก็ทำแบบเดียวกับไอ้ปกป้อง เพื่อนๆ ทุกคนนั่งพักดื่มน้ำอย่างหมดแรง ซักพักไอ้บอมก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดเสียงดัง
" กูว่านะ มันต้องมีทางไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งล่ะ มันไม่อับจนหนทางถึงขนาดต้องเดินกลับทางเก่าหรอกว่ะ เขาให้หาเสาหลักซีเมนต์ ถ้าเดินกลับทางเก่ามันจะไปเจอได้ไงวะ จริงมั๊ย กูเชื่อว่ามันมีทางไป แต่พวกเราอาจจะยังหาไม่ละเอียดเอง เดี๋ยวกูจะลองหาดู "
" เออ ตามสบาย อยากหาก็หาไป แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็กลับทางเก่ากันนะ เสาห่าไรไม่ต้องหามันแล้ว แม่ง เหนื่อยว่ะ "
ไอ้สันติพูด ไอ้บอมเดินออกไปดูบริเวณรอบๆ ผมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ไอ้สันติตบไหล่มันเบาๆ แล้วปลอบมัน
" อย่าเพิ่งหมดความพยายามสิวะเพื่อน ลองหาให้เต็มที่ก่อน ถ้าหาทางไปไม่เจอจริงๆ ค่อยกลับทางเก่ากัน "
ไอ้สันติมองหน้าผม แล้วตบไหล่ผมตอบ
" โอเคเพื่อนหนุ่ม งั้นกูจะไปช่วยไอ้บอมมันหาด้วยละกัน ให้มันหาคนเดียวเหนื่อยแย่ มึงไปกับกูมั๊ย "
ผมพยักหน้า ไอ้สันติกับผมจึงลุกขึ้นจะเดินไปหาไอ้บอม หวังที่จะช่วยหาทางด้วย จู่ๆ ไอ้บอมก็ร้องตะโกนขึ้นมา
" เฮ้ย พวกเรา มาดูอะไรตรงนี้สิวะ "
ผม ไอ้สันติ และเพื่อนๆ ในหมู่รีบวิ่งไปตรงที่ไอ้บอมยืนทันที ไอ้บอมชี้ไปข้างหน้ามัน ทุกคนมองตาม มันคือทางเล็กๆ เรียบๆ แคบๆ พื้นเป็นดินแห้งๆ ที่ถูกปรับแต่งให้ลาดลงอย่างมาก ไม่มีหนาม เศษใบไม้หรือสุมทุมพุ่มไม้อยู่บนทางนี้เลย จะมีก็แต่ก้อนหินก้อนกรวดก้อนเล็กๆ โรยปะปนอยู่ตามพื้นเท่านั้น ทุกคนมองทางด้วยความประหลาดใจ ผมเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมาก่อน
" นี่ล่ะ นี่ล่ะ ทางไปต่อของพวกเราล่ะว่ะ "
ไอ้บอมรีบสนับสนุนผม
" ใช่เลย ไอ้หนุ่มพูดถูก นี่แหละ เราต้องไปทางนี้ ไอ้ห่า ต้องเดินลงไปตามทางนี้แน่ๆ พวกมึงดูสิ เห็นชัดๆ เลยว่าทางนี้ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้เราลงโดยเฉพาะเลย ไม่งั้นเขาไม่ทำทางให้เรียบขนาดนี้หรอก "
ไอ้ปกป้องพยักหน้า แล้วกางแผนที่ออกดู เสร็จแล้วก็ร้องว่า
" เออ ใช่จริงๆ ด้วยว่ะ นี่เป็นทางไปต่ออย่างที่พวกมึงพูดจริงๆ นี่ไงในแผนที่นี้ก็มี น่าจะเป็นตรงกากบาทอันนี้แน่ๆ แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว 5555 "
ทุกคนต่างมุงดูแผนที่ในมือของไอ้ปกป้อง ในแผนที่ทำเครื่องหมายกากบาทเล็กๆ เอาไว้ ผมมองทางลาดนั้น แล้วก็หันมามองหน้าเพื่อนๆ ทุกคน ก่อนจะถามว่า
" ลาดขนาดนี้เดินลงไหวเหรอวะ "
" เดินไม่ไหวหรอกมึง ต้องกลิ้งลงอย่างเดียว "
ไอ้ธีระพูด ทุกคนหันมาทางไอ้ธีระ ผมรีบถามมัน
" มึงหมายความว่าไง "
ไอ้ธีระกลืนน้ำลาย แล้วชี้ให้ทุกคนมองลงไปตามทาง พลางพูดไปด้วย
" ทางมันลาดลงมากขนาดนี้ พวกมึงโดยเฉพาะไอ้บอม ที่มึงบอกว่าจะเดินลงไปน่ะ คิดว่าจะเดินลงไปได้เหรอวะ เดินลงไปมีหวังลื่นไถลลงไปทั้งตัวแน่ๆ ทางตรงนี้เขาทำไว้ให้กลิ้งโดยเฉพาะเลยว่ะ พวกมึงต้องกลิ้งแบบหินก้อนนี้เลย แบบนี้ "
ไอ้ธีระเตะก้อนหินก้อนเล็กๆ ก้อนหนึ่งลงไปตามทาง มันกลิ้งหลุนๆ ลงไปข้างล่างทันที ไอ้บอมรีบแย้งขึ้นมา
" ไอ้เหี้ย เอาจริงดิวะ จะให้กูกลิ้งลงไปจริงๆ เหรอวะเนี่ย มึงบ้าไปแล้วเหรอวะ "
" กูไม่บ้าหรอก พวกมึงต้องกลิ้งลงไปจริงๆ "
" กูไม่กลิ้ง ยังไงกูก็ไม่กลิ้ง ไอ้ห่าทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วย กูเดินลงไปแบบระวังๆ หน่อยก็ได้แล้ว ไม่เห็นต้องกลิ้งลงไปให้เจ็บตัวเลย "
" แต่ข้างล่างมีครูฝึกดักอยู่นะมึง มึงไม่กลิ้งมึงโดนเล่นนะโว้ย "
ไอ้ธีระพูดเสียงดัง ไอ้บอมพูดหน้าม่อยลงทันที
" เหรอวะ เออ งั้นกูก็ต้องกลิ้งแล้วล่ะ โอย ไอ้เหี้ยเอ๊ย เวรกรรม เวรกรรมกูจริงๆ เดินมาก็เมื่อยจะตายโหงอยู่แล้วยังต้องมากลิ้งอีก "
ไอ้บอมบ่น ผมรีบพูดตัดบท
" โอเค โอเค ไม่ต้องพูดอะไรกันต่อแล้ว กลิ้งก็กลิ้ง มันไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่มั๊ย ไอ้ระ "
ไอ้ธีระมองหน้าผม แล้วมองหน้าเพื่อนทุกคน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
" ไม่มีวิธีอื่นแล้ว มีวิธีเดียวที่จะผ่านไปได้ นั่นคือ ต้องกลิ้งลงไป ทีละคน ! "

แม่งเอ๊ยย ย..

" กลิ้งก็กลิ้งว่ะ แล้วใครจะประเดิมเป็นคนแรกล่ะ " ไอ้สันติถาม
" มึงไง หัวหน้าหมู่ มึงก่อนเลย " ไอ้บอมพูด แล้วพยายามดันหลังไอ้สันติให้เดินไปที่จุดกลิ้ง แต่ไอ้สันติรีบร้องลั่น
" ไอ้ห่า ไม่เอ๊า มึงกลิ้งก่อนเหอะว่ะ กูไม่อยากประเดิม "
" อะไรวะ ทำไมต้องเป็นกูด้วย ยังไงๆ กูก็ไม่กลิ้งเป็นคนแรกแน่ ๆ "
ไอ้บอมปฏิเสธเป็นพัลวัน ทุกคนในหมู่เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมาอยู่นาน ไม่มีใครยอมกลิ้งก่อนเลย ทันใดนั้นครูฝึกที่แอบดักอยู่ทางด้านล่างก็โผล่ออกมา เขาแหงนหน้าขึ้นมองพวกเราทุกคน ชี้นิ้วกราด แล้วตะโกนลั่น
" เฮ้ย ! ไอ้หมู่นั้นทำอะไรอยู่วะ ทำไมไม่กลิ้งซักที กลิ้งลงมาเร็วๆ เลยพวกมึง ! ชักช้ามึงโดนแดกแน่ เร็ว! "
ไอ้สันติได้ยินครูฝึกพูดแบบนั้นก็กัดฟันพูดกับเพื่อนๆ ในหมู่
" เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กูในฐานะที่เป็นหัวหน้าหมู่ ก็จะยอมกลิ้งเป็นคนแรก ตามกูมาเร็วๆ ล่ะ "
ทุกคนรีบตอบรับ
" เออ โชคดีนะเพื่อน "
ไอ้สันติยิ้มให้เพื่อนทุกคนนิดนึง แล้วลงนอนตะแคง ก่อนจะกลิ้งลงไปด้วยความรวดเร็ว ไอ้สันติกลิ้งหลุนๆ ลงไปจนถึงพื้นข้างล่าง แล้วจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปยืนอยู่หน้าครูฝึกคนนั้น ใบหน้าของมันมีร่องรอยของความเจ็บปวดไม่ใช่น้อย แต่มันพยายามฝืนทำสีหน้าให้เป็นปกติ กลิ้งลงไปแบบนี้ มันคงจะปวดหลังและเคล็ดตามตัวพอสมควรเลย ผมคิดในใจ
เพื่อนๆ ในหมู่ทยอยกลิ้งลงไปทีละคนๆ จนเหลือผมกับไอ้ธีระอยู่ 2 คน ไอ้ธีระมองหน้าผมแล้วพูดว่า
" มึงไปก่อนเลย โชคดีนะเพื่อนนะ "
ผมถอดแว่นเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วกัดฟันตอบไอ้ธีระ
" เออ มึงเองก็โชคดีเช่นกันว่ะ รีบๆ ตามกูมานะ "
พูดจบผมก็ลงนอนตะแคง แล้วออกแรงกลิ้งลงไปตามทางกลิ้งอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกตอนกลิ้งนั้นมันย่ำแย่จริงๆ เวียนหัวมากจนแทบอ้วก ผมกลิ้งหลุนๆ ลงมาจนถึงพื้น แล้วก็รีบลุกขึ้นยืนวิ่งไปเข้าแถว ชุดฝึกของผมเปื้อนดินเป็นปื้นดำๆ เต็มไปหมด ไม่นานไอ้ธีระก็กลิ้งตามลงมา แล้ววิ่งมาเข้าแถวเช่นกัน
ครูฝึกหน้าบึ้ง แผดเสียงลั่น
" ชักช้า อืดอาด กว่าจะกลิ้งลงมาได้ เกี่ยงกันแทบเป็นแทบตาย ! ทั้งหมด สก๊อตจัมป์ 50 ครั้ง ปฏิบัติ ! "
ทุกคนกัดฟันกรอด ผมได้ยินไอ้บอมแอบด่าครูฝึกเบาๆ
" ไอ้เหี้ย ! จำไว้นะมึง "
แต่คำสั่งก็ต้องเป็นคำสั่ง ทุกคนสก๊อตจัมป์จนครบ 50 ครั้ง เสร็จแล้วต่างก็ยืนหอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อยด้วยความเหนื่อยอ่อน ยังไม่ทันจะได้หยุดพัก ครูฝึกก็สั่งต่อ
" จวนจะหมดเวลาฝึกแล้ว รีบกลับไปที่ฐานซะ ไม่มีเวลาไปหาเสาอื่นแล้ว พวกมึงเสือกช้าเอง หมู่อื่นเขาหากันได้ครบ นี่อะไรวะ หาได้แค่เสาเดียวเอง กระจอกชิบหาย ไปโดนแดกที่ฐานละกัน ทั้งหมด แถว ? ตรง ! วิ่ง หน้า ? วิ่ง ! "
ทุกคนออกวิ่งทันที เราวิ่งเข้าไปในป่าทึบอีกครั้งเพื่อกลับฐาน ผมเหนื่อยจนแทบขาดใจ ร้อนก็ร้อน จะหยุดวิ่งก็ไม่ได้ ต้องแข็งใจวิ่งไปเรื่อยๆ ขณะที่ผมกำลังวิ่งอย่างอ่อนอกอ่อนใจนั้น ก็ได้ยินเสียงไอ้ปกป้องตะโกนเสียงดัง พลางชี้ไปด้านข้าง
" เฮ้ย นั่นไง เสาหลักที่ 2 พวกเราเจอเสาหลักที่ 2 แล้ว "
ทุกคนหยุดวิ่ง แล้วเดินไปที่เสาหลักซีเมนต์ช้าๆ พลางยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน ก็ยังดีที่เจอ 2 หลัก ถึงจะเป็นการเจอโดยบังเอิญก็เถอะ หลังจากที่บันทึกว่าเจอเสาที่ 2 แล้ว ไอ้สันติก็สั่งทุกคนในหมู่ให้วิ่งต่อ
" ไป ออกวิ่งต่อเหอะพวกเรา หมดเวลาแล้วว่ะ กลับช้าเดี๋ยวจะโดนทำโทษหนัก "
ทุกคนจึงออกวิ่งต่อ แต่ต่างก็เริ่มวิ่งช้าลงแล้วเพราะเหนื่อยมาก ไม่นานก็เปลี่ยนจากวิ่งมาเป็นเดินเร็วๆ แทน ไม่มีใครพูดคุยกันเลย ผมเดินไปหอบไป รู้สึกเหนื่อยและร้อนจนแทบจะเป็นลม ขาก็เมื่อยล้าจวนเจียนจะก้าวต่อไปไม่ไหว แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อไป พลางให้กำลังใจตัวเองว่า เราต้องสู้ เราจะแพ้ไม่ได้ เพื่อนคนอื่นๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกับผม ทุกคนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแบบสุดขีด ต่างก็เดินหอบแฮ่กๆ เหงื่อแตกเต็มแผ่นหลังกันทั้งนั้น เดินเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ถึงฐานซะที ทำไมมันไกลขนาดนี้ก็ไม่รู้ ผมคิดแล้วรีบก้าวเดินฉับๆ เพื่อที่จะได้ถึงเร็วๆ แต่แล้วตีนผมก็เกิดไม่มีแรงเสียดื้อๆ มันชาไปชั่วขณะ ทำให้ผมเสียศูนย์ ยืนโงนเงนไปมาก่อนจะล้มคะมำคางฟาดพื้นอย่างแรง ปึ่ก !
ไอ้ธีระที่เดินตามมาตกใจ รีบโผเข้าไปประคองผมที่ล้มไปกองกับพื้น แล้วเขย่าตัวผมแรงๆ ก่อนจะพูดเสียงดัง
" เฮ้ย หนุ่ม มึงเป็นไร อยู่ดีๆ ล้มเฉยเลย ไหวมั๊ยวะเนี่ย "
ผมยิ้มแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น ก่อนจะตอบมัน
" ขอบใจที่ห่วงกู กูยังไหวว่ะ เมื่อกี้ตีนคงเป็นตะคริว ก้าวแล้วมันไม่ไป เลยล้มว่ะ "
ไอ้ธีระตบไหล่ลูบหลังผมเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ แล้วพูดช้าๆ
" ไหวแน่นะมึง สีหน้ามึงดูไม่ดีเลย "
ผมมองหน้าไอ้ธีระยิ้มๆ
" ไหวสิวะ ลูกผู้ชาย แค่นี้ไม่ตายหรอก ไปกันต่อเหอะ "
แล้ว เรา 2 คนก็เดินต่อ ไอ้ธีระเปลี่ยนมาเดินข้างๆ ผม แล้วกอดคอโอบไหล่ผมไปตลอดทาง ด้วยความที่ผมเหนื่อยล้าจนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่น ทำให้ผมไม่ทันเฉลียวใจว่า เพราะเหตุใดไอ้ธีระถึงได้เป็นห่วงเป็นใยผมมากขนาดนี้ ในที่สุดก็ถึงฐาน หัวหน้าหมู่แต่ละหมู่รายงานการค้นหาเสาหลักซีเมนต์ให้ครูฝึกทราบ หมู่ของเราเจอ 2 หลัก ก็โดนทำโทษสก๊อตจัมป์แค่ 20 ครั้ง บางหมู่หาไม่ได้ก็มี ก็โดนเยอะหน่อย 40 ครั้งเลย หมู่ไหนหาได้ครบก็ไม่โดน มีแค่ 3 หมู่เท่านั้นที่หาได้ครบทั้ง 3 เสา แม่งโคตรเก่งเลย
หลังจากโดนทำโทษแล้ว ก็ได้เวลาแดกข้าวกลางวัน มื้อนี้ผมแดกกับไอ้สันติ กับข้าวคือน้ำพริกแตงกวาที่รสชาติโคตรเผ็ดเลย ผมแดกไม่ค่อยจะได้ แดกแต่ข้าวเปล่าๆ ซะเยอะ เพื่อที่จะได้มีแรงไว้ฝึกต่อในตอนบ่าย แดกข้าวเสร็จก็ล้างหม้อ ไปเติมน้ำในกระติกจนเต็ม แล้วมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ในหมู่ รอเวลาฝึกในภาคบ่าย
...................................

ตอน บ่ายเราฝึก " การยิงปืนฉับพลัน " คือการฝึกยิงปืนในท่าต่างๆ ที่ต่อเนื่องกัน เช่น ยืนยิง แล้วเปลี่ยนเป็นนั่งยิง ครูฝึกให้ยิงคนละ 20 นัด ผมและเพื่อนๆ นั่งรอนานมากกว่าจะได้ยิง การฝึกยิงและการทำท่ายิงก็เหมือนตอนปี 3 พอทุกคนเข้าประจำตามช่องยิงเรียบร้อยแล้ว ครูฝึกก็จะสั่งท่ายิงไปเรื่อยๆ นักศึกษาวิชาทหารทุกคนก็ทำตามคำสั่ง
" ยืน .. เตรียมยิง ! "
ผมยืนขึ้นทำท่าเตรียมยิง และค้างไว้อย่างนั้น แล้วครูฝึกก็สั่งให้ยิง ทุกคนก็ยิงอย่างสะใจ เสียงดัง ปังๆๆๆๆๆ เสียงปืนดังมากๆ จนแก้วหูแทบแตก หลังจากนั้นครูฝึกก็สั่งให้เปลี่ยนท่า
" นั่งสูง นั่ง .. เตรียมยิง ! "
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" นอน - เตรียมยิง ! "
ผมล้มตัวลงนอนคว่ำทำท่ายิงตามคำสั่ง แต่แล้วก็รู้สึกเหมือนนอนลงไปบนอะไรบางอย่างที่ไม่เรียบ พอมองไปรอบๆ ถึงได้เข้าใจ บริเวณที่ผมนอนยิงนั้นเต็มไปด้วยหญ้าเจ้าชู้ มันเกาะติดเต็มแขนเสื้อ และขากางเกงผมหมดเลย ยังดีที่ตอนฝึกนี้ครูฝึกอนุญาตให้เอาแขนเสื้อลงมาได้ถึงข้อมือ ไม่งั้นแย่แน่ๆ ครูฝึกสั่งให้พวกเราทำท่ายิงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แถมตะโกนด่าคนที่ทำท่ายิงช้าอยู่ตลอดเวลา
" เฮ้ย ไอ้นั่นน่ะ นอนยิงดีๆ สิวะ ทำท่าเหมือนไม่เคยฝึกทำท่ายิงปืนมาก่อนเลย ไอ้คนนั้นก็อย่ายุกยิก นิ่งเข้าไว้ ไม่ต้องไปสนใจหญ้าที่แม่งติดตามตัวมึงหรอก เดี๋ยวเลิกยิงแล้วค่อยเอาออก เอ้า ไอ้ห่านั่น บอกว่าอย่ายุกยิกไง เดี๋ยวโดนวิดพื้นนะสัด นิ่งๆ สิวะ อยากโดนวิด 100 ครั้งรึไง ! "
ผมนอนฟังเสียงตะโกนด่าทอของเหล่าครูฝึกด้วยความรู้สึกไม่พอใจ ครูฝึกปี 4 นี่โหดและเถื่อนกว่าปี 3 มาก ดูไม่เป็นมิตรเท่าตอนปี 3 แถมชอบสั่งทำโทษอยู่ตลอดเวลา บ้าอำนาจชิบหาย! แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าครูฝึกทำได้แค่ด่าและทำโทษเท่านั้น จะไม่มีการลงไม้ลงมือกับนักศึกษาวิชาทหารเด็ดขาด
ครูฝึกคนนั้นเดินไปเดินมาหลายรอบ ก่อนจะแผดเสียงลั่นด้วยความไม่พอใจ
" ทั้งหมด ลุก...วิดพื้น 50 ครั้ง ปฏิบัติ ! "
ทุกคนทำหน้างงๆ ว่าโดนทำโทษเรื่องอะไร แต่ก็ขัดคำสั่งครูฝึกไม่ได้ จำต้องลุกขึ้นยืน แล้วลงไปวิดพื้นจนครบ 50 ครั้ง พอเสร็จแล้วครูฝึกก็สั่งต่อ
" ทุกคนลงไปนอนยิงใหม่ แล้วจำไว้ ! อย่ายุกยิกอีก ถ้าเห็นใครยุกยิกแค่คนเดียว โดนเล่นหมดทั้งกองร้อยแน่ๆ นอน .. เตรียมยิง ! "
ผมล้มตัวลงนอนทำท่าเตรียมยิงอีกครั้ง ไอ้บอมที่นอนยิงอยู่ที่ช่องยิงข้างๆ ผมแอบด่าลอดไรฟันออกมาเบาๆ
" สั่งทำโทษอยู่นั้นแหละ กรอดด เจ็บใจจริงๆ กูทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย "
ผมก็คิดเหมือนไอ้บอม ตอนนี้ทำได้แค่อดทนอย่างเดียว ให้มันผ่านๆ ไป เดี๋ยวก็สบายแล้ว ครูฝึกสั่งให้ทุกคนยิงปืนด้วยท่าต่างๆ จนครบ 20 นัด แล้วให้มีการตรวจเป้า ผลคือผมยิงเข้าเป้าไม่กี่นัด นอกนั้นยิงไม่เข้าเลย ก็ยังดี นับว่าฝีมือการยิงปืนของผมพัฒนาขึ้นจากเมื่อตอนปี 3 นิดหน่อย สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับท่ายิงปืนและการตรวจเป้านั้นผมได้เล่าไปอย่าง ละเอียดแล้วในภาค 1 จะไม่ขอกล่าวซ้ำอีกเนื่องจากมันเหมือนเดิมทุกอย่างครับ
พอเรายิงปืนกันเสร็จ ครูฝึกก็สั่งให้พักยาว ผมและเพื่อนๆ พากันนั่งแกะหญ้าเจ้าชู้ที่ติดตามเสื้อผ้าออก มันเยอะจริงๆ ถึงขนาดต้องช่วยกันแกะ แต่ไม่นานก็แกะออกหมด แล้วก็พากันไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา เติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม แล้วมานั่งคุยกับเพื่อนในหมู่ต่อ แต่พวกเราก็ไม่ค่อยจะคุยอะไรกันเท่าไหร่เพราะต่างก็เหนื่อยกันมาก อากาศก็ร้อนสุดๆ ผมเริ่มหมดแรงแล้วเพราะใช้พลังงานมามากตั้งแต่เช้า ร่างกายมันอ่อนล้าไปหมด ก็เลยนั่งหลับตาหลังพิงต้นไม้ ไอ้ธีระเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมแล้วตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะพูดยิ้มๆ
" เฮ้ย เป็นไรวะ หน้าซีดเลย จะเป็นลมรึเปล่า เอ้ายาดม ดมซะจะได้สบายขึ้น "
ไอ้ธีระยื่นหลอดยาดมให้ผม ผมรับหลอดยาดมของมันมาดมแล้วยิ้มแห้งๆ
" ขอบใจ ขอบใจ กูไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้จะเป็นลม แค่เหนื่อยมากเท่านั้นเอง "
ไอ้ธีระโอบไหล่ผมไว้แล้วพูดต่อ
" เข้มแข็งเข้าไว้นะมึง นี่แค่วันที่ 2 เองนะ มึงจะต้องเจออะไรอีกเยอะ "
ผมยิ้มให้มัน แต่ไม่ได้ตอบอะไร ไอ้ธีระมองหน้าผม
" หนุ่ม กูถามอะไรอย่างหนึ่งได้มั๊ย "
" ได้สิ มึงอยากถามอะไรก็ถามมาได้เลย ถามเยอะๆ ก็ได้นะ ถ้ากูตอบได้กูจะตอบ "
" มึงมีแฟนหรือยัง "
ผมอึ้งไปนิดนึง ไม่นึกว่าไอ้ธีระจะถามตรงแบบนี้ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมเพราะผมเจอคำถามลองเชิงชายแบบนี้มามากแล้ว ถ้าคนถามเป็นผู้ชายแท้ๆ คำตอบก็รู้ๆ กันอยู่ ผมกลั้นใจตอบมันไปว่า
" มีแล้วสิวะ อายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีแฟนก็กระไรอยู่นะ "
" แล้วแฟนมึงอายุเท่าไหร่ น่ารักมั๊ยวะ "
ไอ้ธีระยิงคำถามต่อ ผมเริ่มอึดอัดที่จะตอบคำถามของมันบ้างแล้ว แต่ด้วยความที่ผมต้องปกปิดความเป็นเกย์ของผมเอาไว้ไม่ให้ใครๆ รู้ แม้แต่กับเพื่อนๆ ในหมู่ ผมก็เลยต้องโกหกมันไป
" อายุอ่อนกว่ากู 1 ปีว่ะ หน้าตาก็น่ารัก ขาวๆ น่าเจี๊ยะดี "
ไอ้ธีระทำท่าจะถามต่อ ผมรีบตัดบททันที
" พอเลยพอ มึงจะถามอะไรกูอีก ไอ้คนขี้สงสัย อย่ามายุ่งเรื่องแฟนกูเลย กูรักของกูนะ กูรักกับมันมาหลายปีแล้วด้วย มึงรู้ป่าว นี่กูกะว่าพอกูเรียนจบป. ตรี กูจะแต่งงานกับมันเลย กูอยากมีลูกเร็วๆ พ่อกูอยากอุ้มหลานว่ะ 555 กูคิดไว้ว่าจะมีลูกซัก 3 คน เป็นผู้ชายหมดเลย จะได้สืบสกุลไปยาวๆ "
ผมแกล้งพูดไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่สุดจะฝืนใจเพราะรู้ทั้งรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องพูดเพื่อให้ไอ้ธีระตายใจและเชื่อว่าผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ไอ้ธีระนั่งฟังอย่างสงบ พอผมหยุดพูด มันก็จ้องหน้าผมเขม็ง แล้วถามในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดออกมา
" แล้วแฟนมึง ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ "
ผมอ้าปากค้าง ไม่นึกว่าคำถามนี้จะหลุดออกมาจากปากไอ้ธีระ ผมแกล้งผลักหลังมันเบาๆ แล้วหัวเราะลั่น
" 55555 ไอ้เหี้ยเอ๊ย ถามโง่ๆ มึงก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพศไหน ยังจะเสือกมาถามกูอีก "
" กูไม่รู้ เพศไหนล่ะ ตอบกูมาสิ "
ไอ้ธีระคาดคั้นจะรู้ให้ได้ สีหน้ามันจริงจังมาก ผมเริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาเสียแล้ว โชคดีที่ผมเหลือบไปเห็นไอ้กรเดินอยู่คนเดียว ก็เลยตะโกนเรียกมัน ไอ้กรก็เลยเดินมานั่งคุยด้วย และผมก็เปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่นๆ ต่อโดยที่ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย แต่ในใจผมยังสงสัยว่า ไอ้ธีระถามผมแบบนี้ทำไม
หรือมันรู้ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ...เป็นไปไม่ได้ ผมแมนออกอย่างนี้ ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าผมเป็นเกย์
แล้วมันถามผมทำไม ผมสงสัยจริงๆ
........................................

ตกเย็น
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดด
ครู ฝึกเป่านกหวีดเรียกรวมอีกครั้งเพื่อแดกข้าวเย็น จำไม่ได้ว่าแดกอะไร แต่มื้อนี้ได้แดกกับไอ้ธีระ พอแดกเสร็จ ล้างหม้อเสร็จ ก็มีการตรวจผม ส่วนใหญ่ทุกคนจะตัดผมถูกระเบียบมาแล้ว คือตัดทรงรองทรงสูงสั้นๆ ( ไม่ได้ไถกบาลเกรียนเหมือนเมื่อตอนปี 3 ) แต่ผมเองตัดมาสั้นกว่าคนอื่นเขาเล็กน้อยเพราะไม่อยากมีปัญหา บางคนที่เหี้ยๆ แมนๆ ก็โกนกบาลเลย บางคนก็ตัดสกินเฮดหรือทรงนักเรียน แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่จะตัดรองทรงกันทั้งนั้น มีน้อยคนที่ผมยาวจริงๆ ครูฝึกก็สั่งให้ไปตัดซะให้เรียบร้อย แล้วก็ให้พัก ก่อนที่จะเข้าสถานีการฝึกในช่วงค่ำ ตอน 6 โมงครึ่ง ยังไม่รู้ว่าจะต้องฝึกอะไร แต่สนุกแน่ๆ

ปรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมาเข้าแถวอย่างรู้งานเพื่อรับการฝึกในภาคกลางคืน คืนนี้เราจะฝึกการใช้แผนที่เข็มทิศในเวลากลางคืน การฝึกแทบจะไม่ต่างกับตอนกลางวันเลย คือครูฝึกบอกพิกัดมา แล้วให้พวกเราวัดมุมเดินไปตามแผนที่เอง ถ้าไปถูกก็จะเจอหลักเสาซีเมนต์ ผมอ่านแผนที่แล้วพบว่า เส้นทางในการเดินไม่ซับซ้อนเท่าตอนกลางวัน ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้ปกป้องอาสาเป็นคนเดินนำอีกตามเคย มันบอกว่าคราวนี้จะไม่พาทุกคนหลงอีกแล้ว เราออกเดินฝ่าสุมทุมพุ่มไม้ไปตามแผนที่ ผมโดนหนามเกี่ยวมือหลายครั้งเหมือนกัน เลือดไหลซิบๆ เลยแต่ก็ต้องอดทน เจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก เพื่อนคนอื่นยังทนได้ ทำไมผมจะทนไม่ได้
เราเดินกันไปเงียบๆ ไม่มีใครพูดคุยกันเลย สองข้างทางมืดมากไม่มีแสงสว่างแม้แต่นิดเดียว แถมครูฝึกยังสั่งห้ามไม่ให้ใช้ไฟฉายด้วย พวกเราจึงต้องเดินฝ่าความมืดกัน แรกๆ สายตาของทุกคนยังไม่ชินกับความมืดก็เลยทำให้เดินสะเปะสะเปะไปบ้างเหมือนคน ตาบอด ต้องคอยเกาะไหล่เกาะเอวเพื่อนเอาไว้ ผมเองไม่ได้เกาะใคร มีแต่เพื่อนมาเกาะโดยเฉพาะไอ้บอมและไอ้ธีระ แต่ซักพักสายตาทุกคนก็ชินกับความมืด สามารถมองเห็นในความมืดได้แม้จะเห็นเพียงรางๆ ก็จะพากันเลิกเกาะเพื่อน แต่ไอ้บอมยังไม่เลิกเกาะผม จนผมต้องเตือนมัน
" ไอ้บอม เลิกเกาะเอวเราได้แล้ว เราเดินไม่สะดวก ไอ้ห่า "
ไอ้บอมยอมเอามือออกจากเอวผม แล้วกระซิบข้างหูผมเบาๆ
" คืนนี้นายพร้อมมั๊ย "
ผมรีบส่ายหน้า
" ไม่เอานะเว้ย เว้นๆ บ้าง เดี๋ยวไม่มีแรงฝึก คืนนี้เราขอพักผ่อนคืนนึง แล้วคืนต่อๆ ไปค่อยว่ากันใหม่ "
" ตามใจนายนะ เราเองก็มีแผนของเราแล้วว่าคืนนี้เราจะไปมุดเต็นท์ไหน "
" เต็นท์ไหน "
" อย่ารู้เลย รู้ไปก็เท่านั้น คืนนี้เราขอละกัน ขอแดกควยอันใหม่ๆ บ้าง นายคงไม่ว่าอะไรเรานะ "
" เราจะไปว่าอะไรนายได้ เราไม่ได้เป็นแฟนนายนี่ นายจะไปแดกควยใครก็เรื่องของนายสิ พิลึกคนจริงๆ ว่ะ "
ผมพูดยิ้มๆ ไอ้บอมตบไหล่ผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" รู้มั๊ย เราชอบเกย์แบบนายที่สุดเลยว่ะ ฟรีดี ไม่ถือว่าเราจะไปสนุกกับใคร ไม่เหมือนเกย์คนอื่นๆ ที่เรารู้จักมา หลายคนแม่งโคตรขี้หึงเลย ถ้าเราเล่นกับมันแล้ว แล้วเราจะไปยุ่งกับคนอื่นอีกละไม่ได้เลย เราเกลียดเกย์แบบนั้นจริงๆ พวกหวงควย กะจะแดกควยเราคนเดียว สัตว์ "
ผมฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่นึกในใจว่า ที่เราฟรีกับนายแบบนี้ก็เพราะว่าเราเองก็ทำแบบที่นายทำเหมือนกัน เราก็ชอบแดกควยใหม่ๆ และที่สำคัญ เรากับนายยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่หว่า เพราะฉะนั้นต่างคนต่างก็มีอิสระที่จะไปทำอะไรกับใครก็ได้ แต่ถ้าเป็นแฟนแล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมคิดขณะก้าวตีนเดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เจอเสาหลักซีเมนต์ที่ 1 อย่างง่ายดาย แล้วก็หาเสาที่ 2 ต่อซึ่งก็หาได้ง่ายเพราะว่าอยู่ไม่ห่างจากเสาที่ 1 มากนัก แค่ไม่ถึงชั่วโมงหมู่ของเราก็หาเสาได้ครบทุกเสา
...............................

2 ทุ่มครึ่ง ครูฝึกเป่านกหวีดเรียกรวม และพาทุกคนเดินกลับกองพัน พอไปถึงก็ให้พักนิดหน่อย แล้วจึงจัดแบ่งเวรยามโดยแบ่งเป็นกะๆ กะละ 2 ชั่วโมง คืนนี้ผมกับไอ้ธีระต้องเข้าเวรยามกะตี 1 ? ตี 3 บริเวณรอบๆ ที่พัก เข้าเวรดึกมากๆ ไม่อยากเป็นยามเวลานี้เลย พอจัดเวรยามเสร็จก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเป็นชุดครึ่งท่อน ไม่ใส่เสื้อนอก ใส่แต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว ท่อนล่างใส่กางเกงขายาวและสวมรองเท้าหนัง แล้วมารวมกันอีกครั้งเพื่อสวดมนต์ ก่อนจะแยกย้ายกันเข้าเต็นท์
...............................

ที่เต็นท์ของผมกับไอ้ธีระ
" มึงนอนไปก่อน เดี๋ยวถึงเวลาเข้าเวรแล้วกูจะปลุกมึงเอง "
ไอ้ธีระพูดกับผมขณะที่มันเอนตัวลงนอนด้านซ้ายมือของผม ผมรีบถามมันว่า
" แล้วตอนนี้มึงไม่นอนเหรอ "
" นอนสิวะ แต่กูเป็นคนนอนหลับยาก นอนตอนนี้กูก็ไม่หลับหรอก ก็แค่นอนเล่นๆ ให้หายเมื่อยเท่านั้น มึงหลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวตี 1 กูปลุกมึงเอง "
" เออ ดี แล้วอย่าลืมปลุกกูนะ กูนอนก่อนล่ะ ฝันดีโว้ย "
ผมพูดแล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงพร้อมกับหลับตา เอาแขนพาดไปบนหน้าอกของไอ้ธีระที่นอนหงายอยู่แล้วลูบหัวนมเล่นเบาๆ เพราะเผลอคิดไปว่านอนอยู่กับไอ้บอม ( ก่อนที่จะมาเข้าค่ายร.ด. ครั้งนี้ ผมนอนกับไอ้บอมแทบทุกคืน เวลานอนเราก็ชอบนอนลูบหน้าอกและหัวนมเล่นกัน เพราะความเคยชินแบบนี้นี่เอง ทำให้ผมลืมตัวคิดว่าคืนนี้ก็กำลังนอนอยู่กับมัน ) ตอนนั้นผมทำไปแบบไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่แล้วผมก็รู้สึกตัวว่าผมทำพลาดไปแล้ว นี่ไอ้ธีระ เพื่อนชายแท้ๆ ไม่ใช่ไอ้บอม คนนี้ลูบไม่ได้ ! ทันทีที่ผมรู้ตัว ผมรีบแสดงความเป็นแมนออกมาทันทีโดยแกล้งสะดุ้งโหยง เอามือออกจากหัวนมเพื่อน แล้วยกแขนออกจากหน้าอกของมันทันที พลางถอยห่างจากตัวของไอ้ธีระ แล้วแกล้งพูดเสียงอ่อยๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความแมน
" เฮ้ย ! ขอโทษ กูขอโทษว่ะเพื่อน กูนึกว่านอนกับแฟนอยู่ กูลืมไปว่าคืนนี้กูมาเข้าค่ายฝึก ไม่มีแฟนมานอนอยู่ข้างๆ ให้ลูบหัวนมเล่นแล้ว กูขอโทษจริงๆ ว่ะ มึงคงไม่โกรธกูนะ "
ไอ้ธีระยิ้มเยือกเย็นแล้วพูดเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่
" ไม่เป็นไร 5555 เรื่องแบบนี้กูเข้าใจว่ะ อย่าคิดอะไรมากมาย นอนซะทีเหอะมึง อย่ามัวแต่พูดมาก แล้วก็อย่ามาลูบหัวนมกูอีกล่ะ กูก็เสียวเป็นเหมือนกันนะเว้ย อย่าลืมว่าเราผู้ชายด้วยกันนะ มีเดือยเหมือนๆ กัน ขั้วเดียวกันนะมึง "
" เออ กูสัญญา กูจะไม่ทำอะไรมึงอีกแล้ว เราผู้ชายด้วยกัน ขอบใจนะที่ไม่โกรธกู เพื่อน กูนอนล่ะ "
ผมพูดเขินๆ แล้วเอื้อมมือไปตบไหล่ไอ้ธีระ 2-3 ที ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงไปอีกด้านหนึ่งเพื่อที่จะได้ไม่เผลอไปลูบหัวนมเพื่อน อีก แล้วจึงหลับตา ในใจก็คิดว่าโชคดีเหลือเกินที่ไอ้ธีระไม่โกรธผม และไม่สงสัยว่าผมเป็นเกย์ด้วย ต่อไปผมจะไม่หลุดพฤติกรรมแบบนี้กับไอ้ธีระและกับเพื่อนชายแท้คนอื่นๆ อีกแล้ว มันอันตรายเกินไป ถ้าความลับเกิดแตกขึ้นมามันจะยุ่งกันใหญ่ ผมนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเคลิ้มหลับไป
..............................

4 ทุ่ม
ที่เต็นท์ของไอ้สันติกับไอ้ปกป้อง
" ติ ติโว้ย นอนยังวะ "
ไอ้สันติสะดุ้ง รีบลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปที่ท้ายเต็นท์ มันเห็นท้ายเต็นท์เปิดโล่ง มีร่างของผู้ชายคนหนึ่งนั่งคุกเข่ารออยู่ตรงนั้น ไอ้สันติรีบถามผู้ชายคนนั้นทันที
" เฮ้ย ใครวะ มานั่งทำอะไรที่ท้ายเต็นท์กูเนี่ย "
ผู้ชายคนนั้นเอานิ้วชี้แตะปากเป็นสัญญาณให้เงียบๆ แล้วค่อยๆ คลานใกล้เข้ามาจนเกือบจะถึงปลายตีนของไอ้สันติอยู่แล้ว ไอ้สันติรีบห้าม
" บอกกูมาก่อน มึงเป็นใครวะ แล้วจะเข้ามาในเต็นท์กูทำไม ออกไปนะสัด "
" กูเอง กูเอง ไอ้บอมเพื่อนมึงไง ไอ้ห่า ขอกูเข้าไปหน่อย ข้างนอกมันน่ากลัวว่ะ "
พอไอ้สันติรู้ว่าเป็นไอ้บอมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดออกมาเบาๆ
" อ้าว มึงเองเหรอไอ้บอม กูก็นึกว่าใคร เอ้าเข้ามาก่อน ไอ้เหี้ย แล้วมึงมาหากูดึกๆ ดื่นๆ แบบเนี้ย มีอะไรรึเปล่าวะ "
ไอ้บอมซึ่งตอนนี้คลานเข้ามาในเต็นท์เรียบร้อยแล้ว รีบเอามือดันหน้าอกเปล่าเปลือยของไอ้สันติให้นอนราบลงไป ตัวมันเองก็นอนลงไปข้างๆ ไอ้สันติด้วย แล้วหันหน้ามาหาไอ้สันติ
" ไม่มีไรหรอก กูแค่อยากจะมานอนด้วยเท่านั้นแหละ กูเหงา อยากมีเพื่อนนอนด้วย นี่มึงถอดเสื้อนอนด้วยเหรอวะ "
ไอ้สันติพยักหน้า แล้วนอนจ้องหน้าไอ้บอมอย่างงงๆ แววตาของไอ้บอมมีประกายแปลกๆ จนมันรู้สึกกลัวๆ ยังไงพิกล เงียบไปซักพัก ไอ้สันติก็ถามไอ้บอมต่อ
" แล้วทำไมมึงไม่นอนที่เต็นท์มึงล่ะ "
ไอ้บอมอึกอัก ตอบไม่เต็มเสียง
" กูอยากนอนกับมึง "
ไอ้สันติฟังแล้วขนลุกเกรียว ไอ้บอมไม่รอช้ารีบโอบไหล่ของไอ้สันติเอาไว้ แล้วซุกหน้าลงไปดมต้นคออันแข็งแกร่งของมันทันที โอววว กลิ่นสาปชายแรงโคตรๆ หอมเหลือเกิน มือขวาก็บี้หัวนมสีดำตุ่มใหญ่ด้านซ้ายและด้านขวาไปด้วยอย่างมันส์มือ ส่วนมือซ้ายก็ลูบไปทั่วแผ่นอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามช้าๆ แต่แฝงไปด้วยความเงี่ยน ไอ้บอมลูบต่ำลงไปจนถึงหน้าท้อง และสะดือ ก่อนจะลูบขนดำพรืดที่ขึ้นจากสะดือลงไปจนสิ้นสุดที่หัวเข็มขัดสีทองที่ไอ้ สันติคาดอยู่ พอไอ้บอมลูบมาถึงจุดนี้ มันก็ทำท่าจะปลดหัวเข็มขัดของไอ้สันติออก ไอ้สันติรีบตะครุบมือของไอ้บอมเอาไว้แล้วพูดเสียงดัง
" เฮ้ย ไอ้เหี้ยบอม นี่มึงจะทำอะไรของมึงวะเนี่ย ลูบเนื้อลูบตัวกูยังไม่พอ นี่ยังจะควักควยกูออกมาเล่นอีกเหรอ "
ไอ้บอมเอามือออกจากหัวเข็มขัดของไอ้สันติ แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เป้ากางเกงของไอ้สันติ
" กูจะทำให้มึงมีความสุข ไม่เอาเหรอ "
" ความสุขเหี้ยไรล่ะ เล่นควยเนี่ยนะความสุข ไอ้สัตว์ พอๆ เลิกๆ ไอ้เหี้ย ที่แท้มึงก็เป็นเกย์นี่เอง มิน่าล่ะกูเห็นมึงมีท่าทางแปลกๆ มานานแล้ว ไม่นึกว่าจะเป็นพวกชอบเล่นตูดเล่นควยพวกเดียวกัน ไอ้สัตว์เอ๊ย กูนึกไม่ถึงจริงๆ เลยว่ะ "
ไอ้บอมไม่ได้สนใจคำพูดของไอ้สันติเพราะกำลังเงี่ยน มันรีบถามต่อ
" ขอกูดูควยมึงหน่อยได้มั๊ยวะ กูอยากเห็นว่าควยมึงเป็นยังไง จะเหมือนกับกูมั๊ย "
" ไม่เอา ผู้ชายด้วยกัน จะมาดูทำไมวะ ควยก็มีเหมือนๆ กันอยู่แล้ว ควยมึงก็มี ถ้ามึงอยากดูก็ถอดกางเกงดูเองสิ "
" งั้นขอกูจับควยมึงหน่อยได้มั๊ย จับจากข้างนอกก็ได้ กูอยากจับควยมึง "
" ไม่ได้โว้ย ไอ้เหี้ยนี่ มึงเองก็มีควย ทำไมไม่จับของมึงล่ะ มาจับของกูทำซากไร โรคจิตว่ะมึง "
ไอ้สันติตอบเสียงดังขึ้นทุกทีๆ แสดงว่ามันเริ่มโกรธแล้ว ไอ้บอมหน้าเจื่อนลง มันเลื่อนมือมาตบไหล่ไอ้สันติเบาๆ แล้วพูดช้าๆ
" โอเค ในเมื่อมึงไม่ชอบ กูก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจมึงมากไปกว่านี้แล้ว เพื่อน กูขอตัวกลับเต็นท์ก่อนล่ะ ขอโทษนะที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของมึง แล้วก็ขอโทษที่กูทำแบบนั้นกับมึงไป "
ไอ้บอมลุกขึ้นนั่ง แล้วทำท่าจะคลานออกจากเต็นท์ไป
" เดี๋ยวก่อนไอ้บอม "
ไอ้บอมหันมามอง ไอ้สันติยังคงนอนหลับตาอยู่ในท่าเดิม แต่ปากยังคงพูดอยู่
" กูขอถามมึงอีกคำเดียว ที่มึงมาที่เต็นท์กูนี่ เพื่อจะมาทำแบบนี้โดยเฉพาะใช่มั๊ย "
ไอ้บอมไม่รู้จะตอบว่าอะไรก็เลยเงียบ ไอ้สันติเลยพูดต่อ
" กูไม่ใช่เกย์ว่ะ โทษที "
ไอ้บอมรีบคลานออกจากเต็นท์ไอ้สันติด้วยความรวดเร็ว พอไอ้บอมออกไปแล้ว ไอ้สันติก็ลืมตาขึ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
" ไปพูดแบบนั้นกับมันทำไมวะ "
ไอ้ปกป้องซึ่งนอนเงียบๆ มาตลอดลืมตาขึ้น แล้วพูดขึ้นเป็นครั้งแรก ไอ้สันติพลิกตัวมาหาไอ้ปกป้องแล้วพูดกับมัน
" มึงจะว่ากูเหี้ยก็ยอม แต่กูไม่ชอบไอ้บอมว่ะ แม่งสกปรก กูไม่ให้มันดูดควยหรอก "
" อ๊ะ แต่กูว่าท่าทางมันจะดูดควยเก่งนะ ดูลีลามันตอนปลุกอารมณ์มึงสิ เซียนชิบหาย นี่ถ้าให้มันดูดควยนะ รับรองน้ำมึงแตกพรวดๆ แน่ มึงก็รู้ว่าพวกเกย์น่ะ ดูดควยเก่งจะตายห่า ดูอย่างเมื่อวานสิ "
" ใช่ ใช่ เมื่อวานแม่งสุดยอดจริงๆ เสียดายที่กูไม่แตก อ้าวเฮ้ย มึงพูดงี้ นี่แสดงว่าเมื่อกี้มึงแอบดูมาตลอดเหรอวะ ให้ตายสิ มึงนี่ร้ายจริงๆ กูก็นึกว่ามึงหลับสนิทซะอีก เออ ช่างเหอะ กูจะบอกอะไรให้นะ ถึงกูจะเงี่ยนแค่ไหน แต่กูก็เลือกคน เลือกหน้าเว้ย ถ้าสกปรกมากไป กูก็ไม่ให้ดูด "
มันหยุดพูดนิดนึงแล้วจึงพูดต่อ
" ตอนนี้นอนต่อเถอะว่ะ เดี๋ยวแม่งต้องมีเกย์มามุดเต็นท์อีกแน่ๆ คราวนี้ถ้าแม่งดูดี กูก็จะให้มันดูดควยกูซะที จะได้น้ำแตกแล้วก็หลับสบาย มาที่นี่ ก็ต้องอาศัยฝีปากเกย์เนี่ยแหละช่วยบำบัดความเงี่ยนของพวกเรา ช่วยไม่ได้นี่หว่า มึงว่ามั๊ย "
" เออว่ะ "
ไอ้ปกป้องตอบเบาๆ แล้วพลิกตัวไปอีกด้าน พร้อมกับหลับตา
................................

5 ทุ่ม
" ไอ้สันติ กูมาแล้ว "
ไอ้สันติลุกพรวดขึ้นทันที จ้องไปที่ท้ายเต็นท์ แล้วก็ยิ้มอย่างสะใจ ไอ้หนุ่มคนนั้นรีบคลานเข้ามาหามันทันที แล้วก็โถมเข้ากอดจูบไอ้สันติเป็นพัลวัน ไอ้สันติพยายามปัดป้องบ้างตามประสาชายแท้ๆ ที่ไม่ได้พิสวาสผู้ชายด้วยกัน โดยไม่ยอมให้ปากของไอ้หนุ่มสัมผัสกับปากของมันโดยตรง แล้วมันก็พูดว่า
" มาแล้วเหรอไอ้หมอก ตรงเวลาดีนี่หว่า เอ้าดูดควยกูเลย วันนี้เอาให้น้ำกูแตกเลยนะ เมื่อวานน้ำกูไม่ทันแตก แต่วันนี้รับรองแตกแน่นอน เอาเลยมึง เต็มที่เลย "
ไอ้สันติพูดแล้วก็กดกบาลไอ้หมอกลงไปตรงเป้ากางเกงตุงๆ ของมัน ไอ้หมอกรีบปลดเข็มขัด รูดซิป ดึงควยออกมาจากกางเกงใน แล้วครอบปากลงไปบนลำควยยาวใหญ่ของไอ้สันติอย่างไม่รอช้า ก่อนจะเลื่อนปากขึ้นลงๆๆ เพื่อดูดหัวควยสีแดงแป๊ดของไอ้สันติอย่างสะใจ เสียงดังจ๊วบๆๆๆๆ
" ซี๊ดดดดดดดดดด ดูดเก่งชิบหายเลยยยยยย เอาอีก เอาอีก ดูดแรงๆ เลยมึง "
ไอ้สันติกางขาอ้าซ่า กระแทกลำควยเข้าปากไอ้หมอกไม่ยอมหยุด ไอ้หมอกก็ดูดเอาๆ ราวกับกำลังดูดไอติมของโปรด อีกมือก็เล่นพวงไข่ของไอ้สันติไปด้วย ไม่นานน้ำกามข้นๆ ปริมาณมหาศาลก็พุ่งเข้าปากของไอ้หมอก มันรีบกลืนกินน้ำกามของไอ้สันติลงคอไปจนหมด ก่อนจะถอนปากออก แล้วจึงแลบลิ้นเลียปากแผล่บๆ ด้วยความอร่อย
" น้ำควยมึงหวานอร่อยดีว่ะ กูชอบ "
" ทำให้กูมั่ง ไอ้ติมึงแตกแล้ว เขยิบไปเลย คราวนี้ถึงตากูบ้าง อูยยยย เสียวควยยยย ควยกูแข็งแล้วววววว "
ไอ้ปกป้องซึ่งตอนนี้ถอดกางเกงออกหมดแล้ว นอนแผ่อ้าซ่า ควยสีดำลำยาวของมันตั้งเด่แถมกระดกดึ๊กๆ ด้วย ควยของไอ้ปกป้องยาวกว่าควยไอ้สันติ หัวควยแดงเถือกเป็นมันวาว พวงไข่ห้อยกองอยู่ใต้ลำควย มันร้องครางด้วยความเงี่ยนจัด แถมเอามือถอกหัวควยเข้าออกเข้าออกจนหัวควยบานแดงโร่ยังกะดอกเห็ด ไอ้สันติเขยิบออกไป เปิดทางให้ไอ้หมอกเข้ามานั่งคุกเข่าอยู่ตรงลำควยของไอ้ปกป้อง ไอ้หมอกรีบก้มลงดูดควยไอ้ปกป้องต่อทันที
จ๊วบๆๆๆๆๆ
จ๊วบๆๆๆๆๆ
" โอยยยย เสียวควยยยย สุดยอดเลยมึง สุดยอด โอยยยน้ำกูจะพุ่งแล้ววว เหี้ยเอ๊ยยย ซี๊ดดดดดด "
ไอ้ปกป้องครางเสียงหลง ร่างของมันบิดไปมาด้วยความเสียว ขาของมันเกร็งแถมสั่นพั่บๆ ด้วยความเสียวจัด ไอ้หมอกได้ทีรีบเอาลิ้นดุนรูควยของไอ้ปกป้องเล่นอย่างเมามัน แล้วถอนปากออกอมไว้แค่ตรงหัวควย ก่อนจะครอบปากลงไปจนมิดลำควยอีกครั้ง มันทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งจนไอ้ปกป้องทนไม่ไหว มันกดกบาลของไอ้หมอกลงแล้วด่าลั่น
" ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ย เสียวควย กูเสียวจนทนไม่ไหวแล้วววว ทำกูเสียวนักใช่มั๊ย ไอ้หัวควย แดกน้ำกูเลย ไอ้สัตว์ อยากแดกนักไม่ใช่เหรอ ควย นี่ นี่ น้ำกูออกแล้วโว้ยยยยย ซี๊ดดดดดดดด แดกเลยมึง แดกเลย "
วินาทีนั้น ไอ้ปกป้องก็กระแทกลำควยเข้าไปจนเกือบถึงคอหอยของไอ้หมอก แล้วฉีดน้ำเชื้อขาวข้นหวานมันออกมาจากรูควยมากมาย ไอ้หมอกรีบดูดเน้นๆ ที่หัวควย แล้วดูดแดกน้ำเชื้อร้อนๆ ข้นๆ ที่กระฉูดออกมาจากรูควยของผู้ชายแท้ๆ อย่างไม่รังเกียจ น้ำเชื้อร้อนๆ ปริมาณมากของไอ้ปกป้องสัมผัสเข้ากับลิ้นของไอ้หมอกเต็มๆ แล้วค้างอยู่ในปากซักพักก่อนจะไหลลงคอไป ให้ความรู้สึกสะใจมากๆ ไอ้ปกป้องแม่งเป็นคนแข็งแรงมาก กล้ามเป็นมัดๆ ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่ น้ำเชื้อที่มันปล่อยออกมาถึงได้ข้นและร้อนขนาดนี้ แม่งสุดยอดจริงๆ ที่ได้มีโอกาสแดกน้ำของมัน ไอ้หมอกคิดพลางดูดแดกน้ำเชื้อของไอ้ปกป้องจนถึงหยดสุดท้าย พอลำควยของไอ้ปกป้องเริ่มอ่อนตัว มันจึงเอาปากออกจากควย แล้วแลบลิ้นเลียปากอีกครั้ง
" น้ำควยมึงก็หวานอร่อยไม่แพ้น้ำของไอ้สันติเลย เค็มนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร น้ำร้อนกว่า แถมเยอะกว่าด้วย กูชอบว่ะ อร่อยดี "
ไอ้ปกป้องเอามือเช็ดน้ำเชื้อที่ยังเลอะอยู่ตรงปลายควย แล้วบอกไอ้หมอกว่า
" ขอบใจนะ มึงดูดควยเก่งจริงๆ "
ไอ้สันติพูดขึ้นมาบ้าง
" ขอบใจด้วยคนนะ มึงสุดยอดจริงๆ "
ไอ้หมอกยิ้มให้ทั้งคู่ แล้วพูดว่า
" ไม่เป็นไร กูยินดีบริการพวกมึงเสมอ แต่พรุ่งนี้กูไม่มาแล้วนะ กูจะไปบริการเต็นท์อื่นบ้าง หวังว่าคงมีโอกาสได้ดูดควยพวกมึงอีกนะ โชคดี ไว้เจอกันใหม่ กูไปล่ะ "
ไอ้หมอกพูดจบแล้วก็รีบคลานออกไปจากเต็นท์ทันที ไอ้ปกป้องกับไอ้สันติรีบเอาผ้าขนหนูมาปิดควยไว้โดยที่ไม่ได้ใส่กางเกง แล้วต่างก็ล้มลงนอนแผ่พลางหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน
" สนุกสุดยอดเลยว่ะ มันส์ควยมากๆ แต่เสียดายที่พรุ่งนี้แม่งไม่มาแล้ว "
" ช่างแม่งเหอะ เดี๋ยวก็มีคนอื่นมาแทน ไม่ต้องห่วง ไม่แน่พรุ่งนี้เราอาจจะได้เจออะไรที่เสียวๆ มันส์ๆ กว่านี้ก็ได้ แต่ตอนนี้นอนก่อนเหอะว่ะ พักผ่อนเยอะๆ ไข่จะได้ผลิตน้ำเชื้อมากๆ จะได้เอาไว้แตกพรุ่งนี้อีก กูล่ะอยากรู้จังว่าพรุ่งนี้ ใครจะมามุดเต็นท์วะ 5555 แค่คิดก็เสียวแล้ว "
" นั่นสิวะ 5555 เอ้า นอน ฝันดีเว้ย พรุ่งนี้เจอกัน "
" ฝันดีเช่นกัน เพื่อน "
...............................

ในเวลาเดียวกันนั่นเอง
หลังจากที่ไอ้บอมออกมาจากเต็นท์ของไอ้สันติกับไอ้ปกป้อง มันก็เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นซักพัก พลางครุ่นคิดว่าจะมุดเต็นท์ไหนต่อดี ขณะที่มันกำลังเดินคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อมันเบาๆ
" ไอ้บอม ไอ้บอม "
ไอ้บอมหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นมีใครนี่หว่า งั้นเสียงใครเรียกกูวะ ?
" ทางนี้ ทางนี้ มึงเข้ามาเลย "
เสียงดังออกมาจากเต็นท์ที่อยู่ข้างๆ ตีนของไอ้บอม มันนั่งยองๆ มองเต็นท์หลังนั้นอย่างสงสัย คนในเต็นท์นี้เรียกกูเหรอวะ แล้วนี่มันเต็นท์ของใครวะ ?
" เข้ามาเลยมึง เร็วๆ เดี๋ยวคนอื่นเห็น กูอยู่ในเต็นท์คนเดียว "
เสียงคุ้นๆ ว่ะ แต่กูจำไม่ได้ว่าใคร เอาวะ เข้าไปดูหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร ไอ้บอมตัดสินใจคลานเข้าไปในเต็นท์หลังนั้นทันที

พอไอ้บอมคลานเข้าไปในเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ไอ้คนที่รออยู่ข้างในก็ดึงตัวไอ้บอมเข้าไปกอดทันที แล้วบรรจงประกบปากเข้ากับปากของไอ้บอมอย่างหื่นกระหาย ไอ้บอมสะดุ้ง พยายามจ้องหน้าไอ้คนนั้นด้วยความอยากรู้ว่า ผู้ชายร่างเล็กที่กำลังดูดปากมันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้นเป็นใครกัน
ทันทีที่สายตาของไอ้บอมชินกับความมืด และเห็นหน้าของหนุ่มคนนั้นชัดเจนแล้ว ตาของมันก็เบิกโพลงอย่างคาดไม่ถึง มันถอนปากออกทันที แล้วพูดด้วยความแปลกใจปนอึ้ง
" มึงเองเหรอ ชอบแบบนี้ด้วยเหรอวะ ไอ้... "
ไอ้บอมยังพูดไม่ทันจบ หนุ่มคนนั้นก็รีบเอาปากมาแตะกับปากมันอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเอาลิ้นสอดเข้าไป ในปากไอ้บอม แล้วเริ่มต้นรัวลิ้นทันที ลิ้นของหนุ่มคนนี้นุ่มมาก แถมลีลาการรัวลิ้นของมันก็สุดยอด ไอ้บอมถึงกับหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขในขณะที่ลิ้นของมันก็ยังคงพันอยู่ กับลิ้นของหนุ่มคนนั้น
มัน 2 คนดูดปากรัวลิ้นกันอยู่นานจนหนำใจ แล้วหนุ่มคนนั้นก็ถอนปากออก หอมแก้มดำๆ ของไอ้บอมแรงๆ แล้วจัดการถอดเสื้อกางเกงและกางเกงในออก ไอ้บอมก็ทำแบบเดียวกับมัน ในที่สุดทั้งคู่ก็อยู่ในชุดวันเกิด แก้ผ้าล่อนจ้อน ควยลำใหญ่ของไอ้บอมห้อยแกว่งไกวไปมา หนุ่มคนนั้นไม่รอช้ารีบผลักไอ้บอมให้นอนหงายราบลงไป แล้วจึงเอื้อมมือมาถอกหัวควยของไอ้บอมลงจนสุด แล้วก้มลงดูดควยมันทันที
" ซี๊ดดดดดดดดดดด ดูดเก่งจังว่ะมึง "
ไอ้บอมร้องครางพร้อมกับอัดลำควยเข้าปากหนุ่มคนนั้นจนสุด มือซ้ายก็กดกบาลมันให้ดูดจนถึงโคนควย หนุ่มคนนั้นดูดควยไอ้บอมนานพอสมควรจนควยแข็งโด่จึงเอาปากออก แล้วล้มตัวลงนอนตะแคงข้างกอดไอ้บอมจนแน่น ควยของทั้งคู่ชนกันเป็นพัลวัน ไอ้บอมเอามือตบตูดหนุ่มคนนั้นแรงๆ หลายทีเป็นการปลุกอารมณ์ ตูดของไอ้หนุ่มนั่นเนียนมาก น่าเย็ดชิบหาย ไอ้บอมสุดจะอดใจไหว มันรีบเอานิ้วแยงรูตูดหนุ่มคนนั้นทันที หนุ่มคนนั้นสะดุ้งเฮือก แต่ก็ไม่ว่าอะไร ไอ้บอมแยงตูดหนุ่มคนนั้นไปเรื่อยๆ แม่งตูดฟิตจริงๆ สะอาดด้วย กูอดใจไม่ไหวแล้ว
อย่างนี้ต้องเย็ด !
ไอ้บอมรีบกระซิบข้างหูมันทันที
" ขอกูเย็ดตูดหน่อยนะมึง "
" เออ รออะไรอยู่วะ เย็ดกูเลย เร็วๆๆๆ กูเงี่ยนมากแล้ว "
ในเมื่อมันออกปากซะขนาดนี้ คนอย่างไอ้บอมจะไม่ตอบสนองมันก็กระไรอยู่ ไอ้บอมรีบลุกขึ้นนั่งคุกเข่า ไอ้คนนั้นยังคงนอนหงายอยู่ ไอ้บอมก้มลงไปถ่มน้ำลายตรงรูตูดจนชุ่มเพื่อให้เสียบได้ง่ายๆ เสร็จแล้วมันก็รีบถอกควยจนแข็งโด่ หัวควยบานเต็มที่ แล้วจับขาทั้ง 2 ข้างของไอ้คนนั้นมาพาดไว้บนไหล่ของมัน จับหัวควยถอกๆ จ่อไปตรงรูตูดแล้วเสียบพรวดเข้าไปเต็มแรง ควยครึ่งลำเข้าไปคาในรูตูดไอ้หนุ่มคนนั้นแทบจะทันที ไอ้คนนั้นสะดุ้งอีกครั้ง ร้องออกมา
" อา...เย็ดสดเลยเหรอวะมึง ไอ้เหี้ย แต่ก็ดี สะใจดี "
" แบบนี้แหละถึงใจดี ไม่ต้องใส่แม่งหรอกถุงยางน่ะ โห ตูดมึงฟิตดีจริงๆ เลย เอาล่ะกูจะลงมือเย็ดแล้วนะ "
ไอ้บอมพูดแล้วก็เริ่มโยกช้าๆ แล้วจึงเพิ่มจังหวะเป็นเร็วขึ้นๆ ควยลำใหญ่กระแทกเข้าใส่รูตูดไอ้หนุ่มคนนั้นไม่ยั้ง เสียงดังฉึบๆๆๆๆ ไอ้บอมกระเด้าเอากระเด้าเอาอย่างสะใจพร้อมกับซี๊ดปากไปด้วย เสียวควยชิบหายเลย ! แม่งรูตูดไอ้เหี้ยนี่มันฟิตจริงๆ เย็ดมันชิบหาย แบบนี้กูชอบ!
" เย็ดแรงๆ สิวะ ไม่สะใจกูเลย แรงๆ โว้ย "
ไอ้คนนั้นด่าลั่น ไอ้บอมได้ยินจึงเร่งกระแทกลำควยแรงขึ้นกว่าเดิม แล้วกดควยเข้าไปจนมิดรูตูด ควยของไอ้หนุ่มคนนั้นแข็งขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงความเสียวของมัน ไอ้บอมไม่รอช้ารีบกระแทกควยเข้าไปจนสุด ลำควยของไอ้บอมเป็นมันวาวชุ่มไปด้วยน้ำลายทำให้เย็ดตูดได้ง่าย ไอ้หนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างสะใจที่เห็นรูตูดของมันโดนเพชฌฆาตตาเดียวทะลวงไม่ ยั้งแบบนั้น ทั้งมันส์ทั้งเสียว สะใจจริงๆ ตูดจะบานก็ไม่กลัว ตอนนี้ขอเสียวให้สุดๆ ก่อนละกัน
เสียงควยกระแทกรูตูดดัง ฉึบๆๆๆๆ เป็นจังหวะ ไอ้หนุ่มคนนั้นพูดเสียงสั่นๆ
" เก่งมาก มึงเย็ดเก่งมากเพื่อน แรงๆ กว่านี้อีกสิวะ นั่นอย่างนั้น โอยเสียวตูดจริงๆ เลย แม่งคนเหี้ยอะไรวะเย็ดมันส์ชิบหาย เย็ดเข้าไป เย็ดเข้าไป ตูดบานกูไม่กลัว กลัวตูดจะไม่บาน แรงๆ เลยไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย กูอยากอยากตูดบานโว้ยยยยยยยยย "
" อยากตูดบานมากนักใช่มั๊ยไอ้เหี้ย ได้เลย นี่ คนอย่างมึงต้องเจอแบบนี้ เอาให้แม่งตูดบานเลย "
ไอ้บอมคำรามลั่น แล้วจงใจยัดควยพรวดเข้าไปจนสุดรูตูดก่อนจะอัดกระแทกไม่ยั้ง ฉึบๆๆๆๆ ปับๆๆๆๆ หัวควยบานแดงเถือกของไอ้บอมชนรูตูดของไอ้คนนั้นเต็มๆ มันครางอย่างสะใจพร้อมกับกัดฟันด้วยความเสียวแบบสุดๆ
ไอ้บอมตั้งหน้าตั้งตากระแทกควยดุ้นใหญ่เข้าตูดไม่ยอมหยุด บางครั้งมันก็ถอนลำควยออกมาจนเกือบจะหลุดออกจากรูตูด แล้วก็กลับเสียบพรวดเข้าไปใหม่จนลึกแบบสุดๆ ลีลาการเย็ดของไอ้บอมสุดยอดมาก ไข่สองใบของมันแกว่งกระทบรูตูดของไอ้หนุ่มคนนั้นตลอดเวลา เล่นเอาไอ้หนุ่มคนนั้นน้ำตาไหลด้วยความเสียวปนสะใจ มือของไอ้บอมก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ มันเอามือมาลูบหน้าอกและเล่นหัวนมของไอ้หนุ่มคนนั้นไปด้วย ไอ้คนนั้นสุดจะทนไหว ร้องออกมาด้วยความเงี่ยนจัด
" นั่งเทียน ขอกูนั่งเทียนหน่อย กูทนไม่ไหวแล้ว กูอยากนั่งเทียน "
ไอ้บอมได้ยินจึงถอนลำควยออกจากรูตูดที่โดนควยทะลวงจนบานเป็นรูโบ๋ แล้วล้มลงนอนหงาย ไอ้หนุ่มคนนั้นขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนควยที่ตั้งเด่ของไอ้บอมทันที มันนั่งคร่อมลงไปอย่างง่ายดายเนื่องจากรูตูดของมันบานเรียบร้อยแล้ว แล้วจึงค่อยๆ โยกตูดขึ้นลงๆ รับรสแห่งความเสียวอย่างเต็มที่ มันนั่งเทียนไปซักพัก ไอ้บอมก็บอกมันว่า
" ซี๊ดดดดดดดดดดดด น้ำกูจะออกแล้ว ขอท่าเดิมอีกรอบเถอะ กูอยากจะให้น้ำแตกท่านั้น ซี๊ดดดดด ไม่ไหวแล้ว "
ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ไม่ขัดข้อง นอนหงายลงไปเหมือนเดิม ไอ้บอมจับขาทั้ง 2 ข้างของมันพาดไว้ที่ไหล่แบบเดิม แล้วกระเด้ารูตูดบานๆ ของมันต่อ ควยของไอ้บอมแข็งเหมือนหิน เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมามากมาย หยาดแห่งความเสียวไหลมารวมกันที่หัวควยแล้ว เตรียมพร้อมที่กระฉูดออกมา ไอ้บอมกัดฟันกรอด พยายามอดทนที่จะไม่หลั่งออกมาตอนนี้ มันหลับตาลง แต่ยังคงกระเด้าควยอยู่ เสียงดังฉึบๆๆๆ ความเสียวเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มันเสียบควยเข้าไปในรูตูดของไอ้หนุ่มนั่น มันแทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ไม่ไหวแล้ว กูทนไม่ไหวแล้ว ! ไอ้บอมตัดสินใจที่จะไม่ทนอีกต่อไป ลูกน้องเหนียวๆ ข้นๆ ของกู มันมารออยู่ตรงรูควยเต็มไปหมด คงอยากออกมาชมโลกจะแย่อยู่แล้ว ถึงเวลาที่ลูกพี่อย่างกูจะได้ปล่อยให้มันเป็นอิสระแล้ว ไอ้เหี้ยเอ๊ย ! ไม่ไหวแล้ววววว
" โอยยยยยย กูไม่ไหวแล้ว ออกแล้ว น้ำกูออกแล้วโว้ยยยย ซี๊ดดดดดดดดดด "
ไอ้บอมพูดจบก็ควักควยออกมาจากรูตูดแล้วปลิ้นหัวควยลงจนสุด น้ำกามข้นคลั่กปรี๊ดแรกพุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยแทบจะทันที มันพุ่งเฉี่ยวกบาลของไอ้หนุ่มคนนั้นไปนิดเดียว ไอ้บอมครางลั่น มือก็ถอกควยเข้าออกเข้าออกไม่ยอมหยุด น้ำกามขาวๆ ข้นๆ ของมันพุ่งออกมาจากรูควยอย่างต่อเนื่องปรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ ราดเต็มหน้าท้องของไอ้หนุ่มคนนั้น ไอ้หนุ่มคนนั้นนอนมองอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่าไอ้บอมจะหลั่งน้ำกามออกมาเยอะขนาดนี้ เยอะเหี้ยๆ ไอ้บอมนั่งคุกเข่าหลั่งน้ำกามอยู่นานกว่าน้ำจะออกมาหมด พอน้ำกามของมันออกมาหมดแล้ว ไอ้บอมก็เอามือมาชักควยของไอ้หนุ่มคนนั้นที่ยังคงนอนแผ่ควยโด่อยู่ ชักไม่กี่ทีน้ำกามของมันก็แตกกระจาย แต่ปริมาณน้อยกว่าน้ำไอ้บอมหลายเท่า จังหวะที่มันน้ำแตก ไอ้บอมรีบเอาปากอมหัวควยมัน แล้วดูดกินน้ำกามเค็มๆ ของไอ้หนุ่มคนนั้นไปจนหมด
พอไอ้หนุ่มคนนั้นหลั่งออกมาหมด มันก็เอานิ้วลูบน้ำกามของไอ้บอมที่เนืองนองอยู่ตรงหน้าท้องมันมาดูดแดกเล่น หวานอร่อยดีว่ะ มันคิดในใจ ส่วนไอ้บอมก็รีบแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็บอกว่า
" กูกลับเต็นท์ไปนอนก่อนล่ะ วันนี้กูสนุกมากเลย เย็ดกับมึงเสียวดี ตูดมึงฟิตดีว่ะ ถามจริงเคยโดนเย็ดมาบ่อยมั๊ยวะ "
" เคยโดนมาไม่กี่ครั้งเองว่ะ กูกลัวตูดบาน กูจะให้เย็ดเฉพาะคนที่กูถูกใจจริงๆ "
" 555 ดีๆ แต่วันนี้ตูดมึงก็บานแล้วนะ ไอ้สัตว์ ไว้ถ้ามีโอกาสกูจะมาเย็ดมึงอีก เอาให้ตูดบานกว่าวันนี้หลายเท่าเลย วันนี้กูไปก่อนล่ะ ขอบใจนะ ไอ้.. "
ไอ้บอมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้หนุ่มคนนั้นก็สอดขึ้นมาก่อน
" เออ คืนไหนว่างๆ แวะมาที่เต็นท์กูอีกนะ กูนอนคนเดียวทุกคืนแหละ คู่นอนกูไปนอนเต็นท์อื่นว่ะ แต่นอนคนเดียวแบบนี้ก็ดี จะได้โดนเย็ดไม่ซ้ำหน้า เสียวตูดดีว่ะ กูชอบโดนเย็ดมากเลย คืนไหนไม่โดนเย็ดแม่งนอนไม่หลับว่ะ คันตูดชิบหาย "
" ไอ้เหี้ย ! พูดออกมาได้ไม่อายปาก เวลามึงเงี่ยนเนี่ยพูดเก่งชิบหาย ทีตอนกลางวันน่ะโคตรจะเรียบร้อยเลย ยังกะคนละคนแน่ะ เออ แต่ก็ตามใจมึงนะ อย่าให้คนอื่นเขาเย็ดบ่อยนักล่ะ เดี๋ยวตูดมึงจะบานเกินไป เก็บไว้ให้กูเย็ดบ้าง กูชอบเย็ดตูดฟิตๆ มากกว่า บานมากไปแม่งไม่มันส์ "
" ได้เลยเพื่อน แล้วอย่าไปบอกใครล่ะว่ากูให้มึงเย็ดตูด ไม่งั้นมึงโดนตีนแน่ๆ "
" ไม่ต้องห่วง เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ จะเป็นความลับระหว่างเรา 2 คนเท่านั้น จะไม่มีใครรู้เด็ดขาด กูไปก่อนล่ะ หลับให้สบายนะมึง ใส่เสื้อผ้าด้วยนะมึง อย่าแก้ผ้านอน เดี๋ยวเป็นหวัด "
" โอเค "
ไอ้บอมโน้มตัวลงไปหอมแก้มไอ้หนุ่มคนนั้นเบาๆ 1 ที ก่อนจะจูบลา แล้วจึงบีบต้นแขนซ้ายขวาที่สักรูปกงจักรสีดำเอาไว้ข้างละ 1 รูป ไอ้หนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนแต่เปี่ยมด้วยความสุข ไอ้บอมยิ้มตอบนิดนึงแล้วจึงคลานออกจากเต็นท์ แล้วเดินกลับเต็นท์ของตนเอง
................

ตี 1

" ตื่นโว้ยหนุ่ม ได้เวลาไปเป็นยามแล้วมึง "
ไอ้ธีระเขย่าตัวผม ผมลืมตาตื่นขึ้น ตี 1 แล้วเหรอวะเนี่ย ต้องไปเป็นยามอีกแล้ว ผมรีบลุกขึ้นนั่งด้วยความเบื่อหน่าย ไอ้ธีระมองหน้าผมแล้วพูดค่อยๆ
" ไปกันเหอะว่ะ แต่งครึ่งท่อนแบบนี้แหละ ไปเดินตรวจรอบที่พักซักพัก แล้วก็แอบไปนั่งพักก็ได้ ไม่มีใครรู้หรอก ครูฝึกแม่งหลับหมดแล้ว นั่งคุยกัน แป๊ปเดียวก็ตี 3 แล้วว่ะ "
" เออ ไปก็ไปว่ะ ฮ้าววววว กูง่วงจังว่ะ "
ผมหาวหวอดๆ แต่ก็จำใจต้องคลานออกจากเต็นท์เพื่อไปเป็นยามตามที่ครูฝึกมอบหมาย อย่างน้อยปีนี้ผมก็ยังมีเพื่อนอยู่ยามด้วย ไม่เหมือนปีที่แล้วที่อยู่ยามคนเดียว ก็ดีครับ มีเพื่อนเป็นยามด้วยจะได้ไม่เหงา คุยกันได้ และบางทีอาจจะเกิดเรื่องสนุกๆ ขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้

พอไอ้บอมคลานเข้าไปในเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ไอ้คนที่รออยู่ข้างในก็ดึงตัวไอ้บอมเข้าไปกอดทันที แล้วบรรจงประกบปากเข้ากับปากของไอ้บอมอย่างหื่นกระหาย ไอ้บอมสะดุ้ง พยายามจ้องหน้าไอ้คนนั้นด้วยความอยากรู้ว่า ผู้ชายร่างเล็กที่กำลังดูดปากมันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้นเป็นใครกัน
ทันทีที่สายตาของไอ้บอมชินกับความมืด และเห็นหน้าของหนุ่มคนนั้นชัดเจนแล้ว ตาของมันก็เบิกโพลงอย่างคาดไม่ถึง มันถอนปากออกทันที แล้วพูดด้วยความแปลกใจปนอึ้ง
" มึงเองเหรอ ชอบแบบนี้ด้วยเหรอวะ ไอ้... "
ไอ้บอมยังพูดไม่ทันจบ หนุ่มคนนั้นก็รีบเอาปากมาแตะกับปากมันอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเอาลิ้นสอดเข้าไป ในปากไอ้บอม แล้วเริ่มต้นรัวลิ้นทันที ลิ้นของหนุ่มคนนี้นุ่มมาก แถมลีลาการรัวลิ้นของมันก็สุดยอด ไอ้บอมถึงกับหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขในขณะที่ลิ้นของมันก็ยังคงพันอยู่ กับลิ้นของหนุ่มคนนั้น
มัน 2 คนดูดปากรัวลิ้นกันอยู่นานจนหนำใจ แล้วหนุ่มคนนั้นก็ถอนปากออก หอมแก้มดำๆ ของไอ้บอมแรงๆ แล้วจัดการถอดเสื้อกางเกงและกางเกงในออก ไอ้บอมก็ทำแบบเดียวกับมัน ในที่สุดทั้งคู่ก็อยู่ในชุดวันเกิด แก้ผ้าล่อนจ้อน ควยลำใหญ่ของไอ้บอมห้อยแกว่งไกวไปมา หนุ่มคนนั้นไม่รอช้ารีบผลักไอ้บอมให้นอนหงายราบลงไป แล้วจึงเอื้อมมือมาถอกหัวควยของไอ้บอมลงจนสุด แล้วก้มลงดูดควยมันทันที
" ซี๊ดดดดดดดดดดด ดูดเก่งจังว่ะมึง "
ไอ้บอมร้องครางพร้อมกับอัดลำควยเข้าปากหนุ่มคนนั้นจนสุด มือซ้ายก็กดกบาลมันให้ดูดจนถึงโคนควย หนุ่มคนนั้นดูดควยไอ้บอมนานพอสมควรจนควยแข็งโด่จึงเอาปากออก แล้วล้มตัวลงนอนตะแคงข้างกอดไอ้บอมจนแน่น ควยของทั้งคู่ชนกันเป็นพัลวัน ไอ้บอมเอามือตบตูดหนุ่มคนนั้นแรงๆ หลายทีเป็นการปลุกอารมณ์ ตูดของไอ้หนุ่มนั่นเนียนมาก น่าเย็ดชิบหาย ไอ้บอมสุดจะอดใจไหว มันรีบเอานิ้วแยงรูตูดหนุ่มคนนั้นทันที หนุ่มคนนั้นสะดุ้งเฮือก แต่ก็ไม่ว่าอะไร ไอ้บอมแยงตูดหนุ่มคนนั้นไปเรื่อยๆ แม่งตูดฟิตจริงๆ สะอาดด้วย กูอดใจไม่ไหวแล้ว
อย่างนี้ต้องเย็ด !
ไอ้บอมรีบกระซิบข้างหูมันทันที
" ขอกูเย็ดตูดหน่อยนะมึง "
" เออ รออะไรอยู่วะ เย็ดกูเลย เร็วๆๆๆ กูเงี่ยนมากแล้ว "
ในเมื่อมันออกปากซะขนาดนี้ คนอย่างไอ้บอมจะไม่ตอบสนองมันก็กระไรอยู่ ไอ้บอมรีบลุกขึ้นนั่งคุกเข่า ไอ้คนนั้นยังคงนอนหงายอยู่ ไอ้บอมก้มลงไปถ่มน้ำลายตรงรูตูดจนชุ่มเพื่อให้เสียบได้ง่ายๆ เสร็จแล้วมันก็รีบถอกควยจนแข็งโด่ หัวควยบานเต็มที่ แล้วจับขาทั้ง 2 ข้างของไอ้คนนั้นมาพาดไว้บนไหล่ของมัน จับหัวควยถอกๆ จ่อไปตรงรูตูดแล้วเสียบพรวดเข้าไปเต็มแรง ควยครึ่งลำเข้าไปคาในรูตูดไอ้หนุ่มคนนั้นแทบจะทันที ไอ้คนนั้นสะดุ้งอีกครั้ง ร้องออกมา
" อา...เย็ดสดเลยเหรอวะมึง ไอ้เหี้ย แต่ก็ดี สะใจดี "
" แบบนี้แหละถึงใจดี ไม่ต้องใส่แม่งหรอกถุงยางน่ะ โห ตูดมึงฟิตดีจริงๆ เลย เอาล่ะกูจะลงมือเย็ดแล้วนะ "
ไอ้บอมพูดแล้วก็เริ่มโยกช้าๆ แล้วจึงเพิ่มจังหวะเป็นเร็วขึ้นๆ ควยลำใหญ่กระแทกเข้าใส่รูตูดไอ้หนุ่มคนนั้นไม่ยั้ง เสียงดังฉึบๆๆๆๆ ไอ้บอมกระเด้าเอากระเด้าเอาอย่างสะใจพร้อมกับซี๊ดปากไปด้วย เสียวควยชิบหายเลย ! แม่งรูตูดไอ้เหี้ยนี่มันฟิตจริงๆ เย็ดมันชิบหาย แบบนี้กูชอบ!
" เย็ดแรงๆ สิวะ ไม่สะใจกูเลย แรงๆ โว้ย "
ไอ้คนนั้นด่าลั่น ไอ้บอมได้ยินจึงเร่งกระแทกลำควยแรงขึ้นกว่าเดิม แล้วกดควยเข้าไปจนมิดรูตูด ควยของไอ้หนุ่มคนนั้นแข็งขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงความเสียวของมัน ไอ้บอมไม่รอช้ารีบกระแทกควยเข้าไปจนสุด ลำควยของไอ้บอมเป็นมันวาวชุ่มไปด้วยน้ำลายทำให้เย็ดตูดได้ง่าย ไอ้หนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างสะใจที่เห็นรูตูดของมันโดนเพชฌฆาตตาเดียวทะลวงไม่ ยั้งแบบนั้น ทั้งมันส์ทั้งเสียว สะใจจริงๆ ตูดจะบานก็ไม่กลัว ตอนนี้ขอเสียวให้สุดๆ ก่อนละกัน
เสียงควยกระแทกรูตูดดัง ฉึบๆๆๆๆ เป็นจังหวะ ไอ้หนุ่มคนนั้นพูดเสียงสั่นๆ
" เก่งมาก มึงเย็ดเก่งมากเพื่อน แรงๆ กว่านี้อีกสิวะ นั่นอย่างนั้น โอยเสียวตูดจริงๆ เลย แม่งคนเหี้ยอะไรวะเย็ดมันส์ชิบหาย เย็ดเข้าไป เย็ดเข้าไป ตูดบานกูไม่กลัว กลัวตูดจะไม่บาน แรงๆ เลยไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย กูอยากอยากตูดบานโว้ยยยยยยยยย "
" อยากตูดบานมากนักใช่มั๊ยไอ้เหี้ย ได้เลย นี่ คนอย่างมึงต้องเจอแบบนี้ เอาให้แม่งตูดบานเลย "
ไอ้บอมคำรามลั่น แล้วจงใจยัดควยพรวดเข้าไปจนสุดรูตูดก่อนจะอัดกระแทกไม่ยั้ง ฉึบๆๆๆๆ ปับๆๆๆๆ หัวควยบานแดงเถือกของไอ้บอมชนรูตูดของไอ้คนนั้นเต็มๆ มันครางอย่างสะใจพร้อมกับกัดฟันด้วยความเสียวแบบสุดๆ
ไอ้บอมตั้งหน้าตั้งตากระแทกควยดุ้นใหญ่เข้าตูดไม่ยอมหยุด บางครั้งมันก็ถอนลำควยออกมาจนเกือบจะหลุดออกจากรูตูด แล้วก็กลับเสียบพรวดเข้าไปใหม่จนลึกแบบสุดๆ ลีลาการเย็ดของไอ้บอมสุดยอดมาก ไข่สองใบของมันแกว่งกระทบรูตูดของไอ้หนุ่มคนนั้นตลอดเวลา เล่นเอาไอ้หนุ่มคนนั้นน้ำตาไหลด้วยความเสียวปนสะใจ มือของไอ้บอมก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ มันเอามือมาลูบหน้าอกและเล่นหัวนมของไอ้หนุ่มคนนั้นไปด้วย ไอ้คนนั้นสุดจะทนไหว ร้องออกมาด้วยความเงี่ยนจัด
" นั่งเทียน ขอกูนั่งเทียนหน่อย กูทนไม่ไหวแล้ว กูอยากนั่งเทียน "
ไอ้บอมได้ยินจึงถอนลำควยออกจากรูตูดที่โดนควยทะลวงจนบานเป็นรูโบ๋ แล้วล้มลงนอนหงาย ไอ้หนุ่มคนนั้นขึ้นไปนั่งคร่อมลงบนควยที่ตั้งเด่ของไอ้บอมทันที มันนั่งคร่อมลงไปอย่างง่ายดายเนื่องจากรูตูดของมันบานเรียบร้อยแล้ว แล้วจึงค่อยๆ โยกตูดขึ้นลงๆ รับรสแห่งความเสียวอย่างเต็มที่ มันนั่งเทียนไปซักพัก ไอ้บอมก็บอกมันว่า
" ซี๊ดดดดดดดดดดดด น้ำกูจะออกแล้ว ขอท่าเดิมอีกรอบเถอะ กูอยากจะให้น้ำแตกท่านั้น ซี๊ดดดดด ไม่ไหวแล้ว "
ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ไม่ขัดข้อง นอนหงายลงไปเหมือนเดิม ไอ้บอมจับขาทั้ง 2 ข้างของมันพาดไว้ที่ไหล่แบบเดิม แล้วกระเด้ารูตูดบานๆ ของมันต่อ ควยของไอ้บอมแข็งเหมือนหิน เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมามากมาย หยาดแห่งความเสียวไหลมารวมกันที่หัวควยแล้ว เตรียมพร้อมที่กระฉูดออกมา ไอ้บอมกัดฟันกรอด พยายามอดทนที่จะไม่หลั่งออกมาตอนนี้ มันหลับตาลง แต่ยังคงกระเด้าควยอยู่ เสียงดังฉึบๆๆๆ ความเสียวเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มันเสียบควยเข้าไปในรูตูดของไอ้หนุ่มนั่น มันแทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
ไม่ไหวแล้ว กูทนไม่ไหวแล้ว ! ไอ้บอมตัดสินใจที่จะไม่ทนอีกต่อไป ลูกน้องเหนียวๆ ข้นๆ ของกู มันมารออยู่ตรงรูควยเต็มไปหมด คงอยากออกมาชมโลกจะแย่อยู่แล้ว ถึงเวลาที่ลูกพี่อย่างกูจะได้ปล่อยให้มันเป็นอิสระแล้ว ไอ้เหี้ยเอ๊ย ! ไม่ไหวแล้ววววว
" โอยยยยยย กูไม่ไหวแล้ว ออกแล้ว น้ำกูออกแล้วโว้ยยยย ซี๊ดดดดดดดดดด "
ไอ้บอมพูดจบก็ควักควยออกมาจากรูตูดแล้วปลิ้นหัวควยลงจนสุด น้ำกามข้นคลั่กปรี๊ดแรกพุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยแทบจะทันที มันพุ่งเฉี่ยวกบาลของไอ้หนุ่มคนนั้นไปนิดเดียว ไอ้บอมครางลั่น มือก็ถอกควยเข้าออกเข้าออกไม่ยอมหยุด น้ำกามขาวๆ ข้นๆ ของมันพุ่งออกมาจากรูควยอย่างต่อเนื่องปรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ ราดเต็มหน้าท้องของไอ้หนุ่มคนนั้น ไอ้หนุ่มคนนั้นนอนมองอย่างตกตะลึง ไม่นึกว่าไอ้บอมจะหลั่งน้ำกามออกมาเยอะขนาดนี้ เยอะเหี้ยๆ ไอ้บอมนั่งคุกเข่าหลั่งน้ำกามอยู่นานกว่าน้ำจะออกมาหมด พอน้ำกามของมันออกมาหมดแล้ว ไอ้บอมก็เอามือมาชักควยของไอ้หนุ่มคนนั้นที่ยังคงนอนแผ่ควยโด่อยู่ ชักไม่กี่ทีน้ำกามของมันก็แตกกระจาย แต่ปริมาณน้อยกว่าน้ำไอ้บอมหลายเท่า จังหวะที่มันน้ำแตก ไอ้บอมรีบเอาปากอมหัวควยมัน แล้วดูดกินน้ำกามเค็มๆ ของไอ้หนุ่มคนนั้นไปจนหมด
พอไอ้หนุ่มคนนั้นหลั่งออกมาหมด มันก็เอานิ้วลูบน้ำกามของไอ้บอมที่เนืองนองอยู่ตรงหน้าท้องมันมาดูดแดกเล่น หวานอร่อยดีว่ะ มันคิดในใจ ส่วนไอ้บอมก็รีบแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย แล้วก็บอกว่า
" กูกลับเต็นท์ไปนอนก่อนล่ะ วันนี้กูสนุกมากเลย เย็ดกับมึงเสียวดี ตูดมึงฟิตดีว่ะ ถามจริงเคยโดนเย็ดมาบ่อยมั๊ยวะ "
" เคยโดนมาไม่กี่ครั้งเองว่ะ กูกลัวตูดบาน กูจะให้เย็ดเฉพาะคนที่กูถูกใจจริงๆ "
" 555 ดีๆ แต่วันนี้ตูดมึงก็บานแล้วนะ ไอ้สัตว์ ไว้ถ้ามีโอกาสกูจะมาเย็ดมึงอีก เอาให้ตูดบานกว่าวันนี้หลายเท่าเลย วันนี้กูไปก่อนล่ะ ขอบใจนะ ไอ้.. "
ไอ้บอมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้หนุ่มคนนั้นก็สอดขึ้นมาก่อน
" เออ คืนไหนว่างๆ แวะมาที่เต็นท์กูอีกนะ กูนอนคนเดียวทุกคืนแหละ คู่นอนกูไปนอนเต็นท์อื่นว่ะ แต่นอนคนเดียวแบบนี้ก็ดี จะได้โดนเย็ดไม่ซ้ำหน้า เสียวตูดดีว่ะ กูชอบโดนเย็ดมากเลย คืนไหนไม่โดนเย็ดแม่งนอนไม่หลับว่ะ คันตูดชิบหาย "
" ไอ้เหี้ย ! พูดออกมาได้ไม่อายปาก เวลามึงเงี่ยนเนี่ยพูดเก่งชิบหาย ทีตอนกลางวันน่ะโคตรจะเรียบร้อยเลย ยังกะคนละคนแน่ะ เออ แต่ก็ตามใจมึงนะ อย่าให้คนอื่นเขาเย็ดบ่อยนักล่ะ เดี๋ยวตูดมึงจะบานเกินไป เก็บไว้ให้กูเย็ดบ้าง กูชอบเย็ดตูดฟิตๆ มากกว่า บานมากไปแม่งไม่มันส์ "
" ได้เลยเพื่อน แล้วอย่าไปบอกใครล่ะว่ากูให้มึงเย็ดตูด ไม่งั้นมึงโดนตีนแน่ๆ "
" ไม่ต้องห่วง เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ จะเป็นความลับระหว่างเรา 2 คนเท่านั้น จะไม่มีใครรู้เด็ดขาด กูไปก่อนล่ะ หลับให้สบายนะมึง ใส่เสื้อผ้าด้วยนะมึง อย่าแก้ผ้านอน เดี๋ยวเป็นหวัด "
" โอเค "
ไอ้บอมโน้มตัวลงไปหอมแก้มไอ้หนุ่มคนนั้นเบาๆ 1 ที ก่อนจะจูบลา แล้วจึงบีบต้นแขนซ้ายขวาที่สักรูปกงจักรสีดำเอาไว้ข้างละ 1 รูป ไอ้หนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนแต่เปี่ยมด้วยความสุข ไอ้บอมยิ้มตอบนิดนึงแล้วจึงคลานออกจากเต็นท์ แล้วเดินกลับเต็นท์ของตนเอง
................

ตี 1

" ตื่นโว้ยหนุ่ม ได้เวลาไปเป็นยามแล้วมึง "
ไอ้ธีระเขย่าตัวผม ผมลืมตาตื่นขึ้น ตี 1 แล้วเหรอวะเนี่ย ต้องไปเป็นยามอีกแล้ว ผมรีบลุกขึ้นนั่งด้วยความเบื่อหน่าย ไอ้ธีระมองหน้าผมแล้วพูดค่อยๆ
" ไปกันเหอะว่ะ แต่งครึ่งท่อนแบบนี้แหละ ไปเดินตรวจรอบที่พักซักพัก แล้วก็แอบไปนั่งพักก็ได้ ไม่มีใครรู้หรอก ครูฝึกแม่งหลับหมดแล้ว นั่งคุยกัน แป๊ปเดียวก็ตี 3 แล้วว่ะ "
" เออ ไปก็ไปว่ะ ฮ้าววววว กูง่วงจังว่ะ "
ผมหาวหวอดๆ แต่ก็จำใจต้องคลานออกจากเต็นท์เพื่อไปเป็นยามตามที่ครูฝึกมอบหมาย อย่างน้อยปีนี้ผมก็ยังมีเพื่อนอยู่ยามด้วย ไม่เหมือนปีที่แล้วที่อยู่ยามคนเดียว ก็ดีครับ มีเพื่อนเป็นยามด้วยจะได้ไม่เหงา คุยกันได้ และบางทีอาจจะเกิดเรื่องสนุกๆ ขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้

ตอนที่ 9

ที่เต็นท์ถัดจากเต็นท์ของผมไป 4 หลัง
" อา....ซี๊ดดดดดดด.. ทำไมมันสยิวอย่างนี้วะ แม่งสุดๆ ไปเลย "
" เบาๆ สิวะไอ้ตี๋ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินหรอก "
" ซี๊ดดดดดด ก็กูเสียวนี่หว่า มึงเล่นไซ้กูทั้งตัวแบบนี้ จะไม่ให้กูร้องครางได้ไงวะ อือ... มีความสุขจังเลยว่ะ "
ไอ้ตี๋พูดไปครางไป แล้วซุกหน้าลงไปตรงซอกคอดำๆ ของไอ้หนุ่มเพื่อนของมัน ก่อนจะลากลิ้นต่ำลงไปถึงหัวนม แล้วฉกแรงๆ รอบหัวนมของเพื่อนรัก เพื่อนของมันร้องซี๊ดดดด..แล้วเอามือลูบหูลูบคอของไอ้ตี๋ด้วยความเงี่ยน เต็มพิกัด ทั้งคู่อยู่ในท่านอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน แก้ผ้าล่อนจ้อน ควย 2 สีชนกันเต็มๆ ไอ้ตี๋เอาปากชนปากเพื่อนไว้แล้วกอดเพื่อนซะแน่น หลับตาพริ้มราวกับได้ขึ้นสววรค์ ส่วนเพื่อนของมันก็เอามือบีบตูดขาวเนียนของไอ้ตี๋แรงๆ ไอ้ตี๋คลายอ้อมกอดแล้วสอดมือเข้าไปตรงกลางตัวของมัน 2 คน ถอกลำควยของเพื่อนอย่างมันส์มือ เพื่อนของมันก็สอดมือมาตรงกลางเพื่อถอกลำควยสีขาวราวกับงาช้างของไอ้ตี๋ เช่นกัน ควยของไอ้ตี๋แข็งโป้ก หัวควยบานใหญ่มีน้ำใสๆ ซึมออกมาเยอะแยะ หัวควยของไอ้ตี๋เป็นสีชมพูสด คอควยเป็นแถบใหญ่สะอาดสะอ้าน ลำควยขาวตั้งโด่ชี้ขึ้นไปที่สะดือ ไข่ขาวจั๊ว 2 ใบแกว่งไปมามีเส้นเลือดฝอยขึ้นเต็มหนังหุ้มไข่เลย เพื่อนของมันทั้งถอกควย ชักควย เอามือดึงไข่ของไอ้ตี๋จนมันร้องครางเสียงหลง น้ำหูน้ำตาไหลพราก ควยขาวๆ สั่นดึ้กๆ ด้วยแรงเงี่ยน
" ซี๊ดดดดดด...ไม่ไหวแล้ว.. เสียบดีกว่า เสียบเลยมึง เร็วๆๆ ตูดกูต้องการควยมึง "
ไอ้ตี๋พูดจบก็ลุกขึ้นนั่งคุกเข่า แล้วทำท่าคลาน 4 ขาเหมือนหมา โก่งตูดขาวเนียนให้เพื่อนดู เพื่อนของมันตบตูดไอ้ตี๋แล้วน้ำลายไหล เพราะมันเสือกเห็นร่องตูดสีชมพูอ่อนๆ ของไอ้ตี๋แบบเต็มๆ เป็นครั้งแรก ร่องตูดแบบนี้กูชอบที่สุดเลย..มันคิดในใจ ตูดทั้งขาวทั้งนุ่ม กูนี่โชคดีเป็นบ้าเลยว่ะ ได้เย็ดตูดสวยๆ แบบนี้ เพื่อนของมันรีบนั่งคุกเข่าข้างหลังตูดไอ้ตี๋ แล้วถอกหัวควยออกมาจนหัวปลิ้น จัดการแทงควยพรวดเดียวเข้าไปจนมิดลำเลย ไอ้ตี๋สะดุ้งเฮือก
" อักกก... คับตูดดีว่ะ ซอยไปเลย ซอยตูดกูเร็ว ตูดขาวๆ อย่างตูดกูเนี่ย กูรู้มึงชอบ "
เพื่อนไอ้ตี๋ได้ยินดังนั้นก็เลยเอามือจับเอวของไอ้ตี๋แน่น แล้วกระทุ้งลำควยเข้าออกเข้าออกอย่างสะใจ เสียงควยกระทกรูตูดดัง ป้าบๆๆๆๆ ตูดขาวจั๊วของไอ้ตี๋สั่นพะเยิบๆ ตามจังหวะการเย็ด ควยดำๆ ถูกยัดเข้าใส่ตูดขาวโพลนไม่ยอมหยุด ไอ้ตี๋แอ่นตูดรับแรงกระเด้าด้วยความมันส์ มันเด้งตูดยิกๆๆ จนตูดลอยโด่ง ไอ้หนุ่มเพื่อนของมันรีบกดตูดไอ้ตี๋ลง แล้วกระหน่ำแทงจนตูดแทบฉีก ไอ้ตี๋ครางลั่น
" อาซซซซซ... มันส์ตูดอะไรอย่างนี้วะ กูชอบจังโว้ย "
ไอ้ตี๋ขมิบรูตูดไม่ยอมหยุด เพื่อนเหี้ยของมันก็เย็ดตูดของมันไม่ยอมหยุดเช่นกัน มันเย็ดไปครางไปด้วยความมันส์
" โอยยยยยย...เสียวควย กูออกแล้วนะโว้ย แม่ง...สุดๆ แล้ว "
ไอ้หนุ่มเพื่อนของมันพูดแล้วชักควยออกจากตูด
ปรี๊ดดด... " ซี๊ดดดดด.. ไอ้สัตว์ แตกแล้ว.... "
ปากแม่งก็คราง แต่มือแม่งก็ชักควยไปด้วย น้ำเงี่ยนร้อนผ่าวพุ่งกระฉูดออกมาจากรูควยมากมาย ไอ้หนุ่มครางเสียงหลง มือก็บีบตูดขาวเนียนของไอ้ตี๋อย่างสะใจไปด้วย ไอ้ตี๋รีบพลิกตัวลงนอนหงายแล้วเอามือชักควยแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่นานน้ำเงี่ยนขุ่นข้นของแม่งก็ทะลักออกมาเนืองนองเช่นกัน
...............

ผมกับไอ้ธีระเดินตรวจรอบๆ ที่พักซักพัก ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนนอนหลับเป็นตายกันหมด ผมรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากก็เลยบอกไอ้ธีระว่าเหนื่อย อยากจะนั่งพักซักหน่อย มันก็ตามใจผม เรา 2 คนเดินมานั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆ ที่พัก ผมเอนหลังพิงโคนต้นไม้พร้อมกับหลับตา ไอ้ธีระมองหน้าผมแล้วถามเบาๆ
" เป็นไรวะ ง่วงมากเหรอ ถ้าง่วงมากก็ไปนอนก่อนก็ได้นะเว้ย กูอยู่ยามคนเดียวได้ "
" ไม่เป็นไรหรอกว่ะ กูแค่เหนื่อยนิดหน่อย มันเพลียๆ ยังไงไม่รู้ ขอกูนั่งพักซักแป๊ปละกัน เดี๋ยวค่อยเดินตรวจต่อ ?
" ได้เลย งั้นมึงรอกูแป๊ปนึงนะ กูขอไปเยี่ยวก่อน แล้วเดี๋ยวกูมา ไปล่ะ "
" เออ รีบไปรีบมาละมึง "
พูดจบผมก็ลืมตาขึ้น ปรากฏว่าไอ้ธีระเดินจากไปแล้ว ตอนนี้เหลือผมนั่งอยู่คนเดียว บรรยากาศรอบๆ เงียบและวังเวงมาก แต่ผมไม่กลัวเพราะคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้ดี ผมนึกถึงตอนเข้าค่ายปี 3 คืนที่ผมต้องเป็นยามคนเดียว ก็ได้มานั่งพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่แบบนี้เหมือนกัน เหมือนกับตอนนี้เลย
สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาทางนี้ ต้องเป็นไอ้ธีระแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นไอ้โต้งกับเพื่อนของมันแทน ทั้งคู่แต่งชุดครึ่งท่อน ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงแบบกุ๊ย ไอ้โต้งเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าผม ผมจ้องไปที่เป้ากางเกงของมัน เย็ดครก! ทำไมมันตุงจังเลยวะ ไอ้โต้งมองหน้าผมแล้วยิ้มมีเลศนัย พลางยกมือขึ้นตะเบ๊ะผมเป็นเชิงล้อ แล้วพูดว่า
" หวัดดีครับ ยามหนุ่ม !!!! "
ผมยิ้มตอบแห้งๆ ไม่รู้มันจะมาไม้ไหน เพื่อนของมันอีกคนทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผม แล้วกอดคอผมไว้ ก่อนจะตบหลังผมดัง บึกๆๆ จนผมหลังแอ่น แล้วพูดเสียงดัง
" ไง ยามหนุ่ม เป็นยามคนเดียวเหรอวะ ไม่กลัวผีเหรอ ดึกๆ ดื่นๆ แบบเนี้ย เดี๋ยวผีหลอกนะมึง "
" กูเป็นกับไอ้ระว่ะ แต่มันไปเยี่ยว ยังไม่กลับมาเลย ผีน่ะกูไม่กลัวหรอก "
ไอ้โต้งนั่งลงบ้าง แล้วโอบไหล่ผม อีกมือก็ชูขวดเหล้าแบนที่มันถือมาให้ผมดู ผมมองด้วยความตกใจ มันไปเอามาจากไหนวะเนี่ย !
" เหล้าหน่อยมั๊ย ไอ้ยาม ! แดกเหล้าย้อมใจหน่อยสิวะ จะได้สดชื่น 5555 ลองหน่อยสิมึง "
ผมกลืนน้ำลายดัง เอื๊อก! แล้วถามมัน
" นี่มึงไปเอาเหล้ามาจากไหนวะ "
" กูซื้อมาจากร้านค้าแถวๆ กองพันนี่แหละ ไม่แพงด้วย "
" ไม่เชื่อหรอก มึงอย่ามาโม้ เขาไม่มีของแบบนี้ขายหรอก อย่ามาหลอกกูซะให้ยาก "
" ร้านน่ะมันมีหมดทุกอย่างแหละ มึงไม่รู้อะไร เหล้า บุหรี่ ยาอี ถุงยาง มีหมด เพียงแต่มันต้องแอบๆ ขาย วางขายโจ่งแจ้งไม่ได้ กูกับไอ้ป้อใช้วิธีไปตีสนิทกับลูกเจ้าของร้าน แล้วก็ขอซื้อของพรรค์นี้ คนอื่นแม่งก็ทำแบบกูกันทั้งนั้น ขนาดครูฝึกแม่งยังแอบมาซื้อเหล้า ซื้อยาไปแดกกันบ่อยๆ บางทีแม่งก็ซื้อถุงยางด้วยนะ ไอ้เหี้ย แม่งเหี้ยสัดๆๆๆๆ มึงคงรู้นะว่าแม่งจะเอาไปใช้กับใคร 5555555 "
จริงของไอ้โต้งมัน ผมคิดในใจ ไอ้โต้งเปิดฝาเหล้าแล้วกระดกเหล้าลงคอ อึ้กๆๆๆ เสร็จแล้วก็ส่งให้ผม
" เอ้า แดกซะ ของดีๆ "
ผมรีบส่ายหน้า
" ไม่เอา กูไม่แดกเหล้า "
ไอ้โต้งได้ยินแล้วก็หัวเราะลั่น
" เฮ้ย อะไรวะ ผู้ชายเหี้ยไรวะไม่แดกเหล้า ตุ๊ดป่าววะ มึงตุ๊ดรึเปล่า อีตุ๊ด 55555555 ฮิ้ววววว แม่งไม่ยอมแดกเหล้าว่ะ ไอ้ป้อมึงดูมันสิ โคตรตุ๊ดเลย ไอ้ยามตุ๊ด ไม่ยอมแดกเหล้า "
พอได้ยินคำว่า " ตุ๊ด " ผมฟิวส์ขาดทันที อย่างนี้มันหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ ผมยอมไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดและไม่ชอบให้ใครมาล้อแบบนี้ด้วย แค่แดกเหล้าเหรอ สบายมาก !
" กูไม่ใช่ตุ๊ด !! เอามาให้กู กูจะแดกให้ดู ดูนะไอ้พวกเหี้ย ! อย่ามาดูถูกกู เห็นกูหงิมๆ แบบนี้ กูก็แดกเหล้าเป็นเหมือนกันนะไอ้สัตว์ ! "
ผมพูดด้วยความโกรธ แล้วกระชากขวดเหล้ามาจากมือไอ้โต้งแล้วกระดกเหล้าลงคอทันที อึ้กๆๆๆๆๆ ไอ้โต้งกับไอ้ป้อยิ้มอย่างสะใจแล้วตบมือลั่น ปากก็ร้องเชียร์ไปด้วย
" นั่น อย่างงั้น ดีมากกกก อย่างนี้สิถึงจะเป็นลูกผู้ชาย เอาให้หมดขวดเลย 55555555 สะใจจริงๆ โว้ย "
ผมกลืนเหล้าลงคอเสียงดัง อึ้กๆๆ ด้วยความรวดเร็ว เหล้าของไอ้โต้งรสชาติแปลกๆ ไม่ยักกะขม หวานอร่อยมากจริงๆ ผมดื่มไม่ยอมหยุดจนกระทั่งหมดขวด แล้วจึงส่งขวดเหล้าคืนให้ไอ้โต้ง
" ทีนี้เชื่อรึยัง ว่ากูเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ตุ๊ด "
" เชื่อแล้วคร้าบบบบบ ยามหนุ่ม เจ๋งมากเพื่อน เจ๋ง หึ หึ "
ไอ้โต้งพูดเบาๆ ผมยิ้มให้มัน แต่แล้วก็รู้สึกมึนกบาลอย่างหนัก แถมยังร้อนวูบวาบไปทั้งตัวด้วย กูคงแดกเยอะเกินไปว่ะ เมาแล้วแน่ๆ ผมคิดในใจแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก
" อือออ กูมึนกบาลว่ะ คงแดกมากไป กูไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่า จะได้สร่างเมาเร็วๆ จะไปหาไอ้ธีระด้วย โอยมึนจังเลยว่ะ ทำไมมันมึนแบบนี้วะ "
ตอนนี้ผมรู้สึกมึนอย่างหนักจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ขณะที่ผมยืนโงนเงนไปมาอยู่นั้น ไอ้โต้งก็ลุกขึ้นยืนประกบด้านหลังผมแล้วจัดการล็อคคอผมทันที มันเอาตีนเตะขาส่วนล่างของผมให้ถ่างออกไปมากๆ ปากก็ร้องสั่งไอ้ป้อไปด้วย
" จัดการเลยป้อ ตอนนี้แหละ เร็วๆ ไอ้เหี้ย 5555 เอ้า ไอ้ยามหนุ่ม ยืนถ่างขาหน่อยสิวะ แล้วก็ยืดตัวขึ้นมาอีกหน่อย นั่นอย่างงั้น "
ไอ้โต้งพยายามดันตัวผมให้ยืดขึ้น และให้ผมถ่างขาออกมากกว่านี้ ผมพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่มัน 2 คนไม่สนใจ ผมสู้แรงของไอ้โต้งไม่ได้ ดิ้นไม่หลุด ทำได้แค่ร้องด่าเท่านั้น
" พวกมึงจะทำอะไรกูวะ อย่านะโว้ย อย่าทำอย่างนี้ !!!!!!! ไอ้เหี้ยเอ๊ย ปล่อยกูสิวะ ปล่อยกู "
ไอ้ป้อซึ่งยืนอยู่หน้าผม เอามือจับเป้ากางเกงของผมแล้วหัวเราะลั่น ก่อนจะปลดหัวเข็มขัดออกแล้วรูดซิปกางเกงผมลง ดึงควยขาวๆ ที่ยังอ่อนตัวอยู่ออกมานอกกางเกงทันที ไอ้ป้อมองควยผมแล้วหัวเราะชอบใจ พร้อมกับเอามือดึงควยผมเล่นไปด้วย
" เร็วๆ สิวะไอ้ป้อ อย่ามัวแต่ลีลา จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ รีบๆ เอาเร็วๆ สิวะ เร็ว ! "
" อย่าเร่งดิวะ ของอย่างนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ขั้นแรกต้องปลุกอารมณ์มันก่อน แบบนี้ไง มึงดูนะ "
ไอ้ป้อพูดจบแล้วก็คุกเข่าลงดูดควยผมทันที จ๊วบๆๆๆๆ ผมครางด้วยความรังเกียจ ก็ไอ้ป้อมันหน้าเหี้ยตัวดำขนาดนั้น ไม่มีเกย์คนไหนอยากให้มันดูดควยหรอก แต่ตอนนี้ผมกลับโดนไอ้เหี้ยป้อดูดควยซะงั้น จะไม่ให้รู้สึกขยะแขยงได้ไง !
" อย่า อย่าดูดควยกู ไอ้เหี้ยยยย ทำไมทำแบบนี้วะ แม่งงงง สกปรกว่ะ เอาปากออกไปจากควยกูนะไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ยๆๆๆ "
ผมด่าจนอ่อนใจ แต่ไอ้เหี้ยป้อก็ยังไม่ยอมหยุด มันดูดควยผมอยู่นาน แต่ควยผมก็ไม่มีทีท่าว่าจะแข็งเพราะว่าผมรังเกียจมันมาก ไอ้ป้อถอนปากออกแล้วเอามือชักควยอ่อนๆ ที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายอย่างรำคาญใจ ก่อนจะบ่น
" ทำไมไม่แข็งเลยวะ ไม่มีอารมณ์กับกูเหรอ เห็นกูไม่หล่อล่ะสิเลยควยไม่แข็ง ไอ้เหี้ย !! "
ไอ้โต้งซึ่งยังยืนล็อคคอผมอยู่รีบบอก
" ควยไม่แข็งก็ช่างแม่ง ตอนนี้อัดตูดมันก่อนเลย เร็วๆ กูอยากดู "
ผมได้ยินแล้วขนลุกซู่ นี่แม่งจะอัดตูดผมด้วยเหรอ ทำเกินไปแล้วนะ กูไม่ให้มึงเล่นตูดกูหรอก ไอ้พวกเหี้ย !! ผมคิดแล้วตัดสินใจถีบยอดอกไอ้ป้อที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าผมเต็มแรง เสียงดัง พลั่ก! ไอ้ป้อถึงกับหงายหลังอย่างไม่เป็นท่า แล้วผมก็เอาศอกกระทุ้งท้องไอ้โต้งที่ล็อคคอผมอยู่ทันที ไอ้โต้งร้องลั่นด้วยความเจ็บแล้วคลายวงแขนออก ผมรีบสลัดหลุดจากอ้อมแขนของมันแล้วพยายามจะวิ่ง แต่ก็วิ่งไม่ไหวเพราะมึนด้วยฤทธิ์เหล้าที่แดกเข้าไปมากเกินขนาด ทำได้แค่เดินช้าๆ ผมเดินโซเซไปมาไม่กี่ก้าวก็ล้มลงนอนแผ่อยู่ตรงนั้นเอง ควยดุ้นเล็กยังคงห้อยอยู่นอกกางเกง โชคดีที่ไอ้ธีระเดินกลับมาพอดี พอมันเห็นไอ้โต้งกับไอ้ป้อกำลังจะรุมผม มันก็รีบตะโกนเสียงดังลั่น
" เฮ้ย พวกมึง 2 ตัวทำอะไรเพื่อนกูวะ !!!!! "
ไอ้โต้งกับไอ้ป้อสะดุ้ง พอมันเห็นว่าเป็นไอ้ธีระก็ตกใจ ไอ้โต้งกัดฟันกระซิบบอกไอ้ป้อว่า
" กร่อยแล้ว ไอ้ระมา หนีก่อนดีกว่าว่ะ กูไม่อยากให้คนอื่นมารู้เรื่องนี้ เดี๋ยวจะซวย ปล่อยแม่งไปก่อนละกัน ไปเร็วไอ้ป้อ อูยยย เจ็บพุงว่ะ ศอกมาได้ ! "
ไอ้ป้อพยักหน้าแล้ววิ่งหนีไปพร้อมๆ กับไอ้โต้งอย่างรวดเร็ว
" เฮ้ยเดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหนวะ มาคุยกันก่อนสิ อะไรของพวกมันวะ แม่งวิ่งหนีไปเฉยเลย "
ไอ้ธีระบ่น แล้วเดินมาหาผมที่ยังคงนอนแผ่อยู่ ผมนอนกางแขนกางขาอย่างหมดสภาพ หน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้า อวัยวะแสดงความเป็นชายของผมห้อยออกมาข้างนอกและนอนสงบนิ่งอยู่ ทันทีที่ไอ้ธีระเห็นควยผม มันรีบเบือนหน้าหนีทันทีแล้วพูดยิ้มๆ
" เก็บควยซะ ไอ้หนุ่ม ไอ้เหี้ยเอ๊ย !! ทุเรศสิ้นดี ทำอีท่าไหนวะเนี่ยมึง ออกมาทั้งดุ้นเลย 55555 "
ผมยังคงนอนนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อน ไอ้ธีระรู้สึกแปลกใจที่เห็นผมนอนนิ่งไม่ไหวติง ก็เลยเขย่าตัวผมแรงๆ
" เฮ้ย เป็นไรวะ นอนนิ่งเชียว ตื่นเว้ยตื่น ไอ้หนุ่ม ตื่นๆๆๆๆ "
ไอ้ธีระเหลือบไปเห็นขวดเหล้าเปล่าๆ ตกอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมนอนเท่าไหร่นัก ทำให้มันเข้าใจอะไรบางอย่างมากขึ้น มันยิ่งเขย่าตัวผมแรงกว่าเดิม บีบแขนบีบขา แล้วตบหน้าผมเบาๆ 2-3 ที เพื่อให้ผมรู้สึกตัว
" มึงแดกเหล้าด้วยเหรอวะ ไปเอามาจากไหน แดกจนหมดขวดเลยเนี่ยนะ ? นี่มึงทำเหี้ยอะไรของมึงวะเนี่ย เกิดคึกอะไรขึ้นมา กูไม่เข้าใจเลย แต่ถามมึงตอนนี้มึงก็คงไม่รู้เรื่องหรอก แม่งเมาปลิ้นจริงๆ หน้าแดงเหี้ยๆ ไม่รู้สึกตัวเลยด้วย เหล้าเหี้ยอะไรฤทธิ์แรงขนาดนั้นวะ ไม่น่าเลยไอ้หนุ่ม ไม่ต้องเป็นยงเป็นยามกันแล้วคืนนี้ กลับเต็นท์กันก่อนดีกว่า กูจะพามึงไปเอง "
ไอ้ธีระพูดจบแล้วก็ค่อยๆ พยุงผมให้ยืนขึ้น แล้วประคองผมเดินกลับไปที่เต็นท์
" ตัวหนักเหี้ยๆ เลยมึง "
ไอ้ธีระแอบบ่น แต่มันก็พาผมกลับมาถึงเต็นท์ได้ แล้วจัดการวางผมลงให้ผมนอนราบลงไปกับพื้นเต็นท์ เอาผ้าเช็ดตัวให้ผมหนุนกบาล เสร็จแล้วไอ้ธีระก็จ้องหน้าผมยิ้มๆ สายตาของมันโลมเลียไปทั่วร่างกายผม แต่มาสะดุดที่ควยอ่อนๆ สีขาวจั๊วที่ยังห้อยอวดศักดาอยู่นอกกางเกง หัวควยสีชมพูค่อยๆ โผล่หัวออกมาทีละน้อยๆ แถมยังสั่นพะเยิบๆ ตามจังหวะหายใจเข้าออกของผมด้วย ไอ้ธีระหัวเราะแล้วพูดเบาๆ
" อ๊ะ ขอโทษ กูลืมเก็บน้องชายมึงว่ะ แหะ แหะ กูนี่มันขี้ลืมจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเห็นน้องมึงแน่ๆ กูรับรอง ตลอดทางที่กูพามึงมา ไม่เจอใครเลย จริงๆ นะเว้ย เดี๋ยวกูเก็บให้ละกัน นะ เพื่อน.. แต่ ให้ตายเถอะ... น้องชายมึงทำไม..มันถึงได้ขาว...สวยอย่างนี้วะ ..เนี่ย...โห .. กูเพิ่งเคยเห็น "
ผมยังคงนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ไอ้ธีระจ้องควยผมเขม็ง ทำตาโต พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล่บๆ
" น่าแดกจริงๆ ว่ะ เพื่อน "

ตี 5
จ๊อก..จ๊อกกก..
" เฮ้ย นี่มึงเทน้ำราดหน้ากูทำไมวะ "
ผมโวยวายพร้อมกับลืมตาตื่นขึ้น ไอ้ธีระนั่งจ้องหน้าผมอยู่ ในมือของมันถือขวดน้ำที่เทไปแล้วไม่มากนัก ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในเต็นท์ แต่งชุดครึ่งท่อน หน้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ แถมรู้สึกปวดกบาลอีกด้วย ไอ้ธีระยิ้มแล้วพูดกับผมเบาๆ
" รู้สึกตัวแล้วเหรอมึง มึงรู้มั๊ยเมื่อคืนน่ะ มึงเมาไม่รู้เรื่องเลย นี่ถ้ากูไม่เอาน้ำราดหน้ามึงแบบนี้เนี่ย มึงก็คงยังไม่ตื่นหรอก กูกะว่าถ้ามึงยังไม่ตื่น กูจะลากมึงออกไปนอกเต็นท์ แล้วเอาน้ำเป็นถังๆ มาสาดใส่มึงแน่ๆ คราวนี้รับรองตื่นชัวร์ "
" ไม่ต้องเลยมึง กูตื่นแล้ว เออใช่ กูจำได้ เมื่อคืนกูเมามากเลย กูโดนไอ้โต้งกับไอ้ป้อมอมเหล้า แล้วไอ้ป้อแม่งก็ดูดควยกู แล้วก็จะเล่นตูดกู แต่กูก็หนีมาได้ แล้วก็มีคนพากูมาที่เต็นท์นี้ มึงเป็นคนพากูมาใช่มั๊ยวะ "
" หา!! มึงพูดจริงเหรอวะ มัน 2 ตัวจะทำแบบนั้นกับมึงจริงๆ เหรอ ไอ้เหี้ยแม่งระยำจริงๆ ดีนะที่กูไปเจอมึงก่อน ไม่งั้นมึงตูดบานแน่ ! เออ ใช่ คนที่พามึงมาก็กูเองแหละ กว่าจะพามาถึงเต็นท์ได้ก็แทบแย่ มึงรู้มั๊ย ตัวมึงหนักชิบหายเลย "
" กูต้องขอบใจ ขอบใจมึงจริงๆ ว่ะเพื่อน "
ผมพูดด้วยความดีใจแล้วเอามือบีบไหล่ตบหลังไอ้ธีระด้วยความรู้สึกขอบคุณ ก่อนจะหยิบแว่นที่วางอยู่ข้างๆ ตัวมาใส่ แต่แล้วผมก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในร่างกายของผม ก็เลยขมวดคิ้ว ไอ้ธีระมองหน้าผมแล้วถามช้าๆ
" เป็นอะไรอีกวะ คิ้วผูกโบว์เชียว มึงยังมึนกบาลอยู่เหรอหรือยังไม่สร่างเมา แดกน้ำหน่อยมั๊ย จะได้ดีขึ้น "
ผมรับน้ำของไอ้ธีระมาดื่ม แล้วพูดต่อ
" กูสร่างเมาแล้ว แต่ยังปวดกบาลอยู่ว่ะ เอ ทำไมกูรู้สึกเหนื่อยแล้วก็เพลียๆ วะ มัน...มันไม่ค่อยจะมีแรงเลย โคตรอ่อนเพลียเลยว่ะ ยังไงไม่รู้ว่ะ กูอธิบายไม่ถูก "
" คิดมากน่า อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์เหล้ามั๊ง ก็มึงเล่นแดกไปซะขนาดนั้น มันก็ต้องเพลียแบบนี้แหละ เดี๋ยวก็หาย "
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้ง ผมกับไอ้ธีระรีบมุดออกจากเต็นท์แล้ววิ่งไปเข้าแถวทันที ขณะวิ่งผมก็นึกในใจไปตลอดว่า อาการที่ผมเป็นอยู่ในขณะนี้มันไม่น่าจะเกิดจากฤทธิ์เหล้านะ แต่มันน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น อาการเหมือนเพิ่งหลั่งน้ำกามออกไปเลย ! เหนื่อยๆ เพลียๆ แบบนี้ล่ะใช่เลย แต่เท่าที่ผมจำได้ เมื่อคืนนี้ผมไม่ได้หลั่งน้ำกามออกไปนี่หว่า แล้วอาการแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ไงวะ ?
...............

พอทุกคนเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกออกกำลังกายเหมือนเมื่อวาน แล้วจึงแยกย้ายกันไปตักน้ำมารดที่หน้ากองพันจนชุ่ม แล้วรีบไปทำกิจวัตรส่วนตัว ล้างหน้า แปรงฟัน เยี่ยว ไม่นานครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวมอีกครั้ง เพื่อแดกข้าวเช้า ก่อนจะให้พักแป๊ปนึงเพื่อเตรียมตัวรับการฝึกในภาคเช้า
เช้านี้เราต้องฝึก " การลงทางดิ่ง " คือการไต่เชือก 35 ฟุตจากด้านบนลงมาด้านล่าง มีให้เลือก 2 แบบ แบบแรกคือ " ไต่เชือก " มีแต่เชือกเส้นเดียวให้เราไต่ลงมา ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ " ไต่หอ " แบบนี้มีกำแพงอยู่ด้านหลังให้เรากระโดดถีบกำแพงไต่เหยงๆ ลงมา ( เหมือนการไต่หน้าผาน่ะแหละครับ ) ครูฝึกในฐานนี้ชื่อ ครูไหว โหดมากๆ และที่สำคัญเขาเป็นผู้คุมกองร้อยอินทรีย์ที่พวกเราอยู่นี่เอง ภายหลังผมและเพื่อนๆ แอบขนานนามเขาว่า " เจ้าพ่ออินทรีย์จอมโหด "
" ห้ามคุย !!!!!! ใครคุยโดนมิดหัวแน่ๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคุย นั่งดูการสาธิตการลงทางดิ่งให้เข้าใจว่าต้องทำยังไง เดี๋ยวพวกเอ็งต้องทำแบบนี้ให้ได้นะ ใครเงอะงะ ชักช้า มิดหัวแน่ๆ "
ผมได้ยินคำว่า " มิดหัว " ก็เกิดความสงสัยว่าคืออะไร แต่ผมก็ไม่ต้องสงสัยนาน เพราะว่าครูไหวหันหน้ามาทางหมวดของผม แล้วแผดเสียงลั่น
" เฮ้ย ไอ้ 2 คนนั่นน่ะ คุยอะไรกันวะ ลุกเลยเอ็ง ลุกมานี่เลย มาโชว์มิดหัวให้เพื่อนดูเลย ท้าทายดีนัก ข้าบอกแล้วใช่มั๊ยว่าห้ามคุย เวร แท้.แท้ "
ไอ้ 2 คนนั้นลุกขึ้นเดินไปหาครูไหว ครูไหวพูดกับทั้งคู่อยู่ไม่กี่คำ ผมสังเกตุเห็นสีหน้าของมันทั้ง 2 คนซีดลงเล็กน้อย เสร็จแล้วมันก็ออกวิ่งไปยังบึงใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลัง ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นั้นมองตามหลังมัน พอทั้งคู่วิ่งไปถึงบึงก็กระโดดลงไปแล้วมุดหัวลงไปในน้ำ ไม่กี่อึดใจมันทั้ง 2 คนก็โผล่หัวขึ้นมา แล้วพ่นน้ำออกทางปากเป็นสายยาว หัวหูเปียกโชก ทำหน้าเหยเก
" ดูไว้ซะ นี่คือการมิดหัว โดดน้ำให้หัวจม ใครขัดคำสั่งข้าอีก จะโดนไม่ใช่น้อยเลย ถ้าไม่อยากตัวเปียกแบบนั้น ก็อย่ากวนใจกัน ตั้งใจฝึกให้ดี ทราบ !!!!!!! "
" ทราบ !!!!!!!!!! "
ทุกคนขานรับพร้อมกัน และคิดในใจว่า ครูไหวนี่โหดมากจริงๆ และการมิดหัวนี่ก็เป็นการทำโทษที่ไม่น่าสนุกเอาซะเลย นอกจากตัวจะเปียกแล้ว น้ำยังเข้าไปในเสื้อผ้าและรองเท้าอีก ต้องรอให้เสื้อผ้าแห้งอีก จะฝึกอะไรต่อก็ไม่สะดวก แย่จริงๆ !
...............
พอหัวหน้าหมวดสาธิตการลงทางดิ่งจบแล้ว ก็เริ่มฝึก ครูไหวให้เลือกว่าจะไต่แบบไหน ผมและเพื่อนๆ หลายคนสมัครใจจะ " ไต่หอ " มากกว่าเพราะอย่างน้อยก็ยังมีกำแพงให้เตะลงมาได้เรื่อยๆ ผิดกับไต่เชือกที่ไม่มีอะไรให้เตะเลยมีแค่เชือกอย่างเดียว อาจจะเสี่ยงต่อการไต่แล้วตก ตุ้บ ! ลงมาก็ได้ หลายคนที่เป็นผู้ชายแท้ๆ เลือกที่จะไต่เชือก ผมมองหน้าพวกเขา หน้าตาแต่ละคนถึกๆ โหดๆ กันทั้งนั้น สมแล้วที่เลือกไต่อันที่มันเสี่ยงและอันตรายมากกว่า ช่างกล้าหาญกันเหลือเกิน นี่แหละลูกผู้ชายที่แท้จริง ต้องกล้าหาญและบ้าบิ่นแบบนี้ ผมนึกในใจด้วยความชื่นชม พอถึงตาผมไต่ ผมรีบมัดเชือกที่เป้ากางเกงจนแน่นและติดอุปกรณ์ที่ใช้ในการไต่หอเข้ากับตัว จนเสร็จ ผมไม่ลืมที่จะสวมถุงมือเพื่อกันมือถลอก เสร็จแล้วก็ขึ้นไปยืนด้านบน จับเชือกให้แน่น ถ่างขาออก แล้วค่อยๆ โรยตัวลงมา ก่อนจะเอาตีนถีบกำแพงอย่างแรงให้ตัวลอยออกมา พร้อมๆ กับคลายมือที่กำเชือกเอาไว้โรยตัวลงมาด้วย แล้วจึงค่อยถีบกำแพงใหม่ โรยตัวลงมา ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงพื้น ตอนแรกผมตื่นเต้นมากไปนิด กลัวครูไหวด่า ก็เลยถีบกำแพงซะเต็มตีนเลย ทำให้ตัวลอยวืดออกห่างจากกำแพงเป็นโยชน์ จนครูไหวที่ยืนมองอยู่จากด้านล่างร้องลั่น
" เฮ้ย ไอ้แว่น ถีบเบาๆ ก็ได้ ไม่ต้องถีบแรงขนาดนั้น เวรแท้..แท้..ไอ้ห่า บ้า ..บ้าที่สุดเลย "
ผมไม่ได้สนใจฟังครูไหว รีบคลายมือโรยตัวลงมาแล้วเอาตีนถีบกำแพงไปเรื่อยๆ ไอ้ธีระที่ยืนมองผมอยู่ด้านล่างเหมือนกับครูไหว มองครูไหวด้วยความแปลกใจ แล้วกระซิบถามไอ้บอมเบาๆ
" มึงได้ยินครูไหวมันพูดมั๊ยวะ "
ไอ้บอมพยักหน้าช้าๆ
" เต็ม 2 รูหูเลยว่ะ ไอ้เหี้ย ชัดๆ เลย ตุ๊ด ตุ๊ดเก๊กแมนแน่ๆ ผู้ชายที่ไหนจะพูดสำเนียงแบบนั้นวะ "
ไอ้ธีระเบ้ปาก แล้วหันไปมองครูไหวอีกครั้ง ครูไหวยืนอยู่ตรงฐานกำแพงทางด้านหน้าของคนไต่ ในขณะที่นักศึกษาวิชาทหารทุกคนยืนอยู่ด้านหลังคนไต่ สายตาของครูไหวกำลังจับจ้องอยู่ที่เป้ากางเกงนูนๆ ของผมพอดิบพอดี พร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย ไอ้ธีระถึงกับอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง นี่ก็หมายความว่า ครูไหวแม่งถือโอกาสมองหุ่นและเป้ากางเกงของคนที่ไต่หอลงมาทุกคนเลยเหรอวะเนี่ย ทุเรศจังเลยว่ะ !!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผมรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดแหกขาออก แล้วถีบกำแพงครั้งสุดท้ายจนตัวลอยห่างจากกำแพง พร้อมๆ กับคลายมือที่จับเชือกแล้วโรยตัวลงมาอย่างรวดเร็ว ตัวผมลื่นพรึดๆ ลงมาจนตีนเกือบแตะพื้น ผมรีบปล่อยมือจากเชือกแล้วยืนตรงทันที ครูไหวมองหน้าผมยิ้มๆ แล้วเอื้อมมือมาบีบไหล่ผมเบาๆ
" เจ๋งดี แรงเหลือเฟือนะเอ็ง ถีบซะแรงเลย แมนดีว่ะ เอาล่ะ ไปพักได้ "
ผมรีบวิ่งออกไปทันที ครูไหวหันมาทางคนที่รอไต่อยู่ แล้วตะโกนลั่น
" คนต่อไป !!!!!! "
.................
ผมไต่หอเสร็จแล้วค่อยสบายใจขึ้น ที่จริงก็ไม่ยากเท่าไหร่ สนุกดี หันไปมองพวกผู้ชายแท้ๆ ที่ไต่เชือกกันอยู่ ทุกคนไต่อย่างตั้งอกตั้งใจ แต่ละคนใช้เวลาไต่นานเหมือนกันเพราะไต่ยากกว่าไต่หอ ผมทรุดตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่แล้วหลับตาลง รู้สึกเหนื่อยๆ ยังไงพิกล พร้อมกับครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ผมยังคงติดใจสงสัยอยู่ว่า ทำไมผมถึงได้รู้สึกอ่อนเพลียราวกับหลั่งน้ำกามออกไปแบบนี้นะ ไม่เข้าใจจริงๆ
" แดกซะ กูซื้อมาให้ "
ผมลืมตาขึ้น ไอ้ธีระยืนยิ้มอยู่ข้างหน้าผม ในมือของมันถือนมไวตามิลด์แบบขวดที่เหลืออยู่ครึ่งขวด ผมมองหน้ามันอย่างงงๆ
" มาให้กูทำไมวะ เงินมึงนี่หว่า มึงซื้อมามึงก็แดกเองสิ กูเกรงใจ กูก็กำลังจะไปซื้อพอดี "
" เอาไปเถอะน่า กูไม่อยากแดกแล้วเลยเอามาให้มึง แดกซะจะได้มีเรี่ยวมีแรง "
" จะดีเหรอวะ มึงไม่แดกอีกจริงเหรอเนี่ย ครึ่งขวดเลยนะเว้ย กูเกรงใจมึงจริงๆ ว่ะ "
" เพื่อนกันต้องเกรงใจอะไรวะ แดกๆ ไปซะเหอะ "
ผมรับนมไวตามิลด์จากไอ้ธีะอย่างอายๆ ก่อนจะก้มลงดูดนมอย่างหิวโหย ในเมื่อมันอยากให้ผมแดก ผมก็แดกล่ะครับ ไอ้ธีระมองผมดูดนมอย่างพอใจ แล้วมันก็ทรุดตัวลงนั่งตรงนั้น ไม่นานผมก็ดูดจนเกลี้ยงขวด รู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวมีแรงขึ้น เพราะร่างกายได้รับโปรตีนมาชดเชยส่วนที่หลั่งออกไปเมื่อวาน ผมวางขวดไวตามิลด์ลงแล้วพูดอย่างสบายใจ
" อา...กูรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ขอบใจมึงมากนะที่เอามาให้ หายอ่อนเพลียเป็นปลิดทิ้งเลยว่ะ "
ไอ้ธีระยิ้มแล้วโอบไหล่ผมไว้แน่น พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ
" กูรู้ดี...มึงต้องเพลียแน่ๆ กูถึงเอามาให้ไง "
ผมหันขวับไปจ้องหน้ามัน
" มึงรู้ได้ไงว่ากูเพลีย "
ไอ้ธีระจ้องหน้าผมตอบ มือของมันคลำเบาๆ ที่หัวไหล่ของผม แล้วพูดช้าๆ
" เราเพื่อนกัน ก็ต้องรู้ใจกันสิวะ ใช่มั๊ย "
...............

ไม่นาน นักศึกษาวิชาทหารทุกคนก็ไต่เชือกและไต่หอกันเสร็จ ครูไหวเป่านกหวีดรวมพลอีกครั้ง แล้วให้เข้าแถวเดินกลับกองพันเพื่อไปแดกข้าวกลางวัน มื้อนี้มีผัดเผ็ดหมู และกล้วยบวชชี อร่อยมากๆ ผมจับคู่แดกกับไอ้สันติ ส่วนไอ้ธีระขอไปจับคู่แดกกับคนอื่นบ้าง ตอนนี้ทุกคนแดกข้าวด้วยมือกันชำนาญแล้วจึงแดกได้เร็ว และไม่เลอะมือเหมือนมื้อแรกๆ ผมเองก็เริ่มเปิบข้าวเป็นกับเขาบ้างแล้ว คาดว่าวันต่อๆ ไปคงจะเปิบได้คล่องกว่านี้ ครูฝึกปล่อยให้พวกเราแดกกันตามสบาย ไม่เร่งรีบ พอทุกคนแดกและล้างหม้อเสร็จแล้วก็ได้พักแป๊ปนึง ผมก็เลยนั่งจับกลุ่มคุยกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานใต้ต้นไม้ใหญ่แถวนั้น มีไอ้โต้งคนเดียวที่หลบหน้าผมและไม่มาคุยด้วย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ตอนนี้ทุกคนกำลังรอเวลาฝึกในภาคบ่าย ซึ่งได้ข่าวมาว่าภาคบ่ายนี้ สนุกกว่าในภาคเช้ามากนัก

ตอนที่ 11

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวที่หน้ากองพันอย่างรวดเร็ว แล้วก็เดินไปที่เดิม บ่ายนี้เราต้องฝึก " เลื่อนมรณะ " ซึ่งหลายคนจะเรียกเล่น ว่า " โดดน้ำ " เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกับการโดดหอ เพียงแต่โดดน้ำนี่จะต้องโดดลงไปในน้ำ ในขณะที่โดดหอเป็นการโดดจากหอลงมายังพื้นดิน แต่ไม่ว่าจะโดดน้ำหรือโดดหอ ก็ทำให้คนโดดเสียวได้ทั้งนั้นเพราะต้องโดดลงมาจากจุดที่สูงพอสมควร คำว่า " เลื่อนมรณะ " เป็นการเรียกชื่อแบบทหาร ถ้าเป็นการเรียกแบบพลเรือนจะเรียกว่า " เลื่อนช่วยชีวิต " ซึ่งฟังดูดีกว่าเยอะเลย เลื่อนมรณะนี้จะมีลักษณะเป็นรอกที่ด้านล่างมีแกนอยู่ 2 ข้างสำหรับเป็นที่จับ ความสูง 35 ฟุต ตัวรอกติดกับเชือกซึ่งทอดยาวไปเหนือน้ำ เราต้องโหนลงไป แล้วพอถึงจุดที่กำหนดก็ต้องปล่อยมือจากรอก ทิ้งตัวลงน้ำทันที ตรงนี้น่ะที่เสียวไส้น่าดู ! ครูฝึกประจำฐานเลื่อนมรณะอธิบายวิธีการฝึกให้ทุกคนฟัง แล้วก็เริ่มให้พวกเราฝึก ทุกคนถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว และถอดรองเท้าด้วย เสร็จแล้วก็ตั้งแถวเพื่อจะโดดทีละคน ไอ้ธีระที่ยืนอยู่ข้างหลังผมสะกิดผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" โอย กูไม่อยากโดดน้ำเลยว่ะ ไม่ไหวเลย กูกลัวความสูง "
ผมหันไปยิ้มให้มัน แล้วตบไหล่มันเบาๆ
" เอาน่า อย่ากลัวไปเลย วัดใจกันหน่อย ใครๆ เขาก็โดดกันทั้งนั้น มึงเองก็เคยโดดหอมาแล้วนี่หว่า มันก็คล้ายๆ กันน่ะแหละ "
ไอ้ธีระยิ้มแหยงๆ
" แต่กูก็ยังกลัวอยู่ดี มันโคตรสูงเลย "
ไอ้สันติซึ่งยืนอยู่ข้างหลังไอ้ธีระ ฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
" 5555 ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย ไอ้ระ มึงอย่าป๊อดนักเลย นี่ ถ้ามึงกลัวนักนะ ตอนมึงโหนรอก มึงก็อย่ามองลงไปข้างล่างสิ แล้วมึงก็จะไม่รู้ว่ามึงอยู่สูงแค่ไหน แป๊ปเดียวมึงก็โดดลงน้ำแล้ว "
" เออ กูจะพยายามทำแบบนี้มึงบอกละกัน "
ไอ้ธีระพูด แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้เพื่อนๆ โดดกันไปหลายคนแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเวลาได้ยินเสียงเพื่อนคนที่โดดก่อนหน้าร้อง ว๋าเอี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย แล้วก็ตามด้วยเสียง ตูมมมม ! เมื่อเขาทิ้งตัวลงไปในน้ำเต็มแรง สะใจดีแท้ ! เดี๋ยวก็ถึงตาผมแล้ว
ในที่สุดก็ถึงตาผมโดด ผมติดสายยาวๆ เข้ากับตัวจนแน่น ( เป็นสายแบบเดียวกับที่ใช้ตอนโดดหอ ) สายนี้จะรัดแน่นทั้งตัว แล้วจะมีสายโยงจากด้านหลังอีก 2 เส้นเอาไว้ติดกับรอก ผมขึ้นไปยืนตรงจุดที่รอกแขวนอยู่กับเชือก ครูฝึกที่ประจำอยู่ตรงนั้นตบหลังผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" พร้อมนะ ไปได้ ! "
" ครับผม ! "
ผมตอบ แล้วเอามือ 2 ข้างจับแกนของรอกไว้ก่อนจะกระโดดออกจากแท่น ตอนนี้ตัวผมกำลังโหนรอกห้อยต่องแต่งอยู่เหนือน้ำ ผมเริ่มออกแรงดึงรอกไปข้างหน้าช้าๆ เพิ่งจะรู้ว่ารอกถึงจะอันนิดเดียว แต่หนักไม่ใช่เล่น ผมรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดดึงรอกให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นจังหวะ เมื่อยแขนมากๆ แต่ผมต้องอดทน รอกค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ ผมกัดฟันดึงรอกและโหนไปข้างหน้าเรื่อยๆ ทำไมมันหนักขนาดนี้วะเนี่ย แถมระยะทางก็ไกลมากๆ ไม่ถึงจุดที่ปล่อยมือซะที ผมดึงรอกไปจนแทบจะหมดแรง เส้นเลือดที่กล้ามแขนปูดขึ้นมาเป็นริ้วๆ เหงื่อแตกเต็มแผ่นหลัง ผมกัดฟันดึงต่อไปจนเริ่มรู้สึกว่าจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วเลยตัดสินใจดึงรอกไป ข้างหน้าสุดแรงเกิด ได้ผลครับ รอกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพอสมควร ถึงผมจะโหนรอกจนปวดแขนมากขนาดไหน แต่ผมก็ไม่มีวันที่จะปล่อยมือจากรอกตอนนี้เด็ดขาด เพราะนั่นหมายความถึงชีวิตของผมเลยทีเดียว ผมดึงรอกมาถึงจุดที่เขากำหนด แล้วก็หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ถึงเสี้ยววินาที ก็ได้ยินเสียงสัญญาณนกหวีดให้ปล่อยมือ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด......
ถึงเวลาแล้ว ! ผมตัดสินใจปล่อยมือจากแกนของรอกทันทีพร้อมกับแหกปากดังลั่น ร่างของผมดิ่งลงสู่ผืนน้ำเย็นเฉียบจนน้ำแตกกระจาย
" เอี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย "
ตูมมมมมมมมม !!!
จังหวะที่ผมทิ้งตัวลงมานี้มันเสียวไส้มากๆ เพราะว่ามันสูง ความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่โดดหอเลย แต่โดดน้ำนี่เสียวกว่าเยอะ ลงมาถึงน้ำแล้วก็ยังตื่นเต้นไม่หายเลย น้ำลึกเกือบจะถึงอก แถมเย็นยะเยือกมากๆ ผมเห็นเพื่อนๆ ที่เป็นอาสาสมัครช่วยงานครูฝึกซึ่งอยู่ในน้ำว่ายเข้ามาหาผม ช่วยผมถอดสายที่ติดอยู่กับตัวออก แล้วพาไปเกาะห่วงยางช่วยชีวิตเพื่อลอยเข้าฝั่งไปอย่างปลอดภัย สนุกจริงๆ !
เมื่อผมมาถึงฝั่งแล้ว ก็ได้พัก ผมไปล้างหน้าล้างตา ดื่มน้ำจากกระติก แล้วก็นั่งตากแดดให้ตัวแห้ง ซักพักเพื่อนๆ ของผมที่โดดเสร็จแล้วก็เดินมาสมทบ ไอ้ธีระดูหน้าตาสดใสขึ้น ผมถามมัน มันก็บอกว่าตอนทิ้งตัวลงมาจากรอกน่ะมันกลัวมาก กลัวจนเยี่ยวแทบแตก แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เพื่อนๆ คนอื่นก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกเสียวถึงใจมากๆ ผมก็เลยนั่งคุยเฮฮากับพวกมันไปเรื่อยๆ กว่าทุกคนจะโดดน้ำกันเสร็จก็เย็นมากแล้ว ครูฝึกเป่านกหวีดเรียกรวม แล้วพาเดินกลับกองพันเพื่อแดกข้าวเย็น จำได้ว่ามีถั่วเขียวต้มน้ำตาลเป็นของหวาน อร่อยดีแต่แข็งไปหน่อย มื้อนี้ผมแดกกับไอ้ธีระอีกครั้ง มันยังป้อนถั่วเขียวให้ผมด้วย ใจดีจริงๆ มึง !
พอทุกคนแดกข้าวเย็นและล้างหม้อเสร็จแล้ว ก็พากันไปทำกิจธุระส่วนตัว ผมบ่นกับไอ้ธีระว่าร้อน อยากอาบน้ำ เมื่อกี้ถึงจะได้ลงน้ำแต่ก็แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น อยากอาบน้ำแบบจริงๆ จังๆ ซักที ไอ้ธีระก็เห็นด้วยกับผม มันบอกว่า
" กูก็คิดเหมือนมึง เหนียวตัวชิบหาย ตั้งแต่มานี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย เมื่อไหร่เขาจะให้เราอาบน้ำซักทีวะ กูร้อนๆๆๆๆ ว้อยยยย "
" นั่นสิ กูเองก็อยากอาบน้ำจะแย่อยู่แล้ว ตัวเหม็นเหี้ยๆ เลยว่ะ "
ผมพูดกับมัน แต่ใจจริงๆ คืออยากจะเห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง ภาพของหนุ่มนศท. ทั้งกองพันใส่กางเกงในตัวเดียวอาบน้ำกันแบบไม่มีใครอายกัน สะใจดีแท้ๆ ภาพนี้เคยเห็นไปหลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ ยังไม่เห็นเลย!
เมื่อไหร่จะได้อาบน้ำซักทีหนอ ?
.................

6 โมงเย็น
" ทั้งหมด รวม !!!! "
หัวหน้าชุดฝึกตะโกนลั่น ผมและเพื่อนๆ รีบลุกขึ้นวิ่งมาเข้าแถวด้วยความรวดเร็ว หัวหน้าชุดฝึกเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพาทุกคนเดินเข้าไปในป่า พอถึงที่หมายก็สั่งให้นั่ง แล้วอธิบายการฝึกในคืนนี้ คืนนี้เราต้องฝึก " การเล็ดลอดหลบหนี " ซึ่งเป็นการฝึกที่โหดมากๆ โดยให้แต่ละหมู่หาทางกลับฐานเอาเอง ไม่มีแผนที่หรือเข็มทิศให้ ห้ามใช้ไฟฉายด้วย และตามทางจะมีครูฝึกแอบซุ่มอยู่ ต้องระวังไม่ให้โดนจับได้ ถ้าเกิดโดนครูฝึกจับได้จะโดนแก้ผ้าเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว (! ) คงจะอายเพื่อนน่าดู เพราะฉะนั้นต้องระวังตัวให้ดี อย่าให้โดนจับได้เป็นอันขาด
ครูฝึกอธิบายการฝึกจนจบ แล้วก็ย้ำว่า
" เวลาเดิน เดินระวังๆ ด้วยเพราะว่าลวดหนามมันเยอะ ระเบิดก็มี แล้วก็ห้ามเดินออกไปที่ถนนใหญ่ด้วยล่ะ ถ้าเจอกองร้อยอื่นฝึกอยู่ก็ห้ามเข้าไปยุ่ง หาทางกลับฐานให้ได้ก่อนสามทุ่ม ทั้งหมด ทราบ !!!!! "
" ทราบบบบ !!!! "
ตูม !!!!!!!!!!
ผมและเพื่อนๆ ทุกคนสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงระเบิด TNT ดังขึ้น ท่าทางแถวนี้จะมีระเบิดเยอะจริงๆ การฝึกคืนนี้คงจะไม่ธรรมดาซะแล้ว.ผมคิด
" ทั้งหมด ลุก !!!! "
ทุกคนลุกขึ้น ครูฝึกตะโกนลั่น
" ขอให้ทุกคนโชคดี วิ่ง หน้า วิ่ง ! "
สิ้นคำสั่งของครูฝึก หมู่แรกๆ ก็ออกวิ่งไปทันที ไม่นานหมู่ของผมก็วิ่งตามไปด้วย ขณะที่ผมวิ่งอยู่นั้น ระเบิดก็ดังตูมตามอยู่ตลอดเวลา เหมือนเราวิ่งอยู่ในสมรภูมิรบอย่างนั้นเลย
ตูม!!!!!!!!!!!! ตูมมมมมม !!!!!!!!! ตูมมมมมมม !!!!!!!!!
ผมและเพื่อนๆ ในหมู่ออกวิ่งเข้าไปในป่าตามหมู่อื่น แต่ไม่นานหมู่อื่นก็วิ่งไปทางอื่น เหลือแต่หมู่ของผมหมู่เดียว ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่ หันมาสั่งลูกน้องว่า
" เอาล่ะ หยุดวิ่งได้แล้ว เดินไปช้าๆ เกาะกลุ่มกันไว้นะพวกมึง จะได้ไม่หลง แล้วก็เดินตามกูมาเรื่อยๆ "
" เออ !! "
ทุกคนรับคำ ผมเดินเกาะหลังไอ้ธีระไปตลอดทาง สองข้างทางมืดมาก มองอะไรไม่เห็นเลย แล้วก็เงียบมากด้วย มีแต่เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกรอบแกรบๆ เราเดินเกาะกลุ่มกันไปเรื่อยๆ โดยมีไอ้สันตินำหน้า ตามด้วยไอ้ปกป้อง ไอ้บอม ไอ้ธีระ ผม ไอ้โต้ง และเพื่อนคนอื่นอีกหลายคน
เดินไปไม่เท่าไหร่ ผมก็ได้ยินเสียงดังสวบ !!! ดังอยู่ข้างหลังผม ผมหันไปมองก็เห็นว่าเป็นไอ้โต้ง มันร้องลั่น
" โอ๊ยยยยย ใครก็ได้ ช่วยกูด้วย กูตกหลุม !!!!!! "
ผมเดินเข้าไปหามัน แล้วเอื้อมมือฉุดมันขึ้นมาจากหลุม ไอ้โต้งจ้องหน้าผมจนสายตาของมันชินกับความมืด พอมันเห็นว่าเป็นผม มันก็สะบัดมือออกทันที ทำหน้าบึ้ง
" ไม่ต้องมาช่วยกู ไอ้เกย์ "
ผมโมโหมาก ผลักอกไอ้โต้งจนมันเซ แล้วด่ามัน
" ไอ้เหี้ยนี่ กูอุตส่าห์ช่วย ยังจะมาพูดแบบนี้กับกูอีก สันดานเหี้ยจริงๆ รู้งี้กูไม่ช่วยดีกว่า กูอุตส่าห์ไม่ติดใจเรื่องที่มึงทำกับกูคืนที่แล้วนะ ไอ้ห่า ระยำจริงๆ กูไม่ยุ่งกับมึงแล้ว ไอ้เลว !!! "
พูดจบผมก็หันหลังกลับเดินหนีไปทันที ไอ้โต้งยังด่าไล่หลังผมอีก
" กูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมึงหรอก !! "
ผมกัดฟันกรอด ก้าวตีนสวบๆ ให้ทันไอ้ธีระ ไอ้ธีระหันมามองหน้าผมแล้วตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงนุ่ม
" อย่าไปสนใจคนพรรค์นั้นเลยหนุ่ม คนอย่างไอ้โต้งน่ะ ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่นหรอก ไม่เคยเห็นความดีของคนอื่นด้วย ถือว่าตนเองเจ๋งอยู่ตลอดเวลา อย่าไปยุ่งกับมันเลย นะเพื่อนนะ คนเรามันแตกต่างกันจริงๆ คบแต่คนดีๆ จะดีกว่า "
ผมยิ้มให้ไอ้ธีระ ไอ้ธีระพูดต่อ
" แต่กูสงสัยอย่างว่ะ ทำไมมันเรียกมึงว่าไอ้เกย์วะ "
ผมอึ้งไปนิดนึง ก่อนจะตอบค่อยๆ
" มันคงเห็นว่ากูเรียบร้อยมั๊ง ก็เลยคิดว่ากูเป็นเกย์ "
" แล้วมึงเป็นรึเปล่าล่ะ "
ผมสะดุ้ง รีบตอบทันที
" กูไม่ได้เป็นโว้ย มึงอย่าเข้าใจกูผิดนะ กูขอย้ำ กูไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ "
ไอ้ธีระแอบอมยิ้ม แล้วพูดว่า
" กูเข้าใจ "
แล้วมันก็ไม่พูดอะไรต่ออีกเลย ผมเริ่มรู้สึกเมื่อยขาขึ้นมาบ้างแล้วก็เลยชะลอฝีตีนลง กลายเป็นเดินตามหลังไอ้ธีระไป หมู่ของเรายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้างกว่าจะถึงฐานที่มั่น แต่จะเจออะไรผมก็ไม่เคยกลัว ยังไงคืนนี้จะต้องหาทางกลับฐานให้ได้

เราเดินกันไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหนื่อยและเมื่อยขามาก มือก็เมื่อยเพราะถือปืนอยู่ แต่ก็ต้องอดทน ทั้งหมู่ไม่มีใครพูดคุยกันแล้วเพราะต่างก็พยายามเร่งฝีตีนเพื่อให้ถึงฐาน เร็วๆ ไม่นานก็เจอสุมทุมพุ่มไม้ขวางอยู่ด้านหน้า มีเพียงช่องแคบๆ กว้างพอให้คลานผ่านไปได้ทีละคนเท่านั้น ไอ้สันติทำสัญญาณมือโดยคว่ำฝ่ามือลง แล้วเลื่อนมือลงด้านล่างอย่างช้าๆ หมายถึงให้ทุกคนหมอบลงไปอย่างเงียบๆ แล้วมันก็พูดว่า
" คลานสูงผ่านไปทีละคนนะมึง ! เงียบๆ ด้วยล่ะ "
แล้วมันก็คลานสูงโดยใช้ศอกซ้ายสลับกับศอกขวาคลานผ่านช่องแคบนั้นไป โดยประคองปืนไว้ในอุ้งแขนทั้งสอง ทุกคนในหมู่ก็คลานตามมันอย่างช้าๆ พื้นที่เราคลานเต็มไปด้วยหินและทรายสกปรกๆ ยากต่อการคลานอย่างยิ่ง แถมต้องประคองปืนไปด้วย สุดยอดแห่งความทรมานจริงๆ แต่เราก็จำเป็นต้องคลาน ผมคลานผ่านไปด้วยความยากลำบาก พอพ้นแล้วก็ลุกขึ้นเดินต่อ ไม่นานก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากหลังพุ่มไม้ด้านหน้า
สวบ..สวบ...สวบ...
ไอ้ปกป้องสะกิดไอ้สันติ แล้วกระซิบเบาๆ
" ครูฝึกแอบอยู่แน่ๆ เลยว่ะ ทำไงดีวะ ติ "
ไอ้สันติกัดฟันแน่น ก่อนจะตอบสั้นๆ
" ทำยังงี้ไง "
แล้วไอ้สันติก็ออกวิ่งปรู๊ดไปข้างหน้าทันที ไอ้ปกป้องและเพื่อนคนอื่นที่เดินตามมาซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พอเห็นไอ้สันติวิ่งก็ตกใจ พากันวิ่งตามไปด้วย ผมก็วิ่งเคียงข้างกับไอ้ธีระ ปากก็ถามว่า
" เฮ้ย เฮ้ย คนข้างหน้าน่ะ วิ่งทำไมวะ ??? "
ไอ้ธีระรีบสวนกลับมาทันที
" เงียบเถอะน่า อย่าเพิ่งถาม วิ่งๆ ตามมันไปก่อน เดี๋ยวหลงนะเว้ย "
ผมวิ่งตามเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆ ทุกคนในหมู่วิ่งกันไปไกลมากจนผมรู้สึกว่าวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ก็พอดีได้ยินไอ้สันติตะโกนลั่น
" เอ้า หยุดวิ่งก่อนเหอะพวกมึง พักแป๊ปนึง ครูฝึกมันไม่ตามมาหรอก มันจะอยู่แต่ตรงนั้นแหละ แฮ่ก ! แฮ่ก ! เหนื่อยว่ะ เกือบจะโดนจับได้แล้วมั๊ยล่ะ เมื่อกี้ถ้าไม่วิ่งล่ะก็ เสร็จแหงๆ โอยเหนื่อยชิบหายเลย "
ผม ไอ้สันติ ไอ้ปกป้อง และไอ้ธีระ หยุดยืนหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย ซักพักไอ้ปกป้องก็พูดขึ้นว่า
" นี่อยู่กันครบมั๊ยเนี่ย "
" เออนั่นดิ เมื่อกี้คนในหมู่วิ่งตามกูกันมาหมดรึเปล่า ไหนเช็คคนหน่อยสิวะ "
ไอ้สันติพูดแล้วหันไปเพ่งมองเพื่อนคนอื่นที่ยืนอยู่แถวนั้น ( เพราะมันมืดมองไม่ค่อยเห็น ) ผมเลยพูดว่า
" กูไอ้หนุ่ม กับไอ้ธีระว่ะ "
" เออ มึง 2 ตัวยังอยู่นะ แล้วที่เหลือน่ะใครวะ บอกชื่อกูมาที กูมองไม่เห็นหน้า ตรงนี้มันมืด "
ไอ้สันติพูดกับผู้ชายอีก 2 คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย หนึ่งในสองคนนั้นกระแอมเบาๆ แล้วพูดช้าๆ
" กูไอ้กรน่ะ แล้วนี่ไอ้หมอก "
" อ้า..ไอ้กร หัวหน้ากองพันเองเหรอ มึงมาได้ไงวะเนี่ย ไอ้หมอกอีกคน กูล่ะงงจริงๆ "
" ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้กูเห็นพวกมึงวิ่งก็นึกว่าหนีอะไรกันมา ก็เลยพาไอ้หมอกวิ่งไปกับพวกมึงด้วย กูหลงกับหมู่ตนเองว่ะ ไอ้เหี้ยก็มันมืดอย่างนี้ มองทางก็แทบจะไม่เห็นอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการมองคน กูเดินอยู่ดีๆ หมู่กูก็หายไปเฉยเลย นี่ยังดีนะที่เจอหมู่ของพวกมึง ไม่งั้นกูแย่แน่ๆ ขอพวกกูไปด้วยละกัน "
" เออ ไม่เป็นไร เดินไปด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวถึงฐานแล้วค่อยกลับหมู่ตนเอง ไอ้ห่า เป็นถึงหัวหน้ากองพัน เสือกหลงกับหมู่ตนเองซะนี่ น่าขายหน้าว่ะกร "
ผมพูดยิ้มๆ ไอ้กรบีบหัวไหล่ผมเบาๆ แล้วพูดว่า
" คนเราก็มีผิดพลาดกันได้โว้ย "
ไอ้หมอกซึ่งเงียบอยู่นาน เดินไปสะกิดไอ้สันติ แล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 2 คนว่า
" คืนนี้ ที่เก่า เวลาเดิมนะมึง กูหิว อยากดูดควยมึงกับไอ้ป้องว่ะ "
ไอ้สันติขมวดคิ้ว
" อ้าว ไหนมึงบอกว่าคืนนี้มึงจะไม่มาไง "
" กูเปลี่ยนใจล่ะ ดูดดีกว่า คืนนึงกูดูดควยหลายเต็นท์ว่ะ ดูดให้มึง 2 คนแป๊ปนึง ไม่เห็นเป็นไร มันส์ปากดีออก "
" งั้นก็ได้ กูจะรอ "
ไอ้สันติพูดกับไอ้หมอกจบแล้วก็หันไปพูดกับเพื่อนๆ ต่อ
" นี่ก็แสดงว่าไอ้บอมกับไอ้โต้ง แล้วก็อีกหลายคนในหมู่ หาย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ไปเจอกันที่ฐานเอง เดินกันต่อดีกว่าว่ะ เดี๋ยวไปช้าจะโดนครูฝึกแดกเอา "
" โอเค ไปต่อกันเลย "
ผมและคนอื่นๆ รับคำ แล้วจึงออกเดินทางต่อไป
.............

ยิ่งเดิน สภาพของป่าก็ยิ่งโล่งมากขึ้นทำให้เรามั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว แต่ตอนนี้เกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นกับร่างกายของผม ผมรู้สึกปวดหัวเข่าและขาอย่างหนัก มีความรู้สึกว่าตีนจะบวมเป่งเหมือนลูกมะนาวเนื่องจากใช้งานติดต่อกันมา อย่างหนัก เหนื่อยก็เหนื่อย เมื่อยก็เมื่อย เวลาเดินก็ต้องระวังหลุมและพุ่มไม้ไปตลอดทาง ร่างกายของผมอ่อนแรงลงไปทุกทีๆ ไม่คิดว่าการฝึกมันจะหนักขนาดนี้ ถึงจะเหนื่อยแสนสาหัสเพียงใด ผมก็ต้องกัดฟันก้าวตีนเดินต่อไป หยุดไม่ได้ ถ้าหยุดก็เดินไม่ทันเพื่อนแน่ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา
ตูม !!!!!!!!!
" เฮ้ย !!! ระเบิด !!!!! "
ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ ผมร้องลั่นแล้วกระโดดหลบตรงพุ่มไม้ข้างๆ นั้นทันที เพื่อนๆ ของผมก็ทำแบบเดียวกัน ซักพักเสียงก็เงียบลง ไอ้ปกป้องชะโงกหน้าออกมาจากต้นไม้ที่มันหลบแล้วบอกว่า
" สงสัยจะเป็นระเบิด TNT ข่มขวัญว่ะ ไม่มีอะไรหรอก เดินต่อเหอะ "
ทุกคนจึงเดินกันต่อไป ไม่นานก็เจอกับลวดหนามเส้นใหญ่มากขึงอยู่เป็นแผงตรงหน้า ไอ้สันติทำสัญญาณคว่ำฝ่ามือลงอีกครั้ง แล้วค่อยๆ ย่อตัวลงหมอบ ทุกคนรีบทำตาม ไอ้สันติพลิกตัวเป็นนอนหงาย เอาปืนพาดไว้บนลำตัวตรงประมาณแนวหน้าอก แล้วเลื่อนตัวลอดลวดหนามไปข้างหน้าโดยใช้ส้นตีนทั้งสองข้างถีบพื้นเพื่อยัน ตัวให้ขยับเลื่อนขึ้นไป ทุกคนทำตามมัน โชคดีที่ลวดหนามขึงเอาไว้ห่างจากพื้นมากๆ ก็เลยไม่อันตราย ครูฝึกคงเห็นว่าเป็นตอนกลางคืนก็เลยทำลวดหนามให้พวกเราลอดผ่านไปได้ง่ายๆ ผมและเพื่อนๆ ลอดผ่านมาได้อย่างง่ายดาย ไม่โดนลวดเกี่ยวเลย ( ผมมารู้ทีหลังว่า ลวดหนามนั้น เขาตัดคมหนามออกหมดแล้วเพื่อความปลอดภัย ถึงจะเผลอเอาตัวไปโดนก็ไม่เป็นไร )
พอเราลอดลวดหนามผ่านมาได้แล้วก็ลุกขึ้นเดินต่อไป แต่เดินไปไม่กี่ก้าว ก็เกิดมีแสงสว่างจ้าอยู่เหนือกบาลของพวกเราทุกคน ไอ้สันติรีบทำสัญญาณมือให้ทุกคนหมอบลงอีกครั้ง ไอ้ธีระหมอบแล้วกระซิบถามผมว่า
" อะไรวะนั่นน่ะ "
" พลุส่องแสง มึงหลับตาซะ ตาจะได้ไม่พร่า "
ผมตอบแล้วก็หลับตาลง ไอ้ธีระก็หลับตาเช่นกัน ทุกคนหลับตาแล้วหมอบคอยอย่างเงียบกริบ พลุส่องแสงแวบๆๆ อยู่บนท้องฟ้าซักพักหนึ่งก็ดับไป พอพลุดับ ไอ้สันติก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วเดินนำต่อไป
" ทุ่มทุนสร้างจริงๆ ว่ะ ยังกะอยู่ในสนามรบจริงๆ เลย มีทั้งลวดหนาม แล้วยังมีพลุส่องแสงอีก "
ไอ้ธีระพูด ผมยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ เราเดินต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็มาเจอกับคูแคบๆ ไอ้ปกป้องเป็นคนพูดขึ้นมาบ้าง
" โดดข้ามไปทีละคนนะ มาขอกูก่อนบ้าง "
แล้วไอ้ปกป้องก็กระโดดข้ามไปก่อนเป็นคนแรก คนอื่นๆ ก็กระโดดตามกันไป ผมกระโดดเป็นคนสุดท้าย พอกระโดดผ่านไปแล้วรู้สึกว่าจะขาจะแพลงนิดหน่อย แต่ก็ต้องฝืนเดินต่อไป ทั้งๆ ที่เจ็บจะตายอยู่แล้ว ทันใดนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงแปลกๆ
สวบ..สวบ...กรอบแกรบ....กรอบแกรบ..
เสียงดังออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ด้านซ้ายบ่งบอกว่ามีคนอยู่ตรงนั้น ไอ้สันติสะดุ้ง รีบหันไปพูดกับไอ้ปกป้อง
" ครูฝึกอีกแล้วว่ะ คราวนี้วิ่งหนีไม่ได้แล้ว พุ่มไม้เต็มไปหมด เอาไงดีวะ "
" เปลี่ยนเส้นทางดีกว่า เดินไปด้านโน้นเลย ไป !! "
ไอ้สันติเดินนำทุกคนไปอีกด้านแล้วจึงเดินต่อไป เราเดินลุยป่ากันนานมากจนขาลากก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถึงฐานซักที
" สงสัยหัวหน้าหมู่มึงพามาทางอ้อมซะแล้ว แม่ง... "
ไอ้กรบ่น ผมได้ยินก็เลยหันไปพูดกับมันว่า
" เดี๋ยวก็ถึงฐานแล้วน่า อดทนหน่อย อ้อมนิดอ้อมหน่อยไม่เห็นเป็นไร ได้ผจญภัยเพิ่มแบบนี้ สนุกดีออกว่ะ "
จู่ๆ ไอ้สันติก็ตะโกนเสียงลั่น
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
ทุกคนงง ไม่รู้ว่ามันตะโกนทำไม แต่ไอ้ปกป้องก็พลอยตะโกนไปด้วย เพื่อนๆ ที่เหลือรีบวิ่งมาดูด้านหน้าแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมไอ้ 2 คนนั้นถึงต้องตะโกน ก็ด้านหน้าของพวกเรานั้น มีถังน้ำมันขนาดใหญ่เป็นสิบๆ ถังตั้งขวางอยู่ จะผ่านไปได้ต้องยิงถังน้ำมันเหล่านี้ให้ระเบิดก่อน ( ตามที่ครูฝึกสอนมา ) ทุกคนจึงพร้อมใจกันแหกปากลั่น ใช้กระสุนไม่รู้จักหมดกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งผมที่แหกปากตะโกนดังกว่าเพื่อน
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ " " ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ " " ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
แล้วยังถือปืนทำท่ายิงกราดใส่ถังน้ำมันไปด้วย เล่นแบบนี้ก็สนุกดี ได้ปลดปล่อยความแมนออกมาอย่างเต็มที่ และทำให้จิตใจของผมและเพื่อนๆ ทุกคนฮึกเหิมมากขึ้น มีความรู้สึกเหมือนเป็นทหารจริงๆ อยู่ในสนามรบกันจริงๆ พอพวกเราเดินผ่านถังน้ำมันไปได้แล้วก็หยุดแหกปาก ตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป
หลังจากจุดนี้ก็ไม่เจออุปสรรคอะไรอีกเลย มีแต่การเดินบุกป่าฝ่าดงกันเฉยๆ ป่าเริ่มโล่งขึ้น เดินสบายขึ้นกว่าเดิม เราใช้เวลาเดินนานมาก เวลาเจอสิ่งผิดปกติก็หมอบกันทุกครั้ง แต่ก็ไม่เจออะไรอีกเลย ครูฝึกก็ไม่เจอ เราเดินไปหมอบไปจนเกือบ 3 ทุ่ม ก็เดินกลับมาจนถึงฐานเกือบจะเป็นหมู่สุดท้ายเพราะมัวแต่หมอบกันอยู่ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดก็ถึงที่พักของเราซะที ดีใจที่ไม่โดนครูฝึกจับได้ และดีใจที่กลับมาถึงที่พักด้วยความปลอดภัย
" คืนนี้สนุกดีนะมึง "
ผมพูดกับไอ้ธีระ มันยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบ
" กูก็ว่างั้น เมื่อยไปหน่อย แต่ก็โอเค มันส์ดี "
พอทุกหมู่กลับมาครบแล้ว ครูฝึกก็ให้พักนิดหน่อย ก่อนจะเรียกรวมเพื่อสวดมนต์ แล้วจึงแยกย้ายกันเข้านอน

ตอนที่ 13

" วันนี้โคตรเหนื่อยเลยว่ะ กูนอนล่ะนะ ไม่ไหวแล้ว แม่งเพลียสุดๆ "

ผมพูดกับไอ้ธีระ หลังจากที่ถอดรองเท้าถุงเท้าออก และคลานเข้ามาล้มตัวลงนอนในเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ไอ้ธีระมองหน้าผม แล้วพูดเบาๆ
" ฝันดีมึง หลับให้สบาย พรุ่งนี้กูปลุกเอง "
ผมยิ้มให้ไอ้ธีระ แล้วพลิกตัวนอนตะแคงก่อนจะหลับตาลง ไม่นานผมก็เคลิ้มหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ไอ้ธีระก็ล้มตัวลงนอนเหมือนกัน แต่นอนตะแคงคนละด้านกับผม พอผมหลับไปแล้ว มันก็ค่อยๆ พลิกตัวกลับมาหาผม แล้วเอาแขนโอบตัวผมไว้แน่น ก่อนจะหลับไปเช่นกัน
...............

4 ทุ่ม
ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากปวดเยี่ยวมาก ก็เลยรีบลุกขึ้นนั่ง ไอ้ธีระนอนหลับตานิ่งอยู่ข้างๆ ผม แขนของมันอยู่ห่างจากตัวผมไม่กี่คืบ มันเขยิบมานอนใกล้ผมมากจนผมรู้สึกแปลกใจ แต่ก็พยายามคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ ไอ้ธีระมันคงไม่ได้ตั้งใจจะมานอนซะชิดผมขนาดนี้หรอก ผมไม่ถืออยู่แล้ว ผู้ชายด้วยกันนี่นา ยิ่งไอ้ธีระเป็นผู้ชายแท้ๆ ซะด้วย นอนชิดติดกันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ผู้ชายแท้ๆ เขาไม่คิดอะไรหรอก !
จะปลุกให้มันไปเยี่ยวเป็นเพื่อนก็เกรงใจ ไปคนเดียวดีกว่า ปล่อยให้มันหลับต่อไปละกัน ไอ้ธีระมันทำเพื่อผมมามากแล้ว ตอนนี้ให้มันได้มีเวลาพักผ่อนให้เต็มที่บ้าง
ผมคิดแล้วก็ใส่รองเท้าถุงเท้า มุดออกจากเต็นท์ เดินไปที่ห้องน้ำของกองพันซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก พอไปถึงผมก็เห็นไอ้หมอกยืนยามอยู่ด้านหน้า แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักมัน ผมเดินตรงเข้าไปหามันแล้วส่งยิ้มให้
" มาทำอะไร " ไอ้หมอกถาม
ผมแกล้งเอามือกุมเป้ากางเกง พูดเสียงสั่นๆ ทำทีว่าปวดมาก
" ขอกูเยี่ยวหน่อย เยี่ยวจะแตกอยู่แล้ว อูยยยย ปวด "
ไอ้หมอกมองหน้าผม แต่ไม่พูดอะไร ผมรีบพูดต่อ
" โธ่มึง อย่าใจร้ายนักเลยว่ะ ขอกูเยี่ยวแป๊ปเดียว หรือมึงจะให้กูไปเยี่ยวที่สุมทุมพุ่มไม้วะ อูยยยยย นะขอกูเข้าไปหน่อยเถอะ เร็วๆ จะราดอยู่แล้ว "
" เอ้า เอ้า เข้าไป เร็วๆ ล่ะมึง "
ไอ้หมอกทำเสียงเหมือนรำคาญ แต่มันก็ให้ผมเข้าไป ผมรีบเดินเข้าไปที่ " ช่องเยี่ยว " ซึ่งเป็นช่องสำหรับให้ยืนเยี่ยว มีกำแพงปูนเตี้ยๆ กั้นแต่ละช่องเพื่อให้ยืนเยี่ยวได้ครั้งละหลายคน เวลาเยี่ยวก็เยี่ยวลงไปบนพื้นซึ่งพื้นเป็นรางแคบๆ มีน้ำไหลหมุนเวียนอยู่เพื่อให้เยี่ยวไหลไปได้ง่ายขึ้น ทุกคนในกองพันไม่ว่าจะเป็นครูฝึกหรือนักศึกษาวิชาทหาร ต้องเคยมายืนเยี่ยวที่ " ช่องเยี่ยว " แห่งนี้ทั้งสิ้น ผมเดินไปหยุดที่ช่องเยี่ยวช่องตรงกลาง รีบคลายเข็มขัด ปลดกระดุมกางเกง รูดซิปควักควยดุ้นน้อยออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็เริ่มเบ่งเยี่ยว แต่เพราะผมอั้นไว้นานไป เยี่ยวก็เลยยังไม่พุ่งออกมา ผมเลยยืนรอซักครู่เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายขึ้น ด้วยหวังว่าอีกไม่นานเยี่ยวคงออก แต่มันก็ไม่ยอมไหลออกมาซักที เอาล่ะสิ ทำไงดี ผมเลยเอามือดึงควยเล่น 2-3 ทีเพื่อเร่งให้เยี่ยวออก ไอ้หมอกซึ่งมองพฤติกรรมของผมมาโดยตลอด รีบเดินเข้ามายืนที่ช่องเยี่ยวช่องข้างๆ พลางปลดเข็มขัด ปลดกระดุมกางเกง รูดซิปกางเกงลง แล้วควักควยออกมากำไว้ ไอ้หมอกมองหน้าผม แล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกัน 2 คน
" ไม่เห็นมึงเยี่ยวเลย "
ผมก้มหน้านิ่ง สายตาจับจ้องแต่ควยตนเอง มือก็เค้นลำควยไปด้วยเพื่อให้เยี่ยวออกเร็วๆ
" รอเดี๋ยวสิวะ กูอั้นไว้นาน มันก็เลยไม่ออก เดี๋ยวก็ออกแล้ว มึงอย่ามาเร่งกูสิ "
ไอ้หมอกเหล่มองควยผม เวลาผมยืนเยี่ยวผมไม่เคยเอามือปิดควยอยู่แล้ว ผมถือว่าเป็นผู้ชายด้วยกันไม่มีอะไรต้องอาย ถ้าอายควยก็ถือว่าเป็น " ตุ๊ด " เราต่างก็มีควยเหมือนๆ กัน จะอายทำเหี้ยไร ถ้ามึงเห็นควยกูก็ถือว่าโชคดีไป ได้ดูของฟรี เห็นแล้วก็เอาไปไม่ได้ หรือถ้ามึงอยากมองก็มองได้เลยตามสบาย ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ผมกำลังพยายามจะเบ่งเยี่ยวให้ออก เลยไม่สนใจว่าไอ้หมอกกำลังเหล่ควยผมอยู่ พอมันเห็นว่าผมไม่ว่าอะไร ก็เลยเปลี่ยนเป็นชะโงกมองควยผมอย่างพินิจพิจารณา
" ใช้ได้นี่หว่า "
ไอ้หมอกพูดยิ้มๆ หลังจากมองควยผมแบบเต็มๆ ตาแล้ว ผมหยุดเค้นควย หันไปมองไอ้หมอกซึ่งตอนนี้กำลังยืนกำควยตนเองอยู่
" อะไรใช้ได้วะ " ผมถาม
" ก็จรวดของมึงไง ขนาดกำลังใช้ได้เลย "
ผมหัวเราะ มองควยที่กำอยู่ในมือ แล้วพูดว่า
" ไม่หรอกว่ะ กูว่าของกูเล็กจะตาย "
ไอ้หมอกรูดหนังหุ้มควยของมันลงจนสุด หัวควยสีแดงเลือดหมูของมันโผล่ออกมาทั้งหมด ผงกหัวหงึกๆ อย่างอยากจัด ไอ้หมอกเริ่มต้นรูดลำควยช้าๆ ก่อนจะพูดต่อ
" เล็กเหรอ กูว่าไม่นะ กำลังพอดี พอดีปากกูเลย "
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของมัน รีบจ้องหน้าไอ้หมอกเขม็ง มือของไอ้หมอกกำลังรูดควยเร็วขึ้นๆ ผมรีบชะโงกหน้าไปดูควยของมัน แล้วก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นลำควยยาวเป็นท่อนทรงกระบอกชี้เด่ออกมาจากท่อนล่างของไอ้หมอก หัวควยของมันถอกบานเต็มที่เป็นสีเลือดหมู มีไฝอยู่ 1 เม็ด ตรงกลางหัวควยเป็นรูเยี่ยวรูใหญ่ที่มีน้ำใสๆ ซึมออกมาจนเยิ้ม ไอ้หมอกทำเสียงซู้ดซี๊ดด้วยความเสียวปนสะใจ มือยังคงรูดลำควยเล่นไม่ยอมหยุด เส้นเลือดเส้นใหญ่ๆ ปูดโปนทั่วลำควยเห็นเป็นริ้วๆ ผมมองแล้วน้ำลายไหล สุดจะห้ามใจไหวแล้ว รีบเอื้อมมือไปจับควยของไอ้หมอกทันที มันรีบปล่อยมือออกให้ผมรูดลำควยเล่นอย่างเต็มที่
เสียงรูดลำควยดัง ปับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" โอยยยยยยย เสียวววววว มึงรูดซะกูเสียวเลย อูยยยยยยย ไอ้แว่น มึง..มึงดูดจรวดกูดีกว่า ..เร็วๆ "
ผมรอคำนี้มานานแล้ว รีบเก็บควยของผมเข้าที่ ตอนนี้ไม่เยี่ยวแล้ว ขอดูดควยของเพื่อนก่อน ผมคุกเข่าลงเอาปากครอบลำควยที่อุดมไปด้วยเส้นเลือดดุ้นนั่นทันที แค่ครอบครั้งแรกก็มิดถึงโคนควยเลยทีเดียว แล้วผมก็ตั้งหน้าตั้งตาดูดควยยาว 6 นิ้วของไอ้หมอกอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งดูดลำควย สลับกับดูดหัวควยและเลียรูเยี่ยว ควยของไอ้หมอกดูดมันส์มากเพราะมีเส้นเลือดเยอะ แถมหัวควยบานใหญ่ ดูดแล้วรู้สึกหยุ่นๆ ในปาก ในขณะที่ผมดูดควยไอ้หมอกอยู่นั้น ผมก็ดึงทั้งกางเกงนอกกางเกงในของมันลงไปกองแทบเท้า ก่อนจะบีบแก้มตูดของมันแรงๆ ด้วยความสะใจ ตูดของไอ้หมอกแข็งมาก บีบมันส์ดี เท่านั้นยังไม่พอ ผมยังเอานิ้วแยงรูตูดมันด้วย มันถึงกับร้องโอ้ก ! ด้วยความมันส์ ก่อนจะกดกบาลผมให้ดูดลงไปลึกกว่านี้อีก นิ้วของผมยังคงสาละวนอยู่กับการแหย่รูตูดของมัน รูตูดของไอ้หมอกแฉะนิดหน่อย คงจะเปียกเหงื่อ ผมแหย่รูตูดของมันจนหนำใจ จึงเปลี่ยนมาเล่นพวงไข่ของมันบ้าง แล้วจึงเลื่อนลงมาเลียไข่ของมัน ก่อนจะกลับไปดูดควยมันต่อ แล้วเอานิ้วจิ้มรูตูดมันอีกครั้ง
" ซี๊ดดดดดดดดดด เสียวจรวด ตูดก็เสียว ไอ้เหี้ยมึงแหย่ตูดกูด้วยเหรอ โคตรเหี้ยเลย โอยกูไม่ไหวแล้ว มึง...มึง..ถอดเสื้อเลย ไอ้เหี้ย "
ผมได้ยินดังนั้นก็ถอดเสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวออก ไอ้หมอกก็ถอดออกด้วย รวมทั้งรองเท้าถุงเท้า ตอนนี้เรา 2 คนอยู่ในสภาพล่อนจ้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำ ผมโผเข้ากอดไอ้หมอกแน่น แล้วดูดปากรัวลิ้นกับมันอย่างสะใจ ไอ้หมอกก็ดูดปากผมตอบ แล้วเอาลิ้นสอดเข้าไปควานในปากของผมด้วย ผมดูดปากของมันไป เอามือลูบกบาลสากๆ ของมันไปด้วย ทั้งผมและไอ้หมอกแลบลิ้นออกมานอกปากแล้วเอาปลายลิ้นพันกันอย่างสะใจ แลกเปลี่ยนน้ำลายกันอุตลุต ก่อนจะผลัดกันสอดลิ้นเข้าไปในปากของกันและกันจนลึก น้ำลายของเรา 2 คนไหลออกมานอกปากจนเลอะไปหมด ผมรู้สึกอุ่นไปทั้งปากและร้อนผ่าวไปทั้งตัว ซักพักผมก็เลื่อนปากลงมาไซ้ซอกคอแกร่งๆ ของมัน กลิ่นซอกคอของไอ้หมอกหอมมาก หอมจนผมควยโด่ด้วยความเงี่ยน ผมสูดกลิ่นตัวของไอ้หมอกจนเต็มปอด แล้วดูดเลียหัวนมสีดำที่แข็งเป็นไตของมัน ไอ้หมอกครางเบาๆ ด้วยความเสียวกระสันต์ มันหลับตาแล้วเอามือลูบกบาลของผมช้าๆ แต่แฝงไปด้วยความอยาก
" อา....เสียวจังเลยว่ะ ....มึงเจ๋งมาก....กูไม่ได้เสียวอย่างนี้มานานแล้ว อือออ.. ซี๊ดดดดดดด.... "
แล้วมันก็ดูดหัวนมผมบ้าง สลับกันไป จนเรา 2 คนอยากถึงขีดสุด ไอ้หมอกลืมตาขึ้นจ้องควยผม แล้วบอกว่า
" ขอกูดูดจรวดมึงบ้าง "
ผมก็ไม่ขัดอยู่แล้ว รีบนอนหงายอ้าซ่า ควยท่อนใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าไอ้หมอก ไอ้หมอกก้มลงดูดควยขาวๆ ของผมจนมิดด้ามทันที มันซอยปากยิกๆๆ ใส่ท่อนควยของผม จนผมน้ำลายไหลด้วยความเสียว รีบกระเด้งอัดลำควยเข้าปากของมันอย่างสะใจจนตูดลอยขึ้นจากพื้น
" โอยยยยยยยย เสียว..ควยยยยยย..โว้ยยยยยย อือออออ...แม่ง..ดูดให้มิดเลยมึง อืออออ มึงเลียรูเยี่ยวกูด้วยเหรอ กูเสียวนะโว้ยยยยยย "
ผมกัดฟันด้วยความเสียว ไอ้หมอกมันดูดควยโคตรเก่งเลย ดูดซะผมร้องครางเป็นตัวเหี้ยไปเลย ไอ้หมอกเอาปากอมตรงหัวควยสีชมพูบานๆ แล้วก็เลียรูเยี่ยวของผมจนชุ่ม ก่อนจะลากลิ้นไปจนทั่วลำควยขาวจั๊วขนาด 5 นิ้วครึ่ง มันเอาฟันขบเส้นเลือดที่โคนควยของผมเบาๆ ก่อนจะเอาลิ้นเลียเส้นเลือดที่ขึ้นทั่วลำควยช้าๆ แล้วดูดเน้นๆ ตรงบริเวณที่มีเส้นเลือดปูดโปนออกมา ทำเอาผมเสียวจนน้ำหูน้ำตาไหล ทั้งเสียวน้ำอยากจะแตก ทั้งเสียวเยี่ยวจะออก ความรู้สึกมันปนๆ กัน แยกไม่ออกว่าน้ำอะไรจะออกมาก่อน แต่ตอนนี้น้ำเงี่ยนต้องออกมาก่อนแน่นอน ผมยังไม่อยากเสียพลังงานในตอนนี้เพราะต้องการจะสงวนเอาไว้ใช้ในการฝึกวัน ต่อๆ ไป ร่างกายจะได้แข็งแรง ถ้าเกิดน้ำแตกตอนนี้ วันต่อๆ ไปฝึกไม่ไหวแน่ๆ เพราะจะเพลียมาก ผมจำต้องกัดฟันอดทนไม่หลั่งออกมา แล้วพูดว่า
" เฮ้ย !! พอก่อน เอาปากออกก่อน พอแล้วมึง กูยังไม่อยากให้น้ำแตก ซี๊ดดดดดด เสียวว่ะ แต่พอก่อนโว้ย "
ไอ้หมอกทำหน้าไม่เข้าใจ ผมรีบผลักหน้ามันให้มันถอนปากออกจากควยผม มันยอมถอนปากออกแล้วพูด
" ทำไมไม่ให้มันเสร็จเลยล่ะวะ กูกำลังดูดจรวดมันส์ๆ จะอั้นไว้ทำไม ไม่ยอมให้จรวดระเบิด ทรมานตายโหง "
ผมลุกขึ้นยืน จัดการใส่เสื้อผ้าใส่ถุงเท้ารองเท้าจนเสร็จ แล้วตอบไอ้หมอก
" ไม่เอาหรอกว่ะ เดี๋ยวกูเพลีย กูยังอยากให้ร่างกายกูฟิตอยู่ ต้องฝึกอีกหลายวัน "
" ตามใจมึง ในเมื่อมึงอยากเก็บเอาไว้ ไม่แตกก็ไม่แตก ไม่ว่ากัน งั้นมึงดูดควย เอ้อ จรวดให้กูหน่อย น้ำกูจะแตกแล้ว เอาให้ระเบิดเลย กูไม่ทรมานตัวเองแบบมึงหรอก "
" ได้เลย "
ผมพยักหน้าแล้วคุกเข่าลงดูดควยของไอ้หมอกต่อ ไอ้หมอกร้องครางอย่างสะใจ มันยืนเอาควยกระแทกปากผมไม่ยอมหยุด ผมเองก็เอานิ้วแหย่รูตูดของมันไปด้วย สะใจดี รูตูดของไอ้หมอกแฉะยิ่งกว่าเดิม ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่ามันยืนยามมานาน เหงื่อเลยไหลลงไปที่รูตูด แถมตอนนี้อากาศก็ร้อนมาก ยิ่งทำให้ไอ้หมอกเหงื่อออกเยอะเข้าไปใหญ่ แต่ผมก็แหย่อย่างสะใจเพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบแหย่รูตูดผู้ชายอยู่แล้ว แต่แหย่อย่างเดียวก็ไม่มันส์ ต้องเลียด้วย ! ผมเลยถอนปากออกจากควยของมัน แล้วชะโงกหน้าไปที่ตูดดำๆ ก่อนจะแหกตูดออก รูตูดแดงๆ ของไอ้หมอกที่ไม่เคยโดนเย็ดมาก่อนปรากฏอยู่ตรงหน้าผม ผมยิ้มอย่างพอใจแล้วแลบลิ้นเลียรูตูดและขนตูดของยามหนุ่มประจำห้องน้ำคนนี้ ทันที ไอ้หมอกสะดุ้ง ร้องครางอย่างชอบใจ ผมเลียรูตูดของมันอยู่นาน มือก็เอื้อมไปชักควยของไอ้หมอกไปด้วย ไอ้หมอกคงจะเสียวตูดมาก มันร้องครางโหยหวน เสียงลิ้นตวัดขนตูดดัง แผล่บๆๆๆๆๆ
" เสียวทั้งควย เสียวทั้งตูดเลยกู โอยยยย..ซี๊ดดดดด ทำไมมึงเลียตูดเก่งขนาดนี้วะเพื่อน เก่งจริงๆ โอยเสียวตูด ... กูเสียวตูดจังโว้ยยยยยย อา.. ซี๊ดดดดด...มันส์ "
ผมยังคงตั้งหน้าตั้งตาเลียรูตูดของเพื่อนต่อไปอย่างเมามันโดยไม่ใส่ใจกับ เสียงครางของมัน จนรูตูดของไอ้หมอกชุ่มไปด้วยน้ำลายของผม ก่อนจะเอานิ้วจิ้มรูตูดจนลึกสุดตูด ควานไปจนทั่ว แล้วก็กลับมาดูดควยไอ้หมอกต่อ มือก็ยังคงแหย่รูตูดของไอ้หมอก สลับกับบีบแก้มตูดดำๆ ของมันไปด้วย
เสียงควยโดนดูดดัง จ๊วบๆๆๆๆๆๆ
ไอ้หมอกทำหน้าเหยเกด้วยความเสียว ขาสั่นพั่บๆ มันรีบเกร็งตูดกระเด้าลำควยยาวๆ ที่แข็งเป็นหินเข้าปากผมอย่างไม่ยั้ง บางทีมันก็คลายกล้ามเนื้อที่ตูดลงบ้างเพื่อให้ผมสามารถเอานิ้วทะลวงรูตูด ของมันได้สะดวก ผมเลยแหย่เข้าไปซะลึก แล้วควานรูตูดเล่นอย่างสนุก
" ไอ้เหี้ยนี่ มึงแหย่ตูดกูซะลึกเลยยยย โอยยยย ซี๊ดดดดดดด ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับกูเลยนะเนี่ย มึงคนแรกที่กล้าแหย่กล้าเลียตูดกู....อูยยยย..จรวดกู....เสียวจรวดจังว่ะ.. อักกกก....กูจะออกแล้วนะโว้ยยยยยยย "
ทั้งผมและไอ้หมอกไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้มีเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งที่ตั้งใจจะมาเยี่ยว ยืนตะลึงอ้าปากค้างอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อเห็นภาพของผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูดควยและแหย่ตูดเพื่อนอย่างหื่น กระหาย ราวกับอดอยากปากแห้งมานาน ไอ้คนนั้นพูดกับตนเองเบาๆ ด้วยสีหน้าขยะแขยงแบบสุดๆ
" ไอ้เหี้ย !!!!!!! ไอ้สัตว์ !!!!!! แม่งทำเหี้ยอะไรกันวะ ส้นตีน !!!!! กูจะอ้วก !!!!!! ดูดเข้าไปได้ไงวะ อ้วก ไม่ไหวแล้วโว้ย กูไปเยี่ยวที่อื่นก็ได้ ทนดูไม่ได้ ไอ้เหี้ย !!!!!! ระยำ ระยำจริงๆ "
พูดจบมันก็วิ่งหนีไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้หมอกกดกบาลผมลงให้ผมดูดจนถึงโคนควย น้ำเงี่ยนร้อนๆ พุ่งกระฉูดออกจากรูควยทันที ไหลเนืองนองเต็มปากผม และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพุ่ง ไอ้หมอกครางลั่น
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด อูยยยยยยยยยยยย น้ำกูระเบิดแล้ววว ระเบิดแล้วโว้ยยยย "
น้ำเงี่ยนของไอ้หมอกเยอะมาก เยอะจนน่าตกใจ ผมรีบดูดแดกน้ำเงี่ยนของมันทันที น้ำเงี่ยนสดๆ ของไอ้หมอกไหลลงไปในคอของผม รสชาติเค็มปนขมแถมข้นคลั่ก ไอ้หมอกใช้เวลาหลั่งอยู่นานกว่าน้ำจะออกมาจนหมด พอน้ำเงี่ยนของมันถูกพ่นออกมาจนหมดแล้ว ผมก็เลียหัวควยและรูควยของมันจนสะอาด จูบลำควยของเพื่อนเบาๆ ก่อนจะคายควยของมันออกจากปาก ควยของไอ้หมอกเป็นมันวาว ถึงจะหลั่งออกมาแล้วแต่ลำควยของมันก็ยังยาวอยู่ ไอ้หมอกเอามือรูดหนังหุ้มปลายลงไปปิดหัวควยตามเดิม ตอนนี้ควยของมันดูคล้ายกระบอกข้าวหลามกระบอกเล็ก น่ารักดี มันตบไหล่ผมแรงๆ แล้วพูดว่า
" มันส์ดีว่ะ ขอบใจมึงมากๆ ที่ทำให้กู มึงใช้ปากได้เยี่ยมไปเลย ไอ้แว่น "
ผมยิ้ม ขณะมองดูมันแต่งตัว
" เออ กูลืมถาม ทำเหี้ยด้วยกันมาตั้งนานแล้ว ยังไม่รู้ชื่อมึงเลย "
" กูชื่อหมอก "
มันตอบเบาๆ ผมขมวดคิ้ว
" หมอกเหรอ เอ๊ะ ! มึงใช่คนที่หลงมาหมู่กู ตอนเล็ดลอดหลบหนีหรือเปล่า ที่มึงหลงมากับไอ้กรน่ะ กูจำได้ว่าไอ้กรเรียกชื่อมึง "
" ใช่ กูเอง อ้าวเฮ้ย ! นี่มึงเป็นคนหมู่นั้นด้วยเหรอวะ มึงชื่อไร "
" กูชื่อหนุ่ม อยู่หมู่เดียวกับไอ้สันติ ไอ้ปกป้อง "
" อา....โลกมันกลมจริงๆ ที่แท้มึงก็อยู่หมู่เดียวกับไอ้ติ ไอ้ป้อง นี่เอง ดีว่ะดี ยินดีที่ได้รู้จักมึงนะ ไอ้หนุ่ม กูเป็นเพื่อนซี้ของไอ้ 2 ตัวนั่นเลย รู้จักกันมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนกลางวันถ้าเจอกับกู ก็ทักกันได้นะเว้ย แล้วเราคงได้มีโอกาสสนุกแบบนี้กันอีกนะ มึงอยู่เต็นท์ไหน "
ผมบอกหมายเลขเต็นท์ไป ไอ้หมอกยิ้มกริ่ม
" แล้ววันดีคืนดี กูจะไปมุดเต็นท์มึง เตรียมตัวเตรียมตูดไว้ให้ดีๆ ล่ะ กูจะล่อให้ตูดบานเลย "
ผมหัวเราะ หึ หึ แล้วตบไหล่ไอ้หมอก 2-3 ที ก่อนจะพูดเสียงนุ่ม
" เอาเถอะมึง แต่ตอนนี้กูขอไปนอนก่อนล่ะ ง่วงว่ะ เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน ไอ้หมอก เป็นยามดีๆ ล่ะมึง กูไปล่ะนะ "
" เออ โชคดี "
ไอ้หมอกพูดแล้วยิ้มให้ผม ผมยิ้มตอบแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำกลับเต็นท์ทันที ส่วนไอ้หมอกก็เดินออกจากห้องน้ำแล้วยืนยามต่อ พอผมเดินมาถึงเต็นท์ ผมรีบมุดเข้าไปในเต็นท์แล้วจัดการถอดถุงเท้ารองเท้าออกวางไว้ข้างตัว ล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจข้างๆ ไอ้ธีระ ซึ่งยังคงหลับสนิท
ไม่นานผมก็หลับไป โดยที่ลืมไปว่า ยังไม่ได้ทำกิจส่วนตัวบางอย่างที่ตั้งใจจะทำตอน 4 ทุ่มเลย !

6 ทุ่มครึ่ง
ไอ้ธีระนอนกระสับกระส่ายอยู่ในเต็นท์ มันตื่นตั้งแต่ 6 ทุ่มแล้วเนื่องจากนอนไม่หลับ เหลือบไปเห็นผมนอนหลับเป็นตายอยู่ข้างๆ ก็เลยค่อยๆ คลานออกจากเต็นท์ ลุกเดินไปยังเต็นท์อื่นๆ หวังจะมุดเต็นท์เพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน
...ถ้าคืนนี้น้ำไม่แตก กูคงนอนไม่หลับแน่ๆ ..ไอ้ธีระคิดในใจ
ไอ้ธีระเดินทอดน่องอยู่ซักพัก พลางขบคิดว่าจะมุดเต็นท์ไหนดี ก็พอดีได้ยินเสียงผู้ชายเรียกชื่อมันเบาๆ
" ไอ้ระ ไอ้ระ ! "
ไอ้ธีระมองหาต้นเสียง และพบว่าเสียงดังมาจากเต็นท์ที่อยู่ด้านซ้ายมือของมัน ไอ้ธีระคุกเข่าลงมองเข้าไปในเต็นท์นั้น ท้ายเต็นท์ถูกเปิดออกทันที มือของผู้ชายคนหนึ่งที่ยื่นออกมาจากท้ายเต็นท์แล้วกระดิกนิ้วช้าๆ เป็นสัญญาณให้ไอ้ธีระเข้ามา
" รีบๆ เข้ามาเลยมึง มาสนุกกัน กูนอนคนเดียว เร็วๆ เข้ามา "
ไอ้ธีระขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ได้ยินแต่เสียง แต่ก็จำเสียงไม่ได้ ช่างเถอะ ในเมื่อมันเชิญชวนให้เข้าไปเล่นเสียวถึงขนาดนี้แล้ว จะปฏิเสธก็กระไรอยู่ เข้าไปเดี๋ยวก็รู้เองว่ามันเป็นใคร
ไอ้ธีระตัดสินใจมุดเข้าไปในเต็นท์นั้นทันที
..............

พอไอ้ธีระคลานเข้าไปในเต็นท์เรียบร้อยแล้ว ไอ้หนุ่มคนที่อยู่ในเต็นท์ซึ่งถอดเสื้อรออยู่แล้วก็รีบถอดกางเกงขายาวและ กางเกงในออกจนอยู่ในสภาพล่อนจ้อน แล้วเปิดไฟฉายกระบอกจิ๋วเอาวางไว้ตรงปลายตีนเพื่อให้มองเห็นภายในเต็นท์ แล้วคว้าตัวไอ้ธีระเข้าไปกอดทันที ไอ้ธีระก็กอดตอบอย่างเต็มใจ ไอ้หนุ่มคนนั้นทั้งกอดทั้งหอมแก้มไอ้ธีระเป็นการใหญ่ แถมยังไซ้ซอกคอมันด้วย ไอ้ธีระสงสัยเต็มทน อยากรู้ว่าไอ้หนุ่มที่มากอดมาไซ้มันอยู่ตอนนี้เป็นใครกันแน่ ก็เลยผลักไอ้หนุ่มคนนั้นออกห่าง พลางจ้องหน้ามัน
เมื่อไอ้ธีระเห็นหน้าไอ้หนุ่มคนนั้นชัดๆ แล้ว ก็ทำอาการแบบเดียวกับไอ้บอมที่มาเย็ดกับมันเมื่อคืนที่ผ่านมา นั่นคือจ้องหน้าไอ้คนนั้นเขม็งอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง แล้วพูดว่า
" นี่...มึง..ที่แท้มึงก็เป็นเกย์นี่เอง ไอ้เหี้ย เป็นไปได้ไงวะ กูไม่อยากจะเชื่อ "
" แต่มันเป็นไปแล้วโว้ย เป็นแบบที่มึงเห็นนี่ไง แบบเนี้ย "
พูดจบไอ้หนุ่มคนนั้นก็ประกบปากเข้ากับปากไอ้ธีระทันที แล้วรัวลิ้นอย่างช่ำชอง ไอ้ธีระก็สนองตอบอย่างเต็มใจ มันรีบแลบลิ้นออกมาพันกับลิ้นของไอ้หนุ่มหน้ามนคนนั้น แลกน้ำลายกันเต็มที่ จนน้ำลายของทั้งคู่ไหลเยิ้มออกมานอกปาก ไม่นานไอ้หนุ่มก็ถอนปากออก ล้มตัวลงนอนหงาย แล้วพูดเบาๆ
" หิวน้ำมั๊ยวะ "
" หิว หิว กูหิวไปหมดเลย ทั้งหิวน้ำ ทั้งหิวควย หิวตูด "
ไอ้ธีระตอบเสียงกระเส่า ไอ้หนุ่มยิ้มแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระป๋องน้ำแดงข้างๆ ตัวมาถือไว้ในมือ แล้วส่งให้ไอ้ธีระ
" ถ้ามึงหิว เอาน้ำแดงนี่ราดตัวกูเลย แล้วเลียให้สะใจ "
" เฮ้ย จะดีเหรอวะ แล้วมึงไม่เหนียวตัวแย่เหรอ "
" ทำเหอะน่า เดี๋ยวกูเอาน้ำลูบตัวก็หาย เร็วๆ กูชอบให้คนเลียตัวกูว่ะ แม่งเถื่อนๆ ดี "
" งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะ "
ไอ้ธีระพูด แล้วบรรจงราดน้ำแดงลงไปบนตัวของไอ้หนุ่มทันที ไล่ไปตั้งแต่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง สะดือ ฮามอย ควย ไข่ ต้นขา น่อง และจบด้วยตีน ไอ้ธีระพยายามราดทีละน้อยๆ และระวังไม่ให้น้ำแดงไหลลงเปรอะผ้าปูรองนอน ไม่นานตัวของไอ้หนุ่มก็แดงฉานราวกับเลือดออก พอไอ้ธีระราดเสร็จแล้วมันก็ถอดเสื้อและกางเกงขายาวออก เหลือแต่กางเกงใน ก่อนจะพูดต่อ
" กูเลียแล้วนะมึง "
แล้วไอ้ธีระก็เริ่มเลียแดกน้ำแดงที่หน้าอกของไอ้หนุ่มช้าๆ มันลากลิ้นเลียแผ่นอกล่ำๆ ที่เต็มไปด้วยกล้ามอย่างเมามัน ไล่ลิ้นลงมาถึงหน้าท้องที่มีกล้ามท้องขึ้นเป็นลอนๆ ก่อนจะลากลิ้นวนรอบสะดือหลายๆ รอบ แล้วจึงลากลิ้นลงมาตามไรขนจากสะดือลงมาถึงหมอยที่หยิกฟู ไอ้ธีระเลียหมอยของไอ้หนุ่มนานมาก แล้วจึงเปลี่ยนมาเลียที่ควยดำๆ ขนาดปานกลางที่แข็งตัวเต็มที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหว่างขา ไอ้ธีระเลียอยู่ซักพักก็ครอบปากลงไปจนมิดโคนควย ไอ้หนุ่มถึงกับร้องครางเสียงสั่นๆ ด้วยความเสียว
" อือออออ..อา...เสียวดีว่ะ "
ไอ้ธีระรูดปากขึ้นลงขึ้นลงไม่กี่ทีก็ถอนปากออก แล้วเลียตรงไข่ ไล่ลงมาถึงต้นขาล่ำๆ แข็งๆ ของไอ้หนุ่ม แล้วจบด้วยการเลียน่อง พอเลียครบทุกส่วนแล้ว ไอ้ธีระก็เอ่ยปากว่า
" หวานอร่อยดีจังเลยว่ะ "
ไอ้หนุ่มลุกขึ้นแล้วกำควยของไอ้ธีระไว้แน่น และโดยที่ไอ้ธีระไม่ทันตั้งตัว ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ก้มลงดูดควยของไอ้ธีระทันที เสียงดังจ๊วบๆๆๆๆๆ ลำควยสีดำขนาดใหญ่ผลุบหายเข้าไปในปากของไอ้หนุ่มอย่างรวดเร็ว ไอ้ธีระหลับตา แหงนหน้าขึ้นด้านบน ปากก็ครางเบาๆ
" โอยยยยยย เสียวววววววว "
ไอ้หนุ่มดูดควยไอ้ธีระจนควยของไอ้ธีระแข็งได้ที่ แล้วมันก็พลิกตัวเป็นนอนคว่ำ กางขาแหกตูดออก ไอ้ธีระตบตูดมันเบาๆ ก่อนจะเอานิ้วแหย่รูตูดจนลึก
" ให้กูเย็ดตูดเหรอ "
ไอ้ธีระถาม ขณะที่นิ้วยังคงควานรูตูดของไอ้หนุ่มอยู่
" เออ เอาเลยตามสบาย กูคันตูดแล้ว อยากได้ควยของมึงมาเกาว่ะ "
" ได้เลย จัดให้โว้ย "
ไอ้ธีระพูดแล้วก็ก้มลงถ่มน้ำลายลงไปตรงรูตูดจนรูตูดลื่น ก่อนจะถอกควยตนเองจนหัวถอกบาน แล้วเอาหัวควยมาจ่อตรงรูตูดของไอ้หนุ่ม ไอ้ธีระแหกตูดออกอีกเล็กน้อยแล้วจึงค่อยๆ ดันหัวควยของมันเข้าไป ไม่นานควยเกือบทั้งลำก็ถูกยัดเข้าไปในรูตูด ไอ้ธีระจัดการกระเด้ารูตูดช้าๆ แล้วเปลี่ยนจังหวะเป็นเร็วขึ้นๆ
ปับ..ปับ..ปับ...ปับๆๆๆๆๆๆๆ
" โอยยยย โอ๊ยยยยยยย มันส์ตูดจังโว้ย มึงนี่เย็ดเก่งจังเลยว่ะ แรงๆ เลย อักกกกกกก "
ไอ้ธีระได้ยินอย่างนั้นก็เร่งกระเด้ารูตูดแรงขึ้นกว่าเดิม เสียงควยเสียดสีกับรูตูดลื่นๆ ดัง แฉบๆๆๆ ไอ้หนุ่มหลับตาด้วยความเสียวปนสะใจ ในขณะที่ไอ้ธีระกำลังตั้งหน้าตั้งตาเสียบควยเข้ารูตูดจากด้านหลังอย่างไม่คิดชีวิต มือของไอ้ธีระจับเอวไอ้หนุ่มเอาไว้แน่น ก่อนจะกระแทกควยเข้าตูดดัง ป้าบๆๆๆๆๆ เสียงควยดุ้นใหญ่ที่เสียดสีกับโพรงตูดดังก้องไปทั่วเต็นท์
" ลึกๆ สิโว้ยยยยยยยยยยยยยย ไอ้สันดาน เอาให้โดนผนังตูดด้านในเลย เสียบให้สุดลำเลยยยยย "
ไอ้หนุ่มตะโกนลั่น ไอ้ธีระรีบอัดลำควยเข้าไปในรูตูดจนมิดลำ กะให้เข้าไปลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควยของไอ้ธีระชนเข้ากับผนังตูดด้านในอย่างจัง ไอ้หนุ่มถึงกับไอออกมาทันทีแล้วนิ่วหน้า แต่ก็ยังฝืนยิ้ม
" แค่ก แค่ก โอยยย กูจุก..กูจุกแล้วสัด แต่ก็มันส์....ซี๊ดดดดด เสียวตูด.. "
" เป็นไงล่ะไอ้เหี้ย จุกเลยเหรอ ด่ากูดีนัก นี่ นี่ โดนแบบนี้เป็นไง เป็นไง .. "
ไอ้ธีระพูดพลางกระเด้าควยเข้าใส่ผนังตูดด้านในติดๆ กันอย่างไม่ปรานี เสียงดัง ปับๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้หนุ่มครางด้วยความเสียว
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ตูดกู ตูดกู อา..... "
" ตูดมึงเป็นยังไง บอกกูมาสิไอ้เหี้ย บอกกูมา "
ไอ้ธีระคำราม ยังคงตั้งหน้าตั้งตากระเด้าลำควยเข้าไปในรูตูดของไอ้หนุ่มไม่ยอมหยุด มันซอยถี่ๆ ด้วยความมันส์แล้วเสยพรวดเข้าไปจนมิดลำ หัวควยชนเข้ากับผนังตูดด้านในอีกครั้ง เสียงควยเสียดสีกับโพรงตูดดัง ป้าบๆๆๆๆๆ ไข่ทั้งพวงของไอ้ธีระแกว่งกระทบกับตูดของไอ้หนุ่มอยู่ตลอดเวลา ปับๆๆๆๆๆๆ
" ตูดกู.....โอ๊ยยยยยยยย..กูจุกอีกแล้วววว อักกกกกกกก "
" บอกกูมา ไม่งั้นตูดมึงพรุนแน่ๆ บอกกูมาสิโว้ย....ซี๊ดดดดดดดด "
หัวควยของไอ้ธีระกระทบกับผนังตูดของไอ้หนุ่มอย่างจงใจ ส่วนลำควยก็เสียดสีไปกับโพรงตูด ไอ้ธีระกระหน่ำเย็ดรูตูดของเพื่อนอย่างไม่มีความสงสารจริงๆ ไม่นานก็เปลี่ยนท่า ไอ้ธีระจับไอ้หนุ่มนอนหงาย ยกขา 2 ข้างขึ้นมาพาดไว้บนหัวไหล่ ยัดลำควยเข้าไปในรูตูดจนลึกก่อนจะเร่งกระแทกรูตูดมันอีกครั้งหนึ่ง
ป้าบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
" โอยยยยยยยยยย ท่านี้มันส์ดี ควยมึงเสียบได้ลึกดี โอ๊ยไอ้เหี้ยยยยยยย อย่าบดหัวควยมึงกับตูดกูแบบนั้น มันเสียวนะโว้ย ไอ้เหี้ยยยย บอกว่าอย่า มันเสียวตูดดดด "
" ก็กูอยากให้มึงเสียวไง นี่เป็นไง ไม้ตายของกูเลยนะเนี่ย นี่เรียกว่าท่าบดยาโว้ย เอาหัวควยบดตูดแม่งเลย 555555 สะใจจังโว้ย "
ไอ้หนุ่มบิดเร่าๆ เมื่อไอ้ธีระเล่นไม้ตายส่ายเอวไปมาไม่ยอมหยุดเพื่อบดหัวควยเข้ากับผนังตูด ของมันอย่างจงใจ บดเข้าไป บดเข้าไป เอาให้ตูดแหกเลย หัวควยบานๆ ของไอ้ธีระจึงโดนผนังตูดของมันเต็มๆ สร้างความเสียวกระสันต์ให้ไอ้หนุ่มยิ่งนัก แล้วไอ้ธีระก็เริ่มกระแทกลำควยเข้าไปในรูตูดใหม่ มันกระแทกเร็วขึ้นๆ บ่อยครั้งที่มันเสียบควยเข้าไปจนลึกสุดตูด ทำให้ไอ้หนุ่มต้องร้อง อักกกกกก เพราะว่าจุก
" อักกกกกก จุกอีกแล้วกู ....ลึกสุดตูดจริงๆ ลึกๆ แบบนี้กูชอบ อัก....จุกโว้ยยยยย "
" มึงชอบลึกสุดตูดมากนักใช่มั๊ย งั้นเอาไปหลายๆ ทีนะ ย๊ากกกกกก "
ไอ้ธีระกระหน่ำแทงควยเข้าไปในรูตูดจนลึกติดๆ กันหลายครั้ง ลำควยทั้งลำของไอ้ธีระหายเข้าไปในโพรงตูดทันที ไอ้หนุ่มบิดเร่าๆ ด้วยความมันส์ น้ำหูน้ำตาไหล กล้ามเนื้อของมันเกร็งไปหมดทั้งตัว ไอ้ธีระเร่งกระเด้าลำควยเข้าใส่โพรงตูดอย่างไม่ยั้ง ปับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไข่ 2 ใบแกว่งไกวกระทบตูดของไอ้หนุ่มไม่หยุด
" โอยยยย กูเกิดมา...เพื่อสิ่งนี้จริงๆ..ลึกสุดตูด...นี่เป็นลึกสุดตูดที่มันส์ที่สุด...ในชีวิตกูเลย "
เสียงควยเสียดสีกับผนังตูด ดังป้าบๆๆๆๆๆๆๆ
" ไม่ไหวแล้ว..ตูดกู ตูดกู "
" ตูดมึงเป็นอะไร บอกกูมาซะที โอยยยยยยย เสียววววว น้ำกูจะออกแล้วนะโว้ย "
ไอ้ธีระพูด แล้วก็ต้องซี๊ดปากด้วยความเสียว ควยก็ยังคงกระเด้าเอาๆ อย่างมันส์ในอารมณ์
" ตูดกู... แหกหมดแล้ว ไอ้เหี้ยยยยยยยย บานหมดแล้ว..ครวยยยยยย "
" ก็ดีสิวะ กูก็อยากให้ตูดมึงแหก ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ แหกเลย บานเลย อูยยยยย ซี๊ดดดดดด สะใจจังโว้ยยยยย "
ไอ้ธีระตะโกนลั่น แล้วอัดลำควยผ่านโพรงตูดเข้าไปในโดนผนังตูดด้านในแบบเต็มๆ มันกระเด้าอีกไม่กี่ครั้งก็รีบชักลำควยแดงๆ ที่มีเส้นเลือดปูดโปนอยู่เต็ม ออกมาจากโพรงตูดที่โบ๋เป็นรูเบ้อเริ่ม แล้วระเบิดน้ำเงี่ยนใส่หน้าท้องของไอ้หนุ่มอย่างไม่ยั้ง
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด ออกแล้วกู ซี๊ดดดดดดดดดด อา......"
ปรี๊ดดดด ปรี๊ดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดด
น้ำเงี่ยนขุ่นข้นเป็นลิตรๆ กระฉูดออกมาจากรูควยของไอ้ธีระ มันพุ่งเป็นสายยาวแตกกระจายเต็มหน้าท้องของไอ้หนุ่ม ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง ไอ้ธีระร้องลั่น พลางกระตุกลำควยไม่ยอมหยุดเพื่อให้หลั่งน้ำเงี่ยนออกมามากที่สุด
น้ำเงี่ยนจึงถูกหลั่งออกมามากมาย ไม่นานก็หมด แล้วไอ้ธีระก็จัดการชักลำควยของไอ้หนุ่มด้วยความรวดเร็ว ไม่นานน้ำเงี่ยนของเพื่อนก็แตกกระจายปรี๊ดๆๆๆๆ ออกมาเช่นกัน ไอ้ธีระรีบเอาปากรองน้ำเงี่ยนของไอ้หนุ่มเอาไว้แล้วกลืนกินไปจนหมด
" โอยยยยยยยยย เสียววววววววว "
ไอ้หนุ่มครางอย่างสบายใจหลังจากน้ำแตก แล้วจึงนอนหอบอย่างเหนื่อยอ่อนพลางเอามือคลำรูตูดช้าๆ
" ไอ้เหี้ย ตูดกูแหกหมดเลยมึงดูสิ รูตูดโบ๋เลย กูขี้ไม่ต้องเบ่งแล้วมั๊งเนี่ย มึงนี่ไม่รักษาของเลย สาดดดดด "
" แต่กูก็รู้ว่ามึงชอบ ใช่มั๊ยล่ะ "
ไอ้ธีระพูดยิ้มๆ ไอ้หนุ่มพยักหน้า
" เออ จริงๆ กูก็ชอบน่ะแหละ แม่งมันส์ดี ก็เพราะว่ามันส์แบบนี้ไง กูถึงยอมตูดบานว่ะ ไอ้เหี้ย คนเหี้ยไรวะ เย็ดเก่งชิบหายเลย น้ำเงี่ยนก็เยอะเหี้ยๆ "
มันพูดพลางเอามือลูบน้ำเงี่ยนของไอ้ธีระที่เนืองนองอยู่บนหน้าท้องของมัน ไอ้ธีระรีบใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ แล้วหอมแก้มไอ้หนุ่มเบาๆ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรูปกงจักรสีดำที่ไอ้หนุ่มสักเอาไว้ที่ต้นแขนทั้ง ข้างซ้ายและขวา ไอ้ธีระเพ่งพินิจพิจารณาดูกงจักรสีดำนั่นอยู่ซักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า
" กงจักรสวยดีนี่หว่า สักที่ไหนวะ เท่เหี้ยๆ เลย "
ไอ้หนุ่มบอกชื่อร้านที่มันไปสัก ไอ้ธีระยิ้มแล้วพูดต่อ
" เจ๋งดี แล้วกูจะไปสักบ้าง แม่งโคตรแนวเลยว่ะ ชอบๆ ตอนนี้กูขอกลับเต็นท์นอนก่อนแล้วกัน กูง่วงว่ะ "
ไอ้ธีระหันหลังกลับ ตั้งท่าจะคลานออกจากเต็นท์ ไอ้หนุ่มรีบเรียก
" เดี๋ยวก่อน ไอ้ระ "
ไอ้ธีระหยุดคลาน หันกลับมาหามัน ไอ้หนุ่มยิ้ม แล้วเอื้อมมือมาหามัน
" สัญญาลูกผู้ชายนะสัด ห้ามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด แม้แต่เพื่อนที่มึงสนิทที่สุดก็เล่าไม่ได้ "
ไอ้ธีระจับมือไอ้หนุ่มแล้วบีบแน่นๆ อย่างแข็งแรง ก่อนจะพูดเสียงดัง
" ตกลง ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย กูสัญญาว่ะ จะไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้ นอกจากมึงกับกู 2 คนเท่านั้น "
" ขอบใจมึงมากนะ หลับฝันดีล่ะ เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน "
ไอ้ธีระยิ้มให้ไอ้หนุ่มคนนั้นอีกครั้ง แล้วจึงคลานออกมาจากเต็นท์ เดินกลับเต็นท์ของตนเองอย่างอ่อนระโหยโรยแรง แต่สุดแสนจะมีความสุข
..ไม่ นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะได้เย็ดกับคนอย่างมัน โคตรโชคดีเลย..ไอ้ธีระคิดในใจ พอมันเดินกลับมาถึงเต็นท์ก็รีบมุดเข้าไปทันที แล้วล้มตัวลงนอนแผ่ข้างๆ ผมที่ยังคงหลับสนิท แถมกรนเบาๆ อีกด้วย

ตอนที่ 15

ตี 2 ครึ่ง
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแต่ก็ลุกไม่ไหวเพราะรู้สึกปวดกบาลอย่างมาก แต่ความปวดเยี่ยวมีมากกว่า ไอ้ธีระซึ่งนอนอยู่ข้างๆ สะดุ้งตื่นขึ้น เห็นผมทำท่าจะลุกก็ถามว่า
" เฮ้ย ไอ้หนุ่ม มึงจะลุกไปไหนวะ "
" กูปวดเยี่ยวว่ะ พากูไปเยี่ยวที่ห้องน้ำหน่อย จะราดอยู่แล้ว อูยยยยย "
ผมพูดแล้วพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง ไอ้ธีระช่วยพยุงผมจนลุกขึ้นนั่งได้ แล้วพูดเบาๆ
" ไม่ต้องไปถึงห้องน้ำหรอก ตรงนี้ก็เยี่ยวได้ มากูช่วยมึงเอง "
พูดจบมันก็ค่อยๆ ดันตัวผมออกมาตรงท้ายเต็นท์ จับผมยืนขึ้น ปากก็สั่งไปด้วย
" เอ้า ยืนดีๆ แอ่นๆ หน่อยมึง เยี่ยวจะได้พุ่งออกไปไกลๆ ไม่เลอะตีนมึง ไม่ต้องอาย และก็ไม่ต้องกลัวคนเห็นหรอก มันหลับกันหมดแล้ว "
ผมยืนโงนเงนไปมา แต่ก็แอ่นตัวตามที่มันบอก ไอ้ธีระซึ่งยืนอยู่ข้างๆ โอบไหล่ขวาผมเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมล้ม แล้วจัดการปลดเข็มขัด ปลดกระดุมกางเกง และรูดซิปกางเกงของผมลง เผยให้เห็นกางเกงในสีขาวสะอาดที่ผมใส่อยู่ มันเอามือลูบเป้ากางเกงผมเบาๆ ก่อนจะถลกขอบกางเกงในลง ควยขาวจั๊วขนาด 2 นิ้วครึ่งห้อยต่องแต่งอยู่อย่างน่ารัก ไอ้ธีระยิ้มอย่างพอใจแล้วดึงควยผมเล่นอย่างสนุก จนกระทั่งมันหนำใจ จึงจับควยผมชี้ไปด้านหน้า เตรียมพร้อมสำหรับการเยี่ยว
" เอ้า เยี่ยวได้แล้วเพื่อน ปล่อยออกมาได้เลย "
ผมซึ่งอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นรอคำนี้มานานแล้ว ก็เลยปล่อยเยี่ยวออกมาแทบจะทันที น้ำเยี่ยวสีเหลืองอ่อนพุ่งออกมาจากรูควยเป็นสายยาวออกไปไกล และเยอะมาก ไอ้ธีระมองสายเยี่ยวของผมแล้วพูดกลั้วหัวเราะ
" คงจะปวดมากสินะมึง ท่าทางจะอั้นเอาไว้นาน เยี่ยวซะเยอะเลย 5555 "
ผมเยี่ยวอยู่นานกว่าจะหมด พอไอ้ธีระเห็นว่าผมเยี่ยวหมดแล้วก็จับควยผมสะบัดแรงๆ 2-3 ทีจนสะเด็ดน้ำ จากนั้นก็รูดควยขึ้นลงๆ อีกหลายทีจนผมเริ่มรู้สึกเสียว ก็เลยพูดอ้อแอ้ว่า
" เอ้ย.. ไอ้เอี้ย... อย่ารูดของกูเล่นสิวะ.. มัน. เสียวนะโว้ย...กูจะนอนแล้ว.. ซี๊ดดดดดด บอกว่าอย่าไง "
" โทษทีว่ะ ก็ควยมึงมันน่าเล่นนี่หว่า แม่งสู้มือกูชิบหาย ยิ่งรูดยิ่งมันส์ กูชอบว่ะ เอ้า นอนก็นอน "
พูดจบไอ้ธีระก็พาผมเข้าไปในเต็นท์ ค่อยๆ ประคองตัวผมให้เอนตัวลงนอน แต่ยังไม่ยอมเก็บควยเข้าที่ ผมง่วงเต็มทนแต่ยังมีสติรู้ว่าของสำคัญยังไม่ได้เก็บ เลยบอกไอ้ธีระ
" เก็บ.ควยกู..ด้วย.. กูไม่ไหวแล้ว กูง่วง.. คร่อก... "
แล้วผมก็หลับไป ไอ้ธีระมองหน้าผม แล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มของผมเบาๆ ทีนึง ก่อนจะประกบปากกับปากผมอย่างนุ่มนวล มือของมันยังคงรูดควยของผมขึ้นลงๆ อย่างสนุก จนควยผมเริ่มแข็ง หัวควยสีชมพูสดถอกบานออกมา มันรีบถอกหัวควยผมลงจนสุดทันที หัวควยค่อยๆ บานขึ้นๆ จนบานออกเต็มที่ ลักษณะเหมือนเห็ดดอกโตๆ ที่เบ่งบานออกรอรับน้ำฝนที่จะตกลงมาในไม่ช้า ไอ้ธีระจ้องควยผม ยิ้มอย่างสะใจก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล่บๆ แล้วพูดเบาๆ
" เดี๋ยวกูเก็บแน่ ไม่ต้องห่วง แต่ต้องหลังจากที่กูทำความสะอาดควยมึงด้วยปากก่อนนะ ไอ้เหี้ย ! ควยหัวบานๆ แบบนี้ กูชอบที่สุด ท่าทางจะหวานดี หุ หุ หุ "
แล้วไอ้ธีระก็ก้มลงเอาปากครอบหัวควยบานๆ ของผมทันที ก่อนจะดูดหัวควยผมอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับอดอยากมานาน ไม่นานลำควยขนาด 5 นิ้วครึ่งก็หายเข้าไปในปากของไอ้ธีระอย่างรวดเร็ว
" ควยมึงหวานเหลือเกิน ไอ้หนุ่ม "
ไอ้ธีระดูดไปคิดไป
..................

ตี 5
ปรี๊ดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมพลดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ไอ้ธีระรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเขย่าตัวผมที่ยังนอนหลับใหลอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า
" ไอ้หนุ่ม ตื่นๆ เขาเรียกแล้วโว้ย เช้าแล้ว "
ผมงัวเงียลุกขึ้นมา กบาลของผมยังไม่หายปวด แถมวันนี้ยังมีอาการปวดเมื่อยไปทั้งตัวอีกด้วย ท่าทางร่างกายของผมจะแย่แล้ว แต่ผมก็ต้องอดทน รีบลุกออกจากเต็นท์วิ่งไปเข้าแถวทันที
พอเราเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกกำลังกาย แล้วจึงช่วยกันตักน้ำมาราดที่หน้ากองพันเหมือนวันที่ผ่านๆมา จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำกิจส่วนตัว ทั้งล้างหน้า แปรงฟัน และเยี่ยว พอผมทำกิจส่วนตัวเสร็จแล้วก็เดินกลับมานั่งพักที่เต็นท์เพราะรู้สึกปวดตีน มาก ผมรีบถอดรองเท้าถุงเท้าออกแล้วพลิกฝ่าตีนดู ตีนของผมแดงก่ำแถมแตกเป็นริ้วๆ ด้วย ตรงส้นตีนก็บวมพองออกมา ผมร้องครางด้วยความเจ็บปวดแล้วเอามือนวดตีนช้าๆ ไล่ตั้งแต่ฝ่าตีน ส้นตีน มาจนถึงข้อตีน ไอ้ธีระเดินมาเห็นผมกำลังนั่งนวดตีนอยู่ก็ทรุดนั่งลงข้างๆ ผมแล้วพูดว่า
" ไงมึง โห ตีนมึงเป็นอะไรวะ ดูสิบวมเลย เหม็นด้วย "
" ปวดตีนชิบหายเลยว่ะ สงสัยวิ่งมากไป ไอ้เหี้ยเอ๊ย แม่งปวดเหี้ยๆ เลย "
ผมตอบ ไอ้ธีระมองตีนผมแล้วพูดช้าๆ
" ทำไมมึงไม่เอาผ้าหรืออะไรนิ่มๆ รองส้นตีนไว้ล่ะ กูยังเอาผ้าผืนเล็กๆ รองเอาไว้เลย ตีนจะได้ไม่บวม "
" กูไม่ทันได้คิดว่ะ ไม่นึกว่าตีนกูมันจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ช่างเหอะ กูทนได้ ตอนนี้กูก็ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว "
ไอ้ธีระตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะพูดยิ้มๆ
" เออ ดีแล้ว ยังไงมึงก็รักษาตีนมึงให้ดีๆ ละกัน มึงยังต้องใช้งานมันอีกนาน ถ้าตีนมึงเป็นอะไรขึ้นมา มึงจะซวย "
ผมพยักหน้า ไอ้ธีระเห็นผมไม่พูดอะไร มันเลยพูดต่อ
" เออกูถามอะไรมึงหน่อยดิ มึงจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้มั๊ย "
ผมมองหน้าไอ้ธีระด้วยความแปลกใจ แล้วจึงหยุดคิดนิดนึง ก่อนจะตอบ
" เมื่อคืนเหรอ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นวะ กูจำไม่ค่อยได้ กูจำได้แค่ว่ากูปวดเยี่ยว แล้วมึงก็พากูออกมาเยี่ยวนอกเต็นท์ ใช่ๆ มึงเป็นคนพากูออกมาเยี่ยว แล้วกูก็กลับมานอนต่อ ก็แค่นี้เอง เออ กูขอบใจมึงมากนะที่พากูออกมาเยี่ยว ไม่งั้นกูคงนอนเยี่ยวแตกคาเต็นท์แน่ๆ "
" เออ ไม่เป็นไร กูเต็มใจช่วยมึง ว่าแต่ มึงจำได้แค่นั้นจริงๆ เหรอวะ "
ไอ้ธีระถาม ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
" ก็แค่นั้นสิวะ มึงถามแปลกๆ หรือว่ามันมีเรื่องอะไรมากกว่านั้น "
" เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกว่ะ กูก็ถามไปอย่างนั้นเอง "
ผมกับไอ้ธีระนั่งคุยต่ออีกซักพัก ครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อแดกข้าว ผมจับคู่แดกกับไอ้ธีระเหมือนเดิม มื้อนี้ผมใช้มือแดกข้าวได้เก่งกว่าวันที่ผ่านๆ มา พอแดกเสร็จก็ได้พักแป๊ปนึงเพื่อรอการฝึกในภาคเช้า

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้นอีกครั้ง ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมาที่รวมพลอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าฐานฝึกในภาคเช้า เช้านี้กองร้อยอินทรีของผมต้องเข้าฐาน " การรบพิเศษ " ครูฝึกฐานนี้เป็นนายร้อยหนุ่มรูปหล่อผิวดำเพราะตากแดดบ่อย สูงยาวเข่าดีแต่ตูดปอด แถมเป้าตุงด้วย ผมมองเป้าของครูฝึกหนุ่มด้วยความหื่นกระหาย ท่าทางครูฝึกคนนี้จะพกอาวุธประจำกายดุ้นโตมาสอนด้วยแน่ๆ น่าแดกจริงๆ
เขาแนะนำตัวว่าเขาชื่อ " องอาจ " ครูองอาจทักทายนักศึกษาวิชาทหารทุกคนอย่างเป็นกันเอง แล้วจึงเริ่มบรรยายเกี่ยวกับการรบพิเศษว่าแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การซุ่มโจมตี และการตีโฉบฉวย
การซุ่มโจมตี เป็นยุทธวิธีที่เหมาะสมในการรบแบบกองโจร เพราะไม่จำเป็นต้องยึดภูมิประเทศ และสามารถใช้หน่วยขนาดเล็กที่มีอาวุธและยุทโธปกรณ์จำกัดเพื่อรบกวนข้าศึก หรือทำลายข้าศึกที่มีขนาดใหญ่ และมีอาวุธยุทโธปกรณ์ดีกว่าได้ มีความมุ่งหมายเพื่อทำลายยุทโธปกรณ์ สังหารหรือจับข้าศึก และรบกวนข้าศึก ส่วนการตีโฉบฉวย เป็นการเข้าตีแบบกะทันหัน มีความมุ่งหมายเพื่อทำลายที่ตั้งหรือพื้นที่วางกำลังของข้าศึก
ครูองอาจยังบรรยายถึงการจัดกำลังพล การเข้าจุดนัดพบ การปรับกระบวน และการเข้าที่หมาย ซึ่งมีรายละเอียดมากมายจนผมจำได้ไม่หมด ผมเองมีหน้าที่เป็นส่วนโจมตี และเป็นชุดตรวจค้นด้วย คือต้องตรวจค้นเมื่อทำลายที่มั่นของข้าศึกว่ามีใครเหลือรอดบ้าง พอครูองอาจบรรยายจบก็เริ่มฝึกโดยแบ่งกำลังพลออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนต้องวิ่งตามกันไปเรื่อยๆ ถ้าเจอข้าศึกแอบซุ่มอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ต้องโจมตีมันด้วยกระสุนปากเปล่าทันที อย่าให้เหลือรอดได้แม้แต่คนเดียว
พอครูฝึกให้สัญญาณ ส่วนของผมก็ออกวิ่งไปด้วยความรวดเร็ว ไอ้สันติ หัวหน้าหมู่ เป็นคนวิ่งนำหน้า ผมก็วิ่งตามเพื่อนในหมู่ไปเรื่อยๆ พอวิ่งไปได้ซักพักก็เจอข้าศึกแอบอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ผมไม่รอช้ารีบใช้กระสุนไม่รู้หมดทันที แหกปากลั่น
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
เพื่อนๆ ทุกคนก็ทำแบบเดียวกับผม ทุกคนแหกปากลั่น ข้าศึกก็พากันล้มลง " นอนตาย " ตรงนั้นเอง แต่มีข้าศึกเฮี้ยๆ กลุ่มหนึ่งที่สมัครใจแอบซุ่มอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พอผมและเพื่อนๆ ยิงกระสุนปากเปล่าโจมตีใส่มัน มันก็ล้มลงนอนตายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาครึ้มนั้น สบายจริงๆ นะมึง แต่ผมและเพื่อนๆ ก็ไม่มีเวลาสนใจข้าศึกพวกนี้มากนัก ต้องรีบถือปืนวิ่งต่อไป พอวิ่งไปได้ซักพัก ครูฝึกซึ่งวิ่งตามมาข้างหลังก็ตะโกนว่า
" หมอบ!!!!!!!!!!!!! "
ผมและเพื่อนๆ รีบล้มตัวลงหมอบทันที พื้นก็เป็นดินร้อนๆ ทำเอาไข่แทบสุกเลยทีเดียว แล้วครูฝึกสั่งต่อ
" คลานสูงไป เร็วๆๆๆ "
ผมกัดฟันคลานสูงโดยใช้ข้อศอกเคลื่อนตัวไปด้านหน้าตามคำสั่ง คลานสูงไปได้ไม่กี่เมตร ครูฝึกก็สั่งต่อ
" ลุก! วิ่ง หน้า ? วิ่ง ! "
ทุกคนรีบลุกขึ้นวิ่งต่อไป ผมวิ่งตามหลังไอ้ธีระไปติดๆ จู่ๆ ไอ้ธีระก็หยุดวิ่ง ทำให้ผมและเพื่อนๆ ทิ่วิ่งตามมาพลอยหยุดวิ่งไปด้วย ผมรีบถามขึ้นทันที
" หยุดวิ่งทำไมวะ "
ไอ้ธีระไม่ตอบ ผมเดินมาหาไอ้สันติซึ่งเป็นหัวแถว และเป็นคนแรกที่หยุดวิ่ง ไอ้สันติชี้ให้ดูสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้า ผมมองแล้วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือลวดหนามตาข่ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นใหญ่มากที่ขึง อยู่สูงจากพื้นดินไม่กี่นิ้ว พื้นดินก็เป็นโคลนแฉะๆ ทุกคนจ้องลวดตาข่ายแผ่นนี้ตาไม่กะพริบ
" นี่จะผ่านไปได้ไงวะเนี่ย "
ไอ้ปกป้องพูดลอยๆ ไอ้บอมมองพื้นโคลนแฉะๆ แล้วเบ้ปาก
" สกปรกเหี้ย ๆ เลย เออ นั่นสิ จะผ่านไปได้ไงวะ เดินข้ามไปก็ไม่ได้ "
ไอ้สันติพูดขึ้นว่า
" กูเคยดูในหนังว่ะ ทหารน่ะถ้าเจอลวดตาข่ายแบบนี้ เขาจะลอดผ่านไปด้านล่าง "
ทุกคนหันมามองไอ้สันติเป็นตาเดียว ไอ้บอมร้องเสียงหลง
" ไอ้เหี้ย !!!!! ลอดผ่านไปเหรอวะ ควยเหอะ มึงคิดได้ไงวะเนี่ย ถ้าลอดไปมีหวังเสื้อผ้าเลอะเทอะหมดแน่ กูไม่เอาด้วยหรอก "
ไอ้สันติหันมามองหน้าไอ้บอม
" นี่มึงยังห่วงเสื้อผ้าเลอะอีกเหรอวะ ดูสารรูปพวกเราตอนนี้ซะก่อน โสโครกจะตายห่าอยู่แล้ว ถ้าจะเลอะอีกหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก "
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอ้สันติ
" ใช่ กูเห็นด้วย ยังไงก็ต้องลอดว่ะ ไม่มีทางอื่นแล้ว รีบๆ ลอดเถอะว่ะ ขืนชักช้าเดี๋ยวครูฝึกแม่งเอาตายแน่ "
ไอ้ธีระพูดขึ้นมาบ้าง
" แล้วใครจะเป็นคนเปิดคนแรกวะ "
" กูเอง กูเป็นหัวหน้าหมู่ แล้วกูก็เป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้นมา กูเปิดเองว่ะ "
พูดจบไอ้สันติก็ทำท่านอนหงาย เอาปืนพาดไว้บนลำตัวตรงประมาณแนวหน้าอก ใช้มือข้างหนึ่งจับลวดหนามเส้นล่างสุดและยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ หนามเกี่ยว แล้วเลื่อนตัวลอดลวดหนามไปข้างหน้าโดยใช้ส้นตีนทั้งสองถีบพื้นเพื่อยันตัว ให้ขยับเลื่อนขึ้นไป ทุกคนมองไอ้สันติลอดลวดหนามด้วยความทึ่ง ไอ้ปกป้องพูดขึ้นว่า
" เอาวะ ลอดก็ลอด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไอ้ติมันลอดได้ กูก็ลอดได้วะ "
แล้วไอ้ปกป้องก็ลงนอนหงายลอดใต้ลวดหนามเป็นคนต่อไป ทุกคนทยอยลอดลวดหนามตามกันไปเรื่อยๆ ไอ้บอมซึ่งตอนแรกไม่อยากลอดเลย แต่พอมันเห็นเพื่อนๆ ลอดกันหมด ก็จำใจต้องลอดด้วย ผมเองก็ลอดตามไอ้ธีระไปห่างๆ ด้วยความยากลำบาก เพราะต้องคอยระวังไม่ให้หนามเกี่ยว แต่ยังดีที่ลวดหนามนั้นถูกขึงให้สูงจากพื้นดินพอสมควรทำให้ลอดได้สะดวก แต่ถึงกระนั้นก็ยังลำบากอยู่ดี หนามแหลมบางอันยื่นลงมาเกือบจะถึงใบหน้าของผม ทำให้ผมใจหายวาบ กลัวหนามจะเกี่ยวโดนหน้า แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี พอลอดไปซักพัก หนามก็เริ่มเยอะขึ้น ตอนที่ผมเอามือจับลวดหนามเส้นที่อยู่เหนือกบาลของผมเพื่อยกให้สูงขึ้นพอลอด ผ่านไปได้นั้น ผมเผลอเอามือไปรูดหนามแรงๆ หลายครั้งจนเลือดโชก แต่ก็กัดฟันลอดต่อไป เราใช้เวลาลอดนานมากเพราะต้องเว้นระยะห่างระหว่างคนด้วย ขณะที่พวกเรากำลังลอดอย่างทุลักทุเลอยู่นั้น ครูฝึกก็โผล่มาจากด้านหลังแล้วตะโกนลั่น
" รีบลอดไปเร็วๆ ใครลอดชักช้าโดนกูเตะกลิ้งแน่ ! "
นักศึกษาวิชาทหารทุกคนตกใจ คนที่ยังไม่ได้ลอดก็รีบนอนหงาย แล้วลอดผ่านไปด้วยความรวดเร็ว จนทุกคนลอดไปหมด เหลือครูฝึกยืนมองอยู่คนเดียว ทุกคนกำลังลอดผ่านลวดหนามอย่างยากลำบาก ครูฝึกยิ้มอย่างสะใจแล้วพูดว่า
" ช้าว่ะ นี่คงจะทำให้พวกมึงลอดได้เร็วขึ้นนะ "
ว่าแล้วครูฝึกก็โยนอะไรบางอย่างลงมาที่เหนือลวดหนาม คนที่ลอดอยู่ท้ายสุดมองสิ่งที่ครูฝึกโยนลงมาแล้วก็ตาลุกด้วยความตกใจสุดขีด มันแหกปากเสียงดัง
" ไอ้เหี้ย !! งู! โอย ลอดเร็วๆ เลยมึง เร็วๆ สิโว้ย งูจะกัดกูแล้ว มันอยู่บนตัวกู!!! ไอ้เหี้ย ๆๆๆๆๆๆๆ "
ทุกคนที่ลอดอยู่เมื่อได้ยินไอ้คนนั้นพูดว่างู ก็ตกใจรีบเร่งความเร็วในการลอดมากขึ้น พลางตะโกนเซ็งแซ่
" อะไรวะ งูเหรอวะ เหี้ย แม่งเล่นกันยังนี้เลยเหรอ กะเอากันให้ตายเลยเหรอวะ "
" เฮ้ย จริงเหรอวะ หลอกกูรึเปล่าเนี่ย "
" กูไม่เชื่อหรอกว่างู ไอ้เหี้ยอย่ามาโม้ "
" งูจริงๆ เว้ย ของจริง เร็วๆๆๆๆ โอยยย กูกลัวจะแย่อยู่แล้ว รีบลอดเร็วๆ "
ไอ้คนนั้นตะโกนแล้วรีบลอดอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้คนที่ลอดอยู่เหนือมันต้องรีบลอดด้วยความรวดเร็ว ผมเองพอได้ยินว่างูก็รู้สึกกลัวไม่แพ้กัน ทุกคนก็คงกลัวเหมือนกันทำให้ต่างคนต่างรีบลอดกันอุตลุต ไอ้ปกป้องพูดว่า
" ของจริงเหรอวะ แต่ยังไงก็รีบลอดเถอะว่ะ เสียว "
ในที่สุดไอ้สันติ คนแรกคนแรกก็ลอดผ่านลวดหนามได้สำเร็จ มันรีบลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งต่อไป คนอื่นๆ ก็ลอดผ่านไปได้ตามลำดับ จนถึงคนสุดท้าย ไม่นานทุกคนก็ลอดผ่านไปได้จนครบ แล้วลุกขึ้นวิ่งต่อไป
ไม่มีใครเห็นครูฝึกหนุ่มที่กำลังยืนหัวเราะอย่างสะใจอยู่คนเดียว พร้อมกับเอามือหยิบงูสต๊าฟตัวนั้นขึ้นมาถือไว้เลย!
พอพ้นจากด่านลวดหนามแล้ว ทุกคนก็วิ่งด้วยความเหน็ดเหนื่อยมาจนถึงฐานที่มั่น แล้วจึงทรุดตัวลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ต่างก็หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อยกันเป็นแถบๆ มันเหนื่อยเหี้ย ๆ เลย หายใจหายคอแทบไม่ทัน ผมถอดหมวกออก วางปืนไว้ข้างตัว แล้วหลับตา เสื้อกางเกงของผมเลอะโคลนเต็มไปหมด เหงื่อแตกเต็มหลัง ไอ้ธีระก็นั่งอยู่ข้างๆ ผม มันหอบแฮ่กๆ ผมมองหน้ามันแล้วโอบไหล่เพื่อนเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดเบาๆ
" เหนื่อยเหรอวะ เพื่อน "
ไอ้ธีระตอบเสียงสั่นๆ
" เออว่ะ กูเหนื่อย วิ่งมากี่กิโลวะเนี่ย แม่งไม่มีการหยุดเลย ร้อนด้วย ไอ้หนุ่ม กูจะตายห่าอยู่แล้วว่ะ "
" เข้มแข็งไว้เพื่อน มึงต้องไม่เป็นอะไร มึงเป็นลูกผู้ชายนะ สัด "
ไอ้ธีระยิ้มแห้งๆ แล้วซบลงมาตรงไหล่ของผม ผมถอดหมวกของมันออก แล้วเอามือจับกบาลของมันเบาๆ กบาลของมันร้อนมาก ผมเลื่อนมือแตะหน้าผากของมัน รู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ออกมาจากหน้าผากมัน ผมจูบหน้าผากของมันช้าๆ ก่อนจะโอบไหล่มันเอาไว้จนแน่น
" ใจเย็นๆ เพื่อน เดี๋ยวมึงก็หายเหนื่อย ทำไมมึงเหนื่อยขนาดนี้วะ ไปทำอะไรมา เหมือนเรี่ยวแรงมึงจะไม่เหลือเลย "
ไอ้ธีระเงยหน้าขึ้น แล้วตอบผมว่า
" เมื่อคืนกูหนักไปหน่อยว่ะ "
" มึงว่าอะไรนะ "
ผมถามซ้ำเพราะได้ยินไม่ชัด ไอ้ธีระรีบกลบเกลื่อน
" อ๋อเปล่า ไม่มีอะไรหรอก กอดกูหน่อยสิวะ "
ผมได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมาก ไม่ทันฉุกคิดว่าทำไมไอ้ธีระถึงอยากให้ผมกอด แต่ด้วยความผมที่คลุกคลีกับเพื่อนชายแท้มานาน ทำให้ผมเรียนรู้ว่าจำเป็นต้องปกปิดความเป็นเกย์เอาไว้จนถึงที่สุด คือต้องไม่ให้เพื่อนชายแท้รู้ว่าผมเป็นเกย์ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ผมเลยพูดออกไปว่า
" ผู้ชายด้วยกันนะเว้ย กอดกันมันจะดีเหรอวะ "
ปากก็พูดไปอย่างนั้นเอง แต่หัวใจกำลังพองโตด้วยความตื่นเต้นที่จะได้กอดกับผู้ชายแท้ๆ
" เพื่อนกอดกันไม่เห็นเป็นไรเลย กอดกันแบบแมนๆ ไงมึง คิดไรมากมายวะ "
แล้วไอ้ธีระก็เบียดเข้ามาใกล้ผม แล้วเอนหลังลงมาพิงที่ร่องไหล่ของผม ผมรีบโอบกอดมันเอาไว้ รู้สึกอบอุ่นพิลึก ใบหน้าของผมอยู่ห่างจากหน้าของมันไม่กี่นิ้ว ผมเลยหอมแก้มมัน 1 ฟอด ใจนึงก็กลัวมันจะด่าว่าหอมกูทำไมวะ แต่ไอ้ธีระไม่ยักด่าผม มันกลับกอดผมแน่นกว่าเดิม ผมเห็นมันไม่ว่าอะไรเลยจูบหน้าผากที่เปื้อนเหงื่อของมันอีกที เหงื่อเค็มๆ ของมันเลอะปากผม ไอ้ธีระหลับตาลง ยิ้มอย่างมีความสุข
" หายเหนื่อยรึยังเพื่อน "
ผมถามมัน ไอ้ธีระหลับตาพริ้ม
" ได้กอดกับมึง กูก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ "
ผมนั่งกอดมันอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงไอ้บอมตะโกนลั่น
" โห ไอ้หนุ่ม ไอ้ระ กอดกันกลมดิกเลยว่ะ ระวังฟ้าผ่านะ "
ผมรีบคลายอ้อมกอดออก เห็นไอ้บอมเดินมากับไอ้ปกป้อง และไอ้สันติ มีเพื่อนชายแท้อยู่ด้วย งั้นผมก็ต้องทำเป็นชายแท้ไปก่อนเพื่อไม่ให้มีพิรุธ ไอ้ธีระลืมตาขึ้นแล้วผละจากอ้อมกอดผมทันที
" กอดอะไรวะ ไม่ได้กอดนะ แค่นั่งคุยกันเฉยๆ ผู้ชายด้วยกันจะมากอดกันทำไมวะ ฟ้าผ่าตายกันพอดี ใช่มั๊ยวะไอ้ระ "
ไอ้ธีระพยักหน้าช้าๆ แต่ไม่พูดอะไร ไอ้บอมอมยิ้มอย่างรู้กัน แล้วจึงนั่งลงข้างๆ ผม ไอ้ปกป้องกับไอ้สันติไม่ได้สนใจเรื่องที่ผมกอดกับไอ้ธีระ พอมันนั่งลงก็ชวนผมคุยเรื่องอื่นๆ เพื่อรอเพื่อนๆ อีกสองส่วนที่ยังมาไม่ถึง ไม่นานเพื่อนๆ อีกสองส่วนก็มากันจนครบ ทุกคนเสื้อผ้าเลอะโคลนเหมือนกันหมดเนื่องจากผ่านการลอดใต้ลวดหนามกันทั้งนั้น
เมื่อนักศึกษาวิชาทหารทุกคนมาถึงยังฐานที่มั่นครบแล้ว ก็ได้เวลาแดกข้าวกลางวันพอดี ครูฝึกก็ให้แยกย้ายกันไปแดกข้าว มื้อนี้กับข้าวเป็นแกงร้อนๆ อากาศตอนเที่ยงก็ร้อนอยู่แล้ว ต้องมาแดกกับข้าวร้อนๆ แบบนี้อีกมันสุดยอดจริงๆ แต่ทุกคนก็ฝืนแดกเข้าไปจนหมด ผมยัดข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าด้วยความหิวโหย ไอ้ธีระก็ช่วยยัดแกงเข้าปากผมอีกแรง จนเรา 2 คนแดกอิ่ม ก็ช่วยกันล้างหม้อ แล้วจึงมานั่งคุยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมเพื่อรอฝึกในภาคบ่าย นั่งคุยกันซักพัก ไอ้บอม ไอ้ปกป้อง ไอ้สันติ และไอ้โรจน์ก็มานั่งคุยด้วย ผมมองออกไปที่ทุ่งโล่งที่อยู่ด้านหน้าซึ่งเราวิ่งผ่านมาเมื่อกี้ เห็นเปลวแดดยิบๆ อยู่กลางทุ่ง ต้นไม้โดนแดดเผาจนแห้งกรอบ อากาศตอนนี้ร้อนเหลือเกิน อุณหภูมิน่าจะซัก 43 องศา นี่ตอนบ่ายก็คงต้องฝึกกันกลางแดดเปรี้ยงๆ อีก ทรมานจริงๆ ดีหน่อยที่ตอนนี้ได้พักนาน ผมคิดแล้วก็หลับตาลง ปล่อยให้เพื่อนๆ คุยกันไปก่อน ตอนนี้ขอพักสายตาหน่อยดีกว่า
..................

ไม่ไกลจากฐานที่มั่นเท่าไหร่ ครูองอาจกำลังเดินตรวจภูมิประเทศที่พวกเราฝึกรบพิเศษไปเมื่อตอนเช้า เพื่อเตรียมสำหรับการฝึกในภาคบ่าย พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าสตางค์สีดำใบเล็กใบหนึ่งตกอยู่ที่พื้น ครูองอาจก้มลงหยิบกระเป๋าใบนั้นขึ้นมาเปิดดู ข้างในมีบัตรประจำตัวนักศึกษาวิชาทหารและเงินอยู่ไม่กี่ร้อย ตรงช่องพลาสติกที่เอาไว้ใส่รูปนั้น เต็มไปด้วยรูปของบรรดานายแบบหล่อๆ ใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กจิ๋ว เป้าตุงเป็นลำกันทั้งนั้น นอกนั้นก็มีแต่รูปผู้ชายล้วนๆ ไม่มีรูปผู้หญิงเลยแม้แต่รูปเดียว ครูองอาจมองรูปเหล่านั้นแล้วพึมพำเบาๆ
" ท่าทางมันจะชอบแต่แบบนี้ หึ หึ "
แล้วครูองอาจก็เอาบัตรประจำตัวนักศึกษาวิชาทหารออกมาจากกระเป๋าใบนั้น เขาอ่านชื่อที่พิมพ์ไว้บนบัตรช้าๆ
" นศท. วรเศรษฐ์ แววธรรมชาติ อืมมมมม "
ครูองอาจยิ้มอย่างมีเลศนัย ยัดบัตรเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม แล้วเดินกลับมาที่ฐาน

ที่ฐานที่มั่นของเหล่านศท.
" ไอ้เหี้ย ! กระเป๋าตังค์กูหายไปไหนวะ "
ไอ้วรเศรษฐ์โวยวาย พลางเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อนของมันที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พูดว่า
" สงสัยกระเป๋ามึงคงตกตอนที่ฝึกซุ่มโจมตีแน่ๆ ใจเย็นๆ มันอาจจะตกอยู่ระหว่างทางก็ได้นะเว้ย "
ไอ้วรเศรษฐ์ทำหน้ากังวล
" แล้วกูจะทำไงดีวะเนี่ย ทั้งเงิน ทั้งบัตรกู อยู่ในนั้นหมดเลย กูจะได้คืนมั๊ยเนี่ย จะมีใครเก็บมาให้กูมั๊ยวะ แม่ง ไม่น่าเลย กูคงต้องไปหาแล้วว่ะ "
ครูองอาจเดินมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้านักศึกษาวิชาทหารกลุ่มใหญ่ที่กำลังนั่งบ้าง ยืนบ้าง ทุกคนกำลังรอเวลาฝึกในภาคบ่ายอยู่ แล้วประกาศก้อง
" ใครชื่อวรเศรษฐ์ ยกมือขึ้น! "
" ผมครับ!! ?
ไอ้วรเศรษฐ์ยกมือขึ้น ครูองอาจจ้องหน้าเด็กหนุ่มแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ไอ้วรเศรษฐ์เป็นเด็กหนุ่มหน้าไทยแท้ ผิวคล้ำ ตัวไม่สูง แต่ล่ำ หน้าท้องแบนราบ เป้าตุงพอสมควร แถมตูดใหญ่ด้วย
" มึงมาหากูหน่อย "
ไอ้วรเศรษฐ์วิ่งไปหาครูองอาจตามคำสั่ง ครูองอาจจ้องหน้ามันอีกแล้วถามเบาๆ
" มึงทำกระเป๋าตังค์ตกใช่มั๊ย "
" ครับ "
ไอ้วรเศรษฐ์ตอบสั้นๆ ครูองอาจตบไหล่มันแรงๆ 2 ทีแล้วพูดต่อ
" งั้นมึงไปกับกู กูจะเอากระเป๋าตังค์คืนให้มึง "
ด้วยความซื่อของไอ้วรเศรษฐ์ มันไม่ทันเฉลียวใจว่า เพราะเหตุใดครูองอาจถึงไม่คืนกระเป๋าสตางค์ให้มันตอนนั้นเลย กลับต้องให้มันไปกับเขาอีก แต่ตอนนั้นมันต้องการกระเป๋าสตางค์คืนมาก เลยเดินตามครูองอาจไปทันที
ครูองอาจพาไอ้วรเศรษฐ์เดินเข้าไปในป่า ห่างจากฐานที่มั่นพอสมควร ไอ้วรเศรษฐ์เกิดความสงสัยว่าครูองอาจพามันมาที่นี่ทำไม เลยเอ่ยปากถามขึ้น
" ครูจะพาผมไปถึงไหนครับ นี่มันไกลจากฐานมากแล้วนะครับ "
ครูองอาจยิ้มแปลกๆ
" กูก็จะพาไปเก็บกระเป๋าตังค์ไงวะ ไปเก็บตรงจุดที่มึงทำหล่นไว้เลย "
ไอ้วรเศรษฐ์ทำหน้าแปลกใจ
" แต่นี่มันคนละทางกันนี่ครับ ตอนผมฝึกตอนเช้า ไม่ได้วิ่งผ่านทางนี้นี่นา ตอนนั้นผมวิ่งผ่านทุ่งโล่ง แต่ที่นี่มันป่าชัดๆ "
" มึงหุบปากเถอะน่า เดี๋ยวถึงที่แล้วก็รู้เอง "
ไม่นานครูองอาจก็หยุดเดิน ไอ้วรเศรษฐ์มองไปรอบๆ ที่นี่ที่ไหนวะ มีต้นไม้ครึ้มไปหมด ไม่ใช่ที่เราฝึกตอนเช้านี่หว่า ข้างหน้ามีเพิงส้วมทำด้วยสังกะสีอยู่ 2-3 หลัง ลักษณะเหมือนส้วมกลางป่าที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี บริเวณนี้เงียบสงัด ไม่มีคนเลย.. แล้วครูองอาจพากูมาที่ส้วมทำไมวะ. ไอ้วรเศรษฐ์คิดในใจ แล้วหันหลังกลับไปหวังจะถามครูองอาจซึ่งยืนอยู่ข้างหลังมัน แล้วมันก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อครูองอาจโผเข้ากอดมันแน่นจนมันเซแซ่ดๆ เกือบจะล้มแล้ว ยังดีที่มันเซไปชนเพิงส้วม เสียงดัง ปัง! ไอ้วรเศรษฐ์ร้องลั่น
" ครูครับ จะทำอะไรผม "
ครูองอาจไม่ตอบ แต่กลับซุกหน้าลงไปบนร่องอกของเด็กหนุ่มทันที แล้วสูดกลิ่นตัวของมันเข้าไปซะเต็มปอด ไอ้วรเศรษฐ์พยายามจะผลักกบาลของครูองอาจออก แต่ครูองอาจแข็งแรงกว่า มันเลยผลักไม่ออก ครูองอาจเงยหน้าขึ้นแล้วประกบปากของเขากับปากของไอ้วรเศรษฐ์อย่างรวดเร็ว เสียงดัง จ๊วบๆๆๆๆๆ ไอ้วรเศรษฐ์ทำหน้าเหยเก ลิ้นของครูองอาจสอดใส่เข้ามาในปากของมัน น้ำลายร้อนผ่าวของครูฝึกหนุ่มไหลเข้าไปในปากของมันแบบเต็มๆ ครูองอาจเริ่มเอาลิ้นควานโพรงปากของไอ้วรเศรษฐ์จนทั่ว ไอ้วรเศรษฐ์รู้สึกสยิวมาก อารมณ์อยากที่ถูกเก็บมานานหลายวันถูกปลุกเร้าขึ้นมา ทำให้มันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาโดยไม่อาย ไอ้วรเศรษฐ์ไม่รอช้ารีบเอาลิ้นพันกับลิ้นของครูองอาจทันที ปลายลิ้นของทั้งสองพันกัน แผล่บๆๆๆ ครูองอาจรัวลิ้นเข้าใส่ไอ้วรเศรษฐ์เร็วขึ้นๆ จนกลายเป็นเลียริมฝีปากของมัน น้ำลายของทั้งคู่ไหลออกมานอกปาก บ่งบอกถึงความอยากที่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด ครูองอาจถอนปากออกแล้วร้องคราง
" ซี๊ดดดดดดดดดดดดด กูรอมานานแล้วที่จะได้กินเด็กหนุ่มๆ อย่างพวกมึง เห็นพวกมึงมาฝึกแล้วกูแทบจะทนไม่ไหว น้ำควยกูจะไหลออกมาให้ได้ แม่งน่าแดกกันทั้งกองพันเลย ทำไมพวกมึงแม่งน่าแดกอย่างนี้วะ โอยยยยยย กูทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย ควย ขอกูแดกควยหน่อยนะ ไอ้เหี้ย ! "
พูดจบครูองอาจก็เอามือเค้นคลึงไปตรงเป้าตุงๆ ของไอ้วรเศรษฐ์ แล้วจัดการปลดหัวเข็มขัดสีเหลืองอร่ามออก ก่อนจะปลดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิปกางเกงลง แล้วเอามือลูบลำควยที่แข็งอยู่ในกางเกงในของไอ้วรเศรษฐ์ช้าๆ ด้วยความอยาก ไอ้วรเศรษฐ์หลับตาซี๊ดปากด้วยความอยากไม่แพ้ครูองอาจ แล้วพูดเสียงสั่นๆ
" ดูดเลยครับครู ดูดเลย รออะไรอยู่ล่ะ "
ไอ้วรเศรษฐ์พูดยังไม่ทันจบ ครูองอาจก็รูดกางเกงในของมันลงไปกองแทบตีน ตามด้วยกางเกงขายาว ตอนนี้ท่อนล่างของไอ้วรเศรษฐ์เปลือยเปล่าแล้ว ครูองอาจมองลำควยสีดำคล้ำที่ผงกหัวหงึกๆ อยู่อย่างชอบใจ ลำควยของไอ้วรเศรษฐ์ไม่ยาวมาก ลำป้อมๆ ขนาดกำลังพอดีปาก เส้นเลือดสีเขียวๆ ปูดโปนขึ้นเต็มลำควย ครูองอาจเอามือรูดหนังหุ้มควยลงไปจนถึงคอหยัก หัวควยสีแดงคล้ำโผล่ออกมาแทบจะทันที ครูองอาจรีบเอาปากครอบลำควยทีเดียวมิดลำเลย แล้วดูดขึ้นดูดลงอย่างชำนาญ ไอ้วรเศรษฐ์ร้องลั่น
" โอยยยยย ซี๊ดดดดด เสียวควยจังเลยครับ อา... ครูดูดเก่งจัง โอยยยยย อย่าครับครู อย่าเอาลิ้น.ไปฉกไอ้รูนั้น อ๊ากกกกก... "
ไอ้วรเศรษฐ์ทำหน้าเหยเก เนื่องจากครูองอาจเอาลิ้นฉกเข้าไปในรูควยของมันซะลึก เล่นเอามันครางเสียงหลงด้วยความเสียว ครูองอาจไม่ฉกเปล่า กลับเอาปากดูดเน้นๆ ตรงหัวควยแล้วเอาลิ้นเลียแผล่บๆ ไปจนทั่วลำควยอีกด้วย แถมยังสลับด้วยการเลียไข่ดำๆ ทั้ง 2 ฟองของมันอีก เล่นกันแบบนี้ ไอ้วรเศรษฐ์ถึงกับครางแทบจะขาดใจ น้ำหูน้ำตาน้ำลายไหลพรากๆ มันรีบกระเด้าควยเข้าปากครูองอาจ จนหัวควยลงไปเกือบจะสุดคอหอย ครูองอาจรีบเอาปากห่อควยของมันเอาไว้ แล้วเปลี่ยนมาดูดหัวควยของมันไม่ยอมหยุด ครูองอาจดูดต่อไปซักพัก จนควยทั้งลำของไอ้วรเศรษฐ์ชุ่มไปด้วยน้ำลาย ลำควยมันวาวราวกับถูกชโลมด้วยน้ำมันมวย ส่วนหัวควยก็ถอกบานแดงโร่น่ากลัวยิ่งนัก ครูองอาจก็เอาปากออก สั่งว่า
" หันหลังไป แอ่นตูดออกมา จับเพิงสังกะสีไว้นะมึง กูจะเลียตูดให้ "
ไอ้วรเศรษฐ์ทำตาม มันเอามือจับเพิงสังกะสีเอาไว้ แล้วยืนแหกขาออกจนกว้าง แอ่นตูดให้ ครูองอาจนั่งยองๆ มองตูดดำๆ ของไอ้วรเศรษฐ์ด้วยความพอใจ แล้วเอานิ้วแยงเข้าไปในรูตูดมัน ไอ้วรเศรษฐ์สะดุ้ง แต่ไม่พูดอะไร ครูองอาจพูดว่า
" มึงนี่ตูดฟิตจริงๆ แบบนี้แหละ กูชอบ "
พูดจบครูองอาจก็เอานิ้วแยงรูตูดของไอ้วรเศรษฐ์ไปเรื่อยๆ แล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นเลีย ครูองอาจเลียรูตูดของไอ้วรเศรษฐ์ด้วยความหลงใหล บางครั้งก็เอาลิ้นฉกลงไปที่ร่องตูดแรงๆ แต่บางครั้งก็เลียเน้นๆ ที่รูตูดของนักศึกษาวิชาทหารหนุ่มคนนี้จนรูตูดชุ่มไปด้วยน้ำลาย ไอ้วรเศรษฐ์ได้แต่ร้องคราง
" โอยยยยย เสียวววววว ตูด ครูครับ อย่าเลียแบบนั้นสิครับ มันเสียว ซี๊ดดดดดดดดด "
เสียงลิ้นของครูองอาจตบร่องตูดของไอ้วรเศรษฐ์ดัง ผับๆๆๆ ครูองอาจเอาลิ้นออกแล้วพูดว่า
" ชอบล่ะสิมึง ครางใหญ่เลย เดี๋ยวมึงได้เสียวกว่านี้แน่ คอยดูนะ "
ครูองอาจลุกขึ้น ปลดเข็มขัด รูดทั้งกางเกงนอกและกางเกงในลงไปกองที่ข้อตีน แล้วจับควยประจำตัวชักเข้าชักออกจนแข็งเต็มที่ ควยของครูองอาจขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่และไม่เล็ก ลำควยสีดำสนิท มีเส้นเลือดขึ้นประปราย ครูองอาจเอามือถอกหัวควยออก เผยให้เห็นหัวควยบานใหญ่สีแดงคล้ำ แสดงถึงการใช้งานมาแล้วอย่างหนักหน่วง เขาเอาควยจ่อตรงปากรูตูดของไอ้วรเศรษฐ์ แล้วกระแทกลำควยเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไอ้วรเศรษฐ์ร้องลั่น
" โอ๊ยยยย ครูครับ.มันเจ็บครับ. เล่นเย็ดสดๆ แบบนี้เลยเหรอครับ.. ไม่ใส่ถุงเหรอ...ซี๊ดดดดด เจ็บตูดจัง "
" แบบนี้แหละมันส์ดี เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วมึง ไม่ต้องห่วง ควยกูเล็ก "
ครูองอาจพูดแล้วก็กระเด้าควยเข้าไปจนลึกสุดตูด แล้วโยกช้าๆ เพื่อให้ลำควยประสานแนบสนิทกับโพรงตูด จากนั้นก็โยกเร็วขึ้นๆ ไอ้วรเศรษฐ์ถึงกับครางโหยหวน
" ซี๊ดดดดดดดดด ดีครับ สะใจดี ไม่เจ็บแล้ว... ชักไม่เจ็บแล้ว.. โอย มันส์ มันส์จริงๆ เอาเลยครับครู เอาแรงๆ เลยยยยยยย "
" กูรอคำนี้มานานแล้ว นี่เจอแบบนี้เป็นไงวะ ไอ้เหี้ยยยยยย "
พูดจบครูองอาจก็อัดลำควยเข้าใส่โพรงตูดของลูกศิษย์หนุ่มไม่ยั้ง เสียงลำควยกระแทกกับรูตูดดัง ปั่บๆๆๆๆ ควยทั้งลำหายเข้าไปในโพรงตูดทันที หัวควยของครูองอาจชนเข้ากับผนังตูดด้านใน น้ำใสๆ ซึมออกมาจากรูควย ทำให้ตูดของไอ้วรเศรษฐ์แฉะไปหมด ครูองอาจเร่งกระเด้าเอวยิกๆ เล่นท่าหมากับไอ้วรเศรษฐ์ไม่ยอมหยุด
" ยิ่งเย็ด ยิ่งมันส์ว่ะ ซี๊ดดดดด ตูดมึงนี่มันฟิตเหี้ย ๆ กูเสียวควยชิบหายเลย "
เสียงควยกระแทกรูตูดดัง ป้าบๆๆๆๆๆๆๆ ป้าบๆๆๆๆๆ
ครูองอาจกัดฟันด้วยความเสียว พร้อมกับเอามือจับเอวของเด็กหนุ่มไว้แน่น แล้วเร่งอัดควยยิกๆ เข้าไปจนลึกสุดตูด ไอ้วรเศรษฐ์คงเสียวจัด มันถ่างขาออกจนเกือบแหก ครูองอาจเห็นอย่างนั้นก็รีบเสยควยเข้าไปจนแน่นโพรงตูด ลำควยดำๆ ของครูเสียดสีกับขนตูดของไอ้วรเศรษฐ์ ไอ้วรเศรษฐ์ไอออกมาติดๆ กันแล้วพูดเสียงสั่นๆ
" แค่กๆ จุกเหมือนกันนะเนี่ย ควยมันโดนโพรงตูดด้านในแล้วครับครู ซี๊ดดดด... โอยยย ผมไม่ไหวแล้วครับ ตูดจะบานอยู่แล้ว พอเถอะครับ เดี๋ยวตูดบานนนนนนนนน "
" ก็เอาให้แม่งบานไปเลยสิวะ ใครๆ เค้าจะได้รู้ว่า มึงโดนครูฝึกอย่างกูเย็ดมาแล้ว ซี๊ดดดดดด คนอย่างกูน่ะ เย็ดใครต้องเย็ดให้ตูดบาน ต้องตูดบาน !!!! มึงได้ยินมั๊ย จำเอาไว้นะไอ้เศรษฐ์ นี่ๆๆๆ โดนแบบนี้ ไม่บานก็ให้มันรู้ไป ควยยยยย "
ครูองอาจไม่พูดเปล่า กลับเอามือแหกตูดของไอ้วรเศรษฐ์ออกจนกว้างกว่าเดิม แล้วอัดควยแข็งๆ เข้าใส่รูตูดที่ถูกแหกออกมาจนกว้างทันที ควยทั้งลำถูกยัดพรวดเข้าไปในตูดจนลึก ส่งผลให้ตูดของไอ้วรเศรษฐ์แหกออกไปกว่าเดิมมาก ครูองอาจรีบกระเด้าควยติดๆๆ กันหลายสิบครั้งจนตูดไอ้วรเศรษฐ์กระเพื่อมไปมา ไอ้วรเศรษฐ์กัดฟันด้วยความเสียว ไม่ไหวแล้ว กูทนไม่ไหวแล้ว..
ครูองอาจก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เขาครางลั่น พลางอัดควยเข้าไปจนลึกสุดตูดติดๆ กัน เสียงดังป้าบๆๆๆๆๆ
" ไม่ไหวแล้ว น้ำควยกูออกแล้วโว้ยยยยยยยยยย "
จังหวะนั้น ครูองอาจก็ชักควยออกมาจากรูตูดไอ้วรเศรษฐ์ ไอ้วรเศรษฐ์หันหลังกลับมา ครูองอาจชักควยเข้าออกอีก 2 ครั้ง น้ำเงี่ยนขาวข้นก็ระเบิดออกมาจากรูควยของเขาทันที เสียงดัง ปรี๊ดดดดดดๆๆๆๆๆ ไอ้วรเศรษฐ์ไม่รอช้ารีบนั่งยองๆ เอาหน้ามาใกล้ๆ ลำควยของครูองอาจ น้ำเงี่ยนสดๆ ของครูฝึกรูปหล่อพุ่งกระฉูดออกมาเลอะหน้าของมันเต็มๆ กลิ่นของมันคาวมาก ครูองอาจร้องด้วยความเสียว มือยังคงกระตุกลำควย ถอกหัวควยเขาออกเข้าออกไม่ยอมหยุด น้ำเงี่ยนยังคงถูกฉีดออกมาจากรูควยอย่างต่อเนื่อง ปรี๊ดดด ๆๆๆๆๆ
" โอยยยยยยย เสียวจะตายห่าอยู่แล้ววววว ทำไมเสียวอย่างนี้วะ ซี๊ดดดดดด น้ำควยออกมาไม่หยุดเลยยยย ช่วยกูด้วยยยยย "
ครูองอาจยืนฉีดน้ำเงี่ยนนานหลายนาที นาน. กว่าน้ำเงี่ยนของเขาจะออกมาหมด ไอ้วรเศรษฐ์เอาหน้ารองรับน้ำเงี่ยนของครูองอาจอยู่นาน จนหน้าของมันขาวโพลน เต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนคาวๆ ขมๆ ของครูองอาจ ครูองอาจมองหน้าไอ้วรเศรษฐ์ แล้วพูดว่า
" คราวนี้ก็ตามึงแล้ว "
แล้วครูองอาจก็ให้ไอ้วรเศรษฐ์ยืนขึ้น แล้วจัดการดูดควยของมันต่อจนน้ำของไอ้วรเศรษฐ์พุ่งกระฉูดแตกคาปากครูองอาจ ครูองอาจรีบดูดแดกเข้าไปจนหมด ไม่เหลือเลยแม้แต่หยดเดียว ไอ้วรเศรษฐ์มองหน้าครูองอาจอย่างขยะแขยง
" กินเลยเหรอครับครู ผมยังไม่กล้ากินเลย มันสกปรกนะ "
ครูองอาจยิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปากแผล่บๆ ด้วยความอร่อย แล้วตอบมัน
" ก็แดกสิวะ ของดีๆ แบบนี้จะทิ้งไปทำไม มึงไม่รู้เหรอว่า น้ำควยเด็กหนุ่มๆ อย่างมึงน่ะ บำรุงร่างกายกูดีนักล่ะ กูชอบแดกชิบหาย แม่งอร่อยดี น้ำของมึงข้นดีว่ะ แต่เค็มไปนิด ท่าทางจะไม่ได้เอาออกมาหลายวันแล้วล่ะสิ กูชอบน้ำข้นๆ ที่สุด "
ไอ้วรเศรษฐ์เอามือคลำรูตูดที่กลวงโบ๋ของมันช้าๆ
" ตูดผมบานเลย แม่ง รู้สึกเย็นๆ ตูดยังไงไม่รู้ครับครู "
ครูองอาจหัวเราะ แล้วพูดว่า
" เอาเถอะ โดนเย็ดมันก็ต้องบานแบบนี้แหละ กูว่าตอนนี้มึงไปล้างหน้าล้างตูดในส้วมก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวจะได้กลับฐานกัน จวนจะได้เวลาฝึกในตอนบ่ายแล้วด้วย "
ไอ้วรเศรษฐ์รับคำ แล้วถอดหมวกออกฝากครูองอาจไว้ จากนั้นก็เข้าส้วมล้างหน้าล้างตูดจนสะอาด ก่อนที่จะออกมาหาครูองอาจ ครูองอาจเอาหมวกใส่ลงไปบนกบาลของมัน แล้วตบไหล่ไอ้วรเศรษฐ์แรงๆ
" ไป ไอ้เศรษฐ์ กลับฐานกันเถอะ "
ครูองอาจกับไอ้วรเศรษฐ์เดินกลับมาที่ฐาน ทั้งคู่ยืนอยู่ห่างจากกลุ่มเพื่อนของไอ้วรเศรษฐ์ไม่ไกลนัก ครูองอาจส่งกระเป๋าสตางค์ให้ไอ้วรเศรษฐ์ แล้วบอกว่า
" เอ้า กระเป๋าตังค์มึง เอาไปซะ เก็บให้ดีๆ ล่ะ อย่าทำหล่นอีกนะเว้ย โชคดีมึง ไปหาเพื่อนๆ มึงได้แล้ว ป่านนี้แม่งรอกันควยเหี่ยวแล้วว่ะ "
ไอ้วรเศรษฐ์ทำวันทยหัตถ์แสดงความขอบคุณครูองอาจ ก่อนจะรับกระเป๋าสตางค์คืนมา
" ขอบคุณครับ ครูองอาจ "
ครูองอาจทำวันทยหัตถ์ตอบ แล้วพูดว่า
" โชคดีว่ะ แล้วเราคงได้พบกันใหม่ ฝึกดีๆ ล่ะ "
" ครับผม ! "
ไอ้วรเศรษฐ์ตอบ แล้วรีบวิ่งมาหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ทันที พอเพื่อนๆ เห็นมันก็ถามว่า
" ทำไมนานจังวะ ไปเอากระเป๋าตังค์ถึงไหนวะมึง "
ไอ้วรเศรษฐ์อมยิ้ม ตอบไม่เต็มเสียง
" ก็ไปถึงจุดที่กูทำกระเป๋าตังค์ตกน่ะแหละ ครูแม่งไม่เก็บมาให้กู กูต้องไปเอาเอง "
เพื่อนฟังแล้วก็เบ้ปากด้วยความไม่พอใจ
" จริงเหรอวะ ครูแม่งไม่มีน้ำใจเลย ต้องเรียกให้มึงไปเก็บเอง เก็บมาให้เลยซะก็สิ้นเรื่อง ไม่ไหวๆ "
ไอ้วรเศรษฐ์ไม่พูดอะไรต่อ มันนั่งลงหลังพิงต้นไม้ พลางถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย รู้สึกเย็นตูดวาบๆ ขึ้นมาทันที ไอ้วรเศรษฐ์ยิ้มแล้วคิดในใจว่า ตูดบานจนได้กู! คืนนี้ขี้คล่องแน่ๆ เลย สบายแล้ว มันมองออกไปข้างหน้า เห็นครูองอาจยืนยิ้มให้มันอยู่ไกลๆ เขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้เดินไปไหน และยังยืนมองมันอยู่ไม่วางตา ไอ้วรเศรษฐ์ก็ยิ้มตอบด้วยใจที่เปี่ยมสุข พร้อมกับหลับตาลงช้าๆ

ขอบคุณครับ ครูองอาจ.....

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดนรกดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงที่นักศึกษาวิชาทหารทุกนายไม่อยากได้ยินเลย หลังจากที่ได้พักกันมานานโข ก็ได้เวลาฝึกในภาคบ่ายอีกแล้ว ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมายังที่รวมพลแล้วจัดแถวด้วยความรวดเร็ว แต่อาจจะเป็นเพราะพักนานไปหน่อย ทำให้การเข้าแถวเกิดขลุกขลักขึ้น กว่าจะจัดแถวเรียบร้อยก็กินเวลานานพอสมควร ครูฝึกเลยสั่งทำโทษให้วิดพื้นเรียกน้ำย่อยซะ 30 ครั้ง
" ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ปฏิบัติ ! "
ทุกคนลงไปนอนพังพาบ เอามือและปลายตีนยันพื้น แล้วแหกปากว่า
" เตรียม! "
" 30 ครั้ง ปฏิบัติ! "
ทุกคนลงมือวิดพื้นด้วยความรวดเร็วพร้อมกับนับไปด้วย เหงื่อวัยหนุ่มของนักศึกษาวิชาทหารทุกนายไหลย้อยจากหน้า ต้นคอ ผ่านแผ่นอกหนาเนียนหยดลงพื้นเป็นสาย จนพื้นแฉะไปหมด เป็นภาพที่น่าดูมากจริงๆ หลังจากวิดพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมและเพื่อนๆ หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อยเหมือนหมาด้วยความเหนื่อย เหงื่อแตกท่วมตัว เสื้อกางเกงแฉะไปหมดเนื่องจากอากาศร้อนเฮี้ยๆ แต่ทุกคนก็กลับมาฟิตปั๋งกันอีกครั้ง พร้อมสำหรับการฝึกในภาคบ่าย
บ่ายนี้เป็นการฝึก " การรับของทางอากาศ " " ของ " ในที่นี้คือเสบียงที่ถูกส่งมาทางเครื่องบิน สำหรับทหารที่ต้องเดินป่าเป็นเวลานานๆ แล้วขาดแคลนอาหาร ก็จะรับเสบียงจากเครื่องบิน
ขั้นตอนการรับของทางอากาศ ได้แก่
1. จัดกำลังพล แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
2 สำรวจจุดรับของ
3 เข้าประจำตำแหน่งจุดส่งของ
4 ติดต่อทางวิทยุกับเครื่องบินที่ส่งของมาว่า เราอยู่ตำแหน่งไหน
5 จุดสัญญาณบอกตำแหน่ง
6 รวมพลเมื่อรับของเสร็จ
ครูฝึกอธิบายขั้นตอนเหล่านี้พอคร่าวๆ แล้วก็จัดแบ่งกำลังพลทั้งกองร้อยเป็นส่วนๆ และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ ผมและเพื่อนๆ ในกองร้อยอินทรีย์ มีหน้าที่ระวังป้องกันข้าศึกไม่ให้บุกเข้ามา ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ยืนตามจุดต่างๆ ที่ครูฝึกสั่ง แต่ต้องกระฉับกระเฉง วิ่งให้เร็ว ไปให้เร็ว ไม่ทำเฉื่อยชาให้ครูฝึกเห็น ไม่งั้นจะโดนวิดพื้น การฝึกในวันนี้เป็นแค่การซ้อม ยังไม่ได้รับของจริงๆ จึงต้องใช้ " เครื่องบินมนุษย์ " แทน คือให้นักศึกษาวิชาทหารคนหนึ่งนอนคว่ำ ให้อีก 2 คนยกตัวเขาขึ้น คนหนึ่งยกตรงหน้าอก อีกคนยกตรงสะโพก จนตัวลอย สมมุติให้เป็นเครื่องบิน บินไปบินมาด้วยการแกว่งแขนอีกด้วย มันดูปัญญาอ่อนยังไงไม่รู้ แต่ก็ถือว่าแค่ซ้อม ครูฝึกก็ยืนดู แล้วก็วิจารณ์เครื่องบินแต่ละลำไปเรื่อยๆ ผมยืนอยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ รู้สึกร้อนจนอยากจะแก้ผ้า มันร้อนสุดจะบรรยายจริงๆ ยืนแล้วรู้สึกว่าตีนทั้ง 2 ข้างแทบจะลุกเป็นไฟ อาการปวดข้อตีนก็กำเริบหนักขึ้น คราวนี้มันปวดลามไปทั่วถึงฝ่าตีน และนิ้วตีน ผมหน้านิ่วด้วยความปวด พยายามกัดฟันอดทนและคิดว่าไม่ร้อนๆๆ เพื่อให้สบายใจขึ้น แต่ไม่ได้ผลเลย มันกลับระอุไปทั้งตัวจนรู้สึกราวกับว่าควันจะออกมาทางปาก ร่างกายกำลังจะไหม้ โคตรทรมานจริงๆ กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ ก็พอดีครูฝึกเห็นว่าแถวของพวกเราไม่เรียบร้อย ก็เลยตะโกนลั่น
" แถวไม่เรียบร้อย ! หมอบ หมอบลงไป! เร็วๆ "
ทุกคนครางฮือ แต่ก็ต้องหมอบลงไป ผมกัดฟันนอนหมอบราบลงไป ควยและไข่ทั้งพวงสัมผัสกับพื้นดินร้อนๆ อีกแล้ว เบื่อครูฝึกจริงๆ เอะอะอะไรก็สั่งหมอบตลอด ผมโดนให้หมอบมาตั้งแต่ปี 3 จนชิน เลยไม่รู้สึกอะไร แต่เพื่อนบางคนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ผมเห็นแล้วอยากจะบอกพวกเขาจังว่า อดทนไว้เพื่อน อดทนไว้ เดี๋ยวการฝึกก็จบแล้ว
หมอบไปซัก 2 นาที จนไข่เกือบสุก ครูฝึกก็สั่งลุกและให้ฝึกต่อ การฝึกดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ผมไม่ต้องทำอะไรมาก ส่วนใหญ่จะยืนเฉยๆ ไม่นานก็ฝึกเสร็จ แล้วครูฝึกก็ให้พัก ตอนนี้บ่ายแก่แล้ว อากาศเริ่มคลายความร้อนลงบ้าง ผมชวนเพื่อนๆ ไปนั่งพักใต้ต้นไม้ ไอ้ธีระและเพื่อนคนอื่นๆ ขอตัวไปเยี่ยว ผมเลยนั่งอยู่คนเดียว
ขณะที่ผมกำลังนั่งขาถ่างแผ่ไข่อยู่ใต้ต้นไม้ และเอาหมวกพัดหน้าอยู่นั้น ไอ้กรก็เดินเข้ามาหาผม แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างผม หน้าตามันจ๋อยๆ ผมมองหน้ามันแล้วพูดว่า
" ไงวะกร เป็นไรวะ ทำหน้าแปลกๆ "
ไอ้กรถอนหายใจดัง แล้วพูดช้าๆ
" กูโดนครูฝึกทำโทษว่ะ ให้วิดพื้นตั้ง 30 ที "
" แล้วไงวะ กูก็โดน ใครๆ เค้าก็โดนกันทั้งนั้น ไม่เห็นแปลกเลย "
ไอ้กรมองหน้าผมแล้วพูดต่อ
" แต่กูโดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนว่ะ ครูฝึกแม่งทำโทษกูคนเดียว มันบอกว่ากูอืดอาดที่สุดในส่วนนั้น เลยให้กูวิดพื้นโชว์เพื่อนกูตรงนั้นเลย กูยอมรับว่ากูอายเพื่อนว่ะ เป็นถึงหัวหน้ากองพัน แต่กลับโดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนทั้งส่วน กูเห็นเพื่อนบางคนแม่งมองกูวิดพื้น แล้วยิ้มเยาะเย้ยกูด้วย กูอาย "
ผมหัวเราะแล้วตบไหล่มันเบาๆ แบบแมนๆ
" โธ่ไอ้ห่า มึงคิดมากไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย กูก็เคยโดนแบบมึง โดนมามากกว่ามึงด้วย โดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนๆ เหมือนมึงน่ะแหละ ตอนที่กูเรียนปี 3 ที่ศูนย์ฝึกร.ด. ใหญ่ แถววิภาวดีน่ะ ครูฝึกแม่งเรียกกู แล้วสั่งทำโทษกูต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาวิชาทหารตั้ง 5 คน ให้วิดพื้นตั้ง 20 ที แต่กูก็ยอมโดนทำโทษโดยดี แล้วไงวะ เพื่อนกูไม่เห็นจะล้อหรือเยาะเย้ยอะไรกูเลย ทุกคนเห็นเป็นเรื่องปกติและคิดว่ากูแค่พลาดไปก็เท่านั้น มึงรู้อะไรมั๊ย กูน่ะโดนทำโทษมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว โดนครูฝึกด่ามาก็เยอะ แต่กูทำยังไงรู้มั๊ย "
ผมหยุดพูด ไอ้กรเลยถามผม
" ทำไงวะ "
" อดทนไงวะ กูอดทนลูกเดียว "
ผมพูดแล้วยิ้มอย่างขมขื่น ไอ้กรมองตาผมแล้วพูดต่อ
" มึงไม่อายเหรอวะ "
" อายทำไมวะ เพื่อนกันทั้งนั้น กูเชื่อนะว่า นักศึกษาวิชาทหารทุกคน ไม่มีคนไหนที่ไม่เคยโดนทำโทษ จริงๆ นะ สัด อย่าคิดอะไรมาก กูโดนทำโทษมามากกว่ามึงเยอะ "
ไอ้กรยิ้มให้ผม
" คุยกับมึงแล้วกูสบายใจขึ้นเยอะเลย มึงเป็นคนที่เข้มแข็งมากกว่าที่กูคิดไว้ตอนแรกซะอีก กูชอบคนแบบมึง "
" กูถือคติ อดทนเข้าไว้ ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น สุดท้ายทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี "
ผมพูดด้วยเสียงดังฟังชัด ไอ้กรคลำหัวไหล่ผมเบาๆ แล้วเขยิบมานั่งติดกับผม ปากก็พูดไปด้วย
" มึงนี่เท่ห์จริงๆ ว่ะ อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเป็นลูกผู้ชาย เข้าใจล่ะ กูจะอดทนให้ได้แบบมึงนะ "
ผมตบหลังไอ้กรแรงๆ แล้วตอบว่า
" เยี่ยม! เพื่อนรัก มึงก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกันนี่ สัด สู้ๆ นะมึง กูรู้มึงทำได้อยู่แล้ว หัวหน้ากองพัน "
ไอ้กรยิ้มให้ผม แล้วเรา 2 คนก็นั่งคุยกันต่อ ไม่นานเพื่อนๆ ของผมก็กลับมาจากเยี่ยว ทุกคนจึงนั่งล้อมวงคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งครูฝึกเป่านกหวีดเรียกรวม
...................

พอเราเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับฐานเพื่อแดกข้าว มื้อนี้ผมแดกกับไอ้บอม จำไม่ได้ว่าแดกอะไร แต่กับข้าวก็ซ้ำๆ ไม่มีอะไรใหม่ ผมแดกข้าวด้วยมือคล่องแล้ว แต่ก็ยังไม่วายช้ากว่าไอ้บอม พอแดกอิ่มแล้วก็ล้างหม้อ ก่อนจะวิ่งไปเยี่ยวที่ห้องน้ำสังกะสี แล้วกลับมานั่งพักกับไอ้ธีระ รอเวลาฝึกในตอนกลางคืน ระหว่างนั้นผมก็ถอดรองเท้าถุงเท้าออก แล้วนั่งนวดตีนไปด้วย ตีนของผมเริ่มบวมมากขึ้นๆ ปวดด้วย ส้นตีนก็แตกเป็นริ้วๆ มากกว่าเมื่อเช้าเนื่องจากวันนี้เดินและวิ่งมากเกินไป ฝ่าตีนนี้แดงก่ำเลย นิ้วตีนก็งอแทบไม่ได้ ผมพยายามนั่งลูบตีนอย่างทะนุถนอม พลางคิดในใจว่า อย่าเป็นอะไรไปนะ ไม่งั้นกูตายแน่ๆ ขาดตีนก็เหมือนขาดใจ ในการเข้าค่ายครั้งนี้ ตีนเป็นอวัยวะที่สร้างปัญหาให้ผมมากที่สุดเลยทีเดียว
" โอ้โห ตีนคนหรือตีนควายวะเนี่ย ไอ้เหี้ยหนุ่ม แม่งบวมเหี้ย ๆๆ เลย "
ไอ้ธีระพูดหลังจากที่จ้องตีนผมอย่างพินิจพิจารณา ผมยิ้มเหนื่อยๆ มือก็นวดฝ่าตีนไปด้วย
" ตีนคนสิวะ ไอ้เหี้ย กูปวดชิบหายเลย นวดเท่าไหร่ๆ ก็ไม่หายปวด แม่งงงง "
ไอ้ธีระตบหัวเข่าผมดังฉาดแล้วพูดว่า
" มึงเอายานวดตีนมามั๊ย "
ผมขมวดคิ้วนิดนึง
" ไม่ได้เอามาว่ะ "
" ไอ้เหี้ย มึงนี่ไม่รอบคอบเลย รู้ทั้งรู้ว่าต้องใช้ตีนฝึกหนักอย่างนี้ เสือกไม่เตรียมยานวดมาอีก เอาเถอะ กูเอามาเยอะ เดี๋ยวคืนนี้กูจะแบ่งให้มึงนวดด้วย "
" จริงดิวะ โหเพื่อน มึงใจมากเลย ขอบใจมึงมากนะ กูรักมึงที่สุดเลยว่ะ "
ไอ้ธีระเอามือบีบต้นแขนของผมแล้วพูดเสียงเบาลง
" ไม่เป็นไร เพื่อนขาดเหลืออะไร ถ้ากูมี กูก็ต้องแบ่งให้ แต่กูมีข้อแลกเปลี่ยนนะ สัด "
" ข้อแลกเปลี่ยนอะไรวะ "
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้ธีระยิ้มแปลกๆ
" มึงต้องให้อะไรกูอย่างนึง แลกกับยานวดตีนที่กูจะให้มึงยืม "
ผมฟังแล้วก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม รีบถามต่อ
" มึงจะเอาอะไรจากกู "
" เดี๋ยวถึงเวลา มึงก็รู้เอง กูยังไม่เอาคืนนี้หรอก กูเอาคืนพรุ่งนี้ "
ผมจ้องหน้ามัน พลางคิดในใจว่า มันจะเอาอะไรจากกูวะ
" มึงจะเอาเงินกูรึเปล่าวะ ไอ้ระ "
ผมแกล้งถามลองเชิงมัน ไอ้ธีระรีบตบไหล่ผมแรงๆ แล้วพูดเสียงดัง
" ไม่ใช่เว้ย ไม่ใช่ มึงไม่ต้องกังวล กูไม่เอาเงินเพื่อนฝูงหรอก กูเอาอย่างอื่น "
" อะไรวะ "
ไอ้ธีระยังคงยิ้มอย่างมีเลศนัยเหมือนเดิม ไม่ว่าผมจะเค้นถามมันมากขนาดไหน มันก็พูดแต่ว่า
" เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ มึงก็รู้เอง "